Home / มาเฟีย / ระยะนี้อันตราย / บทที่ 6 อะไรที่ไม่ควรเห็น

Share

บทที่ 6 อะไรที่ไม่ควรเห็น

last update Last Updated: 2025-09-19 19:37:10

บทที่ 6 อะไรที่ไม่ควรเห็น

เช้าวันต่อมา แสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านกระจกใสในห้องนั่งเล่นของบ้านหลังเดิม นาเนียร์ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวพับแขนกับกางเกงสแลคเข้ารูปสีน้ำตาลเข้ม ยืนผูกผมหน้ากระจกอย่างเรียบง่ายแต่คล่องตัว ริมฝีปากทาลิปสติกมันบางๆ ให้พอดูสดใสก่อนจะสะพายกระเป๋าผ้าและเดินไปเคาะประตูห้องพี่ชาย

“พี่ณ ตื่นยัง วันนี้น้องขอไปด้วยนะ ดูท่าพี่ณจะสาย”

เสียงจากด้านในมีแค่เสียงขยับตัวกับเสียงขานรับในลำคอ เธอหัวเราะนิดๆ อย่างรู้ทันพี่ชาย แล้วเดินออกไปเตรียมกาแฟรอ

ที่สำนักงานของเฮดเตอร์ บรรยากาศช่วงสายค่อนข้างสงบ มีเสียงพนักงานเดินเข้าออกห้องประชุมบ้างประปราย

ณคุณเดินแยกไปเช็กความเรียบร้อยที่สนาม ส่วนนาเนียร์ได้รับมอบหมายให้นำเอกสารการสั่งอะไหล่ล็อตใหม่ขึ้นไปส่งที่ห้องทำงานของเฮดเตอร์

เธอกอดแฟ้มเอกสารแน่นเล็กน้อยก่อนจะยืนอยู่หน้าประตูไม้ทึบสีเข้ม หายใจเข้าลึกๆ หนึ่งที แล้วเคาะเบาๆ สามครั้ง

“เข้ามา” เสียงทุ้มจากด้านในตอบรับ

นาเนียร์ค่อยๆ เปิดประตูเข้าไป เธอเห็นเฮดเตอร์นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานไม้ตัวใหญ่ ริมหน้าต่างบานสูงที่แสงแดดลอดผ่านม่านบางๆ เข้าส่องถึงข้างแก้มของเขา ใบหน้าเรียบนิ่งคล้ายไม่แยแสโลกเช่นเคย

“เอาเอกสารอะไหล่มาส่งค่ะ…ล็อตล่าสุดที่สั่งเข้าสต็อก”

เฮดเตอร์ละสายตาจากหน้าจอโน้ตบุ๊กเหลือบมองเธอเพียงนิดก่อนจะพยักหน้า

“วางไว้ตรงนี้” เขาชี้ไปยังมุมหนึ่งของโต๊ะ

นาเนียร์เดินเข้าไปวางอย่างระมัดระวัง แอบเหลือบมองโน้ตบุ๊กของเขาเล็กน้อยแต่ไม่พูดอะไรเพิ่ม เมื่อวางเสร็จแล้วเธอทำท่าจะขอตัว แต่เสียงเข้มกลับดังขึ้นก่อน

“เมื่อวาน…พี่ชายเธอถึงบ้านแล้วไม่เป็นไรใช่ไหม?”

เธอชะงักนิดหนึ่งก่อนจะหันมาตอบ

“ค่ะ ปลอดภัย ขอบคุณที่มาส่งพี่ณนะคะ”

เขาไม่ได้พูดอะไรอีก แต่มองเธอเงียบๆ แววตาคมดุแต่ไม่ใช่แบบข่มขู่ หากเป็นแบบที่คล้ายจะประเมิน…หรือกำลังจับสังเกตบางอย่างอยู่

นาเนียร์ยืนนิ่งครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มบางๆ

“ขอตัวนะคะ”

เฮดเตอร์พยักหน้าเบาๆ ก่อนเธอจะหมุนตัวเดินออกจากห้องอย่างสงบ ทว่าในใจกำลังเต้นแรงด้วยความรู้สึกแปลกๆ ที่เธอเองก็อธิบายไม่ได้ว่า…สายตานั้นหมายถึงอะไรแน่

หรือว่าคนอย่างเขาจะเริ่ม ‘จำ’ เธอได้แล้วจริงๆ?

