Share

บทที่ 4

Author: ในน้ำมีปลา
เซ่าเยว่ไม่ได้เถียงกลับ มองรอยที่นิ้วนางที่ยังไม่จางไปในทันที “รอยนี่น่าเกลียดชะมัด น่าจะถอดออกตั้งนานแล้ว”

เฉิงเหยียนโย่วได้ยินที่เธอพูด ก็พอจะรู้ได้ว่ารอบนี้เซ่าเยว่เอาจริง

แม้จะยังรับประกันไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อยท่าทีตอนนี้ก็ดีกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และก็ไม่จำเป็นต้องประชดอะไรอีก แต่ก็ยังอดไม่ได้อยู่ดี

“ความรักของเธอ ยังสู้ข้าวมื้อหนึ่งของฉันไม่ได้เลย”

เซ่าเยว่ไม่ได้อธิบาย “งั้นไปกันเถอะ จะเลี้ยงเธอพอดี”

เฉิงเหยียนโย่วไม่ขยับ เลิกคิ้วมองเธอ “เวลาของฉันมีค่ามากนะ บอกมาก่อนว่าเธอมาหาฉันทำไมกันแน่ จะได้ดูว่าเธอคู่ควรให้ฉันเสียเวลามากินข้าวด้วยหรือเปล่า”

เซ่าเยว่ “...”

เธอเงียบไปครู่หนึ่ง “วิทยานิพนธ์ที่ฉันค้างเอาไว้ก่อนหน้านี้ กำลังเตรียมจะเขียนใหม่ จำเป็นต้องขอยืมห้องแล็บของเธอใช้เก็บข้อมูล”

การเปลี่ยนแปลงในวงการรวดเร็วมาก ต้องทำการปรับเปลี่ยนหลายอย่าง

เซ่าเยว่ไม่กล้าพูดตรง ๆ ทางโทรศัพท์ เพราะความรู้สึกผิดที่คอยกวนใจ

ด้วยนิสัยของเฉิงเหยียนโย่ว คงจะด่าเธอว่ามัวหายหัวไปไหนมาตั้งนาน ถ้าเธอไม่แต่งงาน วิทยานิพนธ์ก็คงจะได้เผยแพร่ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว

ดังคาด เฉิงเหยียนโย่วมองเธอด้วยสายตาเหมือนเห็นสิ่งแปลกประหลาด “เกิดนึกครึ้มอะไรขึ้นมา?”

เซ่าเยว่ “ฉันจริงจัง”

เฉิงเหยียนโย่วมองเธออย่างพินิจพิเคราะห์

เธออยู่ในวงการนี้มาโดยตลอด เมื่อไม่นานมานี้ งานวิจัยของไต้อวิ๋นหานจากมหาวิทยาลัยเอ ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากบรรดาบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ

แทบไม่มีใครรู้เลยว่า จุดท้าทายสำคัญของโปรเจกต์ที่เขากำลังทำอยู่ตอนนี้ เซ่าเยว่ทำสำเร็จตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนแล้ว

และลูจิ-เอ็กซ์ฉบับสมบูรณ์ ก็อยู่ที่บริษัทของเธอ

ในฐานะที่เซ่าเยว่เป็นผู้พัฒนาเพียงคนเดียวของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ลูจิ-เอ็กซ์ อุปสรรคมากมายที่เธอเคยฝ่าฟันมา แค่หยิบขึ้นมาสักข้อเดียว ก็สามารถทำให้ทั้งห้องแล็บถึงกับชะงักได้ เซ่าเยว่คืออัจฉริยะระดับท็อปที่สุดที่เฉิงเหยียนโย่วเคยเจอมา

แต่คนอัจฉริยะคนนี้เป็นพวกคลั่งรัก ไปแต่งงานก็พอว่า แต่ตอนนี้งานที่ทำกลับตกต่ำจนต้องเป็นแค่เลขาตัวเล็ก ๆ ที่คอยเสิร์ฟน้ำเสิร์ฟชาให้คนอื่น

ไม่ยอมทุ่มเทให้กับสายงาน ปล่อยให้พรสวรรค์สูญเปล่า เฉิงเหยียนโย่วไม่เข้าใจเลยจริง ๆ

“เธอหยุดไปสามปี เธอแน่ใจเหรอว่าวิทยานิพนธ์จะยังมีค่าอยู่?”

