Share

บทที่ 350  

Author: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้ตัวตนของเหิงอ๋องและออกเที่ยวร่อนเร่แสวงหาความรู้ต่อไป ภายหลังจากตอนนั้น เขาก็ไม่ต้องกลัดกลุ้มเรื่องอาหารที่พักและอาภรณ์สวมใส่อีกแล้ว เขาได้ใช้ชีวิตอย่างคนมั่งคั่งร่ำรวยไปโดยที่ไม่รู้ตัว

ตอนที่เขาได้พบกับซูถิงหว่านอีกครั้ง ก็พบว่าเหิงอ๋องกำลังกุมมือของนางอยู่ เขารู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจ แต่เมื่อคิดได้ว่าฐานะของอีกฝ่ายคือเหิงอ๋อง เขาก็เลือกจะเป็นฝ่ายเก็บซ่อนความรู้สึกนี้ไว้ด้วยตนเอง

หากว่าเขาเป็นสตรี เขาเองก็ต้องเลือกเหิงอ๋องผู้มีฐานะสูงส่งร่ำรวยอยู่แล้ว

เขารู้ว่าซูถิงหว่านเองก็มีใจให้เขา สายตาที่มองเขาไม่เหมือนกัน เพียงแต่เหิงอ๋องมีฐานะสูงส่งกว่าก็เท่านั้น

จากนั้น เขาก็ออกท่องขุนเขาเที่ยวชมลำน้ำอีกครั้ง ได้พบเจอหญิงงามจำนวนมาก งดงามกว่าซูถิงหว่าน เขาหลงระเริงกับพวกนาง สุขสำราญอย่างไร้สิ่งใดจะเปรียบเทียบ

เขาได้รับข่าวว่าเหิงอ๋องกำลังจะเข้าพิธีอภิเษกสมรส และสตรีที่เขาจะสมรสด้วยมิใช่ซูถิงหว่าน แต่เป็นคนอื่น เขารู้สึกแค้นเคืองอย่างถึงที่สุด และรีบร้อนกลับไปปลอบโยนซูถิงหว่าน ทว่านางกลับเลือกเป็นอนุภรรยา นางต้องการใช้ชีวิตอยู่กับเหิงอ๋อง นางรักเขามากเพียงนี้เชียวหร
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 351

    “ภรรยาที่อยู่ในใจข้าแต่งงานกับคนอื่นไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้ไม่มีใจจะมีภรรยาแล้ว” สายตาจีเฉินจับจ้องที่ซูถิงหว่าน ในดวงตาเต็มไปด้วยเยื่อใยความรู้สึก “น้องหญิงสาม เจ้าคงรู้ใจข้าดียิ่งกว่าใครๆ! หลายปีมาแล้ว ข้าก็ไม่เคยเปลี่ยนไป”ซูถิงหว่านหน้าแดงหูแดง นางรู้นานแล้วว่าจีเฉินชอบนาง หลายปีก่อนก็รู้แล้ว ตอนนั้นนางยังไม่ได้พบกับเซี่ยซาง นางกล่าว “พี่ใหญ่ เจ้าพูดจาไร้สาระอะไร วันนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองวันพระราชสมภพของฝ่าบาท พวกเรารีบไปที่ห้องจัดงานเถอะ”จีเฉินโอบเอวนางไว้จากด้านหลัง ริมฝีปากจุมพิตเข้าที่ลำคอนาง มีกลิ่นเหล้าฟุ้งกระจายออกมาจากปาก ซูถิงหว่านแกะมือเขาออก แต่กลับแกะไม่ออก ร่างกายก็เกร็งขึ้นมา กล่าวเสียงเบาว่า “พี่ใหญ่ เจ้าเมาแล้ว รีบปล่อยข้านะ”“งานเลี้ยงยังไม่เริ่มสักหน่อย ข้าก็ดื่มไปเพียงจอกเดียว ข้าไม่ได้เมา เป็นความงามของน้องหญิงสามต่างหากที่ทำให้ข้าลุ่มหลงจนโงหัวไม่ขึ้น” ปากเขาเอ่ยคำหวาน กอดรัดเอวนางไว้แน่น “หวานหว่าน เจ้าคือหญิงที่งดงามที่สุดที่ข้าเคยเห็น”ซูถิงหว่านหัวใจเต้นดังตึกตัก นางหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย “พี่ใหญ่ จะจาบจ้วงไม่ได้ ข้าเป็นฮองเฮาแห่งต้าโจวแล้ว ไม่รู้กาลเทศะ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 352

