Home / อื่น ๆ / รหัสลับลาเต้ / บทที่ 8 When the Cup Knows More Than You Do

Share

บทที่ 8 When the Cup Knows More Than You Do

Author: Bosskerr
last update Last Updated: 2025-06-30 21:04:55

เมื่อพายุผ่านไป ฟ้าหลังฝนก็สดใสเหมือนจิตใจของมีนาที่ได้รับการเยียวยาจากแสงแดดและผู้คนที่ตบเท้าเข้ามาที่ร้านราวกับกำลังทดแทนช่วงเวลาที่มาไม่ได้ก่อนหน้านี้ การที่ได้กลับมาสู่การทำงานทำให้ภาพที่ไม่น่าจดจำในอดีตเลือนหายไป

            และสิ่งที่เจ้าของร้านสาวไม่รู้เลยก็คือไม่ใช่แค่เธอที่รอไม่ไหวที่จะเปิดร้าน ลูกค้าหลายคนก็รอไม่ไหวที่จะเข้ามาใช้บริการด้วยเช่นกัน พวกเขาไม่เพียงแต่คิดถึงรสชาติของร้านนี้ ทว่ายังโหยหาข้อความที่ส่งมาไม่น้อย ข้อความพวกนั้นในไม่นานก็เหมือนถ้อยคำปลอบประโลมจิตใจที่ช่วยเยียวยาจากคนแปลกหน้า ที่ไม่เคยคาดหวังอะไรจากเราเลย

            การไม่คาดหวังนั่นแหละคือสิ่งที่หายากในยุคนี้

            แทนเองก็เป็นหนึ่งในลูกค้าที่มาตั้งแต่เช้า เนื่องจากคลาสที่ชายหนุ่มมีเรียนคือช่วงบ่าย ดังนั้นตอนเช้าเขาจึงว่าง ตามปกติแล้วแทนจะนอนอยู่ในหอพักจนกว่าจะเที่ยงแล้วค่อยลงมาหาอะไรกินตามประสาเด็กหนุ่มติดเกม ที่เกมเร็วไม่นับ เกมแพ้เริ่มใหม่ แล้วคิดว่าจะได้นอนตอนไหนกัน?

            ถึงจะเพลียแต่ความสนใจในร้านนี้ก็ทำให้ชายหนุ่มมาแต่เช้า คราวนี้เขาสั่งแซนวิสมารองท้อง ก่อนจะพบว่าลายฟองนมของลาเต้ได้มีลายที่เขาชอบในวันนี้อยู่ในรายการต้น ๆ ของเมนู ไม่ต้องไถหาให้เมื่อยต่างจากปกติที่อยู่กลาง ๆ แทนหยุดคิดเพียงครู่เดียวก่อนจะรีบสั่งเมื่อท้องเริ่มคำรามออกมา

            เมื่อท้องหิวจะให้สมองคิดอะไรก็ไม่ออกทั้งนั้น

            “มาแล้วค่ะ ทานให้อร่อยนะคะ”

เมื่อเจ้าของร้านนำของมาเสิร์ฟ ก็พบว่ามีกล้วยแถมมาให้อีกลูกราวกับรู้ว่าแค่แซนวิสไม่น่าจะพอยาไส้เด็กหนุ่มวัยกำลังโต และในขณะที่กำลังทานแซนวิส ข้อความก็เข้ามาตรงเวลา

            ติ๊ง!

