แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: ในน้ำมีปลา
เจียงเฉินหานขอหย่า ตามปกติแล้วเซ่าเยว่จะออกไปข้างนอกก่อนสักพัก แล้วก็จะกลับมาอย่างว่าง่าย จากนั้นก็คอยประจบเอาใจเขายิ่งกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า

ที่ผ่านมาไม่เคยมีครั้งไหนที่เป็นข้อยกเว้น

แน่นอนว่าครั้งนี้ก็เช่นกัน

วันนี้ออกไปอย่างกระตือรือร้น คงเป็นเพราะเสียลูกในท้องไปแล้ว

ส่วนเรื่องลูก...

ในดวงตาของเจียงเฉินหานฉายแววรังเกียจสุดขีด เซ่าเยว่ไม่คู่ควรที่จะให้กำเนิดลูกของเขาสักนิด การที่เธอตั้งท้องได้ ก็เป็นแค่เรื่องบังเอิญล้วน ๆ

ตอนนี้ไม่มีลูกแล้ว แบบนี้แหละดีที่สุด

......

การหย่าร้างมีค่าชดเชย 250 ล้านบาท

บัตรธนาคารกับสัญญาหย่าวางไว้ด้วยกัน

ถ้าเซ่าเยว่เซ็นชื่อเมื่อสามปีก่อน ก็ไม่ต้องเสียอะไรเลย สามารถครอบครองเงินก้อนนั้นได้เลย

แต่สามปีที่เธอเพ้อฝันนั้น ไม่เพียงแต่ทำให้เธอหมดสิ้นทั้งแรงกายแรงใจ แม้แต่ความสามารถในการมีลูกก็ได้รับผลกระทบไปด้วย

ช่างเถอะ

มัวคิดว่าเสียใจทีหลังไหม ก็เป็นเพียงความขัดแย้งในใจที่ไร้ประโยชน์ ซึ่งทำให้มองไม่เห็นความหวัง ชีวิตนั้นควรมองไปข้างหน้า

และการมีเงินย่อมดีกว่าไม่มีเสมอ

เซ่าเยว่พกบัตรธนาคารออกไป เรียกแท็กซี่กลางดึก สุดท้ายรถก็หยุดที่หน้าประตูหมู่บ้านเฟอรี่เลขที่ 1

นี่คือโครงการหรูที่ราคาขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 1.5 ล้านต่อตารางเมตร

เพนท์เฮาส์ขนาดใหญ่ มีลิฟต์หนึ่งตัวสำหรับสองบ้าน

มีห้องหนึ่งที่เป็นชื่อของเซ่าเยว่

บ้านหลังนี้เป็นของน้าคนเล็กของเธอ หลังจากแม่เกิดเรื่อง น้าเล็กก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศและทิ้งบ้านหลังนี้ไว้ให้เธอ

เซ่าเยว่เคยคิดว่าจะไม่มีวันได้ใช้มัน แต่ชีวิตมักไม่แน่นอน ตอนนี้หย่าแล้ว มีที่ให้ไปแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน

อาคารเลขที่ 7 ชั้นบนสุด ห้องหมายเลข 1

เซ่าเยว่ลากกระเป๋าเดินทางเข้าไป

ตอนบ่ายได้ติดต่อแม่บ้านให้มาทำความสะอาดล่วงหน้าแล้ว พอมองเข้าไปในห้องก็สะอาดมาก แต่บ้านขนาดเกือบ 300 ตารางเมตร กลับดูโล่งโปร่งมาก

ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่ต้องอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ เซ่าเยว่คงรู้สึกเปล่าเปลี่ยวมาก

แต่พอทนกับความเย็นชาของเจียงเฉินหานมาถึงสามปี ตอนนี้เธอไม่กลัวอะไรอีกแล้ว ในใจกลับรู้สึกถึงความสงบที่ไม่เคยมีมาก่อน

เซ่าเยว่รู้สึกผ่อนคลาย แต่ก็เหนื่อยล้าสุด ๆ หลังจากล้างหน้าแปรงฟันอย่างรวดเร็วแล้ว เธอก็ล้มตัวลงนอนและหลับไปทันที

“ติ๊ด ๆ”

