Home / มาเฟีย / ระยะนี้อันตราย / บทที่ 7 เกมจับผิด

Share

บทที่ 7 เกมจับผิด

last update Last Updated: 2025-09-19 19:37:40

บทที่ 7 เกมจับผิด

เช้าวันถัดมา แสงแดดที่ลอดผ่านกระจกสูงในออฟฟิศดูเหมือนจะอบอุ่นกว่าวันก่อน ทว่าในใจของนาเนียร์กลับเต็มไปด้วยความเย็นเยียบและหวั่นไหว

เธอก้าวเข้ามาในที่ทำงานด้วยหัวใจเต้นระรัว แม้จะพยายามทำตัวปกติแค่ไหน แต่ความคิดถึงภาพเมื่อคืนก็ยังตามหลอกหลอน แววตาเย่อหยิ่งแต่เร่าร้อนของเฮดเตอร์…เสียงคราง…ท่าทางของเขา…

นาเนียร์กลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเฝื่อน ขณะที่พยายามหลีกเลี่ยงไม่เดินผ่านหน้าห้องทำงานของเจ้านายโดยตรง ทว่าก็ยังอดไม่ได้ที่จะเหลือบตามองไปยังประตูที่ปิดสนิทนั้น

ในใจเธอภาวนา…ขออย่าให้เขาออกมา ขออย่าให้เขาเห็นหน้าเธอ

แต่วินาทีนั้นเอง เสียงเปิดประตูห้องทำงานก็ดังขึ้น

แกร็ก

ขาเธอแทบหยุดเดินโดยอัตโนมัติ

เฮดเตอร์ก้าวออกมาจากห้องในชุดเสื้อเชิ้ตสำดำ หัวคิ้วเข้มที่มักมีร่องพับของความเคร่งขรึม วันนี้กลับฉายแววบางอย่างที่เธอไม่กล้ามองตรงๆ

“นาเนียร์” เสียงทุ้มเย็นเอ่ยเรียก ทำเอาเธอสะดุ้งเล็กน้อย

เธอหันขวับไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“คะ?”

“เข้ามาหาฉันหน่อย มีเรื่องจะคุย” เขาไม่ได้พูดเสียงดัง แต่ท่าทีแน่วแน่จนเธอไม่กล้าปฏิเสธ

นาเนียร์เดินตามเขาเข้าไปในห้องทำงานอย่างกลั้นใจ ประตูถูกปิดลงอย่างแน่นหนาในวินาทีถัดมา

“นั่งสิ” เขาพยักหน้าให้เธอไปที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน

เธอทรุดตัวลงอย่างฝืนใจ มือทั้งสองประสานกันบนตักเพื่อกลบความสั่น

เฮดเตอร์ไม่พูดทันที เขาเพียงมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ราวกับกำลังจับสังเกตทุกปฏิกิริยาในใบหน้าเล็กนั้น ก่อนที่เขาจะเลื่อนลิ้นชักโต๊ะออก แล้วหยิบกล่องพลาสติกใสขนาดเล็กขึ้นมาวางบนโต๊ะ

ในกล่องนั้นเป็นของเล็กๆ ชิ้นหนึ่ง…พวงกุญแจหมีผ้าเก่าๆ ที่เธอคล้องพกติดตัวตลอดเพราะเป็นตุ๊กตาติดพวงกุญแจห้องนอนตัวเอง และเมื่อวานเธอก็พกมันมาและ…

“ของเธอหรือเปล่า?” เขาถามเสียงเรียบ แต่สายตาจับจ้องไม่ละไปจากเธอ

นาเนียร์เบิกตากว้างเล็กน้อย หัวใจร่วงวูบไปถึงตาตุ่ม

“…คะ…?” เธอแกล้งถามกลับ รู้ทั้งรู้ว่าปฏิเสธไม่ได้

“ฉันเจออยู่หน้าห้องทำงานเมื่อคืน” น้ำเสียงของเขาเริ่มเย็นลงนิดๆ

เธอกะพริบตาถี่ พยายามควบคุมสีหน้า

“…ของเนียร์เองค่ะ”

“แสดงว่าเธอมาที่นี่เมื่อคืน?”

