تسجيل الدخولเสิ่นลี่อิงตื่นขึ้นเพราะรู้สึกได้ถึงสายตาที่กำลังจับจ้องนางอยู่ เป็นเด็กชายตัวน้อยคนเดิมนั่นเอง ท่าทางลูกของตัวร้ายดูสดใสขึ้นมากเลยทีเดียว ดวงตาใสกระจ่างจ้องมองมาหานางตาไม่กระพริบ
“ตื่นแล้วหรือ พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้นดีเลย” นางลุกขึ้นมานั่งมองเจ้าเด็กน้อยคนนี้กลับบ้าง
“ตื่นแล้ว ขอรับ ขอบคุณ พี่สาว” เด็กเล็กตรงหน้าพูดช้าๆ ทีละพยางค์สองพยางค์ อาจเพราะต้องการออกเสียงให้ชัดเจนครบทุกคำ
น่ารักจังเลย…แก้มอ้วนน่าหยิกจริงๆ
มือเลื่อนไปไวกว่าความคิดเสิ่นลี่อิงใช้นิ้วบีบแก้มที่มีเลือดฝาดแล้วไปเบาๆ แต่เด็กน้อยกลับกรีดร้องออกมาทันที
“ฮือออ ปล่อยๆ เปาเปาเจ็บ ขอโทษๆ” เขาพูดพร้อมๆ กับวิ่งหนีไปที่ริมกำแพงห้องนอนแคบนี้
เสิ่นลี่อิงตกใจและก่นด่าตัวเองไปด้วย ก็เห็นว่าเด็กมีรอยหยิก ทำไมต้องมือไวขนาดนี้ด้วย ต้องทวนเรื่องจิตวิทยา กับความรุนแรงในเด็กแล้วเรา ทำงานมายี่สิบปีเรื่องแค่นี้ลืมได้ไง
“พี่สาวขอโทษ พี่สาวเพียงเห็นว่าแก้มของเจ้ามีสีแดงน่ารักก็เท่านั้น เจ้าเจ็บหรือ พี่สาวไม่ทำอีกแล้วดีหรือไม่” นางเอ่ยปลอบโยนเด็กน้อยตรงหน้า ไม่ได้ขยับเข้าไปใกล้ให้เด็กน้อยรู้สึกว่าลี่อิงไม่ได้เข้าไปรุกล้ำพื้นที่ของตัวเด็ก
“ยี ยี (ดี ดี) ฮือๆๆ พี่ฉาว ม่ายทำจริงหยือ (พี่สาวไม่ทำจริงหรือ)” เด็กน้อยปาดน้ำตาเงยหน้ามองนางแต่ก็ยังมีท่าทีระแวงอยู่
“จริงแน่นอน ไม่บีบไม่หยิกอีก ข้าสัญญา”
“ขอรับ” เด็กน้อยสะอื้นสูดน้ำมูก แต่ก็ยังไม่เข้ามาหา เขาเพียงแค่สังเกตว่านางจะทำสิ่งใดต่อไป
“เมื่อครู่เจ้าว่าเจ็บ พี่สาวขอดูได้หรือไม่”
เมื่อถูกถามเด็กน้อยจึงได้สติลองจับแก้มของตนดู ก็ได้รู้ว่าตนไม่รู้สึกเจ็บเหมือนที่โดนกระทำตลอดมา จึงมีท่าทีผ่อนคลายลง และพยักหน้าแทนการอนุญาตให้เสิ่นลี่อิงเข้าหาได้
“ข้าจะเป่าเพี้ยงให้ รับรองว่าหายแน่นอน” พูดจบลี่อิงก็เดินเข้าไปหา และเป่าลมเบาๆ ลงบนแก้มนุ่มสองครั้ง
“เรียบร้อยแล้ว คราวนี้บอกพี่มาที ใครทำให้เจ้ากลัวการโดนหยิกหรือ”
“…”
เมื่อเห็นว่าเด็กน้อยไม่ยอมตอบ ลี่อิงก็ถามซ้ำออกไป “ข้าบีบเพราะเจ้าน่ารัก ทำด้วยความเอ็นดู แต่ที่ผ่านมาโดนทำให้เจ็บใช่หรือไม่ บอกมาเถิด”
เด็กน้อยหลุบตาลงไม่กล้ามองนาง นิ้วเล็กๆ ของเขาเขี่ยอยู่ตามพื้น ภายในใจของเด็กวัยสองหนาวครึ่งหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง “บอกไม่ได้ อนุเฉียวสั่งว่าไม่ให้บอกใคร”
