공유

บ้านใหม่

การสอบใช้เวลาหลายชั่วโมง ฉันพยายามทำให้ดีที่สุด แม้ว่าบางข้อจะยากจนต้องใช้เวลาไตร่ตรองนาน แต่ในที่สุดทุกอย่างก็ผ่านไปจนได้

เมื่อเสียงออดดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าสอบเสร็จ ฉันปล่อยลมหายใจออกมายาว ๆ พลางเก็บอุปกรณ์การเขียนลงกระเป๋า ก่อนจะเดินออกมาพบกับม่านเมฆและครีมที่รออยู่

“เป็นยังไงบ้าง?” ครีมถามอย่างตื่นเต้น

“ก็โอเคนะ มีบางข้อที่ไม่แน่ใจ แต่ก็ทำสุดความสามารถแล้ว” ฉันตอบตามตรง

ม่านเมฆพยักหน้า “ผมก็เหมือนกัน”

พวกเราสามคนยืนพูดคุยกันอยู่พักหนึ่งก่อนที่ครีมจะแยกตัวออกไปรอเฮียคราม ส่วนฉันเดินออกจากโรงเรียนพร้อมกับม่านเมฆด้วยความรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก

“อีกไม่กี่วันก็จะรู้ผลแล้ว” ฉันพึมพำ

“ก็ต้องรอลุ้นกันไป” ม่านเมฆตอบ

ฉันเงยหน้ามองไปบนท้องฟ้า แสงแดดอ่อน ๆ ยามบ่ายทำให้ทุกอย่างดูอบอุ่นอย่างประหลาด ฉันไม่รู้หรอกว่าผลสอบจะออกมาเป็นยังไงแต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนอย่างน้อยฉันก็ทำเต็มที่แล้ว

เมื่อกลับถึงบ้าน ฉันกับม่านเมฆเดินเข้าไปในบ้านด้วยความรู้สึกโล่งอกจากการสอบที่เพิ่งผ่านพ้นไป แต่สิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกแปลกใจก็คือบรรยากาศในบ้านยังคงเงียบสงบเหมือนทุกวัน ป๊ากับแม่ไม่ได้ถามถึงข้อสอบหรือพูดถึงเรื่องผลสอบเลย

บนโต๊ะอาหารมีข้าวสวยร้อน ๆ กับอาหารฝีมือแม่วางรออยู่ กลิ่นหอมของต้มจืดเต้าหู้หมูสับลอยมาแตะจมูก ทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายลงไปอีกระดับ แม่เพียงแค่ส่งยิ้มอบอุ่นมาให้ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน

“เหนื่อยกันไหมลูก กินข้าวก่อนเถอะเดี๋ยวค่อยพักผ่อนให้เต็มที่”

“ป๊ากับแม่ไม่ถามเรื่องสอบเหรอคะ?” ฉันอดไม่ได้ที่จะถาม

ป๊าหัวเราะในลำคอขณะตักหมูสับใส่จานให้ฉัน “ไม่ต้องกดดันตัวเองหรอกลูก พวกเรารู้ว่าลูกสองคนทำเต็มที่แล้ว ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงมันก็ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต”

ฉันมองป๊าอย่างซาบซึ้งก่อนจะหันไปสบตากับม่านเมฆที่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย พวกเราสองคนต่างรับรู้ได้ถึงความห่วงใยของพ่อแม่ที่ไม่อยากให้ลูกต้องเครียดไปมากกว่านี้

หลังจากมื้อเย็นจบลง ฉันกำลังจะเดินกลับขึ้นห้องแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อป๊าเรียกพวกเราสองคนให้มานั่งที่ห้องนั่งเล่นด้วยกัน

“มีเรื่องจะบอก” ป๊าเริ่มต้นขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์

“เรื่องอะไรเหรอคะ?” ฉันเลิกคิ้วถาม ขณะที่ม่านเมฆก็มองป๊าอย่างสงสัย

ป๊ายิ้มก่อนจะหยิบเอกสารบางอย่างออกมาจากซองสีน้ำตาลแล้ววางลงบนโต๊ะ ฉันก้มลงมองและพบว่ามันเป็นเอกสารเกี่ยวกับการซื้อขายบ้าน หัวใจฉันกระตุกวูบขึ้นมาอย่างตกใจ