พอหกโมงเช้า ก็ถูกเสียงนาฬิกาปลุกที่คุ้นเคยปลุกให้ตื่น

ชื่อนาฬิกาปลุกคือ ต้องทำอาหารเช้าให้สามีแล้วนะ

เซ่าเยว่ตื่นเต็มตาในทันที

ปกติเจียงเฉินหานจะกินอาหารเช้าเวลาแปดโมง แต่เขาเป็นคนเลือกกิน ไม่กินอะไรง่าย ๆ ดังนั้นอาหารเช้าจึงต้องใช้เวลาทำประมาณหนึ่งถึงสองชั่วโมง

ถ้าวันก่อนหน้าเขาไปสังสรรค์จนดึกดื่น เซ่าเยว่ก็ต้องดูแลจนเขาเข้านอน กว่าจะนอนก็ตีสองตีสามแล้ว วันต่อมาก็ยังต้องตื่นเช้าเหมือนเดิม

บางครั้งทำแล้ว เจียงเฉินหานก็ไม่แน่ว่าจะกิน อาหารเช้าที่จัดเต็มทั้งโต๊ะ ก็ถูกทิ้งลงถังขยะทั้งหมด

แต่ตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องตื่นเช้าอีกแล้ว

ยิ่งไม่ต้องกังวลเลยว่า ความเหน็ดเหนื่อยของตนเองจะถูกทำให้เสียเปล่า

เซ่าเยว่ลบนาฬิกาปลุกอาหารเช้าทิ้ง สวมผ้าปิดตาแล้วนอนต่อ

เธอนึกว่าตัวเองจะนอนไม่หลับ

แต่กลับหลับไปอย่างรวดเร็ว

……

แปดโมงเช้า เจียงเฉินหานลืมตาขึ้น พร้อมกับอาการปวดหัวรุนแรง

เขามีนิสัยที่ถ้าดื่มเยอะแล้วไม่กินยาแก้เมาค้าง วันรุ่งขึ้นจะปวดหัว เมื่อคืนเหนื่อยมากเกินไป เลยลืมดื่มซุปแก้เมาค้าง

ให้ตายเถอะ

แต่บนโต๊ะหัวเตียง มีแก้วน้ำที่มีไอร้อนวางอยู่

ออกไปอย่างเด็ดเดี่ยวซะขนาดนั้น

ก็กลับมาอยู่ดีไม่ใช่เหรอ?

หลังจากเจียงเฉินหานดื่มน้ำอุ่นแก้วนี้ อาการปวดหัวก็ทุเลาลงบ้าง จากนั้นเขาก็ส่งข้อความหากู้อี้ชวนว่า [ฉันชนะแล้ว]

กู้อี้ชวนทั้งอึ้งทั้งนับถือ [เซ่าเยว่จะใจแข็งสักครั้งไม่ได้เลยหรือไง? ตามใจเธอจนไม่มีขอบเขตมากขึ้นทุกทีแล้ว!]

เขาหอนเหมือนหมา [แพ้แบบนี้มันเจ็บใจจริง ๆ บรู๊ววว]

[บ้าเอ๊ย ยิ่งคิดก็ยิ่งหัวร้อน! พี่เจียงรีบแนะนำสาวที่รักฉันแบบหมดใจให้สักคนทีเถอะ ขอร้องล่ะ ให้ฉันได้ลิ้มรสความโชคดีแบบนายบ้าง~~]

เจียงเฉินหานกระตุกมุมปากเล็กน้อย [อย่าทะลึ่ง]

แล้วก็โยนโทรศัพท์ทิ้ง ลุกขึ้นไปล้างหน้าแปรงฟัน

หลังจากลงมาแล้ว กลับไม่เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยกำลังยุ่งอยู่

“คนล่ะ?” เขาตะโกนเรียกอย่างเย็นชา

ป้าหลี่ถืออาหารเช้าออกมาจากครัว “คุณผู้ชาย ตื่นแล้วเหรอคะ อาหารเช้าเสร็จแล้วค่ะ!”

เจียงเฉินหานขมวดคิ้ว “ทำไมเป็นป้า?”

“ใช่ค่ะ ป้าเอง”

“น้ำแก้วนั้นป้าก็เป็นคนเทเหรอ?”

ป้าหลี่พยักหน้า “เมื่อคืนคุณนายบอกป้าไว้ว่าวันนี้เธอไม่อยู่ค่ะ ให้ป้ามาเช้าหน่อย”

เจียงเฉินหาน “...”