เซ่าเยว่ “ฉันจะปรับแก้บางส่วน รอให้อาจารย์ออกมา ยืนยันแนวทางการวิจัยกับท่าน ถ้าผ่านแล้วฉันจะทำต่อเลย”

เงื่อนไขคือ อาจารย์ต้องเต็มใจพบเธอก่อน

เฉิงเหยียนโย่ว “งั้นเธอก็คงต้องรออีกนาน อาจารย์อุทิศตนทำวิจัยเพื่อชาติ ช่วงนี้คงไม่ได้ออกมาง่าย ๆ หรอก”

เซ่าเยว่ “ฉันค่อย ๆ รอได้”

เมื่อไม่ยึดติดกับเรื่องที่เจียงเฉินหานจะรักเธออีกต่อไป สิ่งที่เธอมีมากที่สุดก็คือเวลา

เฉิงเหยียนโย่วยังอยากพูดอะไรอีก แต่เธอรู้ดีว่า ถึงแม้เซ่าเยว่จะไม่ได้อยู่ในวงการมาหลายปี แต่สิ่งที่เธอจะวิจัยนั้น ด้วยเทคนิคของตนแล้ว ไม่สามารถให้คำแนะนำอะไรเธอได้เลย

โลกของอัจฉริยะ มันสุดโต่งอยู่แล้ว

เฉิงเหยียนโย่วไม่โน้มน้าวอีก “ข้าวมื้อนี้ ฉันกินกับเธอได้”

เฉิงเหยียนโย่วปากแข็งแต่ใจอ่อน ภายนอกดูเหมือนจำใจ แต่จริง ๆ แล้วแค่แกล้งทำ ถ้าไม่กินด้วยก็คงไม่มาที่นี่เป็นเพื่อนเธอหรอก

เซ่าเยว่ยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า “ขอบคุณประธานเฉิงที่ให้เกียรติค่ะ”

......

กู้อี้ชวนพาแฟนสาวเน็ตไอดอลที่เพิ่งยืนยันความสัมพันธ์เมื่อชั่วโมงก่อนออกไปเดินชอปปิง แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะเจอคนรู้จัก

กำลังจะตามไป คนก็หายไปแล้ว

เขาเดินเข้าไปในร้านขายอัญมณีนั้น ปล่อยให้แฟนสาวเลือกของที่ชอบไปพลาง สอบถามกับพนักงานร้านไปพลาง

ฟังไปฟังมา ก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว

ไอ้สารเลวเจียงเฉินหานนี่ ถึงขั้นหลอกเขา!

ถ้าเซ่าเยว่กลับไปตามง้อแต่โดยดีตั้งแต่เช้าตรู่จริง จะยังขายแหวนแต่งงานได้อีกเหรอ?

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็หันไปนัดเพื่อนกลุ่มหนึ่งออกมา

ตอนกลางคืน ทุกคนกำลังดื่มกันอย่างสนุกสนาน

ในที่สุด เจียงเฉินหานก็โผล่มา

พอเห็นเขา กู้อี้ชวนก็แกล้งพูดเสียงดังขึ้นมา “พวกนายว่า จู่ ๆ เซ่าเยว่ก็ขายแหวนแต่งงานแบบนี้ นี่กำลังแสดงละครบทไหนอยู่นะ?”

