"พอใจแล้วใช่ไหม" ผมถามเอ เมื่อเราสองคนขึ้นมานั่งอยู่ในรถด้วยกัน
"..." เอเลือกที่จะนั่งก้มหน้าแล้วเงียบ
"ถาม"
"..."
"เอ"
"อืม ส่วนงานแต่งก็ยกเลิกนะ" ในที่สุดเธอก็พูดออกมา และพูดประโยคที่ทำผมฝันสลาย
"ขอโทษสำหรับทุกอย่าง แล้วก็ขอบคุณมาก ๆ สำหรับตลอดเวลาที่ผ่านมา"
"หุบปากแป๊ปดิ๊" ผมพูดขึ้นแล้วจากนั้นก็ฟุบหน้าลงที่พวงมาลัยรถ
มันเป็นความรู้สึกที่เคว้งคว้าง เหมือนผมกำลังอยู่บนยอดตึก แล้วตกลงมากระทบพื้น
"ที่ทำทุกอย่างแค่ต้องการแก้แค้นไอ้แจงใช่ไหม" ผ่านไปร่วมครึ่งโมงผมก็เอ่ยขึ้นหลังจากที่พอจะรวบรวมสติย้อนความคิด เรียบเรียงสิ่งที่สองคนนั้นพูด
"อืม"
"ที่ผ่านมาไม่เคยรักกันเลยใช่ไหม" แล้วผมก็กลั้นใจถามคำถามที่ค้างคาใจ ไอ้คำที่เคยบอกว่ารักกัน ผมอยากจะรู้จริง ๆ ว่ามันมีความจริงสักแค่ไหน
"อืม"
"มีหัวใจบ้างไหมวะ ทำแบบนี้ได้ไง เลือดเย็นไปไหม แล้วเด็กในท้อง..."
"เด็กในท้องเป็นลูกของแฟนเรา คือเรื่องแต่งงานเราคิดไว้อยู่แล้วว่าแจงมันต้องระเบิด เราไม่ได้คิดจะแต่งงานกับยิมอยู่แล้ว คือเราไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากคำว่าขอโทษ"
"เรียกคนนั้นว่าแฟน แล้วกับยิมคืออะไรวะ" ผมจุกในอกสุด ๆ นี่ผมตกเข้าไปอยู่ในเกมแค้นของผู้หญิงสองคนนี้มานานแล้วใช่ไหม
"เพราะยิมเป็นผู้ชายคนเดียวที่แจงมันหวงมากที่สุด เพราะยิมเป็นคนเดียวที่แจงมันไม่อยากให้เสียใจ การที่ยิมมาจีบเอจึงเข้าทางเอทุกอย่าง" เอสารภาพออกมาโต้ง ๆ
"ไม่เลิกได้ไหม แต่งงานกันนะ แต่งงานเถอะ ยิมสัญญาว่าจะดูแลเอให้ดี จะลืมเรื่องทุกอย่างที่เอเคยทำ ยิมจะไม่พูดถึงเรื่องพวกนี้เลย เราแต่งงานกันนะ" แล้วผมก็เลือกที่จะยื้อ ผมหันหน้าไปพูดกับเธอพร้อมน้ำตาที่ไหลรินจากนัยน์ตา
"พอเถอะยิม มันเป็นไปไม่ได้ เอไม่ได้รักยิม ยิมเป็นคนดีนะ ยิมต้องเจอคนที่ดีกว่าเอแน่นอน ปล่อยเอไปเถอะ ขอโทษนะที่ดึงยิมเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราขอโทษจริง ๆ "
"อย่าพูดแบบนี้ดิ อย่าพูดแบบนี้ อย่าทำเหมือนจะทิ้งยิมดิ" ผมยื่นมือไปกุมมือเธอ
ผมยอมโง่ เพราะผมขาดเธอไม่ได้ ผมรักเธอไปแล้ว รักเธอจนหมดใจ
"เราต้องไปแล้ว จากนี้เราคงไม่ได้เจอกันอีก โชคดีนะ" เธอดึงมือผมออกแล้วเปิดประตูรถลงไปทันที
"เอ... อย่าไป อย่าไปยิมขอร้อง อย่าทำกับยิมแบบนี้" ผมรีบลงจากรถแล้วตามไปสวมกอดเธอไว้
"ขอโทษนะยิม แต่ถ้าจะโทษก็โทษแจงนะ เพราะแจงมันรักยิม ถ้าแจงมันไม่ทำให้พี่ชายเราตาย เรื่องแบบนี้คงไม่เกิด" เธอดึงรั้งแขนผมออกแล้วเดินขึ้นรถที่มาจอดรับเธอ
ผมทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นถนนของลานจอดรถ ผมหมดแรงที่จะลุกขึ้นยืน
เธอทิ้งผมไปแล้ว ทิ้งผมไปทั้งที่ผมพยายามหลับหูหลับตาเรื่องเธอมีคนอื่นมาโดยตลอด
ทั้งที่ผมพยายามหลบซ่อนความจริง เพราะอยากรักษาหัวใจตัวเองไว้
"กูขอโทษยิม กูขอโทษ" ไอ้แจงมันนั่งลงตรงหน้าผมแล้วกอดผมไว้
"กูโคตรเกลียดมึงเลยแจง กูโคตรเกลียดมึงเลย มึงเห็นไหม มึงเห็นไหมว่าเอมันไปแล้ว เพราะมึง เพราะมึงคนเดียวกูถึงเจ็บแบบนี้"
"ขอโทษยิม กูขอโทษ"
"ทำไม ทำไมวะ ถ้ามึงรู้ว่าเขาจะหลอกกู ทำไมมึงไม่บอกกูตั้งแต่แรก ทำไมมึงปล่อยให้กูรักเขา ทำไมมึงปล่อยให้กูรักผู้หญิงคนนั้นจนหมดหัวใจแบบนี้"
"กูไม่อยากให้มึงเสียใจ กูขอโทษนะยิม กูขอโทษ" ไอ้แจงมันร้องสะอื้นแล้วกอดผมไว้แนบแน่น
"แต่ตอนนี้กูโคตรเสียใจเลย กูโคตรเสียใจเลยมึงได้ยินไหมแจง ต่อไปนี้กูกับมึงอย่าเจอกันอีกดีที่สุด ไม่ต้องรู้จักกันเลยยิ่งดี" ผมผลักไอ้แจงออกแล้วลุกขึ้นเดินกลับมาที่รถก่อนจะขับรถออกมาทันที
ไอ้แจงมันเคยคบกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่มันคบแล้วไม่ใช่มันก็เลยเลิก ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่สำหรับไอ้แจง แต่ไอ้แจงมันดันใช่สำหรับผู้ชายคนนั้น ผู้ชายคนนั้นง้อไอ้แจงอยู่นาน แต่ไอ้แจงมันไม่กลับไป
และด้วยความคิดตื้น ๆ คิดว่าถ้าทำแบบนั้นแล้วไอ้แจงมันจะกลับไปหา
ผู้ชายคนนั้นเลยเลือกขู่ว่าจะโดดตึกถ้าไอ้แจงไม่กลับไปหา แต่เพราะไอ้แจงมันเป็นไอ้แจงที่ไม่แคร์ใคร มันก็เลยไม่ใส่ใจ
ผู้ชายคนนั้นจึงโดดตึกลงมาตายอย่างที่ขู่จริง ๆ
และเพราะผมไม่รู้ว่าเอคือน้องสาวของผู้ชายคนนั้น ผมก็เลยเผลอตกไปอยู่ในการแก้แค้นของเอ ที่เป็นน้องสาวของผู้ชายคนนั้น
ผมกลายเป็นคนที่โง่ที่สุดในเกมครั้งนี้
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป...
การที่ผมไม่มีเอเข้ามาอยู่ในชีวิต มันแม่งโคตรหดหู่ ผมสิ้นหวัง พ่อแม่ก็เศร้าตาม
และถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปผมคงตายแน่ ๆ และคงไม่ใช่แค่ผมที่จะตาย พ่อแม่ผมก็คงตรอมใจตาม
เพราะฉะนั้นผมจึงตัดสินใจไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เพื่อลืมเรื่องราวร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นกับผม
ผมจะพยายามเริ่มต้นใหม่ เพื่อครอบครัวของผม เพื่ออนาคตที่ผมยังมองไม่เห็นแสงสว่าง
แต่ผมมั่นใจว่าวันข้างหน้าต้องดีกว่าวันนี้ที่เป็นอยู่...