เห็นสีหน้าเขาไม่ดี ป้าหลี่ก็ตื่นตระหนกเล็กน้อย “คุณผู้ชาย ทานอาหารเช้าก่อนดีไหมคะ...”

เจียงเฉินหานยืนนิ่งอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง ถึงจะไปกินมื้อเช้าด้วยสีหน้าบึ้งตึง

ปรากฏว่าบนโต๊ะอาหารมีเพียงนมหนึ่งแก้ว ขนมปังสองแผ่น ไข่ดาวหนึ่งฟอง และชีสกล่องเล็กหนึ่งกล่องเท่านั้น...

ปกติแล้ว เซ่าเยว่จะทำอาหารเช้าสไตล์กวางตุ้งให้เขา มีติ่มซำหลากหลายถึงเจ็ดแปดอย่าง หน้าตาน่ากิน จัดเต็มสุด ๆ และไม่เคยซ้ำกันเลยในแต่ละวัน

เมื่อเทียบกันแล้ว ต่างกันอย่างน่าใจหาย

ไฟโกรธที่เพิ่งสงบลงไป ก็ลุกโชนขึ้นมาใหม่อีกครั้งทันที

เจียงเฉินหานถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ป้าทำให้ผมกินแค่นี้งั้นเหรอ?”

ป้าหลี่ขนลุกซู่เมื่อถูกถามแบบนั้น “...ขอ...ขออภัยค่ะคุณผู้ชาย! คุณนายทำอาหารเช้าให้คุณมาโดยตลอด ป้าเลยไม่ทราบว่าคุณชอบแบบไหน”

“ไม่รู้ก็โทรไปถามสิ!”

ป้าหลี่พูดอย่างระมัดระวัง “โทรไปแล้วค่ะ แต่โทรไม่ติด...”

เจียงเฉินหาน “...”

ทำได้ดีนี่ เซ่าเยว่!

แต่เจียงเฉินหานไม่กังวลเลยสักนิด เพราะไม่ช้าก็เร็วเซ่าเยว่จะต้องกลับมา

อาจจะไปดักรอเขาที่บริษัทตอนเที่ยง

นี่คือกลยุทธ์ทางอ้อมที่เธอใช้เป็นประจำ

แต่เรื่องวุ่นวายนี้ทำให้เจียงเฉินหานหมดความอยากอาหารทันที จึงหันหลังเดินจากไป

“ปัง!”

แถมกระแทกปิดประตูอย่างแรง

ป้าหลี่ “?”

เป็นอะไรไปล่ะเนี่ย?

เธอรีบโทรหาเซ่าเยว่ โทรอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังโทรไม่ติด

ป้าหลี่รู้สึกสงสัยเล็กน้อย แต่พอคิดไปคิดมา ก็คาดว่าน่าจะเป็นเพราะคุณผู้ชายพูดเรื่องหย่าอีกแล้ว

แต่โดยปกติแล้ว เซ่าเยว่จะคอยติดต่อถามข่าวคราวของคุณผู้ชายจากเธอ และเมื่อเห็นโอกาสเหมาะก็จะรีบกลับบ้านทันที

นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ไม่รับโทรศัพท์

ป้าหลี่คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็เดาว่าเซ่าเยว่อาจจะเรียนรู้กลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อให้จับ โดยการออกจากบ้านนานขึ้น ให้คุณผู้ชายรู้สึกไม่ชินเมื่อไม่มีเธอ

ดีเลยทีเดียว!

เพราะยังไงทุกคนรู้ดีว่า ใจของเจียงเฉินหานแท้จริงแล้วไม่ได้อยู่กับเซ่าเยว่เลย

ยิ่งไปกว่านั้น เจียงเฉินหานเป็นผู้ชายระดับท็อป มีสิ่งยั่วยุมากมายข้างนอก ถ้าคุณนายไม่พยายามให้หนัก จะมัดใจเขาไว้ได้ยังไงล่ะ?

......

