Share

ตอนที่ 13 ผู้มีพระคุณ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-11 08:05:00

ตอนที่ 13 ผู้มีพระคุณ

สองสามีภรรยาเดินทางมาที่ตลาดมืดตั้งแต่เช้าเพื่อเตรียมจัดร้าน รั่วซีคือคนที่เข้าออกเพื่อหยิบสิ่งของที่เตรียมกันไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ส่วนสามีคือคนจัดร้าน แยกทุกอย่างให้ง่ายในการหยิบขาย ทั้งสองช่วยกันอย่างขะมักเขม้นเพื่อเร่งให้ทันเวลา คนส่วนมากจะเข้ามาหาซื้อของที่ตลาดมืดในช่วงเวลาสายหลังกินมื้อเช้าแล้ว ทั้งสองต้องรีบเตรียมทุกอย่างให้พร้อม

เมื่อคืนจือหยวนได้บอกภรรยาว่าวันนี้ขายเยอะได้ แต่วันหลังจะไม่ขายเยอะแบบนี้อีก วันนี้สามารถอ้างได้ว่าเอาของมาเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อวาน จือหยวนคิดหาวิธีป้องกันไว้ก่อน เพราะทั้งสองเดินผ่านคนเฝ้าประตูเข้ามาโดยไม่มีอะไรติดตัวมาเลย หากมีของขายเยอะอาจทำให้คนพวกนั้นสงสัยได้ วันนี้ทำได้เพราะเมื่อวานคนพวกนั้นเห็นเขามาเช่าร้านแล้ว สามารถหาข้ออ้างได้ แต่ครั้งต่อไปอาจไม่ง่ายและอาจถูกจับตาดูอีกด้วย

การที่คนเรามีกินมีใช้มากกว่าคนอื่นก็จะถูกจับตามอง ถูกจ้องจับผิด ทางที่ดีอย่าเพิ่งทำอะไรที่มันเกินตัวเป็นดีที่สุด วันนี้ขายเท่าที่เตรียมก็พอ จนกว่าจะหาคนมาหนุนหลังหรืออาจหาคู่ค้าที่มีอำนาจได้ แล้วค่อยขยับขยายทีหลัง นี่คือสิ่งที่สองสามีภรรยาปรึกษากันไว้

รั่วซีเข้าออกพื้นที่หลายรอบ เพื่อนำสิ่งของที่เตรียมไว้ออกมาจนครบ ไม่ว่าจะเป็นของที่ไว้ขายเองหรือของที่ลูกค้าสั่งไว้ วันนี้เธอมีความคิดที่จะหาคนมาขาย... โดยที่ตัวเองจะเป็นคนส่งของให้ มันน่าจะปลอดภัยมากกว่า และสามารถกระจายสินค้าได้ด้วย เงินก็อยากได้ แต่หากทำให้ครอบครัวต้องมาเสี่ยงอันตราย เธอเลือกได้เงินน้อยแต่ปลอดภัยดีกว่า

"หมดคือหมดนะครับ อย่าเพิ่งเสี่ยงดีกว่า" เพิ่งจะเริ่มขายเลยไม่อยากเสี่ยงอะไรมากนัก 

จือหยวนได้สอบถามเพื่อนมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่มีข้อมูลอะไรมากนัก คนดูแลตลาดมืดมีหลายคน ส่วนมากจะเป็นชายที่รูปร่างใหญ่หรือทหารเก่ามารับหน้าที่ตรงนี้ แต่คนที่คุมบังเหียนนั้นไม่รู้ว่าคือใคร เพื่อนของเขาทำงานที่นี่มานานแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าใครคือนายใหญ่

"ค่ะ จริง ๆ แล้วฉันอยากขายส่งมากกว่า แต่ไม่รู้ว่าขายให้ใครดี เราไม่สามารถไว้ใจใครได้มากนัก" แต่ก่อนก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหน รู้แต่ว่ามีอาหารจำนวนมากก็มีอันตราย ครอบครัวเธอไม่มีกำลังมากพอ ค่อยเป็นค่อยไปน่าจะดีกว่า

"เราก็มาขายบ่อย ๆ ขายทีละน้อยก่อน ให้รู้เส้นสายหรือลู่ทางค่อยขยับขยาย" จือหยวนบอกภรรยา เคยมาแต่ซื้อของ ไม่เคยมาขาย

