Home / อื่น ๆ / รหัสลับลาเต้ / บทที่ 9 Brewing Patterns

Share

บทที่ 9 Brewing Patterns

Author: Bosskerr
last update Last Updated: 2025-06-30 21:05:16

หลังจากแทนได้พักผ่อนและเรียนเพิ่มเติม ชายหนุ่มก็สังเกตได้ว่าแอป LatteCode ได้มีการอับเดตอย่างเงียบ ๆ จนแทบไม่เป็นที่สังเกตด้วยซ้ำ เรื่องแบบนี้เขาจะมั่นใจได้ก็ต้องใช้ข้อมูลจากคนจำนวนมากหน่อย ซึ่งก็ไม่มีช่องทางไหนจะดีไปกว่าแท็กร้านอีกล่ะ

#TheBreak

            -รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้ร้านชงลาเต้เร็วขึ้นหรือเปล่า

            -นั่นสิ ปกติค่อนข้างนานเพราะลูกค้าร้านนี้ชอบสั่งลาเต้ แล้วก็ต้องรอวาดลาย

            -ดูเหมือนว่าจะซื้อเครื่องพิมพ์ฟองนมมาใช้นะ ฉันแอบมองเข้าไปในเคาน์เตอร์ ตอนลูกค้าเยอะ ๆ ก็เปิดเครื่องนั้นเลย

            -ไม่คิดว่าปีบเดียวร้านต้องถอยเครื่องแบบนี้มา มันคุ้มไหมเนี่ย ราคาทรงสืบ[1]มาก

            -ว่าเข้าไปนั่น พี่สาวเจ้าของร้านเขาเป็นที่ไหน ทรงเนิร์ดมากขนาดนั้น

            -นั่นสิ

            -ว่าไปใครสังเกตไหมว่าตอนให้เลือกลายลาเต้มันแปลก ๆ เปิดแต่ละครั้งลายมันไม่ได้อยู่ที่เดิม

            -ใช่ ระบบสุ่มหรือเปล่า

            -แล้วทำไมมันเลือกลายที่ฉันชอบขึ้นมาอันดับต้น ๆ ตลอดได้เลยล่ะ มันไม่มีระบบให้กรอกสมาชิกสักหน่อย

            -หรือใช้บ่อย ๆ แล้วมันจับจุดเราได้เหรอ?

            -แอปเมนูส่วนใหญ่เป็นแบบนี้เหรอ?

            -ไม่รู้สิ แต่ไม่มีการร้องขอข้อมูลอย่างอื่นเลยนะ เป็นไปได้ไหมว่ามันจะเป็นเรื่องบังเอิญ?

            -แล้วพวกข้อความที่ส่งมาหลังจากได้เมนูล่ะ

            -สุ่มส่งคำคมให้กำลังใจ?

            -งั้นมีใครได้ข้อความที่ไม่ตรงกับอารมณ์ตรงนั้นบ้างแสดงตัวหน่อย อยากจะเป็นพวกได้ของแรร์

            -...

            -...

            -เดี๋ยวนะ การถูกลอตเตอรี่ยังมีถึง 1.42% แต่จะไม่มีคนได้ข้อความที่ขัดต่ออารมณ์บ้างเลยหรือไง?

            จากการที่ตามอ่านมาเหมือนว่าหลายคนจะได้ผลลัพธ์อันเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับข้อความที่ทะลุเข้ามาในใจได้อย่างง่ายดาย หลายคนแม้จะรู้สึกว่ามันแปลกแต่ก็ยังอยากได้รับข้อความอันปลอบประโลมพวกนี้อยู่ดี มันคือคำพูดที่พวกเขาต่างต้องการจากใครสักคนหนึ่ง

            ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีครอบครัวเป็นเซฟโซน

            ซึ่งเมื่อแทนได้ย้อนนึกคิดไปเขาก็พบว่าน่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะลายที่เขาอยากได้นั้นขึ้นมาอยู่อันดับต้น ๆ ของเมนูทั้งที่มันไม่ใช่ลายที่อยู่ตรงนั้น หลายคนก็เป็นเสียงเดียวกัน แต่...ถ้าจะให้แน่นอนต้องที่ร้านอีกครั้งเพื่อยืนยัน

