LOGINเช้าวันหนึ่งขณะฉันนั่งทำงานในห้องเลขาประจำตัวพ่วงด้วยตำแหน่งสามีที่ยังไม่ได้แต่งงานกันอย่างเป็นทางการแต่ย้ายมาอยู่ด้วยกันในบ้านที่ซื้อใหม่หลังใหญ่เรียบร้อยแล้วมีแม่และยายของสามีฉันมาอยู่ด้วยกันซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกอัดอึดเลยสักนิด แถมยังมีของอร่อยๆให้กินทุกวันอีกต่างหาก
โต๊ะทำงานของพีทจากเดิมคืออยู่ด้านนอกตอนนี้ถูกฉันสั่งให้ยกเข้ามาด้านในแล้วและฉันก็จ้างเลขาคนใหม่มาคอยช่วยงานอยู่ด้านนอกแทนแล้วด้วย อยู่ดีๆพีทก็เป็นอะไรไม่รู้ผะอืดผะอมวิ่งเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำตั้งแต่เช้าแล้ว แถมยังทำท่าทางแปลกๆชอบมาคลอเคลียขอดมกลิ่นตัวฉันอยู่ตลอดเวลา
"ที่รักเป็นอะไรมากไหมเค้าว่าไปหาหมอกันเถอะเค้าเป็นห่วงอ่ะดูสิหน้าซี๊ดซีด" ฉันเดินตามเข้ามาลูบหลังให้พีทพลางเอาน้ำมาให้บ้วนปากแล้วเช็ดหน้าเช็ดตาเช็ดคาบอาเจียนให้อย่างไม่รังเกียจ
"ตัวเองอื้ออขอหอมหน่อย..." พีทโผเผเข้ามากอดพลางคลอเคลียดมไปตามซอกคอต้นแขนแล้วเขาก็สูดจมูกดมหนักๆ
"ป่ะไปหาหมอกันเถอะ" ฉันพยุงพีทแล้วแวะไปหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นมาแล้วเดินออกไปสั่งงานเลขาด้านนอก หลังจากนั้นฉันก็ขับรถพาพีทไปโรงพยาบาลทันที
"ที่รักๆตัวเองจอดรถให้เค้าหน่อยข้างหน้านี่เลย" อยู่ๆพีทก็บอกให้ฉันจอดข้างทางซึ่งฉันมองไปรอบๆข้างก็ไม่เห็นมีอะไรนอกจากร้านขายผลไม้สด
พอฉันจอดรถให้ปุ๊บพีทก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงเปิดประตูลงรถวิ่งไปที่หน้าร้านผลไม้สดทันที สักพักก็เดินยิ้มหน้าบานกลับมาพร้อมผลไม้ถุงใหญ่สองสามถุง
"ที่รักไปซื้ออะไรมาคะ ?"
ถามแล้วก็จับถุงผลไม้ที่พีทไปซื้อมาดูมีมะม่วงถุงนึงที่ดูท่าทางน่าจะเปรี้ยวมากแน่ๆสีเขียวสดขนาดนั้น แล้วก็มีถุงมะยมดอง พุทธาดอง องุ่นดอง โอ้โหนี่สามีฉันเป็นอะไรมากไหมเนี่ยอยู่ๆมานึกอยากกินอะไรเปรี้ยวๆแบบนี้
เมื่อขึ้นมานั่งบนรถพีทก็รื้อๆเอามะม่วงออกมาจิ้มพริกเกลือแล้วก็กัดกินอย่างเอร็ดอร่อยในขณะที่ฉันรู้สึกเปรี้ยวปากแทนพลางมองหน้าเขาที่กินไปยิ้มไปอย่างมีความสุข ไม่ได้การละฉันต้องพาเขาไปหาหมอให้เร็วที่สุด ก่อนที่สามีฉันจะเป็นอะไรหนักไปมากกว่านี้
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลฉันก็แจ้งให้คุณหมอตรวจร่างกายของพีทให้อย่างละเอียดที่สุด แต่ผลปรากฎว่าพีทก็ร่างกายปกติดีทุกอย่าง คุณหมอเลยหันมาซักประวัติฉันแทน
"คุณภารินครับช่วงนี้คุณภารินมีอาการแปลกๆอะไรบ้างไหมครับ" คุณหมอสอบถามขณะจดบันทึกไปด้วย
"ไม่มีเลยค่ะก็ปกติดีทุกอย่างนะคะ" แต่ก็เหมือนมีอะไรสักอย่างที่มันขาดไปนะแต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก...
