Beranda / รักโบราณ / ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว / แรกรักผลิบานดั่งหลานฮวา ภายหลังดุจปุยดอกหลิ่วปลิวมลาย 1

Share

ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว
ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว
Penulis: lianlian

แรกรักผลิบานดั่งหลานฮวา ภายหลังดุจปุยดอกหลิ่วปลิวมลาย 1

Penulis: lianlian
last update Terakhir Diperbarui: 2025-07-01 07:25:18

บทนำ

...หานฉงหรงยังคงจดจำวันแรกที่แต่งงานเข้าสกุลฉางได้ดี...

ฉางซื่อหลางเป็นมือปราบในศาลประจำเมืองจี๋หลิน ส่วนเขาเป็นบุตรสาวของอาจารย์ที่เปิดสถานศึกษาเล็กๆ การพบกันของพวกเขาเหมือนหน้าหนึ่งของนิยายประโลมโลก ดุจดั่งหน้าม่านของอุปรากรอันเลื่องชื่อ ฉางซื่อหลางช่วยเหลือหานฉงหรงประหนึ่งฉากวีรบุรุษช่วยเหลือสาวงาม นานวันต่างฝ่ายต่างเกิดจิตปฏิพัทธ์จึงคบหาดูใจอยู่นานนับปี สุดท้ายจึงได้แต่งงานกัน

พวกเขาใช้ชีวิตเรียบง่ายสงบสุขได้ไม่นานนักหนึ่งปีต่อมามีการประกาศรับสมัครจอหงวนฝ่ายบู๊ทั่วแผ่นดิน หานฉงหรงเห็นว่าอีกฝ่ายมีความสามารถ จึงไม่ลังเลที่จะชักชวนให้ฉางซื่อหลางสมัครสอบไป สามีของเขามีท่าทีลังเลในคราแรก ทว่าไม่นานก็ตอบตกลง โดยที่บิดาของหานฉงหรงจะเป็นผู้สอนในคัมภีร์ต่างๆ ที่ใช้สอบ

เมื่อทุกอย่างพร้อมสรรพเพียงรอลมบูรพาทิศ ฉางซื่อหลางออกเดินทางในวันฤกษ์ดีวันหนึ่งก่อนถึงเวลาสอบหนึ่งเดือนด้วยเผื่อเวลาเดินทาง ทั้งสองล่ำลากันด้วยน้ำตา ฉางซื่อหลางให้คำมั่นว่าถ้าสอบได้จอหงวนบู๊ เขาจะกลับรับภรรยาไปอยู่ด้วยกัน หรือถ้าสอบตก เขาก็จะกลับมาช่วยพ่อตาสอนหนังสือ ใช้ชีวิตสงบสุขดังเดิม

เวลาผ่านไปหนึ่งปี ในจี๋หลินเกิดโรคระบาด คร่าชีวิตบิดาของหานฉงหรงไป ความเป็นอยู่ในสกุลเริ่มลำบากยากแค้น ในใจฉงหรงนึกห่วงสามีที่ยังไม่กลับบ้าน ในขณะที่กลังจะเก็บข้าวของออกเดินทางไปยังเมืองหลวง เกี้ยวคันงามหลังหนึ่งก็มาจอดยังหน้าบ้านของนาง ระบุว่าต้องการเชิญฮูหยินของจอหงวนบู๊คนใหม่

แม้จะแปลกใจที่ฉางซื่อหลางไม่มารับด้วยตนเอง แต่สุดท้ายก็ยอมนั่งเกี้ยวเดินทางมายังเมืองหลวง เกี้ยวของหานฉงหรงหยุดเบื้องหน้าเรือนสี่ประสานอันสวยสดงดงาม ทว่าป้ายหน้าประตูทางเข้ากลับเขียนเอาไว้ว่า

"จวนราชบุตรเขย"

