Home / รักโบราณ / ย้อนรักสี่คราลวงชะตาเคียงท่าน / บทที่ 3 ตำหนักปิงสุ่ยของข้า (1/2)

Share

บทที่ 3 ตำหนักปิงสุ่ยของข้า (1/2)

last update Last Updated: 2025-04-24 19:29:45

"องค์หญิง องค์หญิงเพคะ" 

อีกแล้วหรือ เสียงผู้ใดกัน ครานี้เรียกข้าองค์หญิงรึ

แพขนตางอนไหวระริก เปลือกตาบางขยับแผ่ว ดวงตากลมโตเปิดปรือเชื่องช้า ดูเหมือนครานี้นางไม่รู้สึกตื่นเต้นใดแล้ว ปรโลกไม่ต้องการ สวรรค์กลั่นแกล้ง หรือการจบชีวิตโดยวิธีกรอกสุราไม่อาจทำให้นางตายได้จริง ๆ กันเล่า

"องค์หญิง ตื่นบรรทมเถิดเพคะ" 

ฉงเสว่ปิงผินหน้ามองอีกฝ่าย ดวงตากลมโตกะพริบขึ้นลงปริบ ๆ "มู่หลิน เจ้าเองหรือ" 

"หม่อมฉันเองเพคะ ตะวันทอแสงแล้วฝ่าบาทและพระชายารอองค์หญิงที่ห้องเสวยแล้วเพคะ" 

ฉงเสว่ปิงเลิกคิ้ว พลางกวาดสายตามองไปรอบห้อง ดวงตากลมโตเป็นทุนเดิมเบิกกว้างตื่นตะลึง "นะ...นี่..." 

"นี่อะไรหรือเพคะ" มู่หลินกะพริบตางุนงง 

ฉงเสว่ปิงหันหน้าขวับ "มู่หลิน ข้าแต่งงานหรือยัง!" 

"องค์หญิง ท่านยังไม่ได้อภิเษกนะเพคะ ถึงจะมีสัญญาหมั้นหมายกับชินอ๋อง แต่ว่ากำหนดวันอภิเษกคืออีกหนึ่งเดือนข้างหน้าเพคะ" 

ฉงเสว่ปิงฉีกยิ้มลิงโลด "หนึ่งเดือนข้างหน้า มู่หลินบอกข้าทีว่าตอนนี้ข้าอยู่ในตำหนักปิงสุ่ย" 

มู่หลินพยักหน้าหงึกหงัก "เพคะ ยามนี้องค์หญิงอยู่ตำหนักปิงสุ่ยแคว้นสุ่ยเหอขององค์หญิงและฝ่าบาทเพคะ" 

ฉงเสว่ปิงลุกพรวด ร่างบอบบางกระโดดโหยงตื่นตูม พลางจับบ่าสาวรับใช้ของตนเขย่าด้วยสีหน้าดีอกดีใจ "ไชโย ข้าได้กลับสุ่ยเหออีกครั้งแล้ว ฮือ...คันฉ่อง คันฉ่อง เร็ว" 

"พะ...เพคะ" มู่หลินละล่ำละลักหยิบคันฉ่องขนาดเล็กส่งให้นาง 

ฉงเสว่ปิงคว้าหมับจากนั้นจึงเบี่ยงปอยผมหลบไปอีกด้าน มองดูจุดสีแดงข้างลำคอพลันเบิกตากว้างฉีกยิ้มดีใจ

แต้มพรหมจรรย์!

"มู่หลิน มู่หลิน ดูสิเจ้าดูนี่" นิ้วเรียวชี้บริเวณต้นคอของตนเร็วรี่ 

"เพคะ ดูแล้ว ทำไมหรือ" มู่หลินงุนงง

"เจ้าเห็นหรือไม่ แต้มพรหมจรรย์ของข้ายังอยู่ มันยังอยู่" ฉงเสว่ปิงฉีกยิ้มกว้างเผยความสดใสระคนดีใจเป็นล้นพ้น นางเขย่ากายมู่หลินจนหัวสั่นคลอน

"อะ...องค์หญิงเป็นอันใดไป กระโตกกระตากเช่นนี้ไม่งามนะเพคะ อีกอย่างท่านยังไม่อภิเษกกับบุรุษใด แต้มพรหมจรรย์ก็ต้องอยู่สิเพคะ" มู่หลินหน้าแดงก่ำด้วยความขัดเขิน

