 LOGIN
LOGINตอนที่ 4 เลี้ยงสัตว์ปลูกผัก
ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ท้องนภาเริ่มมีพระจันทร์ขึ้นมาแทนที่ เซี่ยวซือเตรียมอาหารรอน้อง ๆ ทั้งสองเสร็จแล้วรีบเรียกให้น้อง ๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าล้างไม้ล้างมือเพื่อกินข้าวเย็น
“ตอนนี้อาหารเสร็จแล้ว เจ้าทั้งสองไปเปลี่ยนอาภรณ์เถิดแล้วมากินข้าวด้วยกัน” เซียวหลงหลับตาสูดดมกลิ่นหอมที่คละคลุ้มเต็มอากาศโชยมายั่วกระเพาะของเขาจนท้องเริ่มร้องประท้วง
“กลิ่นหอมจริง ๆ รสชาติต้องดีมากแน่ ๆ ข้าจะรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้” เด็กชายไม่ว่าเปล่ารีบเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในกระท่อมถอดเสื้อผ้าเปลี่ยนและนำผ้าเปียกไปตากไว้ข้างนอก ส่วนเซียวจ้านยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่
“เจ้าไม่รีบไปเปลี่ยนอาภรณ์กับน้องเล็กจะได้มากินข้าวพร้อมกัน”
“ท่านพี่ เรื่องที่ท่านพี่เอ่ยมาเป็นความจริงเช่นนั้นหรือ? หากท่านพี่ไม่ใช่พี่ใหญ่ของข้าแล้วยามนี้พี่ใหญ่ของข้าอยู่ที่ใดกัน” เซียวจ้านตระหนักได้ถึงสิ่งที่สตรีตรงหน้าเอ่ยออกมาเมื่อเช้า เขาเริ่มเป็นห่วงพี่สาวของเขาขึ้นมา ใบหน้าของเซี่ยวซือนิ่งเรียบเพราะนางเองก็ตอบสิ่งที่น้องชายสงสัยไม่ได้เช่นเดียวกัน
“เรื่องนั้นข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่แน่พี่สาวของเจ้าอาจจะอยู่ในร่างเดียวกับข้าเพื่อรอวันที่ข้าทำภารกิจสำเร็จแล้วพี่เจ้าคงกลับมาเมื่อนั้นข้าเองก็คงได้กลับโลกเดิมของข้า ”
“เช่นนั้นคงเป็นสวรรค์ลิขิตมาข้าหวังว่าพี่สาวของข้าจะสบายดี และต่อจากนี้ข้าจะเชื่อฟังท่านทุกอย่างเสมือนท่านเป็นพี่สาวของข้าเช่นเดิม ” เอ่ยจบเซียวจ้านเดินเข้าไปในเรือนเปลี่ยนอาภรณ์เพื่อมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา เซี่ยวซือจ้องมองแผ่นหลังของเขาพรางถอนหายใจ
“ข้าก็หวังว่าให้พี่สาวของเจ้าสบายดีเพราะเมื่อไหร่ที่ข้าทำภารกิจสำเร็จข้าจะได้กลับไปยังโลกของตัวเองไปใช้ชีวิตสุขสบายอย่างที่เคยเป็นไม่ต้องมาเหน็ดเหนื่อยอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน” นางเอ่ยพึมพำก่อนจะเดินตามหลังน้องเข้าไปด้านใน
เมื่อทั้งสองคนมานั่งที่โต๊ะกินข้าวต้องตกใจเพราะวันนี้มีทั้งผัดผักน่ากิน ต้มปลาเป็นตัว ๆ อย่างที่ไม่เคยได้กินมาก่อน
“นี่คือสิ่งที่ท่านพี่เอ่ยบอกเมื่อเช้าใช่หรือไม่ขอรับ ว้าวดีจริง ๆ ต่อจากนี้พวกเราจะไม่ต้องอดมื้อกินมื้ออื่นแล้ว ”ดวงตาของเซียวหลงเป็นประกายจ้องมองอาหารที่อยู่ต่อหน้า
