Share

เพื่อนใหม่ ห้องเรียนใหม่

เด็กทั้งสามคนขึ้นรถเมล์กลับบ้านด้วยความตื่นเต้น        พวกเขายังคุยกันถึงเรื่องผลสอบมาตลอดทางจนรถเมล์หยุดลงหน้าบ้านฝั่งของครีม

ครีมเป็นคนแรกที่กระโดดลงจากรถ ก่อนจะหันกลับไปมองฟ้าใสกับม่านเมฆที่เดินตามลงมา

“แกว่าป๊าฉันจะดีใจจนให้รางวัลเพิ่มไหม”

ฟ้าใสหัวเราะ “ป๊าแกก็ฉลองให้แล้วไง ยังจะหวังของขวัญเพิ่มอีกเหรอ?”

ครีมยักไหล่ “เผื่อฟลุ๊กไง เฮ้อ! เฮียครามกลับบ้านรึยังนะ?” เธอพูดพลางชะเง้อมองเข้าไปด้านในบ้าน

ม่านเมฆเองก็มีสีหน้าคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะถามขึ้นมาอีกเพื่อยืนยัน “เฮียครามเล่นดนตรีเก่งมากจริง ๆ เหรอ?”

“แน่นอน!” ครีมตอบทันที “แกไม่เชื่อเหรอ? เดี๋ยวเย็นนี้พอเขากลับมาฉันจะให้เฮียโชว์ให้ดูเลย”

“เอาจริงเหรอ?” ฟ้าใสหัวเราะ “งั้นฉันก็อยากฟังเหมือนกัน”

“แน่นอน! แกต้องได้ฟังอยู่แล้ว” ครีมพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “เฮียฉันไม่ใช่เล่น ๆ นะ เขาเคยไปประกวดด้วย แต่เขาแค่ไม่เคยพูดให้ใครฟังหากว่าฉันไม่เห็นรูปก็คงไม่รู้หรอก”

ม่านเมฆเริ่มสนใจขึ้นมาทันที “แล้วถ้าผมอยากลองเรียนบ้างล่ะเฮียครามของเจ้จะสอนผมไหม”

ครีมยิ้มกว้าง “ก็บอกเฮียไปตามตรงสิ เฮียครามน่ะ แม้ว่าจะดูนิ่ง ๆ แต่ความจริงแล้วเป็นคนใจดีมาก”

“อือ” ม่านเมฆพยักหน้ารับอย่างครุ่นคิด

หลังจากนั้นทั้งสามคนเดินแยกย้ายกัน ครีมเข้าบ้านไปก่อน ส่วนฟ้าใสกับม่านเมฆเดินข้ามถนนกลับไปบ้านของตัวเอง

ทันทีที่ทั้งสองเปิดประตูเข้ามา แม่ของพวกเขาก็เดินออกมาจากครัวพร้อมรอยยิ้ม

“กลับมาแล้วเหรอลูก?”

“ค่ะ/ครับ” พวกเขาตอบพร้อมกัน

แม่เดินเข้ามาลูบศีรษะทั้งสองคน “เหนื่อยไหมลูก วันนี้เป็นยังไงบ้าง?”

ฟ้าใสรีบเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “แม่คะ! หนูติดอันดับสาม ม่านเมฆติดอันดับหกค่ะ!”

“จริงเหรอ!?” แม่ของเธอเบิกตากว้างอย่างดีใจ ก่อนจะหันไปบอกพ่อที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่

“ป๊าฟังสิ ลูกเราสอบได้อันดับดีมากเลยนะ!”

พ่อเงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์ทันที สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความภูมิใจ

“เก่งมากลูก ป๊าภูมิใจในตัวลูกสองคนมากเลย”

ม่านเมฆเผยรอยยิ้มบางออกมา “ขอบคุณครับ”

“ดีแล้วลูก” แม่ยิ้มให้ก่อนจะถามต่อ “แล้วพวกหนูอยากฉลองกันไหม?”