“…ค่ะ…” เธอก้มหน้า “เพราะลืมแฟ้ม เลยให้พี่ณคุณพามาเอา…”

เฮดเตอร์ไม่พูดอะไรในทันที แต่เขายกมือขึ้นลูบปลายคางอย่างครุ่นคิด สายตานิ่งเฉียบยังจับจ้องเธอไม่ลดละ

“แล้วเธอเห็นอะไร…บ้างไหม?”

คำถามนั้นเหมือนเข็มที่แทงทะลุผนังบางๆ ที่เธอพยายามสร้างขึ้นเพื่อปกป้องตัวเอง นาเนียร์เงียบไปชั่วครู่ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ

“…ไม่ค่ะ ไม่เห็นอะไรเลย”

เขาขยับตัวพิงพนักเก้าอี้ เอนตัวเล็กน้อย แต่แววตานั้นกลับบอกว่าเขาไม่ได้เชื่อคำตอบของเธอเลยแม้แต่นิด

“ถ้าไม่เห็น…ก็อย่าคิดจะพูดถึงสิ่งที่ไม่เห็นเข้าใจไหม”

น้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงคำเตือนอย่างชัดเจน

นาเนียร์พยักหน้าเงียบๆ ดวงตาเริ่มหลบสายตาเขาเหมือนเด็กทำผิด

เฮดเตอร์ยื่นกล่องใส่นั้นส่งให้เธอ

“ของเธอ”

เธอยื่นมือไปรับมาอย่างกลัวๆ กล้าๆ ก่อนจะรีบลุกขึ้นยืน

“ขอตัวกลับไปทำงานนะคะ”

เขาไม่ตอบ เธอจึงเปิดประตูออกและรีบเดินออกจากห้องโดยเร็วที่สุด เสียงประตูปิดลงเบาๆ ทิ้งให้ภายในห้องทำงานกลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง

เฮดเตอร์ถอนหายใจเบาๆ พึมพำกับตัวเองในน้ำเสียงยากจะเดาอารมณ์

“…ตาไวใช่เล่น…”

นาเนียร์เดินกลับไปที่โต๊ะตัวเองด้วยหัวใจที่เต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอก มือทั้งสองกำพวงกุญแจหมีผ้าแน่นราวกับมันจะช่วยยึดเธอไว้ไม่ให้จมลงไปในความคิดฟุ้งซ่านที่ตีวนอยู่ในหัว

เธอทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหน้าผากเบาๆ พยายามเรียกสติตัวเองกลับมาให้ได้

“เขาถามว่าเห็นอะไรไหม…แล้วก็พูดแบบนั้น…ชัดเจนเลยว่าเขารู้ว่าเราเห็น…หรือเขาเดา?”

นาเนียร์กัดริมฝีปากล่างแน่น

“บ้าจริง…” เธอพึมพำเบาๆ กับตัวเอง ใบหน้าเริ่มร้อนวูบขึ้นมาอีกครั้งโดยไม่ทันตั้งตัว

แม้จะพยายามกลอกตาไปทางอื่น มองคอมพิวเตอร์ มองกระถางต้นไม้ มองแม้กระทั่งถ้วยกาแฟเก่าๆ ที่วางอยู่ข้างโต๊ะ แต่ภาพนั้น…ภาพที่เขาโอบรัดผู้หญิงคนนั้นไว้แน่น เสียงหายใจที่แผ่วต่ำ เสียงคำพูดที่แทรกอยู่ในความเงียบ และแววตาเร่าร้อนของเขา…กลับยิ่งชัดเจนขึ้นทุกที

“โอ๊ย! ออกไปจากหัวฉันทีเถอะ!!” เธอทึ้งผมเบาๆ อย่างหงุดหงิดกับตัวเอง หันไปกดเปิดคอมหวังจะตัดภาพในหัวด้วยงานกองโต

แต่มันกลับไม่ได้ผลเลยสักนิด

ทำไมต้องมาหลอกหลอนกันแบบนี้ด้วยนะ?

