“ตายเพราะถูกพี่สาวผลักตกน้ำอย่างนั้นหรือ”
หลิวตานที่ในตอนนี้คือร่างวิญญาณของอลิสพึมพำแผ่วเบา หลังจากได้รับความทรงจำของร่างเดิม อย่างน้อยมันก็ช่วยเธอได้มาก แต่ความทรงจำที่ได้รับทำให้เธอได้แต่สบถด่าสวรรค์ลำเอียง เพราะชีวิตของร่างนี้มันโหดร้ายมากอายุเพียงสิบสองแต่ถูกใช้งานยิ่งกว่าทาสเสียอีก ร่างกายผอมบางและขาดสารอาหารรุนแรงยิ่งกว่าเธอชาติก่อนเสียอีก
หลิวตานคือลูกสาวคนโตของบ้านรอง เป็นหลานคนที่สามของตระกูลหลิวแต่ไม่ใช่หลานรัก หลิวอี้ผิงหลานสาวคนโตของบ้านเป็นคนเอาแต่ใจ ถูกตามใจจนเสียคนและคิดว่าตัวเองคือเจ้าหญิงของบ้าน การที่อีกฝ่ายกล้าลงมือกับน้องสาวคนนี้เพียงเพราะอีกฝ่ายคิดว่าหลิวตานมีใบหน้าที่สวยเกินไป
“ไร้เหตุผลเกินไปแล้ว!”
เธอสถบออกมาอย่างหัวเสีย ชีวิตของร่างเดิมช่างน่าสงสารเสียจริง ในสายตาคนอื่นจะเห็นว่าพี่น้องบ้านรองมอมแมมแต่คนในบ้านรู้ดีว่าบ้านรองหน้าตาดีทั้งบ้าน ความอิจฉาริษยาทำให้อีกฝ่ายกล้าลงมืออีกทั้งที่หลิวตานไม่ใช่หลานรัก ตายไปก็ไม่ทำให้ครอบครัวเสียใจ พวกเขาเห็นชีวิตคนอื่นไร้ค่าจริง ๆ อลิสขมวดคิ้วยิ่งอ่านความทรงจำของร่างเดิมยิ่งรู้สึกอึดอัดใจ
ตระกูลหลิวเป็นตระกูลใหญ่อาศัยในหมู่บ้านเล่อซางเกือบครึ่งหมู่บ้านได้ แต่บ้านสายหลักคือสายของปู่หลิวตาน อีกฝ่ายมีลูกชายสี่คนลูกสาวคนเล็กอีกหนึ่งคน บ้านของหลิวตานเป็นบ้านที่เรียกได้ว่าหลานชังสุด ๆ เพราะปู่กับย่าก็ไม่เคยรักลูกชายคนรองเลยและยังลำเอียงเข้าบ้านใหญ่สุดๆ
โดยอ้างว่าลูกชายคนรองเป็นบ้านที่ให้กำเนิดลูกสาวที่ไร้ประโยชน์ตั้งสองคน ลูกชายคนเดียวยังสติไม่สมประกอบ ต่อหน้าผู้เป็นลูกชายย่าหลิวทำดีกับครอบครัวของลูกชายที่เป็นทหารมาก แต่ลับหลังกลับเป็นอีกอย่าง
โชคร้ายที่แม่ของเธอเข้าไปช่วยไม่ทัน อลิสจึงได้เข้ามาอยู่ในร่างและเป็นช่วงที่พาลูกสาวขึ้นจากน้ำพอดี จึงไม่รู้เลยว่าลูกสาวคนโตของหล่อนนั้นตายไปแล้ว
คนที่รู้ว่าใครผลักหลิวตานจมน้ำ ก็คือเจ้าตัวที่เห็นสายตาสะใจของเด็กคนนั้น ในตอนที่ถูกพาตัวกลับมาที่บ้านอลิสยังไม่ได้หมดสติและยังจำเสียงของย่าเจ้าของร่างได้
‘โง่เง่า! ฉันบอกให้ไปซักผ้าแต่ลูกสาวของแกกระโดดลงไปเล่นน้ำแล้วบอกป่วย เหอะ! จอมล้างจอมผลาญจริง ๆ สู้หลานชายของฉันก็ไม่ได้’
และเสียงอาเล็กของบ้านที่บอก ‘แม่คะ ฉันว่าไม่ต้องให้ข้าวพวกมันกินดีกว่าค่ะวันนี้ ดูสิเสื้อผ้าฉันยังไม่ได้ซักพรุ่งนี้ฉันจะได้ใส่ตัวไหนไปโรงเรียนกัน!’
