ตอนที่ 11
“ฉันจะเชื่อหล่อนสักครั้ง แต่ถ้าหล่อนไม่รักษาคำพูด ฉันไม่รับประกันความปลอดภัยของลูกชายหล่อน!” คุณเซียล่าวางสายทันทีเมื่อพูดจบทิ้งให้คนปลายสายได้แต่ร้องเรียกผ่านไปตามสาย ครั้นจะกดโทรกลับไปโทรศัพท์ก็ถูกแย่งคืนไปแล้ว
“ขอโทรศัพท์ให้ฉันเถอะ” นิธาราเอ่ยขอร้องชายหน้าตาเหี้ยมเสียงสั่น เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกชาย
“อย่าเรื่องมาก!” ชายหน้าเหี้ยมตะคอกกลับพร้อมกับที่โทรศัพท์ก็ส่งเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง นิธาราจึงขอร้องให้เธอได้พูดคุยกับคุณเซียล่า แต่อีกฝ่ายกลับหันมองด้วยสายตาขุ่นขวางแล้วกดวางสาย นิธาราได้แต่นั่งนิ่งมาตลอดทางกระทั่งรถตู้ขับกลับมาที่เดิม
“ลงไป!” รถตู้ยังไม่ทันจอดสนิทชายหน้าเหี้ยมก็ตวาดไล่ เมื่อได้รับคำสั่งจากคนทางไกลว่าอย่าเพิ่งทำอะไรเหยื่อสาว ด้านนิธาราก็รีบพาตัวเองลงจากรถก่อนที่รถตู้คันดังกล่าวจะเคลื่อนออกไปสวนกลับรถอีกคันขับเข้ามา
“สวัสดีครับ คุณนิด” เจ้าของรถดกระจกลงแล้วกล่าวทักทายทำให้คนที่กำลังเครียดชะงัก ก่อนจะกล่าวทักทายสั้นๆ แล้วเดินกลับที่พักโดยไม่รู้เลยว่าภายในรถคันดังกล่าวไม่ได้มีแค่หนุ่มฝรั่งข้างห้อง
คลินท์ยิ้มมุมปากเมื่อได้พบกับอดีตคนรักอีกครั้ง เขายอมรับว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาใจเขายังรักและคิดถึงเธอ แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่เธอทำไว้ความโกรธก็แล่นพล่านไปทั่วหัวใจ
“เอาไงต่อครับเจ้านาย” โรเจอร์ บอดี้การ์ดหนุ่มรูปหล่อหันไปถามเจ้านายเสียงเรียบ
“กลับโรงแรม” เมื่อเจ้าของร่างบางหายเข้าไปในคอนโด คลินท์จึงละสายตาจากอดีตคนรักแล้วหันมาบอกกล่าวกับ บอดี้การ์ด
******
ภายในพัก นิธาราเดินวนรอบห้องด้วยสีหน้าวิตกกังวล เพราะเป็นห่วงลูกชาย พร้อมกับคิดว่าเพราะอะไร คุณเซียล่าถึงได้โทรมาข่มขู่เธอ ทั้งที่เธอไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวหรือติดต่อกับหลานชายของท่านเลยนับตั้งแต่วันที่เธอเดินทางกลับมาอยู่ประเทศบ้านเกิด
‘หรือคุณจะมาเมืองไทย’ เจ้าของเสียงพึมพำนิ่งงั้นเมื่อจู่ๆ ก็นึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ ‘ต้องใช่แน่ๆ ไม่งั้นคุณเซียล่าคงไม่โทรมาข่มขู่เธอ แล้วคุณมาทำไม?’