เธอไม่รู้ว่ามันเป็นความเขิน ความอาย หรือความรู้สึกประหลาดที่ไม่กล้าเรียกชื่อ…แต่ทุกครั้งที่ภาพเมื่อคืนผุดขึ้นมาในหัว หัวใจก็เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่มีเหตุผลชัดเจน

หรือเพราะเขาหล่อ? เพราะเขาดูร้าย? หรือเพราะเขาจับได้ว่าเรารู้?

นาเนียร์ยกมือขึ้นปิดหน้าร้องอ๊ากเบาๆ แบบไร้เสียงกลางอากาศ

แย่แล้วนาเนียร์ นี่ไม่ใช่เวลามามโนว่าฉากเมื่อคืนมันเหมือนซีรีส์!! เขาคือเฮดเตอร์!! เจ้านายของพี่ณ!! เจ้านายของเรา!!

เธอส่ายหน้าแรงๆ ขยี้ภาพในหัวเหมือนจะปัดฝุ่นบนโต๊ะ แล้วสูดหายใจลึก ดึงเอกสารมากองตรงหน้า

“มีงานต้องทำ…ตั้งสตินาเนียร์ ตั้งสติ!”

แต่แม้จะบอกตัวเองยังไง…เสียงทุ้มต่ำของเขาก็ยังแทรกเข้ามาในหัวอย่างแนบเนียน

‘อย่าคิดจะพูดถึงสิ่งที่ไม่เห็น เข้าใจไหม’

ประโยคนั้น…ทั้งน่ากลัว ทั้งท้าทาย…และยิ่งกว่านั้นคือ

“แย่แน่…นี่ฉันกำลังสนใจผู้ชายแบบนั้นอยู่จริงๆ เหรอเนี่ย…” เธอพึมพำเบาๆ แล้วรีบยกเอกสารขึ้นบังหน้าตัวเอง…เพื่อซ่อนสีหน้าแดงก่ำที่ไม่มีใครควรเห็นเลยสักนิด

นาเนียร์พยายามซุกหน้าหลบอยู่หลังแฟ้มเอกสารหนาเตอะ เธอก้มหน้าก้มตาไล่สายตาอ่านรายงานแบบไม่ได้เข้าสมองแม้แต่นิดเดียว ประโยคที่เฮดเตอร์พูดในห้องเมื่อเช้ายังดังก้องอยู่ในหัวเหมือนถูกเปิดวนลูปไม่หยุด

‘ถ้าไม่เห็น…ก็อย่าคิดจะพูดถึงสิ่งที่ไม่เห็น เข้าใจไหม’

น้ำเสียงนั้น…เยือกเย็น แต่ทรงพลัง แววตาที่จ้องมาก็ไม่ได้เพียงแค่ขู่ มันเหมือนเขาอ่านใจเธอออกหมดทุกความคิดเสียมากกว่า

นาเนียร์ขมวดคิ้วแน่น พยายามสลัดความรู้สึกที่ตีตื้นขึ้นมาอีกระลอก นี่เราไม่ได้ตื่นเต้นเพราะความกลัวใช่ไหม? แล้วมันคืออะไรล่ะ…ความสนใจ? ความตื่นเต้น? หรือ

“บ้า! หยุดเลย!” เธอกระซิบดุตัวเองพลางยกมือฟาดหน้าผากตัวเองเบาๆ

ทันใดนั้น เสียงแจ้งเตือนจากอีเมลก็ดังขึ้น ติ๊ง!

เธอรีบก้มลงดูอย่างยินดีที่มีอะไรมาช่วยดึงเธอกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง และใจเธอก็ชะงักวูบเมื่อเห็นชื่อผู้ส่งขึ้นอยู่บนสุดในกล่องข้อความเข้า

From: H. Deter

Subject: Meeting

Message: ขึ้นมาที่ห้องฉันอีก ตอนนี้

“…ตอนนี้เลยเหรอ?”