วันเสาร์เซ่าเยว่ไม่ต้องไปทำงาน จึงนอนหลับยาวจนถึงเที่ยง

เธอไม่มีเวลาไปซื้อของสด เลยสั่งอาหารดิลิเวอรีมื้อใหญ่จัดเต็มมาแทน

หลังกินเสร็จ เซ่าเยว่ก็เดินเล่นในงานสัมมนาเทคโนโลยีรอบหนึ่ง บางคนที่เคยคุ้นหน้าคุ้นตา กลายเป็นผู้นำในวงการไปแล้ว

แต่หาข้อมูลของอาจารย์ที่เคารพไม่เจอ

ถ้าเซ่าเยว่จำไม่ผิด อาจารย์กำลังยุ่งอยู่กับการทำวิจัย

สิ่งที่เซ่าเยว่จดจำได้ดีที่สุดคือสายตาที่อาจารย์มองเธอ เหมือนกับความอบอุ่นของแม่ในความทรงจำ

แต่ตัวเองกลับทำให้ท่านผิดหวัง...

เซ่าเยว่รู้สึกขอบตาร้อนกะทันหัน ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะโทรออกทันที

“เหยียนโย่ว เรามาเจอกันหน่อยเถอะ”

เฉิงเหยียนโย่วเป็นเพื่อนร่วมชั้นสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของเซ่าเยว่ เมื่อก่อนเขาจะดีใจมากเวลาที่ได้รับโทรศัพท์จากเธอ

แต่ตอนนี้อารมณ์ไม่ค่อยดีนัก

“นัดเธอสิบครั้ง เธอไม่มาตามนัดเก้าครั้ง ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นเพื่อนเธอ แต่ถ้าเธอยังทำแบบนี้ต่อไป ฉันก็ทนไม่ไหวหรอกนะ”

เฉิงเหยียนโย่วน้ำเสียงเย็นชา “เธอต้องคิดให้ดีนะว่า เธอแน่ใจที่จะเจอฉันไหม?”

หลังเซ่าเยว่แต่งงาน ก็กลับมาดูแลครอบครัว

ไม่ได้ตั้งใจจะละเลยความสัมพันธ์ แต่ก็ยังทอดทิ้งเพื่อนอยู่ดี

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เฉิงเหยียนโย่วทุ่มเทกับงานตลอด บริษัทเทคโนโลยีของเธอเริ่มฉายแววโดดเด่นในวงการแล้ว เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงเลยทีเดียว

เมื่อช่องว่างระหว่างเธอกับเพื่อนสนิทห่างไกลขึ้นเรื่อย ๆ เซ่าเยว่ก็ไม่มั่นใจ และยิ่งไม่ค่อยเป็นฝ่ายติดต่อไปก่อน

เซ่าเยว่สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะพูดออกมาช้า ๆ ว่า “ฉันหย่าแล้ว”

เฉิงเหยียนโย่วเงียบไปพักหนึ่ง พูดสั้น ๆ ตรงประเด็น “ที่ไหน กี่โมง”

......

เซ่าเยว่นำสัญญาหย่าไปยื่นขอหย่าที่ที่ทำการกิจการพลเรือน หลังจากผ่านช่วงทบทวนตัวเอง 30 วัน ก็สามารถดำเนินการขอใบหย่าได้แล้ว

จัดการธุระเสร็จแล้วยังไม่ถึงบ่ายสาม เซ่าเยว่เลยมาถึงร้านกาแฟที่นัดกับเฉิงเหยียนโย่วไว้ล่วงหน้า

เซ่าเยว่สั่งกาแฟมาหนึ่งแก้ว พอดื่มไปได้ครึ่งแก้ว เธอก็เผลอบีบแก้วกาแฟแน่นขึ้นทันที ร่างทั้งร่างแข็งทื่อ

เธอคิดไม่ถึงเลยว่า ผ่านไปยังไม่ถึงวัน ก็จะเจอเจียงเฉินหานซะแล้ว
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
T
ก็สมน้ำหน้าเซาเย่วนะ วิ่งตามผช.จนโดนเขาหยามขนาดนั้นแล้วยังทนให้เขาโขกสับเอง
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 417