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูขึ้นทำให้คนที่กำลังครุ่นคิดจนหน้าตาเคร่งเครียดเดินมาที่ประตู ส่องตาแมวดูก็เห็นว่าเป็นว่าที่คู่หมั้น
“พี่สิริ เคลียร์งานเสร็จแล้วเหรอคะ” เปิดประตูออกมาแล้วก็เอ่ยถามไปทันที เพราะก่อนหน้าว่าที่คู่หมั้นโทรบอกว่าจะอยู่เคลียร์งานที่บริษัท
“อืม” สิริตอบรับในลำคอ แล้วยื่นมือไปจะรั้งร่างเล็กเข้ามากอด แต่นิธาราเบี่ยงตัวออกอย่างเร็ว สร้างความไม่พอใจให้กับว่าที่คู่หมั้นหนุ่มเป็นอย่างมาก “นิด!! ทำไมต้องหนีพี่ตลอด”
“นิดเคยบอกไปแล้วว่าไม่ชอบ”
“แต่พี่อยากกอดนิด”
“อย่าค่ะ!” นิธาราเอ่ยห้ามเสียงแข็งเมื่อว่าที่คู่หมั้นจะคว้าตัวเธอ
“เล่นตัว!” สิริต่อว่าเสียงห้วนจัด
“นิดเคยบอกพี่สิริไปแล้วว่านิดไม่พร้อม” ว่าที่คู่หมั้นสาวแย้งเสียงแข็งเช่นเดิม ยิ่งนึกถึงภาพเร่าร้อนบนโต๊ะทำงานก็ยิ่งทำให้รังเกียจสัมผัสของพี่สิริอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“แต่อีกแค่สามวันเราก็จะหมั้นกันแล้ว ทำไมนิดไม่ยอมพี่บ้าง หรือนิดอยากให้พี่ไปหาความสุขจากคนอื่น” สิริยกมือขึ้นเสยผมด้วยความหงุดหงิด จากที่คิดว่าจะมารับว่าที่คู่หมั้นสาวไปทานอาหารตามคำชักชวนของมารดาคงต้องเป็นอันยกเลิกไป
“แล้วพี่แน่ใจเหรอพี่ว่ายังไม่ได้ไปหาความสุขจากคนอื่น” ว่าที่คู่หมั้นสาวตอบกลับเสียงเย็นเยียบ
“พูดแบบนี้หมายความว่าไง”
“นิดก็หมายความตามที่พูด”
“อย่ายอกย้อนพี่นะนิด”
“พี่สิริกลับไปเถอะ นิดอยากพักผ่อน”
“ไล่พี่กลับ แล้วจะได้เรียกชู้มาหาหรือไง” สิริตะคอกใส่อย่างโมโห
“พี่สิริ! ถ้าพี่จะมาหาเรื่องนิด พี่ก็กลับไปซะ ไปสิ!”
“พี่ไม่กลับ” พูดจบสิริก็กระชากร่างบางเอาไว้ก่อนที่ว่าที่คู่หมั้นจะไปเปิดประตู
“พี่สิริ! ปล่อยนิดนะ”
“พี่ไม่ปล่อย” น้ำเสียงและท่าทางของสิริดูน่ากลัวจนนิธาราหวั่นจะเกิดเรื่องไม่ดีกับตัวเอง ขณะที่หน้าประตูห้องพักตอนนี้ก็มีหนุ่มฝรั่งที่ได้รับคำสั่งจากเจ้านายหนุ่มให้กลับมาดูแลอดีตคนรักเหมือนเดินก็กำลังเอาหน้าแนบกับประตูฟังเสียงด้านใน หลังจากได้ยินเสียงดังออกมา แต่ไม่แน่ใจว่าเสียงอะไรจนต้องมาแอบฟัง
“พี่สิริกลับไปซะ นิดไม่อยากเห็นหน้าพี่” นิธาราเอ่ยปากไล่พร้อมกับผลักร่างของว่าที่คู่หมั้นไปด้วย แต่เขาไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
“จะอยากหรือไม่อยาก เธอก็ต้องทนเห็นหน้าพี่ไปจนกว่าพี่จะเบื่อเธอนั่นแหละ” สิริโต้กลับเสียงห้วนๆ มุมปากยกยิ้มร้ายอย่างที่อีกคนไม่เคยเห็น
