Share

บทที่ 4

Author: ในน้ำมีปลา
เซ่าเยว่ไม่ได้เถียงกลับ มองรอยที่นิ้วนางที่ยังไม่จางไปในทันที “รอยนี่น่าเกลียดชะมัด น่าจะถอดออกตั้งนานแล้ว”

เฉิงเหยียนโย่วได้ยินที่เธอพูด ก็พอจะรู้ได้ว่ารอบนี้เซ่าเยว่เอาจริง

แม้จะยังรับประกันไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อยท่าทีตอนนี้ก็ดีกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และก็ไม่จำเป็นต้องประชดอะไรอีก แต่ก็ยังอดไม่ได้อยู่ดี

“ความรักของเธอ ยังสู้ข้าวมื้อหนึ่งของฉันไม่ได้เลย”

เซ่าเยว่ไม่ได้อธิบาย “งั้นไปกันเถอะ จะเลี้ยงเธอพอดี”

เฉิงเหยียนโย่วไม่ขยับ เลิกคิ้วมองเธอ “เวลาของฉันมีค่ามากนะ บอกมาก่อนว่าเธอมาหาฉันทำไมกันแน่ จะได้ดูว่าเธอคู่ควรให้ฉันเสียเวลามากินข้าวด้วยหรือเปล่า”

เซ่าเยว่ “...”

เธอเงียบไปครู่หนึ่ง “วิทยานิพนธ์ที่ฉันค้างเอาไว้ก่อนหน้านี้ กำลังเตรียมจะเขียนใหม่ จำเป็นต้องขอยืมห้องแล็บของเธอใช้เก็บข้อมูล”

การเปลี่ยนแปลงในวงการรวดเร็วมาก ต้องทำการปรับเปลี่ยนหลายอย่าง

เซ่าเยว่ไม่กล้าพูดตรง ๆ ทางโทรศัพท์ เพราะความรู้สึกผิดที่คอยกวนใจ

ด้วยนิสัยของเฉิงเหยียนโย่ว คงจะด่าเธอว่ามัวหายหัวไปไหนมาตั้งนาน ถ้าเธอไม่แต่งงาน วิทยานิพนธ์ก็คงจะได้เผยแพร่ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว

ดังคาด เฉิงเหยียนโย่วมองเธอด้วยสายตาเหมือนเห็นสิ่งแปลกประหลาด “เกิดนึกครึ้มอะไรขึ้นมา?”

เซ่าเยว่ “ฉันจริงจัง”

เฉิงเหยียนโย่วมองเธออย่างพินิจพิเคราะห์

เธออยู่ในวงการนี้มาโดยตลอด เมื่อไม่นานมานี้ งานวิจัยของไต้อวิ๋นหานจากมหาวิทยาลัยเอ ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากบรรดาบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ

แทบไม่มีใครรู้เลยว่า จุดท้าทายสำคัญของโปรเจกต์ที่เขากำลังทำอยู่ตอนนี้ เซ่าเยว่ทำสำเร็จตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนแล้ว

และลูจิ-เอ็กซ์ฉบับสมบูรณ์ ก็อยู่ที่บริษัทของเธอ

ในฐานะที่เซ่าเยว่เป็นผู้พัฒนาเพียงคนเดียวของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ลูจิ-เอ็กซ์ อุปสรรคมากมายที่เธอเคยฝ่าฟันมา แค่หยิบขึ้นมาสักข้อเดียว ก็สามารถทำให้ทั้งห้องแล็บถึงกับชะงักได้ เซ่าเยว่คืออัจฉริยะระดับท็อปที่สุดที่เฉิงเหยียนโย่วเคยเจอมา

แต่คนอัจฉริยะคนนี้เป็นพวกคลั่งรัก ไปแต่งงานก็พอว่า แต่ตอนนี้งานที่ทำกลับตกต่ำจนต้องเป็นแค่เลขาตัวเล็ก ๆ ที่คอยเสิร์ฟน้ำเสิร์ฟชาให้คนอื่น

ไม่ยอมทุ่มเทให้กับสายงาน ปล่อยให้พรสวรรค์สูญเปล่า เฉิงเหยียนโย่วไม่เข้าใจเลยจริง ๆ

“เธอหยุดไปสามปี เธอแน่ใจเหรอว่าวิทยานิพนธ์จะยังมีค่าอยู่?”