            “บางทีคุณอาจไม่ได้ต้องการลาเต้ แต่อยากอาหารดี ๆ และที่พักสักงีบมากกว่า”

            แค่เห็นข้อความที่เต็มไปด้วยความห่วงใยจากคนแปลกหน้าก็ทำให้แทนอยากจะเอนหลังนอน ใช่แล้ว ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่กาแฟสักแก้วหรือการสังเกตการณ์ แต่เป็นอาหารและการพักผ่อนดี ๆ สักงีบ

            “ขอโทษนะครับ ขอเปลี่ยนแก้วเป็นแบบกลับบ้านได้ไหมครับ”

“แน่นอนค่ะ”

***

            น้ำผึ้งหอบหิ้วคอมออกมาทำข้างนอกหลังจากที่เจ้าของห้องพักมาตะโกนด่าตั้งแต่เช้าเรื่องการค้างค่าเช่า พร้อมคำขู่เรื่องการล็อกห้องและโยนของออกไป ทำให้หญิงสาวต้องหอบหิ้วเครื่องมือทำมาหากินออกมาเดินเตร่ข้างนอก เมื่อเห็นร้านกาแฟติดแอร์ที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวอย่าง The Break หญิงสาวก็เข้าไปทันที

            “ยินดีต้อนรับค่ะ”

            เสียงต้อนรับจากเจ้าของร้านสาวที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ทำให้น้ำผึ้งรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง เมื่อพบว่าโต๊ะที่ว่างอยู่ที่ปลั๊กให้ใช่งานหญิงสาวก็แทบจะร้องไห้ด้วยความยินดี ตอนนี้เธอไม่กล้าใช้ไฟใช้น้ำที่ห้องด้วยซ้ำหลังจากค้างค่าห้องมาสองเดือน ตอนนี้เธอต้องหาค่าห้องมาอย่างน้อยเดือนหนึ่งถึงจะไม่โดนไล่ออกจากห้อง

            ถ้าออกแล้วเธอก็ไม่รู้จะไปไหนแล้วเหมือนกัน

            หรือบางทีเธอควรล้มเลิกเรื่องความฝันโง่ ๆ นี่ดี? หญิงสาวมองภาพในคอมหลังจากเปิดขึ้นมาด้วยความรู้สึกปนเปอย่างบอกไม่ถูก ภาพในคอมคือภาพการออกแบบจิวเวลรีทั้งเซต ไม่ว่าจะเป็นสร้อย แหวนและต่างหูที่เข้าชุด ความฝันของเธอคือการเป็นเจ้าของแบรนด์ ถึงขนาดที่มาเรียนสายนี้โดยขัดความตั้งใจของพ่อแม่ ไม่ได้กลับบ้านไปหลายปี

            แต่ตอนนี้หลังจบแล้วเธอก็เจอปัญหาที่ใหญ่ที่สุด

            การเริ่มต้นเป็นเจ้าของนั้นต้องใช้ต้นทุนจำนวนมาก ต่อให้เปิดพรีออเดอร์ก่อนแต่การเก็บมัดจำนวนมากขนาดนั้น น้ำผึ้งจะเอาเครดิตจากไหนมาค้ำประกันว่าจะได้ของแน่นอนไม่ใช่พวกมิจฉาชีพ โดยเฉพาะสมัยนี้ที่มีการหลอกหลวงในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน คนฉลาดแค่ไหนก็ตกเป็นเหยื่อได้ขอแค่หลงกลพวกมันไป

            ทำให้ตอนนี้อยู่ทางตัน เงินเก็บที่มีก็กำลังหมด...

            “เฮ้อ...ช่างมันก่อนล่ะกัน สั่งออนไลน์ได้? มีอะไรถูก ๆ ให้กินบ้าง”

น้ำผึ้งเลิกคิดชั่วคราวแล้วดูเมนูออนไลน์ว่าสั่งอะไรดีให้ไม่น่าเกลียดดี เพราะตอนนี้เธอก็ตั้งฐานเอาคอมออกมาเรียบร้อย จะไม่สั่งอะไรเลยก็เกินไป

ซึ่งก็พบว่าราคาขนมและเครื่องดื่มในร้านนี้อยู่ที่รับได้มากกว่าร้านกาแฟแฟรนไชส์ชื่อดังหลายเจ้า ทำให้กัดฟันสั่งแซนวิสสลัดไข่ที่ราคาถูกที่สุดมาหนึ่งอย่าง จากนั้นก็ดูเครื่องดื่มแล้วพบว่าลาเต้ร้อนมีราคาที่ดี การเพิ่มคาเฟอีนในร่างกายอาจช่วยให้คิดออกว่าจะเอายังไงกับอนาคตก็ได้