"คนที่นี่เยอะ ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร อาจไม่มีใครสังเกตก็ได้ค่ะ" รั่วซีพยายามพูดให้มันไม่น่ากลัวเกินไป แต่จริง ๆ เธอก็กังวลตั้งแต่เมื่อคืนที่สามีบอกแล้ว ตอนแรกอยากได้เงินจนลืมคิดเรื่องนี้ หากสามีไม่เตือน เธอก็ยังไม่รู้

เมื่อถึงเวลาก็เริ่มมีคนทยอยเดินเข้าออกตลาดมืด ลูกค้าของรั่วซีก็ทยอยมาทีละครอบครัว เพราะเมื่อวานเธอได้นัดเวลาไว้ เพราะเธอไม่อยากให้มาพร้อมกัน คนจะเยอะมากเกินไป ถึงจะอยู่มุมลับตาคน แต่หากมีคนมุงที่ร้านเยอะ ๆ ก็ใช่ว่าจะดี

ทั้งสองต่างช่วยกันขายของจนแทบไม่มีเวลาพัก เวลาผ่านไปเพียงสองชั่วโมง ทุกอย่างภายในร้านก็หมดไม่มีอะไรเหลือ ไม่มีแม้แต่จะขายให้ลูกค้ารายย่อย ทั้งสองคนต่างมองหน้ากัน ตอนแรกกลัวว่าจะมีคนมามุงเยอะ ขายของเยอะไปจะทำให้คนอื่นสงสัย แต่กลับกลายเป็นว่าคนที่มาซื้อต่างก็ปิดบังตัวตน และปิดบังของที่ซื้อไปด้วย ยิ่งซื้อเยอะยิ่งปิดปากเงียบ เพราะพวกเขากลัวคนอื่นจะมาแย่ง แล้วทำให้อาหารไม่พอตามที่ตัวเองอยากได้

"เมื่อวานตอนที่พวกเขาเดินมาซื้อของกับเรา... แล้วบอกว่าได้ยินคนซื้อบอกต่อ ๆ กันไป แต่ทำไมวันนี้ต่างคนต่างรีบมา รีบกลับ รีบซ่อนสิ่งของละคะ" รั่วซีไม่ค่อยเข้าใจ เมื่อวานคนที่มาซื้อบอกเธอมาแบบนั้น 

"ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่จริง ๆ หากคนเราหาแหล่งซื้อและได้สินค้าคุณภาพดี ไม่มีใครเขาพูดหรือบอกต่อหรอกครับ" หรือพอเจออาหารสดสะอาด เนื้อชั้นดี ข้าวชั้นดี ทุกคนเลยต้องปิดปากเงียบ เพราะเมื่อวานพวกเขายังไม่ได้เห็นของทั้งหมด พอมาเห็นก็กลัวมีคนมาแย่ง

"ก็อาจจะเป็นแบบที่คุณพูด แล้วอย่างนี้ลูกค้ารายย่อยของเราละคะ บางคนจะมาก็สาย ๆ " ไม่รู้สามีจะให้ไปเอาของมาขายอีกไหม

"คุณไปเอาออกมาอีกก็ได้ครับ เพราะจากที่ผมสังเกตดูแล้ว ไม่มีใครมาสนใจพวกเราเลย" ตอนขายของ เขาก็สังเกตดูรอบ ๆ ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ อาจเพราะนัดเวลาลูกค้าเข้ามา พอเสร็จแล้วก็เดินออกไปตามปกติ และแต่ละคนก็ปกปิดสิ่งของที่ตัวเองซื้อได้เป็นอย่างดี

"เอาออกมาทั้งหมดที่เราเตรียมเลยไหมคะ" จริง ๆ แล้วเมื่อคืนเตรียมของไว้เยอะพอสมควร แต่เพราะสามีบอกให้ระวังเลยเอาออกมาเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น

