ระหว่างที่ดลภาคย์ปรึกษาเรื่องการขอใบรับรองกับเภตรา สองแม่ลูกก็จับตามองอยู่เงียบๆ ดวงใจลุ้นแทบแย่ว่าดลภาคย์จะมีคำหวานๆ กับพี่สาวของตนหรือไม่ ทว่าหล่อนต้องฝันสลายเมื่อชายหนุ่มเอาแต่คุยเรื่องงาน และพี่สาวของหล่อนก็เอาแต่ตอบด้วยสีหน้าจริงจัง
จะเครียดอะไรกันนักหนานะคู่นี้ จะดันขึ้นไหมนี่เรา...
เจ๊ดันอย่างดวงใจถอนหายใจเฮือก ก่อนจะพาดุษิตาไปนั่งหน้าทีวี เปิดการ์ตูนให้แม่หนูดู ปล่อยให้มารดาทำกับข้าวที่เหลือไปพลางๆ
เมื่อคุยเกี่ยวกับรายละเอียดปลีกย่อยเรียบร้อย ดลภาคย์จึงเอ่ยปากชวนหญิงสาว
“แล้วหมอกจะพอมีเวลาว่างหรือเปล่า ถ้าพอมี พี่อยากขอให้หมอกไปกับพี่พรุ่งนี้เช้า” เขาสบตาคู่งามของคนที่ตนรักไม่เสื่อมคลายด้วยสายตามีความหวัง ฝ่ายนั้นถอนหายใจอย่างอึดอัด หล่อนให้คำปรึกษาเขาได้แต่ไม่คิดจะไปไหนมาไหนกับเขาสองต่อสอง ยอมรับตามตรงว่าไม่สนิทใจด้วยนัก...
สีหน้าลำบากใจของเภตราทำให้หัวใจของดลภาคย์เหี่ยวแฟบ เขากลายเป็นคนที่หล่อนไม่อยากแม้แต่จะสนทนา จะไปไหนด้วยก็คงคิดหนัก เขาน่ารังเกียจขนาดนั้นเชียวหรือ แต่เมื่อสบตาของหล่อนอีกครั้งเขาก็ต้องเตือนตนเองว่าความจริงนั้นเป็นเพราะเขาเองที่ทำให้หล่อนไม่อาจสนิทใจด้วยได้
“ไม่เป็นไร ถ้าหมอกไม่สะดวกพี่ไปเองก็ได้” ใบหน้าเขาแต้มยิ้ม ทว่าหัวใจของเขาห่อเหี่ยว “ขอบใจมากนะที่ให้คำปรึกษาพี่”
ร่างสูงผุดลุกจากเก้าอี้ตรงไปยังลูกสาวที่นั่งดูการ์ตูนบนเก้าอี้นอนตัวยาวที่พับได้ ดวงใจยิ้มให้เขาพลางส่งดุษิตาคืนพ่อแล้วลุกขึ้น มองไปยังพี่สาวแวบหนึ่งก่อนจะเดินเข้าครัว
เภตรามองสองพ่อลูกอย่างครุ่นคิด เหตุใดเขาจึงเลิกรากับภรรยา แล้วทำไมฝ่ายนั้นจึงยอมให้เขาพาลูกสาวมาด้วยทั้งที่คนเป็นแม่ส่วนใหญ่ไม่มีวันยอมเด็ดขาด...
เกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของเขากันแน่
เภตราตื่นขึ้นแต่เช้าตรู่เหมือนทุกวัน เพียงแต่วันนี้หญิงสาวกำลังคิดว่าจะเอาอย่างไรดี ระหว่างไปกับดลภาคย์ตามคำขอของเขาหรือทำเฉยเมยไม่รู้ไม่ชี้ ทำงานของตนเองไปเหมือนทุกวันที่ผ่านมา
หญิงสาวถอนหายใจยาวเหยียด ใจหนึ่งไม่อยากแยแสแต่อีกใจก็ร้อนรนสาระแนอยากจะช่วยเขา! นัยน์ตามองไปยังสวนกล้วย คนงานที่หญิงสาวว่าจ้างเป็นครั้งคราวเริ่มทยอยมาถึง แต่แทนที่จะก้าวไปหาคนเหล่านั้นร่างบางกลับหมุนตัวกลับเข้าบ้าน แล้วสั่งงานกับดวงใจที่ก้าวลงมาจากบนเรือนทันทีที่พบหน้า
“ไหม วันนี้คุมคนงานแทนพี่ด้วยนะ พี่จะเข้าจังหวัดกับพี่ดลสักพัก”
คำบอกเล่าของพี่สาวทำให้อีกฝ่ายเลิกคิ้วสูง ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา
“ได้สิ ไปเถอะ ทางนี้หนูจัดการเอง”
เมื่อได้รับคำตอบจากน้องสาวอย่างแข็งขัน เภตราก็หันหลังให้อีกฝ่ายทันที หล่อนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เบอร์ของเขายังอยู่ในนี้ที่เดิม ไม่เคยลบมันออกในขณะที่เขาเองก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเช่นกัน...
