"โมมีเรื่องจะถามพี่คินคะ" หญิงสาวตรงหน้าพูดขึ้น ในขณะที่เธอยังคงก้มหน้าก้มตามองอาหารในจาน เเละยังคงเขี่ยมันไปมาเช่นเดิม
"เรื่องอะไร" ภาคินเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย โมรินยังสงสัยอะไรในตัวเขาอีกงั้นเหรอ "พี่ยังจำวันครบรอบของเราได้อยู่ไหม" เธอวางช้อนซ่อมในมือลงบนจาน เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่ลังเล ทว่าหัวใจเธอกลับเต้นแรงขึ้นกว่าปกติ กลัวว่าสิ่งที่เขาจะพูดออกมา มันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอขาดหวัง แน่นอน เขาจำมันได้ แต่จะให้ทำอย่างไร เมื่อวันเกิดของเพื่อนเขาก็ตรงกับวันนั้น ภาคินไม่สามารถปฏิเสธอย่างใดอย่างหนึ่งได้ และในวันนั้นเขาเองก็ยังมีงานต้องทำอีก แต่เขาขาดคำอธิบายต่อแฟนสาว วันนั้นเขารู้แล้วว่าเธอน้อยอกน้อยใจเขา ทำไมเขาจะไม่รู้นิสัยแฟนตัวเอง ชายหนุ่มรู้ดีว่าเขาทำผิดต่อเธอแทบจะนับครั้งไม่ได้ "พี่จำได้" เขาแสดงสีหน้ารู้สึกผิดแววตาสีดำจับจ้องไปยังใบหน้าสวยตรงหน้า ก่อนจะถามเธอขึ้นอีกในประโยคถัดมา "โกรธพี่หรึเปล่า" "โกรธสิค่ะ เเต่โมให้อภัยค่ะ" อย่างน้อยเขาก็ยังจำได้ว่าเมื่อวานคือวันครบรอบของเรา "พี่ขอโทษนะ" เธอมักจะให้โอกาศเขาเสมอ อาจจะเป็นเพราะหน้าที่การงานของเขา เลยทำให้เขามีเวลาน้อยลง และละเลยไปบ้าง "โมว่าเราหาวันหยุดไปเที่ยวด้วยกันดีไหมค่ะ" เราไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันนานมากเเล้ว เธอทำเสียงออดอ้อน อยากให้เขาได้พักผ่อนและมีเธอคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ "ได้สิ แต่วันไหนพี่จะบอกอีกที" ภาคินครุ่นคิดอยู่ครู่จึงตอบตกลงไป อย่างน้อยเขาควรจะหาเวลามาชดเชยให้เธอบ้าง เเต่เขายังการันตีไม่ได้ ต้องดูตารางเวรก่อน วันหยุดยังไม่ค่อยเเน่นอน บางครั้งเขาเองก็แทบจะไม่ได้หยุดด้วยซ้ำ บางครั้งลงเวรไปแล้ว ก็ถูกโทรเรียกตัวกลับมาขึ้นเวรอีก เขาปฏิเสธไม่ได้เลย เพราะมันเป็นหน้าที่ของเขา มันเป็นความรับผิดชอบของเขา "โมไม่รีบค่ะ แล้วแต่พี่คินสะดวก" เธอเองก็รู้ดีอยู่แกใจ แม้เธอจะกำหนดวันเวลาไป แต่น้อยครั้งที่จะได้ไปตามนัดกันจริงๆ เธอจึงรอให้เขากำหนดวันเองก็แล้วกัน ----------------- "แค่ไปส่งเหรอค่ะ ไปค้างที่คอนโดของโมเลยก็ได้นะ พี่คินจะได้ไม่เหนื่อย" หญิงสาวอยู่เวรกับแฟนหนุ่มจนกระทั่งเขาลงเวร