Mag-log inตอนที่ 5 ดูไม่เหมือนโจรนิ้วหยาบแตะวนที่จุดสวาทของเธอ ที่ยังแดงระเรื่อจากแรงกระแทกเมื่อคืนนี้ ปลายนิ้วของเขาไล้วนอย่างแผ่วเบา ดั่งต้องการปลอบโยน แต่กลับปลุกเร้าในคราเดียวกัน“อื้อ...” เธอสั่นสะท้าน ร่างทั้งร่างเบียดแนบเข้าหาเขาโดยไม่รู้ตัว แต่เมื่อเขาโน้มตัวลงอีกครั้ง ปลายนิ้วไล้กดแรงขึ้นเล็กน้อยเธอก็ครางออกมาเบา ๆ แล้วหลับตาแน่น“อื้ออ เจ็บ” น้ำเสียงของเธอปนความอายและเจ็บหน่วง ริมฝีปากเม้มแน่นเขาชะงัก ปลายนิ้วหยุดค้าง ดวงตาคมจ้องเธอนิ่ง แล้วโน้มหน้าลงจูบหน้าผากเธอแผ่วเบา“ขอโทษ...” เขากระซิบ ริมฝีปากแตะที่ขมับ ก่อนจะลูบเส้นผมของเธออย่างแผ่วเบา แล้วผละออกจากเธอไปยืนรอที่ด้านหน้าต่อเมธาวีหอบหายใจช้า ๆ พยายามตั้งสติ เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นคือความกลัว ความสับสนหรือความรู้สึกอย่างอื่น เธอใช้เวลาราดน้ำเย็นใส่ตัวเอง ราวกับพยายามลบสัมผัสที่ยังติดอยู่ที่ผิว แต่น้ำเย็นแค่ไหนก็ไม่อาจดับความรู้สึกในอกได้เมื่ออาบน้ำเสร็จ เธอก็พบผ้าซับตัวผืนใหม่พับไว้อย่างเรียบร้อย พร้อมกับเสื้อผ้าชุดใหม่ที่เหนือส่งให้ เสื้อผ้าที่เธอสวมไม่ใช่ของใหม่ แต่ก็ดูสะอาดและเรียบร้อยเมื่อกลับมาที่บ้าน เหนือเตรียม
ตอนที่ 4 อายทำไม เห็นหมดแล้วเสียงนกป่าบางสายพันธุ์เริ่มขับขานเบา ๆ ท่ามกลางแสงอ่อนที่ลอดผ่านช่องไม้ของบ้านหลังนี้ ปลุกให้เธอเริ่มรู้สึกตัว สติค่อย ๆ ฟื้นกลับมา พร้อมกับความรู้สึกหนัก ๆ ที่ต้นขาและสะโพก เธอกะพริบตาช้า ๆ มองเพดานห้องแปลกตา แล้วพลันรู้สึกได้ถึงความเจ็บแปลบจากด้านในลึกสุดของร่างกาย“อึก… อะ...อ๊า...” เธอครางแผ่วเมื่อขยับขา ช่องทางด้านล่างยังระบมและเปียกชื้นนิด ๆหัวใจเธอเต้นแรงแทบทะลุอก ความทรงจำเมื่อคืนแล่นกลับมาอย่างรุนแรง เสียงครางของเธอเอง แรงกระแทกที่หนักหน่วง ความเสียววาบที่มากจนน้ำตาไหลเสียงหายใจของเขา แรงสัมผัสที่วนเวียนอยู่ตามผิวเธอเธอหน้าแดงวูบ เมื่อนึกถึงสัมผัสแรกในชีวิตที่ไม่ได้เป็นไปตามฝัน แต่กลับยังหลงเหลือความรู้สึกบางอย่าง ความวูบวาบในท้องน้อยของเธอ ร่างใหญ่นอนเงียบ แต่ไม่ได้หลับเขาเห็นทุกอาการของเธอผ่านหางตา ริมฝีปากที่เม้มแน่นคิ้วที่ขมวดเล็กน้อยแก้มที่แดงเรื่อ แววตาเขาเปลี่ยนจากเรียบเฉย เป็นนึกสนุก“อรุณสวัสดิ์...กำลังเขินอยู่เหรอ” เขาพูดด้วยเสียงแหบต่ำ ดวงตาปรือแต่ยังมีแววขี้แกล้งเต็มที่เธอหันไปมองเขาด้วยสีหน้าร้อนวูบ ก่อนจะคว้าผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าอ
