มณฑล ซานซู 1985
"แม่คะ หนูไม่แต่งงานได้ไหมคะ"
"ไม่ได้ หากลูกไม่แต่ง อวี้หลิงก็จะต้องลำบากไม่มีเงินเรียน เงินเก็บที่เรามีอยู่ก็น้อยนิดลงไปทุกวัน ไม่พอใช้จ่ายหรอก นี่ก็เพิ่งจัดงานศพคุณย่าของลูกไป เราใช้เงินกับตรงนั้นไปหมดแล้ว จินจิน ลูกถือซะว่าทำเพื่อครอบครัวนะ เถ้าแก่เฉินน่ะ ถึงเขาจะอายุมากไปสักหน่อย แต่เขาก็เป็นคนมีเงิน ดูร้านขายเนื้อของเขาสิทำเงินได้เดือนๆ หนึ่งตั้งกี่หยวน เอาน่า ลูกแต่งกับเขาไม่เสียหายหรอก"
เมื่อได้ยินอย่างนั้นเด็กสาวตรงหน้าก็หมดคำจะกล่าว เธอทำได้เพียงพยักหน้ารับอย่างยิ้มแย้ม ทั้งที่ภายในใจขมขื่นเกินจะทน
ที่นี่คือหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในมณฑลซานซู ห่างจากเมืองหลวงไม่ไกลเท่าไรนัก มณฑลซานซูตอนนี้กำลังเข้าสู่เขตการพัฒนาให้เจริญมากยิ่งขึ้น รอบๆ เมืองที่ตอนแรกยังเป็นป่าและสวนมันสำปะหลัง สวนดอกไม้ สวนการเกษตร ตอนนี้เริ่มมีโรงงานอุตสาหกรรมและการก่อสร้างมากขึ้น
อวี้จินปีนี้มีอายุยี่สิบปีแล้ว หลังจากที่เรียนจบมัธยมปลายของรัฐ เธอก็ไม่ได้เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยอีก เพราะทางบ้านเริ่มมีเงินไม่มากพอ ทุกคนจึงตกลงกันว่า เงินเก็บที่เหลือจะใช้ส่งเสียให้อวี้หลิง น้องสาวคนเล็กได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยแทน ส่วนอวี้จินที่เป็นลูกสาวคนโตนั้น ต้องเสียสละให้น้องสาวได้เข้าเรียน
ตระกูลอวี้เป็นตระกูลที่มีฐานะปานกลาง ทำอาชีพปลูกดอกไม้และสวนผักนำเข้าไปขายในตลาด กิจการนับว่าไปได้ดีเป็นอย่างมาก แต่ก่อนพ่อและแม่ของอวี้จินก็รักใคร่ปรองดองกันดี ตอนนั้นอวี้จินมีอายุเพียงสองขวบ เด็กสาวตัวน้อยมีความสุขมาก จนกระทั่งวันหนึ่งเรื่องราวทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
เดิมทีแม่ของอวี้จินก็มีสุขภาพไม่แข็งแรงอยู่แล้วไม่นานก็ล้มป่วยลงและตายจากไป
อวี้จินเสียใจมาก
ไม่นานนักพ่อก็แต่งผู้หญิงคนหนึ่งเข้าบ้านมาเป็นภรรยาคนใหม่ ไม่เพียงเท่านั้นหล่อนยังพาอวี้หลิงเด็กหญิงวัยหนึ่งขวบเข้าบ้านมาในฐานะลูกสาวคนเล็กอีกด้วย อวี้จินยังไร้เดียงสาไม่รู้ถึงจิตใจไม่ประสงค์ดีของแม่เลี้ยงใจชั่ว เพียงแค่แม่เลี้ยงทำดีด้วย เธอก็เชื่อคำของแม่เลี้ยงทุกอย่าง อีกทั้งยังชอบน้องต่างแม่อีกด้วยถึงขนาดคิดว่าตนเองโชคดีที่มีแม่เลี้ยงใจดีเหมือนนางฟ้าแบบนี้