    เวลานี้ ซูถิงหว่านก็กล่าวขึ้น “เจ้าชอบหญิงงามถึงเพียงนี้ ในตำหนักเฉินซีก็มีหญิงงามนางหนึ่งพำนักอยู่ เจ้าไม่ไปดูสักหน่อยเล่า ทางนั้นมีทะเลสาบอยู่แห่งหนึ่ง ฝ่าบาททรงไปเดินเล่นริมทะเลสาบบ่อย ๆ ตอนยังเป็นรัชทายาทอยู่”“เจ้าหมายถึงเจียงเฟิ่งหัว พระชายาเอกคนแรกของฝ่าบาท” เขาไม่ได้พบนางมาหลายปีแล้ว ไม่พูดขึ้นมา เขายังนึกว่าเจียงเฟิ่งหัวตายไปตั้งนานแล้ว “ก็เป็นสาวน้อยรูปงามคนหนึ่งอยู่”ซูถิงหว่านแสดงท่าทางดูถูก “พวกเจ้าผู้ชายก็เหมือนกันทั้งนั้น ตอนนี้เจ้าไปดูอีกสิว่านางยังเป็นสาวน้อยรูปงามอยู่หรือไม่” นางกลายเป็นหญิงอมทุกข์ที่หลบอยู่ในวังตั้งนานแล้ว“ข้าไปตำหนักเฉินซี นี่คงจะไม่เหมาะสมเท่าไรกระมัง! ไม่ว่าจะว่าอย่างไรนางก็เป็นพระชายาเอกคนแรกของฮ่องเต้ ข้าควรหลีกเลี่ยงข้อครหา” จีเฉินจงใจพูดย้ำคำว่าพระชายาเอกคนแรก ก็เพราะอยากเห็นสีหน้าโกรธเกรี้ยวของซูถิงหว่านซูถิงหว่านเบิกตาโพลงด้วยความโกรธ “เจ้าหมายความว่าอะไร ตอนนี้ข้าต่างหากที่เป็นฮองเฮาของพระองค์ พระชายาคนแรกแล้วอย่างไรกัน ไม่ใช่หญิงที่ถูกทอดทิ้งหรือไร”“วันนี้เป็นวันพระราชสมภพของฝ่าบาท เวลานี้ของทุกปี นางจะไปปล่อยโคมขอพรให้ฝ่าบาท” ซูถิ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 353

    เจียงเฟิ่งหัวทำโคมดอกบัวที่สวยงามเองกับมือ กลีบดอกเป็นทรงซิ่วท้อ สีชมพูอ่อนสวยสดใส เขียนคำอวยพรไว้เต็มกลีบดอก นางเพียงแค่ขอพรแต่ไม่ได้ระบุชื่อว่าขอพรให้ใครอายุยืนยาว ความแยบยลของโคมดอกบัวอยู่ที่ว่าเมื่อหุบแล้วก็จะเป็นซิ่วท้อที่งดงามประณีตลูกหนึ่งฝั่งตรงข้ามแสงไฟส่องสว่าง ดอกไม้ไฟเจิดจรัสงานเลี้ยงวันพระราชสมภพคืนนี้นางไม่คู่ควรไปร่วม แน่นอนว่านางก็ไม่อยากไปมีส่วนร่วมในงานรื่นเริงนี้ ของขวัญของนางส่งไปที่พระตำหนักเฉียงชิงตั้งนานแล้ว ของที่นางนำติดตัวมาด้วยตอนแต่งงานขายไปเกือบหมดแล้ว ซื้อผ้าไหมชั้นยอดผืนหนึ่งมาทำเสื้อผ้าสวมใส่ติดตัวของผู้ชายชุดหนึ่ง ส่งไปที่พระตำหนักเฉียนชิงเหลียนเย่กล่าว “พระสนม วันนี้ท่านสวมชุดเรียบง่ายเกินไปแล้วเพคะ พวกเราสามารถใช้โอกาสนี้ได้”นางมองไปที่ที่แสงไฟสลัวไกล ๆ “ที่นั่นมีคนที่พระสนมอยากพบที่สุดอยู่ พระสนมก็เลียนแบบนางจิ้งจอกจอมยั่วยวนพวกนั้นได้นะเพคะ ไปแย่งชิงความโปรดปรานสักหน่อย”“พระสนมทรงแต่งตัวสักหน่อยก็งามมากนะเพคะ เรียนวิชานางจิ้งจอกหว่านเสน่ห์สักหน่อยจะเป็นอะไร หรือว่ายังจะสู้คนอื่นไม่ได้อีกหรือเพคะ? เสียดายที่พระสนมมักจะนึกถึงแต่มารยาทว่าต้อง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 354