คนที่กำลังจะก้าวขึ้นรถยนต์ด้วยชุดเสื้อเชิ้ตสีเทาและกางเกงยีนสีเข้มชะงัก เมื่อหยิบโทรศัพท์ออกมาดู หัวใจของเขาก็เต้นแรง รีบรับสายด้วยความยินดี
“ฮัลโหลหมอก”
คนต้นสายขบเม้มริมฝีปากแน่น เพิ่งนึกได้ว่าไม่ควรเลือกทางนี้เลยจริงๆ หล่อนควรให้เขาช่วยเหลือตนเองเหมือนที่หล่อนก็ต้องดิ้นรนหาทางด้วยตนเองมาโดยตลอดเสียจะดีกว่า ทว่าสิ่งที่หญิงสาวตอบกลับไปคือ...
“ออกจากบ้านหรือยังคะ ถ้ายังแวะมารับหมอกที่บ้านด้วย จะไปเป็นเพื่อน”
ดลภาคย์หันไปยิ้มให้บิดาที่เดินตามหลานสาวอยู่บนลานหน้าบ้าน
“กำลังจะออกไป อีกสักพักพี่ไปรับนะหมอก”
เภตราหันไปมองน้องสาวที่เตรียมกระติกน้ำแข็งและน้ำอัดลมแก้กระหายออกไปให้คนงาน แล้วหันไปเจอมารดาเข้าพอดี จึงรีบบอกกับชายหนุ่ม
“ค่ะ แค่นี้นะคะ” หญิงสาวตัดสายแล้วหันไปหามารดา “แม่ หนูจะไปกับพี่ดล เมื่อวานเขาขอให้หนูไปเป็นเพื่อนเรื่องขอใบรับรอง”
หญิงสาวสบตามารดาได้ไม่เต็มตานัก ทว่าฝ่ายนั้นไม่ซักถามอะไรมากนัก
“จะไปนานไหม”
“ไม่นานหรอก แค่ไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ เสร็จก็จะรีบกลับ”
มารดาพยักหน้าเบาๆ หันไปคว้าเสื้อแขนยาวมาสวม
“งั้นก็ไปเถอะ”
หญิงสาวยิ้มให้มารดาแล้วก้าวออกไปรอดลภาคย์ที่หน้าบ้าน พักใหญ่รถยนต์ของเขาก็เคลื่อนเข้ามาจอด คนงานชะเง้อมองเป็นตาเดียว พอเห็นว่าเป็นใครก็หันไปซุบซิบกัน หญิงสาวรีบขึ้นรถของเขาอย่างรวดเร็ว เพราะไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของคนงาน
ชายหนุ่มหันมายิ้มให้ทันทีที่หล่อนก้าวขึ้นมานั่งเคียงข้างตน
“ขอบใจนะที่ยอมมากับพี่”
เภตราสบตาเขาแวบหนึ่ง รู้สึกร้อนวูบแถวโหนกแก้ม
“ไม่เป็นไรค่ะ เราเพื่อนบ้านกันอยู่แล้ว ไม่ช่วยกันแล้วใครจะช่วย”
คำตอบของหญิงสาวทำเอาคนฟังหัวใจเหี่ยวลงฉับพลัน ใบหน้าที่สดใสเมื่อครู่ก็พลอยหม่นแสงตามไปด้วย เขาหันไปมองข้างหน้าแล้วออกรถด้วยความรู้สึกเสียใจ แต่ก็ยังบอกออกมาว่า
“ถึงอย่างนั้นพี่ก็ต้องขอบใจหมอกอยู่ดี” พูดจบรถยนต์ก็เคลื่อนออกจากบริเวณนั้น เภตราลอบผ่อนลมหายใจแผ่วๆ หล่อนไม่คิดจะทำร้ายจิตใจเขาด้วยคำพูด แต่ปากก็ไวจนห้ามไม่ทัน
นางอุบลมองตามท้ายรถยนต์ที่ลูกสาวนั่งไปด้วยความครุ่นคิด ไม่รู้เภตรานึกยังไงถึงไปกับดลภาคย์ เลิกกลัวใครต่อใครจะนินทาแล้วหรืออย่างไร หรือเพียงแค่ได้พบหน้า พูดคุยและรู้ว่าอีกฝ่ายหมดพันธะก็เกิดมีความหวังขึ้นมาอีก
สำหรับนางแล้ว หากตัดเรื่องที่อีกฝ่ายทอดทิ้งบุตรสาวไป ชายหนุ่มก็ยังคงเป็นคนดีมีน้ำใจไม่เปลี่ยนแปลง นางยอมรับตรงๆ ว่าเคยอยากได้ดลภาคย์เป็นลูกเขย แต่เวลานี้อะไรๆ มันก็เปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว และหากฝ่ายนั้นจะกลับมาหาลูกสาวตนจริง ก็คงต้องพิสูจน์หัวใจกันนานสักหน่อย อยากจะรู้นักว่า หากเภตราใจแข็งแล้วฝ่ายนั้นจะถอดใจหรือไม่ แต่ดูแล้วลูกสาวของนางท่าทางจะแข็งนอกอ่อนในล่ะสิไม่ว่า นี่ขนาดได้พูดกันแค่วันเดียวยังยอมไปกับเขาง่ายๆ เลย...
"เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยลงไปหาอะไรกินข้างล่างนะ” เสียงทุ้มบอกชิดแผ่นหลังเนียนของหญิงสาว ทำให้คนที่เพิ่งกลับมาหายใจได้เป็นปกติยิ้มจาง “พรุ่งนี้เราไม่ได้อยู่ที่นี่นะคะ” คนตัวโตเปลือยเปล่าตอบกลับพลางเลื่อนกายลงจากร่างนุ่มของภรรยาพร้อมกับรั้งเข้าไปกอดเอาไว้ในอ้อมแขน “ก็ไว้ไปกินที่โน่นไง” คำตอบของเขาทำให้หญิงสาวหัวเราะออกมาเบาๆ เพราะทั้งคู่มีแพลนท่องเที่ยวญี่ปุ่นกันหลายแห่ง ที่มีทั้งในเขตเมืองและชนบท จึงต้องจองที่พักเอาไว้ล่วงหน้าหลายที่ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของการเดินทางท่องเที่ยว “เรามีลูกเพิ่มอีกสักคนดีไหมหมอก” ดลภาคย์ในวัยที่ขึ้นต้นด้วยเลขสี่ยังคงหนุ่มแน่นทั้งร่างกายและจิตใจ เรียกว่าเป็นวัยที่กำลังน่ากิน รูปร่างของเขาดีกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำไป ถึงแม้ว่าเขาจะทำงานหนัก แต่ก็ออกกำลังกายไม่ได้ขาด หล่อนเองก็พลอยออกกำลังกายตามเขาไปด้วย เภตราในวัยสามสิบสี่ย่างสามสิบห้า จึงทั้งสาวและสวยและดูเด็กกว่าอายุมาก จึงไม่มีปัญหาหากต้องการตั้งท้องลูกคนที่สาม “ช่วยหมอกเลี้ยงหรือเปล่าล่ะ นี่ยังปวดหัวกับสามแสบที่บ้านอยู่เลย” หญิงสาวเอ่ยถาม พลางไล้ปลายน
หลังจากทุ่มเทกับบริษัทนำเข้าและส่งออกจนประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ดลภาคย์ตัดสินใจชวนภรรยาสุดที่รักเดินทางไปฮันนีมูนหวานยังประเทศญี่ปุ่น โดยฝากลูกๆ เอาไว้กับปู่และยายให้ช่วยดูแล เมื่อเก็บของเข้าที่พัก ชายหนุ่มก็พาภรรยาออกไปเปิดหูเปิดตาทันที ระหว่างที่กำลังถ่ายภาพให้ภรรยาอยู่นั้น ก็มีเสียงคุ้นเคยเอ่ยทักจากด้านหลัง “ดล” คนถูกเรียกหันไปตามเสียง เช่นเดียวกับคนที่กำลังยืนโพสท่าถ่ายรูปก็รู้สึกแปลกใจเช่นเดียวกันที่ได้พบคนรู้จักโดยบังเอิญ “รัต ไม่ได้เจอกันนานเลย มาเที่ยวเหรอ” ดลภาคย์ทักทายเพื่อนเก่า พร้อมกับหันไปพยักหน้าเรียกภรรยาที่กำลังเดินตรงมาหา มือใหญ่ที่สวมกอดภรรยาทันทีที่หญิงสาวมาหยุดอยู่ข้างกาย ทำให้รัตติกาลผ่อนลมหายใจยาว ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ดลภาคย์ก็ยังคงรักมั่นอยู่แต่กับเภตราไม่เสื่อมคลาย ขณะเดียวกันหล่อนเองก็ไม่เคยลืมความรู้สึกที่เคยมีต่อเขา แม้ทุกวันนี้จะใช้ชีวิตอยู่กับสามีชาวญี่ปุ่นก็ตามที “ไม่ได้มาเที่ยว แต่รัตมาอยู่กับสามีที่นี่ได้สักสองปีแล้ว” “นั่นสินะ เราได้ข่าวว่ารัตไม่ได้อยู่เมืองไทยแล้ว ที่แท้มาอยู่กับสา
