Share

บทที่ 6 คงต้องเลี้ยงไว้เสียแล้ว

last update Last Updated: 2025-10-26 19:43:05

บทที่ 6 คงต้องเลี้ยงไว้เสียแล้ว

       เสิ่นลี่อิงตื่นขึ้นเพราะรู้สึกได้ถึงสายตาที่กำลังจับจ้องนางอยู่ เป็นเด็กชายตัวน้อยคนเดิมนั่นเอง ท่าทางลูกของตัวร้ายดูสดใสขึ้นมากเลยทีเดียว ดวงตาใสกระจ่างจ้องมองมาหานางตาไม่กระพริบ

“ตื่นแล้วหรือ พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้นดีเลย” นางลุกขึ้นมานั่งมองเจ้าเด็กน้อยคนนี้กลับบ้าง

“ตื่นแล้ว ขอรับ ขอบคุณ พี่สาว” เด็กเล็กตรงหน้าพูดช้าๆ ทีละพยางค์สองพยางค์ อาจเพราะต้องการออกเสียงให้ชัดเจนครบทุกคำ

น่ารักจังเลย…แก้มอ้วนน่าหยิกจริงๆ

       มือเลื่อนไปไวกว่าความคิดเสิ่นลี่อิงใช้นิ้วบีบแก้มที่มีเลือดฝาดแล้วไปเบาๆ แต่เด็กน้อยกลับกรีดร้องออกมาทันที

“ฮือออ ปล่อยๆ เปาเปาเจ็บ ขอโทษๆ” เขาพูดพร้อมๆ กับวิ่งหนีไปที่ริมกำแพงห้องนอนแคบนี้ 

       เสิ่นลี่อิงตกใจและก่นด่าตัวเองไปด้วย ก็เห็นว่าเด็กมีรอยหยิก ทำไมต้องมือไวขนาดนี้ด้วย ต้องทวนเรื่องจิตวิทยา กับความรุนแรงในเด็กแล้วเรา ทำงานมายี่สิบปีเรื่องแค่นี้ลืมได้ไง

“พี่สาวขอโทษ พี่สาวเพียงเห็นว่าแก้มของเจ้ามีสีแดงน่ารักก็เท่านั้น เจ้าเจ็บหรือ พี่สาวไม่ทำอีกแล้วดีหรือไม่” นางเอ่ยปลอบโยนเด็กน้อยตรงหน้า ไม่ได้ขยับเข้าไปใกล้ให้เด็กน้อยรู้สึกว่าลี่อิงไม่ได้เข้าไปรุกล้ำพื้นที่ของตัวเด็ก

“ยี ยี (ดี ดี) ฮือๆๆ พี่ฉาว ม่ายทำจริงหยือ (พี่สาวไม่ทำจริงหรือ)” เด็กน้อยปาดน้ำตาเงยหน้ามองนางแต่ก็ยังมีท่าทีระแวงอยู่

“จริงแน่นอน ไม่บีบไม่หยิกอีก ข้าสัญญา” 

“ขอรับ” เด็กน้อยสะอื้นสูดน้ำมูก แต่ก็ยังไม่เข้ามาหา เขาเพียงแค่สังเกตว่านางจะทำสิ่งใดต่อไป

“เมื่อครู่เจ้าว่าเจ็บ พี่สาวขอดูได้หรือไม่”

       เมื่อถูกถามเด็กน้อยจึงได้สติลองจับแก้มของตนดู ก็ได้รู้ว่าตนไม่รู้สึกเจ็บเหมือนที่โดนกระทำตลอดมา จึงมีท่าทีผ่อนคลายลง และพยักหน้าแทนการอนุญาตให้เสิ่นลี่อิงเข้าหาได้

“ข้าจะเป่าเพี้ยงให้ รับรองว่าหายแน่นอน” พูดจบลี่อิงก็เดินเข้าไปหา และเป่าลมเบาๆ ลงบนแก้มนุ่มสองครั้ง