เด็กยังไงก็เป็นเด็ก เขาไม่ให้บอกก็บอกชื่อมาซะงั้นว่าใครไม่ให้บอก
“ไม่ต้องกลัว บอกพี่สาวได้ อยู่ที่นี่ใครก็มาทำอะไรเจ้าไม่ได้”
“จริงหรือขอรับ”
“จริงสิ อนุเฉียวเป็นผู้ทำร้ายเจ้าหรือ”
เด็กน้อยตรงหน้าพยักหน้าเบาๆ “อนุเฉียว ไม่ชอบเปาเปา”
“แล้วท่านพ่อของเจ้ารู้หรือไม่”
“ไม่รู้ เปาเปาไม่บอก … พี่สาวข้าคิดถึงท่านพ่อ”
“ท่านพ่อดีกับเจ้าหรือไม่”
“ดี พ่อใจดี เล่นกับข้า” รอยยิ้มบริสุทธิ์ผุดขึ้นบนใบหน้าของอ๋องน้อยในจวนหนิงอ๋อง
“ข้าก็ใจดี มีของอร่อยด้วย เจ้ารอตรงนี้ ข้าจะไปเอามาให้”
นางเดินไปที่นอกห้องแล้วล้วงมือลงไปในมิติ นำโอเวอไนท์โอ๊ตที่แช่เตรียมไว้ออกมาให้เปาหลงทานรองท้อง พร้อมกับนมช็อคโกแลตอีกหนึ่งแก้ว นางอธิบายวิธีการทานแล้วปล่อยให้เปาหลงทานเองเพื่อฝึกกล้ามเนื้อมือ
“กินหกก็ค่อยเช็ด แต่เจ้าต้องตักกินเองมือจะได้แข็งแรง”
เสิ่นลี่อิงลอบยิ้มอยู่ในใจอย่างน้อยเขาก็ยังเป็นพ่อที่ดี เช่นนั้นแล้วแปลว่านิยายเรื่องนี้คงซับซ้อนกว่าที่นางคิด
มิน่าเล่าในตอนที่หนิงอ๋องรู้ความจริงว่าหมากของอีกฝ่ายที่ตนจัดการไป คือลูกชายคนโตของตนเอง เทพสงครามแห่งแคว้นตู้ที่คอยปกปักรักษาแผ่นดิน จึงดำดิ่งสู่ความโหดร้าย และหันมาทำลายแคว้นตู้ด้วยน้ำมือตนเอง ฝ่ายพระเอกล้างสมองเด็กคนนี้ให้เกลียดพ่อตนเองถึงขนาดนั้นได้อย่างไร
จะปล่อยให้อาจารย์ของพระเอกเอาไปเลี้ยงไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นคงไม่มีใครได้อยู่อย่างสงบ
เสิ่นลี่อิงอ่านนิยายในมุมมองของนางเอก ตัวละครที่นางต้องมาเกี่ยวข้องหรือแม้แต่ตัวนางเองก็ถูกกล่าวถึงผ่านการบอกเล่าจากนางเอกเท่านั้น นางจึงรู้เพียงว่าองค์รัชทายาท หรือพระเอกของเรื่องดึงตู้เปาหลงไปใช้เพราะเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกัน แต่เหตุการณ์ก่อนหน้านั้นของเปาหลงตัวน้อยไม่มีกล่าวถึงไว้มากนัก เขาเข้ามามีบทบาทก็ตอนเป็นกุนซืออัจฉริยะ และนักฆ่าผู้ถนัดการใช้พิษไปเสียแล้ว
การเดินหมากที่โหดร้ายให้พ่อลูกฆ่ากันเองเช่นนี้ ฝ่ายนั้นกลายเป็นพระเอกได้อย่างไรกัน ต่อสู้ฝ่าฟันจะเอาบัลลังก์กับพี่น้องของตน ขัดแย้งกับฮ่องเต้เพราะต้องการแต่งลูกอนุเป็นไท่จื่อเฟย ทั้งที่ตัวร้ายก็มีสัญญาหมั้นหมายกับนางอยู่แล้ว และท้ายที่สุดก็กลัวไปเองว่าอำนาจของลูกพี่ลูกน้องอย่างหนิงอ๋องจะมีมากเกินไปเลยต้องกำจัดทิ้ง
กำจัดเพราะเป็นศัตรูหัวใจละสิไม่ว่า..เหอะ