ทุกครั้งที่ปาร์ตี้กัน ทุกคนก็มักจะหาเรื่องแซวเซ่าเยว่กันเป็นเรื่องสนุก ตอนแรกก็ยังกังวลว่าเจียงเฉินหานจะไม่พอใจอยู่หรอก

ถ้าเจียงเฉินหานขมวดคิ้วนิดเดียว ก็คงไม่มีใครกล้าพูดอะไรต่อ แต่ปรากฏว่าพวกเขาคิดมากกันไปเอง

เจียงเฉินหานไม่แคร์เลยสักนิด แม้แต่แซวกันต่อหน้าก็ยังไม่มีปัญหา

แต่วันนี้ยังไม่ทันที่ทุกคนจะได้พูดอะไร เจียงเฉินหานก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ “แสดงให้ฉันดูนี่แหละ”

ที่เซ่าเยว่พูดในร้านกาแฟ สวี่หลินเล่าให้เขาฟังหมดทุกอย่างแล้ว

เขาไม่แปลกใจเลยว่านั่นเป็นการแสร้งทำ

แต่เขาก็คิดเหมือนสวี่หลิน เซ่าเยว่คงโดนกระตุ้นถึงได้เป็นแบบนี้

การขายแหวนแต่งงาน ก็ย่อมเป็นกลยุทธ์ของเธออยู่แล้ว

“แสดงละครเหรอ? ก็เหมือนจะเป็นเรื่องที่เซ่าเยว่ทำออกมาได้จริง ๆ”

“แต่กลยุทธ์นี้ใช้กับพี่เจียงของเราไม่ได้ผลหรอก ใครก็รู้ว่าหลังจากพี่เจียงแต่งงานแล้ว ก็ไม่เคยใส่แหวนแต่งงานเลย”

กู้อี้ชวนเปิดโปงหมดเปลือก “ในโอกาสพิเศษเขาก็ใส่อยู่แล้วล่ะ แต่ยังไงก็ไม่กล้าไม่ใส่ตอนอยู่ต่อหน้าคุณปู่เจียง...”

เจียงเฉินหานปรายตามองเขาอย่างไม่พอใจ

กู้อี้ชวนรีบกระแอมไอทีหนึ่ง “ใช่ ๆ ๆ ไม่เคยใส่เลย! ไม่เคยใส่สักครั้งเดียว!”

พอพูดจบ สีหน้าของเจียงเฉินหานถึงได้ดูดีขึ้น

กู้อี้ชวนกระตุกมุมปากเล็กน้อย แล้วถามอีกว่า “...หลังจากนั้นฉันเห็นเซ่าเยว่ยังไปที่ร้านขายเครื่องประดับร้านอื่นอีก คาดว่าอยากจะซื้อแหวนคู่รักใหม่มาให้นาย นายจะใส่ไหม?”

เจียงเฉินหานทำเหมือนไม่ได้ยิน

นิ้วมือเรียวยาวกำลังเล่นโทรศัพท์ ในดวงตาเปลี่ยนไปมีแววอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย

เจียงเฉินหานนั้นสมกับชื่อของเขา เขาเป็นพวกเย็นชาสง่างามที่มีความอดกลั้นสูง ความอ่อนโยนที่ปรากฏอยู่บนหว่างคิ้วนั้นพบเห็นได้ยากมาก

กู้อี้ชวนรีบเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็เห็นว่าเขากำลังคุยกับเซี่ยอวิ๋นซูอยู่

แต่พอหันมาอีกที มือถือก็ล็อกหน้าจอไปซะแล้ว

เจียงเฉินหานเงยหน้าขึ้น สีหน้าไม่พอใจที่ถูกรบกวน “นายเรียกฉันมา เพราะเรื่องน่าเบื่อเรื่องนี้น่ะเหรอ?”