“เรียบร้อยแล้ว คราวนี้บอกพี่มาที ใครทำให้เจ้ากลัวการโดนหยิกหรือ” 

“…”

      เมื่อเห็นว่าเด็กน้อยไม่ยอมตอบ ลี่อิงก็ถามซ้ำออกไป “ข้าบีบเพราะเจ้าน่ารัก ทำด้วยความเอ็นดู แต่ที่ผ่านมาโดนทำให้เจ็บใช่หรือไม่ บอกมาเถิด” 

       เด็กน้อยหลุบตาลงไม่กล้ามองนาง นิ้วเล็กๆ ของเขาเขี่ยอยู่ตามพื้น ภายในใจของเด็กวัยสองหนาวครึ่งหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง “บอกไม่ได้ อนุเฉียวสั่งว่าไม่ให้บอกใคร”

เด็กยังไงก็เป็นเด็ก เขาไม่ให้บอกก็บอกชื่อมาซะงั้นว่าใครไม่ให้บอก

“ไม่ต้องกลัว บอกพี่สาวได้ อยู่ที่นี่ใครก็มาทำอะไรเจ้าไม่ได้” 

“จริงหรือขอรับ”

“จริงสิ อนุเฉียวเป็นผู้ทำร้ายเจ้าหรือ”

       เด็กน้อยตรงหน้าพยักหน้าเบาๆ “อนุเฉียว ไม่ชอบเปาเปา”

“แล้วท่านพ่อของเจ้ารู้หรือไม่” 

“ไม่รู้ เปาเปาไม่บอก … พี่สาวข้าคิดถึงท่านพ่อ”

“ท่านพ่อดีกับเจ้าหรือไม่”

“ดี พ่อใจดี เล่นกับข้า” รอยยิ้มบริสุทธิ์ผุดขึ้นบนใบหน้าของอ๋องน้อยในจวนหนิงอ๋อง

“ข้าก็ใจดี มีของอร่อยด้วย เจ้ารอตรงนี้ ข้าจะไปเอามาให้”

       นางเดินไปที่นอกห้องแล้วล้วงมือลงไปในมิติ นำโอเวอไนท์โอ๊ตที่แช่เตรียมไว้ออกมาให้เปาหลงทานรองท้อง พร้อมกับนมช็อคโกแลตอีกหนึ่งแก้ว นางอธิบายวิธีการทานแล้วปล่อยให้เปาหลงทานเองเพื่อฝึกกล้ามเนื้อมือ 

“กินหกก็ค่อยเช็ด แต่เจ้าต้องตักกินเองมือจะได้แข็งแรง”

       เสิ่นลี่อิงลอบยิ้มอยู่ในใจอย่างน้อยเขาก็ยังเป็นพ่อที่ดี เช่นนั้นแล้วแปลว่านิยายเรื่องนี้คงซับซ้อนกว่าที่นางคิด 

       มิน่าเล่าในตอนที่หนิงอ๋องรู้ความจริงว่าหมากของอีกฝ่ายที่ตนจัดการไป คือลูกชายคนโตของตนเอง เทพสงครามแห่งแคว้นตู้ที่คอยปกปักรักษาแผ่นดิน จึงดำดิ่งสู่ความโหดร้าย และหันมาทำลายแคว้นตู้ด้วยน้ำมือตนเอง ฝ่ายพระเอกล้างสมองเด็กคนนี้ให้เกลียดพ่อตนเองถึงขนาดนั้นได้อย่างไร

จะปล่อยให้อาจารย์ของพระเอกเอาไปเลี้ยงไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นคงไม่มีใครได้อยู่อย่างสงบ

       เสิ่นลี่อิงอ่านนิยายในมุมมองของนางเอก ตัวละครที่นางต้องมาเกี่ยวข้องหรือแม้แต่ตัวนางเองก็ถูกกล่าวถึงผ่านการบอกเล่าจากนางเอกเท่านั้น นางจึงรู้เพียงว่าองค์รัชทายาท หรือพระเอกของเรื่องดึงตู้เปาหลงไปใช้เพราะเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกัน แต่เหตุการณ์ก่อนหน้านั้นของเปาหลงตัวน้อยไม่มีกล่าวถึงไว้มากนัก เขาเข้ามามีบทบาทก็ตอนเป็นกุนซืออัจฉริยะ และนักฆ่าผู้ถนัดการใช้พิษไปเสียแล้ว