‘พี่ขอโทษจ้ะ ลูกสาวของพี่ตกน้ำพี่เป็นห่วงเลยรีบกลับ เดี๋ยวพี่จะรีบไปซักตอนนี้’ จ้าวเหม่ยผู้เป็นแม่รีบบอกก่อนออกจากบ้านไปซักผ้าให้น้องสามี
และนั่นคือสติที่อลิสรับรู้ตอนเข้ามาอยู่ในร่างของหลิวตาน ก่อนหลับไปอีกรอบด้วยความเหนื่อยล้า
แม่ของสามพี่น้องนี้เป็นผู้หญิงที่อ่อนแอมาก ยอมให้บ้านใหญ่กดขี่รังแกเพราะไม่อยากให้สามีที่ไปทำงานไกลบ้านต้องเป็นห่วง ไหนจะไม่อยากให้ลูกต้องโดนทำร้ายไปด้วย บอกได้คำเดียวว่าอลิสโมโหมาก มารดาที่แสนอ่อนแอที่แม้กระทั่งปกป้องลูก ๆ ตัวเองไม่ได้ทำให้เธอหงุดหงิด
แม้ชาติก่อนมารดาจะเป็นเมียนอกสมรสอย่างไม่ตั้งใจ แต่หล่อนก็พยายามปกป้องเธอตลอดจนกระทั่งอายุสิบขวบ หากเธอไม่ป่วยตายจากไปก่อนเธอก็คงไม่ถูกส่งมายังดาวรกร้าง แม้อโรม่าจะไม่มีอำนาจเหมือนภรรยาหลวง แต่เธอก็ปกป้องแก้วตาดวงใจจนลมหายใจสุดท้าย
แต่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ต้องยอมรับแล้วว่าตัวเองเกิดใหม่มาอยู่ในร่างของลูกสาวคนโตของบ้านรอง และต่อไปนี้เธอคือหลิวตาน!
“และนี่คือ...”
หลิวตานหลุดจากภวังค์ความคิดหันไปมองกระดานบางอย่างที่ปรากฏตรงหน้า หรือมันจะเป็นโฮโลแกรมในอนาคตที่ตามติดมาด้วย? แต่ทำไมมันถึงได้แปลกตาและไม่มีเครื่องมือสื่อสารที่บอกว่าเป็นโฮโลแกรมเลย
‘ยินดีต้อนรับผู้โชคดีที่ได้รับเลือกเข้าสู่ระบบ โปรดกดตกลงเพื่อเลือกระบบ’
“ฮะ”
เธอไม่ได้ตกใจที่มันพูดได้เนื่องจากในโลกสหพันธ์นั้นเทคโนโลยีต่าง ๆ ถูกพัฒนาจากทั่วโลก บางทีมันอาจเป็นสิ่งที่ติดตามเธอมาจากที่นั่นก็เป็นได้ แต่สิ่งที่ตกใจก็คือผู้โชคดีที่ระบบบอกและมีเพียงระบบทำฟาร์มให้เลือกทำเท่านั้น!