“ใช่แล้ว เจ้ากินเยอะ ๆ จะได้แข็งแรงต่อจากวันนี้ไปเรามีงานที่ต้องใช้แรงเยอะมาก ดังนั้นเราจะต้องกินอาหารที่มีประโยชน์ ปลายังไม่หมดเพียงเท่านี้ พรุ่งนี้ข้าจะเผาปลาให้เจ้ากิน ส่วนอีก 2 ตัวข้าจะนำไปตากแดดเพื่อไว้ใช้ปรุงอาหารในวันถัดไป ไม่แน่พรุ่งนี้ถ้าเราขยันทำงานได้มากกว่าวันนี้ ของในเรือนแม้แต่เสื้อผ้าของกิน ต้องมีมากกว่าเดิมดังนั้นวันนี้เรามากินข้าวให้อิ่มกันเถอะ” เซี่ยวซือยิ้มกว้างก่อนที่จะลงมือคีบเนื้อปลาให้น้อง ๆ ทั้งสองคน หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จเซียวหลงกับเซียวจ้านเป็นคนอาสาเก็บกวาดและล้างชามเอง ส่วนเซี่ยวซือนางเข้ามาดูที่นอนที่นางจะนอนในวันนี้ เตียงไม้ที่แข็งจนแทบปวดหลังฟูกบางจนแทบไม่รู้สึกว่านอนฟูกด้วยซ้ำ ผ้าห่มก็บางและขาดจนแทบไม่อาจจะทำความอุ่นได้หากถึงฤดูเหมันต์
“ชีวิตของพวกเขาช่างน่ารันทดจริง ๆ เฮ้อ หากเป็นไปได้อยากจะพาทั้งสองคนไปที่โลกของข้าจริง ๆ เลย เอาล่ะมีเท่านี้ก็นอนเท่านี้ไปก่อน เอาไว้ที่ทุกอย่างเข้าร่องเข้ารอยคงต้องจัดการใหม่หรือไม่ก็นำคะแนนไปแลกของใช้ในเรือนใหม่ทั้งหมด ”
ฝั่งด้านเซียวจ้านกับเซียวหลงเมื่อทั้งสองอยู่ด้วยกันตามลำพังผู้เป็นพี่จึงเอ่ยถามความรู้สึกของเสี่ยวเอ๋อร์ที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาล้างชามอยู่
“เซียวหลงเจ้าไม่รู้สึกอันใดเลยหรือสตรีที่อยู่กับเรายามนี้มิใช่ท่านพี่เซี่ยวซือของเรา”
"ทำไมข้าต้องรู้สึกอันใดด้วยเล่าพี่รองในเมื่อพี่เซี่ยวซือต่างก็ดีกับเรา ทำให้เรามีข้าวกินไม่ต้องอดอยากเช่นเดิม ข้าเชื่อว่าท่านพี่เซี่ยวซือก็คือท่านพี่ของข้าไม่เช่นนั้นนางคงหาทางหนีไปจากเรามากกว่าที่จะทนลำบากขอรับ ท่านพี่เลิกกังวลเสียที" เด็กชายเอ่ยตามที่เขารู้สึก เพราะไม่ว่าอย่างไรสตรีที่มาอยู่ในร่างของพี่สาวก็ทำหน้าที่ไม่ต่างจากพี่สาวของเขาเลยแม้แต่น้อยแถมยังแข็งแรงมีความคิดที่เฉลี่ยวฉลาดสามารถปกป้องเขาจากชาวบ้านได้
“หากเจ้าคิดเช่นนั้นข้าเองก็เบาใจและหวังว่าพี่เซี่ยวซือยังอยู่ในร่างเช่นเดิม เอาล่ะตอนนี้ชามล้างหมดแล้วเข้านอนกันเถอะต่อจากนี้เราต้องทำตามที่ท่านพี่บอกทุกอย่างเพื่อที่จะได้มีชีวิตที่สุขสบาย” ทั้งสองเดินเข้าไปในเรือน ดับเทียนที่เป็นเพียงแสงสว่างหนึ่งเดียวในเรือนหลังนี้เพื่อพักผ่อน ค่ำคืนที่เงียบสงัดร่างบางไม่เคยทำงานหนักก็หลับสนิททันทีที่หัวถึงหมอน
รุ่งเช้าวันต่อมา
เซี่ยวซือตื่นแต่เช้าตรู่ หุงข้าวทำอาหารโดยมีเซียวจ้านเป็นคนช่วยเหลือ เมื่อนางทำเสร็จจึงเดินออกมาสำรวจนอกเรือน พื้นที่กว้างขวางหากปลูกผักและเลี้ยงสัตว์คงทำได้สบายจึงรีบไปถามเซียวจ้านที่กำลังจ้องมองน้ำในตุ่มเล็กที่ใสสะอาด
“น้องรอง ข้ามีสิ่งหนึ่งที่อยากถามเจ้า”
“มีเรื่องอันใดหรือขอรับ”
“พื้นที่บริเวณโดยรอบนี้เป็นของผู้ใด เราสามารถใช้ทำมาหากินได้หรือไม่?”