       การเดินหมากที่โหดร้ายให้พ่อลูกฆ่ากันเองเช่นนี้ ฝ่ายนั้นกลายเป็นพระเอกได้อย่างไรกัน ต่อสู้ฝ่าฟันจะเอาบัลลังก์กับพี่น้องของตน ขัดแย้งกับฮ่องเต้เพราะต้องการแต่งลูกอนุเป็นไท่จื่อเฟย ทั้งที่ตัวร้ายก็มีสัญญาหมั้นหมายกับนางอยู่แล้ว และท้ายที่สุดก็กลัวไปเองว่าอำนาจของลูกพี่ลูกน้องอย่างหนิงอ๋องจะมีมากเกินไปเลยต้องกำจัดทิ้ง

กำจัดเพราะเป็นศัตรูหัวใจละสิไม่ว่า..เหอะ

      เสิ่นลี่อิงตั้งใจแล้วว่าจะปกป้องดูแลเด็กคนนี้เอง เพื่อป้องกันสงครามให้ทุกคนอยู่รอดปลอดภัย มีเพียงต้องดูแลเด็กคนนี้ให้เติบโตสมวัยเท่านั้น นางจึงจะสามารถอยู่อย่างสบายใจในที่แห่งนี้ได้ รอนางสร้างรากฐานให้มั่นคง และเปาหลงโตพอจะกล้าฟ้องพ่อค่อยหาทางพากลับไปส่งก็แล้วกัน

       นางหยิบผิงกั๋วออกมานั่งกัดรอให้เด็กน้อยกินจนเสร็จ แล้วค่อยเช็ดหน้าเช็ดตาให้เปาเปาน้อย จากนั้นก็เช็ดพื้นเป็นอย่างสุดท้ายโดยสั่งให้เปาหลงคอยช่วยนางเช็ดด้วย

“นมอร่อย ข้าชอบ” เมื่อเก็บของเสร็จเปาหลงก็เอ่ยบอกกับนาง

“อร่อยก็ดีแล้ว เจ้าต้องอยู่กับข้าอีกนาน หากไม่ชอบของกินที่ข้าให้จะลำบากเอา”

“ทำไม เปาเปาหาท่านพ่อ” เด็กน้อยเบะหน้าคล้ายจะร้องไห้แต่ยังกลั้นน้ำตาไว้อยู่ 

“ไปไม่ได้ ที่เจ้าหายมาอยู่นี่ก็เพราะคนร้ายตามมามิใช่หรือ” 

“พ่อจัดการคนร้ายได้ พ่อเก่ง” เจ้าตัวเล็กเปาเปาขมวดคิ้วเถียงสู้นาง

“แต่ตอนนี้พ่ออยู่ไกล ต้องโตกว่านี้ก่อนถึงจะไปได้”

“พี่สาว ข้าคิดถึงท่านพ่อ”

“ข้ารู้แล้ว เด็กน้อยเชื่อพี่สาวเถิดนะ ตอนนี้ข้ายังพาเจ้าไปหาพ่อไม่ได้ ไว้รอพวกมันตายใจ ข้าสัญญาจะพาเจ้ากลับไปหาพ่อแน่นอน” 

“…” น้ำตาหยดเล็กของเปาหลงไหลรินอาบแก้ม

“พี่สาวไม่เก่ง หากพาไปตอนนี้จะไม่ได้เจอพ่อ รอพี่สาวเก่ง พี่สาวจะพาเจ้าไป” ลี่อิงรวบตัวเปาหลงเข้ามากอดปลอบ