เซ่าเยว่ “ฉันจะปรับแก้บางส่วน รอให้อาจารย์ออกมา ยืนยันแนวทางการวิจัยกับท่าน ถ้าผ่านแล้วฉันจะทำต่อเลย”

เงื่อนไขคือ อาจารย์ต้องเต็มใจพบเธอก่อน

เฉิงเหยียนโย่ว “งั้นเธอก็คงต้องรออีกนาน อาจารย์อุทิศตนทำวิจัยเพื่อชาติ ช่วงนี้คงไม่ได้ออกมาง่าย ๆ หรอก”

เซ่าเยว่ “ฉันค่อย ๆ รอได้”

เมื่อไม่ยึดติดกับเรื่องที่เจียงเฉินหานจะรักเธออีกต่อไป สิ่งที่เธอมีมากที่สุดก็คือเวลา

เฉิงเหยียนโย่วยังอยากพูดอะไรอีก แต่เธอรู้ดีว่า ถึงแม้เซ่าเยว่จะไม่ได้อยู่ในวงการมาหลายปี แต่สิ่งที่เธอจะวิจัยนั้น ด้วยเทคนิคของตนแล้ว ไม่สามารถให้คำแนะนำอะไรเธอได้เลย

โลกของอัจฉริยะ มันสุดโต่งอยู่แล้ว

เฉิงเหยียนโย่วไม่โน้มน้าวอีก “ข้าวมื้อนี้ ฉันกินกับเธอได้”

เฉิงเหยียนโย่วปากแข็งแต่ใจอ่อน ภายนอกดูเหมือนจำใจ แต่จริง ๆ แล้วแค่แกล้งทำ ถ้าไม่กินด้วยก็คงไม่มาที่นี่เป็นเพื่อนเธอหรอก

เซ่าเยว่ยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า “ขอบคุณประธานเฉิงที่ให้เกียรติค่ะ”

......

กู้อี้ชวนพาแฟนสาวเน็ตไอดอลที่เพิ่งยืนยันความสัมพันธ์เมื่อชั่วโมงก่อนออกไปเดินชอปปิง แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะเจอคนรู้จัก

กำลังจะตามไป คนก็หายไปแล้ว

เขาเดินเข้าไปในร้านขายอัญมณีนั้น ปล่อยให้แฟนสาวเลือกของที่ชอบไปพลาง สอบถามกับพนักงานร้านไปพลาง

ฟังไปฟังมา ก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว

ไอ้สารเลวเจียงเฉินหานนี่ ถึงขั้นหลอกเขา!

ถ้าเซ่าเยว่กลับไปตามง้อแต่โดยดีตั้งแต่เช้าตรู่จริง จะยังขายแหวนแต่งงานได้อีกเหรอ?

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็หันไปนัดเพื่อนกลุ่มหนึ่งออกมา

ตอนกลางคืน ทุกคนกำลังดื่มกันอย่างสนุกสนาน

ในที่สุด เจียงเฉินหานก็โผล่มา

พอเห็นเขา กู้อี้ชวนก็แกล้งพูดเสียงดังขึ้นมา “พวกนายว่า จู่ ๆ เซ่าเยว่ก็ขายแหวนแต่งงานแบบนี้ นี่กำลังแสดงละครบทไหนอยู่นะ?”

ทุกครั้งที่ปาร์ตี้กัน ทุกคนก็มักจะหาเรื่องแซวเซ่าเยว่กันเป็นเรื่องสนุก ตอนแรกก็ยังกังวลว่าเจียงเฉินหานจะไม่พอใจอยู่หรอก

ถ้าเจียงเฉินหานขมวดคิ้วนิดเดียว ก็คงไม่มีใครกล้าพูดอะไรต่อ แต่ปรากฏว่าพวกเขาคิดมากกันไปเอง

เจียงเฉินหานไม่แคร์เลยสักนิด แม้แต่แซวกันต่อหน้าก็ยังไม่มีปัญหา

แต่วันนี้ยังไม่ทันที่ทุกคนจะได้พูดอะไร เจียงเฉินหานก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ “แสดงให้ฉันดูนี่แหละ”