"อ้อ...อ่า...ขอโทษ ขอโทษ" ฉงเสว่ปิงเอ่ยจบจึงปัดป่ายจัดแจงเสื้อผ้าของมู่หลินให้เข้าที่ 

"องค์หญิงหม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ" มู่หลินหลุบดวงตาด้วยความกริ่งเกรง 

"เอาน่า...จะเกร็งไปไย ในที่สุดก็ไม่ต้องกลับไปพบหน้าตาอ๋องโง่เง่าแล้ว หนำซ้ำยังได้กลับมาเป็นสาวบริสุทธิ์ผุดผาด" ฉงเสว่ปิงสีหน้ารื่นรมย์เสียจนมู่หลินต้องยกมือขึ้นเกาแก้มเกาศีรษะด้วยความงุนงง 

"ถ้าเช่นนั้นองค์หญิงไปเตรียมตัวนะเพคะ ฝ่าบาทรอนานมากแล้ว" 

"เอาสิ ข้าคิดถึงเสด็จพ่อเสด็จแม่ใจแทบขาด" 

ยิ่งมองท่าทีเริงร่าของฉงเสว่ปิงมู่หลินก็ยิ่งบังเกิดความฉงน ดูเหมือนองค์หญิงของนางคงฝันดีมากไปหน่อยกระมัง วันนี้จึงตื่นสายกว่าปกติ ซ้ำยังแย้มยิ้มจนน่าพิกลนัก

.

.

"เสด็จพ่อ เสด็จแม่" ร่างบอบบางสาวเท้าเร่งร้อน พลางกระโจนสวมกอดผู้เป็นบิดาประดุจไม่พบหน้ากันมาช้านาน

เดิมทีสมัยฉงเสว่ปิงเยาว์วัย นางติดบิดาแจ เพราะชอบออกไปล่าสัตว์ยิงธนูเฉกเช่นบุรุษ ผู้เป็นมารดาปรามอย่างไรนางไม่เคยเชื่อฟัง ทว่าเจ้าแคว้นสุ่ยเหอกลับให้ท้ายบุตรธิดานัก เฉิงเหยาจึงทำได้เพียงปลดปลงแล้ว หวังว่าการอภิเษกเชื่อมสัมพันธ์ของสองแคว้นที่จะมาถึงอาจช่วยดัดนิสัยให้ฉงเสว่ปิงเป็นกุลสตรีเช่นองค์หญิงแคว้นอื่น ๆ เสียบ้าง 

"ปิงเอ๋อร์ ระวังหน่อย เป็นถึงองค์หญิงแห่งแคว้นสุ่ยเหอ ไยทำตัวเยี่ยงม้าดีดกะโหลก" เสียงทุ้มเอ่ยต่อว่า ทว่าริมฝีปากผู้เป็นบิดายังคงแย้มสรวล ฝ่ามืออุ่นลูบไล้เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนด้วยความรักใคร่ ส่วนมารดาทำได้เพียงส่ายศีรษะ ยืนมองสองพ่อลูกกอดกันกลมอย่างนึกระอาใจ

ฉงเสว่ปิงเอ่ยเสียงอู้อี้ "ก็ข้าคิดถึงท่านนี่นา เสด็จพ่อวันนี้ลูกมีเรื่องจะทูลเสด็จพ่อเพคะ" 

"หืม...เรื่องใดเล่า" เจ้าแคว้นสุ่ยเหอเหลียวมองหน้าชายา ทั้งสองประสานสายตาทว่าไม่มีผู้ใดทราบเช่นกันว่าบุตรสาวต้องการสิ่งใด 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ย้อนรักสี่คราลวงชะตาเคียงท่าน   บทที่ 32 อาหารจากรสมือชายารัก (ตอนพิเศษ)