       เปาหลงยอมให้นางกอดแต่โดยดี ใบหน้าเล็กๆซบอยู่บนบ่า เอ่ยให้คำมั่นสัญญากับนาง “เปาเปาก็จะเก่งด้วย เก่งแล้วไปหาท่านพ่อ”

“ได้เลย เก่งแล้วค่อยไปหาท่านพ่อ” 

       หรือนี่จะเป็นภารกิจที่เซียนคนนั้นบอกกับนางไว้กันนะ สิ่งที่นางต้องมาทำในโลกแห่งนี้อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงชะตาที่เลวร้ายของตู้เปาหลง ในวาระสุดท้ายของชีวิตตู้เปาหลงผู้นี้ถูกทรมานแสนสาหัส ชะตาที่เลวร้ายอย่างนั้น…

พี่สาวจะปกป้องเจ้าจนถึงที่สุดเอง…

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 19 ผันตัวมาเปิดแผงอาหาร

    บทที่ 19 ผันตัวมาเปิดแผงอาหารท่ามกลางบรรยากาศที่ยังคงมืดมิดนั้น มีแสงตะเกียงส่องสว่างอยู่หน้าโรงเรือนเห็ดของเสิ่นลี่อิง นางลุกขึ้นมาตั้งแต่ยามอิ๋นเพื่อเพาะเห็ดหลินจินดำและเห็ดหลินจือแดงตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เห็ดที่พรมน้ำกลิ่นจันทร์ไว้เริ่มเกิดเชื้อเห็ดปกคลุมแล้ว จึงต้องรีบนำมาเพาะเสียก่อน เห็ดอื่นที่นางเพาะไว้ก็เริ่มเติบโตแล้วเช่นกัน เห็นทีพรุ่งนี้นางคงได้นำเห็ดไปขายแลกเงินแล้วเมื่อจัดการกับหลินจือทั้งสามถังเรียบร้อยแล้ว นางก็นำขวดสเปรย์ในมิติมาฉีดพ่นน้ำเล็กน้อย จากนั้นก็ไปเตรียมตัวออกไปขายของในเมืองเสิ่นลี่อิงปลุกเปาเปาในยามเหม่าจับเด็กน้อยอาบน้ำแต่งตัวให้หอมฉุย เพื่อใช้ความน่ารักของเด็กน้อยมาเรียกลูกค้า “วันนี้ใครผ่านมาหน้าแผ

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 18 หาเงินสำรองไว้

    บทที่ 18 หาเงินสำรองไว้เมื่อกลับมาถึงบ้านไฉ่ตู้ก็นำรถเข็นมาส่งกับนางพอดีพร้อมๆ กันนั้นลุงไฉ่เองก็นำน้ำแกงบะหมี่ของวันมาส่งไว้ให้ด้วยเช่นกัน “แม่นางมาพอดี รถเข็นนี้บ้านป้าสู่ไม่ใช้แล้วขายให้เจ้าหนึ่งร้อยอีแปะ รถยังดีอยู่ ข้าว่าเหมาะสม”“ขอบใจมาก นำเข้าบ้านได้เลย ขอบคุณลุงไฉ่เช่นกันเจ้าค่ะน้ำแกงเดี๋ยวข้ายกเอง”เสิ่นลี่อิงตรวจสอบรถเข็นที่ได้มาก็พบว่ายังดีอยู่จริงๆ หากจะซื้อของใหม่จากในเมืองมีราคาสูงถึงห้าร้อยอีแปะ แม้จะมีเงินมากแต่ผู้ใดจะล่วงรู้อนาคต หากวันใดที่นางต้องพาเปาหลงหนีก็คงออกมาหาเงินไม่ได้อีก“เปาเปาเจ้าเข้าบ้านก่อน ถึงเวลาดื่มนมแล้ว” นางเรียกเปาหลงที่กำลังวิ่งเล่นบนผืนดิน