นาเนียร์เดินลงมาจากห้องทำงานของเฮดเตอร์ก็ถูกลูกน้องของณคุณรั้งไว้ก่อน เธอส่งยิ้มทักทายทุกคนอย่างเป็นมิตร และบางคนเธอก็จำได้แล้วว่าชื่ออะไร ทำตำแหน่งไหน ส่วนบางคนก็แค่ยิ้มทักทายเพราะไม่ได้สนิทมากนัก

“พี่จะบอกอะไรให้”

“คะ?”

“ระยะไหนที่ปลอดภัยจากเฮียเตอร์”

“ระยะ…อะไรเหรอคะ” นาเนียร์ยิ้มบางๆ มองหน้าทุกคนที่กำลังจ้องสายตามาที่เธอเป็นตาเดียว ก่อนเสียงเข้มของรุ่นพี่อีกคนจะดังขึ้น เปลี่ยนให้ทุกคนหันไปมองเขาแทน

“ระยะหนึ่งเมตร ปลอดภัยสุด แต่ถ้าใกล้กว่านี้นะ…ระยะอันตราย”

“เอ่อ…เนียร์ขอถามได้ไหม ว่าทำไมต้องให้อยู่ห่างจากเฮียเตอร์”

“นาเนียร์” เสียงของณคุณดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้รุ่นน้องเขาและน้องสาวตัวแสบสะดุ้งพร้อมกัน

“พี่ณ พวกผมตกใจหมดเลยเนี่ย”

“พวกมึงไม่มีงานมีการทำหรือไง มานั่งนินทาเจ้านายอยู่แบบนี้” เขามองหน้าลูกน้องอย่างดุๆ จนพวกเขารีบผละตัวแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ตัวเอง ส่วนนาเนียร์ค่อยๆ กันมามองหน้าพี่ชาย “เราก็อีกคน ลืมที่พี่บอกแล้วเหรอ”

“ขอโทษค่ะ ไม่ได้ตั้งใจ”

“ไปทำงานได้แล้ว เดี๋ยวพี่ต้องไปดูเขาลองรถที่สนามอีก อาจจะเข้ามาเย็นเลย ถ้าเราขี้เกียจรอก็กลับก่อนได้”

“รับทราบค่ะ”

“อืม อย่าซนล่ะ” ณคุณคาดโทษน้องสาวไม่จริงจังนัก เมื่อนาเนียร์พยักหน้ารับปากเบาๆ เขาก็หันหลังเดินออกไปทันที

16:20 น.

นาเนียร์นั่งอยู่ในโต๊ะทำงานคนเดียว เพราะพี่คนอื่นๆ เขากลับหมดแล้ว และเธอยังรอณคุณอยู่ แต่ยิ่งรอเธอก็ยิ่งหิวข้าว จึงตัดสินใจเดินออกไปบอกพวกพี่ๆ ที่สนิทกับพี่ชายตัวเองว่าเธอจะกลับก่อน

“เนียร์ฝากบอกพี่ณด้วยนะคะ”

“จ้า หรือว่าน้องนาเนียร์จะให้พี่ไปส่งดี”

“ไม่ต้องไปเสือกเลยมึง เดี๋ยวพี่ณก็มาแหกอกมึงหรอก”

นาเนียร์ยิ้มบางๆ ก่อนที่เธอจะค้อมศีรษะให้ทุกคนแล้วเดินออกไปทันที

ผ่านไปกว่าสองชั่วโมง ในที่สุดณคุณก็กลับมาถึงบ้าน เขาถอดรองเท้าวางไว้บนชั้นพร้อมกับกวาดสายตามองหาน้องสาวด้วย

“ตัวแสบ พี่กลับมาแล้ว”

“ค่า~ กำลังจะตักข้าวออกไปพอดีเลย มาทันเวลามากเลยค่ะ”

“พี่ซื้อกะเพราไก่กับพะโล้หมูมาให้”