    ผืนนภาเบื้องบนทอประกายแสงสีเหลืองทองอำไพในช่วงเวลาอาทิตย์ใกล้อัสดง เรือนร่างงามสง่าหนึ่งบุรุษหนึ่งสตรี ยืนเด่นตระหง่านท่ามกลางมวลบุปผา สภาพอากาศรอบด้านโอบล้อมด้วยหุบเขาเรียงรายสูงต่ำลดหลั่นเป็นทิวแถวสุดลูกหูลูกตา กลิ่นหอมจรุงของดอกไม้บานสะพรั่งช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ยามนี้พวกเขาออกมาล่าสัตว์เที่ยวชมบรรยากาศธรรมชาตินอกราชวังเพื่อคลายความเหนื่อยล้า ยิ่งได้ทอดสายตามองสิ่งสวยงามเบื้องหน้าก็ยิ่งทำให้รู้สึกมีความสุขนัก "อ้ายเฟยเจ้าชอบหรือไม่" เสียงทุ้มกระซิบถามด้วยความอบอุ่น ร่างสูงยืนโอบกอดสตรีร่างบอบบางจากทางเบื้องหลัง "ชอบเพคะ งดงามยิ่งนัก" ริมฝีปากสีกุหลาบคลี่ยิ้มอ่อนโยน "อ้อ...เสด็จพี่เข้าไปด้านในกันเถิดเพคะ ยามนี้มู่หลินน่าจะเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว" ฉงเสว่ปิงเหลียวหน้ามองคนเบื้องหลัง "หืม...เตรียมอันใดหรือ" "อาหารสุดพิเศษอย่างไรเล่าเพคะ" ไต้ฮ่าวเฉินขำพรืด "เอ่อ...อ้ายเฟย เจ้าอย่าบอกว่าเจ้าเป็นคนลงมือทำเอง" เพราะเขาได้เคยชิมฝีมือการทำอาหารของชายารักมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แม้ปากจะบอกอร่อยมากล้นแต่ทว่าอาหารเหล่านั้นบางคราก็อร่อยจริง ทว่าบางครารสชาติกลับประหลาดเหลือแสน คงมีเพียงเข

  • ย้อนรักสี่คราลวงชะตาเคียงท่าน   บทที่ 31 ลวงชะตาเคียงท่านนิจนิรันดร์ (จบ)

    "เฮือก!...ฮ่าวเฉิน!" ร่างบางดีดกายผึง "องค์หญิงตื่นบรรทมแล้วหรือเพคะ" มู่หลินวิ่งรี่เข้ามา นางยอบกายมองดวงตาแดงก่ำของผู้เป็นนายก็พลันตื่นตระหนก "องค์หญิง ไยทรงกันแสงเล่าเพคะ ตาบวมหมดแล้วอีกเดี๋ยวเข้าพิธีอภิเษกจะไม่งามนะเพคะ" ฉงเสว่ปิงงุนงง คิ้วสวยเคลื่อนเข้าหากันแทบผูกเป็นปม อกด้านซ้ายพลันเจ็บแปลบขึ้น "จะ...เจ็บ!" "องค์หญิง เกิดอันใดขึ้นเพคะ" มู่หลินเร่งรุดเข้าประคอง ฉงเสว่ปิงผินหน้ามอง จากนั้นเอ่ยถามด้วยแววตาเศร้าหมอง "มู่หลิน ที่เจ้าบอกว่าข้าจะอภิเษก ข้ากำลังจะอภิเษกกับผู้ใดหรือ" มู่หลินเบิกตากว้าง "ไยองค์หญิงจึงถามเช่นนั้นเพคะ" ฉงเสว่ปิงแหงนมองรอบด้าน ยามนี้นางอยู่ที่ตำหนักของตนเอง หรือว่านางจะต้องเข้าพิธีอภิเษกกับตู้เหยียนเฟิงจริง ๆ ปรโลกไม่เปิดประตูต้อนรับนางอีกแล้วงั้นหรือ ฉงเสว่ปิงรู้สึกชินชาแต่ทว่าการย้อนมาหนนี้ช่างปวดใจกว่าครั้งก่อน ๆ ร้อยเท่าพันทวี หากนางได้ย้อนกลับมาแล้วเขาเล่า ยามนี้เป็นเช่นไร ไต้ฮ่าวเฉินยังคงได้รับโอกาสกลับมาอีกครั้งเช่นนางหรือไม่ ความรู้สึกเจ็บแปลบราวกับเข็มแหลมคมทิ่มแทงข้างในใจยังติดตรึงอยู่ในความรู้สึก มู่หลินเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วเป็นนกแก้วนกขุนท

  • ย้อนรักสี่คราลวงชะตาเคียงท่าน   บทที่ 30 ความเจ็บปวดที่แสนทรมาน (2/2)