“ป๊าซื้อบ้านใหม่ให้พวกเรา” คำพูดของป๊าทำให้เราสองพี่น้องตาเบิกกว้างอย่างตกใจ

“บ้านใหม่? ป๊าพูดจริงเหรอคะ?” ฉันทวนคำเสียงแผ่ว

“จริงสิลูก” แม่เสริมขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “บ้านหลังนี้ไม่ได้ไกลจากบ้านของครีมเท่าไหร่ พวกเธอสองคนโตขึ้นแล้วควรจะมีห้องของตัวเอง ม่านเมฆเองก็จะได้ไม่ต้องแชร์ห้องกับเจ้ฟ้าใสแล้วนะ”

ฉันอ้าปากค้างหันไปมองน้องชายที่ดูตกใจไม่แพ้กัน  ม่านเมฆกะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะพูดออกมาอย่างกังวล

“แต่บ้านไม่ใช่ของถูกนะป๊า”

“นั่นสิคะ ป๊ากับแม่จะไม่ลำบากเหรอ?” ฉันเอ่ยขึ้นอย่างกังวล บ้านหนึ่งหลังราคาต้องสูงมากแน่ ๆ แล้วพ่อกับแม่จะต้องผ่อนอีกกี่ปี?

ป๊าหัวเราะก่อนจะส่ายหน้า “พวกลูกไม่ต้องห่วงหรอก บ้านหลังนี้ป๊ากับแม่ซื้อด้วยเงินสด เราวางแผนเก็บเงินกันมานานแล้วเพราะรู้ว่าสักวันหนึ่งพวกลูกต้องการพื้นที่ของตัวเอง”

“เงินสด!?” ฉันกับม่านเมฆร้องออกมาพร้อมกันอย่างไม่อยากเชื่อ

แม่หัวเราะอย่างขบขัน “ใช่จ้ะ พวกเราวางแผนมาหลายปีแล้วและก็เก็บเงินมาตลอด ในเมื่อตอนนี้ก็ถึงเวลาเหมาะสมแม่กับป๊าก็เลยตัดสินใจซื้อ”

ฉันยังคงอึ้งอยู่กับข้อมูลที่ได้รับก่อนจะเหลือบไปเห็นชื่อ   ที่ระบุไว้ในเอกสารโฉนดที่ดิน ดวงตาฉันยิ่งเบิกกว้างขึ้นมากกว่าเดิม

“ป๊า... ทำไมชื่อในโฉนดเป็นชื่อของหนูกับน้องล่ะคะ?”

ป๊ายิ้มมองพวกเราสองคนด้วยสายตาอบอุ่น “เพราะบ้านหลังนี้เป็นของพวกลูก ป๊ากับแม่อยากให้มันเป็นจุดเริ่มต้นอนาคตของพวกหนู”

ฉันรู้สึกเหมือนโลกหมุนช้าลง ใจหนึ่งรู้สึกดีใจและตื้นตันที่พ่อแม่คิดถึงพวกเรามากขนาดนี้ แต่อีกใจหนึ่งก็ยังรู้สึกหนักใจ บ้านทั้งหลังเป็นของฉันกับม่านเมฆ มันไม่ใช่เรื่องเล็กเลยนะ!

ม่านเมฆเองก็ดูเหมือนจะพูดไม่ออก เขาก้มมองเอกสารตรงหน้าก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเบา

“ขอบคุณนะป๊า... ขอบคุณแม่ด้วยครับ”

ฉันเองก็กะพริบตาถี่ ๆ พยายามกลั้นน้ำตาที่เอ่อคลอ ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา

“ใช่ค่ะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะแม่กับป๊าหนูไม่รู้จะพูดยังไงเลย”

แม่ลูบหัวฉัน “แม่ขอแค่ลูกสองคนตั้งใจใช้ชีวิตต่อไป ดูแลกันและกันแค่นี้ป๊ากับแม่ก็ดีใจแล้ว”

ฉันพยักหน้ารับก่อนจะหันไปสบตากับม่านเมฆที่ยิ้มให้ฉัน บ้านใหม่... ชีวิตใหม่... ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป           แต่ฉันรู้ว่าตราบใดที่เรามีกันและกันมันย่อมเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีอย่างแน่นอน

เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันกับม่านเมฆยังคงตื่นเต้นไม่หายเกี่ยวกับบ้านหลังใหม่ ป๊ากับแม่บอกว่าเราสามารถเข้าไปดูบ้านได้ในวันหยุดสุดสัปดาห์เพราะเจ้าของเก่ากำลังจะบินไปต่างประเทศในไม่กี่วันข้างหน้า

“บ้านอยู่หลังตรงข้ามบ้านครีมเลยเหรอคะ?” ฉันถามอย่างไม่อยากเชื่อ

“ใช่จ้ะ คนขายเป็นญาติของแม่ครีมเอง เขาเสียดายบ้านมากนะ แต่ต้องไปอยู่ต่างประเทศกับลูกก็เลยอยากขายให้คนที่ไว้ใจได้” แม่พูดขณะเตรียมมื้อเช้า

“โห อย่างกับโชคชะตาเลยแฮะ” ม่านเมฆพึมพำขณะที่ยังดูตื่นเต้นไม่หาย

“ขนาดนั้นเลยเหรอ?” ฉันหัวเราะออกมาก่อนจะนึกถึงภาพบ้านหลังใหม่ขึ้นมาในหัว

บ้านไม้กึ่งปูนสองชั้น สีขาวสะอาดตา รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่ปลูกไว้ตามแนวรั้ว ประตูรั้วเองก็เป็นสีขาวดูเข้ากับตัวบ้านอย่างพอดิบพอดีซึ่งฉันเคยเห็นมาก่อนตอนที่ไปบ้านของครีม

“ถึงจะเป็นบ้านเก่าแต่ก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเพราะเจ้าของรักมาก พวกลูกคงต้องช่วยกันจัดบ้านใหม่ด้วยนะ” ป๊าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหยอกล้อลูกทั้งสองคน

“แน่นอนค่ะ!” ฉันตอบรับอย่างกระตือรือร้น ในขณะที่ม่านเมฆเองก็พยักหน้าตอบรับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ ฉันหยิบสมุดโน้ตขึ้นมาวางแผนเกี่ยวกับการตกแต่งห้องใหม่ของตัวเอง ตอนนี้ฉันยังไม่รู้ว่าห้องของฉันกับม่านเมฆอยู่ส่วนไหนของบ้าน แต่การมีพื้นที่เป็นของตัวเองมันก็ให้ความรู้สึกพิเศษอย่างบอกไม่ถูก

วันหยุดสุดสัปดาห์มาถึงอย่างรวดเร็ว ฉันกับม่านเมฆยืนมองบ้านหลังใหม่ด้วยความตื่นเต้น บ้านหลังนี้มีเอกลักษณ์แบบบ้านยุคนี้ที่ดูกึ่งวินเทจแต่ยังคงความอบอุ่นเอาไว้ได้ดี รั้วสีขาวที่ล้อมรอบทำให้บ้านดูเป็นระเบียบและน่าอยู่มากขึ้น

“เฮ้ ฟ้าใส!” เสียงครีมดังขึ้นจากหน้าบ้านฝั่งตรงข้าม         ฉันหันไปมองก็เห็นเธอโบกมือให้จากระเบียงบนชั้นสองซึ่งน่าจะเป็นห้องของเธอ

“พวกเธอจะมาอยู่ตรงข้ามบ้านฉันจริงดิ!?”

“ใช่แล้ว! เธอต้องมาช่วยฉันจัดบ้านด้วยนะ” ฉันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

“ได้เลย! เรื่องนี้ฉันถนัด”  ครีมหัวเราะอย่างร่าเริงก่อนจะหายไปและไม่นานเจ้าตัวก็โผล่มาหน้าบ้านของฟ้าใส

ก่อนตามมาด้วยแม่ของครีมที่เดินออกมาสมทบ         พลางทักทายพวกเราทั้งครอบครัวด้วยรอยยิ้ม

“ยินดีต้อนรับนะบ้านหลังนี้อบอุ่นมาก ฉันยังแปลกใจอยู่เลยว่าทำไมญาติถึงยอมขายให้เธอ ทั้ง ๆ ที่เขารักบ้านหลังนี้มาก”