            ทันทีที่ตัดสินใจได้ชายหนุ่มก็รีบแต่งตัวและออกไปข้างนอกทันที ด้วยความโชคดีของเขาร้าน The Break อยู่ไม่ไกลเท่าไร ห่างไปแค่สองซอย เมื่อต้องเดินไปร้านนี้ทุกวันมันทำให้เกิดความเคยชินจนแทบไม่เหนื่อยเลย ชายหนุ่มที่เปิดประตูร้านเข้าไปก็พบว่าที่นั่งประจำของเขาว่างพอดี จึงไม่ลังเลที่จะเข้าไปนั่งทันทีราวกับกลัวว่าจะมีคนมาแย่ง

            ก็นะ ใครใช้ให้ภายในร้านที่นั่งน้อยเกินไปล่ะ

            เมื่อได้ที่นั่งประจำแล้ว แทนก็วางสมุดและแท็บเลตที่มีข้อมูลของร้านและแอป LatteCode อย่างคลุมเครือ และวันนี้เขามาเพื่อค้นหาความลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าแล้วชายหนุ่มก็เปิดแอปขึ้นมา ก็พบว่าเมนูส่วนของการเลือกลวดลายนั้น...

            มีแพทเทิร์นของมัน

            เมื่อตรวจสอบลายฟองน้ำทั้งหมดแล้ว พบว่ามันมีเยอะขึ้นกว่าเดิมมาก บางภาพดูยังไงก็ไม่น่าจะวาดขึ้นมาด้วยมือได้ แสดงว่าแอปนี้ได้รับการอัพเดตหลังจากที่เจ้าของร้านซื้อเครื่องพิมพ์ฟองน้ำเข้ามาใหม่สินะ จากรูปแบบการนำเสนอลวดลายแล้ว...ชายหนุ่มก็หยิบสมุดออกมาเพื่อจดความคิดของตัวเองทันที

            ลาเต้อาร์ตเป็นส่วนหนึ่งของศิลปะ และศิลปะส่วนใหญ่ก็มีศักยภาพในการสื่อถึงอารมณ์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด จึงต้องอาศัยองค์ประกอบมากมายในการถ่ายทอดข้อความ แล้วในบรรดาสิ่งเหล่านี้ เส้นที่ประกอบขึ้นมาเป็นรูปภาพถือเป็นผู้ส่งสารความรู้สึกและอารมณ์อันทรงพลัง แสดงถึงสิ่งที่จับต้องไม่ได้อย่างเงียบ ๆ แต่มีชีวิตชีวา

            อย่างแรกเลยลายอันดับบนที่นำเสนอให้ชายหนุ่มเป็นลายที่เขารู้สึกว่าใช่ นั้นประกอบได้ด้วยภาพต้นไม้หรือน้ำตก ซึ่งน่าจะเกี่ยวกับอารมณ์ในตอนนี้ของเขาที่ค่อนข้าอยากรู้อยากเห็น ตื่นเต้นและเฝ้ารอคอย ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบไปด้วย...

            “ขอโทษนะคะ นี่ค่ะเครื่องดื่ม”

หญิงสาวเจ้าของร้านขัดจังหวะอย่างอ่อนโยน  

“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มรีบตอบ เขาจำแทบไม่ได้ว่าเลือกเครื่องไปตอนไหน ซึ่งมันเป็นลายป่าที่มีเงาของสัตว์ตัวเล็ก ๆ อยู่ข้างใน

ติ๊ง!

“ความล้มเหลวที่น่ากลัวที่สุด คือ การกลัวที่จะเริ่มต้นเสียตั้งแต่แรก”

ข้อความนี้ดังขึ้นมาทำให้แทนสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ แล้วมองไปรอบร้านอย่างหาข้ออ้างแต่พบว่าช่วงเหล่านี้ของวันกลับไม่มีลูกค้าอย่างน่าประหลาด แม้แต่เจ้าของร้านยังไปนั่งหน้าคอมเลย ถ้าเป็นตอนนี้เขาถามได้ไหมนะ?

เอาล่ะ บางทีเขาอาจจะร่างทฤษฎีแล้วค่อยไปถามทีเดียวก็ได้ ยังไงก็ไม่ได้สนิทขนาดนั้น

แต่ถ้าไม่เข้าไปคุยแล้วจะสนิทกันตอนไหนล่ะ?