    เซ่าเยว่จับไหล่เขาไว้ แล้วดึงตัวเขาขึ้นมาโจวซูไป๋เบือนหน้าหนี ไม่กล้ามองเธอ แตกต่างกับตอนเป็นหนุ่มโฮสต์ที่ใช้สายตายั่วยวนราวกับคนละคนตอนนี้หน้าบางไม่เบา ทั้งกลัวจะรบกวนคนอื่น เลยระมัดระวังตัว“ฉันเชื่อนาย ไปกับพวกเราเถอะ”สายตาของซางจื้อเหนียนตกอยู่บนมือที่เซ่าเยว่วางอยู่บนใหญ่โจวซูไป๋เขาเดินไป แล้วดึงมือของเซ่าเยว่ออกแล้วกวาดตามองโจวซูไป๋อย่างไม่ตั้งใจอีกครั้งเซ่าเยว่มองมือที่ถูกซางจื้อเหนียนดึงไว้ แล้วก็มองเขาเล็กน้อยครั้นชายหนุ่มรับรู้ถึงสายตาของเธอ เลยเลื่อนสายตามาเซ่าเยว่เห็นความไม่พอใจแสนราบเรียบในดวงตาของเขาทำไมเขาถึงได้เป็นปฏิปักษ์กับโจวซูไป๋อยู่นิด ๆ นะ?ถ้าให้พูดกันตามปกติแล้ว ประธานใหญ่ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ายังกระทบกระเทือนอารมณ์ของเขาไปด้วยเลยเกิดอะไรขึ้น?ซางจื้อเหนียนปล่อยมือของเซ่าเยว่โจวซูไป๋กลับถอยหลังไปด้วยความตกใจ เนื่องด้วยถนนกันดารยังไม่ได้ลาดยาง ทางก็ขรุขระไม่เรียบ ถึงกับล้มไปด้านหลังโดยไม่ทันระวัง ก้นกระแทกลงบนก้อนหินเล็ก ๆ เข้า มันเจ็บจนเขาถึงกับแยกเขี้ยว หน้ายับยู่ยี่ไปหมดโจวซูไป๋ไม่กล้าร้องออกมาก เลยได้แ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 416

    เซ่าเยว่เข้าใจความกังวลของซางจื้อเหนียน แต่เธอเชื่อโจวซูไป๋เพราะโจวซูไป๋มักจะโพสต์อินสตาแกรม คอยบันทึกเรื่องราวประจำวันในรั้วมหาวิทยาลัย แล้วก็วิ่งไปสัมภาษณ์ที่กองถ่ายอยู่บ่อย ๆเขายังถ่ายวล็อกว่าในวันหนึ่งทำอะไรบ้าง อาจเป็นเพราะต่อไปจะต้องเป็นนักแสดง เลยถ่ายทั้งที่ใส่แมสก์อยู่เสมอ แฟนคลับในโซเชียลมีเดียก็มีอยู่ไม่มากนักเป็นคนที่มีตัวตนอยู่จริง ๆแม้ว่าจะเคยเจอกันเพียงครั้งเดียว แต่กลับสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจได้เซ่าเยว่ยังไม่ทันพูดอะไร โจวซูไป๋ก็รีบพูดขึ้นว่า “ที่ผมพูดไปทุกอย่างเป็นความจริง ไม่ได้โกหกเลย...”ซางจื้อเหนียนมีสีหน้าไร้อารมณ์ “ทำไมนายถึงติดต่อเซ่าเยว่?”เซ่าเยว่เชื่อโจวซูไป๋ ซางจื้อเหนียนคอยเป็นด่านหน้าตรวจสอบให้แบบนี้ ก็ดีไม่น้อยแต่เธอคอยมองตาของโจวซูไป๋อยู่ตลอด สายตาของคนเรามันจะเผยข้อมูลต่าง ๆ มากมาย โจวซูไป๋ซื่อสัตย์ เขาไม่โกหกหรอกซางจื้อเหนียนเองก็ต้องมองออกอยู่แล้ว คนทึ่ม ๆ คนหนึ่งไม่มีทางกล้าพูดจาเดชต่อหน้าเขาหรอกทำไมต้องถามมากมายขนาดนี้ด้วย?บางทีวันนี้ซางจื้อเหนียนอาจจะค่อนข้างรอบคอบไปหน่อย?โจวซูไป๋หลบตา “...สถานการณ์มันคับขัน ผมก็เลยส่งไปให้พี