"ครับ ไม่อย่างนั้นเราจะไม่พอขาย แต่ครั้งนี้เราจะต้องจำกัดจำนวน ไม่อย่างนั้นไม่มีทางพอแน่นอน" จือหยวนบอกภรรยา จะได้รู้ว่าต้องทำยังไงตั้งแต่เนิ่น ๆ ครั้งแรกที่ขายอาจถือว่าขายดี ได้เงินจำนวนมาก แต่ยังมีข้อผิดพลาดที่เห็นได้ชัดเจน คือคนที่มาก่อนต้องการของเพิ่ม คนขายก็อยากได้เงิน จนลืมว่าต้องเก็บไว้ให้คนที่มาทีหลัง อาจเพราะเพิ่งเริ่มขายเลยลืมนึกถึงตรงนี้

การขายในรอบหลังมีข้อห้ามที่สองสามีภรรยาตั้งขึ้นมา เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง และเพื่อทุกคนที่มาซื้อจะได้มีอาหารกลับไปด้วย ยังดีที่ลูกค้าเข้าใจ ถึงจะอยากได้เพิ่ม แต่ถ้าให้เลือกมาซื้อบ่อย ๆ แล้วได้อาหารกลับไปด้วย ดีกว่ามาแล้วไม่ได้อะไรกลับไปเลย พวกเขาเลยต้องแบ่ง ๆ กันไปก่อน

รั่วซีเข้ามาเก็บของที่อยู่ด้านใน ทำความสะอาดให้เรียบร้อย เพราะตอนนี้ไม่มีสินค้าหลงเหลือแล้ว หมดในระยะเวลาอันรวดเร็ว ให้เอาออกมาอีกก็คงไม่ได้ เพราะเธอยังไม่ได้จัดเตรียมอะไรเลย สิ่งของหลายอย่างจึงต้องลงมือทำเอง บางอย่างก็กดที่หน้าจอสั่งงานได้เลย แต่ทุกอย่างก็ต้องเข้าไปในพื้นที่เสียก่อนถึงจะทำได้

"สวัสดีครับ ผมได้ยินว่าที่นี่มีเนื้อชั้นดีกับข้าวสารขาย ผมขอซื้อ และอยากทำการค้าด้วยได้ไหมครับ" เสียงดังมาจากหน้าร้านทำให้รั่วซีหันไปมอง พอเห็นว่าสามีเธอกำลังพูดคุยอยู่หน้าร้านอยู่แล้ว เลยปล่อยให้สามีเป็นคนจัดการเอง เผื่อจะได้ลูกค้าเพิ่ม ส่วนเธอหันกลับมาจัดเตรียมกระเช้า เพื่อไปขอบคุณเพื่อนของสามีที่แนะนำให้มาเช่าร้านนี้ บางอย่างก็ต้องมีสินน้ำใจให้พวกเขา เพื่อวันข้างหน้าจะได้ค้าขายได้สะดวก

"คุณคะ... " ตอนแรกรั่วซีนึกว่าสามีอยู่คนเดียว ไม่มีลูกค้าแล้ว เลยจะเรียกให้เขามาเอากระเช้าไปให้เพื่อนของเขา แต่พอออกมาข้างนอกก็ทำให้เธอถึงกับชะงัก เพราะเจอกับคนที่ไม่คาดคิดว่าชาตินี้จะได้เจอ...

"คุณต้องการอาหารมากน้อยแค่ไหนคะ" พอรู้แล้วว่าเขามาหาซื้ออาหาร รั่วซีเลยหันไปพูดกับคนที่ยืนอยู่ข้างนอก ไม่ได้พูดกับชายที่คุยกับสามี

"คุณมีเท่าไร ผมรับซื้อทั้งหมด" เสียงคนที่อยู่ด้านนอกตอบกลับมา

"หากคุณไม่ถามหาที่มา และคุณรับประกันความปลอดภัยของเรา และทุกอย่างต้องเป็นความลับ ฉันยินดีขายให้คุณค่ะ" รั่วซีตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้ม

ชายหนุ่มมองผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ช่างกล้าเจรจาต่อรอง.... นั่นหมายถึงผู้หญิงคนนี้รู้ว่าเขาคือใคร จากตอนแรกไม่สนใจก็หันมามองอย่างเต็มตา และใช่ เธอไม่หลบสายตา ทั้งที่ปกติแล้ว หากเขาจ้องมองใครด้วยสายตาแบบนี้ ทุกคนต้องหลบสายตาไม่ว่าจะชายหรือหญิง