“พี่สิริ พี่จะทำอะไร” เธอเอ่ยถามด้วยเสียงสั่นๆ หน้าตาตื่นตระหนกเมื่อว่าที่คู่หมั้นหนุ่มลากตัวเธอที่โซฟา
“พี่ก็จะทำให้นิดเป็นเมียพี่ก่อนงานหมั้นไง” สิริโต้กลับเสียงแหบแห้ง สายตาเต็มไปด้วยความกระหาย
“ถ้าพี่ทำอะไรนิด นิดจะไม่หมั้นกับพี่” คนเสียเปรียบพยายามหาทางเอาตัวรอดสุดชีวิต แต่ดูเหมือนอีกคนจะหน้ามืดไปแล้ว
“แน่ใจ” สิริย้อนถามพร้อมยิ้มร้าย เพราะเขารู้ดีว่าคนอย่างนิธาราไม่มีวันหนีงานหมั้นได้ เพราะบุญคุณของครอบครัวเขาค้ำคอเธออยู่
ตอนอวสาน สามทุ่มตามเวลานัดหมาย คลินท์ก็เดินทางมาถึงตึกร้างตามเวลานัด จากนั้นเขาก็เดินถือกระเป๋าเงินเข้าไปในด้านใน เดินไปได้สักพักก็มีคนออกมารับพร้อมอาวุธในมือ “เงินอยู่ไหน!” หนึ่งในคนร้ายเอ่ยถามพร้อมกับมองไปที่กระเป๋า “นี่ไง” คลินท์โยนกระเป๋าเงินให้สองคนร้าย แล้วมองหาผู้เป็นย่าด้วยความเป็นห่วง ส่วนคนร้ายก็เปิดกระเป๋าดูเงิน เห็นแล้วพากันตาโต ไม่คิดว่าจะหาเงินได้ง่ายขนาดนี้ “ครบหรือเปล่าว่ะ” หนึ่งในคนร้ายเอ่ยถาม “ถ้าพวกแกกลัวฉันให้ไม่ครบ ก็นับดู แต่ปล่อยคุณย่าของฉันมาก่อน” คลิน
ก่อนอวสาน ช่วงเย็นของวันคลินท์เดินทางมาถึงบ้านของคุณหญิงฤทัยรัตน์และขอเข้าพบเจ้าของบ้าน ที่ตอนนี้คนในบ้านกำลังนั่งเล่นอยู่กับหนุ่มน้อยช่างพูด นิธาราเองก็มองลูกชายอย่างรักใคร่ แต่ดูเหมือนความสุขจะหยุดชะงัก เมื่อสาวใช้เข้ามาแจ้งว่ามีผู้ชายชื่อ คลินท์ อธิวัตน์ คาร์เตอร์ มาขอพบคุณหญิงฤทัยรัตน์ “ไปเรียกเข้ามาเลย” จบคำเจ้าของบ้าน คลินท์ก็เดินเข้ามาและทันทีที่น้องฟลินท์เห็นพ่อก็วางของเล่นแล้ววิ่งเข้าไปหา สองพ่อลูกกอดหอมกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่คลินท์จะปล่อย หนุ่มน้อยลงแล้วเข้าไปทักทายเจ้าของบ้าน ที่นั่งอยู่กับแม่สาย “นี่แม่สาย แม่ของยัยนิด” คุณหญิงฤทัยรัตน์เอ่ยแนะนำ
ตอนที่ 51บ้านคุณหญิงฤทัยรัตน์ที่ห้องรับแขกเวลานี้เจ้าของบ้านและแม่บ้านคนสนิทกำลังพากันมองหนุ่มน้อยที่มากับนิธาราเป็นตาเดียว แล้วก็สงสัยว่าเด็กคนนี้เป็นใครมาจากไหน “นิด มีอะไรก็บอกคุณหญิงไปสิ จะมัวนั่งเงียบอยู่ทำไม แล้วเด็กคนนี้เป็นใครมาจากไหน เราไปเก็บมาได้หรือไง” คนเป็นแม่สะกิดบอกลูกสาวเสียงเครียด ใจก็ภาวนาขออย่าให้เป็นอย่างที่ใจกำลังคิดเลย นิธารามองหน้าลูกชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ยกมือลูกศีรษะเล็กอย่างรักใคร่ ก่อนจะหันมาก้มลงกราบขอโทษมารดาและคุณหญิงฤทัยรัตน์ ที่ท่านเมตตาส่งเสียเงินทองให้เธอไปเรียนแต่เธอกลับทำให้ท่านผิดหวัง แล้วยังปิดบังเรื่องนี้มาหลายปี “ยัยนิด เป็นอะไรนะเรา จู่ๆ ก็มากราบแม่กับคุณหญิง” คนเป็นแม่เอ่ยถามลูกสาวเสียงสั่น