พ่อเองก็หลงภรรยาคนใหม่ อะไรดีพ่อเธอก็ยกให้อวี้หลิงน้องสาวที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในบ้านไปจนหมดเพราะอวี้จินถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีและอ่อนโยน เธอจึงไม่ได้ถือสาอะไรแม้จะมีนิสัยดื้อซนไปบ้าง แต่ก็เป็นเด็กดีเชื่อฟังผู้ใหญ่มาโดยตลอด
อวี้หลิงเปรียบเหมือนดวงใจของพ่อ ทุกอย่างล้วนเป็นอวี้จินที่ต้องเสียสละ
เวลาล่วงเลยมาจนถึงวันที่อวี้จินเติบโตเป็นสาว แม่เลี้ยงได้จัดแจงหางานแต่งงานให้เธอ แรกเริ่มตอนคุณย่ายังอยู่ ยังพอมีคนคัดค้านบ้าง แต่เมื่อคุณย่าจากไป อวี้จินก็เหมือนตัวคนเดียว พ่อของเธอเห็นด้วยกับแม่เลี้ยง สุดท้ายอวี้จินจึงทำได้เพียงตกปากรับคำแต่งงานกับชายวัยกลางคนที่เป็นเถ้าแก่ขายเนื้อในหมู่บ้าน
ตั้งแต่คุณย่าจากไป กิจการทุกอย่างในบ้านก็เริ่มถดถอย แม่เลี้ยงคนนี้เป็นพวกไม่เอาไหน มีแต่พ่อที่ทำงาน อีกทั้งยังแอบเอาเงินไปเล่นการพนันอีกด้วย
สุดท้ายเคราะห์ร้ายจึงมาตกที่อวี้จินจนได้
เมื่อย้อนคิดถึงอดีตอวี้จินก็ทำได้เพียงถอนหายใจออกมา ตอนยังเด็กเธอไร้เดียงสาไม่เข้าใจเรื่องของผู้ใหญ่ ตอนนี้มาคิดทบทวนเธอก็ปวดใจแทนแม่ที่ล่วงลับไปไม่น้อย พ่อของเธอแอบมีสัมพันธ์กับหญิงอื่นจนหล่อนตั้งครรภ์ และแอบเลี้ยงลูกเอาไว้นอกบ้านอย่างลับๆ รอจนแม่ของเธอล้มป่วยและจากโลกนี้ไป ผู้หญิงคนนั้นก็ได้แต่งเข้ามาเป็นภรรยาใหม่
แต่เพราะแม่เลี้ยงดีต่อเธอมาก เธอจึงไม่มีอคติต่อหล่อนเลยแม้แต่นิดเดียว
อีกไม่กี่วันก็จะต้องแต่งงานแล้ว อวี้จินทำได้เพียงก้มหน้ายอมรับชะตากรรมของตนเอง
วันเวลาล่วงเลยมาจนถึงวันที่เธอจะต้องแต่งงาน พิธีแต่งงานจัดเป็นงานเล็ก เถ้าแก่เฉินแต่งชุดเจ้าบ่าวใบหน้ายิ้มแย้ม มีแต่คนอิจฉาเขาที่ได้แต่งงานกับภรรยาเด็กอย่างอวี้จิน บางคนก็มองอวี้จินด้วยแววตาที่สงสาร เถ้าแก่เฉินเป็นพวกมักมาก เขามีภรรยามาแล้วหลายคน บางคนถูกเขาตบตีจนทนไม่ไหวต้องหนีออกมาก็มี
เถ้าแก่เฉินเข้ามาหาอวี้จินพร้อมกับยื่นมือเข้ามาหมายจะลูบหน้าเด็กสาว อวี้จินอยากหลบแต่เมื่อเห็นสายตาตำหนิของพ่อและแม่เลี้ยงเธอก็ไม่กล้าขัดขืนอีก
สุดท้ายอวี้จินก็ต้องแต่งกับเถ้าแก่เฉินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คืนเข้าหอเขาใช้กำลังบังคับเธอ อวี้จินเสียใจมาก เธอทุกข์หนัก หลังจากแต่งได้ไม่ถึงเดือนเขาก็พาผู้หญิงคนอื่นมานอนไม่ซ้ำหน้า แม้จะมีเงินใช้ไม่เคยขาดมือ แต่อวี้จินกลับทุกข์ใจอย่างแสนสาหัส
จากเดือนผ่านไปร่วมปี เพราะเครียดหนักจนสุขภาพอ่อนแอทำให้อวี้จินไม่อาจตั้งครรภ์ได้ มีวันหนึ่งเธอกลับไปเยี่ยมที่บ้าน พบว่าตอนนี้อวี้หลิงเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้วคนในตระกูลอวี้สุขสบายมากขึ้น อีกทั้งอวี้หลิงยังคบหากับชายหนุ่มเจ้าของภัตตาคารแห่งหนึ่งอีกด้วย นับว่าชีวิตของอวี้หลิงนั้นดีมากเหลือเกิน
ต่างจากอวี้จินราวฟ้ากับเหว
เรื่องราวยิ่งย่ำแย่เข้าไปใหญ่ เมื่อเถ้าแก่เฉินผู้เป็นสามีทุบตีเธอไม่เว้นแต่ละวัน อวี้จินทนไม่ไหวจึงบากหน้ากลับมาขอความช่วยเหลือที่บ้านตระกูลอวี้ แต่คำตอบที่ได้คือ แม่เลี้ยงไล่เธอกลับมาบอกว่าให้เธอทนหากไม่มีเงินตระกูลอวี้จะอยู่ยังไง กิจการทุกอย่างล้วนขายกินไปหมดแล้ว อวี้หลิงก็ตัดพ้อบอกว่าหากไม่มีเงิน คนรักของเธอที่คบหากันมานานจะต้องเลิกกับเธอแน่ อวี้จินจะใจดำถึงขนาดทำลายอนาคตคนในบ้านเลยอย่างนั้นเหรอ
อวี้จินตอนนั้นเหมือนคนโง่ เธอกลับไปหาเถ้าแก่เฉินอีก ยอมให้เขาทุบตี เพื่อแลกกับการเอาเงินมาจุนเจือครอบครัว จนสุดท้ายเมื่อถูกทารุณกรรมทั้งทางร่างกายและจิตใจ อวี้จินก็ล้มป่วยหนัก ร่างกายของเธอไม่ไหวแล้ว อยากพบคนในบ้านเป็นครั้งสุดท้าย
คนในบ้านตระกูลอวี้มาเยี่ยมเธอจริงๆ พ่อของเธอบอกว่า เธอควรจะอดทนอีกนิด พ่อเองก็เงินเริ่มขาดมือยังต้องพึ่งพาเธอ อวี้จินถึงกับพูดไม่ออก
ส่วนอวี้หลิงก็เอ่ยกับอวี้จินอย่างเย็นชา บอกว่าขอบคุณมากที่เสียสละให้เธอได้พบเจออนาคตที่ดี ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวแล้ว เธอกำลังจะได้แต่งงานกับคนรวย มีชีวิตที่สุขสบาย เพราะฉะนั้นพี่สาวก็จงจากไปปรโลกอย่างสงบสุขเถอะ
แม่เลี้ยงคนดียิ่งแล้วใหญ่ หล่อนแสร้งทำเป็นกอดอวี้จิน แต่กลับกระซิบข้างหูว่า
ตายตามแม่แกไปเถอะ แกหมดประโยชน์แล้ว!
อวี้จินเพิ่งได้รู้วันนี้เองว่า แม่เลี้ยงที่เธอรักเคารพและน้องสาวที่เธอเอ็นดูมาก กลับไม่เคยมีความจริงใจกับเธอเลย แม้แต่พ่อแท้ๆ ก็ยังใจดำเมินเฉยต่อเธอได้ลงคอ พวกเขาใช้เธอเป็นสะพานเดินไปสู่จุดหมาย เมื่อได้ตามที่ต้องการก็ถีบหัวเธอส่งอย่างไร้ความเมตตาปรานี
อวี้จินเสียใจมาก เพราะความทุกข์ใจอย่างหนัก เธอจึงอาเจียนออกมาเป็นเลือด ร่างกายเริ่มไร้ซึ่งเรี่ยวแรงลงไปทุกขณะ หญิงสาวหลับตาลงช้าๆ และครุ่นคิดเป็นครั้งสุดท้าย
หากสามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตได้อีกครั้ง เธอจะทำให้คนที่เคยทำร้ายเธอทั้งหมดได้รับบทเรียนอย่างสาสม!
...........