ฟ้าใสรีบพยักหน้า “ค่ะ! วันนี้ทางบ้านครีมเขาจะไปฉลองกัน แล้วเชิญพวกเราไปด้วย”

พ่อกับแม่หันมามองหน้ากันก่อนที่พ่อจะพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปด้วยกันเถอะ”

“เยี่ยมเลยค่ะ”

ม่านเมฆที่ยืนเงียบอยู่นานเอ่ยขึ้นหลังจากตัดสินใจบางอย่าง “แม่ครับ... ผมมีอีกเรื่องอยากบอก”

แม่หันไปมองลูกชาย “ว่าไงจ๊ะ?”

ม่านเมฆสูดหายใจเข้าปอดลึกก่อนจะพูดออกมา “ผมอยากลองเรียนกีตาร์ครับ”

แม่กะพริบตาอย่างแปลกใจ “กีตาร์เหรอลูก?”

พ่อเองก็วางหนังสือพิมพ์ลง “ทำไมถึงอยากเรียนล่ะ?”

ม่านเมฆอธิบายเสียงหนัก “ผมคิดว่าดนตรีเป็นสิ่งที่ดี แล้วเจ้ครีมก็บอกว่าเฮียครามเล่นเก่งมาก ผมอยากลองดูบ้างก็เลยจะลองไปขอร้องให้เฮียครามสอน”

แม่ยิ้มออกมา “ดีแล้วลูก ถ้าเป็นสิ่งที่ม่านเมฆสนใจจริง ๆ แม่สนับสนุนนะ”

“ป๊าก็เห็นด้วย” พ่อพูดเสริม “แต่อย่าลืมว่าเรื่องเรียนก็ต้องตั้งใจเหมือนกัน”

ม่านเมฆพยักหน้ายิ้มกว้างออกมา “ครับ ผมจะตั้งใจ”

ฟ้าใสยิ้มให้กับน้องชาย เธอรู้ดีว่าม่านเมฆเป็นคนที่มีความตั้งใจจริงและถ้าเขาอยากทำอะไรเขาจะทำมันให้ดีที่สุด

และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของการเดินตามความฝันของม่านเมฆ และการฉลองที่เต็มไปด้วยความสุขของทุกคน

บรรยากาศของการฉลองเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสุข ทุกคนในครอบครัวของฟ้าใสและครีมต่างพากันมานั่งร่วมโต๊ะกันที่ร้านอาหารจีนชื่อดังในละแวกบ้าน

โต๊ะไม้ตัวยาวถูกจัดเตรียมไว้เต็มไปด้วยอาหารหลากหลายเมนู กลิ่นหอมของเป็ดปักกิ่ง ข้าวผัดกุนเชียง และต้มยำทะเลลอยอบอวลไปทั่ว

ครีมเป็นคนแรกที่ยกแก้วน้ำขึ้นมา “เอ้า! ฉลองให้พวกเราสามคนหน่อย!”

ฟ้าใสกับม่านเมฆหัวเราะก่อนจะยกแก้วขึ้นชนกันเบา ๆ พ่อแม่ของพวกเขาต่างยิ้มมองลูกด้วยความภูมิใจ

“เฮียคราม ไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?” ครีมหันไปแซวพี่ชายที่นั่งเงียบอยู่ข้างตน

ครามที่กำลังตักอาหารเข้าปากหยุดชะงัก เขาเหลือบตามองครีมก่อนจะถอนหายใจ

“ฉันก็ยินดีด้วย”

“โหย เฮียพูดแค่นี้เองเหรอ?” ครีมทำหน้าบึ้ง

ฟ้าใสกับม่านเมฆแอบหัวเราะ ขณะที่พ่อของครีมตบบ่าลูกชายเบา ๆ “เอาน่า น้อง ๆ เขาดีใจแค่ไหนที่เฮียอยู่ฉลองด้วย”

ครามพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบแต่จริงใจ “ยินดีด้วยที่พวกเธอทำได้ดี ฉันรู้ว่าพวกเธอพยายามกันมาก”

ครีมหัวเราะเสียงใส “ต้องแบบนี้สิ”

หลังจากทานอาหารเสร็จทุกคนยังคงนั่งพูดคุยกันด้วยท่าทางสบาย เฮียครามที่เพิ่งรู้ว่าม่านเมฆสนใจเรียนกีตาร์ก็หันมามองเด็กชายวัยสิบหกก่อนจะถามออกมา

“นายสนใจดนตรีจริงเหรอ?”