"ซีซีเข้าไปอยู่ข้างในก่อน เดี๋ยวผมคุยเอง" จือหยวนเห็นสายตาที่จ้องมาแบบนั้นก็เดินเข้าไปขวางไว้ สายตาดุร้ายแบบนี้ไม่น่าไว้วางใจ 

"ไม่เป็นไรค่ะ หากต้องการเป็นลูกค้าเรา พวกเขาก็ต้องทำตามกฎของเรา" ซีซียิ้มให้สามีเพื่อยืนยันเธอว่าไม่เป็นไร

"ได้... แต่สินค้าต้องมีคุณภาพดี และมีจำนวนมากพอตามที่ทางเราต้องการ" ชายที่เข้ามาถามคนแรกเป็นคนพูดขึ้น หลังจากที่คนตัวสูงด้านนอกเป็นคนพยักหน้า เหมือนยอมรับเงื่อนไขที่สองสามีภรรยาบอกก่อนหน้านี้แล้ว...

รั่วซีได้ยินแบบนั้นก็เดินเข้าไปในร้านเพื่อหยิบกระเช้าที่จัดไว้ เป็นตัวอย่างสินค้าออกมาหนึ่งกระเช้า ตอนแรกจะเอาไปให้คนที่เป็นหัวหน้าที่ดูแลตลาดมืด แต่ตอนนี้เธอจะเอาให้กับผู้มีพระคุณที่อยู่ข้างนอก คนที่มอบมีดเล่มนั้นให้เธอ เขาอาจไม่รู้จักเธอ แต่เธอรู้จักเขา... เขาคือคนที่ช่วยเธอไว้...

"นี่คือตัวอย่างสินค้าของเราค่ะ ฉันยกให้คุณเป็นการขอบคุณ" รั่วซีพูดกับชายร่างเล็ก หากให้เดาคงเป็นลูกน้อง แต่คำขอบคุณเธอส่งไปถึงอีกคนที่ยืนอยู่ห่างออกไป

"ฉันจะคืนให้ ในวันที่คุณมาช่วยฉัน หากคุณไม่มาช่วย... คุณก็จะไม่ได้มีดคืน"

"หลักประกันสินะ... ฉันไม่เคยผิดคำพูด แต่หากอยากเอาไว้เป็นหลักประกัน ก็เอาไป"

"ขอบคุณ... "  

นี่คือประโยคที่เธอได้พูดคุยกับเขา ไม่รู้แซ่... ไม่รู้นาม.. เวลานั้นรั่วซีกำลังถูกทุบตีเพราะไม่ยอมรับแขก ส่วนเขาเข้ามาเพื่อตามหาคน... และเขาได้ช่วยเธอไว้ และก่อนที่เขาจะจากไป เขาบอกจะมาช่วยทุกคนที่ถูกขังให้หลุดพ้นจากที่นี่ รั่วซีจึงได้เอ่ยปากขอมีดพกที่เขาพกติดตัวมา...

ตลอดระยะเวลาที่ถูกขังในที่แห่งนั้น ทุกเหตุการณ์สอนให้เธอต้องช่วยเหลือตัวเองก่อนที่จะรอให้คนอื่นมาช่วย... และมีดเล่มนั้นก็ทำให้เธอหลุดพ้นจากสถานที่แห่งนั้น...

รั่วซีจะกลัวคนที่ช่วยเธอได้อย่างไร...

เธอมั่นใจว่าเขาต้องมีอำนาจมากพอสมควร ไม่อย่างนั้นเขาไม่พาคนบุกไปตามล่าหาคนในสถานที่แห่งนั้นแน่นอน ฝั่งหนึ่งของสถานที่แห่งนั้น พังราบเป็นหน้ากลองในระยะเวลาไม่นาน แต่เขาไม่สามารถช่วยพวกเธอได้ในตอนนั้น

ไม่รู้ว่าเขาจะมาช่วยตามที่เขาพูดไหม เพราะเธอเลือกทางเดินของตัวเองแล้ว... เพราะรู้ตัวดีว่าถึงออกมาได้ก็คงใช้ชีวิตอยู่ต่ออีกไม่ได้ ตัวเธอแปดเปื้อนจนแม้แต่ตัวเองยังไม่ให้อภัยตัวเองเลย... ทางเดียวที่คิดว่าตัวเองจะหลุดพ้นได้ นั่นคือความตาย...