ที่เซ่าเยว่พูดในร้านกาแฟ สวี่หลินเล่าให้เขาฟังหมดทุกอย่างแล้ว

เขาไม่แปลกใจเลยว่านั่นเป็นการแสร้งทำ

แต่เขาก็คิดเหมือนสวี่หลิน เซ่าเยว่คงโดนกระตุ้นถึงได้เป็นแบบนี้

การขายแหวนแต่งงาน ก็ย่อมเป็นกลยุทธ์ของเธออยู่แล้ว

“แสดงละครเหรอ? ก็เหมือนจะเป็นเรื่องที่เซ่าเยว่ทำออกมาได้จริง ๆ”

“แต่กลยุทธ์นี้ใช้กับพี่เจียงของเราไม่ได้ผลหรอก ใครก็รู้ว่าหลังจากพี่เจียงแต่งงานแล้ว ก็ไม่เคยใส่แหวนแต่งงานเลย”

กู้อี้ชวนเปิดโปงหมดเปลือก “ในโอกาสพิเศษเขาก็ใส่อยู่แล้วล่ะ แต่ยังไงก็ไม่กล้าไม่ใส่ตอนอยู่ต่อหน้าคุณปู่เจียง...”

เจียงเฉินหานปรายตามองเขาอย่างไม่พอใจ

กู้อี้ชวนรีบกระแอมไอทีหนึ่ง “ใช่ ๆ ๆ ไม่เคยใส่เลย! ไม่เคยใส่สักครั้งเดียว!”

พอพูดจบ สีหน้าของเจียงเฉินหานถึงได้ดูดีขึ้น

กู้อี้ชวนกระตุกมุมปากเล็กน้อย แล้วถามอีกว่า “...หลังจากนั้นฉันเห็นเซ่าเยว่ยังไปที่ร้านขายเครื่องประดับร้านอื่นอีก คาดว่าอยากจะซื้อแหวนคู่รักใหม่มาให้นาย นายจะใส่ไหม?”

เจียงเฉินหานทำเหมือนไม่ได้ยิน

นิ้วมือเรียวยาวกำลังเล่นโทรศัพท์ ในดวงตาเปลี่ยนไปมีแววอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย

เจียงเฉินหานนั้นสมกับชื่อของเขา เขาเป็นพวกเย็นชาสง่างามที่มีความอดกลั้นสูง ความอ่อนโยนที่ปรากฏอยู่บนหว่างคิ้วนั้นพบเห็นได้ยากมาก

กู้อี้ชวนรีบเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็เห็นว่าเขากำลังคุยกับเซี่ยอวิ๋นซูอยู่

แต่พอหันมาอีกที มือถือก็ล็อกหน้าจอไปซะแล้ว

เจียงเฉินหานเงยหน้าขึ้น สีหน้าไม่พอใจที่ถูกรบกวน “นายเรียกฉันมา เพราะเรื่องน่าเบื่อเรื่องนี้น่ะเหรอ?”

กู้อี้ชวนพอจะมองออกว่า ต่อให้เซ่าเยว่จะไม่กลับบ้านเป็นเดือน เจียงเฉินหานก็ไม่สนใจเลย

ไม่ว่าเซ่าเยว่จะทำเรื่องวุ่นวายอะไรออกมาแค่ไหน ขอแค่เจียงเฉินหานไม่สนใจ ก็ไม่มีความหมายอะไรทั้งนั้น และย่อมไม่ได้เห็นความสนุกสนานของเขาด้วยเช่นกัน

กู้อี้ชวนส่งเสียงจิ๊อย่างเสียดาย “แม้ว่าฉันจะไม่ชนะ แต่นายแพ้ก่อนนะ อย่าลืมเลี้ยงข้าวด้วย”

เดิมพันเรื่องเซ่าเยว่จะกลับมาเมื่อไร

เจียงเฉินหานให้ความร่วมมือมาก “นายบอกเวลามาได้เลย”

กู้อี้ชวน “ใกล้จะวันเกิดเซี่ยคนสวยแล้ว เอาเป็นวันนั้นเลยแล้วกัน มาสนุกด้วยกัน”

เจียงเฉินหาน “ถึงนายไม่พูด ก็จะเชิญพวกนายมาอยู่ดี”

กู้อี้ชวน “ที่แท้นายวางแผนไว้ตั้งนานแล้วนี่เอง ใส่ใจดีจริง ๆ เลยนะ”

ใส่ใจกับไม่ใส่ใจ มันช่างแตกต่างกันจริง ๆ

ถ้าเขาจำไม่ผิด วันเกิดของเซ่าเยว่คือเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว

วันนั้นเจียงเฉินหานไปสังสรรค์ดื่มเหล้าด้วยกันกับพวกเขา ระหว่างนั้นเซ่าเยว่โทรมา แต่เจียงเฉินหานดื่มหนักเลยไม่ได้รับสาย จึงเป็นเขาที่รับแทน

ประโยคแรกที่เธอพูดคือ “นายยังยุ่งอยู่อีกเหรอ? วันเกิดฉันผ่านไปแล้วนะ”

ตอนนั้นเป็นเวลาตีหนึ่ง

กู้อี้ชวน “ฉันเอง โทษที พี่เจียงดื่มหนักไปหน่อย... เอ่อ สุขสันต์วันเกิดนะ”

เซ่าเยว่เงียบไปไม่กี่วินาที ราวกับยอมรับเรื่องที่สามีลืมวันเกิดของเธอได้ทั้งหมด จากนั้นก็ฝากให้เขาดูแลเจียงเฉินหานให้ดี ไม่บ่นแม้แต่คำเดียว

ตอนนั้นกู้อี้ชวนคิดในใจว่า เซ่าเยว่ช่างเป็นนักรักคนหนึ่งจริง ๆ

......

เวลาเช้ามืด เจียงเฉินหานเลิกจากปาร์ตี้ของกู้อี้ชวนแล้วกลับถึงบ้าน

ตอนเดินผ่านห้องนั่งเล่น เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมา แล้วเหลือบมองไปที่โซฟา

ไม่เห็นเงาร่างที่คุ้นเคย

พอขึ้นไปชั้นบน ห้องรับรองแขกที่ปลายสุดของทางเดินก็มืดสนิท

นี่คือห้องของเซ่าเยว่ เป็นห้องที่อยู่ชั้นสองและไกลจากห้องนอนหลักมากที่สุด

ผ่านไปหนึ่งวันแล้ว เธอก็ยังไม่กลับมา

เจียงเฉินหานไม่ได้ใส่ใจ หันหลังกลับเข้าไปในห้องนอนหลัก

วันจันทร์ วันทำงาน

เจียงเฉินหานล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้วก็ลงมาข้างล่าง ป้าหลี่ยุ่งอยู่กับการจัดเตรียมอาหารเช้าเต็มโต๊ะให้เขา เขาเหลือบมองแล้วก็ไม่ได้รู้สึกอยากกินนัก แต่ก็ยังนั่งลงที่โต๊ะอาหารอยู่ดี

ป้าหลี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกในที่สุด

สองวันที่คุณนายไม่อยู่บ้าน แต่ละวันผ่านไปอย่างยากเย็นเหลือเกิน

เจียงเฉินหานเป็นคนที่ได้รับการอบรมมาดี แทบไม่เคยระเบิดอารมณ์ใส่คนใช้เลย แต่ก็ไม่อาจต้านทานกลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากตัวเขาได้ สำหรับคนตัวเล็ก ๆ อย่างเธอ แค่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็รู้สึกกดดันไม่น้อยแล้ว

“คุณผู้ชาย ค่อย ๆ ทานนะคะ”

อาหารก็ไม่ได้ถึงกับกินไม่ได้ แต่ถ้าเทียบกับของเซ่าเยว่แล้ว มักจะขาดอะไรบางอย่างอยู่เสมอ

เพียงแค่สองวัน เจียงเฉินหานก็เริ่มคิดถึงอาหารเช้าที่เซ่าเยว่ทำให้บ้างแล้ว “เธอโทรหาป้าบ้างไหม?”

ป้าหลี่กำลังจะออกไป จู่ ๆ ก็สะดุ้งขึ้นมา “อะ อะ...อะไรนะคะ?”

เจียงเฉินหานขมวดคิ้ว

ป้าหลี่ “!”

เธอรีบตั้งสติทันที แล้วรีบพูดว่า “เปล่าค่ะ!”