    นางไม่รู้จักเขา ปรากฏตัวตอนนี้เวลานี้ในวังหลัง ก็ผิดกฎระเบียบแล้ว รีบจากไปเสียดีกว่า จะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาโดยไม่จำเป็นแต่จีเฉินกลับไม่ให้นางจากไป ขวางตรงหน้านาง “นางคือองค์หญิงน้อยใช่ไหม หน้าตาน่ารักน่าชังเสียจริง งามเหมือนพระสนมเลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมอุ้มองค์หญิงน้อยสักหน่อยได้ไหม?”จีเฉินไม่สนใจมารยาท เข้าไปสัมผัสมือเจียงเฟิ่งหัวเลย เจียงเฟิ่งหัวดีดมือออกในพริบตา กล่าวเสียงเข้ม “จีอ๋องโปรดระวังกิริยาด้วย”เหลียนเย่พุ่งเข้ามาขวางตรงหน้าเจียงเฟิ่งหัวทันที กล่าวกับจีเฉินอย่างโกรธเกรี้ยว “ที่นี่คือวังหลัง ท่านจีอ๋องมาปรากฏตัวที่นี่อย่างบุ่มบ่ามเกรงว่าจะไม่เหมาะสม อีกอย่างในเมื่อท่านอ๋องเป็นพระเชษฐาบุญธรรมของฝ่าบาท ก็ควรจะทราบว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ที่ท่านอ๋องควรมา ท่านอ๋องโปรดไปจากตำหนักเฉินซีโดยเร็วที่สุดเถิด!” พระสนมของนางยังจะต้องขอพรให้ฝ่าบาท ช่างทำให้เสียบรรยากาศจริง ๆเมื่อถูกบดบังสายตา จีเฉินก็โมโห ผลักนางออกเต็มแรง เกือบทำให้นางล้ม หงซิ่วที่อุ้มองค์ชายน้อยอยู่ก้าวออกมาประคองเหลียนเย่ “ไม่เป็นไรใช่ไหม!”เจียงเฟิ่งหัวเห็นสถานการณ์ สายตาปรากฏความรังเกียจขึ้นแวบหนึ่ง “หากจีอ๋องไร้มาร

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 355

    จีเฉินถวายบังคมไปทางฮ่องเต้หนึ่งที “กระหม่อมได้รับคำเชิญจึงมา มาถึงแล้วจึงเพิ่งรู้ว่าที่แท้คนที่รออยู่ที่นี่คือเสียนเฟย หากกระหม่อมทราบว่าเป็นพระสนม ไม่มีทางมาหาแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมผิดไปแล้ว”อวิ๋นฟางเห็นสายตาที่ซูถิงหว่านส่งมา กล่าวด้วยสีหน้าเกินจริงว่า “พระสนมวังหลังลักลอบไปมาหาสู่กับชายนอกวัง เป็นเสียนเฟยหรือนี่? นางเป็นถึงธิดาตระกูลบัณฑิตที่มีชื่อเสียง รู้มารยาทและรู้จักละอายใจ ทนความเหงาในวังไม่ได้หรือ จึงได้ติดต่อทางจดหมายกับนอกวัง”“อวิ๋นเหม่ยเหรินรู้ขั้นตอนทั้งหมดดีขนาดนี้ หรือว่าก็ทำเรื่องแบบนี้เพราะความเหงาในวังหลัง” เจียงเฟิ่งหัวกระทบกระเทียบนางกลับอวิ๋นฟางตะลึง พูดไม่ออกสักคำ “หม่อมฉันจะทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร”ฮองเฮากล่าว “เสียนเฟยไม่ต้องโกรธไป อวิ๋นเหม่ยเหรินก็ไม่ได้หมายความเช่นนั้น เป็นจีอ๋องที่บอกว่าได้รับคำเชิญให้มา…”ฮ่องเต้ตรัสเสียงเย็นชา “ออกไปเถอะ!”เขาก้าวเข้ามาหน้าเจียงเฟิ่งหัวทีละก้าว กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ในทะเลสาบยังมีโคมดอกไม้สองดวงลอยอยู่ เขาหันไปสั่งองครักษ์ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไปช้อนขึ้นมา” องครักษ์ได้รับบัญชาแล้วก็ไปจีเฉินรีบขอความเมตตา “ฝ่าบ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 356

    “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แล้วเรื่องของเจ้าเป็นมาอย่างไรกัน เหตุใดผ้าเช็ดหน้าจึงหลุดลอดออกไปนอกวังได้” ซูถิงหว่านกล่าว “ด้วยฐานะเสียนเฟยของเจ้า ทุกเดือนก็สามารถได้รับเงินไม่น้อย องค์ชายน้อยและองค์หญิงน้อยก็เลี้ยงอยู่ข้างกายเจ้า เงินในส่วนของพวกเขาล้วนส่งมาถึงมือเจ้าแล้ว พวกเสื้อผ้าอาภรณ์ ถุงเท้ารองเท้าที่ควรส่งมาตำหนักเฉินซีล้วนส่งมาตามเวลาโดยไม่ขาดแม้แต่อย่างเดียว วันนี้เป็นวันพระราชสมภพของฝ่าบาท เจ้ายังแต่งกายเช่นนี้ นางกำนัลของเจ้ายังบอกว่าเจ้าปักผ้าเช็ดหน้าแลกเงินอะไรอีก เจ้าทำเช่นนี้เพราะคิดจะตำหนิข้าต่อหน้าฝ่าบาทว่าปฏิบัติต่อเจ้าอย่างโหดร้ายหรือ?”ในเวลานั้น ซูถิงหว่านยังทำตัวน้อยอกน้อยใจอีกด้วยจากนั้นก็มีสนมอีกนางกล่าวว่า “ฮองเฮาทรงยุติธรรมมาตลอด ไม่เคยขาดของกินของใช้ของพวกหม่อมฉัน ในความเห็นของหม่อมฉัน เป็นเสียนเฟยที่จงใจแสร้งทำตัวน่าสงสารต่อหน้าฝ่าบาท นางไม่รู้จักสำรวมจนผ้าเช็ดหน้าที่ปักมากมายเล็ดลอดออกไปนอกวังชัดๆ ยามนี้กลับมาอ้างว่าล้วนเป็นการทำแลกเงินไปเสียได้”“ฝ่าบาทของพวกเราทรงพระปรีชาห้าวหาญชาญชัย นับแต่ฝ่าบาททรงเถลิงราชย์มา ราษฎรก็มีชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ นางกลับปักผ้าเช็