แถมที่สำคัญเลยตกแต่งฟองนมฟรีด้วย

เมื่อเข้าไปถึงหน้าเลือกลวดลายของลาเต้ หญิงสาวก็พบว่ารูปแหวนเพชรในหน้าแรกมันสะดุดตาจนเลื่อนไปดูอันไหนก็ไม่น่าสนใจเท่าไร สุดท้ายก็กลับมาเลือกอันแรกก่อนจะกดสั่งไป แล้วก็กลับมาเรื่องเดิม

เธอจะเอายังไงดี เริ่มต้นธุรกิจหรือหาเงินก่อน? แล้วถ้าหาเงินก่อนจะทำในสายไหนดี จะทิ้งความฝันที่ตัวเองยอมลำบากมานานไปจริง ๆ เหรอ จะปล่อยให้ผลงานพวกนี้จมหายไปในไฟล์มากมายจริง ๆ เหรอ แต่ต่อให้ดิ้นรนตามฝันแล้วจะประสบความสำเร็จได้เหรอ?

“ขออนุญาตเสิร์ฟของนะคะ”

เสียงของเจ้าของร้านทำให้น้ำผึ้งรู้สึกตัวแล้วหันไปพยักหน้า ก่อนจะหยิบแซนวิสมากินแก้หิวทันทีแต่ไม่นานมือถือของเธอก็มีข้อความเด้งเข้ามา

ติ๊ง!

“คนที่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่คนที่ไม่เคยล้มเหลว แต่เป็นคนที่ไม่เคยล้มเลิกในสิ่งที่ตัวเองต้องการจะทำ”

“ไม่เคยล้มเลิกในสิ่งที่ตัวเองต้องการจะทำงั้นเหรอ...?”

หญิงสาวอ่านแล้วทบทวนกับตัวเองอีกครั้ง

ทำไมเธอต้องสร้างทางเลือกสุดโต่งให้ตัวเองด้วยล่ะ ไม่ทำงานอื่น ก็ต้องสร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้น ทำให้เธอไม่เคยพิจารณาถึงเรื่องง่าย ๆ อย่างการเข้าไปทำงานในสายนี้ก่อน

เข้าไปเรียนรู้ในบริษัทใหญ่ ยื่นพอร์ตที่ตัวเองสะสมเอาไว้ ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งประสบการณ์และอาจจะได้เส้นสายด้วย บางทีนี้อาจจะเป็นทางที่ง่ายกว่าและดีต่อตัวเองด้วย ทำไมถึงไม่เคยคิดถึงเส้นทางนี้มาก่อนนะ?

“เอาล่ะ ตอนนี้มีบริษัทไหนมองหาพนักงานบ้าง”

เมื่อคิดได้อย่างนั้นน้ำผึ้งก็ลงมือทันทีในการหางานทั้งที่ยังกินไม่เสร็จด้วยซ้ำ

ดวงตาของเธอไม่เหนื่อยล้าและดูเหมือนคนตายอีกต่อไป

***

            ปอนด์ในชุดพนักงานร้านอาหารที่เพิ่งเลิกทำงานก็เดินโซเซเข้ามาในร้านเพื่อสั่งแบบกลับบ้าน โดยเลือกลาเต้แก้วโปรดและลายเมฆที่ขึ้นมาเป็นอันแรกก่อนจะรอโดยนั่งบนที่นั่งรอข้างผนังกระจกอย่างอ่อนเพลีย

            เขาต้องการกาแฟให้ตื่นตัวเพราะหลังจากนี้อีกครึ่งชั่วโมงเขาต้องไปเรียนต่อ ถ้าไม่ติดว่าเดือนนี้เขาต้องการเงินเพิ่มปอนด์คงไม่รับกะควบแบบนี้หรอก การเกิดมาด้วยครอบครัวยากจนก็เป็นต้นทุนชีวิตที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินอยู่แล้ว เมื่อต้องทำงานไปด้วย รักษาเกรดไปด้วยเพื่อทุน มันทำให้ปอนด์เหนื่อยจนไม่อยากจะไปเรียนด้วยซ้ำ