ภาคินจึงอาสาไปส่งเธอที่คอนโด อีกอย่างเขาเพิ่งจะเลิกงาน มาส่งเธอแล้วกลับยิ่งเหนื่อยเข้าไปอีก "พี่ไม่รบกวนโมดีกว่า" ชายหนุ่มพูดปฏิเสธไป เพราะพรุ่งนี้เช้า เขาต้องไปทำงานแต่เช้า "รบกวนอะไรกันคะ คบกันมาตั้งกี่ปีแล้ว ไม่เห็นต้องเกรงใจเลย แค่มาค้างห้องแฟนแล้วก็กลับ ไม่เห็นจะแปลกอะไรเลย" "พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น" ภาคินวางมือบนศรีษะสวยได้รูป ขยี้เบาๆอย่างเอ็นดู เธอและครอบครัวของเขารู้จักกันดี มีความสนิทสนมกันพอสมควร จึงควรให้เกียรติพ่อและแม่ของเธอ ไม่อยากทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาผู้ใหญ่ แถมหญิงสาวยังเด็กอยู่ ร่างสูงเปิดประตูรถให้แฟนสาวก้าวขึ้นนไปนั่งในรถ หลังจากนั้นเขาจึงอ้อมไปเปิดอีกด้านเพื่อเข้าไปนั่งในตำแหน่งคนขับ ระหว่างทางคนตัวเล็กก็พูดจาไปเรื่อยเปื่อย ทำให้เขาที่เหนื่อยมาก็เริ่มที่จะผ่อนคลายลงบ้าง เขาที่นั่งฟังก็แทบจะหลุดขำ เขาชอบความไร้เดียงสาของเธอ แม้ในบางเวลาหญิงสาวจะแสดงออกเป็นคนดื้อด้านและปากร้าย แต่โมรินก็ยังมีความไร้เดียงสาของความเป็นเด็กสาวอยู่ในตัวตนของเธอ "จะไม่ค้างกับโมจริงๆเหรอคะ เปลี่ยนใจยังทันนะ" ใบหน้าสวยเอ่ยถามชายหนุ่มตรงหน้าอีกครั้ง "ไว้วันหลังนะ พรุ่งนี้พี่จะบอกว่าพี่ได้วันหยุดวันไหน" เขาเอ่ยตอบพลางจ้องมองหน้าแฟนสาวที่แบะปากใส่เขา ภาคินยืนมองเธอจนเดินหายเข้าไปในตัวคอนโด แล้วจึงขับรถออกไปทันที โมรินเดินกระทืบเข้ามาในห้องของตัวเอง ก่อนจะโยนกระเป๋าราคาแพงไปยังโซฟาอย่างไม่ใยดี เธอถอดรองเท้าคู่สวยออกก่อนจะนั่งลงบนโซฟาตัวโปรด สองขานั่งไขว้ห่างอย่างสบายใจ มือเรียวเล็กหยิบรีโมททีวีบนโต๊ะกระจกขึ้นมากดเปิด ดวงตากลมโตจ้องมองภาพเคลื่นไหวที่ฉายขึ้นตรงหน้า ติ่ง!................. เสียงแจ้งเตือนข้อความเด้งขึ้นมาในเวลานั้น โมรินแอบคิดในใจ ไหนว่าแฟนหนุ่มของเธอจะบอกพรุ่งนี้ไงว่าเขาจะหยุดวันไหน เพิ่งตีรถกลับไปเอง ทำไมให้คำตอบเธอเร็วจัง หรือเขามีงานยุ่งอีกแล้วจนไม่มีเวลาให้เธอ @ลินิน : ไม่ไปปาร์ตี้ที่ฉันชวนจริงๆเหรอ สองคิ้วบนใบหน้าสวยขมวดกันเป็นปมเมื่อเห็นเป็นยัยเพื่อนตัวดี ที่มักจะชวนเธอเที่ยวตลอด จำได้ว่าตัวเองก็บอกไปหลายครั้งแล้ว ว่าจะไม่ขอไปเที่ยวรังสรรอะไรด้วยกันอีก ไม่ว่าจะงานไหนก็ตาม ดูจากเพื่อนร่วมงานของยัยนินแล้ว