“ขอบคุณค่ะ แล้วนี่ปวดหัวไหม เห็นเมื่อวานเมาซะหมดสภาพ”

“ไม่ปวดแล้ว แต่ว่า…ขอโทษนะ พี่เมามากเลนเมื่อวาน”

“ไม่เห็นต้องขอโทษเลย พี่ณก็ต้องพักผ่อนบ้าง แต่ตอนนี้เรากินข้าวก่อนดีไหม น้องกินขนมปังรองท้องไปสองแผ่นเอง เริ่มหิวอีกแล้ว”

“ครับผม”

ณคุณเดินตามน้องสาวไปยังโต๊ะอาหาร กลิ่นหอมของกับข้าวที่เขาซื้อมาทำให้บรรยากาศเย็นๆ ในบ้านอบอุ่นขึ้นอีกนิด ทั้งคู่ตักข้าวใส่จาน แบ่งกับข้าวกันอย่างเคยชิน ระหว่างกินก็มีเสียงหัวเราะคละเคล้ากับบทสนทนาเบาๆ

แต่หลังจากมื้ออาหารจบลง และกำลังจะช่วยกันเก็บโต๊ะ นาเนียร์ก็ชะงักไปเล็กน้อยเหมือนนึกอะไรขึ้นได้

“แย่แล้ว…ลืมแฟ้มเอกสารไว้ที่ออฟฟิศ!” เธอพูดเสียงดังขึ้นเล็กน้อย สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล

“แฟ้มอะไรอะ?” ณคุณเงยหน้าขึ้นถาม

“แฟ้มเอกสารที่เฮียเตอร์ให้มาวันนี้ไง…น้องจะต้องสแกนส่งให้เขาพรุ่งนี้แต่เช้าเลย ถ้าไม่ได้ล่ะก็แย่แน่”

“โอเคๆ เดี๋ยวพี่พาไปเอา” เขาตอบทันทีแบบไม่ต้องคิดนาน

เวลาผ่านไปเกือบสามสิบนาที รถของณคุณก็แล่นเข้ามาจอดที่ลานจอดรถสำนักงาน แสงไฟจากเสาไฟทางเดินส่องกระทบบันไดหน้าทางเข้า พอเดินไปถึงชั้นที่ทำงาน นาเนียร์เป็นคนลงมือปลดล็อกประตูสำนักงานด้วยคีย์การ์ดของตัวเอง

ภายในเงียบสงัด มีเพียงเสียงแอร์ที่ยังทำงานอยู่และแสงจากไฟบางจุดที่เปิดไว้ตลอดเพื่อความปลอดภัย เธอเดินตรงไปยังโต๊ะของตัวเอง ก่อนจะชะงักมือเมื่อกำลังจะเปิดลิ้นชัก

เสียงบางอย่างแว่วมาเบาๆ จากห้องด้านในสุด…เสียงครางแผ่วๆ ที่แทรกมาในความเงียบสงัด นาเนียร์นิ่งฟังอีกนิด ก่อนเงยหน้ามองไปยังห้องทำงานของเฮดเตอร์ที่แง้มประตูอยู่เพียงน้อยนิด

เธอหันไปสบตากับพี่ชายที่ขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินเสียงเช่นกัน แต่ก่อนที่ณคุณจะได้พูดอะไร นาเนียร์ก็ยกมือห้ามเบาๆ แล้วเดินย่องช้าๆ เข้าไปใกล้ประตูห้องนั้น

ประตูเปิดแง้มอยู่พอให้มองเห็นด้านในได้เล็กน้อย…และเพียงเสี้ยววินาที เธอก็เห็นภาพที่ไม่ควรเห็น

ชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตแขนยาวที่ตอนนี้ปลดกระดุมลวกๆ กำลังโอบรัดหญิงสาวไว้แนบแน่นบนโต๊ะทำงาน เสียงหายใจหอบกระชั้นและคำครางแผ่วเบายังคงดังสลับกับเสียงเสียดสีของเนื้อผ้า

นาเนียร์เบิกตากว้าง เธอรีบผละตัวออกมาทันที หัวใจเต้นแรงอย่างห้ามไม่ได้ มือที่ถือแฟ้มสั่นเล็กน้อย เธอเดินกลับไปหาณคุณที่รออยู่ตรงทางเดิน