"แล้วเอ่อ..รอบเดือนคุณภารินมาตามปกติทุกเดือนไหมครับ"
เออนั่นสิที่ฉันรู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างขาดหายไปที่แท้ก็...
"นั่นสิที่รักปกติเค้าจะต้องไปซื้อให้ตัวเองทุกเดือนนี่แต่นี่สองเดือนแล้วนะที่ตัวเองไม่ได้ใช้เค้าไปซื้อให้เลย" คุณสามีฉันพูดออกมาหน้าตาเฉยไม่คิดว่าฉันจะอายบ้างเลยหรือไงเนี่ย !
"ที่รักจะพูดทำไมเนี่ยอายเค้านะ" ฉันหันไปกระซิบดุพีทเบาๆก่อนจะหันไปยิ้มเอียงอายให้คุณหมอแทน
"แล้วตกลงมันเกี่ยวอะไรกับอาการที่ผมเป็นอยู่หรือครับคุณหมอ" พีทหันไปถามคุณหมอต่อในขณะที่ฉันชักเริ่มเอะใจหรือว่า...
"เอาเป็นว่าหมอขอตรวจคุณภารินให้แน่ใจก่อนก็แล้วกันนะครับ"
"เอ่อ...ใช่ใช่ไหมคะหมอ ?" ฉันหันไปถามหมออย่างมีความหวังอีกครั้ง
"คิดว่าใช่ครับ"
สิบนาทีต่อมาผลตรวจร่างกายฉันก็มาถึง ตอนนี้ฉันรู้สึกตื่นเต้นถึงขีดสุดมือชาเท้าชาเหงื่อแตกพลั่กทั้งที่นั่งอยู่ในห้องแอร์เย็นเฉียบ
"หมอได้ผลตรวจเรียบร้อยแล้วครับพร้อมจะฟังแล้วหรือยังครับ"
"พะ..พร้อมค่ะ" ฉันถึงกับเสียงสั่นกันเลยทีเดียวตอบคุณหมอเสร็จฉันก็ยื่นมือไปกุมมือพีทเอาไว้แน่น
"ก่อนอื่นหมอต้องขอแสดงความยินดีกับว่าที่คุณพ่อคุณแม่คนใหม่ด้วยนะครับตอนนี้คุณภารินกำลังตั้งครรภ์ได้สิบสัปดาห์แล้วครับ"
"ตั้งครรภ์หมายความว่าที่รักท้อง ! เรากำลังจะมีลูกกันจริงๆหรอ" พีทที่พึมพัมเสียงสั่นก่อนจะหันมาจับมือฉันเขย่าแรงๆอย่างคนตื่นเต้นถึงขีดสุด
"ใช่ตัวเองกำลังจะได้เป็นพ่อคนแล้วนะ"
"ส่วนที่รักก็จะได้เป็นแม่แล้วเรากำลังจะมีหลานให้แม่ๆกับยายเลี้ยงแล้วเย้ !" พีทโผเข้ากอดจูบแก้มซ้ายแก้มขวาฉันอย่างไม่อายสายตาคุณหมอเลยสักนิด
แล้วหลังจากนั้นหมอก็จัดยาบำรุงมาให้พร้อมทั้งฉันที่ตัดสินใจฝากครรภ์ทันทีเลยจะได้ดูแลตัวเองและลูกให้แข็งแรงตั้งแต่เนิ่นๆ
พอออกจากโรงพยาบาลฉันก็โทรบอกข่าวดีว่าที่คุณตากับคุณยายให้รับรู้ซึ่งทั้งคู่ต่างก็พากันดีใจกันยกใหญ่ถึงขนาดเตรียมไปหาตั้งชื่อหลานเอาไว้รอทั้งที่ยังไม่รู้เพศด้วยซ้ำ แล้วฉันก็โทรบอกข่าวดีกับคุณลุงภามของเจ้าตัวเล็กนี่ที่ตอนนี้กำลังอินเลิฟกับเลขาที่มาแย่งของฉันไปซึ่งตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้และก็ดูเห่อไม่แพ้คุณตากับคุณยายเหมือนกัน
...แล้วหลังจากนั้นเราก็ตรงดิ่งกลับไปบ้านเลยเพื่อเซอร์ไพรส์คุณยายและคุณแม่ของพีท
"อ้าวทำไมวันนี้สองคนกลับเร็วจังล่ะลูกเป็นอะไรกันหรือเปล่าจ๊ะ ?"