ม่านเมฆพยักหน้า “ครับ ผมคิดว่ามันน่าสนใจ”

ครามเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ “ถ้างั้น ไว้ฉันจะสอนพื้นฐานให้นายก่อน แล้วถ้านายสนใจจริง ๆ ก็ลองไปลงเรียนที่สถาบันดนตรีดู”

ม่านเมฆตาเป็นประกาย “จริงเหรอครับ!?”

“อืม แต่ฉันขอบอกเอาไว้ก่อนนะว่ามันไม่ง่าย”

ม่านเมฆยิ้มกว้าง “ผมรู้ครับ แต่ผมจะตั้งใจ”

แม่ของฟ้าใสพูดพลางหัวเราะ “ครามก็คงต้องช่วยดูแลน้องด้วยนะ”

ครามพยักหน้า “ครับ”

คืนนั้นหลังจากกลับถึงบ้าน ม่านเมฆเริ่มวางแผนเกี่ยวกับการเรียนกีตาร์ของตัวเอง เขาตั้งใจจะฝึกให้จริงจัง                     ส่วนฟ้าใสเองก็ตัดสินใจจะลองวาดภาพขายดู แม้จะยังไม่มั่นใจนักแต่เธอก็อยากลองทำตามสิ่งที่ตัวเองรัก

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดวันเปิดเรียนเทอมแรกก็มาถึง บรรยากาศในโรงเรียนเต็มไปด้วยความคึกคักหลังจากผ่านช่วงสอบมาได้ นักเรียนหลายคนต่างพากันพูดคุยถึงแผนการในปีนี้และกิจกรรมที่รออยู่ข้างหน้า

ฟ้าใส ครีม และม่านเมฆเดินไปตามระเบียงโรงเรียนด้วยความรู้สึกผ่อนคลายหลังจากที่พวกเขาทุ่มเทกับการสอบจนผ่านพ้นมาได้

หลังจากทุกคนเข้าห้องได้สิ่งที่รออยู่ก็คือเพื่อนใหม่แปลกหน้าหลายคน ซึ่งอาจจะมีบางคนที่มาจากโรงเรียนเดียวกันหรือบางคนที่เคยเรียนอยู่ในโรงเรียนนี้มาก่อนเมื่อตอน ม.ต้น แต่ทว่าหลังจากวันนี้ไปพวกเขาจะต้องทำความรู้จักกันใหม่

เสียงกริ่งแรกของวันเปิดเรียนดังขึ้น ก่อนที่จะมีครูประจำชั้นเดินเข้ามา ครูของห้องม.4/1 เป็นครูผู้หญิงอายุประมาณ 30 ปี

“สวัสดีนักเรียนทุกคน ครูชื่อวารี อมรกุล ต่อไปนี้จะเป็นครูที่ปรึกษาของพวกเธอตลอดระยะเวลาสามปีนี้ หวังว่าทุกคนจะตั้งใจเรียนและอยู่ในระเบียบของโรงเรียนกันนะ” ผู้พูดเว้นจังหวะกวาดตามองนักเรียนในห้องศิลป์-ภาษาทีละคนราวกับพิจารณาเด็กที่อยู่ในความปกครองอย่างละเอียด

ก่อนที่เธอจะพูดต่อด้วยรอยยิ้ม “เอาละ ก่อนที่เราทุกคนจะเริ่มเรียนครูขอเรียกชื่อนักเรียนสามคนในนี้หน่อยนะคะ ชาลิตา ปาลิตา วชิรนัย ปาลิตา และคนสุดท้าย รินรดา เทวากร ทั้งสามคนนี้ยืนขึ้นหน่อยจ้ะ เธอทั้งสามเป็นนักเรียนที่สอบเข้าได้คะแนนดีมากอยู่ในสิบอันดับแรกหวังว่าทุกคนในห้องจะตั้งใจเรียนอย่างทั้งสามคนนะ”

จบคำพูดของครูที่ปรึกษา เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นจากทุกคนในห้องเรียนเนื่องจากพวกเขาแทบไม่อยากเชื่อว่านักเรียนที่ติดอยู่ในสิบอันดับแรกจะเลือกเรียนสายศิลป์แทนการเรียนสายวิทย์