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 415

    เซ่าเยว่ปลอบ “ไม่ต้องกังวล ประธานซางไม่ถือสานายหรอก”ซางจื้อเหนียน “...”เซ่าเยว่ไม่สนใจเขา คอยห่วงใยความรู้สึกของโจวซูไป๋...ซางจื้อเหนียนกำมือเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัวคอยมองโจวซูไป๋ด้วยความเย็นเยียบโจวซูไป๋ไม่กล้าสบตากับซางจื้อเหนียน แต่ก็สัมผัสได้ถึงอันตราย ราวกับจะเขมือบใครสักคนเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น เขาเลยหลบไปข้าง ๆ โดยอัตโนมัติ “ไม่...ไม่ถือสาจริง ๆ เหรอ?”เซ่าเยว่มองออกว่าโจวซูไป๋กลัวซางจื้อเหนียนเอามาก ๆ นี่ค่อนข้างจะเป็นเรื่องปกติด้วยซ้ำไป ประธานใหญ่มีรังสีแข็งแกร่ง ทั้งทำให้คนคาดเดาความคิดไม่ออก การที่เจอกับเขาแล้วไม่กลัวต่างหากถึงจะพบเจอได้น้อยเซ่าเยว่มองซางจื้อเหนียนเล็กน้อย ให้เขาวางใจ เลิกจ้องเขม็งเด็กมหาวิทยาลัยคนหนึ่งได้แล้ว เจ้าตัวเครียดไปหมดแล้ว ซางจื้อเหนียน “...”เขาเม้มปากแน่นกว่าเดิมเขาไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ โจวซูไป๋จะทำตัวอ่อนปวกเปียกแบบนี้เพื่อ?แต่เซ่าเยว่ดันหลงกลนี้เซ่าเยว่เดินมาตรงหน้าโจวซูไป๋ มองเศษหญ้าบนหัวเขา เอ่ยถามถึงเรื่องราวให้ชัดเจนก่อน “นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”ครั้นโจวซูไป๋นึกถึงเรื่องที่ตนเองเจอแล้วก็ทั้งเซ็ง ทั้งโมโห

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 414

    จู่ ๆ ซางจื้อเหนียนก็รู้สึกตลกขึ้นมาเจียงเฉินหานคนเดียวก็จะเต็มกลืนอยู่แล้ว ทำไมถึงได้มีหนุ่มน้อยหน้าหล่อมาอีกคนเล่า?หรือว่าเซ่าเยว่จะเป็นเหมือนกับที่เซ่าสวินว่าไว้จริง ๆ ที่ชอบคนอายุน้อย?ไม่อย่างนั้นทำไมเซ่าเยว่ถึงได้คิดจะขับรถมาหาหมอนี่ทั้งที่ข้อความก็ไม่ชัดเจน ถึงขั้นที่คิดจะให้เขากลับไปก่อน แล้วจะมาคนเดียวด้วยซ้ำซางจื้อเหนียนประมูลข้อมูลนี้ในหัวอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ไม่แสดงสีหน้าอะไรทั้งสิ้น เขาจำได้ว่าคราวก่อนเคยเจอหน้ากันอยู่หนหนึ่งที่ผับ ไม่รู้จักกระทั่งชื่อด้วยซ้ำเซ่าเยว่ถึงกับมาเพื่อหมอนี่ ซางจื้อเหนียนต้องมองหมอนี่ให้ดีเสียแล้วกวาดสายตาล้ำลึกและคมกริบมองตัวโจวซูไป๋ตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่รอบหนึ่ง แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นายชื่ออะไร?” โจวซูไป๋ถูกมองสำรวจด้วยสายตาเย็นยะเยือกก็แข็งทื่อไปทั้งตัวในชั่วพริบตาตอนที่เขาได้ยินเสียของเซ่าเยว่นั้น หัวใจเต้นระรัวเพราะตื่นเต้นเกินไป ถึงขั้นที่แทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความซึ้งใจด้วยซ้ำ ทว่าตอนนี้กระทั่งใบหน้ายิ้มแย้มก็ยังไม่กล้าทำความประทับใจของโจวซูไป๋ที่มีต่อซางจื้อเหนียนนั้นลึกซึ้งเกินบรรยาย เงียบขรึม ไม่แสดงอารมณ์ เปี่ย