เธอกลืนน้ำลายลงคออีกครั้งอย่างฝืดเฝื่อน ใจเริ่มสั่น ทั้งร่างแข็งค้างอยู่หน้าโต๊ะ มือที่กำเมาส์ค้างเริ่มเหงื่อซึม เขาจะพูดอะไรอีก? เขาจะตำหนิ? หรือเขารู้ว่าเราคิดอะไรอยู่?

นาเนียร์ยันตัวลุกขึ้นอย่างช้าๆ หัวใจเต้นโครมคราม เธอพยายามรักษาสีหน้าให้เรียบเฉยที่สุด ทั้งที่ข้างในวุ่นวายราวกับพายุ

แต่ในจังหวะที่เธอหมุนตัวจะเดินไปทางห้องทำงานประตูปิดนั้น เสียงแซวจากเพื่อนร่วมงานก็ดังแทรกขึ้นมา

“อุ๊ย~ เจ้านายเรียกน้องอีกรอบ สงสัยเมื่อเช้ายังคุยไม่จุใจน้า~”

นาเนียร์ชะงักกึก แสร้งหัวเราะแห้งๆ ตอบไป

“คงเรื่องเอกสารมั้งคะ…”

แล้วรีบจ้ำอ้าวเดินออกไปทันที ไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับมามอง ขอเถอะ…ขอให้ครั้งนี้อย่าให้เขามองแบบนั้นอีกเลย…

แต่ข้างในใจลึกๆ…เธอกลับรู้ตัวดีว่าเธอกำลังกลัว…ไม่ใช่กลัวว่าเขาจะดุ แต่กลัวว่าจะเผลอมองเขากลับ…ด้วยสายตาแบบเดียวกับเมื่อคืนอีกครั้ง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ระยะนี้อันตราย   บทที่ 15 เป็นพาร์ทเนอร์กันไหม?

    บทที่ 15 เป็นพาร์ทเนอร์กันไหม?นาเนียร์ก้าวลงจากรถ ขาทั้งสองข้างสั่นพั่บๆ จนต้องหาที่ยึดเหนี่ยวไม่ให้ตัวเองล้มพับลงกับพื้น“ไหวไหมเนี่ยน้องนาเนียร์”“ไหวค่ะ”“เฮียเตอร์พาไปลองรถมาเหรอ”“ค่ะ”เธอพยักหน้าให้รุ่นพี่เบาๆ แล้วถอดหมวกกันน็อกออก“โห หน้าซีดมาก ไหวแน่นะน้อง”“ไหวค่ะไหว” เธอตอบกลับโดยไม่เงยหน้ามองรุ่นพี่ จากนั้นจึงเดินเข้าไปด้านใน เจอแอร์และพัดลมเย็นๆ ถึงได้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง และในจังหวะนั้น ณคุณก็เดินถือกล่องเครื่องมือเดินผ่านพอดี“ไปทำไรมาเนี่ย ไหนพี่ดูสิ” เขาไม่ได้เดินผ่านไป แต่กลับรีบปนี่เข้ามาหาน้องสาวเพราะเห็นว่านาเนียร์หน้าซีดมาก“เฮียเตอร์พาไปลองรถ เกือบตายแน่ะ”“หืม? พาน้องไปลองรถมาเหรอ”“ค่ะ”ณคุณขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินคำตอบ น้ำเสียงก็เปลี่ยนจากความเป็นห่วงเป็นแข็งขึ้นเล็กน้อย“แล้วทำไมหน้าซีดขนาดนี้” เขาหันไปมองรอบๆ ราวกับกำลังหาเป้าหมายที่ชื่อเฮดเตอร์นาเนียร์รีบโบกไม้โบกมือ“ไม่ใช่แบบนั้นพี่ณ…ก็แค่…เฮียเขาขับเร็วมากน่ะ น้องยังไม่ชิน”แต่คำอธิบายนั้นไม่ได้ช่วยให้ณคุณคลายสีหน้าขุ่นเคืองลง เขาวางกล่องเครื่องมือลงบนโต๊ะใกล้ๆ แล้วใช้มือจับแขนน้องสาวให้หมุนตัวไปมาเบาๆ“ไ