บทพิเศษ ๒อนุกุลพาลูกและภรรยาแวะมาเยี่ยมเยียนเภตราและครอบครัวหลังจากหายหน้าหายตาไปนาน ชายหนุ่มมีร่างกายอ้วนท้วนกว่าแต่ก่อนพอควร และดูมีความสุขมากเช่นกัน “หายหน้าหายตาไปนานเลยนะคะพี่แอ๊ด” หญิงสาวต้อนรับชายหนุ่มกับเพื่อนรัก ที่แต่งงานกันหลังจากหล่อนแต่งงานกับดลภาคย์เพียงหนึ่งปีเท่านั้นด้วยความดีใจ “พี่ไปทำฟาร์มที่ต่างจังหวัดน่ะ ก็เลยต้องทุ่มเทให้กับฟาร์มใหม่ หมอกกับพี่ดลดูสบายดีนะ เด็กๆ โตเร็วมาก” เขามองลูกๆ ของหญิงสาวกับหนุ่มรุ่นพี่ด้วยสายตาเอ็นดู เขาเองก็กำลังมีลูกคนที่สองกับภรรยาเช่นกัน “สบายดีค่ะ พี่แอ๊ดเองก็กำลังมีคนที่สองใช่ไหม ว่าแต่กี่เดือนแล้วเนย” หันไปถามเพื่อนที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ “สี่เดือนแล้วจ้ะ” ตอบพลางลูบท้องตนเองเบาๆ “ดีใจด้วยนะ ของเราก็กำลังซนเลย โชคดีที่พี่เดียวเริ่มดูแลน้องได้แล้ว เลยเบาแรงเราได้มาก” หญิงสาวเอ่ยถึงลูกเลี้ยงที่ตนรักเหมือนลูกแท้ๆ ด้วยแววตารักใคร่ “หมอกโชคดีรู้ไหม มีลูกโตทันใช้ น้องเดียวเองก็โคตรน่ารัก เหมือนกับว่าตั้งใจมาเกิดเป็นลูกเธอ แค่อาศัยท้องคนอื่นเท่านั้น ดูสิ ยิ่งโตยิ่งหน้าตาคล้ายกันอย่างน่าอ
“คุณดลโชคดีนะคะ ที่มีภรรยาทั้งสวยและเก่ง ลูกๆ ก็น่ารักทุกคน” ดลภาคย์สบนัยน์ตาคู่งามพร้อมกับยิ้มตอบ รับรู้ว่าหญิงสาวคิดเช่นไรกับตนเองมาโดยตลอด ทว่าเขาไม่มีตาจะแลใครที่ไหนอีก นอกเสียจากภรรยาคนงามของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ถึงหล่อนจะเผลอคิดเกินเลยกับเขาไปบ้าง แต่ชายหนุ่มนับถือหล่อนอยู่อย่างหนึ่งนั่นคือ การไม่คิดล้ำเส้นเรื่องส่วนตัวและรู้ว่าควรปฏิบัติตนเช่นไรกับคนที่แอบมีใจให้ ไม่ทำให้ครอบครัวของเขาต้องร้าวฉานเหมือนกับผู้หญิงอื่นที่เขาเคยเจอ จึงเลือกมองข้ามความรู้สึกที่หญิงสาวมีต่อเขา ไม่เช่นนั้นคงไม่อาจร่วมงานกับหล่อนมาจนถึงวันนี้ “ต้องขอบคุณภรรยาของผม เพราะมีเธอเคียงข้างและเป็นกำลังใจ ผมจึงมาถึงจุดนี้ได้” ทั้งสีหน้าและแววตายามเขาเอ่ยถึงเภตรา วาสินีสัมผัสได้ถึงความรักและการยกย่องจากดลภาคย์ หญิงสาวผ่อนลมหายใจอย่างยอมรับว่าไม่มีช่องว่างใดให้หล่อนหรือใครคั่นกลาง เขาเป็นผู้ชายหนึ่งในล้านที่มีความจงรักภักดีต่อคู่ชีวิตอย่างที่สุด และวันนี้หล่อนคงต้องยอมตัดใจจากเขาเสียที “วาดีใจที่คราวนี้จะมีคุณหมอกไปกับเราด้วยนะคะ วาจะจัดการเรื่องการเดินทางของคุณหมอกให้เร