ช่วงปลายฤดูร้อนอากาศที่ร้อนอบอ้าวค่อยๆเบาบางลง สายลมที่พัดเข้ามาทางหน้าต่างเริ่มให้ความรู้สึกเย็นสบายไม่น้อย อวี้จินค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา เธอรู้สึกปวดหนึบไปทั่วทั้งศีรษะ
อวี้จินค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง เมื่อมองไปโดยรอบเธอก็ต้องตกใจเป็นอย่างมาก
ทุกอย่างภายในห้องนอนของเธอยังคงถูกจัดวางเอาไว้เหมือนเดิม เหมือนกับตอนที่เธอยังไม่ได้แต่งงานออกไป ข้าวของทุกชิ้นอวี้จินจำได้ว่าเป็น
คุณย่าที่ซื้อหามาให้เธอไว้ใช้อวี้จินหลับตาลง ก่อนหน้านี้เธอจำได้ว่าเธอได้ตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมอยู่ๆ ถึงกลับมาที่บ้านของตัวเองได้ หรือว่าเธอจะยังไม่ตาย
ความสับสนและสงสัยก่อตัวขึ้นภายในจิตใจ
ของอวี้จินอย่างไม่หยุดยั้ง เธอค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียง แต่เพราะรู้สึกเวียนหัวมากเหลือเกิน จะเดินไปทางไหนจึงรู้สึกเหมือนจะโคลงเคลงไปหมด เพราะทรงตัวไม่อยู่ ทำให้อวี้จินซวนเซ จนร่างกายไปชนเข้ากับโต๊ะวางของเครื่องแต่งหน้าและแก้วน้ำร่วงลงพื้นจนเกิดเสียงดังเพล้ง!
"จินจิน!"
เสียงเรียกที่แสนคุ้นเคยดึงสติที่หลุดลอยของ
อวี้จินให้กลับคืนมา เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมอง เมื่อได้เห็นใบหน้าของผู้ที่เดินเขามาอย่างชัดเจนอวี้จินก็ถึงกับดวงตาแดงก่ำน้ำตาร่วงเผาะคุณย่า!
น้ำตาของอวี้จินไหลลงมาอาบสองแก้ม หญิงสาวรู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง ภาพต่างๆ วนกลับมาอีกครั้ง ภาพวันที่เธอต้องแต่งงาน ภาพวันที่เธอตาย ภาพวันที่คุณย่าจากไป ภาพวันที่เธอต้องสูญเสียแม่ ทุกอย่างฉายชัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนที่เธอจะหมดสติไปอีกครั้ง อวี้จินก็ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา
เธอได้กลับมาแล้ว เธอได้กลับมาหาคุณย่าอีกครั้งแล้ว!
เรื่องราวทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี หลังจากเกิดเรื่องกับฟ่านหยวน ฟ่านหลีก็ถูกรับตัวกลับไปที่บ้าน เธอสูญเสียแม่ไป และพี่ชายก็ติดคุก โชคดีที่พ่อฟื้นกลับมาได้ เธอจึงตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตใหม่ ตัดใจจากกู้อวิ๋นฟาน ก้าวเดินไปตามทางของตนเอง แบกรับภาระหน้าที่ของตระกูลแทนพี่ชายกู้อวิ๋นฟานอาการดีขึ้นมากแล้ว เพราะเกิดเรื่องทำให้เขาไม่ได้กลับบ้าน นายพลกู้รีบมาที่เมืองซานซูพร้อมครอบครัวเพื่อดูอาการลูกชาย นั่นทำให้อวี้จินได้พบกับครอบครัวของกู้อวิ๋นฟาน พวกท่านใจดีมาก อีกทั้งยังสนทนากับเธออย่างไม่ถือตัว ทำให้อวี้จินไม่รู้สึกเกร็งเลยแม้แต่น้อยอวี้จินอยู่เฝ้ากู้อวิ๋นฟานที่โรงพยาบาลทุกวัน จนอาการของเขาดีขึ้นและสามารถกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ กู้อวิ๋นฟานกอดอวี้จินเอาไว้และปลอบโยนเธอเรื่องของหยางเมี่ยว อวี้จินยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะบอกว่าเธอไม่เป็นอะไร หยางเมี่ยวได้เลือกทางเดินของตนเองแล้ว เธอเคารพการตัดสินใจของเพื่อนรัก งานศพของหยางเมี่ยวนั้นไป๋เซียงและฟางมู่เองก็มาแสดงความไว้อาลัยและเสียใจไม่ต่างจากอวี้จินเช่นเดียวกันตอนนี้หยางเมี่ยวคงได้พบกับแม่ของเธอบนสวรรค์แล้วคนตระกูลกู้พักอยู่ที่เมืองซานซูจนอาการขอ
กู้อวิ๋นฟานไม่ได้เกรงกลัวฟ่านหยวนเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้เขามองฟ่านหยวนเหมือนมองคนแปลกหน้า"ฟ่านหยวน ที่ผ่านมาระหว่างพวกเรามีสัมพันธ์อันดีต่อกันมาโดยตลอด แล้วมันเพราะอะไรกันที่ทำให้นายคิดจะฆ่าฉัน คิดจะทำร้ายฉันและตระกูลกู้ ต้นเหตุมันมาจากอะไรกันแน่"ฟ่านหยวนเมื่อได้ยินก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างเหยียดหยัน"ต้นเหตุของเรื่องนี้น่ะเหรอ.."เขาจ้องมองกู้อวิ๋นฟานราวศัตรูคู่อาฆาต ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กู้อวิ๋นฟานได้ฟังอย่างไม่มีตกหล่น ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแม่ของเขาและพ่อของกู้อวิ๋นฟาน ไปจนถึงเรื่องที่แม่ของเขาตั้งท้องและแต่งเข้าตระกูลฟ่าน ต้องถูกคนตระกูลฟ่านกดขี่ ถูกสามีทุบตีเหมือนวัวเหมือนลาอวี้จินหันมามองกู้อวิ๋นฟานพร้อมกับจับมือเขาเอาไว้แน่น กู้อวิ๋นฟานที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดก็ถึงกับชะงักไปชั่วขณะพ่อของเขาและแม่ของฟ่านหยวนเคยมีความสัมพันธ์กันอย่างนั้นเหรอและฟ่านหยวนแท้จริงก็เป็นพี่น้องกับเขา!นี่มันเรื่องอะไรกันกู้อวิ๋นฟานไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่ฟ่านหยวนเล่ามาจะเป็นความจริง ที่ผ่านมาพ่อและแม่ของเขารักกันดีมาตลอด พ่อไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ และแม่ของเขาก็ไม่เคยเอ่ยถึงเช่นกัน
หลายสิบวันต่อจากนั้น ก็มีคนนำอาหารกระป๋องราคาถูกกว่าโรงงานของตระกูลกู้มาขาย เมื่อกู้อวิ๋นฟานที่ทราบเรื่องไม่ได้มีท่าทีตื่นตระหนกเท่าใดนัก ตอนนี้เขาค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าฟ่านหยวนคือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดแต่ครั้งนี้ฟ่านหยวนกลับไม่ได้เปิดโรงงานโดยใช้ชื่อคนอื่นบังหน้าเหมือนที่เคยทำในครั้งก่อนอีก แต่กลับเลือกเอามาขายโดยผ่านพ่อค้าคนกลาง เปิดเป็นร้านขายอาหารกระป๋องธรรมดาทั่วไป อวี้จินเมื่อได้ทราบเรื่องก็ตรงมาหากู้อวิ๋นฟาน และพูดคุยหารือกับเขาในเรื่องนี้"ไม่คิดว่าจะเป็นฝีมือของฟ่านหยวนจริงๆ"กู้อวิ๋นฟานเพียงยกยิ้มมุมปากและไม่ได้เอ่ยอะไร เพียงมีท่าทีครุ่นคิดเล็กน้อยเมื่อสองคืนก่อนเขาฝันถึงเรื่องในชาติก่อนอีกครั้ง ครั้งนี้ความฝันชัดเจนกว่าครั้งก่อนๆ เขาเห็นแผ่นหลังของฆาตกรที่ฆ่าเขาในชาติที่แล้ว แม้จะเห็นเพียงแผ่นหลังแต่เขากลับจำได้ดีเป็นฟ่านหยวน!คนที่ฆ่าเขาในชาติก่อนก็คือฟ่านหยวนทุกอย่างล้วนปะติดปะต่อร้อยเรียงและเกี่ยวพันกับฟ่านหยวนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงแต่แรงจูงใจที่ทำให้ฟ่านหยวนผูกใจเจ็บจนอาฆาตแค้นเขามันคือเรื่องอะไรกันแน่อวี้จินไม่ได้เอ่ยถามอะไรอีก เธอนั่งอยู่ข้