  • ระยะนี้อันตราย   บทที่ 14 สนใจ

    บทที่ 14 สนใจเสียงเครื่องยนต์คำรามแข่งกับลมที่กระแทกกระจกอย่างต่อเนื่อง รถพุ่งทะยานไปตามโค้งของสนามด้วยความเร็วที่ทำให้ท้องไส้ของนาเนียร์เหมือนถูกดึงรั้งไว้ด้านหลัง เธอกำเข็มขัดตัวเองแน่น เท้าก็เหยียบพื้นแน่นคล้ายจะช่วยเขาเบรกรถ แม้รู้ดีว่ามันไม่ได้ช่วยให้รถช้าลงเลยสักนิดเฮดเตอร์เหลือบตามองเธอจากมุมสายตา เห็นใบหน้าใต้หมวกกันน็อกที่ซีดนิดๆ กับริมฝีปากที่เม้มแน่นเหมือนพยายามเก็บอาการ เขายกยิ้มบาง ไม่ใช่ยิ้มเอ็นดู แต่เป็นยิ้มของคนที่กำลังพอใจที่ได้เห็นอีกฝ่ายตกอยู่ในอาณาเขตของตัวเอง“กลัวเหรอ” เสียงของเขาทุ้มต่ำ แทรกผ่านเสียงเครื่องยนต์เข้ามาในหูเธอ“มะ…ไม่กลัวค่ะ” นาเนียร์ตอบสั้นๆ แต่สายตายังจ้องถนนข้างหน้า“ไม่กลัวก็หันมามองสิ”เธอชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหน้ามองเขาตามที่บอก แล้วก็ต้องเผลอกลืนน้ำลาย เพราะระยะห่างระหว่างใบหน้าของเขากับเธอตอนนี้ใกล้จนเห็นประกายแววตาคมชัดทุกเส้นสาย ราวกับเขาตั้งใจจะให้เธอสบตาแล้วจมอยู่ในนั้นเฮดเตอร์กระตุกพวงมาลัยเข้าโค้งแรง จังหวะนั้นแรงเหวี่ยงทำให้ร่างของนาเนียร์เอียงเข้าหาเขาโดยอัตโนมัติ มือหนาของเขายกขึ้นมารับไว้ที่เอวอย่างรวดเร็ว“จับไว้ดีๆ” เขากร

  • ระยะนี้อันตราย   บทที่ 13 ลองเครื่อง

    บทที่ 13 ลองเครื่องนิ้วเรียวยาวของเฮดเตอร์วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ ก่อนจะลูบหน้าผากตัวเองแรงๆ ทีหนึ่งด้วยความหงุดหงิด คราวนี้ไม่ใช่เพราะเอกสารตรงหน้า ไม่ใช่เพราะเสียงครางจากปลายสายก่อนหน้า…แต่เพราะความเงียบที่วนกลับมาอีกครั้ง มันเหมือนหลอกให้เขาต้องกลับมานั่งอยู่กับความรู้สึกที่ตัวเองก็ยังไม่อยากยอมรับเขาก้มมองโทรศัพท์อีกครั้ง นิ้วไถรายชื่ออย่างช้าๆ ก่อนจะหยุดที่ชื่อสุดท้ายในกลุ่มที่พอไว้ใจได้“ลีออง” ตัวเลือกสุดท้ายติ๊ด…เสียงรอสายดังเพียงแค่สองครั้ง(ว่าไงมึง วันนี้เงียบเหงาเหรอ ถึงได้โทร.หาผมเนี่ย)เสียงกวนประสาทของลีอองดังขึ้นพร้อมกับเสียงเพลงเบาๆ ที่เปิดคลออยู่ด้านหลัง ไม่ใช่เสียงหอบ ไม่ใช่เสียงหญิงสาว ไม่ใช่เสียงเตียงลั่นแอ๊ดแอ๊ดเฮดเตอร์ถอนหายใจอย่างโล่งอกปนขบขันเล็กๆ เป็นครั้งแรกของคืน“อย่างน้อยก็มีมึงที่ว่าง…”(ไม่ว่างก็ต้องว่างแหละ โทรมาขนาดนี้ หายากนะที่มึงจะโทร.หากูก่อน ดึกแล้วด้วย มีไรว่ามา)“ไม่มีอะไรมาก แค่อยากเช็กว่ากูไม่ได้เหลือแค่เอกสารกับเสียงพัดลมในห้องทำงาน และที่สำคัญกูโทร.หามึงคนสุดท้าย”(หืมมมม~ ฟังดูเหงาแปลกๆ นะมึง หรือลูกน้องมึงแอบทิ้งไปเสพสุขกันหมดแล้ว?)เฮดเ