เสียงฮือฮาจากทุกคนทำให้ฟ้าใส ครีม และม่านเมฆรู้สึกเขินเล็กน้อยแต่ก็ไม่สามารถหลบสายตาได้ พวกเขารู้สึกดีใจที่ได้รับการชมเชยจากครูประจำชั้น แต่ก็ไม่ค่อยชินกับการถูกพูดถึงต่อหน้าคนเยอะ ๆ แบบนี้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   ตอนพิเศษ พยานรักตัวน้อย ๆ

    หลายปีผ่านไป... หลังจากครามเรียนจบวิศวกรรมศาสตร์และเริ่มต้นชีวิตการทำงานในฐานะวิศวกรหนุ่มอนาคตไกล เขาทุ่มเทให้กับงานในบริษัทชั้นนำแห่งหนึ่งแต่หัวใจของเขาก็ไม่เคยห่างจากจังหวัดบ้านเกิด และที่สำคัญที่สุดคือผู้หญิงที่เขามอบเกียร์และหัวใจให้ไปนานแล้วทางด้านฟ้าใสเธอก็ก้าวเข้าสู่ช่วงปีสุดท้ายของการเรียนในคณะศิลปกรรมฯ ชีวิตที่เคยพลิกผันเพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝัน บัดนี้เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น ป๊าของเธอกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้สำเร็จแม้การเดินจะยังไม่กลับมาเป็นปกติร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนเดิมแต่ด้วยกำลังใจที่ดีและการทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอท่านก็สามารถกลับมาเดินเหินได้คล่องแคล่วขึ้นมาก อีกทั้งยังเข้ามาช่วยดูแลร้านสุกี้ในส่วนที่ไม่ต้องออกแรงมากได้ด้วย รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่เคยจางหายไปนานกลับมาสู่ครอบครัวของเธออีกครั้งกิจการร้านขนมและร้านสุกี้ก็ดำเนินต่อไปได้ด้วยดีโดยมีฟ้าใสและคุณแม่เป็นหัวเรือใหญ่ และแน่นอนว่ามีครามคอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังเสมอในยามที่เธอต้องการ ระยะทางและตารางเวลาที่แตกต่างไม่ได้ทำให้ความรักของครามและฟ้าใสลดน

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   รักของเราคือรสช็อกโกแลต

    หลายเดือนผ่านไป... วันเวลาหมุนเวียนจากเทอมแรกเข้าสู่เทอมที่สองของปีการศึกษา กลิ่นอายของวันวาเลนไทน์เริ่มอบอวลไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย สติ๊กเกอร์รูปหัวใจและดอกกุหลาบมีให้เห็นตามมุมต่าง ๆชีวิตของฟ้าใสเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น แม้จะยังคงวุ่นวายและเหน็ดเหนื่อยเป็นสองเท่าของนักศึกษาทั่วไป เธอกลับไปเรียนตามปกติพยายามตามงานที่ขาดไปในช่วงแรกอย่างสุดกำลังพ่อของเธอกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้แล้วแต่อาการบาดเจ็บที่ขายังคงต้องทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาระการดูแลร้านทั้งสองแห่งยังคงตกอยู่ที่เธอกับแม่เป็นหลัก แต่เธอก็เริ่มปรับตัวและจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้คล่องแคล่วขึ้นรวมถึงความสัมพันธ์กับครามก็ยังคงดำเนินไปในรูปแบบเดิม... เขาคือพี่ชายตรงข้ามบ้านที่แสนดี สารถีคนสำคัญ และผู้ช่วยจำเป็นในทุกสถานการณ์ ความช่วยเหลือของเขาทำให้เธอผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้บ่ายของวันวาเลนไทน์หลังเลิกคลาส ฟ้าใสตั้งใจจะเอาขนมเค้กช็อกโกแลตที่เธอหัดทำเมื่อคืนไปให้ครามลองชิม และถือโอกาสขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่เขาช่วยม

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   การเติบโตชั่วข้ามคืนของฟ้าใส (2)