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 17 ใช้ชีวิตต่อไป

    บทที่ 17 ใช้ชีวิตต่อไปเช้านี้เสิ่นลี่อิงลุกขึ้นจากเตียงอย่างยากเย็น แม้หนิงอ๋องจะเป็นคนแปลกหน้าสำหรับนาง แต่จากการที่เปาหลงยังนึกถึงและกล่าวถึงพ่อของตนเสมอ ก็ทำให้นางเป็นห่วงเขาไม่น้อยเช่นกัน และที่สำคัญคือความรู้สึกของเปาหลง หากรู้ว่าพ่อของตนมิรู้ว่าเป็นเช่นไรจะกังวลหรือไม่ ลี่อิงก็คิดห่วงไปมากมายนางลืมตามองเพดานอยู่นานจนเปาหลงต้องตื่นมาเขย่าให้นางลุกขึ้น เพราะหน้าบ้านไฉ่ตู้กำลังส่งเสียงเรียกนางอยู่ “พี่สาวมีคนมา”“แม่นางลี่อิง! ท่านอยู่หรือไม่ ข้ามาถอนหญ้าต่อ แม่นาง!”“พี่สาว ไฉ่ตู้มา ท่านลุกขึ้น”“ขอเวล

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 16 ท่านมีศัตรูมากไปหรือไม่

    บทที่ 16 ท่านมีศัตรูมากไปหรือไม่“เสียนอ๋อง” หนึ่งในพระญาติของพระเอกและตัวร้ายที่รับบรรดาศักดิ์ต่อจากท่านปู่ของตน และก็นับว่าเป็นญาติผู้พี่ของนางด้วย ฝ่ายมารดาของเขาคือคนจากสกุลเสิ่น แต่จนถึงตอนล่าสุดที่ได้อ่าน นางก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาอยู่ข้างใครระหว่าง ‘หนิงอ๋องหรือรัชทายาท’“ว่าที่พระชายาในหนิงอ๋อง แท้จริงแล้วก็ยังไม่ตาย แต่กลับมาอยู่ในที่ดินปกครองของข้าเสียได้ น่าประหลาดใจนัก”“คนนั้นยังไม่สลบ เขาได้ยินแล้วว่าข้ายังไม่ตาย” นางชี้ไปที่นักฆ่าคนหนึ่งที่เพียงแค่ตัวชากระตุกเพราะเครื่องช็อตไฟฟ้า และได้ยินญาติผู้พี่เฉลยตัวตนของเสิ่นลี่อิงออกมาจนหมดเปลือก เสียนอ๋องเห็นเช่นนั้นก็ให้สัญญาณกับองครักษ์ให้ฆ่าทิ้งเสีย แม้เสิ่นลี่อิงจะปวดใจเพราะงานของนางคือการช่วยคน แต่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือกระหว่างชีวิตนางหรือชีวิตศัตรู นางย่อมเลือกตนเอง“คนที่นำดาบชี้ข้า มาใหม่หรือ” เสียนอ๋องพยักหน้า อ๋องหนุ่มสะบัดมือให้เหล่าองครักษ์หลบออกไปก่อน “จะเอาผิดหรือไม่”“ไม่ล่ะ เสียเวลา ท่านมาที่นี่ทำไม”“นี่มันเขตการปกครองของข้า เจ้าต่างหากยังไม่ตายเหตุใดจึงไม่กลับไป”“ถูกตามล่าเช่นนี้ หากกลับไปข้าย่อมลำ