“พะ…พี่ณ เรากลับกันเถอะ” เธอกระซิบเสียงเบา ใบหน้าแดงก่ำและหลบตาอย่างเห็นได้ชัด

“เกิดอะไรขึ้น” เสียงของณคุณเคร่งขึ้นทันที

“ไม่…ไม่มีอะไรค่ะ แค่…ได้ของแล้ว เรารีบกลับดีกว่า” เธอส่ายหน้าเร็วๆ แล้วจ้ำอ้าวไปยังโถงด้านล่างโดยไม่รอคำตอบ

ณคุณหันกลับไปมองทางห้องของเจ้านายอย่างครุ่นคิด แววตาเปลี่ยนเป็นเย็นเฉียบชั่วขณะ ก่อนที่เขาจะเดินตามน้องสาวไปเงียบๆ…

และนาเนียร์ก็ไม่รู้ตัวเลยว่าทำของบางอย่างหล่นไว้ตรงหน้าประตูห้องทำงานของเฮดเตอร์

ระหว่างที่ทั้งสองกำลังเข้าด้านเข้าเข็ม หญิงสาวใต้ร่างเขาก็ผลักอกแกร่งเบาๆ

“เฮด เมย์ได้ยินเสียงเหมือนคนเพิ่งเดินออกไปเลย”

“ช่างหัวมันสิ อย่าขัดจังหวะ ฉันกำลังจะเสร็จ”

“อ๊า~ จริงๆ นะเฮด เราออกไปดูหน่อยไหม”

เฮดเตอร์สบถคำหยาบออกมาอย่างหัวเสีย เขาถอดถอนแกนกายแข็งขันออกจากปากทางรักหญิงสาว แล้วกดลำลงในกางเกง จากนั้นก็เดินไปที่ประตูห้อง ปรากฏว่าไม่มีอะไรเลย และเขาก็หันไปมองหน้าหญิงสาวพลางกลอกตามองบนอย่างหมดอารมณ์ แต่ตอนจะหันกลับไปหาเธอ หางตาก็เหลือบเห็นของบางอย่างที่วางอยู่บนพื้น

เฮดเตอร์เดินไปก้มลงหยิบขึ้นมาดูอย่างพิจารณา ก่อนที่ภาพบางอย่างจะปรากฏขึ้นในหัว มุมปากเขาเหยียดยิ้มบางๆ

“นาเนียร์”

—————————————

น้องเห็นงวงช้างงงง 😆

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ระยะนี้อันตราย   บทที่ 15 เป็นพาร์ทเนอร์กันไหม?

    บทที่ 15 เป็นพาร์ทเนอร์กันไหม?นาเนียร์ก้าวลงจากรถ ขาทั้งสองข้างสั่นพั่บๆ จนต้องหาที่ยึดเหนี่ยวไม่ให้ตัวเองล้มพับลงกับพื้น“ไหวไหมเนี่ยน้องนาเนียร์”“ไหวค่ะ”“เฮียเตอร์พาไปลองรถมาเหรอ”“ค่ะ”เธอพยักหน้าให้รุ่นพี่เบาๆ แล้วถอดหมวกกันน็อกออก“โห หน้าซีดมาก ไหวแน่นะน้อง”“ไหวค่ะไหว” เธอตอบกลับโดยไม่เงยหน้ามองรุ่นพี่ จากนั้นจึงเดินเข้าไปด้านใน เจอแอร์และพัดลมเย็นๆ ถึงได้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง และในจังหวะนั้น ณคุณก็เดินถือกล่องเครื่องมือเดินผ่านพอดี“ไปทำไรมาเนี่ย ไหนพี่ดูสิ” เขาไม่ได้เดินผ่านไป แต่กลับรีบปนี่เข้ามาหาน้องสาวเพราะเห็นว่านาเนียร์หน้าซีดมาก“เฮียเตอร์พาไปลองรถ เกือบตายแน่ะ”“หืม? พาน้องไปลองรถมาเหรอ”“ค่ะ”ณคุณขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินคำตอบ น้ำเสียงก็เปลี่ยนจากความเป็นห่วงเป็นแข็งขึ้นเล็กน้อย“แล้วทำไมหน้าซีดขนาดนี้” เขาหันไปมองรอบๆ ราวกับกำลังหาเป้าหมายที่ชื่อเฮดเตอร์นาเนียร์รีบโบกไม้โบกมือ“ไม่ใช่แบบนั้นพี่ณ…ก็แค่…เฮียเขาขับเร็วมากน่ะ น้องยังไม่ชิน”แต่คำอธิบายนั้นไม่ได้ช่วยให้ณคุณคลายสีหน้าขุ่นเคืองลง เขาวางกล่องเครื่องมือลงบนโต๊ะใกล้ๆ แล้วใช้มือจับแขนน้องสาวให้หมุนตัวไปมาเบาๆ“ไ