    "ลูกอยู่นี่เอง แม่ก็รอว่าจะมาพร้อมลูกแต่ก็ดีแล้วละที่ลูกอยู่ตรงนี้" กิมลั้งพูดกับลูกชายหลังเห็นว่าเขาคอยอยู่เป็นเพื่อนฟ้าใสกับแม่พลางทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ ลลิตาที่ยังคงมีดวงตาแดงก่ำ"ลิตา เฮียหลงเป็นยังไงบ้าง" เธอหันไปถามเพื่อนบ้านด้วยความเป็นห่วงโดยจับมือลลิตาไว้แน่นลลิตาสูดหายใจลึก พยายามกลั้นน้ำตาที่รื้นขึ้นมาอีกครั้ง "เพิ่งจะย้ายเข้าไอซียูเมื่อกี๊นี้เองลั้ง... หมอบอกว่ากระดูกหักหลายที่ เสียเลือดมาก... ยังต้องรอดูอาการใกล้ชิด..." เสียงเธอสั่นเครือในตอนท้าย"โถ... ไม่เป็นไรนะลิตา ไม่เป็นไร" กิมลั้งบีบมือเพื่อนแน่นขึ้น "ปลอดภัยแล้ว ถือว่าพ้นขีดอันตรายระดับนึงแล้วนะ เดี๋ยวก็ดีขึ้น ต้องเชื่อมั่นในตัวหมอ แล้วก็บุญกุศลที่อาหลงเขาทำมาเยอะแยะนะเพื่อนนะ" เธอกล่าวปลอบใจอย่างจริงใจ"มีอะไรให้ฉันสองคนช่วยบอกได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ พวกเราก็เหมือนครอบครัวเดียวกัน""ขอบใจมากนะลั้ง..." ลลิตาพยักหน้ารับทั้งน้ำตาครามมองภาพผู้ใหญ่ให้กำลังใจกัน ก่อนจะหันไปพูดเรื่องที่จำเป็น "ป๊า ม๊า เดี๋ยวผมว่าจะพาฟ้าใสไปดูร้านที่ตลาดโต้รุ่งก่อน แล้วก็อาจจะแวะไปดูร้านสุกี้ด้ว

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   การเติบโตชั่วข้ามคืนของฟ้าใส (1)

    ทุกวินาทีที่ผ่านไปหน้าห้องผ่าตัดคล้ายเป็นการทรมานสำหรับคนรอคอย ฟ้าใสยังคงกอดแม่ไว้แน่นมีเพียงเสียงสะอื้นแผ่วเบาเป็นระยะขณะที่ผู้เป็นแม่ก็ได้แต่ลูบหลังปลอบลูกสาว ดวงตาจับจ้องบานประตูห้องผ่าตัดด้วยใจที่ร้อนรน ครามยังคงยืนอยู่ไม่ห่าง คอยเป็นหลักให้สองแม่ลูกอย่างเงียบงันตามเดิมบรรยากาศระหว่างพวกเขาเต็มไปด้วยความตึงเครียดและคำภาวนาในใจทันใดนั้นเสียงเรียกเข้าเฉพาะตัวของเครื่องพีซีทีในกระเป๋ากางเกงยีนส์ของครามก็ดังขึ้นทำลายความเงียบงันแสนหนักอึ้งนั้นลง ครามขมวดคิ้วและเมื่อเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามาเจ้าตัวก็รู้แล้วว่าทางนั้นคงจะร้อนใจไม่ต่างกัน"เฮีย! ป๊าของฟ้าใสเป็นยังไงบ้าง" เสียงครีมน้องสาวของเขาดังลอดออกมาทันทีที่เขากดรับสาย น้ำเสียงสั่นเครือและเต็มไปด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด"แม่เพิ่งโทรมาบอกว่าคุณอาโดนรถชน! ท่านเป็นอะไรมากไหมเฮีย? ครีมเป็นห่วงมากเลย!" ความสนิทสนมระหว่างครอบครัวทำให้ครีมรู้สึกผูกพันและตกใจกับข่าวร้ายไม่น้อย"ใจเย็น ๆ ก่อนครีม" ครามตอบกลับพยายามใช้เสียงที่สงบและมั่นคงที่สุดเพื่อไม่ให้น้องสาวที่อยู่ไกลถึงเมืองหลวงต้องตื่นตระหนกไปมากกว่า