คุณแม่สามีฉันที่ปัจจุบันฉันให้เลิกขายของออกมาอยู่บ้านปลูกต้นไม้ใบหญ้าแก้เหงาเล่น แต่ท่านก็ยังไม่วายอยากทำอาหารขายแก้เหงาฉันก็เลยให้ทำอยู่บ้านโดยส่งแบบเดลิเวอรี่แทนซึ่งตอนแรกกะจะให้ท่านทำเล่นๆแก้เบื่อ ไปๆมาๆกลับกลายเป็นว่าออเดอร์ถล่มทลายทำแทบไม่ทันจนต้องจ้างลูกมือมาช่วย ท่านละมือจากข้าวกล่องที่กำลังจัดเรียงเตรียมส่งให้ลูกค้าแล้วถามอย่างร้อนรน
"เป็นค่ะ...วันนี้ภาไปโรงพยาบาลมา" ฉันตอบท่านพลางทำหน้าเศร้าสร้อย
"ตายจริงแล้วยายหนูเป็นอะไรหรอลูกถึงต้องไปหาหมอแล้วคุณหมอว่ายังไงบ้างไม่ได้เป็นอะไรมากใช่ไหมลูกหนูเจ็บอะไรตรงไหนหรือเปล่า" คุณยายถามฉันขณะจับเนื้อจับตัวสำรวจร่างกายฉันไปด้วย ส่วนคุณแม่ก็หน้าซีดไปเลยตอนได้ยินว่าฉันไปหาหมอมา
"ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกค่ะแค่ตอนนี้ภา...กำลังจะมีเหลนให้คุณยายแล้วก็กำลังจะมีหลานให้คุณแม่" ฉันตอบขณะฉีกยิ้มทำตาปริบๆใส่
"จริงหรอลูกนี่แม่ไม่ได้ฝันไปใช่ไหมว่าแม่กำลังจะได้อุ้มหลานแล้ว" แม่โผเข้าหากอดทั้งพีทกับฉันกลมเลยโดยมีคุณยายเข้ามาโอบกอดอีกทีด้วยความดีใจ
"ครับแม่ หมอบอกว่าท้องได้สองเดือนกว่าแล้ว"
"ดีจังต่อไปเราก็จะไม่ได้เหงาอีกแล้วนะแม่จะได้มีหลานมาวิ่งซนๆกันแล้ว" ทั้งแม่ทั้งยายฉีกยิ้มดีใจก่อนจะแยกย้ายกันไปสรรหาของมาบำรุงคนท้องอย่างฉันจนเหนื่อยที่จะกินแล้ว
ฉันกับพีทเราตกลงกันว่าจะแต่งงานกันเมื่อตอนที่ลูกของเราสองคนเริ่มเดินได้แล้ว ฉันไม่ได้อยากจะเปลี่ยนขนบธรรมเนียมประเพณีที่มีมาแต่โบราณกาลหรอกนะ แต่การที่เราจะใช้ชีวิตคู่บางครั้งก็ไม่ได้จำเป็นต้องมีพิธีการก่อนเสมอไป ฉันแค่อยากให้ลูกของเรามาเป็นสักขีพยานในวันสำคัญของพ่อและแม่ให้เค้าได้มีส่วนร่วมอยู่ในงานเพื่อให้เค้าได้รู้ว่าพ่อกับแม่รักกันมากขนาดไหน ไม่ว่าใครจะดูหมิ่นดูแคลนหรือใครจะมองว่าเราทั้งคู่ไม่เหมาะสมกันเลยไม่ว่าจะเรื่องของอายุที่ฉันแก่กว่าพีทถึงห้าปีหรือว่าเรื่องฐานะที่พีทไม่มีอะไรเทียบเท่าฉันได้เลย
แต่ว่าเขามีความรักและจริงใจให้ฉันจนล้นเปี่ยมซึ่งแค่นั้นมันก็มากเพียงพอที่ฉันจะรักเขาหมดทั้งหัวใจแล้ว...