เจียงเฉินหานขมวดคิ้วแน่นขึ้นกว่าเดิม “ไม่สักครั้งเลยเหรอ?”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 417

    เซ่าเยว่จับไหล่เขาไว้ แล้วดึงตัวเขาขึ้นมาโจวซูไป๋เบือนหน้าหนี ไม่กล้ามองเธอ แตกต่างกับตอนเป็นหนุ่มโฮสต์ที่ใช้สายตายั่วยวนราวกับคนละคนตอนนี้หน้าบางไม่เบา ทั้งกลัวจะรบกวนคนอื่น เลยระมัดระวังตัว“ฉันเชื่อนาย ไปกับพวกเราเถอะ”สายตาของซางจื้อเหนียนตกอยู่บนมือที่เซ่าเยว่วางอยู่บนใหญ่โจวซูไป๋เขาเดินไป แล้วดึงมือของเซ่าเยว่ออกแล้วกวาดตามองโจวซูไป๋อย่างไม่ตั้งใจอีกครั้งเซ่าเยว่มองมือที่ถูกซางจื้อเหนียนดึงไว้ แล้วก็มองเขาเล็กน้อยครั้นชายหนุ่มรับรู้ถึงสายตาของเธอ เลยเลื่อนสายตามาเซ่าเยว่เห็นความไม่พอใจแสนราบเรียบในดวงตาของเขาทำไมเขาถึงได้เป็นปฏิปักษ์กับโจวซูไป๋อยู่นิด ๆ นะ?ถ้าให้พูดกันตามปกติแล้ว ประธานใหญ่ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ายังกระทบกระเทือนอารมณ์ของเขาไปด้วยเลยเกิดอะไรขึ้น?ซางจื้อเหนียนปล่อยมือของเซ่าเยว่โจวซูไป๋กลับถอยหลังไปด้วยความตกใจ เนื่องด้วยถนนกันดารยังไม่ได้ลาดยาง ทางก็ขรุขระไม่เรียบ ถึงกับล้มไปด้านหลังโดยไม่ทันระวัง ก้นกระแทกลงบนก้อนหินเล็ก ๆ เข้า มันเจ็บจนเขาถึงกับแยกเขี้ยว หน้ายับยู่ยี่ไปหมดโจวซูไป๋ไม่กล้าร้องออกมาก เลยได้แ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 416

    เซ่าเยว่เข้าใจความกังวลของซางจื้อเหนียน แต่เธอเชื่อโจวซูไป๋เพราะโจวซูไป๋มักจะโพสต์อินสตาแกรม คอยบันทึกเรื่องราวประจำวันในรั้วมหาวิทยาลัย แล้วก็วิ่งไปสัมภาษณ์ที่กองถ่ายอยู่บ่อย ๆเขายังถ่ายวล็อกว่าในวันหนึ่งทำอะไรบ้าง อาจเป็นเพราะต่อไปจะต้องเป็นนักแสดง เลยถ่ายทั้งที่ใส่แมสก์อยู่เสมอ แฟนคลับในโซเชียลมีเดียก็มีอยู่ไม่มากนักเป็นคนที่มีตัวตนอยู่จริง ๆแม้ว่าจะเคยเจอกันเพียงครั้งเดียว แต่กลับสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจได้เซ่าเยว่ยังไม่ทันพูดอะไร โจวซูไป๋ก็รีบพูดขึ้นว่า “ที่ผมพูดไปทุกอย่างเป็นความจริง ไม่ได้โกหกเลย...”ซางจื้อเหนียนมีสีหน้าไร้อารมณ์ “ทำไมนายถึงติดต่อเซ่าเยว่?”เซ่าเยว่เชื่อโจวซูไป๋ ซางจื้อเหนียนคอยเป็นด่านหน้าตรวจสอบให้แบบนี้ ก็ดีไม่น้อยแต่เธอคอยมองตาของโจวซูไป๋อยู่ตลอด สายตาของคนเรามันจะเผยข้อมูลต่าง ๆ มากมาย โจวซูไป๋ซื่อสัตย์ เขาไม่โกหกหรอกซางจื้อเหนียนเองก็ต้องมองออกอยู่แล้ว คนทึ่ม ๆ คนหนึ่งไม่มีทางกล้าพูดจาเดชต่อหน้าเขาหรอกทำไมต้องถามมากมายขนาดนี้ด้วย?บางทีวันนี้ซางจื้อเหนียนอาจจะค่อนข้างรอบคอบไปหน่อย?โจวซูไป๋หลบตา “...สถานการณ์มันคับขัน ผมก็เลยส่งไปให้พี