“วันนี้พวกเราจะไม่นอนในบ้าน” หลิวตานกล่าวยิ้ม ๆ มองลูกเล่นน้ำในสระปูน“เอ๋ ไม่นอนในบ้านแล้วนอนที่ไหนคะ” นอกจากบ้านพักเวลามาที่นี่พวกเขาไม่เคยไปนอนที่ไหนเลยหลิวตานไม่ตอบแต่พยักหน้าสั่งสามีให้เริ่มทำที่นอนพักของคืนนี้ทันที ลานดินไม่มีหญ้าหรือกิ่งไม้เคยขวางเหมือนอดีตถูกปูด้วยผ้าผืนบาง ก่อนเต็นท์ถูกนำมากางทับ ผ้านิ่มถูกปูไว้ด้านในเพื่อนให้ลูกได้นอนนิ่ม ๆ พร้อมกับเตรียมก่อไฟไว้ข้างนอกนี่คือสิ่งที่หลิวตานเพิ่งได้รับมาจากระบบ เธอเลยอยากลองใช้ไหน ๆ ก็มีสถานที่ให้ใช้ และลูกของเธอดูตื่นเต้นมาก ถึงขั้นอาบน้ำและรีบมาดู“ว้าว! ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”“ถ้าเคยเห็นสิแปลก” หลิวตานพึมพำแม้แต่เธอเองยังเคยเห็นเต็นท์ไม่กี่ครั้งและใช้งานไม่เป็น โชคดีว่าสามีของเธอคือทหารและการใช้ของพวกนี้เขาคุ้นเคยอยู่บ้างเลยไม่ต้องอธิบายให้เขาฟังว่าได้มันมาจากไหนและต้องกางเต็นท์ยังไง“ยังดีนะครับว่าฝนไม่ตก ไม่อย่างนั้นคงน่าเสียดายแย่” สือหยวนเฟิ
“เขาก็แค่ไม่อยากเล่นกับลูกคนงานคนอื่น ทั้งที่เขาก็เป็นแค่ลูกคนงานเหมือนกัน”หลิวตานเอ่ยปราม “เจียวมิ่ง แม่ไม่เคยสอนให้ลูกแบ่งชนชั้นกับใครนะ”คำว่าลูกคนงานทำให้หลิวตานรับไม่ได้จริง ๆ ที่คำนี้มันออกมาจากปากลูกของเธอเอง เพราะหลิวตานสอนให้ลูกใช้ชีวิตกับฟาร์มตลอดและการแบ่งชนชั้นเป็นสิ่งที่เธอไม่ชอบ และในอดีตเธอโดยกระทำเช่นนี้มาก่อนอีกด้วย“ขอโทษครับ”“ไม่ใช่แค่ขอโทษ ลูกไม่ควรไปพูดคำนี้กับใคร ถ้าแม่ไม่ใช่เจ้าของฟาร์มเป็นแค่คนงาน ลูกก็ต้องเป็นลูกคนงานเหมือนคนอื่น” หลิวตานสอนลูกชายสือเจียวมิ่งนั่งก้มหน้า สือเจียวเจี้ยก็อยากเข้าไปปลอบพี่ชายแต่ถูกบิดาห้าม หลิวตานปล่อยให้เขานั่งสำนึกผิดเกือบสิบนาทีถึงได้ชวนสามีกลับบ้านบ้านพักท้ายฟาร์มถูกสร้างขึ้นหลายหลังเป็นบ้านหลังเล็กมีหนึ่งห้องนอนเพราะว่าทุกคนในฟาร์มชอบมาฉลองกันที่นี่ ตอนแรกหลิวตานต้องการต่อเติมแต่เธอมองว่าถ้าต่อเติมบ้านพักท้ายฟาร์มมันจะกลายเป็นบ้า