มีแต่พวกอัธพาลทั้งนั้น @โมริน : ฉันเคยให้คำตอบแกไปแล้วนะ ลินินจำประโยคที่เธอเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ไม่ได้เหรอ แต่ถึงยังไงก็คงไปไม่ได้หรอก เพราะเธอกำลังมีนัดสำคัญกับแฟนหนุ่ม ที่นานๆครั้งจะได้ไปเที่ยวด้วยกันสองคน @ลินิน : เผื่อแกอาจจะเปลี่ยนใจขึ้นมา โมรินเหลือบมองข้อความก็แทบจะหลุดขำ นี่เธอต้องเปลี่ยนใจ เพื่อที่จะไปงานปาร์ตีร่วมพลพวกอัธพาลหน้าม้องั้นเหรอ เธอขอโบกมือลาดีกว่า ครั้งก่อนที่ไปด้วยกัน ก็เจอไอตัวปัญหาชอบพูดจาไม่ดีใส่เธอ แถมยังลวนลามอีก หลังจากนี้คงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว @โมริน : ฉันมีนัดแล้วยะ ที่เธอพิมพ์ตอบกลับไปอย่างนั้นเพราะมันเป็นความจริง ถึงแม้พี่คินจะยังไม่คอนเฟิมร์วันเวลากับเธอที่แน่นอน แต่มันก็คือการนัดหมายและนัดหาวันเวลาไว้ล่วงหน้าแล้ว ภายในใจหญิงสาวก็แอบสั่นคลอนอยู่บ้าง กลัวว่าเขาจะผิดนัดกับเธออีก และเธอก็เกลียดคำว่าขอโทษของเขาที่สุด เพราะมันชดเชยอะไรให้โมรินแทบไม่ได้เลย นอกจากทำให้ความสำพันธ์ของเราทั้งคู่มันยังคงอยู่ต่อไป ร่างบางว่างมือถือลงพร้อมถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ ทำไมพอลงคิดทบทวนแล้วเหมือนหญิงสาวกำลังพยายามอยู่ฝ่ายเดียว พอโตขึ้นเขาก็ยิ่งยุ่งกับการทำงาน จนบางครั้งก็ลืมเธอไปเสียด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างไร โมรินก็ไม่อยากจะสร้างความลำบากใจให้แก่เขา โมรินเลิกคิดฟุ่งซ่าน จึงลุกเดินเข้าห้องน้ำไป เธอควรจะเตรียมตัวเข้านอนได้แล้วเพราะพรุ่งก็ยังมีเรียนตอนสายๆอีกโมรินก็ยังคงร้องให้อยู่เฉกเช่นนั้น เธอวางหัวพิงกับกระจกรถ ดวงตากลมพร่ามัวไปด้วยน้ำตา ในสมองของเธอยังคงจำเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อครู่ได้ดี ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนเห็นแกตัว แต่เขาต่างหากที่มองข้ามเธอไป เขาอาจจะลืมไปแล้วว่ายังมีเธอที่กำลังรอเขาอยู่ตลอด ลินินเหลือบมองโมรินพลางดึงทิชชูในกล่องออกมายื่นให้เพื่อนสาวข้างกายซับน้ำตา นี่ไม่ใช่ครั่งแรกที่เธอเห็นเพื่อนอยู่ในสภาพนี้ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับโมรินบ่อยมาก จนบางครั้งเธอก็ชินไปแล้วกับการเห็นเพื่อนเสียใจ เธอเข้าใจทั้งสองคนดี แต่ด้วยเวลาและหน้าที่การงานของเขามันทำให้เขายิ่งห่างหายไป "เราไปเที่ยวปาร์ตี้กันดีกว่า" ลินินเอ่ยตัดบทเพื่อให้โมรินหันมาพูดคุยกับเธอ แต่ก็ไม่เป็นผล เพื่อนของเธอยังคงเงียบอยู่อย่างนั้น "แฟนแกเป็นคนบอกให้ฉันมารับเองแหละ เขายังห่วงใยแกแค่เขาไม่มีเวลา" ลินินยังคงพูดอธิบายต่อไปให้โมรินสบายใจ เวลาต่อมาสองสาวเดินเข้ามาในงานปาร์ตี้ที่เพื่อนในแก็งของลินินเป็นคนจัดขึ้น สภาพของโมรินยังคงเหม่อลอยอยู่อย่างนั้น เธอคาดหวังไว้มาก กว่าจะได้ไปเที่ยวด้วยกันอีกกับเขาเธอต้องรออีกเป็นอาทิตย์ โมรินนั่งลงบนโซฟาในห้องโถงใหญ่ ก่อนจะเข้ามาด้านใ
ยิ่งคนตัวเล็กพยายามดิ้นรนออกเเรงต่อต้านมากแค่ไหน ก็ดูเหมือนว่ามันจะสูญเปล่า เรียวลิ้นที่ช่ำชองของเขาพยายามจะครอบครองริมฝีปากเธอ โมรินหายใจติดขัด อยากจะผลักเขาออกไป ทว่าแขนแกร่งของเขาก็โอบรัดเธอราวกับโซ่เหล็กเส้นใหญ่ แถมร่างกำยำก็ยังทาบทับร่างเธออีก เมื่อไร้เรี่ยวเเรงต่อต้าน โมรินจึงเผลอไผลไปกับรสจูบของเขา... ใบหน้าของเธอก็แดงก่ำ ในสมองเธอเป็นสีขาวชั่วขณะ เมื่อพอใจแล้วเขาก็ยอมปล่อยเธอ หญิงสาวหอบหายใจราวกับคนขาดอากาศหายใจ ผมเผ้ายุ่งเหยิง คนตรงหน้ากระตุกยิ้มมุมปาก เขาเลียริมฝีปากตัวเอง ราวกับว่าเป็นรสชาติที่ถูกใจ หญิงสาวเชิดหน้าขึ้น นัยน์ตาตาคมเข้มคู่นั้นกำลังจ้องมองเธออยู่เช่นกัน เสื้อนักศึกษาสีขาวแขนยาวถูกพับขึ้น ทรงผมหยักศกตัดสั้นๆ ดูเหมือนเด็กเกเรไม่เอาไหน แถมใบหน้าเจ้าเล่ห์นั้นอีก ทว่าภาพรวมของเขานั่นดูดี ดึงดูดใจสาวๆ ชั่วขณะโมรินก็สลัดความคิดนั้นทิ้ง เธอถลึงตามองเขาด้วยความโกรธ เมื่อนึกถึงการกระทำที่น่ารังเกียจและขยะแขยงของเขา แล้วพยายามจะลงจากรถอีกครั้ง ทว่าประตูรถกลับถูกล็อคไว้ "ฉันจะแจ้งตำรวจมาจับแก" "ข้อหาอะไรละ ข่มขืน?" ดางตาคู่นั่นของเขาเหมือนกำลังจะเยาะเย้ยเธอ เพ
โมรินขับรถหรูเข้ามาจอดในบริเวณรั่วมหาลัย ก่อนจะเดินเข้าไปยังตึกคณะของตัวเอง ทุกสายตาจับจ้องมายังร่างบางที่เดินสับเท้าผ่านไป แถมเธอยังสะพายกระเป๋าแบนร์เนมยี่ห้อดัง ผิวพรรณเปล่งปลั่งราวกับนางแบบหรือพวกเซเลบโมรินมาจากตะกูลพวกไฮโซ เป็นธรรมดาที่รสนิยมของเธอจะเป็นพวกของมีราคาแพง แม้ทุกคนจะใส่ชุดนักศึกษาทว่าเธอนั่นกลับดูโดดเด่นมาก ผมยาวสลวยถูกปล่อยยาวไปถึงกลางหลัง มันสะบัดเล็กน้อยในตอนเธอเดิน "มอนิ่งยะ แม่คุณหนู" เสียงที่เหมือนจะพูดจากระแหนะกระแหนก้ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็ยัยเพื่อนเที่ยวเช้าค่ำนี่แหละ"ว่าไง" โมรินเลิกคิ้วถามก่อนจะวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ"เปล่า" เห็นแกอารมณ์ดีมาแต่ไกลโพ้นโน้น ท่าทางแบบนี้คงมีเรื่องดีเกิดขึ้นกับเธอแน่ เมื่อคืนรุ่นน้องต่างมหาลัยก็คะยั้นคะยอให้ชักชวนโมรินไปเที่ยวงานปาร์ตี้ ไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงถึงให้เธอมาชวนโมรินไป "ฉันจะไปเที่ยวกับแฟน" ลินินทำหน้าเหวอ แล้วก็ตบมือให้เธอซะเสียงดังลั่นห้อง "ทำไมแกต้องเสียงดังด้วย" โมรินเอ่ยขัดเมื่อเพื่อนตัวดีทำให้คนหันมาที่พวกเธอเป็นตาเดียว "ดีใจกับแกนะสิ นานๆครั้งจะได้ไปเชียวนะ" คำพูดคำจาเหมือนประชดประชันเธอยังไงยังงั้น ทว่าที่ยัยลินิ
"โมมีเรื่องจะถามพี่คินคะ" หญิงสาวตรงหน้าพูดขึ้น ในขณะที่เธอยังคงก้มหน้าก้มตามองอาหารในจาน เเละยังคงเขี่ยมันไปมาเช่นเดิม"เรื่องอะไร" ภาคินเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย โมรินยังสงสัยอะไรในตัวเขาอีกงั้นเหรอ"พี่ยังจำวันครบรอบของเราได้อยู่ไหม" เธอวางช้อนซ่อมในมือลงบนจาน เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่ลังเล ทว่าหัวใจเธอกลับเต้นแรงขึ้นกว่าปกติ กลัวว่าสิ่งที่เขาจะพูดออกมา มันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอขาดหวังแน่นอน เขาจำมันได้ แต่จะให้ทำอย่างไร เมื่อวันเกิดของเพื่อนเขาก็ตรงกับวันนั้น ภาคินไม่สามารถปฏิเสธอย่างใดอย่างหนึ่งได้และในวันนั้นเขาเองก็ยังมีงานต้องทำอีก แต่เขาขาดคำอธิบายต่อแฟนสาว วันนั้นเขารู้แล้วว่าเธอน้อยอกน้อยใจเขา ทำไมเขาจะไม่รู้นิสัยแฟนตัวเอง ชายหนุ่มรู้ดีว่าเขาทำผิดต่อเธอแทบจะนับครั้งไม่ได้ "พี่จำได้" เขาแสดงสีหน้ารู้สึกผิดแววตาสีดำจับจ้องไปยังใบหน้าสวยตรงหน้า ก่อนจะถามเธอขึ้นอีกในประโยคถัดมา"โกรธพี่หรึเปล่า""โกรธสิค่ะ เเต่โมให้อภัยค่ะ" อย่างน้อยเขาก็ยังจำได้ว่าเมื่อวานคือวันครบรอบของเรา "พี่ขอโทษนะ" เธอมักจะให้โอกาศเขาเสมอ อาจจะเป็นเพราะหน้าที่การงานของเขา เลยทำให้เขามีเวลาน้อยลง และละเลยไ