“มากันแล้ว มา ๆ ลูกเข้าบ้านเร็ว” แม่ของผมกวักมือเรียกผมและภามเพื่อเข้าบ้านหลังจากที่เมื่อคืนผมโดนจัดชุดใหญ่ เพราะไม่ไว้ใจเก็บเรื่องไร้สาระของภามไปฝันเป็นตุเป็นตะ พอตื่นมาก็งี่เง่าเง้างอนนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมกลับมาบ้านแล้วโดนกระหน่ำแทงเช้ามาภามมันเลยลากผมมาทานข้าวเช้าที่บ้านของผม เนื่องจากเมื่อคืนมันบังคับให้ผมโทรนัดครอบครัวซึ่งตลอดการเดินทางมาที่บ้านแม่ของผมนั้น ผมเกร็งมากครับ เกร็งกลัวไปหมด กลัวครอบครัวจะรับเรื่องของผมกับภามไม่ได้กลัวพวกท่านจะกีดกัน ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นผมคงทนไม่ได้แน่นอน“พ่อแม่สวัสดีครับ” ภามยกมือขึ้นไหว้พ่อกับแม่ของผม ซึ่งพ่อนั่งอยู่ที่เก้าอี้ของโต๊ะอาหาร ส่วนแม่ท่านเพิ่งจะเดินไปนั่งที่ข้างกายพ่อ“นั่ง ๆ ภาม แล้วนี่นึกอะไรถึงพากันมาแต่เช้า” พ่อยิ้มรับและชวนให้นั่ง ต้องขยายความก่อนนะครับว่าภามมาที่บ้านของผมบ่อย มาในฐานะเพื่อนในความเข้าใจของครอบครัวผม“มีเรื่องจะพูดคุยกับพ่อแม่ครับ” ภามเป็นคนตอบ ส่วนผมยังยืนเกร็งเพราะกลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดในเวลาอีกไม่นานที่จะถึง“ดูท่าจะซีเรียส งั้นกินข้าวกันก่อนค่อยคุยกันนะ นั่งทานลงทานข้าวสิเค” แม่ของผมบอกแล้วยิ้ม ผมจึงนั่ง
“เค เค เคด่วย ไอ้เค!!!” เสียงแว่วมาของไอ้ภามมันเอ่ยเรียกผมพร้อมกับแรงเขย่าแรง ๆ“ไอ้ภาม!!!” ผมเงยหน้ามองมันด้วยความตกใจ“เป็นบ้าอะไรของมึง เห็นกูทำไมต้องตกใจ มึงมีความผิดอะไร พูดมา” ไอ้ภามมันเดินมาที่โซฟาที่ผมนอนอยู่และนั่งลงข้างผมก่อนจะยื่นมือมาดึงจับที่ตัวผม“อย่ามาจับกู ไอ้เหี้ย มึงมันเลว ใจร้าย ทำร้ายจิตใจกู ที่ทำทุกอย่างก็แค่สงสารกู มึงไม่เคยรักกูเลย” ผมขยับตัวหนีออกจากมันปัก!ไอ้ภามมันตบที่หัวของผม“ไอ้เค รอบนี้อะไรพูดมา กูงอนเรื่องที่บ้านของมึง มึงถึงขั้นเก็บเอาไปฝันคิดว่ากูนอกใจใช่ไหม มึงถึงได้นอนร้องไห้อยู่แบบนี้”เวรแล้วครับ“อย่าบอกนะว่าทั้งหมดเพราะกูฝันเป็นตุเป็นตะ” ผมมองไอ้ภามแล้วทำหน้าอึ้งรอครับ เพราะรู้สึกเหมือนจะรู้คำตอบแล้ว“เออดิ กูเนี่ยนะจะนอกใจมึง ไอ้เหี้ย เรื่องนี้นี่คิดไม่เลิกสักทีเนอะ แล้วนี่ยังไง”“ยังไงอะไรภาม” เมื่อรู้ตัวว่าทุกอย่างคือความฝันที่ผมสรรค์สร้างมันขึ้นมา ผมก็รีบขยับตัวนอนหนุนที่ตักของคนที่ผมเรียกว่าแฟน รีบเตรียมแผนอ้อนมันเลยครับ“มึงให้ลูกค้าในร้านกอดทำไม”แต่เดี๋ยวนะ!!!เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด เรื่องนี้ผมจะนอนท่านี้ไม่ได้เหมือนจะไม่ทัน ผมรู้ตัวช