  • ระยะนี้อันตราย   บทที่ 12 คนในอดีต

    บทที่ 12 คนในอดีตณคุณทิ้งความงุนงงไว้ข้างหลัง ก่อนปั่นหน้ายิ้มแย้มเมื่อนาเนียร์เดินมาถึงรถพอดี“พี่ณ วันนี้ทำงานเหนื่อยมากๆ ขออ้อนได้ไหม”“ก๋วยจั๊บร้านประจำ?” ณคุณเอ่ยขึ้นอย่างรู้ใจน้องสาว ทำเอาคนที่ตั้งใจมาอ้อนพี่ชายให้พาไปกินของอร่อยต้องหลุดยิ้มดีใจ“เก่งจัง รู้ใจน้องไปหมดเลย”“นี่พี่เรานะ เลี้ยงมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ทำไมจะไม่รู้”“ขอบคุณนะพี่ณ ที่ไม่ทอดทิ้งน้องไปไหน”นาเนียร์จับชายเสื้ิพี่ชายเบาๆ แกว่งมือไปมาอย่างเขินอาย จากนั้นเธอก็เขย่งปลายเท้าขึ้นหอมแก้มพี่ชายเบาๆ“อะไรเนี่ย หอมแก้มพี่ทำไม”“ขอบคุณ รู้สึกอยากขอบคุณและอยากขอโทษพี่ณที่ทำตัวให้ปวดหัว”“ไม่เอาน่า ไปหาอะไรกินกันเถอะ”“อืม”ขณะเดียวกันก็มีสายตาหนึ่งคู่ที่มองลงมาจากห้องทำงาน เฮดเตอร์มองสองพี่น้องที่เดินเคียงกันไปขึ้นรถ มุมปากเขาเหยียดยิ้มบางๆ ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ทำงาน22:00 บ้านของณคุณ“ตัวแสบ จะอ่านหนังสือถึงกี่โมงเนี่ย พรุ่งนี้ตื่นสายไม่รู้ด้วยนะ”“น้องไม่เคยตื่นสาย แต่ว่าอยากอ่านบทนี้ให้จบก่อนค่ะ”“เอางั้น?”“อืม แป๊บเดียว”“งั้นพี่อยู่เป็นเพื่อน”“โอเคค่ะ” นาเนียร์ก้มหน้าอ่านหนังสือต่อณคุณหยิบหนั

