บทที่18.สำนึกผิด
“กูคนล่ะไม่มีวันเชื่อ หมามันกินอาจม ยังไงมันก็ต้องกิน”
ธรรวาที่กำลังเมามาย เขาโวยเสียงลั่น มือถือแก้วบรั่นดีที่รินไว้เกือบเต็ม ชายหนุ่มพูดตามความคิดตัวเอง เขาไม่มีวันเชื่อว่าคนอย่างดารัณจะกลับตัวได้ ไม่มีวันเชื่อว่าผู้หญิงอย่างนั้นจะยอมอดอยากปากแห้ง เมื่อหล่อนเป็นหญิงร่านราคะ!!
ชานนท์ส่ายใบหน้า วันนี้เขานั่งดื่มเป็นเพื่อนคนเมาอย่างธรรวา ถ้อยคำที่เพื่อนพร่ำพูด ยิ่งฟังยิ่งสะท้อนใจ จริงอยู่ดลยาเพียบพร้อม หล่อนเป็นกุลสตรี เป็นแม่ที่ดี เป็นเมียที่ยอดเยี่ยม แต่ปูมหลังของหล่อนกับมารดาที่เพิ่งได้รู้ เขาอาจยอมรับหล่อนได้ แต่คนในครอบครัวของเขาหากรู้เรื่องนี้เขา คงพากันแอนตี้ เมื่อชานนท์เป็นบุตรชายคนเดียว เขาต้องเป็นคนสืบทอดเชื้อสาย ดังนั้น ภรรยาของเขาก็ไม่ควรมีข้อด่างพร้อยที่พลอยทำให้วงสกุลทดถอย
“นักโทษที่ทำผิด เขายังมีวันอภัยโทษให้เลย คนกันเองแท้ๆ คุณไม่คิดจะลองให้โอกาสหล่อนบ้างเหรอ?”
ชานนท์ลองแย๊บๆ
“ไม่มีทาง แม่นั่นสำส่อนแบบนั้น ไม่ว่าเมื่อไรก็ยังทำตัวฉาวโฉ่ แบบนี้ยังจะให้โอกาสอีกเหรอ?&rdq
“เธอรู้ใจฉันได้ไง อย่ามารู้ดีน่า!!” ธรรวาก้มหน้าลง เขาพูดเสียงขุ่น“แล้วแกจะเอายังไงตาธรร ยอมปล่อยหนูดลไป หรือจะยื้อไว้”เทียมถามเสียงดัง ท่านเองก็อยากรู้ว่าธรรวาจะเอายังไงต่อชายหนุ่มถอนใจแรงๆ เขามองหน้าบิดา สลับกับการมองดารัณแบบพิจารณาครั้งแรกผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูเผินๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่ใครจะรู้ล่ะเบื้องหลังหล่อนโสมมเกินกว่าจะยอมรับ หล่อนสำส่อนไม่เลือกหน้าทั้งที่สถานะเป็นภรรยาของบิดาเขา แล้วที่นั่งหัวโด่กลางเตียงนั่นก็คือสายเลือดของหล่อนที่ปิดบังไว้ แบบนี้จะให้เขาทำใจยอมรับสองแม่ลูกนี่ได้ยังไง เมื่อปูมหลังของทั้งสองคน น่าละอายมากกว่าชื่นชมชานนท์มองสบนัยน์ตาดลยา เขากล่าวเสียงแผ่วๆ “ถ้าคุณไม่รับคุณดลในฐานะ ‘เมีย’ ผมจะรับเธอไว้เอง ผมสัญญานะธรร ผมจะดูแลลูกของคุณให้ดีที่สุด!!”ข้อเสนอของชานนท์ฟังดูดี เพราะต่อให้ธรรวารับเลี้ยงดู ‘ธีรตา’ ไว้ มันก็ไม่เป็นครอบครัว เมื่อขาดแม่ และในมุมกลับกัน หากเขาปล่อยดลยาไป ยอมให้หล่อนดูแลลูกในฐานะแม่...ลูกของเขาก็จะขาดบิดาอยู่ดี ดังนั้นการที่ชานนท์ยอมย