"อีภา ! ตกลงมึงท้องจริงๆหรอนี่กูกำลังจะกลายเป็นป้าแต่เอ๊ะเป็นน้าดีกว่าดูไม่แก่ดี" อีปายผู้ซึ่งไม่อยากแก่ถามสีหน้าตื่นเต้นตกใจเล่นใหญ่มากกก !"เออกูท้อง ! แต่ก่อนอื่นพวกมึงเอ่อ..พวกเธอและเราจะต้องเลิกพูดคำหยาบกันได้แล้วเดี๋ยวหลานได้ยินมันไม่ดี" ฉันแค่ไม่อยากให้ลูกจำคำพูดหยาบพวกนี้ใส่หูไป
"ได้สิคุณแม่เดี๋ยวพี่เก๋จะช่วยกันดูแลหนูเองนะคะคุณลูก" เก๋จีบปากจีบคอบอกขณะยื่นหน้ามาแนบท้องฉันเพืีอจะฟังเสียงหลาน
"ทำไมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยวะ ?"
"โอ๊ยอี...คุณเก๋หลานเพิ่งจะสองเดือนเองไหมรอก่อนสิยะนู่นอีกเดือนสองเดือนโน่นถึงจะได้ยิน" ปายบอกขณะหยิบมือถือขึ้นมากดจิ้มยิกๆอยู่พักใหญ่จนฉันสงสัย
"คุณปายทำอะไรหรอคะ ?"
"หืมทำไมกู..เอ่อฉันแสลงนักวะ" ปายบ่นพึมพำเบาๆอย่างขัดใจ
"เอาน่าทนๆเพื่อหลานรักย่ะ" เก๋บอกขณะหันไปจ้องปายด้วยความสงสัยเหมือนกัน
"แล้วตกลงปายทำอะไรเห็นกดยิกๆมานานแล้วนะ"
"อ๋อเค้ากำลังสั่งของให้หลานอยู่อืมเด็กผู้หญิงต้องเอาสีชมพูแล้วกัน" ปายพูดเองเออออเองอยู่คนเดียว
"เดี๋ยวปายเดี๋ยวแกรู้ได้ไงว่าหลานเป็นผู้หญิงอ่ะ" เก๋ถามอย่างงงๆ
"เดาเอา"
"ไม่ๆเราว่าหลานต้องเป็นเด็กผู้ชายโว้ยฉันสั่งบ้างดีกว่าเอาชุดของผู้ชายไว้ให้หลานใส่" เก๋ก็จะไม่ยอมให้น้อยหน้าคว้ามาถือมากดยิกๆเหมือนกัน
"เดี๋ยวครับๆผมว่าใจเย็นๆทั้งคู่ก่อนดีไหมครับหลานเพิ่งจะสองเดือนเองนะยังมีเวลาเตรียมตัวอีกหลายเดือน" พีทออกโรงห้ามศึกครั้งนี้เอง
"ไม่ได้ !"
"ไม่ได้ !"
เมื่อความเห็นไม่ตรงกันการพนันจึงเกิดขึ้นระหว่างน้าปายที่อยากได้หลานสาวกับน้าเก๋ที่อยากได้หลานชายแล้วอีกเจ็ดเดือนข้างหน้าเรามาดูกันมาใครจะชนะ แต่สำหรับฉันและพีทแล้วไม่ว่าจะได้ผู้หญิงหรือผู้ชายเค้าก็จะเป็นโซ่ทองคล้องใจของพวกเราอยู่ดี ไม่ว่าจะได้หญิงหรือชายแต่คนต่อๆก็จะต้องตามมาอยู่ดี
. . (จบค่าา)ติ้ดๆๆๆ"ค่ะแม่"(ร่าเป็นอะไรลูกทำไมเสียงเนือยๆแบบนี้)"เปล่าค่ะแม่ร่าแค่...ฮ่ะ..ฮึ่กๆ"ไม่ไหว...อดไม่ได้ที่จะสะอื้นออกมาให้แม่ได้ยิน แค่ได้ฟังเสียงหวานๆที่สะท้อนความรักและห่วงใยมาให้หัวใจฉันก็สั่งให้ร้องไห้ออกมาเอง(ทะเลาะกับตาไทน์มาใช่ไหม ?)"เปล่าค่ะเราไม่ได้ทะเลาะกัน"(แล้วเป็นอะไรล่ะลูกมีอะไรหนูคุยกับแม่ได้ทุกเรื่องนะ)"คือ..."