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 357

    ในเวลาเดียวกัน เหลียนเย่และหงซิ่วคุกเข่าลงเบื้องหน้าฮ่องเต้พร้อมกัน และแย่งกันพูดพร้อมกันก่อนที่เจียงเฟิ่งหัวจะเปิดปากพูดว่าทุกคนต่างตกตะลึงไป บรรยากาศคล้ายเย็นเยียบลงจนต่ำกว่าจุดเยือกแข็งฮ่องเต้เหลือบมองคนทั้งสามทีหนึ่ง แล้วกล่าวเสียงเย็นว่า “เป็นพวกเจ้าขายผ้าเช็ดหน้านอกวังด้วยกัน? หรือเป็นพวกเจ้าร่วมกันยั่วยวนบุรุษนอกวังล่ะ?”เมื่อได้ยินคำพูดพวกนี้ หัวใจของเจียงเฟิ่งหัวก็รวดร้าวราวถูกมีดกรีด ในใจของเขานั้น นางไร้ความรักนวลสงวนตัวถึงเพียงนี้เชียวหรือ?เหลียนเย่หยิกหงซิ่วทีหนึ่งจากนั้นก็โขกศีรษะติดๆ กัน “เป็นบ่าวเองเจ้าค่ะ บ่าวสำนึกผิดแล้วเจ้าค่ะ กลอนรักบนผ้าเช็ดหน้าบ่าวเป็นคนเขียนลงไปเองเจ้าค่ะ ปกติเสียนเฟยทรงดูแลองค์ชายน้อยและองค์หญิงน้อยอยู่ตลอด ยามว่างจะทรงปักผ้าเช็ดหน้าจำนวนหนึ่ง เป็นบ่าวถูกความโลภครอบงำ นำผ้าเช็ดหน้าออกไปขายนอกวังโดยพลการ เพื่อให้ผ้าเช็ดหน้าขายดี บ่าวจึงตัดสินใจเขียนกลอนลงไปบนนั้นด้วยตนเอง เสียนเฟยทรงไม่ทราบเรื่องนี้เพคะ และที่บ่าวทำเช่นนี้ก็มิใช่เพราะต้องการล่อลวงผู้ใดเพคะ”นางกับหงซิ่วล้วนมีความคิดเดียวกัน บทกลอนที่ลามกอนาจารพวกนี้ไม่อาจมาจากคุณหนูเด็ดขา

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 358

    ซูถิงหว่านคิดว่าแค่นางยอมรับผิด ฮ่องเต้ก็จะปล่อยนางไปง่ายๆ จึงกล่าวว่า “นางกำนัลผู้หนึ่งจะเขียนอักษรที่ดีขนาดนี้ออกมาได้ เสียนเฟยแม้แต่ตัวเจ้าเองก็เชื่อหรือ?”“บ่าวเป็นผู้เขียนจริงๆ เพคะ หากฮองเฮาทรงไม่เชื่อ บ่าวสามารถเขียนให้ฮองเฮาดูที่นี่ได้เพคะ” เหลียนเย่กล่าวจีเฉินก็ไม่เชื่อเช่นกันว่านางกำนัลคนหนึ่งจะเขียนอักษรได้ดีเพียงนี้ ที่ซูถิงหว่านสามารถนำผ้าเช็ดหน้าพวกนี้ออกมาใส่ร้ายเจียงเฟิ่งหัว ก็แปลว่านางหาคนมาเลียนแบบลายมือของเจียงเฟิ่งหัวอยู่นานแล้ว ไม่เช่นนั้น นางไม่มีทางกล้าใส่ความคนต่อหน้าฮ่องเต้อย่างไร้ความกริ่งเกรงเช่นนี้แน่จู่ๆ ฮ่องเต้ก็เกิดสนใจขึ้นมาเช่นกัน “ฝูลู่ นำกระดาษและพู่กันมา”เหลียนเย่เขียนตามข้อความบนผ้าเช็ดหน้าทีละขีดทีละอักษร หลังทุกคนได้ดู ก็ล้วนประหลาดใจที่เหมือนกับรูปแบบอักษรบนผ้าเช็ดหน้าอย่างไม่มีผิดเพี้ยนจริงๆ เป็นเหลียนเย่เขียนจริงๆ ด้วยน้อยนักที่นางกำนัลในวังจะรู้หนังสือ และต่อให้รู้อักษรอย่างมากก็รู้จักแต่ชื่อของตนเองเท่านั้น ไม่ก็คำธรรมดาทั่วไป แต่สาวใช้ข้างกายของเจียงเฟิ่งหัวไม่เพียงเขียนเป็น แต่ยังเขียนได้ดีมากด้วยเจียงเฟิ่งหัวก็ไม่รู้ว่าเหลียนเย่