“ฉันคิดว่าพวกเขาคงอยากให้มันตกอยู่ในมือของคนที่ดูแลต่อได้ดีละมั้ง ไม่ดีเหรอฉันกับเธอต่อไปนี้จะได้อยู่ใกล้กันด้วย”  แม่ของฉันตอบกลับพร้อมรอยยิ้มอ่อน

“ดีมากเลยต่างหาก อีกอย่างฉันว่าคนดีใจมากที่สุดน่าจะเป็นเด็กสองคนนั้นมากกว่า” กิมลั้งพูดพลางพยักพเยิดไปทางเด็กหญิงสองคนที่กำลังหัวเราะต่อกระซิกกัน

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   ตอนพิเศษ พยานรักตัวน้อย ๆ

    หลายปีผ่านไป... หลังจากครามเรียนจบวิศวกรรมศาสตร์และเริ่มต้นชีวิตการทำงานในฐานะวิศวกรหนุ่มอนาคตไกล เขาทุ่มเทให้กับงานในบริษัทชั้นนำแห่งหนึ่งแต่หัวใจของเขาก็ไม่เคยห่างจากจังหวัดบ้านเกิด และที่สำคัญที่สุดคือผู้หญิงที่เขามอบเกียร์และหัวใจให้ไปนานแล้วทางด้านฟ้าใสเธอก็ก้าวเข้าสู่ช่วงปีสุดท้ายของการเรียนในคณะศิลปกรรมฯ ชีวิตที่เคยพลิกผันเพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝัน บัดนี้เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น ป๊าของเธอกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้สำเร็จแม้การเดินจะยังไม่กลับมาเป็นปกติร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนเดิมแต่ด้วยกำลังใจที่ดีและการทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอท่านก็สามารถกลับมาเดินเหินได้คล่องแคล่วขึ้นมาก อีกทั้งยังเข้ามาช่วยดูแลร้านสุกี้ในส่วนที่ไม่ต้องออกแรงมากได้ด้วย รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่เคยจางหายไปนานกลับมาสู่ครอบครัวของเธออีกครั้งกิจการร้านขนมและร้านสุกี้ก็ดำเนินต่อไปได้ด้วยดีโดยมีฟ้าใสและคุณแม่เป็นหัวเรือใหญ่ และแน่นอนว่ามีครามคอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังเสมอในยามที่เธอต้องการ ระยะทางและตารางเวลาที่แตกต่างไม่ได้ทำให้ความรักของครามและฟ้าใสลดน

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   รักของเราคือรสช็อกโกแลต

    หลายเดือนผ่านไป... วันเวลาหมุนเวียนจากเทอมแรกเข้าสู่เทอมที่สองของปีการศึกษา กลิ่นอายของวันวาเลนไทน์เริ่มอบอวลไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย สติ๊กเกอร์รูปหัวใจและดอกกุหลาบมีให้เห็นตามมุมต่าง ๆชีวิตของฟ้าใสเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น แม้จะยังคงวุ่นวายและเหน็ดเหนื่อยเป็นสองเท่าของนักศึกษาทั่วไป เธอกลับไปเรียนตามปกติพยายามตามงานที่ขาดไปในช่วงแรกอย่างสุดกำลังพ่อของเธอกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้แล้วแต่อาการบาดเจ็บที่ขายังคงต้องทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาระการดูแลร้านทั้งสองแห่งยังคงตกอยู่ที่เธอกับแม่เป็นหลัก แต่เธอก็เริ่มปรับตัวและจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้คล่องแคล่วขึ้นรวมถึงความสัมพันธ์กับครามก็ยังคงดำเนินไปในรูปแบบเดิม... เขาคือพี่ชายตรงข้ามบ้านที่แสนดี สารถีคนสำคัญ และผู้ช่วยจำเป็นในทุกสถานการณ์ ความช่วยเหลือของเขาทำให้เธอผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้บ่ายของวันวาเลนไทน์หลังเลิกคลาส ฟ้าใสตั้งใจจะเอาขนมเค้กช็อกโกแลตที่เธอหัดทำเมื่อคืนไปให้ครามลองชิม และถือโอกาสขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่เขาช่วยม

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   การเติบโตชั่วข้ามคืนของฟ้าใส (2)