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   เคียงข้าง

    ครามวิ่งมาถึงบริเวณที่จัดกิจกรรมของคณะศิลปกรรมศาสตร์อย่างรวดเร็ว เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายบนขมับและข้างแก้ม ดวงตาคมกวาดมองหากลุ่มเพื่อนของฟ้าใสที่พอจะคุ้นหน้าอยู่บ้างท่ามกลางความวุ่นวายจนกระทั่งไปสะดุดตากับกลุ่มนักศึกษาปีสองในชุดคณะที่กำลังยืนจับกลุ่มคุยกันอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ฟ้าใสเคยยืนอยู่ก่อนหน้านี้ เขาจำได้ว่าหนึ่งในนั้นคือเพื่อนสนิทของเธอเขารีบก้าวเท้าเข้าไปหาทันที ลมหายใจหอบเล็กน้อย "น้องครับ....พี่มาหาฟ้าใส" เขาถามออกไปน้ำเสียงเคร่งเครียดและแฝงความกังวลอย่างปิดไม่มิด"เห็นฟ้าใสไหมครับ?"เพื่อน ๆ ของฟ้าใสกลุ่มนั้นหันมามองรุ่นพี่ต่างคณะอย่างแปลกใจระคนสงสัย ปกติไม่ค่อยเห็นเฮียครามคนดังของวิศวะฯ มาทำหน้าตาตื่นแถวนี้เท่าไหร่นัก ก่อนที่เพื่อนคนที่สนิทกับฟ้าใสที่สุดจะรีบตอบ"พี่คราม..." เธอทำหน้างง ๆ เล็กน้อยเรียกชื่อของเขาออกมา "เมื่อกี้ฟ้าใสมันบอกว่าเพจเจอร์เข้า ขอตัวไปโทรศัพท์ค่ะ เห็นวิ่งหน้าตาตื่นไปทางตู้โทรศัพท์ตรงโถงทางเดินนู้นแน่ะค่ะ" หญิงสาวชี้นิ้วไปยังทางเดินด้านในตัวอาคารที่ค่อนข้างเงียบกว่าบริเวณลานกิจกรรม"ไปได้สักพักแล้ว..ยังไม่เห็

  • รักของเราคือรสช็อกโกแลต (วัยรุ่นวัยฝันยุค 90)   ห่วง

    เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากปีหนึ่งเทอมแรกกิจกรรมรับน้อง การเรียน การสอบ วนเวียนจนกระทั่งทุกอย่างผ่านพ้นไปหนึ่งปีการศึกษาเต็ม ๆความสัมพันธ์ระหว่างครามและฟ้าใสยังคงดำเนินไปในรูปแบบของเพื่อนบ้านและพี่ชายที่แสนดีอย่างที่หลายคนเห็นครามยังคงวนเวียนเข้ามาช่วยเหลือฟ้าใสอยู่เสมอ ทั้งเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน อย่างการช่วยถือของ ซื้อขนมมาฝากหรือแม้แต่ช่วยดูเรื่องความปลอดภัยตอนเธอกลับบ้านดึก ๆและบางครั้งก็รวมถึงเรื่องที่มหาวิทยาลัย ทำให้เธอกับเขายิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้นโดยปริยายตามประสาคนที่บ้านอยู่ตรงข้ามกันส่วนขุนเขา...เขาก็ยังคงเป็นขุนเขาคนเดิม ไม่เคยถอดใจจากเป้าหมาย แม้จะไม่ได้ทุ่มเทเข้าหาฟ้าใสอย่างหนักหน่วงเหมือนช่วงแรกที่เจอกัน แต่ก็ยังคงหาโอกาสเข้ามาทักทาย ชวนคุยหรือทำตัวเป็นเพื่อนจอมกวนให้เธอได้เห็นหน้าอยู่เสมอส่งผลให้ฟ้าใสถูกเพื่อนสนิทในกลุ่มศิลปกรรมฯ แซวจนหูชาทั้งเรื่องพี่ชายข้างบ้านสุดอบอุ่นและเด็กวิศวะฯ จอมตื๊อหน้ามึนลึก ๆ แล้วฟ้าใสเองก็อดรู้สึกแปลก ๆ ก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status