ตอนที่ 3 หัวไวนักนะร่าใหญ่ที่ดวงตาแดงวาบเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์และสิ่งกระตุ้นบางอย่างที่ทำให้ ร่างกายร้อนฉ่า หัวใจเต้นแรงแทบระเบิด“เมธาวี” เขาเอ่ยชื่อของเธอตามในบัตรคล้องคอที่เห็นตอนอุ้มเธอกลับมาด้วยเสียงที่แหบพร่า แต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยแรงปรารถนาเกินข่ม เธอเบือนหน้าหลบ แต่ไม่ได้ขยับหนี กลับสั่นน้อย ๆ อยู่ใต้ร่างของเขา“เม...” เขาเรียกชื่อเธอสั้น ๆ อีกครั้งราวกับคำสั่ง ก่อนจะโน้มตัวลงบดขยี้ริมฝีปากกับเธออย่างรุนแรงปลายลิ้นแทรกเข้าไปลิ้มชิมความหวานในโพรงปากอย่างไม่รีรอ มือหนาก็เริ่มสำรวจร่างกายของเธอทุกส่วน เมธาวีครางออกมาเบา ๆ เมื่อเขาไล้ลิ้นไปตามยอดอกที่ชูชัน ร่างทั้งร่างของเธอก็สะท้าน“อื้อออ ซี้ดด น่ะ..เหนือ...” เสียงเธอเบาหวิว แต่กลับยิ่งปลุกความคลั่งของเขาให้โหมกระหน่ำ“ขอโทษนะ ฉันจะไม่ทำให้เธอเจ็บ”เขากระซิบใกล้ ๆ หู กัดเบา ๆ ที่ติ่งหูของเธอ ก่อนจะเลื่อนมือหยาบกร้านลงไปยังจุดที่อ่อนโยนที่สุดอีกครั้ง“อ๊า...เหนือ”นิ้วของเขาสัมผัสจุดอ่อนไหวที่แฉะชื้นจนเขายิ้มออก“เธอนี่หัวไวจริง ๆ แฉะขนาดนี้แล้ว"เขากระซิบชิดผิวแก้มที่ร้อนผ่าว แล้วถอนตัวลุกขึ้นยืนช้า ๆ เขาถอดกางเกงตัวเองออก เผย
ตอนที่ 2 ได้ผัวโจรเหนืออุ้มร่างอ่อนปวกเปียกของเมธาวีแนบอก ก้าวเดินเร็วแต่มั่นคงไปตามเส้นทางดินแคบ ๆ ที่คดเคี้ยวผ่านต้นไม้สูงชะลูด และพงหญ้าที่ขึ้นรกทึบ ไม่มีใครรู้ว่าเส้นทางนี้นำไปที่ไหน มีเพียงเหนือเท่านั้นที่ใช้มันบ่อยพอจะจดจำแม้ยามไร้แสงบ้านไม้ของเขาปรากฏขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัดของป่า เรือนยกพื้นเล็ก ๆ หลังหนึ่ง สร้างด้วยไม้เก่าสีน้ำตาลซีด เขาก้าวขึ้นบันไดอย่างเงียบเชียบ ใช้เท้าถีบประตูไม้เบา ๆ จนเปิดออก เสียงบานพับครางแผ่วก่อนที่เขาจะวางเมธาวีลงบนฟูกผ้าบาง ๆ มุมหนึ่งของห้องยังไม่ทันจะได้เช็ดหน้าหรือปลดเป้ของเธอ เสียงฝีเท้าก็เร่งร้อนดังตามมาติด ๆ มีเสียงผู้ชายสองคนดังขึ้นนอกบ้าน“ไอ้เหนือ! มึงจะเก็บผู้หญิงไว้คนเดียวหรือไงวะ!”“พวกกูแค่ขอดูใกล้ ๆ หน่อย ไม่แบ่งกันเลยเหรอ!”เหนือขยับลุกขึ้นช้า ๆ สะพายปืนพาดหลังแล้วเดินลงจากบ้านไปเงียบ ๆ ประตูไม้เปิดออกอีกครั้ง เผยให้เห็นใบหน้าเย็นชาและดวงตาคมเข้มที่เริ่มมีแววกร้าวราวกับเสือกำลังขึ้นเขี้ยว เขายืนอยู่หน้ารั้วไม้ไผ่ มองพวกผู้ชายสี่คนที่ยืนจ้องเข้ามาในบ้านของเขาอย่างหื่นกระหาย“มึงไม่ได้ยินกูบอกเหรอ” เสียงเขาทุ้มต่ำ แต่ชัดเจนและทรง