            แต่คนอย่างเขาจะมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ด้วยการศึกษาเท่านั้น ถ้ายอมแพ้ตอนนี้สิ่งที่เขาและครอบครัวพยายามดิ้นรนมาจะไม่สูญเปล่าหรือไง ถึงจะเหนื่อย ถึงจะมองไม่เห็นความหวัง แต่ถ้าได้งานที่ดีขึ้นมันก็อาจจะ...

            “หมายเลข 33 เครื่องดื่มได้แล้วค่ะ”

            “ครับ”

เมื่อถึงคิวตัวเองปอนด์รีบลุกขึ้นไปเอากาแฟอุ่น ๆ ที่เมื่อส่องผ่านฝาใสก็เห็นลวดลายเมฆอันเป็นอิสระได้อย่างชัดเจนและหลังจากที่ดื่มไปได้เพียงไม่กี่อึก มือถือก็เด้งข้อความเข้ามา

            ติ๊ง!

“อย่าอ้างต้นทุนชีวิตว่าต่ำกว่าใคร ผลกำไรขึ้นอยู่ที่ใจและความพยายาม”

เมื่อเห็นข้อความนี้แล้วปอนด์ก็อยากจะหัวเราะให้ฟันหัก เขาพยายามไม่พอหรือไง เขาโทษต้นทุนชีวิตไม่ได้หรือไง ที่เส้นสตาร์ตของคนอื่นขับรถยนต์ ขี่มอเตอร์ไซค์ หรือปั่นจักรยาน ส่วนเขาเหรอ? ยิ่งกว่าวิ่งด้วยเท้าคือการต้องถือรถเข็นที่แบกพ่อแม่ไปด้วย

ให้เขาโทษหน่อยไม่ได้หรือไง

“หือ ครับอาจารย์”

ขณะที่กำลังหัวเราะเยาะข้อความ ชายหนุ่มก็ได้รับข้อความจากที่ปรึกษา ก่อนที่จะยิ้มกว้างจนหยุดไม่ได้

เขาได้ทุนเพิ่มเติมจากเถ้าแก่ร้านอาหารที่เขาไปทำงานให้ ทางนั้นสนใจอยากได้เขาไปเป็นเซฟหลังจากเห็นความพยายามและการขยันขันแข็งของเขา เรียกได้ว่าเป็นทุนให้เปล่าที่ไม่ต้องใช้คืน พร้อมกับข้อเสนอในอนาคตที่ทำให้เขาลดกะการทำงานได้เลย

บางทีอาจจะจริงอย่างที่ข้อความว่าก็ได้!

***

            “ล้อเล่นป่ะเนี่ย!!”

            ต้นกล้าตะโกนด้วยความหงุดหงิดหลังจากพบว่าเงินลงทุนส่วนใหญ่ที่เขาสะสมเอาไว้จากเงินทำงานกว่า 3 ปีที่เอามาลงทุนกับเพื่อนหายวับไปกับตาในคืนเดียว

            “กูไม่ได้ล้อเล่น มันเกิดการ...”

“หุบปากดิ! สรุปแล้วเงินก็จมหมดแล้วไม่ใช่หรือไงวะ!”

“ยังไม่หมด แต่...”

“แล้วมันต่างกันตรงไหน!”