หานฉงหรงยืนนิ่ง ตัวชาเหมือนถูกน้ำเย็นราดรดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เมื่อสอบถามบุรุษที่ดูท่าทางเหมือนขันทีคนหนึ่งจึงได้ความว่า ขณะที่สามีของนางแสดงความสามารถต่อเบื้องพระพักตร์ฮ่องเต้ในรอบสุดท้ายนั้น เป็นที่พอพระทัยของฮ่องเต้ รวมไปถึงองค์หญิงเวินอี๋ธิดาสุดรักที่ตกหลุมรักเขานับตั้งแต่แรกเห็นยิ่งนัก ทำให้ฮ่องเต้ที่ทานทนพระราชธิดารบเร้าไม่ไหวจึงมอบสมรสพระราชทานให้นางกับฉางซื่อหลาง

ฉางซื่อหลางพยายามทูลคัดค้านว่ามีภรรยาอยู่ที่บ้านเกิดแล้ว แต่ว่าก็ไร้ผล ฉางซื่อหลางกลายเป็นราชบุตรเขยไปในที่สุด แต่เขาก็ไม่อยากเป็นอย่างเฉินซื่อเหม่ยที่หลอกลวงเบื้องสูงทอดทิ้งภรรยาเอกที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาได้ จึงได้ส่งคนไปรับหานฉงหรงที่บ้านเกิดเพื่อมาอยู่ด้วยกัน

หลังจากตั้งสติได้ หานฉงหรงได้แต่แค่นยิ้มสมเพชให้กับตนเอง วันดีคืนร้ายจากที่เป็นภรรยาของสามัญชนคนธรรมดากลับต้องมาอยู่ในฐานะเดียวกับฉินเซียงเหลียงภรรยาของเฉินซื่อเหมยที่สามีกลายเป็นจอหงวนผู้งามสง่าทรงเกียรติ ได้สมรสกับองค์หญิงผู้มียศถาบรรดาศักดิ์สูงเทียมฟ้า ต่างกันตรงที่ในอุปรากรนั้น เฉินซื่อเหม่ยปกปิดเรื่องมีครอบครัวแล้วกับองค์หญิงแล้วส่งคนมาฆ่าภรรยาเก่ากับลูกๆ ส่วนนางนั้นมิใช่ แม้มิต้องหนีการตามล่าหรือตกตายอย่างน่าเวทนา แต่ก็ขมขื่นอัปยศอดสูไม่แพ้กัน

เป็นเมียเอกแล้วอย่างไรเล่า องค์หญิงเวินอี๋แม้แต่งเข้ามาทีหลังทว่าสถานะสูงส่ง เป็นนางเสียอีกที่ต้องคุกเข่าทำความเคารพ เรื่องบัดซบที่ให้หลวงเคารพน้อยจะให้นางทานทนได้อย่างไรกัน! หานฉงหรงจึงตัดสินใจในทีแรกว่าจะกลับบ้านเกิดแล้ว ถ้าฉางซื่อหลางไม่รั้งตัวเขาไว้ก่อน

ฉางซื่อหลางโอบเอวบางพาหานฉงหรงเข้ามายังจวน ชายหนุ่มเตรียมเรือนหลังงามให้กับหานฉงหรงไว้รอท่า แยกออกจากจวนขององค์หญิงโดยสิ้นเชิง ชายหนุ่มมีสีหน้าลำบากใจอย่างยิ่งเมื่อเอ่ยถึงการแต่งงานกับองค์หญิงจนนางเองเริ่มรู้สึกใจอ่อน ฉางซื่อหลางยังคงเป็นฉางซื่อหลางคนเก่าที่นางรู้จัก เป็นคนซื่อสัตย์และอ่อนโยนยิ่งนัก อีกฝ่ายคงไม่มีทางหลอกนางอย่างเด็ดขาด