ตั้งแต่วันนั้นเราทั้งคู่ก็กลับมาดีกันเหมือนเดิมอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมอาจจะดูเหมือนรักกันมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ตอนนี้ฉันเองก็เรียนจบแล้วแต่เฮียไทน์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะขอฉันแต่งงานกันเหมือนเมื่อก่อนเลยฉันอึดอัดพาลคิดไปหมดเลยว่าเขาจะไม่อยากแต่งงานกับฉันแล้วหรือเปล่า บางทีฉันก็คิดนะว่าตัวเองเป็นไพโบล่าหรือเปล่าตอนที่เขามาขอแต่งงานฉันก็ไม่พร้อมไม่อยากแต่ง แต่พอเขาเฉยๆไม่มีทีท่าว่าอยากจะขอฉันกลับรู้สึกใจแป้ว แม้ทุกวันนี้เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมแต่ระหว่างเราฉันรู้สึกเหมือนว่าเรามีเส้นใยบางๆบางอย่างมาคั่นกลางเอาไว้"แม่เคยเสียใจไหมที่เลือกพ่อมาเป็นคู่ชีวิตแต่พ่อก็ทำให้แม่ผิดหวัง"ฉันไม่เคยถามเรื่องพ่อกับแม่สักครั้งนั่นเพราะรู้อยู่แล้วว่าทุกครั้งที่พูดถึงพ่อแล้
"เฮียขอโทษอย่าเกลียดเฮียเลย...เฮียไม่อยากได้ยิน" เฮียไทน์ที่คล่อมทับบนตัวฉันกำลังก้มหน้าซบแนบกับต้นคอฉันแล้วพูดเสียงสั่นเครือ"ถ้าร่ามาไม่ทันป่านนี้เฮียคงไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว" ฉันอดคิดถึงภาพนั้นไม่ได้จริงๆยิ่งนึกยิ่งรู้สึกลมออกหูจนยั้งมือไว้ไม่ทัน"โอ๊ยร่าเฮียเจ็บๆๆๆ !"เฮียไทน์ร้องเสียงหลงเมื่อถูกฉันยื่นมือไปบิดหูทั้งสองข้างเต็มแรง เขาพยายามดันมือฉันออกจนมือฉันหลุดออกจากหูเขาทั้งสองข้างจนได้แล้วเขาก็เริ่มเอาคืนฉันด้วยการงับลงบนเนินอกฉันเต็มแรง"โอ๊ยยย...อื้อ"เริ่มจากการกัดเต็มปากเต็มคำแล้วหลังจากนั้นเขาก็ปาดเลียบนผิวเนื้อเนินอกช้าๆ ขนอ่อนในกายลุกวาบสยิวซ่านไปทั้งร่างกาย มือไม้หยาบใหญ่ค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าฉันออกช้าๆจนเนื้อตัวส่วนบนเปลือยเปล่า"ดะ..เดี๋ยวสิเฮีย ! นี่เฮียหายเมาแล้วหรอ ?" ฉันดันใบหน้าเฮียไทน์ออกจากซอกคอตัวเองออกก่อนจะถามอย่างข้องใจ"เอาจริงๆนะเฮียเริ่มหายเมาตั้งแต่เห็นหนูฟ้อนเล็บใส่ผู้หญิงคนนั้นแล้ว""เมื่อกี้เฮียเกือบจะเอากับมันไปแล้วนะแล้วตอนนี้เฮียจะมาเอากับหนูอีกหรอ ?""ร่าเฮียไม่ได้ตั้งใจ ! เฮียสาบานให้ตายห่าเลยก็ได้เฮียคิดว่าเป็นหนูจริงๆทั้งเมาทั้งคิดถึงเฮียก็เ