สายตาของธรรวาจึงปรอย เมื่อชะเง้อมองเห็นผิวเนียนๆ ที่เนินทรวงของแม่ลูกอ่อน เขาแกล้งทำเป็นตีเนียน ขยับเข้าไปใกล้ แต่แม่ลูกอ่อนบนเตียงก็หาได้เป็นใจ เธอเอียงตัวหนี พยายามให้เขาเห็นเนินทรวงของตนเองน้อยที่สุดปากสีชมพูอ้างับปลายถัน เสียงดูดจุ๊บๆ พาให้ใจสั่นไหว เขามองเต้าถันอวบอิ่มที่เห็นแวบๆ ด้วยความอิจฉา ตำแหน่งนั้นของดลยา เขาโปรดปรานไม่น้อย มันห่างเหินจนแทบจะจำไม่ได้ เมื่อเทียบกับระยะเวลา แต่ในความเป็นจริง ธรรวายอมรับแบบอายๆ ไม่ว่าจะเป็นเต่งเต้าแน่นตึง หรือส่วนอื่นๆ ในร่างกายของหญิงสาวตรงหน้า เขาจำได้ไม่มีวันลืม ตำหนิของหล่อน ไม่ว่าอยู่ซอกไหน มุมไหน เขาจดจำได้หมด มันเป็นความใส่ใจที่ตนเองยังไม่อยากเชื่อ เมื่อในบรรดาสาวๆ ที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตนั้น ธรรวาไม่เคยจดจำได้สักคน ทันทีที่หันหลังให้...เขาแทบจะลืมหน้าหล่อนด้วยซ้ำ แล้วทำไมล่ะ? ทำไมกับดลยา ที่เขาวางหล่อนไว้ในตำแหน่งลูกศัตรู ทำไมเขาถึงจำหล่อนได้ทุกกระเบียดนิ้วทำไม!!คำถามที่ไม่มีคำตอบ...เมื่อเจ้าตัวไม่กล้าที่จะค้นหาคำตอบ เขากลัวคำตอบที่ได้รับ จะทำให้ตนเองเสียความเชื่อมั่น ไม่มีวัน เขาไม่มีทางมีใจให้กับคนที่ตัวเอง
บทที่19.รอยรัก รอยอาลัย...ดวงตากลมโตเอ่อคลอด้วยน้ำใสๆ เมื่อได้มองเห็นลูกน้อยครั้งแรก เด็กหญิงผิวขาวอมชมพู เนื้อตัวยับย่นเหมือนลูกสุนัขพันหนึ่งที่ผิวหนังย่นๆ ไม่เรียบเหมือนคนทั่วไป ปรอยผมสีดำละกรอบหน้า และในอนาคตคงดกดำเหมือนตนเอง จมูกเล็กๆ รับกับริมฝีปากจิ้มลิ้มสีระเรื่อ“ลูกจ๋า” เสียงหวานสั่นพร่า น้ำตาหยดรินอาบแก้มปลายนิ้วสั่นๆ ยื่นไปแตะผิวแก้มนุ่มนิ่ม เด็กน้อยที่ยังคงหลับใหลจึงเอียงใบหน้าหนี“แข็งแรงน่าดูเลยค่ะ ร้องเสียงดังจนหนูสะดุ้ง” นางพยาบาลที่อุ้มบุตรสาวมาให้ดลยาดู กล่าวพร้อมกับอมยิ้ม“เหรอคะ?” แม่ลูกอ่อนยกมือขึ้นปาดคราบน้ำตา ถามกลับเสียงใส“ใช่ค่ะ แบบนี้อนาคตนักร้องดังแน่ๆ ค่ะ” สาวพยาบาลยังเอ่ยชมไม่ขาดปาก ชีวิตใหม่ในวันนี้ที่มาพร้อมกับเสียงทรงพลัง“ดีค่ะดี...” ดลยาพึมพำ เธอจ้องมองบุตรสาวไม่วางตา“เข้าใจตั้งชื่อนะคะ ‘ธีรตา’ เพราะจัง ความหมายก็เยี่ยม นักปราชญ์” พยาบาลสาวเอ่ยชม หล่อนฉีกยิ้มแป้นแล้นดลย
บทที่18.สำนึกผิด“กูคนล่ะไม่มีวันเชื่อ หมามันกินอาจม ยังไงมันก็ต้องกิน”ธรรวาที่กำลังเมามาย เขาโวยเสียงลั่น มือถือแก้วบรั่นดีที่รินไว้เกือบเต็ม ชายหนุ่มพูดตามความคิดตัวเอง เขาไม่มีวันเชื่อว่าคนอย่างดารัณจะกลับตัวได้ ไม่มีวันเชื่อว่าผู้หญิงอย่างนั้นจะยอมอดอยากปากแห้ง เมื่อหล่อนเป็นหญิงร่านราคะ!!