แทนยีหัวตัวเองอย่างยุ่งเหยิงก่อนจะดื่มลาเต้ไปอีกอึกใหญ่แล้วจับปากกาขึ้นมาเพื่อเขียนทฤษฎีของตัวเองอีกครั้ง ภาพแถวแรก ๆ นำเสนอให้เขาไปประกอบไปด้วยลายต้นไม้ ป่าและน้ำตก ซึ่งประกอบด้วยเส้นแนวตั้ง ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่ง ความมั่นคง และการเติบโต น่าจะเหมาะกับคนที่ต้องการแรงบันดาลใจ และการเคลื่อนไหว แล้วเส้นแนวตั้งยังสามารถแสดงถึงความเป็นทางการและอำนาจได้อีกด้วย

แถวถัดมารูปภาพชายหาดที่มีดวงอาทิตย์ขึ้นและทุ่งหญ้าที่ประกอบด้วยเส้นแนวนอนเป็นหลัก เส้นแนวนอนมักทำให้เกิดความรู้สึกสงบ มั่นคง และเงียบสงบ ซึ่งน่าจะเหมาะกับที่จะต้องการการพักผ่อน ความสมดุล ความรู้สึกไร้กาลเวลาและความสงบสุข

            ภาพของแถวถัดมาคือภูเขาและสายฟ้าเฉียงที่ฟาดลงมา ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยเส้นทแยงมุมเป็นหลัก ซึ่งสื่อถึงพลังงานและการเคลื่อนไหว ซึ่งเหมาะกับคนที่กำลังรู้สึกตึงเครียด ตื่นเต้น หรือไม่มั่นคงขึ้นอยู่กับมุมมองของคนเลือก แล้วเส้นทแยงมุมยังสามารถสร้างความรู้สึกของการกระทำ และทิศทางได้อีกด้วย

จากนั้นแทนก็เห็นว่าภาพของแถวถัดมาเป็นแม่น้ำคดเคี้ยวไหลผ่านหุบเขาที่อุดมสมบูรณ์ มีตลิ่งและทางโค้งที่ค่อย ๆ คดเคี้ยว แล้วก็มีภาพเนินเขาที่ปกคลุมไปด้วยแถวของไร่องุ่น

            จะบอกว่าภาพเซตนี้ประกอบไปด้วยเส้นโค้งก็ไม่ผิด เส้นโค้งสื่อถึงความลื่นไหล ความสง่างาม และรูปทรงที่เป็นธรรมชาติ มันน่าจะสื่อถึงคนที่ต้องการความนุ่มนวล สบายใจ และความกลมกลืนได้

เมื่อชายหนุ่มเลื่อนภาพที่จดบันทึกเสร็จแล้วขึ้นไปอีกก็เห็นภาพคลื่นซัดสาดสร้างลวดลายซิกแซกไปตามชายฝั่ง และถนนหนทางที่ซิกแซกไปมาและไม่สามารถคาดเดาได้ ดังนั้นภาพชุดนี้ถึงเน้นไปที่เส้นซิกแซกเป็นหลัก

เส้นซิกแซกมักเกี่ยวข้องกับความวุ่นวาย ความตื่นเต้น และการเปลี่ยนแปลงฉับพลัน ซึ่งคนที่เลือกมันน่าจะอยู่ในอารมณ์ที่รู้สึกไม่สบายใจ เกิดความรู้สึกที่รุนแรง ความมีชีวิตชีวาหรือความไม่สามารถคาดเดาได้

ภาพชุดถัดไปก็ดูสวยงามดี แต่ชายหนุ่มบอกได้ไม่ยากเลยว่าภาพที่ค่อนข้างซับซ้อนพวกนี้ใช้เครื่องทำทั้งฉากตอนเช้าที่มีหมอกหนา และต้นไม้บางส่วนถูกหมอกบดบัง ทำให้เกิดความรู้สึกลึกลับและละเอียดอ่อน ซึ่งประกอบด้วยเส้นประเป็นหลัก เส้นเหล่านี้คนที่เลือกน่าจะกำลังรู้สึกเปราะบาง ไม่มั่นคง และไม่แน่นอน ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกละเอียดอ่อนหรือไม่สมบูรณ์

ภาพด้านล่างต่อมาคือกำแพงหินที่แข็งแกร่ง ป้อมปราการที่ตั้งตระหง่าน ลำต้นไม้ที่โดดเด่น ซึ่งประกอบขึ้นมาจากเส้นหนา ที่คนเลือกน่าจะต้องการความแข็งแกร่งความมั่นใจ ความโดดเด่น ความมั่นคง ดึงดูดความสนใจสร้างความรู้สึกกล้าหาญและความมั่นใจ