"มีของให้เราเลยไหม" เมื่อดูแล้วว่าเจ้านายจะยอมตกลงก็ต้องถามหาสินค้า

"ไม่เกิน 3 วัน หากคุณยอมทำตามที่พวกเราบอกไป" หากสามารถเจรจาทำการค้ากับคนคนนี้ได้ เธอจะมีคนหนุนหลังอย่างแน่นอน

"คุณเชื่อใจผมเหรอ" ชายที่อยู่ด้านนอกเป็นคนถามกลับมา

"3 วันที่ว่านั้น... คือหลังจากวันที่เราตกลงกันเรียบร้อยไม่ใช่ 3 วันหลังจากนี้... ส่วนเชื่อใจไหม นั่นคือสิ่งแรกที่คุณต้องทำ เพราะหากเรายังไม่เชื่อใจ เราก็จะไม่ตกลง" จือหยวนเป็นคนพูดขึ้น เพราะดูจากท่าทางแล้ว คนคนนี้น่าจะมีอำนาจมากพอสมควร

"เหมาชิงนัดหมายไปที่บ้านได้เลย" คนที่เป็นเจ้านายสั่งลูกน้องก่อนจะเดินออกไป

อยากได้ความเชื่อใจ... สิ่งแรกที่ต้องทำก็แค่เปิดเผยตัวตนทั้งสองฝ่าย... ถึงจะทำการค้าร่วมกันได้.

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ย้อนกลับมาในยุค 70 เพื่อเป็นมารดาอีกครั้ง   ตอนที่ 15 ปรับปรุงตัวเอง... เพื่อให้เป็นคนที่ดียิ่งขึ้น

    ตอนที่ 15 ปรับปรุงตัวเอง... เพื่อให้เป็นคนที่ดียิ่งขึ้นรั่วซีกลับมาบ้านในวันต่อมา ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ยังไม่มีกลุ่มนักโทษชั้นดีมาใช้แรงงานหรือมาช่วยพัฒนาชุมชน นั่นแสดงว่ากัวเหลียงก็ยังไม่มาเช่นกัน พอกลับมาถึงบ้าน ทุกคนต่างก็ช่วยกันเอาสิ่งของที่ซื้อมาจากสหกรณ์จัดออกเป็น 3 ชุด แบ่งให้กับครอบครัวพ่อกับแม่เพื่อคืนในส่วนที่เธอยืมมาด้วย และจัดให้ครอบครัวพี่สาม ชุดสุดท้ายเอาไปให้สุ่ยหลิง คนที่รั่วซีจะเอาสิ่งของไปให้ ส่วนมากคือคนที่คอยช่วยเหลือเธอทั้งนั้น แต่วันนี้เธอตั้งใจจะไปเพียงสองบ้านเท่านั้น เพราะดูจากเวลาแล้วคงแวะไปหาเพื่อนไม่ทันแน่นอน..."แต่งตัวเรียบร้อยหรือยังครับ" จือหยวนถามภรรยาและลูก ๆ ที่หายเข้าห้องนานแล้ว แต่ยังไม่เห็นใครออกมาเลย"เรียบร้อยค่ะ" เหยาเหยาออกมาก่อนเป็นคนแรก"ตรวจดูหลังบ้านมาแล้วเหรอคะ" รั่วซีเดินออกมาก