Latest chapter

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 376  

    เหลียนเย่หยิบมาลองดม รู้สึกเพียงกลิ่นหอมสดชื่นโชยปะทะจมูก หอมยิ่งนัก “หากว่าคุณหนูมีของสิ่งนี้ตั้งแต่เมื่อเยาว์วัยก็คงดี ตอนเด็ก ๆ จะได้ไม่ต้องฝันร้ายบ่อย ๆ อีก” อ้าวเสวี่ยถามเหลียนเย่ “เกิด อะไรขึ้นกับพระชายากันแน่ พวกเจ้ารับใช้พระชายามาตั้งแต่ยังเล็ก เคยเกิดเรื่องน่าสะพรึงกลัวใดขึ้นกับนางมาก่อนหรือไม่?” “ไม่มี คุณหนูมีชีวิตเป็นสุขดีมาตลอด หากว่ายาหอมคืนเรือนสามารถช่วยให้คุณหนูไม่ต้องฝันร้ายอีกเช่นนั้นก็ดีมากแล้วจริง ๆ” ที่เหลียนเย่กล่าวมาเป็นความจริง เช้าตรู่วันต่อมา หลังจากเจียงเฟิ่งหัวตื่นขึ้นมาแล้วนางดูปกติคล้ายว่าไม่เคยมีเรื่องใดเกิดขึ้นมาก่อน เห็นอ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เฝ้าอยู่ในห้องของนาง นางก็เหยียดตัวบิดขี้เกียจพลางกล่าวว่า “เมื่อคืนหลับสบายจริง ๆ ข้ารู้สึกจิตใจปลอดโปร่ง ร่างกายสดชื่นดีมาก พวกเจ้าได้จุดกำยานอะไรเอาไว้หรือไม่?” เหลียนเย่เห็นนางลืมเรื่องเมื่อคืนที่ละเมอร้องไห้ในความฝันไปก็ถามขึ้นว่า “พระชายาจำอะไรไม่ได้เลยหรือเพคะ?” “ข้าต้องจำอะไรได้หรือ?” เจียงเฟิ่งหัวประคองท้องของตนเองเดินลงมาจากเตียงพลางเอ่ยว่า “ข้าจำได้ว่าเมื่อคืนข้ากับเจ้านอนด้วยกัน” “ใช่แล้วเพค

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 375  

    ครั้นส่งสี่หมัวมัวออกไปแล้ว เจียงเฟิ่งหัวเองก็มิอาจใจเย็นอยู่เฉยได้ ซูถิงหว่านต้องมีความทรงจำจากเมื่ออดีตชาติแล้วแน่ ซูถิงหว่านรู้แล้วว่าหลังจากนี้นางจะได้เป็นฮองเฮา เพราะฉะนั้นนางถึงได้ไม่เกรงกลัวเพราะมีสิ่งยึดเหนี่ยว หากมิใช่เพราะการตายของจีเฉินทำให้การเดินทางของนางล่าช้า นางอาจจะมุ่งหน้าไปเขตชายแดนเพื่อรวมตัวกับคนสกุลซูแล้วก็ได้ นางมิอาจเอาความโปรดปรานของเซี่ยซางมาเดิมพันว่าตำแหน่งของนางจะมั่นคง เมื่อวานฝ่าบาทนอกจากพระราชทานสิ่งล้ำค่าให้กับนางเพื่อเป็นรางวัลแล้ว ยังพระราชทานป้ายอาญาสิทธิ์ทองคำส่วนพระองค์ป้ายหนึ่งให้กับนางด้วย ด้านบนมีอักษรเขียนว่า ‘เสมือนฮ่องเต้เสด็จ’ มีมันแล้ว นางก็สามารถเดินผ่านได้ทุกที่ในวังหลวงแม้กระทั่งทั่วทั้งใต้หล้า ตอนแรกนางงุนงงอยู่เล็กน้อย ต่อมาเฉากงกงถึงได้เร่งให้นางรีบกล่าวขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณของฝ่าบาทได้ สัญลักษณ์ของผู้ที่ได้รับป้ายทองอาญาสิทธิ์อันนี้ก็คืออำนาจ คือความไว้เนื้อเชื่อใจที่ฝ่าบาทมีต่อนาง “พระชายา ท่านเป็นอะไรไปเพคะ หน้าซีดเชียวเพคะ” เหลียนเย่เห็นนางเงียบไปนาน เหม่อลอยอยู่ตามลำพัง “เปล่า อาจเพราะเหนื่อยล้าเกินไปหน่อยกระมัง ข