  • ระยะนี้อันตราย   บทที่ 14 สนใจ

    บทที่ 14 สนใจเสียงเครื่องยนต์คำรามแข่งกับลมที่กระแทกกระจกอย่างต่อเนื่อง รถพุ่งทะยานไปตามโค้งของสนามด้วยความเร็วที่ทำให้ท้องไส้ของนาเนียร์เหมือนถูกดึงรั้งไว้ด้านหลัง เธอกำเข็มขัดตัวเองแน่น เท้าก็เหยียบพื้นแน่นคล้ายจะช่วยเขาเบรกรถ แม้รู้ดีว่ามันไม่ได้ช่วยให้รถช้าลงเลยสักนิดเฮดเตอร์เหลือบตามองเธอจากมุมสายตา เห็นใบหน้าใต้หมวกกันน็อกที่ซีดนิดๆ กับริมฝีปากที่เม้มแน่นเหมือนพยายามเก็บอาการ เขายกยิ้มบาง ไม่ใช่ยิ้มเอ็นดู แต่เป็นยิ้มของคนที่กำลังพอใจที่ได้เห็นอีกฝ่ายตกอยู่ในอาณาเขตของตัวเอง“กลัวเหรอ” เสียงของเขาทุ้มต่ำ แทรกผ่านเสียงเครื่องยนต์เข้ามาในหูเธอ“มะ…ไม่กลัวค่ะ” นาเนียร์ตอบสั้นๆ แต่สายตายังจ้องถนนข้างหน้า“ไม่กลัวก็หันมามองสิ”เธอชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหน้ามองเขาตามที่บอก แล้วก็ต้องเผลอกลืนน้ำลาย เพราะระยะห่างระหว่างใบหน้าของเขากับเธอตอนนี้ใกล้จนเห็นประกายแววตาคมชัดทุกเส้นสาย ราวกับเขาตั้งใจจะให้เธอสบตาแล้วจมอยู่ในนั้นเฮดเตอร์กระตุกพวงมาลัยเข้าโค้งแรง จังหวะนั้นแรงเหวี่ยงทำให้ร่างของนาเนียร์เอียงเข้าหาเขาโดยอัตโนมัติ มือหนาของเขายกขึ้นมารับไว้ที่เอวอย่างรวดเร็ว“จับไว้ดีๆ” เขากร