ฉางซื่อหลางอยู่เป็นเพื่อนหานฉงหรงจนถึงเช้าเพื่อรำลึกความหลังแสนหวาน ก่อนที่จะจูงมือพาหานฉงหรงไปยังจวนองค์หญิงเวินอี๋เพื่อทำความเคารพด้วยกัน องค์หญิงเวินอี๋ผิดจากที่หานฉงหรงคิดไว้มาก แม้จะสูงศักดิ์แต่ก็ไม่หยิ่งผยองถือตัว ซ้ำยังเคารพนางกลับและบอกว่านางมาทีหลังสมควรเคารพหานฉงหรงถึงจะถูก

หลังจากนั้นหานฉงหรงพบว่านางกับองค์หญิงนั้นเข้ากันได้ดีกว่าที่คิด มีข้าวของเครื่องใช้ดีๆ จากวังหลวงก็นำมาให้นาง ทั้งสภาพความเป็นอยู่ของนางนั้นไม่ด้อยไปกว่าองค์หญิง ซ้ำสามีก็ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ทำให้หานฉงหรงค่อยๆ กลับมามีความสุขอีกครั้ง

และความสุขนั้นก็พลันครบถ้วนบริบูรณ์ยิ่งขึ้นเมื่อหานฉงหรงตั้งครรภ์

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (1)
goodnovel comment avatar
Lucky
แนะนำนะคะจากเขาเป็นเธอจะอ่านลื่นกว่า เขาใช้กับผู้ชายไหมคะ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   ในงานเลี้ยง 1

    เมื่อถึงยามซื่อ สายลมเย็นสดชื่นชวนให้กระปรี้กระเปร่า แดดในเวลานั้นสาดแสงแจ่มจ้า สะท้อนผ่านต้นเฟิงที่ใบของมันกำลังกลายเป็นสีแดงอมส้มเต็มต้นทำให้บรรยากาศโดยรอบอบอุ่นขึ้น โถงจัดเลี้ยงในตอนนี้วิจิตรตระการ เหล่าเชื้อพระวงศ์เริ่มทยอยมาตามลำดับ ทุกผู้ต่างแต่งกายอย่างหรูหราพิถีพิถันประชันกันไม่มีใครยอมใคร จวงหมิ่นกั๋วฟูเหรินเองก็ได้รับเชิญมางานเลี้ยงสังสรรค์นี้ด้วยเนื่องจากเป็นพระสหายสนิทขององค์หญิงใหญ่เผิงเฉิง ทันทีที่นางได้เห็นหานฉงหรงก็แย้มยิ้มยินดี “ไม่เจอเจ้าเสียนาน งดงามขึ้นเป็นกอง แถมเริ่มมีราศีของว่าที่ชายาเอกเป่ยหนานอ๋องแล้วด้วย ข้าต้องแสดงความยินดีจากใจจริงๆ”หานฉงยิ้มเอ่ย “พี่สาวล้อข้าเล่นแล้ว ข้าก็ยังเป็นข้าอยู่เช่นเดิม มีเพียงพี่สาวที่งามยิ่งกว่าครั้งสุดท้ายที่เราพบกัน” นางกล่าวเช่นนั้นก่อนกดเสียงเบา “ยิ่งพระสนมหานกลับมาได้รับความโปรดปรานตามเดิม ราศีเชื้อพระวงศ์ของท่านยิ่งแจ่มชัดกว่าข้าเสียอีก”“น้องสาวคนดีก็พูดเกินไป เรื่องราศีเชื้อพระวงศ์แจ่มชัดกว่าผู้ใดนั้นข้าคงเทียบกับชายาเอกของโซ่วอ๋องมิได้หรอก” จวงหมิ่นกั๋วฟูเหรินยิ้มน้อยๆ พลางปรายตาไปยังสตรีสูงศักดิ์นางหนึ่งที่กำลังถูกผู้

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   ส่งเสียงบูรพาตีฝ่าประจิม 4