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 374  

    สี่หมัวมัวตกใจกลัวตัวสั่น รีบยั้งปากทันใด ครั้นมาถึงด้านในตำหนักเฉินซี เจียงเฟิ่งหัวก็สั่งให้เหลียนเย่ปิดประตูทันที ทิ้งให้อยู่ในห้องกับสี่หมัวมัวลำพัง เห็นเพียงนางสีหน้าเยือกเย็น พร้อมเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “สี่หมัวมัว เจ้าคงจะทราบดีว่าคำพูดเมื่อครู่ของเจ้ามีโทษหนักถึงขั้นตัดศีรษะ บัดนี้เสด็จพ่อมีพระพลานามัยแข็งแรงดี ตำแหน่งองค์รัชทายาทยังมิได้แต่งตั้ง เจ้ากลับเผยแพร่คำพูดเหล่านี้โดยพลการ มิเพียงเจ้าจะรักษาศีรษะของเจ้าไว้ไม่ได้ แม้แต่เสด็จแม่ ท่านอ๋องและข้าก็จะพลอยได้รับเคราะห์จากคำพูดประโยคนี้ของเข้าไปด้วย” สี่หมัวมัวตกใจกลัวจนเหงื่อเย็นไหลพราก ๆ “บ่าวทราบเพคะ ดังนั้นบ่าวถึงได้เก็บงำไว้ในใจมาตลอด บางคำมิได้พูด บ่าวเองก็ทุกข์ใจเพคะ หนนี้ถึงได้อยากแจ้งพระชายา อยากให้พระชายาช่วยโน้มน้าวฮองเฮาด้วยเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างจงใจ “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าถ้อยคำเหล่านี้พระชายารองซูเอ่ยกับเสด็จแม่ เจ้ามิได้โป้ปดจริงแน่หรือ” สี่หมัวมัวเล่าอย่างละเอียดไม่มีปิดบัง “ถ้อยคำเหล่านี้บ่าวมิได้เป็นคนพูดเพคะ บ่าวจะกล้าพูดแบบนี้ออกไปได้อย่างไรเพคะ และมิใช่ฮองเฮาเป็นคนตรัสด้วยเพคะ ถ้อยคำเห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 373  

    ผ่านไปสองวัน ซูถิงหว่านยังไม่กลับมา สุดท้ายแล้วนางเลือกเดินซ้ำรอยเดิมของชาติก่อนติดตามเซี่ยซางไปที่เขตชายแดน และที่น่าขันคือข่าวนี้เฉิงฮองเฮาเป็นคนมาบอกนางด้วยตนเอง ได้ยินเฉิงฮองเฮากล่าวว่า “พระชายารองซูไปที่เขตชายแดนเพื่อช่วยซางเอ๋อร์ทำศึก ซางเอ๋อร์เองก็จำเป็นต้องมีสตรีสักคนคอยดูแลอยู่เคียงข้างกาย ส่วนเจ้าก็ท้องแก่แล้ว ข้าจึงอนุญาตให้นางไป หรวนหร่วนเจ้าคงไม่กล่าวโทษข้ากระมัง” เจียงเฟิ่งหัวผุดยิ้มน้อย ๆ พลางเอ่ยว่า “เสด็จแม่ทรงคิดรอบคอบ ท่านอ๋องมีคนเอาใจใส่อยู่เคียงข้างกายสักคนก็นับว่าดีเพคะ เพียงแต่เหมันต์ฤดูอากาศข้างนอกหนาวเย็นยิ่งนัก และอีกไม่นานก็จะถึงวันปีใหม่แล้ว พระชายารองซูเป็นสตรีตัวคนเดียวเดินทางไปเช่นนั้นจะปลอดภัยหรือเพคะ” “นางมีวรยุทธ์ติดตัว และมีกองทัพสกุลซูปกป้องคุ้มครอง ปลอดภัยไร้กังวล เราเห็นว่านางก็มิได้มีท่าทีอิดออดอะไร” “เป็นเช่นนี้ก็ดียิ่งนักเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ฮองเฮาเปลี่ยนใจรวดเร็วเสียจริง ตอนแรกยังคัดค้านเซี่ยซางอย่างสุดกำลังไม่ให้พาสตรีไปออกศึก อ้างว่าจะไม่เป็นสิริมงคล ถึงขั้นทำลายความองอาจน่าเกรงขามของหัวหน้าแม่ทัพ ทว่าบัดนี้กลับอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 372  