ชุดเดรสเกาะอกสีดำแนบรัดไปกับร่างบอบบางอันสมบูรณ์แบบของหญิงสาว ทำให้เห็นส่วนเว้าโค้งของรูปร่างของเธอผมยาวสีดำถูกมวยขึ้น เผยให้เห็นต้นขอขาวเเละความเซ็กซี่ เธอที่ยืนอยู่ข้างกายของเขาในตอนนี้ ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็อยากจะเข้าหาผิวพรรณใส่บริสุทธิ์ กับใบหน้าที่บึ้งตึง ไม่ได้บดบังความสวยของเธอเลย ทว่ามันกลับสร้างความดึดดูดเข้าไปอีกเธอก้มหน้าก้มตา เขาเหลือบมองเธอด้วยห่างตาเพียงนิด ถึงการกระทำจะดูเหมือนไม่ได้สนใจใยดีคนข้างกาย แต่ในความคิดของเขานั้น ยากจะหักห้าม"พวกเรานี่เจอกันบ่อยนะ"น้ำเสียงที่เธอไม่อยากได้ยินก็พูดออกมา ถ้าเขาไม่พูด เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย"อย่ามาใช้คำว่าพวกเรากับฉัน นายคงพิศวาสฉันมากสินะ ถึงได้ตามหลอกหลอนไปทั่วทุกที่""หึ"มุมปากหนากระตุกยิ้มเล็กน้อย ใบหน้าของเขาไม่ได้หันมามองเธอ ชายหนุ่มสูงมากกว่าเธอ สองมือล่วงกระเป๋าอย่างสบาย ทว่ากลับดูมีภูมิฐานจู่ๆเขาก็ผลักร่างของเธอติดกับพนักลิฟต์ โมรินถอยหนี แต่เขายกเเขนทั้งสองข้างยันกับพนักไว้ ทำให้เธอต้องเผชิญหน้ากับเขาโดยตรงอลันก้มหน้าเข้าไปใกล้ กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเธอลอยติดจมูก"อ้าขาให้ฉันสิ ถ้าเอากับเธอเเล้วมันไม่สนุก ฉันอาจจะไ
ยุ่งเหยิงให้เรียบรอย ก่อนจะมองหาลินินพวกเธอนอนเตียงเดียวกัน ทว่าเธอกลับไม่เห็นเพื่อนนอนอยู่บนเตียง จึงก้าวลงจากเตียง ก็พบว่าเธอหล่นลงมานอนอยู่ข้างเตียงนี้เอง"ตื่นได้แล้ว" หญิงสาวเขย่าตัวเพื่อนเบาๆ ที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นราวกับคนไม่หายใจ เธอเหลือบมองนาฬิกาบนหัวเตียง ก็เห็นว่ามันเป้นเวลาเที่ยงแล้ว พวกเธอหลับลึกกันขนาดนี้เลยเหรอ"ยัยนิน ตื่นสิ" เธอเขย่าร่างของเพื่อนอีกครั้ง ดวงตาเล็กที่หนักอึ้งก็ปรือขึ้นมองเธออย่างสะลึมสะลือ คนตรงหน้าอ้าปากหาวหวอดๆ อย่างคนขี้เกียจ ก่อนจะลุกเดินโซเซเข้าห้องน้ำไป"แกสั่งข้าวสิ ฉันหิว อยากกิน ข้าวผัดทะเล""รอเดี่ยวนะ ฉันหาร้านก่อน"ครืน~ ครืน~ ครืน~โมรินเหลือบมองลินินเมื่อเห็นว่ามีคนโทรมา น้ำเสียงของเธอเปลี่ยนเป้นเสียงสอง ก็เข้าใจได้ในทันทีว่าแฟนโทรมา หญิงสาวที่นั่งฟังอยู่แอบได้ยินว่าจะไปเที่ยวด้วยกัน พวกเธอคุยกันแค่ไม่กี่นทีก้วางสายไป"แฟนแกเป็นคนยังไง ฉันเห็นโทรมาตามแกไปเที่ยวตลอด" ไม่มีงานการทำหรือไง ลินินสั่งอาหารเสร็จก็วางมือถือลง เธออมยิ้มแก้มแดงขึ้นมาเมื่อถูกถามถึงแฟนหนุ่ม"เขาเป็นลูกของพวกเศรษฐี รวยมากเลยละ""เหตุผลแค่นี้ ที่แกชอบเขา" โมรินเอ่ยขึ