ตอนที่ 50 วันต่อมานิธาราขับรถไปยังบ้านของราชันแต่เช้าตรู่ หลังจากเมื่อคืนอีกคนกลับเข้ามาบอกว่าต้องอยู่เฝ้าผู้เป็นย่า เพราะท่านไม่ค่อยสบาย ที่เธอก็อยากจะเข้าไปเยี่ยมเหมือนกัน แต่กลัวไปแล้วจะยิ่งทำให้ท่านเครียด เธอจึงตัดสินใจไม่ไปและเช้ามืดวันนี้เธอก็ตั้งใจจะพาลูกชายไปกราบขอโทษผู้มีพระคุณและมารดา หลังจากเธอปิดบังเรื่องมีครอบครัวเอาไว้ เกือบสี่ปี ที่เธอเก็บเงียบ ไม่ยอมบอกใครแม้กระทั่งเพื่อน ที่วันนี้เธอตัดสินใจมาที่ร้านของเพื่อนก่อนไปบ้านผู้มีพระคุณ“นิด! ไปอุ้มลูกใครมาเนี่ย” ศุภิสราที่ไม่ได้เจอหน้าเพื่อนนานเอ่ยทัก และดีใจมากๆ ที่เพื่อนโทรมาหาว่าจะมาหาที่ร้าน แต่เมื่อเห็นหน้าเพื่อนแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเพื่อนรักมาพร้อมเด็กฝรั่ง หน้าตาน่ารัก“เข้าไปคุยในร้านนะ แล้วในร้านมีคนเยอะหรือเปล่า”“ไม่มีเลย”“งั้นเข้าไปในร้านก่อนนะแล
ตอนที่ 49 “แล้วผู้หญิงคนนั้นก็จะมาอยู่กับตาคลินท์หลานของย่า” คนอยากชังหน้าเมียของหลานชายพึมพำออกมาเบาๆ แต่ก็พอให้แซนด้าได้ยิน “เอ่อ...” แซนด้าถึงกับพูดไม่ออก เพราะรู้ดีว่าผู้อาวุโสไม่ชอบเมียของหลานชายจนถึงกับเอาชีวิตเด็กตัวเล็กๆ มาข่มขู่ จนอีกฝ่ายต้องเผ่นกลับประเทศ “หนูไม่ต้องพูดหรอก เพราะถ้าย่ายังอยู่ ย่าไม่มีวันให้ตาคลินท์ได้อยู่กับผู้หญิงคนนั้น” “โธ่...คุณย่า” “นี่ก็ดึกแล้ว ย่าว่าหนูไปพักผ่อนเถอะ” 
ตอนที่ 48นิธาราเดินกลับห้องพักไปอย่างคนใจลอย หลังจากมาถึงบ้านพักแล้วเธอกับคุณคลินท์ก็พากันไปเดินเล่นรับลมสักครู่ก็พากันกลับเข้าบ้าน แล้วก็เจอกับแซนด้าที่เข้ามาขอคุยธุระกับคุณคลินท์แบบส่วนตัว เธอเลยเดินกลับห้องพักตามลำพัง แต่ขณะที่กำลังจะถึงห้องพักท่อนแขนก็ถูกกระชากอย่างแรง“นิด!”“พี่สิริ!”“ใช่! พี่เอง”“พี่...พี่มีธุระอะไรกับนิดเหรอคะ” ถามไปก็พยายามปลดมือของอีกคนไปด้วย“เธอแอบมีลูกมีผัวอยู่แล้วทำไมต้องปิดบังพี่”“พี่สิริ!”“ตกใจมากหรือไงที่พี่รู้ความจริง”“นิด...นิดขอโทษค่ะ”“คิดว่าขอโทษแล้วจะจบง่ายๆ หรือไง” สิริบีบแขนเล็กจนเจ้าของแขนหน้าเบ้ด้วยความเจ็บ“พี่สิริ นิดเจ็บ” นิธาราพยายามดึงแขนออกจากมือของคู่หมั้นหนุ่ม“แล้วทีเธอหลอกพี่ล่ะ แล้วไหนจะทำเป็นเล่นตัวกับ พี่อีก สะใจเธอมากใ