    เจียงเฟิ่งหัวออกจากตำหนักคุนหนิงก็ตรงไปยังตำหนักเฉินซีทันที ในตอนนั้น เห็นนางกำนัลคนหนึ่งท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ก็โพล่งเสียงตำหนิออกไป “ใคร” อ้าวเสวี่ยตั้งรับทันที ไม่รอให้นางเดินเข้าไปใกล้ อวิ๋นฟางก็เดินงก ๆ เงิ่น ๆ มาหยุดเบื้องหน้าเจียงเฟิ่งหัว “บ่าวคารวะเพคะพระชายา” เจียงเฟิ่งหัวเห็นนางชัดถนัดตาแล้วก็แอบคิดเงียบ ๆ ในใจ นางมีฝีมือไม่เบาเลยทีเดียว แอบลอบกลับวังมาได้ ทว่าด้วยสถานการณ์ของนางตอนนี้ ซูถิงหว่านไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ นางจนตรอกไม่มีทางถอยแล้ว จำต้องวิ่งเข้ามาหลบในวังถึงจะไม่ถูกคนไล่ล่า อ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เองก็ชะงักงันไปแล้วเช่นกัน อวิ๋นฟางช่างกล้าหาญยิ่งนัก กล้ากลับเข้ามาในวังหลวงอีก พวกนางคิดว่าหลังจากอวิ๋นฟางหนีไปทางประตูหลังของเขตเมืองหลวงแล้ว นางจะหนีออกไปจากเมืองเซิ่งจิง อย่างน้อยก็ต้องหนีให้ห่างไกลจากเรื่องวุ่นวาย ปกป้องชีวิตไว้เป็นสำคัญ “เข้ามาเถิด!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว อวิ๋นฟางตามเข้าไปในตำหนักเฉินซี นางกำนัลได้ต้มน้ำร้อนเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ภายในห้องอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง ภายใต้แสงตะเกียงสว่างรุบรู่ อวิ๋นฟางก็เริ่มขะมักเขม้นทำงานสารพัดทั้งยกน้ำเทน้ำ นางยังกระตือ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 371  

    เฉิงฮองเฮาเปิดเปลือกตา ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า “มาแล้ว จัดการเรื่องข้างนอกวังเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง? ออกจากวังไปครึ่งเดือนแล้วมิใช่หรือ!” เจียงเฟิ่งหัวท่าทางมิได้หยิ่งยโสเกินควรแต่ก็มิได้ถ่อมตัวจนเกินเหตุ “ทูลเสด็จแม่ จัดการเหมาะสมเรียบร้อยดีแล้วเพคะ” “ข้าได้ยินว่าเมื่อสิบวันก่อนสินค้าและวัตถุดิบถูกส่งไปหมดแล้ว” แม่สามีของนางก็ดูจะวางมาดขึ้นเช่นกัน ราวกับต้องการให้นางยอมเชื่อฟังคำสั่งสอน เหมือนกับเมื่อชาติก่อนไม่มีผิด “เพคะ เพียงแต่ของที่ส่งออกไปเมื่อสิบวันก่อนเป็นแค่ชุดแรกเพคะ เพราะมีจำนวนมากเกินไป ชุดต่อไปจะต้องทยอยลำเลียงออกไปเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างละเอียด มองแล้วอ่อนโยนนอบน้อม สงบเสงี่ยมเรียบร้อยมารยาทเพียบพร้อมไร้ที่ติ แม้แต่เฉิงฮองเฮายังมิอาจหาจุดใส่ไฟได้เลย “ลุกขึ้นมานั่งเถิด” น้ำเสียงของเฉิงฮองเฮาฟังดูดีขึ้นเล็กน้อย “ซางเอ๋อร์มีสกุลซูคอยจุนเจือ บัดนี้เด็กในครรภ์ของเจ้าสำคัญเหนือสิ่งใด อย่ามัวเพ่นพ่านด้านนอกมากนัก อย่าไปข้องเกี่ยวกับสตรีในหมู่ขุนนางราชสำนักมากเกินไป ที่สำคัญจงอย่าได้มัวละโมบใฝ่หาความดีความชอบจนลำดับความสำคัญผิดไป” เจียงเฟิ่งหัวคิดในใจ ตอนอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 370

    “เพคะ สะใภ้รับบัญชา”จากนั้น เจียงเฟิ่งหัวก็วางหมากลงไปตัวหนึ่ง “เสด็จพ่อ ทรงแพ้แล้วเพคะ”ฮ่องเต้เหลือบมองกระดานหมากคราหนึ่ง เริ่มจากความตกตะลึง ตามด้วยสีหน้ามืดครึ้มที่มองไม่ออก จากนั้นก็ทรงหัวเราะออกมาว่า “ดูเหมือนเราไม่อาจไม่ตกรางวัลนี้แล้ว มาเล่นอีกตา หากเจ้าชนะเราอีก เราก็จะมอบรางวัลให้อีกครั้ง”เจียงเฟิ่งหัวเก็บหมากบนกระดานขึ้นมาอย่างเยือกเย็น ไร้ความลนลาน “ลูกก็ชนะมาได้อย่างหวุดหวิดเพคะ ต้องเป็นเพราะเมื่อครู่เสด็จพ่อทรงฟังลูกพูดเพลิน จึงได้ออมมือให้ลูกแน่เลยเพคะ”“เจ้าคงไม่รู้สินะ หลายวันมานี้เรามีราชโองการเรียกตัวบิดาของเจ้าเข้าวังมาเดินหมากเป็นเพื่อนเราทุกวัน เขากลับไม่เคยชนะเราเลยสักตา ช่างน่าเบื่อนัก แต่เขาบอกว่าบุตรสาวของเขาเป็นยอดฝีมือในการเดินหมาก เรายังคิดว่าเขาพูดเกินจริงเสียอีก แต่วันนี้ หลังได้เดินหมากไปกระดานหนึ่งเราก็เชื่อแล้ว”“ท่านพ่อก็เหมือนยายหวังขายแตง ที่ชอบขายเองชมเองเพคะ ต่อให้บุตรสาวของท่านจะทำสิ่งใดไม่เป็นเลย ท่านก็รู้สึกว่าดีอยู่ดีเพคะ”“ยังถ่อมตัวเข้าเสียแล้ว เมื่อมาเป็นลูกสะใภ้ของราชวงศ์เรา แค่การถ่อมตนอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ ในอนาคตยังต้องช่วยซางเอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 369