ไม่รู้ว่าควรแปลกหรือเปล่าที่ภาพชุดต่อมาให้ความแตกต่างจากชุดก่อนหน้านี้ค่อนข้างมาก เป็นภาพของดอกไม้ต้นบาง ๆ สายลมอันบางเบาและหญ้าบาง ๆ ที่พลิ้วไหวตามสายลม เติมความบอบบางให้กับฉาก ซึ่งมีสร้างขึ้นมาจากเส้นบาง ๆ คนที่เลือกมักจะอยู่ในอารมณ์ที่ต้องการความละเอียดอ่อน ความเปราะบาง และให้ความรู้สึกสง่างาม

ภาพต่อมายังให้ความรู้สึกที่นิ่มนวลคล้ายกัน แต่ว่าดูมั่นคงกว่า ซึ่งมีภาพกิ่งก้านของต้นหลิวที่โค้งงออย่างสง่างามห้อยอยู่เหนือสระน้ำอันเงียบสงบที่ใช้เส้นโค้ง ที่คนเลือกน่าจะสื่ออยู่ในอารมณ์ที่ต้องการความสงบและความสมดุล

            แลภาพท้ายสุดคือภาพสันเขา เส้นรั้วและสายไฟฟ้าที่ขวางกันไปมาตัดผ่านภูมิทัศน์ก่อให้เกิดความรู้สึกถึงการแทรกแซงและความตึงเครียดของมนุษย์  ถึงความท้าทายและความซับซ้อน ซึ่งใช้เส้นคมเป็นหลัก ซึ่งคนที่เลือกภาพนี้คงจะอยู่ในความตึงเครียด ความขัดแย้ง เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ กังวล หรือความไม่สงบได้

            ไม่ยากเลยที่จะบอกว่าตอนนี้แทนพบแล้วว่าลวดลายของลาเต้มีแพทเทิร์นที่ตรงกับอารมณ์ลูกค้า ซึ่งภายในร้านจะมี Machine Learning แบบไร้เซนเซอร์คอยเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้การเลือกภาพของลาเต้และข้อความที่ระบบส่งมาให้ตรงกับอารมณ์ของลูกค้าที่เข้ามาในร้านพอดี

            แต่จะถูกไหมก็ต้องลองถามดู

            ชายหนุ่มตัดสินใจแล้วหยิบสมุดจดทฤษฎีของตัวเองแล้วเดินตรงไปยังเจ้าของร้านสาวที่กำลังเล่นคอมข้างเคาน์เตอร์ ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ตัวเพราะได้เงยหน้าขึ้นก่อนส่งสายตาถามผ่านแว่นตาด้วยความสงสัย

            “มีอะไรหรือเปล่าคะ?”

            “ผมแค่อยากให้ช่วยยืนยันอะไรหน่อย”

แทนกล่าวก่อนจะยื่นสมุดจดไปให้ มีนาก็รับมาอ่านด้วยความสนใจก่อนจะต้องยอมรับแล้วมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาใหม่

            “ใกล้เคียงมาก นายชื่ออะไรเหรอ?”

            “เรียกผมว่าแทนก็ได้ แล้วพี่สาวล่ะ”

            “นั่นสินะ ฉันไม่เคยแนะนำตัวมาก่อนนี่ ฉันมีนายินดีที่ได้รู้จักนะน้องแทน”

[1] ตำรวจที่ปลอมตัวเป็นคนขายของกิน มักจะให้ของเยอะ ทำอร่อยและราคาถูก เวลาเจอร้านแบบนี้เลยมักจะถูกเรียกว่าทรงสืบ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รหัสลับลาเต้   บทที่ 20 Decode Me When You’re Ready