    เวลาผันผ่านไปหลายวัน ในที่สุดก็ถึงวันที่งานเลี้ยงสังสรรค์ของเหล่าเชื้อพระวงศ์หญิงเริ่มต้น เนื่องจากงานเลี้ยงจะเริ่มในยามซื่อ[1] หานฉงหรงจึงตื่นตั้งแต่ช่วงเช้ามืดตรงไปยังโถงจัดเลี้ยงและห้องเครื่องเพื่อสำรวจความเรียบร้อยของอาหารและสถานที่จัดงานจนแน่ใจว่าจะมิมีสิ่งใดผิดพลาด จากนั้นจึงติดตามหลิวกูกูที่ได้รับพระราชเสาวนีย์จากหวงไทโฮ่วที่เรียกให้นางไปแต่งตัวและประทินโฉม เมื่อมาถึงไทโฮ่วได้เลือกอาภรณ์และเครื่องประดับที่เข้าชุดกันเอาไว้ให้แล้ว“วันนี้เป็นวันสำคัญของเจ้าอีกทั้งมีเหล่าเชื้อพระวงศ์หญิงมาร่วมงานจำนวนมาก จำเป็นต้องพิถีพิถันในการแต่งกายและประทินโฉมให้ดี สิ่งนี้เป็นของที่ตัวข้าให้ซ่างกงฝ่ายอาภรณ์และเครื่องประดับทำมาเพื่อเจ้าโดยเฉพาะ เจ้าลองสวมดูว่าพอดีหรือไม่”หานฉงหรงรู้สึกซาบซึ้งใจยิ่ง “ขอบพระทัยไทโฮ่วสำหรับพระกรุณา เพียงแต่วันนี้เป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ของเหล่าเชื้อพระวงศ์ หม่อมฉันเป็นผู้น้อยไม่สมควรแต่งกายหรูหรานัก เกรงว่าจะทำให้พระนางถูกติฉินไปด้วย หม่อมฉันคิดว่าแต่งกายเรียบง่ายก็เพียงพอแล้วเพคะ”“แสดงว่าเจ้าไม่เข้าใจจุดประสงค์ของการจัดเลี้ยงนี้” หวงไทโฮ่วขมวดคิ้ว รู้ได้ทันทีว่าไ

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   ส่งเสียงบูรพาตีฝ่าประจิม 3

    แน่นอนว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น หลังจากเอนหลังพักผ่อนจนสบายใจแล้ว องค์หญิงเวินอี๋เดินนำซีเยวี่ยและผู้ติดตามจำนวนหนึ่งไปยังห้องเครื่องเล็กที่อยู่ใกล้กับโถงจัดเลี้ยง เมื่อไปถึงก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายอย่างโกลาหล ทั้งเสียงหวีดร้องห้ามปรามของเหล่าแม่ครัว ทั้งกลิ่นแปลกประหลาดที่ทั้งสาบทั้งฉุนจนแสบจมูก เวินอี๋ยกผ้าเช็ดหน้าผ้าไหมประดับพู่ไหมทองยกขึ้นปิดจมูกพร้อมกับขมวดคิ้ว “นี่มันกลิ่นอันใด แสบจมูกยิ่ง”ซีเยวี่ยไอโขลกๆ อยู่ครู่หนึ่งจึงค่อยกล่าวออกมาอย่างกระท่อนกระแท่น “ทูลองค์หญิง...แค่กๆ...เป็นกลิ่นเครื่องเทศเพคะ”“กลิ่นเครื่องเทศฉุนปานนี้คิดจะให้คนทั้งวังขาดใจตายหรืออย่างไรกัน” เวินอี๋ทั้งฉิวทั้งขันเพราะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเกิดอันใดขึ้น “ฉงหรงจวิน ท่านยังปลอดภัยดีหรือไม่”ไม่นานนักหานฉงหรงก็เดินเข้ามา ใบหน้ามอมแมมด้วยผงขมิ้นและผงเครื่องเทศอื่นๆ นางมีท่าทีเก้อกระดาก หลังจากเช็ดหน้าตนเองลวกๆ แล้วก็รีบถวายบังคม “หม่อมฉันกำลังยุ่งอยู่ในครัว จึงไม่ได้ออกมาต้อนรับทันที ต้องขอประทานอภัยเพคะ”เวินอี๋ยกผ้าเช็ดหน้ากดริมฝีปากมิให้เผยอรอยยิ้มสาแก่ใจออกมา ก่อนจะเปลี่ยนมันเป็นรอยยิ้มอ่อนโยนระคนเห็นใจ “มิเป