สือหยวนเฟิงได้ยินก็ไม่ลืมคนเก่าแก่ “ลุงเจา ลุงหลี ครอบครัวลุงชาง ป้าเฉวียน แล้วก็พี่ชายชาง พวกเขาทำงานในฟาร์มตั้งแต่ฟาร์มเปิดรับคนงาน 20 คน ตอนนี้เพิ่มมาอีกหลายร้อยคน ผมคิดว่าควรมีของขวัญให้พวกเขาบ้างนะครับ”ทั้งห้าคนคือคนที่อยู่กับฟาร์มนานที่สุดและลุงเจาปีนี้ยังได้เป็นหัวหน้าคนงานปีสุดท้ายก่อนส่งต่อให้พี่ชายชางเพื่อการประสานงานรวดเร็ว แต่ลุงเจายังคงทำงานในฟาร์มเป็นผู้ช่วยของหลิวตงตง โดยที่ลุงเจาเข้าใจทุกอย่าง“แน่นอนค่ะ”นอกจากลุงเจา ลุงหลี ทั้งสามคนคือครอบครัวเดียวกัน นอกจากเงินเดือนจะเพิ่มหลิวตานก็เตรียมโบนัสประจำปีเอาให้ทั้งห้าคนอีกด้วย และมีการปรับเพิ่มสวัสดิการต่าง ๆ อย่างเหมาะสม หลิวตานคิดว่าปีหน้าจะเปิดรับเพิ่มอีกประมาณ 200 คน และหยุดการขยายฟาร์มไปก่อนจนกว่าคนจะเพียงพอช่วงบ่ายสี่พ่อแม่ลูกพากันเข้าฟาร์มหลิว แต่ละคนแต่งตัวเต็มยศบ่งบอกว่าจะเข้ามาทำงาน และไม่รู้ว่าที่ผ่านมาระบบสงสารหลิวตานหรืออะไร ตั้งแต่ท้องลูกตอนนั้นการที่สามีเข้ามาช่วยทำภารกิจมันสาม
เกือบบ่ายสองรถยนต์สองคันมุ่งหน้าตามกันไปยังท้ายฟาร์ม หลิวตานกับเพื่อนไปรถคันเดียวกันโดยมีสือหยวนเฟิงเป็นคนขับ อีกคันคือน้องของหลิวตานกับสือหยวนเฟิง มีหลิวต้าสยงเป็นคนขับ“อากาศเย็นจริง ๆ พวกเราไม่ได้มาเที่ยวแบบนี้กันหลายเดือนเลย!” หลิวอิ๋งอีสูดดมอากาศเข้าปอดแล้วพูดออกมาด้วยความดีใจ หล่อนยุ่งกับการเรียนนอกจากกินอาหารร่วมโต๊ะกับครอบครัว ที่เหลือคงเป็นการอยู่ในบ้านอ่านหนังสือชุยเฟิงเอ่ยแซว “แหม ว่าที่คุณหมอนาน ๆ ถึงมีเวลามาเลี้ยงฉลองกับคนอื่นอย่างเธอ ไม่แปลกที่ไม่ได้มานาน”ในขณะที่คนอื่นเรียนจบกันว่าที่คุณหมออย่างหลิวอิ๋งอี หลิวต้าสยง ยังต้องเรียนต่อกันอีกเกือบสองปี ซึ่งสาขาที่ทั้งสองเลือกเรียนใช้เวลาเรียนนานกว่าสาขาอื่นอยู่แล้ว“คุณอายังโทรมาถามเลยว่าต้าสยงเรียนจริงไหม” หลิวตานหัวเราะ“ถามว่าเรียนจริงไหมยังดีกว่าถามหาภรรยานะครับ เฮ้อ” หลิวต้าสยงถอนหายใจ ปีนี้เขาอายุยี่สิบหกปีถ้าอยู่ที่หมู่บ้านคงมีลูกจนโตแล้ว ค่านิยมของเมืองใหญ่กับชนบทไม่เหมือนกัน เขาไม่จำเป็นต้องรีบมีลูกขนาดนั้น&nbs