“เดิมทีที่ตรงนี้เป็นพื้นที่รกร้างขอรับ เรามาอาศัยอยู่จึงทำให้พื้นที่ไม่รกเหมือนแต่ก่อน”
“ดีเลยวันนี้เราต้องออกไปตัดไม้ไผ่กัน ข้าจะปลูกผักและเลี้ยงสัตว์เอาแม่ไก่ไข่มาเลี้ยงสัก 5 ตัว ปลูกผักเอาไว้กินและขายที่ตลาดจะได้มีอยู่มีกิน แม้ไม่ร่ำรวยก็สามารถทำให้พวกเจ้าไม่อดตาย เจ้าเตรียมอาหารขึ้นโต๊ะเถิดข้าจะไปปลุกน้องเล็กเอง” เซี่ยวซือตื่นเต้นรีบไปปลุกน้องชายอีกคนเพื่อมากินข้าวและทำงานเพื่อแลกคะแนนเพื่อนำของออกมาใช้
ตะวันเริ่มส่องสว่างแดดที่อ่อนเริ่มแรงขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นอยู่กลางศีรษะทั้งสามคนพี่น้องขะมักเขม้นตั้งใจทำงานกันอย่างสามัคคี ช่วยกันแบกไม้ไผ่และทำเล้าไก่เสร็จในที่สุด
“เฮ้อในที่สุดก็เสร็จจนได้ ”
“ท่านพี่ ท่านคิดอันใดอยู่เหตุใดถึงต้องเลี้ยงไก่ขอรับ กว่าจะได้โตและได้กินก็อีกนานเลย ”
“ข้าไม่ได้หวังให้เจ้ากินเนื้อไก่เสียหน่อย ที่ข้าจะเลี้ยงเพราะไก่ที่ข้าจะเอาคะแนนแรกมาคือแม่ไก่ที่สามารถออกไข่ให้เจ้าได้ทุกวันต่างหาก แถมยังสามารถเอามูลของไก่ไปใส่ผักที่กำลังจะปลูกอีกด้วยเช่นนี้จะได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน อากาศร้อนจริง ๆ เจ้าไปตักน้ำในตุ่มมาให้กินหน่อยสิ” เซี่ยวซือนั่งลงบนแคร่ ร่างกายเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ
“ขอรับ” เด็กชายไม่รอช้ารีบไปดูน้ำที่พี่สาวกรอกเอาไว้ ยามนี้ใกล้เต็มตุ่มใสสะอาดไม่มีเศษฝุ่นแม้แต่น้อยเขารีบตักมาให้พี่สาวด้วยความตื่นเต้น
“พี่รอง พี่รองดูสิขอรับน้ำที่พี่ใหญ่กรองเอาไว้ใสสะอาดมากจริง ๆ ขอรับ ”“เห็นหรือไม่ข้าบอกแล้วว่าสิ่งที่ข้าทำจะทำให้น้ำใสสะอาดมากกว่าเดิม ”
“ท่านพี่ ท่านบอกว่าท่านมาจากโลกอื่นท่านช่วยเล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่ว่าท่านใช้ชีวิตอย่างไร เป็นอย่างที่เป็นตอนนี้หรือไม่” เซี่ยวซือวางจอกน้ำลงจ้องมองเด็กชายที่รอนางเล่าให้ฟังด้วยความตั้งใจ
“ได้สิข้าจะเล่าให้ฟัง ” เซี่ยวซือใช้เวลาที่ดวงอาทิตย์สาดแสงร้อนระอุไม่อาจจะออกไปทำงานอันใดได้เล่าเรื่องโลกของตนเองและการใช้ชีวิตของนางให้น้อง ๆ ฟัง เซียวหลงทั้งตื่นเต้นและอยากเห็นโลกที่พี่สาวเคยอาศัยอยู่จริง ๆ จนกระทั่งดวงอาทิตย์ถูกบดบังด้วยก็อนเมฆ ทั้งสามคนก็เริ่มเตรียมแปลงผัก พรวนดินกันคนละไม้คนละมือ