    "ลูกอยู่นี่เอง แม่ก็รอว่าจะมาพร้อมลูกแต่ก็ดีแล้วละที่ลูกอยู่ตรงนี้" กิมลั้งพูดกับลูกชายหลังเห็นว่าเขาคอยอยู่เป็นเพื่อนฟ้าใสกับแม่พลางทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ ลลิตาที่ยังคงมีดวงตาแดงก่ำ"ลิตา เฮียหลงเป็นยังไงบ้าง" เธอหันไปถามเพื่อนบ้านด้วยความเป็นห่วงโดยจับมือลลิตาไว้แน่นลลิตาสูดหายใจลึก พยายามกลั้นน้ำตาที่รื้นขึ้นมาอีกครั้ง "เพิ่งจะย้ายเข้าไอซียูเมื่อกี๊นี้เองลั้ง... หมอบอกว่ากระดูกหักหลายที่ เสียเลือดมาก... ยังต้องรอดูอาการใกล้ชิด..." เสียงเธอสั่นเครือในตอนท้าย"โถ... ไม่เป็นไรนะลิตา ไม่เป็นไร" กิมลั้งบีบมือเพื่อนแน่นขึ้น "ปลอดภัยแล้ว ถือว่าพ้นขีดอันตรายระดับนึงแล้วนะ เดี๋ยวก็ดีขึ้น ต้องเชื่อมั่นในตัวหมอ แล้วก็บุญกุศลที่อาหลงเขาทำมาเยอะแยะนะเพื่อนนะ" เธอกล่าวปลอบใจอย่างจริงใจ"มีอะไรให้ฉันสองคนช่วยบอกได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ พวกเราก็เหมือนครอบครัวเดียวกัน""ขอบใจมากนะลั้ง..." ลลิตาพยักหน้ารับทั้งน้ำตาครามมองภาพผู้ใหญ่ให้กำลังใจกัน ก่อนจะหันไปพูดเรื่องที่จำเป็น "ป๊า ม๊า เดี๋ยวผมว่าจะพาฟ้าใสไปดูร้านที่ตลาดโต้รุ่งก่อน แล้วก็อาจจะแวะไปดูร้านสุกี้ด้ว

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   การเติบโตชั่วข้ามคืนของฟ้าใส (1)

    ทุกวินาทีที่ผ่านไปหน้าห้องผ่าตัดคล้ายเป็นการทรมานสำหรับคนรอคอย ฟ้าใสยังคงกอดแม่ไว้แน่นมีเพียงเสียงสะอื้นแผ่วเบาเป็นระยะขณะที่ผู้เป็นแม่ก็ได้แต่ลูบหลังปลอบลูกสาว ดวงตาจับจ้องบานประตูห้องผ่าตัดด้วยใจที่ร้อนรน ครามยังคงยืนอยู่ไม่ห่าง คอยเป็นหลักให้สองแม่ลูกอย่างเงียบงันตามเดิมบรรยากาศระหว่างพวกเขาเต็มไปด้วยความตึงเครียดและคำภาวนาในใจทันใดนั้นเสียงเรียกเข้าเฉพาะตัวของเครื่องพีซีทีในกระเป๋ากางเกงยีนส์ของครามก็ดังขึ้นทำลายความเงียบงันแสนหนักอึ้งนั้นลง ครามขมวดคิ้วและเมื่อเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามาเจ้าตัวก็รู้แล้วว่าทางนั้นคงจะร้อนใจไม่ต่างกัน"เฮีย! ป๊าของฟ้าใสเป็นยังไงบ้าง" เสียงครีมน้องสาวของเขาดังลอดออกมาทันทีที่เขากดรับสาย น้ำเสียงสั่นเครือและเต็มไปด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด"แม่เพิ่งโทรมาบอกว่าคุณอาโดนรถชน! ท่านเป็นอะไรมากไหมเฮีย? ครีมเป็นห่วงมากเลย!" ความสนิทสนมระหว่างครอบครัวทำให้ครีมรู้สึกผูกพันและตกใจกับข่าวร้ายไม่น้อย"ใจเย็น ๆ ก่อนครีม" ครามตอบกลับพยายามใช้เสียงที่สงบและมั่นคงที่สุดเพื่อไม่ให้น้องสาวที่อยู่ไกลถึงเมืองหลวงต้องตื่นตระหนกไปมากกว่า