สามวันผ่านไป...สามวันผ่านไปแล้ว ชีวิตของผมก็ยังจมอยู่กับความเมา ผมเช่าห้องพักรายวันแล้วซื้อเหล้าเข้ามากินแบบไม่คิดอะไรทั้งนั้น นอกจากเรื่องราวที่ผ่านมาของผมกับไอ้ภาม ผมคิดซ้ำ ๆ วกไปวนมา คิดแล้วคิดอีกและเมาหลับไปผมโคตรเสียศูนย์ที่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้แต่วันนี้มันถึงเวลาที่ผมจะต้องกลับใช้ชีวิตของผมแล้วครับเรื่องร้านที่ทำร่วมกันมา ถ้าหากว่ามันจะเอาคนรักของมันมาทำ ผมก็พร้อมจะเดินออกมาพร้อมเงินทุนและกำไรที่ผมสมควรได้เรื่องนี้คงต้องคุยกันอีกทีให้เข้าใจแต่ที่แน่ ๆ คือผมจะไม่กลับไปอยู่ในจุดที่มันสงสารผมแน่นอนครับสองชั่วโมงต่อมา...ณ ร้านอาหาร“สวัสดีค่ะคุณเค” พนักงานในร้านยกมือไหว้ผมเหมือนที่เคยทำตลอด แต่วันนี้มันแปลกไปตรงที่ผมไม่ยิ้มครับ คนที่ตกอยู่ในอารมณ์แบบผมคงไม่มีอารมณ์มาปั้นหน้ายิ้มหรอกใช่ไหมครับ ผมไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้นผมเดินผ่านพนักงานมาที่ห้องทำงานด้วยใบหน้าที่นิ่งขรึม ซึ่งผมไม่เคยเป็นแบบนี้เลยตั้งแต่เปิดร้านมา จึงไม่แปลกที่จะเป็นจุดสนใจ เพราะผมก็หายไปสามวันเต็ม ๆผมเดินเข้ามาในห้องทำงานแล้วนั่งดูยอดบัญชีการซื้อของเข้า และเมนูอาหารที่ขายออกไป ผมตรวจผมเช็กแบบที่ผมเคยทำ เพื่อ
ตอนนี้เวลาหนึ่งทุ่มนิด ๆ ครับ ผมกลับมาบ้านของภาม บ้านที่ภามมันซื้อไว้ก่อนที่เราจะรู้จักกัน เราอาศัยอยู่ที่นี่ด้วยกัน และนาน ๆ ครั้งเพื่อนจะมาปาร์ตี้ โดยที่มีแจงเป็นสายเมาที่ชอบเต้นจนสุดเหวี่ยง และสุดท้ายก็น็อกกลางอากาศ ตั้งแต่ที่แจงมีลูกคนที่สอง การเที่ยวเตร่เมาแล้วเลื้อยของแจงก็น้อยลง หรือเพราะมีความเป็นแม่ที่มากขึ้นก็ไม่รู้นะครับ แจงถึงได้ดูกลายเป็นคนดีแต่กว่าจะดีได้ กว่าจะลงตัวกับคนที่เป็นผัวอย่างยิมก็ยากเอาเรื่องนะครับ ไหนจะเรื่องของจัสมินที่แจงปกปิดแม้กระทั่งเพื่อนว่าใครคือพ่อ ไหนจะผู้ชายที่ตามจีบ และยังเมียเก่าของยิมที่ยิมเคยรักมาก แต่ละปัญหาของทั้งคู่มันทำให้ผมเหนื่อยและท้อแทนเลยครับ“เฮ้อ” ผมถอดถอนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เมื่อขวดเหล้ามันกระจัดกระจายระเนระนาดไปหมด แล้วก็ต้องเป็นผมที่ต้องเก็บเป็นประจำตอนนี้คนเมาคงอยู่ในห้องนอนแต่เดี๋ยวนะ!!!ทำไมมีแก้วสองใบ ใครมาดื่มกับมันวะสองเท้าของผมรีบเดินมาที่ห้องนอน ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อใจแต่ผมแค่อยากพิสูจน์ และไม่อยากให้เป็นแบบที่ผมคิดแต่แม่ง...ไม่ใช่ไง มันไม่ใช่เมื่อเสียงที่ดังแว่วมาจากห้องนอน ตามทางเดินที่ผมกำลังก้าวไป ยิ่งผมเฉียดใกล้