ตอนที่ 9 วาสนาพานพบเซี่ยวจ้านพยายามสะบัดนางออกจากแขนข้างซ้ายของเขาแต่ทำอย่างไรก็ไม่มีท่าทีว่าจะสลัดนางหลุดมือของนางเหนียวยิ่งกว่าหนวดปลาหมึกเสียอีก“ปล่อยข้านะ อย่ามาแตะตัวข้าเอาแขนของท่านออกไปจากกายข้าเดี๋ยวนี้”“ไม่ ! ทำไมถึงหวงตัวนักหรือว่าเจ้าต้องการค่าตัวได้วันนี้ข้าจะจ้างเจ้าให้เดินเล่นกับข้าและไปส่งข้าที่เรือน อีกอย่างข้ารู้แล้วว่าเรือนของเจ้าอยู่ที่ใดเจ้าไม่มีทางหนีข้าไปทางใดได้หรอกนะจางเซียวจ้าน และอย่าคิดจะปฏิเสธข้าไม่อย่างนั้นข้าจะใช้อำนาจของข้าบังคับเจ้า”“ฮึ!! แล้วที่ท่านทำอยู่นี่ไม่บังคับหรืออย่างไร ข้ามิได้เต็มใจท่านบังคับขู่เข็ญข้าไม่พอยังจะเอาเบี้ยมาฟาดหน้าข้าอีกราวกับว่าดูถูกข้า นี่หรือที่เรียกว่าถูกชะตาข้า ไม่ต่างจากบุตรขุนนางที่เอาแต่ใจตนเองเมื่ออยากได้ของที่ต้องการก็ใช้อำนาจเพื่อได้มันมาเมื่อไหร่ที่เล่นเสร็จเบื่อก็ขว้างมันทิ้งหรือว่ากำจัดมันไปให้พ้นสายตา ในที่สุดท่านก็เผยให้เห็นว่าท่านเป็นสตรีเช่นไร” เสี่ยวเอ๋อร์เพียงแค่ขู่เขาเท่านั้นเพราะอยากให้เขาเที่ยวเล่นกับนางแต่ไม่คิดเลยว่าชายผู้นี้จะอคติคิดว่านางเป็นสตรีเช่นนั้นไปได้“เฮ้องั้นบอกมาว่าข้าจะต้องทำอย่างไรเจ
ตอนที่ 8 ไปเที่ยวยามโหย่ว(18.00) ราตรีมาเยือนท้องนภามีดวงดาวกับดวงจันทร์ขึ้นส่องสว่าง อากาศเย็นสบายจากสายลมที่พัดเอื้อนเอ่ย เสียงเจี๊ยวจ้าวตื่นเต้นของเซียวหลงดังกึกก็องเพื่อเร่งพี่สาวกับพี่ชายของตนให้แต่งตัวออกจากเรือนกันอย่างเร่งรีบ“ท่านพี่เร็ว ๆ เข้าสิ ข้าอยากไปเที่ยวแล้ว”“เซียวหลงเจ้าใจเย็น ๆ สิ อย่างไรข้าก็พาเจ้าไปอยู่แล้ว เซียวจ้านเจ้าเตรียมตัวเสร็จหรือยัง เป็นเช่นไรบ้างอาภรณ์ที่ข้านำมาให้เจ้า” เซี่ยวซือเอ่ยถามน้องชายที่แต่งกายอยู่ในห้องส่วนตัว ยามนี้เรือนของนางเริ่มเป็นที่เป็นทางหลังใหญ่ขึ้นมากกว่าแต่ก่อนเพราะได้ของจากระบบมาช่วยเหลือ และช่วยกันสร้างกับน้อง ๆ จึงมีห้องแยกเป็นของตนเองแถมนางยังนำที่นอนในสมัยใหม่มาให้น้อง ๆ จะได้นอนสบาย ๆ ไม่ต้องทนเจ็บหลังจากเตียงแข็ง ๆ อีกต่อไป แม้จะแลกด้วยคะแนนที่มากกว่าของกินแต่นางก็ยอมทำเพื่อให้น้อง ๆ สุขสบายนั่นคือภารกิจของนาง หนึ่งเดือนที่นางมาอยู่ที่นี่เริ่มผูกพันกับทั้งสองจนตอนนี้นางคิดว่าตนเองเป็นพี่สาวของเด็กทั้งสองจริง ๆ “ข้าเสร็จแล้วขอรับ แต่ว่าพี่ใหญ่ชุดที่ท่านให้ข้า ข้าว่ามันดูแปลกตานะขอรับ ข้าว่ามันไม่เหมาะกับข้าเท่าไหร่นัก “ เซ