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 415

    เซ่าเยว่ปลอบ “ไม่ต้องกังวล ประธานซางไม่ถือสานายหรอก”ซางจื้อเหนียน “...”เซ่าเยว่ไม่สนใจเขา คอยห่วงใยความรู้สึกของโจวซูไป๋...ซางจื้อเหนียนกำมือเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัวคอยมองโจวซูไป๋ด้วยความเย็นเยียบโจวซูไป๋ไม่กล้าสบตากับซางจื้อเหนียน แต่ก็สัมผัสได้ถึงอันตราย ราวกับจะเขมือบใครสักคนเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น เขาเลยหลบไปข้าง ๆ โดยอัตโนมัติ “ไม่...ไม่ถือสาจริง ๆ เหรอ?”เซ่าเยว่มองออกว่าโจวซูไป๋กลัวซางจื้อเหนียนเอามาก ๆ นี่ค่อนข้างจะเป็นเรื่องปกติด้วยซ้ำไป ประธานใหญ่มีรังสีแข็งแกร่ง ทั้งทำให้คนคาดเดาความคิดไม่ออก การที่เจอกับเขาแล้วไม่กลัวต่างหากถึงจะพบเจอได้น้อยเซ่าเยว่มองซางจื้อเหนียนเล็กน้อย ให้เขาวางใจ เลิกจ้องเขม็งเด็กมหาวิทยาลัยคนหนึ่งได้แล้ว เจ้าตัวเครียดไปหมดแล้ว ซางจื้อเหนียน “...”เขาเม้มปากแน่นกว่าเดิมเขาไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ โจวซูไป๋จะทำตัวอ่อนปวกเปียกแบบนี้เพื่อ?แต่เซ่าเยว่ดันหลงกลนี้เซ่าเยว่เดินมาตรงหน้าโจวซูไป๋ มองเศษหญ้าบนหัวเขา เอ่ยถามถึงเรื่องราวให้ชัดเจนก่อน “นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”ครั้นโจวซูไป๋นึกถึงเรื่องที่ตนเองเจอแล้วก็ทั้งเซ็ง ทั้งโมโห

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 414

    จู่ ๆ ซางจื้อเหนียนก็รู้สึกตลกขึ้นมาเจียงเฉินหานคนเดียวก็จะเต็มกลืนอยู่แล้ว ทำไมถึงได้มีหนุ่มน้อยหน้าหล่อมาอีกคนเล่า?หรือว่าเซ่าเยว่จะเป็นเหมือนกับที่เซ่าสวินว่าไว้จริง ๆ ที่ชอบคนอายุน้อย?ไม่อย่างนั้นทำไมเซ่าเยว่ถึงได้คิดจะขับรถมาหาหมอนี่ทั้งที่ข้อความก็ไม่ชัดเจน ถึงขั้นที่คิดจะให้เขากลับไปก่อน แล้วจะมาคนเดียวด้วยซ้ำซางจื้อเหนียนประมูลข้อมูลนี้ในหัวอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ไม่แสดงสีหน้าอะไรทั้งสิ้น เขาจำได้ว่าคราวก่อนเคยเจอหน้ากันอยู่หนหนึ่งที่ผับ ไม่รู้จักกระทั่งชื่อด้วยซ้ำเซ่าเยว่ถึงกับมาเพื่อหมอนี่ ซางจื้อเหนียนต้องมองหมอนี่ให้ดีเสียแล้วกวาดสายตาล้ำลึกและคมกริบมองตัวโจวซูไป๋ตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่รอบหนึ่ง แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นายชื่ออะไร?” โจวซูไป๋ถูกมองสำรวจด้วยสายตาเย็นยะเยือกก็แข็งทื่อไปทั้งตัวในชั่วพริบตาตอนที่เขาได้ยินเสียของเซ่าเยว่นั้น หัวใจเต้นระรัวเพราะตื่นเต้นเกินไป ถึงขั้นที่แทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความซึ้งใจด้วยซ้ำ ทว่าตอนนี้กระทั่งใบหน้ายิ้มแย้มก็ยังไม่กล้าทำความประทับใจของโจวซูไป๋ที่มีต่อซางจื้อเหนียนนั้นลึกซึ้งเกินบรรยาย เงียบขรึม ไม่แสดงอารมณ์ เปี่ย