ตอนที่ 1 ผู้หญิงคนนี้ของกูเสียงใบไม้ไหวสะท้านกับลมเย็นยะเยือก ชายหนุ่มผู้หนึ่งยืนอยู่อย่างไร้เสียงเหนือโขดหินริมลำธาร ผิวแทนเข้มของเขากลืนไปกับผืนป่าที่เขียวจัด ร่างสูงใหญ่ในเสื้อเก่า ๆ สีซีด กางเกงทหารลุ่ยตรงปลายขา มีมีดพกเหน็บไว้ข้างสะโพกซ้ายและปืนสั้นซุกอยู่ในซองด้านขวา ทุกการเคลื่อนไหวของเขาแม่นยำ สงบ เยือกเย็น…และอันตรายเขาไม่พูดมาก ไม่ยิ้มบ่อยและไม่มีใครกล้าสบตานานเกินห้าวินาที ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้แนวป่า และคนในกลุ่มโจรเรียกเขาแค่ “ไอ้เหนือ” เหนือไม่เคยบอกใครว่าชื่อจริงว่าอะไร มาจากไหน แม้แต่หัวหน้าโจรที่เขาทำงานรับใช้มากว่าสองปีแต่ทุกคนรู้…ถ้าอยากอยู่รอดในป่าแห่งนี้ อย่าแตะต้องของของไอ้เหนือเด็ดขาด เขาเป็นมือขวา เป็นเสือเงียบที่คนทั้งกลุ่มเกรงใจ และไม่มีใครรู้เลยว่า...หลังดวงตาคมเข้มใต้เงาหมวกปีกกว้างนั้น ซ่อนบางสิ่งที่อันตรายกว่ากระสุนไว้มากกว่าที่พวกมันจะคาดคิดไม่ไกลจากจุดที่เหนือยืนอยู่ เสียงใบไม้แห้งลั่นกรอบแกรบขณะที่หญิงสาวในเสื้อแขนยาวสีครีมและกางเกงขายาวเปื้อนโคลนพยายามปีนข้ามเนินเตี้ยอย่างทุลักทุเล“แฮ่ก…แฮ่ก…บ้าเอ๊ย!” เมธาวีสบถ พลางถอดหมวกปีกกว้างออกปาดเหงื่อจา
ตอนที่ 8 กลางทุ่งหญ้าผกามาศจัดของว่างใส่ตะกร้า ขนมพื้นบ้าน และน้ำสมุนไพรหอมหวาน เธอเดินออกจากบ้านท่ามกลางแสงแดดรำไรย่ามบ่าย ที่ไม่ได้ร้อนมากนักเพราะมีเมกไม้และสายลมพัดให้ดน็นสบาย สายตาเธอทอดไปไกล เห็นร่างกำยำของขุนในเสื้อเชิ้ตบางสีขาว กำลังต้อนม้าอยู่กลางทุ่งหญ้าหัวใจเธอพองโตทุกครั้งที่มองสามี แม้ผ่านมาหลายปี มีลูกสาวแล้ว แต่เขายังเหมือนชายหนุ่มที่เธอตกหลุมรักใหม่ ๆ เสมอ“ขุนนน ! มานี่สิจ๊ะ ฉันเอาของว่างมาให้” ผกามาศโบกมือเรียก ส่งเสียงหวานเขาเงยหน้ามอง ยิ้มกว้างก่อนจะยกมือโบกตอบแล้วเดินตรงเข้ามา ส่วนเธอก็เดินเล่นเพลิน ๆ เก็บดอกหญ้าดอกเล็กสีม่วงข้างทางใบหน้าผกามาศยิ้มละไม สายลมพัดเรือนผมยาวปลิวไสว เธอไม่ทันรู้ตัวเลยว่าเงาใหญ่โตของเขา เข้าใกล้ขึ้นเรื่อย ๆทันทีที่ผกามาศก้มลงเด็ดดอกไม้ เงาหนักก็ทาบลงมาคลุมด้านหลัง แขนแข็งแรงโอบรัดร่างเธอจากด้านหลังจนเธอร้องกรี๊ดเบา ๆ“ว้าย! ขุน…! ตกใจหมดเลย”เขาหัวเราะพร่า กดจมูกลงสูดกลิ่นกายหอมที่ซอกคอเธอ “ก็คุณมัวแต่เก็บดอกไม้เพลิน ไม่เห็นผมเหรอครับ”ผกามาศตีแขนเขาเบา ๆ แต่ยังยิ้ม หน้าแดงจัด “ปล่อยได้แล้ว…”“ไม่ปล่อย” เขากระซิบเสียงทุ้มต่ำ พลัน