ในที่สุดวันหยุดก็มาถึง อวี้จินได้ทำตามที่กู้อวิ๋นฟานบอกเอาไว้ นั่นก็คือชวนหยางเมี่ยวไปที่บ้านของกู้อวิ๋นฟานด้วยกัน เธอบอกเพียงว่าจะจัดงานฉลองให้กับตัวเองที่ทำคะแนนสอบได้ดี กินกันแค่สองคนออกจะเหงาเกินไป ย่าก็ไม่สะดวกไปร่วมงานเลี้ยงเพราะแก่แล้ว ส่วนพ่อของอวี้จินก็ไม่ได้ลงรอยกับกู้อวิ๋นฟาน เธอจึงชวนหยางเมี่ยวไปด้วยกัน แรกเริ่มหยางเมี่ยวลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อหลายวันก่อนฟ่านหยวนบอกกับเธอว่าเขาอยากได้ขั้นตอนการผลิตอาหารกระป๋องของกู้อวิ๋นฟานให้เธอหลอกถามจากอวี้จิน แต่อวี้จินกลับไม่รู้อะไรเลย เธอจึงยังไม่มีข้อมูลไปให้เขาวันนี้ได้ไปที่บ้านของกู้อวิ๋นฟานนับว่าเป็นเรื่องดีแม้ในใจจะรู้สึกผิด แต่หยางเมี่ยวไม่มีทางเลือกเธอกลัวว่าคนตระกูลอวี้จะต้องลำบาก ตระกูลอวี้มีบุญคุณกับเธอ หยางเมี่ยวไม่ใช่คนเนรคุณคน เธอไม่มีทางทำให้บ้านตระกูลอวี้ต้องประสบภัยแม้นี่จะฟังดูเหมือนเป็นเหตุผลที่ดี แต่ภายในส่วนลึกแล้วมันเป็นเพราะว่าเธอรักฟ่านหยวนเธอหลงรักคนสารเลวนั่นจนหมดหัวใจ!ท่าทีของหยางเมี่ยวล้วนอยู่ในสายตาของอวี้จิน เธอเดาไม่ผิดจริงๆ หยางเมี่ยวมีเรื่องบางอย่างที่กำลังปิดบังเธอเอาไว้แต่อ
วันคืนก็ผ่านพ้นไปเช่นนี้ ในที่สุดโรงงานของกู้อวิ๋นฟานก็ได้เปิดรับคนงานเข้ามาทำงานเสียที ครั้งนี้พ่อของเขาส่งพ่อบ้านคนใหม่มาช่วยดูแลเขาแทนลุงหม่า กู้อวิ๋นฟานแม้ภายนอกจะทำตัวปกติ แต่เขารู้ดีอยู่ในใจว่าไม่มีใครแทนลุงหม่าได้อวี้จินยังคงไปเรียนตามปกติ เพราะระยะนี้ใกล้ถึงวันสอบแล้วเธอจึงเอาแต่อ่านหนังสือและไม่ค่อยได้พบกับกู้อวิ๋นฟานเท่าใดนัก ต่างคนต่างมีงานให้ต้องจัดการสุขภาพของย่าช่วงนี้ไม่ค่อยดีเท่าใดนัก อวี้จินค่อนข้างเป็นกังวล แต่คุณย่าบอกกับเธอว่าย่าแก่มากแล้ว การเจ็บป่วยอย่างไรย่อมเป็นเรื่องธรรมดา แต่อวี้จินกลับหวั่นใจ ชาตินี้เธอช่วยย่าไม่ให้ตายอย่างปริศนาได้แล้ว แต่เธอไม่ได้เตรียมใจที่จะสูญเสียย่าไปอีก แม้ว่ามันจะต้องเป็นไปตามครรลองก็ตามทุกคนล้วนมีเรื่องที่ตนยึดติดไม่ใช่หรืออวี้จินวางหนังสือในมือลง ก่อนจะเดินลงมาที่ชั้นล่าง ตอนนี้ย่าของเธอกำลังนอนหลับตอนกลางวัน ส่วนพ่อก็ไปที่สวนผัก ตั้งแต่เกิดเรื่องในครั้งนั้น อวี้จินสังเกตได้ว่าพ่อของเธอดูเปลี่ยนไปมาก เขาพยายามพูดคุยและทำดีกับเธอ แต่อวี้จินกลับไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งเท่าใดนัก อาจเพราะความเจ็บปวดในชาติก่อนมันยังคงกัดกินจิตใจของเธอ