เสิ่นลี่อิงตั้งใจแล้วว่าจะปกป้องดูแลเด็กคนนี้เอง เพื่อป้องกันสงครามให้ทุกคนอยู่รอดปลอดภัย มีเพียงต้องดูแลเด็กคนนี้ให้เติบโตสมวัยเท่านั้น นางจึงจะสามารถอยู่อย่างสบายใจในที่แห่งนี้ได้ รอนางสร้างรากฐานให้มั่นคง และเปาหลงโตพอจะกล้าฟ้องพ่อค่อยหาทางพากลับไปส่งก็แล้วกัน
นางหยิบผิงกั๋วออกมานั่งกัดรอให้เด็กน้อยกินจนเสร็จ แล้วค่อยเช็ดหน้าเช็ดตาให้เปาเปาน้อย จากนั้นก็เช็ดพื้นเป็นอย่างสุดท้ายโดยสั่งให้เปาหลงคอยช่วยนางเช็ดด้วย
“นมอร่อย ข้าชอบ” เมื่อเก็บของเสร็จเปาหลงก็เอ่ยบอกกับนาง
“อร่อยก็ดีแล้ว เจ้าต้องอยู่กับข้าอีกนาน หากไม่ชอบของกินที่ข้าให้จะลำบากเอา”
“ทำไม เปาเปาหาท่านพ่อ” เด็กน้อยเบะหน้าคล้ายจะร้องไห้แต่ยังกลั้นน้ำตาไว้อยู่
“ไปไม่ได้ ที่เจ้าหายมาอยู่นี่ก็เพราะคนร้ายตามมามิใช่หรือ”
“พ่อจัดการคนร้ายได้ พ่อเก่ง” เจ้าตัวเล็กเปาเปาขมวดคิ้วเถียงสู้นาง
“แต่ตอนนี้พ่ออยู่ไกล ต้องโตกว่านี้ก่อนถึงจะไปได้”
“พี่สาว ข้าคิดถึงท่านพ่อ”
“ข้ารู้แล้ว เด็กน้อยเชื่อพี่สาวเถิดนะ ตอนนี้ข้ายังพาเจ้าไปหาพ่อไม่ได้ ไว้รอพวกมันตายใจ ข้าสัญญาจะพาเจ้ากลับไปหาพ่อแน่นอน”
“…” น้ำตาหยดเล็กของเปาหลงไหลรินอาบแก้ม
“พี่สาวไม่เก่ง หากพาไปตอนนี้จะไม่ได้เจอพ่อ รอพี่สาวเก่ง พี่สาวจะพาเจ้าไป” ลี่อิงรวบตัวเปาหลงเข้ามากอดปลอบ
เปาหลงยอมให้นางกอดแต่โดยดี ใบหน้าเล็กๆซบอยู่บนบ่า เอ่ยให้คำมั่นสัญญากับนาง “เปาเปาก็จะเก่งด้วย เก่งแล้วไปหาท่านพ่อ”
“ได้เลย เก่งแล้วค่อยไปหาท่านพ่อ”
หรือนี่จะเป็นภารกิจที่เซียนคนนั้นบอกกับนางไว้กันนะ สิ่งที่นางต้องมาทำในโลกแห่งนี้อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงชะตาที่เลวร้ายของตู้เปาหลง ในวาระสุดท้ายของชีวิตตู้เปาหลงผู้นี้ถูกทรมานแสนสาหัส ชะตาที่เลวร้ายอย่างนั้น…
พี่สาวจะปกป้องเจ้าจนถึงที่สุดเอง…
บทพิเศษ 17 ต้องช่วยเหลือนาง เวลาของความสุขผันผ่านไปรวดเร็วเพียงชั่วกระพริบตา ชินอ๋องและพระชายาอยู่ในวัยใกล้ฝั่งเสียแล้ว บุตรล้วนเติบใหญ่ให้ได้ภาคภูมิใจมีครอบครัว และหลานมากมายให้ชื่นใจ ส่วนตนและฮูหยินคู่ใจก็ใช้เวลาส่วนใหญ่นึกย้อนถึงวันเวลาเก่าๆ แต่การหวนย้อนคิดเหล่านี้ ทำให้ชินอ๋องนึกถึงภาพฝันที่เคยอยู่เป็นเพื่อนยามค่ำคืนเสมอมา ตู้หนิงหลงในวัยชรากลับมาฝันถึงแม่นางผู้หนึ่งมาติดต่อกันหลายคืนแล้ว ความฝันนี้เป็นฝันเช่นเดียวกับยามเยาว์วัย เขามักจะฝันเห็นนางยิ้มหัวเราะ บางคราก็โกรธเกรี้ยว