    เมื่อเจียงเฟิ่งหัวกลับวังก็ถูกฮ่องเต้เรียนตัวไปที่ห้องทรงอักษร หลังนางรายงานเรื่องภารกิจที่ฮ่องเต้มอบหมายให้นาง ก็วางแผนจะกลับตำหนักคุนหนิงไปคารวะฮองเฮาแต่จู่ๆ ฮ่องเต้ก็ตรัสขึ้นมาว่า “ได้ยินว่าพระชายาของเหิงอ๋องชำนาญการวางหมาก เราอยากหาคนมาเล่นด้วยสักตาพอดี ว่าอย่างไร จะอยู่เล่นเป็นเพื่อนเราสักตาหรือไม่”เจียงเฟิ่งหัวคารวะลงรอบหนึ่งด้วยมารยาที่พอเหมาะ ไม่ถ่อมตัวไม่เย่อหยิ่ง แล้วกล่าวอย่างเคารพว่า “เคารพมิสู้เชื่อฟัง สะใภ้ย่อมทำตามพระบัญชาของเสด็จพ่อเพคะ แต่หากเสด็จพ่อทรงเป็นฝ่ายปราชัย ลูกจะขอรางวัลจากเสด็จพ่อสักอย่างได้ไหมเพคะ”ฮ่องเต้ตรัสว่า “อยากได้อะไรก็พูดมาได้เลย หากเจ้าเอาชนะข้าได้ ก็ถือเป็นรางวัลที่เจ้ามีผลงานใดการทำคดี แต่หากพ่ายแพ้ รางวัลก็จะไม่มีแล้วนะ”เจียงเฟิ่งหัวแอบคิดว่า “ฮ่องเต้ยังคงเป็นพวกที่ไม่ยอมเสียเปรียบ ถึงกับเอารางวัลของนางมาใช้เดิมพันหมาก หากนางชนะหมากควรนับเป็นรางวัลพิเศษไม่ใช่หรือ!”“เพคะ” นางตอบอย่างว่าง่ายเพราะในท้องของเจียงเฟิ่งหัวมีเด็กอยู่ เพื่อดูแลเด็กในท้องของนาง จึงให้หัวหน้าขันทีเฉายกโต๊ะที่สูงขึ้นเล็กน้อยเข้ามาตัวหนึ่งมาใช้แก้ขัด และยังเตรียม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 368

    คนทั้งสองเท้าสะเอวหัวเราะขึ้นมา “คนที่คิดจะช่วยคุณหนูหลินของเราไถ่ตัวมีเต็มไปหมด ท่านต่อแถวไม่ทันหรอก อีกอย่าง ท่านก็ไม่มีคุณสมบัตินั้นด้วย อย่าได้เพ้อฝันอีกเลย” คุณหนูหลินไม่ขาดแคลนเงินทอง ทั่วทั้งหออี๋ชุนล้วนอยู่ใต้การตัดสินใจของนาง ไม่จำเป็นต้องไถ่ตัวเพราะนางไม่มีสัญญาขายตัว“ข้าจะต้องแต่งนางเป็นภรรยาให้ได้ พวกเจ้ารอก่อนเถอะ” กัวเซี่ยวตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะแต่งกับหลินอวี่ให้ได้ในบรรดาเหล่าคุณชายตระกูลใหญ่ กัวเซี่ยวก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง เขาหน้าตาไม่เลว ชาติตระกูลก็ไม่เลว เขาจึงคิดว่าหลินอวี่ไม่มีทางปฏิเสธแน่ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น จื่อฮุ่ยจึงเอ่ยบ้างว่า “หากคิดจะแต่งกับคุณหนูของข้า นอกเสียจากว่าท่านจะเป็นจอหงวน นั่นอาจพอมีโอกาสบ้าง ไม่เช่นนั้นก็อย่าได้เสียเวลาอีกเลย”กัวเซี่ยวตะลึงงันไปแล้ว ที่เขาไม่ชอบที่สุดก็คือการอ่านตำรานี่แหละเห็นเขายังคงไม่ยอมจากไปอีก พวกนางก็ไม่อยากเปลืองน้ำลายกับเขาแล้ว จึงตีกัวเซี่ยวจนสลบแล้วโยนเขาออกไปนอกหออี๋ชุนเสียเลย “ช่างน่ารำคาญเหลือเกิน คนที่อยากแต่งงานกับคุณหนูของข้าตอนนี้ต่อแถวไปถึงนอกประตูเมืองนู่นแล้ว ค่อยๆ ไปต่อแถวเถอะ” พวกนางย่อมไม่เห็น

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status