    “ครับ ผมกำลังจะกลับแล้วจริง ๆ ครับแม่”แทนที่เติบโตขึ้นจนไม่เหลือคราบของเด็กเนิร์ดคนเดิมพูดอย่างอ่อนโยนกับปลายสายขณะที่เก็บกระเป๋าของตัวเอง “ก็ตั้ง 5 ปีแล้วนะที่แกไม่ได้กลับมาน่ะแทน” “แม่ครับ ผมกลับไปฉลองปีใหม่กับที่บ้านทุกปีเถอะ ปีที่แล้วผมยังดื่มกับพ่อจนแม่ถ่ายภาพที่เลื้อยไปกับพื้นลงเฟซ ผมไม่ลืมนะครับ” “ก็ใครใช้ให้พ่อกับแกเมาขนาดนั้นล่ะ แล้วมันก็ไม่เหมือนกันนะ แกมาแป๊บเดียวก็ไม่เหมือนกลับมาหรอก”“ก็ได้ครับ ตอนนี้ผมก็กำลังกลับไปไงครับ คราวนี้ผมอยู่ยาวแน่เพราะผมกำลังจะย้ายไปคุมงานที่ไทย”ด้วยความที่แทนทำงานด้านวิศวกรฮาร์ดแวร์มากว่า 5 ปีก็ขึ้นซีเนียร์มากประสบการณ์ได้ ทำให้ทางสาขาใหญ่ตัดสินใจส่งเขากลับไปคุมบริษัทที่บ้านเกิดอย่างประเทศไทยหลังจากที่ชายหนุ่มส่งคำขอไปพักใหญ่ มันเป็นการเลื่อนตำแหน่งที่แทนพอใจมากที่สุดเพราะเขาเองก็คิดถึงครอบครัวมากเช่นกัน“จะกลับมาตรงเวลาไหม” พ่อถามแทรกขึ้นมาในสาย“ไม่แน่ใจครับ ถ้าเที่ยวบินไม่มีปัญหาก็ตรงเวลา”“งั้นพวกเราจะไปรอแกนะ”“ขอบคุณครับ และ...คราวนี้ผมคงไม่คิดจะไปทำงานต่างประเทศสักพักแล้วล่ะ”“ให้มันได้อย่างนั้นสิ แ

  • รหัสลับลาเต้   บทที่ 19 The Cup That Changed a City

    แทนทำการศึกษาและหาแนวทางในการใช้โค้ดนี้อย่างพิถีพิถันเพื่อไม่ให้ความคาดหวังของพี่มีนาที่มอบมันให้เขาต้องสูญเปล่า แถมเขายังยุ่งกับการฝึกงานที่ต้องใช้ความพยายามหนักมาก ไม่ว่าจะเรื่องภาษา ระบบการทำงาน สิทธิของพนักงานและรวมไปถึงการทำงานจริง ๆ ที่กินเวลาของเขาไปมากทำให้กว่าจะมีเวลาจริง ๆ ก็เป็นหลังจากที่ผ่านโปรไปแล้ว จากนั้นก็ต้องมาคิดว่าแอปนี้ควรจะปล่อยแค่ในไทยเท่านั้นหรือเปล่า? ตลอดเวลาที่เขาทำงานอยู่ที่นี่ก็พอจะมีเวลาเดินหาย่านของกิน ทำให้ทราบว่าแถวนี้มีร้านกาแฟเป็นหลักเป็นแหล่งเยอะกว่า ด้านรสชาติถึงจะแปลกลิ้นไปบ้างแต่คุณภาพก็ไม่ได้ด้อยไม่กว่าใครแต่...จุดกำเนิดมันอยู่ที่ไทยและข้อความก็เป็นภาษาไทย ไม่รู้ว่าบรรยากาศ การแสดงออกและการเลือกของคนต่างชาติจะเหมือนมากน้อยแค่ไหน ด้วยวัฒนธรรม ศาสนาและกฎหมายที่แตกต่างกัน การแสดงออกของผู้คนต่อบางสิ่งย่อมต่างกัน ทำให้เขาไม่แน่ใจว่าจะได้ผลแค่ไหนยังไม่นับรวมที่เขาต้องหาคลังคำศัพท์เพิ่มซึ่งไม่รู้ว่าจะกินใจเหมือนของภาษาไทย และพวกเขาจะเปิดใจหรือแค่มองผ่านว่ามันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการขายเท่านั้น เฮ้อ...ไม่ว่าจะคิดแบบไหนก็มีแต่อุปสรรคทั้งนั้น แ