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 413

    ซางจื้อเหนียนยกข้ออ้างอย่างหนึ่งออกมาโดยไร้ช่องโหว่ “ผมได้ยินมั่วหนานหว่านบอกว่าคุณจะลาออก ทำไมไม่บอกผม?”ชั่วพริบตาเดียวเซ่าเยว่ก็หายตกอกตกใจแล้ว “มันไม่ทันน่ะสิคะ วันนั้นพอตื่นเช้ามาก็ไม่เจอคุณแล้ว”เธอพูดถึงเหตุผลที่ลาออก “มันเกี่ยวกับแผนทางหน้าที่การงานน่ะค่ะ ตั้งแต่วันนี้ไปฉันจะร่วมสร้างธุรกิจกับเฉิงเหยียนโย่ว เธอรอฉันมาสามปีแล้ว ตั้งแต่นี้ฉันจะร่วมสู้ฝ่าฟันไปกับเธอ”เพื่อนสาวทั้งสองคนเริ่มหาเงินและทำกิจการแล้วหลังจากเซ่าเยว่หย่า กำลังวังชาและเวลาของเธอล้วนโฟกัสอยู่กับตัวของเธอเอง จนดึงแพสชันกลับมาได้ เซ่าเยว่ยังมีหลายสิ่งที่อยากลอง ทั่วทั้งตัวเปี่ยมล้นไปด้วยพลังที่ใช้ไม่หมด เต็มเปี่ยมไปด้วยกำลังวังชา ความรู้สึกแบบนี้มันดีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนมันจริงอย่างที่คิดเลย ร่างกายกำลังบอกเธอว่า เธอไม่เหมาะกับเจียงเฉินหาน“ประธานซาง การได้อยู่ในบริษัทของคุณมาสามปีเต็มนี่ พอหันกลับไปมองแล้วมันก็วิเศษไม่เบานะคะ”ก็เหมือนอย่างที่เฉิงเหยียนโย่วพูด งานง่าย ๆ สบาย ๆ มีตั้งมากมายขนาดนั้น ทำไมเธอถึงได้เลิกบริษัทของซางจื้อเหนียน ไม่อย่างนั้นคงไม่มีเรื่องราวมากมายขนาดนี้ตามมาแน่ซางจื้อเ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 412

    เซ่าเยว่นึกไม่ถึงว่าจะได้ยินเรื่องซุบซิบเข้าทว่าพอรู้แล้วก็ไม่ได้แปลกใจ ซางจื้อเหนียนยอดเยี่ยมขนาดนี้ คนที่ชอบเขาต้องเยอะมากแน่นอนซางจื้อเหนียนมีท่าทางเย็นชาตอนที่พูดเรื่องนี้ ก็เท่ากับว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเฟิงเจียเพราะถ้าชอบ เฟิงเจียคงได้เป็นแฟนเขาไปแล้ว ไม่ใช่เธอ“ฉันมั่นใจนะว่าเจอเธอเป็นครั้งแรก แล้วเรื่องความสัมพันธ์รักหลอก ๆ ของพวกเราก็ไม่มีใครรู้ด้วย ทำไมเฟิงเจียถึงได้มองฉันเป็นศัตรูรุนแรงขนาดนั้น?”ซางจื้อเหนียน “บางทีเธออาจจะเคยเจอพวกเรามาก่อน”เซ่าเยว่คิดว่าก็ใช่ เพราะเฟิงเจียเรียกชื่อเธอออกมาแต่เฟิงเจียก็ช่างขี้หึงเกินไปจริง ๆ ถึงจะถูกเฟิงเจียเจอเข้าฝ่ายเดียวโดยบังเอิญ แต่ตอนอยู่ข้างนอกเธอกับซางจื้อเหนียนก็ไม่ได้มีท่าทางใกล้ชิดสนิทสนมอะไร แค่นี้ก็ต้องหึง แล้วก็มาต่อว่าเธอเนี่ยนะ?เธอไม่ใช่ประเด็นสำคัญสักหน่อยคนที่เฟิงเจียชอบคือซางจื้อเหนียน ก็ต้องดูท่าทีของซางจื้อเหนียนสิ การที่มาจับจ้องผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเขาเนี่ย มันให้ความสำคัญสลับกันแล้วรอบตัวซางจื้อเหนียนจะต้องไม่ได้มีผู้หญิงอย่างเธอคนเดียวแน่ พอมีใครเข้ามาสักหนึ่งคน เฟิงเจียก็ต้องจัดการหนึ่งคน ไม่เห

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status