"ฮ้าววว"เสียงฉันเองแหละที่รู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดเมื่อยขัดเล็กน้อยพลางอ้าปากหาวอย่างง่วงทั้งเหนื่อยและล้าเมิื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปค่อนแจ้ง มองหาคนที่ต้นเหตุก็พบว่าเขาตื่นอยู่ก่อนแล้วแถมตอนนี้ยังนอนตะแคงเท้าแขนมองหน้าฉันอยู่อีกด้วย"ไง""เฮีย ! เล่นหนูหนักไปไหมเนี่ย" อดที่จะบ่นเขาไม่ได้คนบ้าอะไรอึดเหลือเกินจริงๆ"ช่วยไม่ได้มึงดื้อเอง !""หนูเปล่า"ปากเขาพูกแต่ดวงตาเขาจับจ้องอยู่ที่... หน้าอกของฉัน !"เฮีย ! หื่นแต่เช้าอีกแล้วนะ" ฉันลืมตัวไงว่าตัวเองยังโป๊อยู่ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีอะไรปกปิดเลยมีแค่ผ้าห่มคลุมตั้งแต่ช่วงเอวลงมาก่อนที่ฉันจะรีบคว้าชายผ้าห่มขึ้นมาคลุมช่วงอกเอาไว้ไว้ใจไม่ได้เกิดเขาอยากต่อเช้าขึ้นมามีหวังฉันคงฟ้าเหลืองตายแน่ๆ"ร่า..."อยู่ๆเฮียไทน์เรียกชื่อฉันเสียงอ่อนโยนเบาๆ"ขาา" ฉันครางรับเบาๆพลางช้อนสายตามองหน้าผู้ชายที่กำลังมองมาที่ฉันด้วยแววตาอ่อนโยน"แต่งงานกันไหม ?""เฮีย..."จังหวะนี้ทุกคนคงคิดว่าฉันกำลังซาบซึ้งและดีใจที่ถูกขอแต่งงานแต่เปล่าเลย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาขอฉันแต่งแต่ฉันยังไม่พร้อมจริงๆถ้านับครั้งนี้ด้วยนี่คงเป็นครั้งที่สามแล้ว"ว่าไงจะแต่งไ
"เดินดีๆอย่าซนได้ไหม" เสียงทุ้มที่ค่อนข้างฟังดูแหบพร่าเอ่ยปรามฉันเบาๆในขณะที่มือซนๆของฉันมันดันไปลวนลามที่ใต้กางเกงของเฮียไทน์"อื้อ...ใครซนนี่มันเป็นของหนูหนูจะจับมันตอนไหนก็ได้""แต่มึงจะจับมันตอนนี้ไม่ได้ นี่มันหน้าร้านมึงดูคนมองใหญ่แล้ว" เฮียไทน?กระซิบเสียงพร่าขณะจับมือซนๆของฉันเอาไว้แนบอกแกร่ง"อ้าวหรอแหะๆงั้นรอถึงที่รถก่อนก็ได้เนอะ"เดินซบอกเขาจนมาถึงที่รถฉันเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านข้างคนขับแล้วผวาเข้าหาเฮียไทน์ทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามานั่งในรถ"อื้อ"เสียงเฮียครางฮือในลำคอขณะที่ถูกฉันจู่โจมด้วยการโถมเข้าไปจูบที่ริมฝีปากเต็มแรง เวลาเมาฉันนิสัยเสียอยู่อย่างก็คืออารมณ์ขึ้นง่าย แต่ไม่ใช่ไปขึ้นกับใครก็ได้นะ ถ้าหน้าไม่เหมือนเฮียไทน์ก็ใช่ว่าฉันจะขึ้นได้"จ๊วบๆ" เสียงดึงดูดริมฝีปากของเราสองคนดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ โซนที่เราจอดรถค่อนข้างลึกพอสมควรทำให้ไม่ค่อยมีรถคนเข้ามาจอดสักเท่าไหร่จะมีแค่คันสองคันเท่านั้นเอง"ฮื้มมม...ถ้ามึงยังไม่หยุดกู 'เอา' มึงที่ลานจอดจริงๆนะ" เฮียไทน์เลื่อนริมฝีปากออกแล้วกระซิบชิดใบหูฉัน"แล้ว...ได้ไหมล่ะ" ฉันกระซิบตอบเบาๆขณะเลื่อนฝ่ามือลงไปที่เป้ากางเกงเพื่อรู