  • ระยะนี้อันตราย   บทที่ 13 ลองเครื่อง

    บทที่ 13 ลองเครื่องนิ้วเรียวยาวของเฮดเตอร์วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ ก่อนจะลูบหน้าผากตัวเองแรงๆ ทีหนึ่งด้วยความหงุดหงิด คราวนี้ไม่ใช่เพราะเอกสารตรงหน้า ไม่ใช่เพราะเสียงครางจากปลายสายก่อนหน้า…แต่เพราะความเงียบที่วนกลับมาอีกครั้ง มันเหมือนหลอกให้เขาต้องกลับมานั่งอยู่กับความรู้สึกที่ตัวเองก็ยังไม่อยากยอมรับเขาก้มมองโทรศัพท์อีกครั้ง นิ้วไถรายชื่ออย่างช้าๆ ก่อนจะหยุดที่ชื่อสุดท้ายในกลุ่มที่พอไว้ใจได้“ลีออง” ตัวเลือกสุดท้ายติ๊ด…เสียงรอสายดังเพียงแค่สองครั้ง(ว่าไงมึง วันนี้เงียบเหงาเหรอ ถึงได้โทร.หาผมเนี่ย)เสียงกวนประสาทของลีอองดังขึ้นพร้อมกับเสียงเพลงเบาๆ ที่เปิดคลออยู่ด้านหลัง ไม่ใช่เสียงหอบ ไม่ใช่เสียงหญิงสาว ไม่ใช่เสียงเตียงลั่นแอ๊ดแอ๊ดเฮดเตอร์ถอนหายใจอย่างโล่งอกปนขบขันเล็กๆ เป็นครั้งแรกของคืน“อย่างน้อยก็มีมึงที่ว่าง…”(ไม่ว่างก็ต้องว่างแหละ โทรมาขนาดนี้ หายากนะที่มึงจะโทร.หากูก่อน ดึกแล้วด้วย มีไรว่ามา)“ไม่มีอะไรมาก แค่อยากเช็กว่ากูไม่ได้เหลือแค่เอกสารกับเสียงพัดลมในห้องทำงาน และที่สำคัญกูโทร.หามึงคนสุดท้าย”(หืมมมม~ ฟังดูเหงาแปลกๆ นะมึง หรือลูกน้องมึงแอบทิ้งไปเสพสุขกันหมดแล้ว?)เฮดเ

  • ระยะนี้อันตราย   บทที่ 12 คนในอดีต

    บทที่ 12 คนในอดีตณคุณทิ้งความงุนงงไว้ข้างหลัง ก่อนปั่นหน้ายิ้มแย้มเมื่อนาเนียร์เดินมาถึงรถพอดี“พี่ณ วันนี้ทำงานเหนื่อยมากๆ ขออ้อนได้ไหม”“ก๋วยจั๊บร้านประจำ?” ณคุณเอ่ยขึ้นอย่างรู้ใจน้องสาว ทำเอาคนที่ตั้งใจมาอ้อนพี่ชายให้พาไปกินของอร่อยต้องหลุดยิ้มดีใจ“เก่งจัง รู้ใจน้องไปหมดเลย”“นี่พี่เรานะ เลี้ยงมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ทำไมจะไม่รู้”“ขอบคุณนะพี่ณ ที่ไม่ทอดทิ้งน้องไปไหน”นาเนียร์จับชายเสื้ิพี่ชายเบาๆ แกว่งมือไปมาอย่างเขินอาย จากนั้นเธอก็เขย่งปลายเท้าขึ้นหอมแก้มพี่ชายเบาๆ“อะไรเนี่ย หอมแก้มพี่ทำไม”“ขอบคุณ รู้สึกอยากขอบคุณและอยากขอโทษพี่ณที่ทำตัวให้ปวดหัว”“ไม่เอาน่า ไปหาอะไรกินกันเถอะ”“อืม”ขณะเดียวกันก็มีสายตาหนึ่งคู่ที่มองลงมาจากห้องทำงาน เฮดเตอร์มองสองพี่น้องที่เดินเคียงกันไปขึ้นรถ มุมปากเขาเหยียดยิ้มบางๆ ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ทำงาน22:00 บ้านของณคุณ“ตัวแสบ จะอ่านหนังสือถึงกี่โมงเนี่ย พรุ่งนี้ตื่นสายไม่รู้ด้วยนะ”“น้องไม่เคยตื่นสาย แต่ว่าอยากอ่านบทนี้ให้จบก่อนค่ะ”“เอางั้น?”“อืม แป๊บเดียว”“งั้นพี่อยู่เป็นเพื่อน”“โอเคค่ะ” นาเนียร์ก้มหน้าอ่านหนังสือต่อณคุณหยิบหนั