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   ส่งเสียงบูรพาตีฝ่าปะจิม 2

    องค์หญิงใหญ่เผิงเฉิงที่เพิ่งแยกกับฮ่องเต้ที่ตำหนักทรงพระอักษร ตั้งใจว่าจะกลับจวนองค์หญิงของตนโดยไม่แวะไปหาที่ใดหรือผู้ใด กลับพบบุรุษผู้หนึ่งที่เดินมาหานางพร้อมกับรอยยิ้มบางที่ดูอบอุ่นเป็นมิตร เขาหยุดยืนประสานมือ เรียกขานนางว่า “พี่หญิง” อย่างสนิทสนม องค์หญิงเผิงเฉิงเอียงคอเล็กน้อยก่อนยกยิ้มตอบ “นึกว่าใคร ที่แท้รุ่นเอ๋อร์น้องชายคนดีของข้านั่นเอง ลมอันใดหอบเจ้ามาหาถึงวังหลวงได้กัน” นางกล่าวเว้นช่วงเล็กน้อย คล้ายว่ากล่าวสิ่งใดไม่ถูกไม่ควร “ไม่สิ ลมที่ว่าคงไม่ได้หอบเจ้ามาหาข้ากระมัง แต่มาหาคนที่อยู่ที่ตำหนักไท่หยางนู่น”อวิ๋นรุ่นทำหน้าตาใสซื่อ “แน่นอนว่ารุ่นเอ๋อร์ต้องไปตำหนักไท่หยาง เยี่ยมเยียนเสด็จแม่ในฐานะบุตรชายผู้กตัญญู”นิ้วเรียวงามขององค์หญิงใหญ่เผิงเฉิงจิ้มที่หน้าผากน้องชายแผ่วเบา “อย่ามาทำเฉไฉสวมบทบาทลูกกตัญญู เสด็จแม่ทรงบอกข้าจนหมดสิ้นแล้วว่าว่าที่น้องสะใภ้ของข้าพำนักที่นั่น แถมยามค่ำคืนยังมีการดัดเสียงอ่อนเสียงหวานเป็นขันทีน้อยแถมติดสินบนหลิวกูกูเพื่อให้ได้พบนาง ใช้ได้ที่ไหนกัน”ชายหนุ่มลูบหน้าผากแก้เก้อ “ผู้ใดให้เสด็จแม่ใจร้ายไม่ยอมให้ข้าพบนางกัน มิเช่นนั้นข้าคงมิยอมใช้เล่ห์เพท

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   ส่งเสียงบูรพาตีฝ่าประจิม 1

