Share

บทที่ 7

บุรุษผู้นั้นสายตาเย็นชา จากนั้นริมฝีปากบางเฉียบก็ค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมาว่า

"พอได้แล้ว!"

หลินเสวี่ยอิ๋งรู้สึกคับข้องใจอยู่ไม่น้อยที่ถูกตวาดใส่

ยามที่นางมองเย่เสวียนถิง สายตาของนางที่เผยออกมาจึงผสมปนเประหว่างความชื่นชมและเคารพยำเกรง จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมาว่า "สิ่งที่เสวี่ยอิ๋งพูดมาเป็นเรื่องจริงนะเจ้าคะ การแต่งงานกับสตรีที่มีราคีรังแต่จะทำให้ญาติผู้พี่ถูกคนทั้งโลกหัวเราะเยาะเอาได้! "

เย่เสวียนถิงจ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชาแล้วหันมาคำนับซูเฟย "เสด็จแม่ อย่าได้ฟังนางกล่าววาจาเลื่อนเปื้อน ยกเข้ามาได้!"

นอกประตูพลันมีคนขานตอบขึ้นมาทันที

เมื่อซูชิงอู่เห็นเย่เสวียนถิงยืนหยัดเพื่อนาง ก็ใหรู้สึกใจเต้นแรง

ถึงแม้ว่านางจะสามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้ ทว่าการที่มีบุรุษผู้นี้ยืนหยัดเคียงข้างก็ทำให้นางรู้สึกปลอดภัยได้น่าเหลือเชื่อ

ข้าหลวงเฝ้าประตูก้มหน้าแล้วยกถาดเข้ามา

มีผ้าคลุมเอาไว้ชั้นหนึ่ง ทำให้ซูชิงอู่เดาไม่ออกว่าเป็นสิ่งใดกันแน่

แม่นมข้างกายซูเฟยเปิดผ้าคลุมออก แล้วคลี่กางผ้าซับเลือดพรหมจรรย์ที่พับเอาไว้เรียบร้อยอยู่ในนั้นออกมา

รอยสีแดงสดบนนั้นสร้างความตื่นตะลึงให้แก่ทุกคนที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้

ซูชิงอู่พลันแก้มร้อนซู่ขึ้นมาทันที

ถึงแม้นางจะรู้ว่าขั้นตอนดังกล่าวจะเกิดขึ้นหลังร่วมหอ แต่ยามที่เอาผ้าซับเลือดพรหมจรรย์ออกมาแสดงต่อหน้าทุกคน ก็ยังคงทำให้นางรู้สึกขัดเขินและกระอักกระอ่วนอยู่บ้าง

"เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?!"

หลินเสวี่ยอิ๋งดวงตาเบิกกว้างแล้วเอ่ยด้วยท่าทีไม่อยากเชื่อสายตา "ญาติผู้พี่เจ้าคะ ท่านไม่อาจโป้ปดเรื่องนี้เพียงเพื่อปกป้องสตรีพรรค์นั้น เรื่องที่นางเสียความบริสุทธิ์ก่อนแต่งงาน เป็นเรื่องที่ผู้ใดก็ล่วงรู้กันทั้งนั้น!"

เย่เสวียนถิงมองนางด้วยสายตารังเกียจเดียดฉันท์อย่างสุดซึ้ง

"ข้าจะไม่ทราบเรื่องนี้ได้อย่างไรกัน?"

หลินเสวี่ยอิ๋งถึงกับเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน "นางจะต้องใช้อาคมบางอย่างเพื่อหลอกลวงท่านเป็นแน่ ญาติผู้พี่เจ้าคะ ท่านอย่าได้หลงเชื่อนางเป็นอันขาด สตรีพรหมจรรย์จะไม่มีแต้มพรหมจรรย์ได้อย่างไรกัน?"

ซูชิงอู่พลันหัวเราะลั่นออกมา

หลินเสวี่ยอิ๋งเบนสายตามามองนางด้วยแววตาโกรธแค้น

ซูชิงอู่เลิกคิ้วพลางกล่าวว่า "ข้าทราบเรื่องนั้นดี ต่อให้หามีแต้มพรหมจรรย์ ทว่าความบริสุทธิ์ก็ยังคงอยู่ ท่านอยากจะลองดูหรือไม่เล่า?"

ขณะที่พูดอยู่นั้น ซูชิงอู่ก็เดินเข้ามาหา

นางจงใจใช้นิ้วมือเรียวบางสางผม จากนั้นเข็มเงินขนาดเท่าขนวัวก็ปรากฏขึ้นในมือของนาง ชั่วครู่ต่อมานิ้วมือของนางก็ฝังเข็มบางจุดบนร่างของหลินเสวี่ยอิ๋งอย่างว่องไว

หลินเสวี่ยอิ๋งรู้สึกเพียงสายตาพร่าเลือน จากนั้นบางส่วนของร่างกายก็คันคะเยอจนไม่ทันสังเกตถึงความเจ็บปวด

นางพลันหน้าเปลี่ยนสีทันทีแล้วถอยหลังไปสองสามก้าวพลางใช้มือแตะต้องเนื้อตัวบางแห่ง

‘ดูเหมือนจะไม่มีอันใดผิดปกติ’

"จะ...เจ้าทำอันใดข้า?"

ซูเชียนหลิงที่เอาแต่เเฝ้าชมดูอยู่ข้าง ๆ มาโดยตลอด เมื่อเห็นว่าหลินเสวี่ยอิ๋งกำลังตกอยู่ในสภาวะคับขันก็รีบเดินเข้าไปช่วยประคองตัวนาง

"ท่านหญิง ท่านเป็นอันใดหรือไม่?"

ซูเชียนหลิงขมวดคิ้วพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นเชิงสั่งสอนว่า "ชิงอู่ เจ้าล่วงเกินท่านหญิงได้อย่างไรกัน?เหตุใดยังไม่รีบขอโทษท่านหญิงอีก?!"

ซูชิงอู่ยิ้มเยาะ "ขอโทษท่านหญิงเช่นนั้นหรือ?"

ด้วยการสำแดงเข็มเงินตรงปลายนิ้ว ทำให้เกิดประกายแสงสีเงินยวงวนเวียนรอบนิ้วมืองามประดุจหยกของนางก่อนจะหายวับไป

นางมองข้ามซูเชียนหลิงไปแล้วยิ้มจาง ๆ ให้หลินเสวี่ยอิ๋ง "ท่านหญิง ลองตรวจสอบดูสิว่าแต้มพรหมจรรย์ของท่านยังอยู่หรือไม่?"

เมื่อได้ยินคำเตือนของนาง หลินเสวี่ยอิ๋งก็รีบถลกแขนเสื้อขึ้นดู

ทันใดนั้นนางก็รู้สึกราวกับถูกอสนีบาตผ่าฟาดเข้าทั้งตัว

บนลำแขนขาวเนียนที่เคยมีแต้มพรหมจรรย์สีแดงสด ยามนี้กลับสะอาดเกลี้ยงเกลา

ราวกับว่าไม่เคยมีมาก่อนอย่างไรอย่างนั้น

หลินเสวี่ยอิ๋งแข้งขาอ่อนระทวยจนเกือบล้มพับไปกับพื้น

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status