สลับกับการไปช่วยเหลือผู้คนที่ตกอยู่ในอันตรายร่วมกับแม่นางผู้นั้น เหตุการณ์ในฝันนั้นไม่ค่อยปะติดปะต่อกันนัก แต่สุดท้ายก็มักจะจบลงเช่นเดิมคือ เขาและนางไปช่วยดับไฟสถานที่แห่งหนึ่ง เมื่อขึ้นไปด้านบน แม่นางผู้นั้นจะตกลงในหลุม จากนั้นเขาก็จะตกลงมาเช่นกัน แต่ร่างของชินอ๋องในฝันนั้น จะถูกโลหะแท่งใหญ่ปักทะลุอก กระอักเลือดออกมาคำโต จนแม่นางผู้นั้นกรีดร้องออกมาคล้ายดวงใจแตกสลาย ทว่าครานี้ฝันกลับไม่เป็นเช่นนั้น ภาพที่ปรากฏยังคล้ายเดิม เพียงแต่ไม่มีร่างที่สมควรจะเป็นตัวของเขาอยู่ในฝันนั้น
บทพิเศษ 16 เผยเรื่องน่าอาย ตู้หนิงหลงผู้เป็นถึงชินอ๋องกำลังรอดักเรียกบุตรชายผู้เป็นรุ่ยอ๋อง เพราะยามกลับมาถึงจวนทีไร ก็มาในสภาพคลุกเคล้าไปด้วยฝุ่นผงทุกวัน ทั้งยังมีข่าวคราวหนาหูเกี่ยวกับว่าที่รุ่ยหวางเฟยให้ได้ยินนั่นอีก แต่เมื่อจะเรียกมาสอบถามกลับหลบหนีหายไปทุกครั้ง จนผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดินรองจากฮ่องเต้ต้องมายืนพิงกำแพงจวน รอบุตรชายกลับมาด้วยตนเอง“เปาหลง” ชินอ๋องเอ่ยเรียก ตั้งมั่นว่าครานี้ต้องรู้เรื่องราวให้ได้ อ๋องน้อยผู้นี้บิดพลิ้วหนีคนที่สั่งให้มาตาม ปิดโอกาสสืบความใดไปเสียหมด“ท่านพ่อ! เหตุใดมาอยู่ตรงนี้ ข้าตกใจหมด” เปาเปาที่แม้จะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่เมื่อยามอยู่กับบิดาและมารดาเลี้ยง ก็กลับไปมีท่าทีเป็นเด็กเล็กๆ ไปทุกครา“ตามพ่อมา” หนิงหลงไม่ลื่นไหลไปกับบทสนทนาที่พยายามจะนอกเรื่องหาทางหลีกหนี เมื่อกล่าวจบก็พยักหน้าให้ทหารหิ้วปีกมุ่งไปที่ห้องหนังสือ“ท่านพ่อ ทำเช่นนี้ไม่ได้ ไม่รักษาภาพพจน์ข้าบ้างหรือ บุตรชายของท่านเป็นถึงรุ่ยอ๋องเชียวนะ” เปาหลงโวยวายเมื่อถูกลากเข้าจวน และยกทั้งร่างมาวางไว้ในเรือนกลางของผู้เป็นพ่อ... เปาหลงที่หันมองหาทางหนีทีไล่ ถอนหายใจอย่า
บทพิเศษ 15 รุกล้ำในชุดแดงวันมงคลของเสิ่นลี่อิงและองค์ชายเก้าเกิดขึ้นในวันที่ถัดมาจากวันที่ครบพันปีหนึ่งวันพอดิบพอดี เมื่อเซียนลี่บอกให้ตู้หนิงหลงผู้นี้รอไปพันปี เขาก็ทำเช่นนั้นตามข้อตกลงแต่องค์ชายผู้นี้ก็ยังคงไม่ยอมรับต่อหน้าคนรักอยู่ดีว่าการตัดสินใจให้เป็นคนรักกันไปพันปีของนางเป็นเรื่องถูกต้องแล้ว หากขืนยอมรับไปเขาได้รับคำย้ำเตือนไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่แน่ ว่าทำอันใดก็ให้เชื่อนางจึงจะออกมาดีตู้หนิงหลงกำลังเดินมุ่งหน้าไปยังห้องหอด้วยใจระทึก เขาถูกพี่ชายทั้งหลายล้อเลียนว่าเป็นเด็กแก่แดดแต่งงานตัดหน้าทุกคน และถูกบังคับให้กินเหล้าหลายจอกจนทรงตัวแทบไม่อยู่&nbs