  • ระยะนี้อันตราย   บทที่ 11 ไม่เข้าใจเหตุผล

    บทที่ 11 ไม่เข้าใจเหตุผล“เฮ! ทำไมหน้าซีดแบบนั้น ไม่สบายเหรอ”ณคุณตะโกนเรียกน้องสาว เมื่อนาเนียร์เดินเข้ามาใกล้ เขาก็รีบถอดถุงมือช่างออกแล้วยกขึ้นไปอังหน้าผากน้องสาวทันที “ก็ไม่ได้ตัวร้อน ทำไมทำหน้าเครียดมาแบบนั้น”“พี่ณ”“หืม?”“คนเราสามารถมีอะไรกับคนที่ไม่ใช่คนรักของตัวเองได้เหรอ”ณคุณแทบสำลักน้ำลายกับคำถามตรงๆ ของน้องสาว และรุ่นน้องที่กำลังก้มหน้าทำงานอยู่ข้างๆ ถึงกับอ้าปากค้าง มองหน้านาเนียร์พร้อมกัน“หุบปาก” ณคุณหันไปสั่ง เพราะรู้ว่ายังไงก็ถูกแซวแน่ๆ ก่อนจะหันไปมองหน้านาเนียร์ จากนั้นจึงดึงแขนเธอเดินไปยังมุมที่ไม่มีคนพลุกพล่านเท่าไร “อะไร ทำไมเราถามพี่แบบนี้”“ก็แค่อยากรู้ค่ะ แต่ว่าพี่ณก็เคยทำนี่นา”“พะ พอเลยๆ ไม่ต้องพูด”“ก็น้องอยากรู้นี่คะ”“พี่เชื่อว่าเรามีคำตอบในใจแล้ว”“แล้วพี่ณคิดว่าเนียร์จะตอบอะไร”“พี่รู้น่าตัวแสบ ไปทำงานได้แล้ว และอย่าลืมว่าอีกไท่กี่วันเขาจะเปิดสอบแล้ว ตั้งใจหน่อย”“ครับผม จะไม่ทำให้พี่ณผิดหวัง”นาเนียร์ตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง แม้แววตายังดูไม่สดใสเท่าปกตินัก ทว่าก็พยายามกลบเกลื่อนความสับสนในใจด้วยท่าทีร่าเริง ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปจากมุมนั้น ทิ้งให้ณคุณยังย

  • ระยะนี้อันตราย   บทที่ 10 อย่าเล่นกับไฟ

    บทที่ 10 อย่าเล่นกับไฟรถเคลื่อนตัวออกจากสนามแข่งอย่างช้าๆ ทิ้งเสียงวุ่นวายและกลิ่นน้ำมันไว้เบื้องหลัง เส้นทางที่ทอดยาวเบื้องหน้าเงียบงัน มีเพียงแสงไฟถนนที่สะท้อนเข้ามาในรถเป็นระยะ กับเสียงเครื่องยนต์ที่ดังสม่ำเสมอ ราวกับปลอบโยนความคิดฟุ้งซ่านของหญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่เบาะข้างคนขับณคุณเหลือบมองน้องเป็นระยะ นาเนียร์ยังคงมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตานิ่งสงบ แต่ในความนิ่งนั้นกลับซ่อนบางอย่างไว้จนคนเป็นพี่รู้สึกได้ มันคือความเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เขาไม่ค่อยสบายใจนัก“เขาไม่ใช่คนธรรมดาเนียร์” ณคุณพูดขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงนิ่งจริงจัง “คนแบบนั้น ถ้าเข้าไปใกล้มากเกินไป มันจะเปลี่ยนเราโดยไม่รู้ตัว”นาเนียร์หันกลับมามองพี่ชาย ชั่ววินาทีนั้นเองที่แววตาเธอเผยความสับสนออกมาอย่างปิดไม่มิด“น้องแค่…แค่อยากรู้จักมากกว่านี้ แต่ก็ไม่ได้อยากให้ไฟแผดเผาตัวเองจนตายขนาดนั้น” เธอสารภาพเสียงแผ่ว “เขาเหมือนมีอะไรบางอย่างที่น้องอยากเข้าใจ อยากมองให้ลึกลงไปกว่าสิ่งที่เขาแสดงออก”ณคุณถอนหายใจยาว เขาไม่ได้ต่อว่า ไม่ได้พูดห้ามเหมือนก่อนหน้านี้ แต่สีหน้าเขายังคงเคร่งเครียด“ตัวตนของเฮดเตอร์มันไม่สวยงามอย่างที่เราคิดนะเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status