    ฉงเสว่ปิงร่ำไห้ครวญสะอื้นน้ำตาแทบเป็นสายเลือด ไต้ฮ่าวเฉินเริ่มขยับแล้ว บุรุษกำยำสวมเครื่องแต่งกายมิดชิดนายหนึ่งกระชากกายของเขาให้ยืนขึ้น บนหน้าอกของเขามีลูกศรดอกหนึ่งปักอยู่ ดวงตาที่เคยเย้าแหย่นาง ยามนี้บวมเป่ง ไต้ฮ่าวเฉินพยายามรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายที่มี เอ่ยเสียงสั่นเครือ"อ้ายเฟย ไม่ต้องร้อง ขะ...ข้าไม่เป็นไร"ฉงเสว่ปิงส่ายหน้าทั้งที่น้ำตาหลั่งรินไม่หยุด ยามนี้นางเสียใจประดุจถูกตอกตะปูเข้าหัวใจดอกแล้วดอกเล่า"ชินอ๋อง ยังกล้าบอกไม่เป็นไรอีกหรือ สภาพของท่านตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง ยังเอ่ยวาจาปลอบใจนางอีกงั้นรึ" ตู้เหยียนเฟิงขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน ยิ่งคำเรียกที่ไต้ฮ่าวเฉินเปล่งออกมาก็พลอยปะทุจุดเดือดของความโมโหให้ทะยานสูงขึ้นไต้ฮ่าวเฉินกลับเผยรอยยิ้มหยามหยันชิงชัง หาได้เกรงกลัวเขา "เจ้าทำเช่นนี้นอกจากไม่ได้ใจของนางแล้ว เจ้ายังจะได้รับความเกลียดชังจากนาง ชีวิตนี้ของเจ้าอย่าหมายจะมีความสุข"ตู้เหยียนเฟิงหัวเราะขัน "หากท่านไม่อยู่เพียงหนึ่ง นางก็รักข้า รักข้าเพียงคนเดียว"ฉงเสว่ปิงร้องไห้โฮ นางไม่อาจระงับสติได้แล้ว "ทะ...ท่านพี่เหยียนเฟิง ท่านกำลังเสียสติ ข้ารักท่านใช่ ข้ารักท่านประดุจพี่ชายแท้ ๆ

  • ย้อนรักสี่คราลวงชะตาเคียงท่าน   บทที่ 30 ความเจ็บปวดที่แสนทรมาน (1/2)

    "ปิงเอ๋อร์ ปิงเอ๋อร์" เสียงทุ้มดังมาจากธรณีทางเข้า ฉงเสว่ปิงงัวเงีย"เพคะ" นางลุกขึ้นยืนพร้อมจัดเผ้าผมและเครื่องแต่งกายเล็กน้อยอยู่ ๆ ความทรงจำเมื่อคืนก็แล่นเข้ามา กายของนางแข็งทื่อ มองร่องรอยของการร่วมสวาทก็พลันใบหน้าแดงเรื่อ ทว่าเมื่อเหลียวมองข้างกายไต้ฮ่าวเฉินกลับหายไปที่ใดเสียแล้ว ร่างบอบบางยืดกายยืนขึ้น นางคิดว่าอีกฝ่ายคงมีธุระต้องไปสะสางเป็นแน่ ยามนี้มู่หลินก็อยู่ห้องของตน ฉงเสว่ปิงจึงตัดสินใจสาวเท้าเข้ามาเปิดประตูด้วยตนเอง ทันทีที่พบว่าผู้ใดมาเยือน ฉงเสว่ปิงถึงกับผงะเก็บอาการไม่มิด ตู้เหยียนเฟิงหรี่นัยน์ตามองด้วยความแคลงใจ "ปิงเอ๋อร์ไม่สบายหรือ วันนี้เจ้ามีนัดกับพี่ ไยจึงยังไม่ออกไป" "เอ่อ" ฉงเสว่ปิงรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก วันนี้นางคิดว่าคงต้องตะล่อมบอกยกเลิกงานอภิเษกกับเขา แต่ว่ายามนี้ไต้ฮ่าวเฉินไม่อยู่ นางไม่อาจกระโตกกระตากได้ ตู้เหยียนเฟิงมองท่าทีกระอึกกระอักของอีกฝ่าย เขาพลันยกมือขึ้นหมายแตะหน้าผากคนเบื้องหน้า ทว่าฉงเสว่ปิงกลับผงะถอยหลัง ฝ่ามือกว้างจึงเก้อค้างกลางอากาศอยู่เช่นนั้น ฉงเสว่ปิงใจเต้นกระหน่ำ ความหวาดกลัวผุดขึ้นเป็นริ้วเมื่อฉุกนึกถึงสิ่งที่เขากระทำ มือไม

  • ย้อนรักสี่คราลวงชะตาเคียงท่าน   บทที่ 29 สุดแล้วแต่โชคชะตา (2/2)