เวลาก็ผ่านไปเช่นนี้ การก่อสร้างโรงงานของกู้อวิ๋นฟานนับว่าผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ทุกอย่างราบรื่นเป็นอย่างมากวันนี้อวี้จินไม่มีเรียน เธอจึงมาหาเขาที่บ้านพร้อมกับนำอาหารมื้อกลางวันติดมือมาด้วย กู้อวิ๋นฟานที่เห็นว่าคนรักมาแล้วก็อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก อวี้จินวางอาหารลงบนโต๊ะและยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน"ฉันทำอาหารมาให้พี่หลายอย่างเลย พี่ลองชิมดูสิว่าชอบไหม""อะไรที่เธอทำพี่ก็ชอบหมด"อวี้จินยิ้มตาหยี ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปหาชายหนุ่มและมอบจูบที่แสนหวานให้กับเขา กู้อวิ๋นฟานมองอวี้จินด้วยแววตาเป็นประกาย ก่อนจะจูบตอบหล่อนอย่างดูดดื่มในขณะที่คนทั้งสองกำลังมีความสุขแสนหวานชื่น ฟ่านหลีก็เดินเข้ามามาพอดี เธอเห็นเต็มสองตาว่าสองคนนั้นกำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม ฟ่านหลีกำมือแน่น รู้สึกเจ็บปวดในใจเป็นอย่างมาก เธอหลงรักกู้อวิ๋นฟานมานานหลายปี แต่เขากลับไม่สนใจเธอและยังมาเลือกเด็กสาวบ้านนอกคนนี้อีกอวี้จินและกู้อวิ๋นฟานหันมามองฟ่านหลีพร้อมกัน เป็นกู้อวิ๋นฟานที่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เบื่อหน่าย"ฟ่านหลี มีอะไรเหรอ"ฟ่านหลียิ้มออกมาอย่างฝืดเฝื่อน"ฉันให้คนทำอาหารมาให้พี่ พี่ลองชิมดูสิ"เอ่ยจบหล่อนก็นำอาหารมาวางบนโต๊ะ
หยางเมี่ยวมองฟ่านหยวนด้วยความหวาดหวั่น เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชายหนุ่มที่สุภาพอ่อนโยนคนนั้น แท้จริงแล้วจะซ่อนความอำมหิตเอาไว้เธอพอจะรู้เรื่องของกู้อวิ๋นฟานมาบ้าง เพราะอวี้จินเล่าทุกอย่างให้เธอฟัง กู้อวิ๋นฟานเป็นลูกชายของนายพลกู้ มีอิทธิพลเป็นอย่างมาก แต่ที่เขามาที่นี่เพราะต้องการมาช่วยกิจการของที่บ้าน เธอก็รู้เพียงเท่านี้ แต่ไม่เคยรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของตระกูลคนมีอำนาจมากกว่านี้เลยแม้แต่เรื่องเดียวทั้งที่ฟ่านหยวนเป็นเพื่อนสนิทของกู้อวิ๋นฟานแต่กลับคิดจะฆ่าเพื่อนของตนเองและทำร้ายตระกูลกู้แท้จริงแล้วพวกเขามีเรื่องบาดหมางอะไรกันแน่หยางเมี่ยวเอ่ยอะไรไม่ออก เธอเดินเข้ามารู้เรื่องราวนี้เอง คาดว่านับจากวันนี้คงไม่มีโอกาสรอดชีวิตแล้ว แต่จะให้เธอทำอะไรได้ หากชะตาชีวิตกำหนดมาว่าให้เธอต้องตายอยู่ที่นี่นั่นก็คงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เสียดายก็แต่ไม่อาจช่วยอวี้จินและคนรักของเพื่อนได้ ไม่ทันได้ตอบแทนบุญคุณก็ต้องมาจากไปเสียก่อนฟ่านหยวนมองหยางเมี่ยวด้วยแววตาที่ครุ่นคิด เด็กสาวคนนี้แต่ก่อนเขาไม่ได้สนใจจะมองหน้าตาของหล่อนให้มากนัก แต่วันนี้เมื่อได้มองดูให้ชัดเจนก็พบว่าสวยไม่เบาเลย อยู่ๆ ความ