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 413

    ซางจื้อเหนียนยกข้ออ้างอย่างหนึ่งออกมาโดยไร้ช่องโหว่ “ผมได้ยินมั่วหนานหว่านบอกว่าคุณจะลาออก ทำไมไม่บอกผม?”ชั่วพริบตาเดียวเซ่าเยว่ก็หายตกอกตกใจแล้ว “มันไม่ทันน่ะสิคะ วันนั้นพอตื่นเช้ามาก็ไม่เจอคุณแล้ว”เธอพูดถึงเหตุผลที่ลาออก “มันเกี่ยวกับแผนทางหน้าที่การงานน่ะค่ะ ตั้งแต่วันนี้ไปฉันจะร่วมสร้างธุรกิจกับเฉิงเหยียนโย่ว เธอรอฉันมาสามปีแล้ว ตั้งแต่นี้ฉันจะร่วมสู้ฝ่าฟันไปกับเธอ”เพื่อนสาวทั้งสองคนเริ่มหาเงินและทำกิจการแล้วหลังจากเซ่าเยว่หย่า กำลังวังชาและเวลาของเธอล้วนโฟกัสอยู่กับตัวของเธอเอง จนดึงแพสชันกลับมาได้ เซ่าเยว่ยังมีหลายสิ่งที่อยากลอง ทั่วทั้งตัวเปี่ยมล้นไปด้วยพลังที่ใช้ไม่หมด เต็มเปี่ยมไปด้วยกำลังวังชา ความรู้สึกแบบนี้มันดีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนมันจริงอย่างที่คิดเลย ร่างกายกำลังบอกเธอว่า เธอไม่เหมาะกับเจียงเฉินหาน“ประธานซาง การได้อยู่ในบริษัทของคุณมาสามปีเต็มนี่ พอหันกลับไปมองแล้วมันก็วิเศษไม่เบานะคะ”ก็เหมือนอย่างที่เฉิงเหยียนโย่วพูด งานง่าย ๆ สบาย ๆ มีตั้งมากมายขนาดนั้น ทำไมเธอถึงได้เลิกบริษัทของซางจื้อเหนียน ไม่อย่างนั้นคงไม่มีเรื่องราวมากมายขนาดนี้ตามมาแน่ซางจื้อเ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 412

    เซ่าเยว่นึกไม่ถึงว่าจะได้ยินเรื่องซุบซิบเข้าทว่าพอรู้แล้วก็ไม่ได้แปลกใจ ซางจื้อเหนียนยอดเยี่ยมขนาดนี้ คนที่ชอบเขาต้องเยอะมากแน่นอนซางจื้อเหนียนมีท่าทางเย็นชาตอนที่พูดเรื่องนี้ ก็เท่ากับว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเฟิงเจียเพราะถ้าชอบ เฟิงเจียคงได้เป็นแฟนเขาไปแล้ว ไม่ใช่เธอ“ฉันมั่นใจนะว่าเจอเธอเป็นครั้งแรก แล้วเรื่องความสัมพันธ์รักหลอก ๆ ของพวกเราก็ไม่มีใครรู้ด้วย ทำไมเฟิงเจียถึงได้มองฉันเป็นศัตรูรุนแรงขนาดนั้น?”ซางจื้อเหนียน “บางทีเธออาจจะเคยเจอพวกเรามาก่อน”เซ่าเยว่คิดว่าก็ใช่ เพราะเฟิงเจียเรียกชื่อเธอออกมาแต่เฟิงเจียก็ช่างขี้หึงเกินไปจริง ๆ ถึงจะถูกเฟิงเจียเจอเข้าฝ่ายเดียวโดยบังเอิญ แต่ตอนอยู่ข้างนอกเธอกับซางจื้อเหนียนก็ไม่ได้มีท่าทางใกล้ชิดสนิทสนมอะไร แค่นี้ก็ต้องหึง แล้วก็มาต่อว่าเธอเนี่ยนะ?เธอไม่ใช่ประเด็นสำคัญสักหน่อยคนที่เฟิงเจียชอบคือซางจื้อเหนียน ก็ต้องดูท่าทีของซางจื้อเหนียนสิ การที่มาจับจ้องผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเขาเนี่ย มันให้ความสำคัญสลับกันแล้วรอบตัวซางจื้อเหนียนจะต้องไม่ได้มีผู้หญิงอย่างเธอคนเดียวแน่ พอมีใครเข้ามาสักหนึ่งคน เฟิงเจียก็ต้องจัดการหนึ่งคน ไม่เห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status