ตอนที่ 7 ไม่น่าเข้าไปยุ่งเลยฝั่งด้านเซี่ยวซือ นางเดินเล่นกับเซียวหลงตั้งแต่ทะลุมิติมานางไม่เคยเข้ามาเดินที่หมู่บ้านและตลาดเลย นี่เป็นครั้งแรก คราแรกนางจะไม่ตามหลังน้อง ๆ มาแต่ก็กลัวว่าจะเจอผู้ใหญ่นิสัยไม่ดีจึงเดินตามหลังมาเงียบ ๆ และก็เป็นอย่างที่นางคิดเอาไว้ไม่มีผิด“ท่านพี่ดูตรงนั้นสิขอรับ เขากำลังเตรียมงานกันครึกครื้นน่าดู ข้าอยากให้ตะวันตกดินเร็ว ๆ ”“เจ้าตื่นเต้นมากสินะ วันนี้ข้าจะพาเจ้ามาแน่นอนแต่ว่ากลับไปที่เรือนเจ้าต้องไปช่วยพี่รองยกน้ำมาใส่ตุ่มเสียก่อนเข้าใจหรือไม่ ""ขอรับท่านพี่” เด็กชายตั้งตารอช่วงเวลายามเย็น ทั้งสองกำลังเดินกลับเรือนสายตาของเซี่ยวซือหันไปเห็นบุรุษร่างสูงโปร่งแต่งกายดูมีภูมิฐานทว่าเขากำลังทำตัวลับ ๆ ล่อแถมยังดูเหมือนกำลังยืนมองสตรีเปลือยกายอาบน้ำที่เรือนของนาง เซี่ยวซือทนเห็นไม่ได้รีบบอกให้น้องชายรออยู่ถนนสักครู่นางขอไปจัดการกับชายบ้ากามคนนั้นก่อน นางจะทำให้คนที่กำลังเดินผ่านมาได้รับรู้ว่ามีชายบ้าตัณหากำลังแอบดูสตรีเปลืองผ้าอยู่“เจ้าช่างกล้ากลางวันแสก ๆ ยังมาแอบดูสตรีอาบน้ำเปลืองเสื้อผ้า คนเช่นนี้ต้องจับตัวส่งทางการ ท่านลุงท่านป้ามาดูคนนิสัยไม่ดีแอบดูส
ตอนที่ 6 เย็นชา“คุณหนูเจ้าคะท่านให้เบี้ยข้ามาเกินเจ้าค่ะ”“เอาไปเถอะ ข้าอยากช่วยพวกท่าน 3 คนพี่น้อง”“ขอบน้ำใจท่านมากเจ้าคะ เช่นนั้นถือว่าเป็นการตอบแทนข้าจะให้น้องรองของข้าเดินถือไข่ไปส่งท่านนะเจ้าคะ หากว่ายังไม่กลับก็ให้น้องชายของข้าดูแลท่านจนกว่าท่านจะกลับเรือนถือเป็นการตอบแทนที่ท่านให้เบี้ยมาเกินเจ้าค่ะ นี่เซียวจ้านดูแลคุณหนูให้ดีเข้าใจหรือไม่ นี่เอาไว้ซื้ออะไรกิน”เซี่ยวซือดันกายน้องชายไปด้านหน้าใกล้ชิดก่อนจะกอดคอเซียวหลงเดินหนีไปโบกมือด้านหลังให้น้องรองโชคดี"ข้ามีนามว่ามู่เสี่ยวเอ๋อร์ เป็นบุตรสาวเพียงผู้เดียวของใต้เท้ามู่ เจ้ามีชื่อแซ่ว่าอันใด”“ท่านมิต้องรู้จักชื่อแซ่ขอหรอกขอรับ ไม่มีเรื่องอันใดที่เราต้องพบเจอกันอีก ท่านจะไปที่ใดต่อหรือจะกลับเรือนข้าจะเดินไปส่งตามที่ท่านพี่ของข้าสั่งเอาไว้” เซียวจ้านเย็นชาตอบออกไปเสียงเรียบไร้ไมตรีแต่กลับถูกอกถูกใจเสี่ยวเอ๋อร์จนนางเคล้นหัวเราะออกมาเบา ๆ“ข้าต้องการไปที่ร้านขายผ้า เจ้าบอกว่าท่านพี่ของเจ้าสั่งให้ส่งข้าถึงเรือนเช่นนั้นต้องไปกับข้าจนกว่าข้าจะทำธุระเสร็จสินะ เว่ยซีเจ้าไปซื้อของตามที่ท่านแม่สั่งและกลับเรือนก่อนข้าได้เลยมิต้องเป็นห่วง