    บทสนทนาทุกอย่างสิ้นสุดลงแล้ว บุรุษเบื้องบนแทบอดรนทนไม่ไหวเขาก้มลงซุกไซ้ สูดดมความหอมไปตามผิวเนียนละเอียด ฝ่ามือหยาบกร้านลูบไล้เข้าไปด้านในอาภรณ์เชื่องช้า จากนั้นจึงค่อย ๆ ปลดออกทีละชิ้น เขาประคองกายคนตัวเล็กขึ้นนั่งประจันหน้า ฉงเสว่ปิงมิได้ขัด ต่างฝ่ายต่างปลดอาภรณ์ให้กันด้วยความเร่งร้อน พลางประกบปากบดจูบอย่างดูดดื่ม ความปรารถนาและความโหยหาถึงสามภพสามชาติกำลังถูกเติมเต็มอื้อ...กายกำยำและเรือนร่างบอบบางเปลือยเปล่า สองแขนเรียวโอบรอบคอของเขาเอาไว้ ริมฝีปากผละออกจากกันจนเกิดเป็นเส้นใยสีเงินยืดเยิ้ม ไต้ฮ่าวเฉินไม่รั้งรอให้ปากของตนว่างมากนัก เขาขบงับประทับรอยสีกุหลาบไล่ลงไปตามลำคอขาวผ่อง ลากลิ้นเลียละเลียดชิมจนถึงปทุมเนื้อนวล ปากร้อนครอบงับพลางระรัวลิ้นหยอกล้อตุ่มไต่สีชมพูระเรื่อ มืออีกด้านเคล้นคลึงยอดถันฝั่งที่ยังว่างด้วยความมัวเมาใบหน้างามแหงนเงยไปเบื้องหลัง เสียงใสครวญครางด้วยความเสียวกระสัน แม้ปากนางมักต่อว่าเขาไม่ได้เรื่อง แท้จริงแล้วลีลาของชินอ๋องดุเดือดแทบขาดใจต่างหาก สัมผัสที่นับว่าห่างหายไปนานหวนกลับมายังที่เดิม ความสยิวแล่นไปทั่วแผ่นหลังและท้องน้อยไต้ฮ่าวเฉินโถมกายดันร่างเล็กให

  • ย้อนรักสี่คราลวงชะตาเคียงท่าน   บทที่ 29 สุดแล้วแต่โชคชะตา (1/2)

    ร่างบอบบางพยายามยันกายลุกทว่าข้อมือทั้งสองด้านถูกฝ่ามือกว้างกดติดไว้กับฟูกนอนจนไม่อาจขยับ นางเหลือบมองใบหน้าแดงก่ำของบุรุษด้านบนก็พลอยรู้สึกใจหวิว จังหวะหายใจของเขาบ่งบอกว่าไม่สามารถควบคุมไฟปรารถนาที่ลุกโชติช่วงไว้ได้เสียแล้ว "เจ้าบอกจะลงโทษข้าไม่ใช่หรือ ไยเปลี่ยนใจง่ายนัก" เสียงทุ้มออดอ้อนระคนแหบห้าว "แต่ว่ายามนี้ท่านและข้ายัง..." ความร้อนผ่าวลุกลามจากสองแก้มไปยังใบหู ร่างสูงโน้มกระซิบ "เราเคยตั้งหลายครั้งแล้ว ยังอายอีกหรือ ถึงยามนี้ยังไม่เป็นต่อไปก็ต้องเป็น" เขาลดสายตามองแต้มพรหมจรรย์บริเวณซอกคอ จากนั้นจึงพรมจูบลงไปหนึ่งครา ฉงเสว่ปิงขนลุกซู่ พลางเบี่ยงหลบริมฝีปากร้อนชื้นที่ประทับลงมา "อื้อ...ท่านทำอันใดเพคะ แต่นั่นมันเรื่องของชาติก่อนผู้ใดจะนับ" "เจ้าเสียดายแต้มสีชาดนี่น่ะหรือ" ริมฝีปากบางเม้มสนิท อันที่จริงนางก็หาใช่พวกคร่ำครวญในพรหมจรรย์แต่อย่างใด เพราะถึงอย่างไรแม้จะกลับมาบริสุทธิ์ดังเดิม นางก็ยังคงจำสัมผัสของเขาได้มิเคยลืม"ก็...ข้าไม่รู้" ฉงเสว่ปิงแสร้งเฉไฉด้วยความขัดเขิน นางไม่อาจหนีใจตัวเอง กับความจริงที่ว่าตนกำลังร่ำร้องและปรารถนาในกายบุรุษเบื้องหน้าอย่างแรงกล้าเช่นกัน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status