ต้นกล้าวางสายด้วยความหงุดหงิด หน้าตาบูดบึ้งด้วยความโกรธ ก่อนที่จะเป็นสโตรกหรือเส้นเลือดในสมองแตก ชายหนุ่มวัยทำงานก็เดินเข้าร้านแอร์ร้านแรกที่ใกล้ที่สุดเพื่อสงบอารมณ์ของตัวเอง

หลังจากนั่งพักได้สักพักก็พบว่าตัวเองอยู่ในร้านกาแฟที่แสนอบอุ่น เป็นส่วนตัว เสียงเพลงคลอเบา ๆ ช่วยให้ความโกรธลดลงได้ ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้หายใจง่ายขึ้น และกลิ่นของกาแฟในบรรยากาศทำให้หว่างคิ้วของเขาคลายตัวลง

เอาล่ะ สั่งอะไรสักอย่างดีกว่า

เมื่อเห็นว่าสั่งออนไลน์ได้ต้นกล้าก็มองหาอะไรง่าย ๆ ดื่มก่อนจะพบว่าลาเต้ของร้านวาดลวดลายฟองนมให้ฟรี เขาเลยสนใจสั่งมาลองแก้วหนึ่ง และลายที่เขาสะดุดตากลับเป็นลายพระอาทิตย์ลายแรกที่โชว์ขึ้นมา ไม่ว่าเขาจะเลื่อนไปอันไหน ลายพระอาทิตย์ก็ยังติดอยู่ในใจ ทำให้สุดท้ายเขาก็เลือกอันนี้

“ออเดอร์มาแล้วค่ะ”

เมื่อเจ้าของร้านสาวมาเสิร์ฟ ต้นกล้าก็พบว่าภาพของดวงอาทิตย์ค่อนข้างมีเอกลักษณ์และคมชัดเป็นพิเศษ แต่ในขณะที่กำลังพินิจลายอยู่ก็มีข้อความเข้ามา

“ชีวิตมีขึ้นและก็มีลง เวลาขึ้นอย่าหลง เวลาลงอย่าท้อ”

ต้นกล้ามองข้อความที่เหมือนมานั่งอยู่ในใจตัวเองด้วยจิตใจที่สงบลงมากแล้ว มันทำให้ชายหนุ่มคิดออกมาได้ว่าเพื่อนของเขาเหมือนยังพูดไม่จบ ไอ้แต่นี่มันอะไรกัน? ยิ่งคิดยิ่งสงสัย สุดท้ายชายวัยทำงานเลยตัดสินใจโทรไปทันที

“เฮ้ย! สรุปแล้วมันต้องการบอกอะไรวะ...”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รหัสลับลาเต้   บทที่ 20 Decode Me When You’re Ready

    “ครับ ผมกำลังจะกลับแล้วจริง ๆ ครับแม่”แทนที่เติบโตขึ้นจนไม่เหลือคราบของเด็กเนิร์ดคนเดิมพูดอย่างอ่อนโยนกับปลายสายขณะที่เก็บกระเป๋าของตัวเอง “ก็ตั้ง 5 ปีแล้วนะที่แกไม่ได้กลับมาน่ะแทน” “แม่ครับ ผมกลับไปฉลองปีใหม่กับที่บ้านทุกปีเถอะ ปีที่แล้วผมยังดื่มกับพ่อจนแม่ถ่ายภาพที่เลื้อยไปกับพื้นลงเฟซ ผมไม่ลืมนะครับ” “ก็ใครใช้ให้พ่อกับแกเมาขนาดนั้นล่ะ แล้วมันก็ไม่เหมือนกันนะ แกมาแป๊บเดียวก็ไม่เหมือนกลับมาหรอก”“ก็ได้ครับ ตอนนี้ผมก็กำลังกลับไปไงครับ คราวนี้ผมอยู่ยาวแน่เพราะผมกำลังจะย้ายไปคุมงานที่ไทย”ด้วยความที่แทนทำงานด้านวิศวกรฮาร์ดแวร์มากว่า 5 ปีก็ขึ้นซีเนียร์มากประสบการณ์ได้ ทำให้ทางสาขาใหญ่ตัดสินใจส่งเขากลับไปคุมบริษัทที่บ้านเกิดอย่างประเทศไทยหลังจากที่ชายหนุ่มส่งคำขอไปพักใหญ่ มันเป็นการเลื่อนตำแหน่งที่แทนพอใจมากที่สุดเพราะเขาเองก็คิดถึงครอบครัวมากเช่นกัน“จะกลับมาตรงเวลาไหม” พ่อถามแทรกขึ้นมาในสาย“ไม่แน่ใจครับ ถ้าเที่ยวบินไม่มีปัญหาก็ตรงเวลา”“งั้นพวกเราจะไปรอแกนะ”“ขอบคุณครับ และ...คราวนี้ผมคงไม่คิดจะไปทำงานต่างประเทศสักพักแล้วล่ะ”“ให้มันได้อย่างนั้นสิ แ