ตอนที่ 5 ขอโทษข้าเดี๋ยวนี้1 เดือนต่อมาหลังจากที่เซี่ยวซือมาใช้ชีวิตในยุคโบราณนางเริ่มปรับตัว จากคนขี้เกียจกลายเป็นคนขยันแต่ละวันตื่นมาก็ต้องใช้ความคิดว่าจะทำอะไรวันนี้ กระท่อมหลังเล็ก ๆ ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี มีของใช้มากมายที่เซี่ยวซือนำมาจากระบบ เสื้อผ้าอาภรณ์ของเธอเริ่มมีชุดใหม่ ๆ รวมทั้งของน้องชายทั้งสองด้วย“พี่เซี่ยวซือผักที่ปลูกไว้กำลังงอกงามแล้ว วันนี้ข้าจะนำมูลไก่ไปโปรยและพรวนดินนะขอรับ”“ดี ๆ แล้วนี่เซียวหลงไปที่ใดกัน ข้าไม่เห็นตั้งแต่กินข้าวเช้าเสร็จ”“เห็นว่าจะเข้าไปเที่ยวเล่นในหมู่บ้านขอรับ” “พี่ีใหญ่ พี่รอง ข้ามีเรื่องจะมาบอกขอรับ”ทันทีที่เซียวจ้านตอบคำถามเสียงของเซียวหลงดังขึ้นทั้งสองคนหันไปมองต้นเสียงเห็นเด็กชายกำลังวิ่งหน้าตื่นเข้ามา “มีเรื่องอะไรที่ทำให้เจ้าต้องรีบร้อนวิ่งหน้าตั้งมาเช่นนี้”“วันนี้ที่หมู่บ้านมีงานขอรับ ท่านพี่พาข้าไปเที่ยวได้หรือไม่ขอรับ ข้าได้ยินมาจากเด็กในหมู่บ้าน ”“คิดว่าเรื่องอันใดที่แท้ก็อยากไปเที่ยวเล่นสินะ แต่ว่าการไปเที่ยวเล่นต้องใช้เงินมิใช่หรือเดี๋ยวเจ้าก็อยากกินขนมที่วางขายตามข้างทางเดิน มิได้หรอกเราไม่ได้เงินเบี้ยอัฐสักตำ
ตอนที่ 4 เลี้ยงสัตว์ปลูกผักดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ท้องนภาเริ่มมีพระจันทร์ขึ้นมาแทนที่ เซี่ยวซือเตรียมอาหารรอน้อง ๆ ทั้งสองเสร็จแล้วรีบเรียกให้น้อง ๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าล้างไม้ล้างมือเพื่อกินข้าวเย็น“ตอนนี้อาหารเสร็จแล้ว เจ้าทั้งสองไปเปลี่ยนอาภรณ์เถิดแล้วมากินข้าวด้วยกัน” เซียวหลงหลับตาสูดดมกลิ่นหอมที่คละคลุ้มเต็มอากาศโชยมายั่วกระเพาะของเขาจนท้องเริ่มร้องประท้วง“กลิ่นหอมจริง ๆ รสชาติต้องดีมากแน่ ๆ ข้าจะรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้” เด็กชายไม่ว่าเปล่ารีบเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในกระท่อมถอดเสื้อผ้าเปลี่ยนและนำผ้าเปียกไปตากไว้ข้างนอก ส่วนเซียวจ้านยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ “เจ้าไม่รีบไปเปลี่ยนอาภรณ์กับน้องเล็กจะได้มากินข้าวพร้อมกัน”“ท่านพี่ เรื่องที่ท่านพี่เอ่ยมาเป็นความจริงเช่นนั้นหรือ? หากท่านพี่ไม่ใช่พี่ใหญ่ของข้าแล้วยามนี้พี่ใหญ่ของข้าอยู่ที่ใดกัน” เซียวจ้านตระหนักได้ถึงสิ่งที่สตรีตรงหน้าเอ่ยออกมาเมื่อเช้า เขาเริ่มเป็นห่วงพี่สาวของเขาขึ้นมา ใบหน้าของเซี่ยวซือนิ่งเรียบเพราะนางเองก็ตอบสิ่งที่น้องชายสงสัยไม่ได้เช่นเดียวกัน“เรื่องนั้นข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่แน่พี่สาวของเจ้าอาจจะอยู่ในร่างเ