บทพิเศษ 14 เป็นคนรักกันไปพันปีเมื่ออยู่ต่อหน้าเทียนจวินองค์ชายเก้าตู้หนิงหลงทำอย่างที่ลั่นวาจาไว้ เขากล่าวต่อหน้าผู้คนทั้งท้องพระโรงว่าต้องการสมรสพระราชทานให้เสิ่นลี่อิง มาเป็นพระชายาเอกในองค์ชายเก้า แรกเริ่มนางก็คิดหวังว่าอาจมีองค์เทพที่กล่าววาจาคัดค้านว่าเซียนเล็กๆ เช่นนาง แม้จะผลคะแนนแซงหน้าบุตรหลานชาวสวรรค์แต่กำเนิด แต่ที่มาไร้ความสูงส่งเช่นนี้ก็ไม่ใคร่ว่าจะเหมาะสมแต่ทว่าเรื่องนี้ก็ผิดความคาดหมายของเสิ่นลี่อิง เพราะนอกจากจะไม่มีใครคัดค้านแล้ว ยังเห็นดีเห็นงามว่าควรมีเซียนตัวเล็กตัวน้อยแต่งเข้าราชวงศ์ในตำแหน่งใหญ่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเผ่าสวรรค์นั้นไม่คิดรังเกียจแบ่งแยกผู้ใดเอ้า! จะมาใช้ข้าเป็นโครงการป
บทพิเศษ 13 ภารกิจจบการศึกษาเสิ่นลี่อิงที่ตื่นขึ้นมาแต่เช้าในวันที่ต้องไปทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย สองวันก่อนท่านอาจารย์ให้ทั้งสามสุ่มเลือกภารกิจที่พวกตนต้องรับผิดชอบ โดยที่จะไม่มีอาจารย์ท่านใดคอยช่วยเหลือนาง หนิงหลง และหลิวหยาง หากไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายจนถึงตายไม่แน่ว่าทั้งสามโชคดีหรือร้าย เพราะภารกิจที่สุ่มได้มานั้นเป็นสัตว์อสูรที่มีผู้พบเห็นน้อยมาก ความรู้เกี่ยวกับสัตว์อสูรชนิดนี้มีเพียงหนึ่งบรรทัด ความอันตรายไม่แน่ชัดนัก เป้าหมายคือการจับเป็นเพื่อนำมาศึกษาหากให้ไปกำจัดอสูรร้ายคงง่ายกว่าเพราะทำจากระยะไกลได้“พี่สาววันนี้มีพี่หานมารอท่านด้วยอีกคน รีบออกมาเถิด องค์ชายเก้าดูกระวนกระวายใจ
บทพิเศษ 12 ม้ามืดฟ้าสดใสเปล่งประกายครึ่งปีที่ผ่านมาองค์ชายเก้ามันหาเรื่องราวให้ได้มาอยู่ใกล้เสิ่นลี่อิง หากนางรำคาญก็จะเปลี่ยนเป้าหมายไปตีสนิทเปาหลงแทน อ้างความเป็นพ่อลูกในภพมนุษย์จึงทำให้รู้สึกอยากสนิทด้วย“นี่วังของท่านไม่มีท้อให้กินหรือ เหตุใดต้องมาแย่งของเซียนเล็กๆ อย่างข้ากับพี่สาวด้วย” เปาหลงที่เห็นองค์ชายตู้หนิงหลงกินอย่างอิ่มเอมก็อดจิกกัดออกไปไม่ได้“วันนี้เป็นวันสอบทฤษฎี ข้าก็ต้องมาสอดส่องว่าคู่แข่งของข้าทำสิ่งใด” หนิงหลงยักไหล่คล้ายว่าตนไม่ได้ทำอันใดแปลกประหลาด“อย่างไรอันดับหนึ่งสองและสามก็ย่อมได้ไปสอบปฏิบัติเพื่อโอกาสที่จะจบการศึกษาเร็วกว่าเพื่อนในรุ่นครึ่งปีอยู่แล้ว