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   เคียงข้าง

    ครามวิ่งมาถึงบริเวณที่จัดกิจกรรมของคณะศิลปกรรมศาสตร์อย่างรวดเร็ว เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายบนขมับและข้างแก้ม ดวงตาคมกวาดมองหากลุ่มเพื่อนของฟ้าใสที่พอจะคุ้นหน้าอยู่บ้างท่ามกลางความวุ่นวายจนกระทั่งไปสะดุดตากับกลุ่มนักศึกษาปีสองในชุดคณะที่กำลังยืนจับกลุ่มคุยกันอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ฟ้าใสเคยยืนอยู่ก่อนหน้านี้ เขาจำได้ว่าหนึ่งในนั้นคือเพื่อนสนิทของเธอเขารีบก้าวเท้าเข้าไปหาทันที ลมหายใจหอบเล็กน้อย "น้องครับ....พี่มาหาฟ้าใส" เขาถามออกไปน้ำเสียงเคร่งเครียดและแฝงความกังวลอย่างปิดไม่มิด"เห็นฟ้าใสไหมครับ?"เพื่อน ๆ ของฟ้าใสกลุ่มนั้นหันมามองรุ่นพี่ต่างคณะอย่างแปลกใจระคนสงสัย ปกติไม่ค่อยเห็นเฮียครามคนดังของวิศวะฯ มาทำหน้าตาตื่นแถวนี้เท่าไหร่นัก ก่อนที่เพื่อนคนที่สนิทกับฟ้าใสที่สุดจะรีบตอบ"พี่คราม..." เธอทำหน้างง ๆ เล็กน้อยเรียกชื่อของเขาออกมา "เมื่อกี้ฟ้าใสมันบอกว่าเพจเจอร์เข้า ขอตัวไปโทรศัพท์ค่ะ เห็นวิ่งหน้าตาตื่นไปทางตู้โทรศัพท์ตรงโถงทางเดินนู้นแน่ะค่ะ" หญิงสาวชี้นิ้วไปยังทางเดินด้านในตัวอาคารที่ค่อนข้างเงียบกว่าบริเวณลานกิจกรรม"ไปได้สักพักแล้ว..ยังไม่เห็

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   ห่วง

    เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากปีหนึ่งเทอมแรกกิจกรรมรับน้อง การเรียน การสอบ วนเวียนจนกระทั่งทุกอย่างผ่านพ้นไปหนึ่งปีการศึกษาเต็ม ๆความสัมพันธ์ระหว่างครามและฟ้าใสยังคงดำเนินไปในรูปแบบของเพื่อนบ้านและพี่ชายที่แสนดีอย่างที่หลายคนเห็นครามยังคงวนเวียนเข้ามาช่วยเหลือฟ้าใสอยู่เสมอ ทั้งเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน อย่างการช่วยถือของ ซื้อขนมมาฝากหรือแม้แต่ช่วยดูเรื่องความปลอดภัยตอนเธอกลับบ้านดึก ๆและบางครั้งก็รวมถึงเรื่องที่มหาวิทยาลัย ทำให้เธอกับเขายิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้นโดยปริยายตามประสาคนที่บ้านอยู่ตรงข้ามกันส่วนขุนเขา...เขาก็ยังคงเป็นขุนเขาคนเดิม ไม่เคยถอดใจจากเป้าหมาย แม้จะไม่ได้ทุ่มเทเข้าหาฟ้าใสอย่างหนักหน่วงเหมือนช่วงแรกที่เจอกัน แต่ก็ยังคงหาโอกาสเข้ามาทักทาย ชวนคุยหรือทำตัวเป็นเพื่อนจอมกวนให้เธอได้เห็นหน้าอยู่เสมอส่งผลให้ฟ้าใสถูกเพื่อนสนิทในกลุ่มศิลปกรรมฯ แซวจนหูชาทั้งเรื่องพี่ชายข้างบ้านสุดอบอุ่นและเด็กวิศวะฯ จอมตื๊อหน้ามึนลึก ๆ แล้วฟ้าใสเองก็อดรู้สึกแปลก ๆ ก

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status