  • รหัสลับลาเต้   บทที่ 19 The Cup That Changed a City

    แทนทำการศึกษาและหาแนวทางในการใช้โค้ดนี้อย่างพิถีพิถันเพื่อไม่ให้ความคาดหวังของพี่มีนาที่มอบมันให้เขาต้องสูญเปล่า แถมเขายังยุ่งกับการฝึกงานที่ต้องใช้ความพยายามหนักมาก ไม่ว่าจะเรื่องภาษา ระบบการทำงาน สิทธิของพนักงานและรวมไปถึงการทำงานจริง ๆ ที่กินเวลาของเขาไปมากทำให้กว่าจะมีเวลาจริง ๆ ก็เป็นหลังจากที่ผ่านโปรไปแล้ว จากนั้นก็ต้องมาคิดว่าแอปนี้ควรจะปล่อยแค่ในไทยเท่านั้นหรือเปล่า? ตลอดเวลาที่เขาทำงานอยู่ที่นี่ก็พอจะมีเวลาเดินหาย่านของกิน ทำให้ทราบว่าแถวนี้มีร้านกาแฟเป็นหลักเป็นแหล่งเยอะกว่า ด้านรสชาติถึงจะแปลกลิ้นไปบ้างแต่คุณภาพก็ไม่ได้ด้อยไม่กว่าใครแต่...จุดกำเนิดมันอยู่ที่ไทยและข้อความก็เป็นภาษาไทย ไม่รู้ว่าบรรยากาศ การแสดงออกและการเลือกของคนต่างชาติจะเหมือนมากน้อยแค่ไหน ด้วยวัฒนธรรม ศาสนาและกฎหมายที่แตกต่างกัน การแสดงออกของผู้คนต่อบางสิ่งย่อมต่างกัน ทำให้เขาไม่แน่ใจว่าจะได้ผลแค่ไหนยังไม่นับรวมที่เขาต้องหาคลังคำศัพท์เพิ่มซึ่งไม่รู้ว่าจะกินใจเหมือนของภาษาไทย และพวกเขาจะเปิดใจหรือแค่มองผ่านว่ามันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการขายเท่านั้น เฮ้อ...ไม่ว่าจะคิดแบบไหนก็มีแต่อุปสรรคทั้งนั้น แ