ระยะนี้กู้อวิ๋นฟานและอวี้จินสนิทสนมกันมากกว่าเดิม ความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองก็คืบหน้าไปไม่น้อยเลย เขามักจะไปรับส่งเธอที่มหาวิทยาลัยเป็นประจำ ตั้งแต่ที่เขาบอกความจริงว่าตัวเองเป็นใครนั้น กู้อวิ๋นฟานก็ไม่ได้กลับไปนอนที่ร้านโจ๊กอีก เดิมทีคิดว่าจะปิดร้านไปซะ แต่มันกลับขายดีและทำเงินได้เขาจึงให้ลุงหม่าเปิดร้านต่อไป กู้อวิ๋นฟานซื้อบ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านของอวี้จิน แม่เฒ่าอวี้และอวี้ตงออกจะตกใจไม่น้อยเมื่อได้รู้ว่าฐานะของกู้อวิ๋นฟานไม่ธรรมดา อีกทั้งยังกังวลเป็นอย่างมาก แต่อวี้จินกลับบอกว่านั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเธอไม่นานมานี้คนของกู้อวิ๋นฟานมารายงานว่า ผู้รับเหมาก่อสร้างคนก่อนที่ถูกเขายกเลิกงานไปได้ย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่นแล้ว จากนั้นไม่นานก็บ้านแตกสาแหรกขาด ผู้รับเหมาจึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย มองผิวเผินแล้วดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องภายในครอบครัว แต่สำหรับกู้อวิ๋นฟานกลับรู้สึกว่ามันผิดปกติ ดูแล้วราวกับเป็นการจัดฉากเพื่อฆาตกรรมเสียมากกว่ากู้อวิ๋นฟานมีท่าทีครุ่นคิด เขามาอยู่ที่ซานซูนานแล้ว หาทางปิดช่องโหว่ทุกอย่าง พ่อของเขาเองเมื่อได้ทราบเรื่องน่าสงสัยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในทุกๆ คืนเขามักจะ
กู้อวิ๋นฟานเมื่อได้เห็นชายหญิงทั้งสองคน แววตาเขาก็ทอประกายความเป็นมิตรขึ้นมาหลายส่วนสองคนนี้เป็นคนที่สนิทกับเขาตอนอยู่ที่เมืองหลวงชื่อว่าฟ่านหยวนและฟ่านหลี ฟ่านหยวนเป็นเพื่อนรักของเขา มีน้องสาวหนึ่งคนชื่อว่าฟ่านหลี สองพี่น้องตระกูลฟ่านเป็นลูกของนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง มีโรงงานหลายแห่ง และที่สำคัญฟ่านหยวนเองก็กำลังจะมีโครงการก่อสร้างโรงงานที่เมืองซานซูเช่นเดียวกัน แม้จะทำธุรกิจเหมือนกัน แต่เขาและฟ่านหยวนกลับไม่ได้เป็นศัตรูกัน อีกทั้งยังเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็ก ไม่นานมานี้ฟ่านหยวนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศไม่คิดว่าจะกลับมาเร็วขนาดนี้"อาหยวน นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่"กู้อวิ๋นฟานไม่ได้ตอบคำถามของฟ่านหลี แต่กลับเอ่ยถามฟ่านหยวนแทน ฟ่านหยวนยิ้มและเอ่ยตอบ"เพิ่งกลับมาไม่กี่วันนี้ อีกอย่างโรงงานใกล้จะสร้างแล้ว ฉันเลยต้องมาดูเสียหน่อย""มีที่พักหรือยัง""มีแล้ว ฉันซื้อบ้านเอาไว้หลังหนึ่ง"เอ่ยจบฟ่านหยวนก็หันมามองอวี้จินพร้อมกับส่งยิ้มให้หล่อน อวี้จินเพียงยิ้มตอบอย่างมีมรรยาทเมื่อเห็นว่ากู้อวิ๋นฟานเมินตน ฟ่านหลีก็รู้สึกไม่พอใจ เธอถลึงตาใส่อวี้จินทันที ก่อนจะเดินเข้ามาหมายจะแทรกกลางคนทั้งสอง แต