    แม้ว่าองค์หญิงเวินอี๋จากไปอย่างไม่สบอารมณ์นัก แต่สุดท้ายก็ยังมีแก่ใจให้ซีเยวี่ยนางกำนัลคนสนิทของนางมาบอกกล่าวให้นางกำนัลและรวมไปถึงตัวของหานฉงหรงเองให้เลิกงานก่อนกำหนด หานฉงหรงจึงเก็บรายละเอียดและบอกกล่าวงานที่จะเริ่มทำต่อในวันรุ่งขึ้นแก่นางกำนัลที่เกี่ยวข้อง ก่อนให้พวกนางแยกย้ายกันไปพักผ่อน ส่วนตนเองเดินทางกลับตำหนักไท่หยาง เนื่องจากยังมีบันทึกสมาชิกราชวงศ์และรายละเอียดอื่นๆ ที่สำคัญต้องเรียนรู้อีกมาก ทว่าขณะที่เดินใกล้มาถึงประตูตำหนัก พลันเห็นฮ่องเต้ก้าวออกมาพร้อมสตรีวัยไล่เลี่ยกันนางหนึ่ง สตรีนางนั้นรูปโฉมงดงาม แต่งกายอย่างสตรีชาววังที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ชนชั้นสูงถักทอจากไหมเลอค่า ศีรษะประดับมุกหยกและเครื่องทองเป็นหลัก ท่วงท่าการเดินล้วนสง่างาม ยามโอภาปราศรัยกับฮ่องเต้ก็ดูเป็นมิตรมิเคอะเขิน อีกทั้งด้านหลังของนางยังมีสาวใช้สวมชุดกระโปรงแบบชาวนอกด่านสองคน ประดับเครื่องเงินแพรวพราวแปลกตา ยามเคลื่อนไหวมีเสียงเครื่องกระทบกันแผ่วเบาทว่าไพเราะ ซึ่งการแต่งกายเช่นนี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของหญิงสาวเผ่าหูหานฉงหรงถอยมายืนชิดริมกำแพงพร้อมย่อกายคารวะฮ่องเต้และสตรีสูงศักดิ์ผู้นั้นแล้วก้มหน้าเล็ก

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   เพื่อนใหม่

    แน่นอนว่าเมื่อการประชันบรรเลงพิณจบลง ย่อมมีผู้ที่พึงพอใจระคนลำพองด้วยชัยชนะ และผู้ที่เก็บสีหน้าผิดหวังระคนเคืองขุ่นเอาไว้ไม่มิดจากผู้พ่ายแพ้ ผู้ใดจะรู้ว่าฝีมือการบรรเลงพิณของหานลู่นั้นเหนือล้ำกว่าเนี่ยไหวหยางอยู่หลายขุม ทำเอาฮ่องเต้พอพระทัยอย่างยิ่ง “หานไฉเหรินฝีมือบรรเลงพิณเลิศล้ำ ราวกับได้เทพเจ้าขุย[1]คุ้มครองประทานพร ไม่เสียทีที่เรามอบพิณหยกขาวของราชวงศ์ก่อนให้กับเจ้า นับว่าให้กับผู้ที่คู่ควรโดยแท้”หานลู่ซ่อนสีหน้าสาแก่ใจไว้ภายใต้รอยยิ้มนุ่มนวลอย่างที่สนมนางในพึงมี กล่าววาจาอ่อนน้อมถ่อมตน “ฝ่าบาทกล่าวชมเกินไป หม่อมฉันเพียงไม่อยากให้ฝ่าบาทที่อุตส่าห์พระราชทานของล้ำค่าต้องทรงผิดหวังที่มอบให้กับคนที่ไม่เหมาะสม จึงจำเป็นต้องทำอย่างสุดความสามารถเพคะ”ยิ่งได้ฟังฮ่องเต้ก็ยิ่งพึงใจ มือใหญ่แตะถูกหยกพกที่ห้อยอยู่ข้างเอว จึงปลดออกจากสายคาดเอวแล้วยื่นให้นาง “นี่คือหยกเหอเถียนที่เป็นของบรรณาการจากซื่อชวน ทั้งลวดลายสีสันเราชมชอบยิ่งนัก ช่วงนี้จึงมักพกติดกายเป็นประจำ บัดนี้ขอมอบให้เจ้า หวังว่าเราจะได้สดับรับฟังดนตรีอันยอดเยี่ยมเช่นนี้อีก”หานลู่กล่าวขอบพระทัยพลางรับด้วยสองมือ คลี่ยิ้มยวนเสน่ห์ “

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status