บทพิเศษ ๑ชีวิตคู่ของดลภาคย์กับเภตราผ่านมาแล้วห้าปี แต่ทั้งสองแทบไม่เคยทะเลาะกัน ดลภาคย์แม้อายุมากขึ้นทว่ากลับยิ่งมีเสน่ห์ ทำให้มีผู้หญิงหลายคนสนใจอยากเป็นคนข้างกายหนุ่มหล่อและภูมิฐานที่มีฐานะมั่นคง บางคนรู้ว่าเขามีภรรยาแล้วยังมองข้ามความจริง ส่วนคนที่ไม่รู้ก็พยายามหาทางเข้าใกล้ให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกันเภตราก็ไม่น้อยหน้า หญิงสาวไม่เคยปล่อยให้ตนเองทรุดโทรมตามกาลเวลา แม้จะผ่านการตั้งท้องและคลอดลูกมาแล้วถึงสองครั้งแต่นับวันหญิงสาวยิ่งงดงามราวกับดอกไม้ที่แย้มบานเต็มที่ ส่งกลิ่นยั่วยวนหมู่ภมรให้หมายดอมดม ร่างงดงามที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตผ้าพลิ้วชมพูเข้ม สอดชายเสื้อภายใต้กางเกงสแล็กสีดำ เน้นให้เห็นสัดส่วนงดงาม ดวงหน้าหวานแต่งแต้มเพียงบางเบา อวดความเนียนใสไร้จุดด่างดำเดินผ่านประตูสำนักงานเข้าไปภายใน ดวงตาคู่งามมีรอยยิ้มหยอกเย้าเมื่อหันไปเห็นเตโชนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานของน้องสาว ทั้งคู่ตัดสินใจคบหากันเมื่อสองปีก่อน ปลัดหนุ่มใหญ่จึงกลายมาเป็นแขกประจำของดวงใจไปโดยปริยาย อีกไม่นานคงมีข่าวดีให้ได้แช่มชื่น เพราะปลัดหนุ่มได้เกริ่นเรื่องการสู่ขอกับมารดาของหล่อนเป็นที่เรียบร้อย ร่างร
“น้องเดียวหิวไหมคะ แม่หมอกทำสาคูเผือกเอาไว้ให้ด้วยนะ” ของชอบของแม่หนูเขาละ เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดุษิตาก็ยกมือขึ้นทันที “กินค่า น้องเดียวกิน” เภตรายิ้มหวานให้ลูกสาว ดวงใจจึงอาสาลุกไปตักให้ ไม่นานนักแม่หนูก็ตักสาคูเผือกกินอย่างเอร็ดอร่อย โดยมีเภตราคอยดูแลความเรียบร้อยอยู่ข้างๆ ดลภาคย์มองภาพนั้นด้วยความสุขใจ เขาสบตาบิดาแล้วยิ้มให้ท่าน นายสนเองก็ดีใจที่ลูกชายเลือกรักคนไม่ผิด เภตราไม่ได้รักเพียงลูกชายของเขา แต่ยังเผื่อแผ่ความรัก ความเมตตามาให้หลานสาวของท่านด้วย จะมีความสุขใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าความสุขที่ได้เห็นภรรยาใหม่ของบุตรชายมีความรักความปรานีให้กับลูกติดอย่างจริงใจเช่นหญิงสาวตรงหน้า ท่านคงตายตาหลับแล้วคราวนี้...สภาพอากาศวันนี้สดใส ไม่ต่างกับกิจการของดลภาคย์ บริษัทนำเข้าส่งออกของเขาขยายใหญ่ขึ้น เรียกว่าความสำเร็จเติบโตเป็นเงาตามตัว เช่นเดียวกับลูกชายตัวน้อยที่อายุครบหนึ่งขวบเต็มวันนี้พอดี พ่อแม่ลูกทั้งสี่คนจึงตื่นแต่เช้าเพื่อทำบุญตักบาตรโดยเฉพาะพี่เดียวที่เตรียมชุดสุดหล่อเอาไว้ให้น้องชายตั้งแต่เมื่อเย็นวาน ซ้ำยังแคะกระปุกหมูซื้อของขวัญให้น้องชายแสนรักอี