  • รหัสลับลาเต้   บทที่ 18 The Latte You’ll Never Forget

    “เฮ้ย! จะจบแล้วก็เงียบ ๆ หน่อยดิว่ะ ใครยังไม่จ่ายเงินเซค อย่าหวังว่าจะได้ไปบายเนียร์[1] นะมึง”เหรัญญิกของเซคพูดเสียงเข้ม ทำให้แทนเงยหน้าขึ้นมาจากแท็บเลตแล้วเริ่มรู้สึกตัวจริง ๆ ว่าเขากำลังจะเรียนจบแล้ว ปีหนึ่งผ่านไปเร็วมาก เขายังรู้สึกเหมือนว่าเพิ่งเจอร้านกาแฟเปิดใหม่ไม่นานมานี้นี่เอง เขายังรู้สึกเหมือนว่าเพิ่งจดทฤษฎีเกี่ยวกับลายลาเต้ และเขาเพิ่งได้มีโอกาสร่วมแก้โค้ดสำคัญและออกความเห็นเกี่ยวกับแอปที่เปลี่ยนวิธีการมองโลกของเขาไปตลอดกาล และแป๊บเดียวเขาก็กำลังจะเรียนจบแล้ว “แทน! ครูปวินเรียก”ขณะที่กำลังเหม่อลอย หัวหน้าเซคก็เข้ามาเรียก ทำให้ผมเดินไปที่ห้องพักอาจารย์ทันที ครูปวินคือที่ปรึกษาเล่มจบของผม ธีสิสไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะครูชมมาตั้งแต่ต้นว่าเขาคิดหัวข้อได้ วางแผนการทำงานได้เยี่ยม และตอนที่พรีเซ้นต์จบอาจารย์ทุกคนก็ให้ผ่าน ดังนั้นที่ครูปวินเรียกเขาไปวันนี้คงไม่ใช่ปัญหาเรื่องธีสิสแน่นอน “สวัสดีครับครู มีอะไรหรือเปล่า”แทนถามแล้วไปนั่งที่เก้าอี้ในห้องอาจารย์ที่เตรียมไว้สำหรับแขกที่เข้ามา “ครูได้รับข้อเสนอที่ดีม

  • รหัสลับลาเต้   บทที่ 17 The Man Who Couldn’t Be Coded

    แทนคิดว่ากระแสตอบรับของ LatteCode เป็นไปได้ด้วยดีกว่าที่คาดเอาไว้เยอะ จนเริ่มมีร้านกาแฟขอติดต่อมาเอง ซึ่งชายหนุ่มก็จะเน้นย้ำว่านี้ยังเป็นแอปเบต้าเทสที่ยังไม่สมบูรณ์ อาจจะมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงในอนาคตได้เสมอ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ยอมรับและโอเคกับมันเพราะตอนนี้หลายคนกำลังมองหาอะไรแบบนี้ อะไรสักอย่างที่ช่วยเยียวยาจิตใจได้ในช่วงเวลาที่ทุกคนต่างก็ย่ำแย่กันทั้งนั้น ทว่าข้อความที่ได้รับการประมวลผลมาจากบรรยากาศ สีหน้าและการเลือกลวดลายบนฟองน้ำไม่ได้จะล่วงรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนได้ทั้งหมดมันแค่ทำการเคาเดาตามข้อมูลที่มีอยู่ในระบบ มันไม่สามารถรู้ลึกไปถึงอดีตของใครได้ มันไม่สามารถปรับเปลี่ยนข้อความไปตามการแปรปรวนของอารมณ์ได้ มันไม่สามารถซ่อมแซมบาดแผลใจใน หรือว่าตอบโต้เพื่อคาดความเหงา ความเศร้าให้กับคนได้อย่างจริงจังสิ่งที่มันทำก็คือการส่งข้อความที่ประมวลผลแล้วว่ามีประโยชน์ประโยคหนึ่งมาให้เท่านั้น การที่ผู้ใช้จะได้รับการช่วยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับคนที่ได้รับว่าเปิดรับมากเพียงใด ทว่า...มันยังมีอีกหลายคนที่ข้อความเหล่านี้ช่วยไม่ได้ เพราะสิ่งพวกเขาเหล่านั้นต้องการจริง ๆ ไม่ใช่แค่ข้อความจ