  • ย้อนกลับมาในยุค 70 เพื่อเป็นมารดาอีกครั้ง   ตอนที่ 14 เจรจาการค้า

    ตอนที่ 14 เจรจาการค้า"ซีซี ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะครับ คนบางคนเราไม่ควรที่จะพูดคุยแบบนั้น มันอันตราย" จือหยวนช่วยภรรยาทำความสะอาดร้านก่อนจะพากันเอากุญแจไปคืนคนดูแล"ขอโทษค่ะ ฉันคิดน้อยไปหน่อย ทีหลังจะไม่ทำแบบนั้นอีก" รั่วซีลืมไปว่าคนอื่นไม่รู้เหมือนเธอ และที่เธอรู้ก็ไม่ได้รู้เยอะมากนัก การเชื่อใจคนง่ายเป็นข้อเสียของเธอตั้งแต่ชีวิตก่อน หรือจะบอกว่าเธอโง่ก็ไม่ผิด พอมาชีวิตนี้ก็ยังหลงลืม ยังทำเหมือนชีวิตที่แล้วอีก ลืมนึกไปว่า... แม้แต่คนที่มีพระคุณก็อาจเป็นคนที่ทำร้ายเราได้"ผู้ชายคนนั้นดูอันตราย แต่หากเราจะทำการค้ากับเขา... เราก็ต้องระวังด้วย" จือหยวนเน้นย้ำให้ภรรยาเข้าใจ"ค่ะ" รั่วซีรับคำและไม่ได้โต้เถียงอะไร เพราะสามีหวังดีเลยเตือน เธอก็ควรระวังตัวกว่านี้"อย่าคิดมากครับ ในเมื่อเขาแสดงตัวแล้ว เขาก็คงต้องการทำการค้ากับเรา เหลือแค

  • ย้อนกลับมาในยุค 70 เพื่อเป็นมารดาอีกครั้ง   ตอนที่ 13 ผู้มีพระคุณ

    ตอนที่ 13 ผู้มีพระคุณสองสามีภรรยาเดินทางมาที่ตลาดมืดตั้งแต่เช้าเพื่อเตรียมจัดร้าน รั่วซีคือคนที่เข้าออกเพื่อหยิบสิ่งของที่เตรียมกันไว้ตั้งแต่เมื่อคืนส่วนสามีคือคนจัดร้าน แยกทุกอย่างให้ง่ายในการหยิบขาย ทั้งสองช่วยกันอย่างขะมักเขม้นเพื่อเร่งให้ทันเวลา คนส่วนมากจะเข้ามาหาซื้อของที่ตลาดมืดในช่วงเวลาสายหลังกินมื้อเช้าแล้ว ทั้งสองต้องรีบเตรียมทุกอย่างให้พร้อมเมื่อคืนจือหยวนได้บอกภรรยาว่าวันนี้ขายเยอะได้ แต่วันหลังจะไม่ขายเยอะแบบนี้อีก วันนี้สามารถอ้างได้ว่าเอาของมาเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อวาน จือหยวนคิดหาวิธีป้องกันไว้ก่อน เพราะทั้งสองเดินผ่านคนเฝ้าประตูเข้ามาโดยไม่มีอะไรติดตัวมาเลย หากมีของขายเยอะอาจทำให้คนพวกนั้นสงสัยได้ วันนี้ทำได้เพราะเมื่อวานคนพวกนั้นเห็นเขามาเช่าร้านแล้ว สามารถหาข้ออ้างได้ แต่ครั้งต่อไปอาจไม่ง่ายและอาจถูกจับตาดูอีกด้วยการที่คนเรามีกินมีใช้มากกว่าคนอื่นก็จะถูกจับตามอง ถูกจ้องจับผิด ท

  • ย้อนกลับมาในยุค 70 เพื่อเป็นมารดาอีกครั้ง   บทที่ 12 วันแรกของการค้าขาย

    บทที่ 12 วันแรกของการค้าขายหลังจากที่เจอภรรยาก็พาเดินมาอีกด้าน เพื่อดูสถานที่ตั้งร้าน สถานที่แห่งนี้อยู่ในมุมลับตาคน เป็นห้องสี่เหลี่ยมกว้างพอสมควร ด้านในมีชั้นวางของ จือหยวนคิดว่าตรงนี้เหมาะและปลอดภัยสำหรับเข้าออกพื้นที่ และยังมีพื้นที่กว้าง สามารถเอาสิ่งของออกจากพื้นที่ทีละเยอะ ๆ จะได้ไม่ต้องเข้าออกพื้นที่บ่อย ๆห้องนี้ให้เช่าวันต่อวัน ราคาเช่าวันละ 100 หยวน ตอนที่ได้ยินราคา จือหยวนคิดว่าราคาแพงเกินไป คงไม่มีเงินจ่ายทันที อาจต้องขอจ่ายหลังจากขายของเสร็จ แต่พอเขารู้ว่าระยะเวลาที่เขามาหาสถานที่นั้น ภรรยาสามารถขายของได้เกือบ 300 หยวน หากเช่าห้องนี้จะได้ไม่ต้องเสี่ยงหามุมลับตาคน ตรงนี้ปลอดภัยแน่นอน เพราะเขาตรวจดูก่อนจะรู้ราคาเช่าเสียอีก"ถึงจะเป็นมุมลับตาคน แต่หากเรามีลูกค้าประจำ เราก็ขายได้" รั่วซีไม่รู้ว่าสามีคิดยังไง เลยเป็นพูดออกมาก่อน"ราคาเช่าวันละ 100 หยวน ต้อง