  • รหัสลับลาเต้   บทที่ 18 The Latte You’ll Never Forget

    “เฮ้ย! จะจบแล้วก็เงียบ ๆ หน่อยดิว่ะ ใครยังไม่จ่ายเงินเซค อย่าหวังว่าจะได้ไปบายเนียร์[1] นะมึง”เหรัญญิกของเซคพูดเสียงเข้ม ทำให้แทนเงยหน้าขึ้นมาจากแท็บเลตแล้วเริ่มรู้สึกตัวจริง ๆ ว่าเขากำลังจะเรียนจบแล้ว ปีหนึ่งผ่านไปเร็วมาก เขายังรู้สึกเหมือนว่าเพิ่งเจอร้านกาแฟเปิดใหม่ไม่นานมานี้นี่เอง เขายังรู้สึกเหมือนว่าเพิ่งจดทฤษฎีเกี่ยวกับลายลาเต้ และเขาเพิ่งได้มีโอกาสร่วมแก้โค้ดสำคัญและออกความเห็นเกี่ยวกับแอปที่เปลี่ยนวิธีการมองโลกของเขาไปตลอดกาล และแป๊บเดียวเขาก็กำลังจะเรียนจบแล้ว “แทน! ครูปวินเรียก”ขณะที่กำลังเหม่อลอย หัวหน้าเซคก็เข้ามาเรียก ทำให้ผมเดินไปที่ห้องพักอาจารย์ทันที ครูปวินคือที่ปรึกษาเล่มจบของผม ธีสิสไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะครูชมมาตั้งแต่ต้นว่าเขาคิดหัวข้อได้ วางแผนการทำงานได้เยี่ยม และตอนที่พรีเซ้นต์จบอาจารย์ทุกคนก็ให้ผ่าน ดังนั้นที่ครูปวินเรียกเขาไปวันนี้คงไม่ใช่ปัญหาเรื่องธีสิสแน่นอน “สวัสดีครับครู มีอะไรหรือเปล่า”แทนถามแล้วไปนั่งที่เก้าอี้ในห้องอาจารย์ที่เตรียมไว้สำหรับแขกที่เข้ามา “ครูได้รับข้อเสนอที่ดีม

  • รหัสลับลาเต้   บทที่ 17 The Man Who Couldn’t Be Coded

    แทนคิดว่ากระแสตอบรับของ LatteCode เป็นไปได้ด้วยดีกว่าที่คาดเอาไว้เยอะ จนเริ่มมีร้านกาแฟขอติดต่อมาเอง ซึ่งชายหนุ่มก็จะเน้นย้ำว่านี้ยังเป็นแอปเบต้าเทสที่ยังไม่สมบูรณ์ อาจจะมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงในอนาคตได้เสมอ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ยอมรับและโอเคกับมันเพราะตอนนี้หลายคนกำลังมองหาอะไรแบบนี้ อะไรสักอย่างที่ช่วยเยียวยาจิตใจได้ในช่วงเวลาที่ทุกคนต่างก็ย่ำแย่กันทั้งนั้น ทว่าข้อความที่ได้รับการประมวลผลมาจากบรรยากาศ สีหน้าและการเลือกลวดลายบนฟองน้ำไม่ได้จะล่วงรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนได้ทั้งหมดมันแค่ทำการเคาเดาตามข้อมูลที่มีอยู่ในระบบ มันไม่สามารถรู้ลึกไปถึงอดีตของใครได้ มันไม่สามารถปรับเปลี่ยนข้อความไปตามการแปรปรวนของอารมณ์ได้ มันไม่สามารถซ่อมแซมบาดแผลใจใน หรือว่าตอบโต้เพื่อคาดความเหงา ความเศร้าให้กับคนได้อย่างจริงจังสิ่งที่มันทำก็คือการส่งข้อความที่ประมวลผลแล้วว่ามีประโยชน์ประโยคหนึ่งมาให้เท่านั้น การที่ผู้ใช้จะได้รับการช่วยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับคนที่ได้รับว่าเปิดรับมากเพียงใด ทว่า...มันยังมีอีกหลายคนที่ข้อความเหล่านี้ช่วยไม่ได้ เพราะสิ่งพวกเขาเหล่านั้นต้องการจริง ๆ ไม่ใช่แค่ข้อความจ