  • รหัสลับลาเต้   บทที่ 16 The Line Between Code and Soul

    “แล้วเราจะเอาไปปล่อยยังไงดี”นั่นคือคำถามสำคัญของมีนาและแทนที่มีร่วมกันหลังจากที่แก้โค้ดของแอปจนเสร็จตามที่พวกเขาตั้งใจเอาไว้ทุกประการ“ยังไงแอปนี้ก็เหมาะสำหรับผู้ใช้บริการร้านกาแฟทั้งหลาย เพราะงั้นต้องเอาแอปส่วนที่เป็นเจ้าของร้านไปแจกจ่ายก่อนเพื่อให้ลงเมนูของร้านตัวเอง ก่อนที่จะให้ลูกค้าสั่งได้”มีนาพูดอย่างเป็นการเป็นงาน“งั้น...ถ้าเราทำคล้ายแอปสั่งอาหารล่ะ แอปโชว์ร้านกาแฟที่เข้าร่วมกับแอป Latte Code แล้วเลือกไปที่ร้านนั้น ๆ เพื่อสั่งล่วงหน้าก่อนไปรับที่ร้านได้”แทนเสนอแนวคิดที่เอามาจากแอปสั่งอาหารในปัจจุบัน“แต่เราไม่มีตัวช่วยส่งออนไลน์”“ก็เราทดลองในวงแคบก่อนไม่ใช่เหรอพี่ งั้นเราก็แค่ไปเสนอให้ร้านกาแฟที่สนใจว่าสิ่งนี้จะเป็นเมนูออนไลน์ที่ให้ผู้คนดูได้ว่ามีอะไรน่าสนใจ และเมื่อสั่งลาเต้ไปก็จะได้ข้อความ”“ปัญหาคือลาเต้อาร์ตไม่ใช่อะไรที่ร้านทั่วไปจะมีให้หรอกนะ”มีนาชี้ให้เห็นถึงเรื่องที่สำคัญที่สุด“งั้นเราก็เข้าหาแต่ร้านที่มีสิพี่ เดี๋ยวผมช่วยในเรื่องนี้เอง”“แต่ว่าเราไม่ได้ให้การโฆษณาหรือค่าตอบแทนอะไร แล้วร้านพวกนั้นจะยอมใช้เหรอ”“พี่มีนา ผมจะหาร้านที่เข้าใจในสิ่งที่เราทำ เรื่องนี้พี

  • รหัสลับลาเต้   บทที่ 15 The Hidden Message

    “จะว่าไป ฉันก็ไม่มีช่องทางติดต่อนายเลยนะแทน” นั้นคือประโยคต้อนรับชายหนุ่มที่หลังเลิกคลาสก็เดินสะโหลสะเหลคล้ายซอมบี้ที่เพิ่งปีนขึ้นมาจากหลุมศพไม่น้อยเหตุผลหนึ่งของอาการนี้ก็คนถามนี่แหละ ชายหนุ่มไม่คิดมาก่อนว่าการสอบนอกตารางแบบนี้จะทำเขาเครียดได้ขนาดนี้ และอีกเหตุผลหนึ่งคือแทนต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขแอปนี้จริง ๆ เขาอยากมีส่วนช่วยเหลือผู้คนแม้เพียงเล็กน้อย อุดมการณ์และความคาดหวังของมีนานั้นน่าชื่นชมมากเดี๋ยวนี้จะหาคนที่คิดแบบนี้ได้จากไหนอีก“ผมก็ไม่มีช่องทางติดต่อพี่เหมือนกัน ว่าแต่จะเอาไปทำอะไรครับ”“ก็ถ้าเราจะแก้ไขโค้ดด้วยกัน เราก็ควรจะติดต่อกันได้มากกว่าแค่รอแทนมาที่ร้านไม่ใช่เหรอ?”หญิงสาวถามพร้อมรอยยิ้มที่ทำให้ชายหนุ่มที่หมดแรงเมื่อครู่มีแรงลุกขึ้นยืนได้ด้วยความตื่นเต้น“นี่หมายความว่าผมผ่านแล้วเหรอครับ!”“ใช่แล้วสำหรับเด็กที่ยังเรียนไม่จบ นายถือว่าเก่งเลยล่ะ ดังนั้นถือว่าเป็นการฝึกล่วงหน้าล่ะกัน เค้กฟรี กาแฟฟรีพอเป็นค่าตอบแทนได้ไหม”มีนาพูดหยอกเล่นแต่ก็วางเค้กส้มของโปรดให้บนตะของแทนจริงๆ“ต่อให้ทำฟรีผมก็ทำ พี่ก็รู้นี่น่า”“แล้วจะเอาไหมเค้ก?”“เอาสิครับ ของฟรีแบบนี้ใครจะไม่เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status