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 15  อันตรายในป่า

    บทที่ 15 อันตรายในป่า เสิ่นลี่อิงร้องบอกให้ไฉ่หม่ากลับไปทำงาน ไม่ได้สนใจจะพูดคุยกับฉินเปาแม้เพียงครึ่งคำ “แม่นางมาพอดี น้ำเดือดมาได้สักพักแล้ว” ไฉ่ตู้ที่กำลังเปิดฝาดูไม่ให้น้ำแห้งเอ่ยออกมา“ข้าจัดการต่อเอง ขอบคุณมาก” เสิ่นลี่อิงเติมน้ำเล็กน้อยและใส่ขี้เลื่อยที่ได้มาลงไปด้วย นางต้องปล่อยให้น้ำต้มนี้เดือดไปอย่างน้อยหนึ่งชั่วยาม เวลาระหว่างนั้นนางจึงทำถู่โต้วทอด กินคู่กับเนื้อหมูสันคอย่างชิ้นโต ราดซอสงาขาว เคียงด้วยยำแตงกว่ารสเผ็ดเล็กน้อย แต่สำหรับเปาเปาเขาได้ทานแครอทหั่นแท่งแทน เจ้าของบ้านอย่างลี่อิงแบ่งอาหารให้กับสองพี่น้องไฉ่ด้วย ไฉ่ตู้ชื่นชมนางไม่ขาดปาก หลังกินเสร็จก็เร่งงานยิ่งกว่าเดิม ส่วนอีกคนก็กินแรงตามเคย ทั้งยังบ่นมาตามลมว่านางมีข้าวสารมากมาย แต่ขนเส้นเดียวก็ไม่ยอมถอน“ไม่ถูกใจก็ไม่ต้องกิน!” ลี่อิงเองก็เหลืออดเหลือเกิน จึงพูดกระทบกระเทียบกลับไปบ้าง การกินข้าวของนางจึงได้เงียบสงบลงมาเสียที กินเสร็จเสิ่นลี่อิงก็ดับไฟและปิดฝาไว้ “รอให้เย็นก่อนนะ” ระหว่างนั้นก็ให้เปาเปาเอากิ่งไม้มาฝึกเขียนอักษรบนพื้นดิน พร้อมนางที่นั่งทำเสี่ยวหลงเปาอยู่ข้างกัน ลุงไฉ่

  • ย้อนเวลามาเป็นว่าที่พระชายาที่ถูกลืมของตัวร้าย   บทที่ 14  งานการมากมาย

    บทที่ 14 งานการมากมาย เสิ่นลี่อิงนำดินที่นางขุดออกมาจากมิติ และให้เปาเปานำขี้ทาเกลือคล้ายทรายมาผสมกับดินที่นางขุดมา เมื่อผสมเสร็จแล้วลี่อิงจึงนำถังไม้ขนาดกำลังดีออกมาสองถัง ถังหนึ่งนางใช้ตะปูตอกให้เป็นรูเล็กๆ เพียงสองรู และนำผ้าขาวบางรองไว้ที่ก้นถัง ก่อนจะสั่งให้เด็กน้อยนำดินที่คลุกผสมทั้งสองส่วนเรียบร้อยแล้วมาตักลงใส่ถังที่มีผ้าขาวบางรองไว้อยู่ “ครานี้เจ้าใช้มือกดลงไปให้แน่นๆด้วยแล้วค่อยเติมลงไปเพิ่ม หากไม่แน่นน้ำจะไหลผ่านเร็วและได้เกลือน้อย”“ขอรับ” เด็กน้อยรับคำสั่งและใช้มือของตนตบดินลงไปจนแน่น เสิ่นลี่อิงเห็นว่าเด็กน้อยทำสุดแรงของตนแล้ว นางจึงใช้มือของตนในการกดลงบ้าง เมื่อนางเห็นว่าแน่นดีแล้วก็พยักหน้าให้เปาเปาตักดินใส่ชั้นต่อไปได้ ทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาจนเต็มถังไม้ เสิ่นลี่อิงวางถังไม้ที่มีดินอยู่ไว้ด้านบนและถังไม้ที่ไม่มีสิ่งใดไว้ด้านล่างนางตักน้ำใส่ถังที่มีดินลงไป ก่อนจะยกขึ้นดูเล็กน้อยว่ามีน้ำหยดออกมาหรือไม่ เมื่อเห็นว่ามีน้ำหยดแล้ว นางจึงรอให้น้ำด้านบนซึมลงไปก่อนจากนั้นค่อยตักน้ำใส่เพิ่มทีละน้อยทีละน้อย “เหลือเพียงแต่รอแล้ว หากน้ำไหลออกมาเต็มถังนี้ และเค็มเพียงพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status