นับว่าฟาร์มหลิวได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมาก ฟาร์มเก่าแก่อยู่มานานหลายสิบปียังถูกเขี่ยออกจากสิบอันดับของฟาร์มใหญ่ได้ จริง ๆ หลายปีมานี้ฟาร์มหลิวต้องพิสูจน์ตัวตนมานาน ลูกค้าหาย ถูกยกเลิกคำสั่งซื้อ ถูกใส่ร้ายเรื่องผักไม่สดและปีนี้หลิวตานยังได้น้องชายมาช่วยงานในฟาร์มทันทีที่เขาเรียนจบ การเติบโตของฟาร์มจึงขยายเพิ่มปัจจุบันคนงานในฟาร์มมีจำนวนมากกว่า 500 คน แบ่งเป็นทำงานในสำนักงานเกือบยี่สิบคน ทำงานในโรงผลิตเครื่องปรุงรสจำนวน 120 คน พนักงานแปรรูปผัก 50 คน ที่เหลือคือคนงานในฟาร์มบ้านหลิวประสบความสำเร็จแน่นอนว่างานเลี้ยงถูกจัดขึ้นด้วยความยิ่งใหญ่ ครบรอบสิบปีของฟาร์มทั้งทีร้านค้าพันธมิตร ลูกค้ารายใหญ่ และคนสำคัญถูกเชิญมาร่วมงาน งานจัดขึ้นตอนเช้าเพราะว่าตอนบ่ายหลิวตานกับพี่น้องนัดกันไปเล่นน้ำตกท้ายฟาร์ม“แม่”เสียงของลูกสาวตัวน้อยทำให้หลิวตานละมือจากงานตรงหน้า หันไปคุยกับลูกสาว “เจียวเจี้ยมีอะไรหรือเปล่าคะลูก”ปีนี้เด็กแฝดของหลิวตานกับสามีอายุ 5 ขวบแล้ว ทั้งสองเป็นเด็กฉลาดที่ทุกคนพบเห
ถึงเวลาลูกตื่นช่วงเลิกงานของทุกคน หลิวตาน สือหยวนเฟิงมุ่งหน้าไปยังจุดหมายหลังบอกคนในครอบครัวเอาไว้ ยังดีว่าคนงานช่วยดูแลบ้านให้ทุกวันจึงไม่ต้องทำความสะอาดอะไร “พาลูกไปเดินเล่นแถวนี้ก่อนนะ แล้วก็อย่าลืมเอาถุงตาข่ายใส่ตะไคร้หอมสับติดตัวลูกด้วย ฉันจะต้มนมให้ลูกหน่อย” หลิวตานบอกสามี“ครับ”นมวัวไม่ควรอุ่นบ่อย ๆ และต้องอุ่นให้ถูกวิธีไม่ให้สารอาหารลดลง ทุกวันจะมีนมวัวมาส่งที่ฟาร์มหลิว หลิวตานซื้อให้ลูกวันต่อวันและนำนมดิบมาต้มเอง เธอไม่รู้ว่าถ้าให้ฟาร์มวัวต้มมาให้สารอาหารยังเหลือไหม แม้ยุ่งยากหน่อยแต่ว่าเพื่อประโยชน์เธอยอมใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำนมพร้อมให้ลูกได้ดื่ม บางส่วนเก็บใส่ตู้เย็นพอนมในขวดใกล้หมดค่อยนำนมออกมาละลายในน้ำอุ่น หลิวตานลงมือทำเองทุกขั้นตอน“พ่อกับลูกกลับมาได้แล้ว!”ช่วงนี้เพิ่งพ้นปีใหม่มาได้ไม่นานและอากาศไม่ร้อนไม่เย็น การเล่นน้ำตกและยิ่งมีเด็กเล็กมาด้วยยิ่งไม่ควร แต่ว่าหลิวตานเตรียมน้ำอุ่น ๆ ให้ลูกเล่นหน้าบ้าน“แม่”