  • ย้อนกลับมาในยุค 70 เพื่อเป็นมารดาอีกครั้ง   ตอนที่ 11 ตลาดมืด

    ตอนที่ 11 ตลาดมืดเมื่อวานนี้รั่วซีพยายามหลบเลี่ยงกัวเหลียง ดีที่มีกลุ่มหัวหน้าหมู่บ้านเข้ามาพูดคุย ทำให้รั่วซีกับลูก ๆ ปลีกตัวออกมาได้ง่าย ๆ เหตุการณ์เมื่อวานทำให้รั่วซีเกิดอาการหวาดผวา แค่สามีเอามือมาแตะเธอเบา ๆ ก็สะดุ้งแล้ว แต่พอรู้ว่าเป็นสามีเลยต้องพูดเอาตัวรอดไปเรื่อย ๆ ดีที่แต่ก่อนเธอไม่ค่อยได้คุยกับเขามากนักเลยทำให้เขาไม่สงสัยอะไร...จือหยวนเลยต้องรับหน้าที่เอาสิ่งของและอาหารไปให้ครอบครัวพี่สาม เพราะเห็นว่าภรรยาเหมือนจะไม่ค่อยสบาย และเขาไม่อยากให้ภรรยาต้องเดินตากลมและเจออากาศเย็น ๆ อาจทำให้ไข้กลับมาอีก...วันรุ่งขึ้นครอบครัวของรั่วซีก็พากันเข้าเมือง เพื่อหาลู่ทางสร้างรายได้ให้กับครอบครัว หากเดินเข้าเมืองก็ต้องใช้เวลานาน ทั้งสองสามีภรรยาจึงตัดสินใจไปขึ้นรถแทรกเตอร์หน้าหมู่บ้าน จะได้ถึงที่หมายโดยเร็วเด็ก ๆ ต้องตื่นแต่เช้า เพื่อออกมาพร้อมกันทั้งครอบครัว ดีที่เด็

  • ย้อนกลับมาในยุค 70 เพื่อเป็นมารดาอีกครั้ง   ตอนที่ 10 หลีกเลี่ยงไม่ได้

    ตอนที่ 10 หลีกเลี่ยงไม่ได้"กลับเลยไหมครับ" จือหยวนถามภรรยา หลังจากที่ได้รับส่วนแบ่งเรียบร้อยแล้ว"จะรีบกลับไปไหน" เจ้าหรูถามน้องเขยกับน้องสาวที่เหมือนรีบร้อนจะกลับ"พอดีผมมีงานต้องไปทำต่อครับ" จือหยวนตอบพี่สาวของภรรยา"เขามีประชุมต่อไม่ใช่เหรอ" เจ้าหรูก็บอกในสิ่งที่ตัวเองรู้มาเช่นเดียวกัน"ประชุมอะไรเหรอคะ" ประโยคเบาหวิวนั้นมาจากรั่วซี"ไม่รู้เหมือนกัน หัวหน้าหมู่บ้านมาแจ้งเมื่อวานตอนเย็น ๆ " เจ้าหรูคิดว่าน้องสาวก็คงไม่รู้อีกตามเคย บ้านอยู่ไกลจากคนอื่นขนาดนั้น คงไม่มีใครไปแจ้งข่าว และปกติแล้วน้องสาวจะมาบ้านแทบทุกวัน ยังไงก็รู้ต้องรู้ข่าว หัวหน้าหมู่บ้านเลยไม่ไปแจ้ง จะแจ้งที่บ้านที่เดียว แล้วคนที่บ้านจะไปบอกครอบครัวของน้องสาวเอ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status