สวัสดีครับ เรียกผมว่า ‘เค’ อย่างที่แจงเรียกก็แล้วกันนะครับผมมีแฟนครับ ชื่อ ‘ภาม’ เป็นเจ้าของร้านอาหารที่เราสองคนร่วมกันสร้างขึ้นมาเพื่อเลี้ยงชีพของเราทั้งสอง กิจการร้านอาหารของเราดำเนินไปได้ด้วยดีครับคงจะเพราะเจ้าของร้านทั้งสองคนหล่อกันทั้งคู่ จะว่าผมหลงตัวเองไม่ได้นะครับ เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาทานอาหารร้านผมนั้นเป็นสาว ๆ กันซะมากกว่าคงไม่ต้องบอกพวกคุณที่ตามแจงมาก็คงจะรู้ว่าผมกับภามเป็นคู่รักร่วมเพศ เป็นคู่เกย์กันขอสารภาพตามตรงนะครับว่าตอนแรกผมก็ไม่คิดที่จะชอบผู้ชายด้วยซ้ำ เพราะที่ผ่านมาผมชอบผู้หญิงมาตลอด แต่แล้วจู่ ๆ ชีวิตที่เจอแต่ความผิดหวังก็ทำให้ความรู้สึกของผมเปลี่ยนไป อาจจะเพราะจุดเริ่มต้นมันมาจากการประชดชีวิตที่คบใครก็มีแต่โดนทิ้ง โดนหักหลังมาตลอดผมก็เลยลองมองหาผู้ชายดู เผื่อว่าจะได้ไม่ต้องเจอกับความเสียใจ เหมือนตอนที่คบกับผู้หญิงจุดเปลี่ยน จุดแปลกใหม่ในชีวิตของผมเกิดขึ้นเมื่อผมต้องมากลายเป็นฝ่ายรับจากผู้ชายที่เพิ่งจะรู้จักกัน ตอนนั้นขอเรียกเป็นวันไนท์สแตนด์แล้วกันนะครับที่เรียกวันไนท์สแตนด์ก็เพราะอยากจะทดลองก่อนที่จะเริ่มมีคนรักที่เรียกว่าเพศเดียวกันและผู้ชายคนแรกที่ไ
“พวกแกจะบ้ากันหรือไง ทำอะไรกันอยู่ กล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง!!!” แม่พูดเสียงสั่นดวงตากำลังเอ่อคลอด้วยน้ำตา ท่านกำลังมองฉันและพี่ชาย“แค่เรารักกัน ทำไมแม่ไม่เข้าใจ”“รักกันฉันเข้าใจ แต่พวกแกจะรักกันแบบนี้ไม่ได้ พี่น้องจะรักกันแบบนี้ไม่ได้”“แม่…”“หยุดเรื่องน่ารังเกียจนี้ซะยัยแพท แกเป็นถึงครู แกไม่ควรให้เรื่องนี้เกิดขึ้น” แม่หยิบยาดมขึ้นมาสูดดม“เรารักกันครับแม่ ผมรู้ว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ แต่เรื่องของหัวใจมันบังคับกันได้เหรอครับ แม่ครับ…”“เงียบปากไปเลยพีค นี่พวกแกเป็นบ้ากันหรือไง กำลังทำอะไรอยู่ ทำอะไรทำไมไม่คิดถึงใจฉันบ้าง” แม่ของฉันเริ่มหลั่งน้ำตาฉันกับพี่ชายกำลังทำให้แม่บังเกิดเกล้าเสียใจ เพราะเราทั้งสองตัดสินใจกลับมาบ้านและบอกเรื่องราวที่เราสองคนได้แอบทำร่วมกันมาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี เมื่อแม่ได้ยินเรื่องที่พี่ชายเป็นคนเอ่ยปากเริ่มเล่า ท่านก็เริ่มหน้าซีด และหลั่งน้ำตาน้ำตาของแม่ทำให้ฉันรู้สึกผิดมาก แต่เมื่อพูดออกไปแล้วคงจะแก้ไขอะไรไม่ได้อีก และคงต้องยอมรับความจริงซึ่งมันดูเหมือนเราทั้งคู่บีบบังคับให้แม่ยอมรับเรื่องของเราเรื่องระยำที่เราแอบทำ“แม่คะ แพทขอโทษ แต่