  • ระยะนี้อันตราย   บทที่ 11 ไม่เข้าใจเหตุผล

    บทที่ 11 ไม่เข้าใจเหตุผล“เฮ! ทำไมหน้าซีดแบบนั้น ไม่สบายเหรอ”ณคุณตะโกนเรียกน้องสาว เมื่อนาเนียร์เดินเข้ามาใกล้ เขาก็รีบถอดถุงมือช่างออกแล้วยกขึ้นไปอังหน้าผากน้องสาวทันที “ก็ไม่ได้ตัวร้อน ทำไมทำหน้าเครียดมาแบบนั้น”“พี่ณ”“หืม?”“คนเราสามารถมีอะไรกับคนที่ไม่ใช่คนรักของตัวเองได้เหรอ”ณคุณแทบสำลักน้ำลายกับคำถามตรงๆ ของน้องสาว และรุ่นน้องที่กำลังก้มหน้าทำงานอยู่ข้างๆ ถึงกับอ้าปากค้าง มองหน้านาเนียร์พร้อมกัน“หุบปาก” ณคุณหันไปสั่ง เพราะรู้ว่ายังไงก็ถูกแซวแน่ๆ ก่อนจะหันไปมองหน้านาเนียร์ จากนั้นจึงดึงแขนเธอเดินไปยังมุมที่ไม่มีคนพลุกพล่านเท่าไร “อะไร ทำไมเราถามพี่แบบนี้”“ก็แค่อยากรู้ค่ะ แต่ว่าพี่ณก็เคยทำนี่นา”“พะ พอเลยๆ ไม่ต้องพูด”“ก็น้องอยากรู้นี่คะ”“พี่เชื่อว่าเรามีคำตอบในใจแล้ว”“แล้วพี่ณคิดว่าเนียร์จะตอบอะไร”“พี่รู้น่าตัวแสบ ไปทำงานได้แล้ว และอย่าลืมว่าอีกไท่กี่วันเขาจะเปิดสอบแล้ว ตั้งใจหน่อย”“ครับผม จะไม่ทำให้พี่ณผิดหวัง”นาเนียร์ตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง แม้แววตายังดูไม่สดใสเท่าปกตินัก ทว่าก็พยายามกลบเกลื่อนความสับสนในใจด้วยท่าทีร่าเริง ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปจากมุมนั้น ทิ้งให้ณคุณยังย

  • ระยะนี้อันตราย   บทที่ 10 อย่าเล่นกับไฟ

    บทที่ 10 อย่าเล่นกับไฟรถเคลื่อนตัวออกจากสนามแข่งอย่างช้าๆ ทิ้งเสียงวุ่นวายและกลิ่นน้ำมันไว้เบื้องหลัง เส้นทางที่ทอดยาวเบื้องหน้าเงียบงัน มีเพียงแสงไฟถนนที่สะท้อนเข้ามาในรถเป็นระยะ กับเสียงเครื่องยนต์ที่ดังสม่ำเสมอ ราวกับปลอบโยนความคิดฟุ้งซ่านของหญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่เบาะข้างคนขับณคุณเหลือบมองน้องเป็นระยะ นาเนียร์ยังคงมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตานิ่งสงบ แต่ในความนิ่งนั้นกลับซ่อนบางอย่างไว้จนคนเป็นพี่รู้สึกได้ มันคือความเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เขาไม่ค่อยสบายใจนัก“เขาไม่ใช่คนธรรมดาเนียร์” ณคุณพูดขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงนิ่งจริงจัง “คนแบบนั้น ถ้าเข้าไปใกล้มากเกินไป มันจะเปลี่ยนเราโดยไม่รู้ตัว”นาเนียร์หันกลับมามองพี่ชาย ชั่ววินาทีนั้นเองที่แววตาเธอเผยความสับสนออกมาอย่างปิดไม่มิด“น้องแค่…แค่อยากรู้จักมากกว่านี้ แต่ก็ไม่ได้อยากให้ไฟแผดเผาตัวเองจนตายขนาดนั้น” เธอสารภาพเสียงแผ่ว “เขาเหมือนมีอะไรบางอย่างที่น้องอยากเข้าใจ อยากมองให้ลึกลงไปกว่าสิ่งที่เขาแสดงออก”ณคุณถอนหายใจยาว เขาไม่ได้ต่อว่า ไม่ได้พูดห้ามเหมือนก่อนหน้านี้ แต่สีหน้าเขายังคงเคร่งเครียด“ตัวตนของเฮดเตอร์มันไม่สวยงามอย่างที่เราคิดนะเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status