ชานนท์ส่ายใบหน้า วันนี้เขานั่งดื่มเป็นเพื่อนคนเมาอย่างธรรวา ถ้อยคำที่เพื่อนพร่ำพูด ยิ่งฟังยิ่งสะท้อนใจ จริงอยู่ดลยาเพียบพร้อม หล่อนเป็นกุลสตรี เป็นแม่ที่ดี เป็นเมียที่ยอดเยี่ยม แต่ปูมหลังของหล่อนกับมารดาที่เพิ่งได้รู้ เขาอาจยอมรับหล่อนได้ แต่คนในครอบครัวของเขาหากรู้เรื่องนี้เขา คงพากันแอนตี้ เมื่อชานนท์เป็นบุตรชายคนเดียว เขาต้องเป็นคนสืบทอดเชื้อสาย ดังนั้น ภรรยาของเขาก็ไม่ควรมีข้อด่างพร้อยที่พลอยทำให้วงสกุลทดถอย“นักโทษที่ทำผิด เขายังมีวันอภัยโทษให้เลย คนกันเองแท้ๆ คุณไม่คิดจะลองให้โอกาสหล่อนบ้างเหรอ?”ชานนท์ลองแย๊บๆ“ไม่มีทาง แม่นั่นสำส่อนแบบนั้น ไม่ว่าเมื่อไรก็ยังทำตัวฉาวโฉ่ แบบนี้ยังจะให้โอกาสอีกเหรอ?&rdq
“นานพอที่จะได้ยินทั้งหมดนั่นแหละรัณ” เทียมตัดสินใจพูดความจริง ท่านมองจ้องใบหน้าภรรยาของตนเองดารัณผวา เธอถลาลงไปนั่งที่พื้นเอียงใบหน้าซบหัวเข่าของสามี พร้อมกับรีบพูดจนลิ้นพันกัน“รัณๆ รัณมีเหตุผลที่จะปิดบังนะคะ ยัยดลเอ่อ...”เทียมโบกมือ ท่านไม่ได้ติดใจ สองมือเหี่ยวๆ ยกวางบนศีรษะภรรยาพร้อมกับกล่าวเสียงแผ่ว“พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรรัณนี่ อดีตมันก็คืออดีต เราแค่ทำปัจจุบันให้ดีก็พอ”ดารัณช้อนสายตาซาบซึ้งมองสามี ผู้ชายที่เธอมองข้ามมาตลอด เขาคือบ่อเงิน บ่อทองให้เธอกอบโกย ไม่คิดว่า เทียมจะรักและเสน่หาที่ตัวตนของเธอ จนยอมมองข้ามตำหนิที่แสนน่ารังเกียจนั่น“คุณพี่ไม่ถือเหรอคะที่รัณเอ่อ...เคยมีลูกมาก่อน”เทียมนิ่งไปหนึ่งอึดใจก่อนจะตอบพร้อมกับยิ้ม“ไม่หรอก หนูดลเป็นเด็กดี และเด็กดีๆ แบบนี้ก็มาจากแม่ที่น่ารักอย่างรัณไง”“โฮ!”สาวใหญ่ปล่อยโฮเสียงดัง น้ำตาแตกทะลักทลายอาบใบหน้า ไม่ห่วงภาพพจน์สวยงามที่ตนเองพยายามสร้างลวงตาคนอื่นไว้...เธอซึ้งน้ำใจของสามี จนไม่อาจกลั
ดลยาเดินเลี่ยงไปอีกทาง เธอพยายามจะไม่สนใจพ่อของลูก เมื่อสิ่งที่เขาทำทุกอย่าง ยิ่งตอกย้ำให้เธอเจ็บปวดเสียงล้อรถยนต์บดพื้นถนนดังสนั่น คนงานหลายคนชะเง้อคอออกมามอง แล้วก็รีบผลุบกลับไป เมื่อใบหน้าของคนนั่งหลังพวงมาลัยตึงเปรี๊ยะ!!“ลุงชุ่ม คุณธรรเป็นอะไร?”เสียงถามลอยมาเข้าหูดลยาพอดีคนขับรถวัยดึกส่ายหน้า พร้อมกับยิ้มแหยๆ อวดฟันในช่องปากที่เหลือไม่กี่ซี่ให้คนรอฟังคำตอบนึกขำ“อยากรู้ มึงก็ไปถามคุณธรรเอาเองสิวะ”คำตอบที่ทำให้คนถามคอหด ขนาดขับรถพ่อเจ้าประคุณยังใส่อารมณ์เสียแบบนั้น หากเสนอหน้าเข้าไปถาม มิโดนหางเลขไปด้วยหรือ?“ไม่เอาหรอก เดี๋ยวโดนถีบ” คนตอบ ตอบแล้วก็รีบเผ่น เพราะหากอยู่ต่อ ไม่แนะอาจจะโดนคนแก่ถีบเอาก็ได้ดลยาเดินคอตก เธอก้มหน้าเดินจนไม่ได้มองทางเพราะกำลังนึกวุ่นวายในหัว“อุ้ย!!” หญิงสาวอุทาน เรือนกายโอนเอน เมื่อเดินชนกับดารัณจังๆ“ซุ่มซ่าม!!” สาวใหญ่ตวาด แต่ก็ไม่วายห่วง มือเรียวผอมบางคว้าเอาลำตัวดลยาไว้ “แกไม่ได้ตัวเปล่าแล้วนะ ทำอะไรระวังหน่อย