  • รหัสลับลาเต้   บทที่ 16 The Line Between Code and Soul

    “แล้วเราจะเอาไปปล่อยยังไงดี”นั่นคือคำถามสำคัญของมีนาและแทนที่มีร่วมกันหลังจากที่แก้โค้ดของแอปจนเสร็จตามที่พวกเขาตั้งใจเอาไว้ทุกประการ“ยังไงแอปนี้ก็เหมาะสำหรับผู้ใช้บริการร้านกาแฟทั้งหลาย เพราะงั้นต้องเอาแอปส่วนที่เป็นเจ้าของร้านไปแจกจ่ายก่อนเพื่อให้ลงเมนูของร้านตัวเอง ก่อนที่จะให้ลูกค้าสั่งได้”มีนาพูดอย่างเป็นการเป็นงาน“งั้น...ถ้าเราทำคล้ายแอปสั่งอาหารล่ะ แอปโชว์ร้านกาแฟที่เข้าร่วมกับแอป Latte Code แล้วเลือกไปที่ร้านนั้น ๆ เพื่อสั่งล่วงหน้าก่อนไปรับที่ร้านได้”แทนเสนอแนวคิดที่เอามาจากแอปสั่งอาหารในปัจจุบัน“แต่เราไม่มีตัวช่วยส่งออนไลน์”“ก็เราทดลองในวงแคบก่อนไม่ใช่เหรอพี่ งั้นเราก็แค่ไปเสนอให้ร้านกาแฟที่สนใจว่าสิ่งนี้จะเป็นเมนูออนไลน์ที่ให้ผู้คนดูได้ว่ามีอะไรน่าสนใจ และเมื่อสั่งลาเต้ไปก็จะได้ข้อความ”“ปัญหาคือลาเต้อาร์ตไม่ใช่อะไรที่ร้านทั่วไปจะมีให้หรอกนะ”มีนาชี้ให้เห็นถึงเรื่องที่สำคัญที่สุด“งั้นเราก็เข้าหาแต่ร้านที่มีสิพี่ เดี๋ยวผมช่วยในเรื่องนี้เอง”“แต่ว่าเราไม่ได้ให้การโฆษณาหรือค่าตอบแทนอะไร แล้วร้านพวกนั้นจะยอมใช้เหรอ”“พี่มีนา ผมจะหาร้านที่เข้าใจในสิ่งที่เราทำ เรื่องนี้พี

  • รหัสลับลาเต้   บทที่ 15 The Hidden Message

    “จะว่าไป ฉันก็ไม่มีช่องทางติดต่อนายเลยนะแทน” นั้นคือประโยคต้อนรับชายหนุ่มที่หลังเลิกคลาสก็เดินสะโหลสะเหลคล้ายซอมบี้ที่เพิ่งปีนขึ้นมาจากหลุมศพไม่น้อยเหตุผลหนึ่งของอาการนี้ก็คนถามนี่แหละ ชายหนุ่มไม่คิดมาก่อนว่าการสอบนอกตารางแบบนี้จะทำเขาเครียดได้ขนาดนี้ และอีกเหตุผลหนึ่งคือแทนต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขแอปนี้จริง ๆ เขาอยากมีส่วนช่วยเหลือผู้คนแม้เพียงเล็กน้อย อุดมการณ์และความคาดหวังของมีนานั้นน่าชื่นชมมากเดี๋ยวนี้จะหาคนที่คิดแบบนี้ได้จากไหนอีก“ผมก็ไม่มีช่องทางติดต่อพี่เหมือนกัน ว่าแต่จะเอาไปทำอะไรครับ”“ก็ถ้าเราจะแก้ไขโค้ดด้วยกัน เราก็ควรจะติดต่อกันได้มากกว่าแค่รอแทนมาที่ร้านไม่ใช่เหรอ?”หญิงสาวถามพร้อมรอยยิ้มที่ทำให้ชายหนุ่มที่หมดแรงเมื่อครู่มีแรงลุกขึ้นยืนได้ด้วยความตื่นเต้น“นี่หมายความว่าผมผ่านแล้วเหรอครับ!”“ใช่แล้วสำหรับเด็กที่ยังเรียนไม่จบ นายถือว่าเก่งเลยล่ะ ดังนั้นถือว่าเป็นการฝึกล่วงหน้าล่ะกัน เค้กฟรี กาแฟฟรีพอเป็นค่าตอบแทนได้ไหม”มีนาพูดหยอกเล่นแต่ก็วางเค้กส้มของโปรดให้บนตะของแทนจริงๆ“ต่อให้ทำฟรีผมก็ทำ พี่ก็รู้นี่น่า”“แล้วจะเอาไหมเค้ก?”“เอาสิครับ ของฟรีแบบนี้ใครจะไม่เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status