Sara_eiei >> [ตัวเองงง...วันนี้เค้าทำงานกลุ่มมาเหนื่อยมากๆเลยเค้าขอนอนก่อนนะ]ผัวอีซาร่า >> [อืม...เหนื่อยมากไหม]Sara_eiei >> เหนื่อยมากกกตาเค้าจะปิดอยู่แล้วเนี่ยผัวอีซาร่า >> อืม...แต่ตอนนี้กูอยู่ร้านเหล้าSara_eiei >> อ้าวหรองั้นตัวเองอย่าดื่มเยอะนะขับรถกลับดีๆด้วยนะเค้าเป็นห่วง งั้นเค้านอนก่อนน๊าาผัวอีซาร่า >> แต่กูนั่งอยู่โต๊ะข้างหลังมึงนะอีร่า !Sara_eiei >> ........."ซวยแล้วพวกมึงผัวกูจับได้แล้วว่ากูหนีเที่ยวอ่ะ"ฉันชื่อซาร่าหรืออีร่าที่คนในไลน์เรียกนี่แหละกำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่บรรดาเพื่อนๆที่เสือกชวนออกมาเที่ยวในคืนนี้ ก่อนจะทำใจดีสู้เสือกันหน้าไปยิ่มหวานสุดฤทธิ์ให้โต๊ะที่อยู่ติดกันทางด้านหลัง"ไฮ้...ที่รักคิดถึงเค้าไหม ?" แหะๆก็รู้แหละว่าแก้ตัวอะไรไม่ทันแล้วแต่ก็ปะเหลาะอีผัวตัวดีมันไว้ก่อนอ่ะเนอะ"มึงไม่ต้องมาตอแหลว่าคิดถึงกูหรอกหนอยทำเป็นเหนื่อยง่วงจะหลับแล้วที่ไหนได้หนีมาเที่ยวนี่เอง"'เอ๊อะ ! โดนไปอีกชุดสะอึกเลยกู'"กะ..ก็เค้าไม่ได้อยากมาหรอกนะอีฟ้าสิชวนเค้ามา" กูขอโทษนะเพื่อนขอแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อนแล้วกัน พูดไปพลางส่งสายตาอ้อนวอนให้มันตามไปติดๆ"โยนให้กูตลอดเลยนะอ
สองเดือนต่อมา"นิชา..นิชาครับหนูหายไปไหนมาพี่ตามหาหนูเสียทั่วเลยแต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ คนดีพี่ขอโทษจริงๆที่ทำให้หนูเสียใจหนูจะให้โอกาสพี่อีกครั้งได้ไหมพี่รักหนูจริงๆนะ"เสียงไตรคุณที่วันนี้บังเอิญมาเจอนิชาที่โรงพยาบาลเข้าพอดีเพราะมาเยี่ยมเพื่อนที่ภรรยาเพิ่งคลอดลูกเขารีบตรงเข้ามาหาเธอพลางสาธยายพร่ำพรรณาถึงความรักต่างๆนาๆที่มีต่อเธอ"ขอโทษนะคะพี่ไตรนิชากลับไปหาพี่ไม่ได้อีกแล้ว""ทำไมล่ะหรือว่านิชายังโกรธพี่อยู่""ไม่ใช่เพราะว่านิชายังโกรธอยู่หรอกค่ะแต่มันเป็นเพราะว่า...""นิชาเค้าแต่งงานมีสามีแล้วยังไงล่ะ ขอโทษนะครับคนนี้เมียผม"เสียงผู้กองตี๋ที่เดินมาจากทางด้านหลังของนิชาตอบแทนพลางเดินมาหยุดยืนข้างๆคนตัวเล็กแล้วรั้งเอวบางเข้ามากอดแนบแน่นต่อหน้าไตรคุณ โดยที่นิชาก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร"นี่..หมายความว่ายังไงครับนิชา" ไตรคุณที่ยังมีสีหน้าเหวออยู่ถามน้ำเสียงสั่นๆเกือบสามเดือนที่ผ่านมาก่อนหน้านั้นเขาเอาแต่เมินเฉยไม่ง้อไม่โทรตามเพราะคิดว่านิชาจะต้องมาง้อเพราะคงขาดผู้ชายอย่างเขาไม่ได้แน่ จนกระทั่งเดือนที่แล้วที่เขาทนรอเฉยๆไม่ไหวจึงพยายามไปตามหาเธอทุกที่แต่ก็ไม่พบ แต่อยู่มาเจอกันอีกทีก็พบว่านิชาแต่