กู้อี้ชวนพอจะมองออกว่า ต่อให้เซ่าเยว่จะไม่กลับบ้านเป็นเดือน เจียงเฉินหานก็ไม่สนใจเลย

ไม่ว่าเซ่าเยว่จะทำเรื่องวุ่นวายอะไรออกมาแค่ไหน ขอแค่เจียงเฉินหานไม่สนใจ ก็ไม่มีความหมายอะไรทั้งนั้น และย่อมไม่ได้เห็นความสนุกสนานของเขาด้วยเช่นกัน

กู้อี้ชวนส่งเสียงจิ๊อย่างเสียดาย “แม้ว่าฉันจะไม่ชนะ แต่นายแพ้ก่อนนะ อย่าลืมเลี้ยงข้าวด้วย”

เดิมพันเรื่องเซ่าเยว่จะกลับมาเมื่อไร

เจียงเฉินหานให้ความร่วมมือมาก “นายบอกเวลามาได้เลย”

กู้อี้ชวน “ใกล้จะวันเกิดเซี่ยคนสวยแล้ว เอาเป็นวันนั้นเลยแล้วกัน มาสนุกด้วยกัน”

เจียงเฉินหาน “ถึงนายไม่พูด ก็จะเชิญพวกนายมาอยู่ดี”

กู้อี้ชวน “ที่แท้นายวางแผนไว้ตั้งนานแล้วนี่เอง ใส่ใจดีจริง ๆ เลยนะ”

ใส่ใจกับไม่ใส่ใจ มันช่างแตกต่างกันจริง ๆ

ถ้าเขาจำไม่ผิด วันเกิดของเซ่าเยว่คือเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว

วันนั้นเจียงเฉินหานไปสังสรรค์ดื่มเหล้าด้วยกันกับพวกเขา ระหว่างนั้นเซ่าเยว่โทรมา แต่เจียงเฉินหานดื่มหนักเลยไม่ได้รับสาย จึงเป็นเขาที่รับแทน

ประโยคแรกที่เธอพูดคือ “นายยังยุ่งอยู่อีกเหรอ? วันเกิดฉันผ่านไปแล้วนะ”

ตอนนั้นเป็นเวลาตีหนึ่ง

กู้อี้ชวน “ฉันเอง โทษที พี่เจียงดื่มหนักไปหน่อย... เอ่อ สุขสันต์วันเกิดนะ”

เซ่าเยว่เงียบไปไม่กี่วินาที ราวกับยอมรับเรื่องที่สามีลืมวันเกิดของเธอได้ทั้งหมด จากนั้นก็ฝากให้เขาดูแลเจียงเฉินหานให้ดี ไม่บ่นแม้แต่คำเดียว

ตอนนั้นกู้อี้ชวนคิดในใจว่า เซ่าเยว่ช่างเป็นนักรักคนหนึ่งจริง ๆ

......

เวลาเช้ามืด เจียงเฉินหานเลิกจากปาร์ตี้ของกู้อี้ชวนแล้วกลับถึงบ้าน

ตอนเดินผ่านห้องนั่งเล่น เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมา แล้วเหลือบมองไปที่โซฟา

ไม่เห็นเงาร่างที่คุ้นเคย

พอขึ้นไปชั้นบน ห้องรับรองแขกที่ปลายสุดของทางเดินก็มืดสนิท

นี่คือห้องของเซ่าเยว่ เป็นห้องที่อยู่ชั้นสองและไกลจากห้องนอนหลักมากที่สุด

ผ่านไปหนึ่งวันแล้ว เธอก็ยังไม่กลับมา

เจียงเฉินหานไม่ได้ใส่ใจ หันหลังกลับเข้าไปในห้องนอนหลัก

วันจันทร์ วันทำงาน

เจียงเฉินหานล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้วก็ลงมาข้างล่าง ป้าหลี่ยุ่งอยู่กับการจัดเตรียมอาหารเช้าเต็มโต๊ะให้เขา เขาเหลือบมองแล้วก็ไม่ได้รู้สึกอยากกินนัก แต่ก็ยังนั่งลงที่โต๊ะอาหารอยู่ดี

ป้าหลี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกในที่สุด

สองวันที่คุณนายไม่อยู่บ้าน แต่ละวันผ่านไปอย่างยากเย็นเหลือเกิน

เจียงเฉินหานเป็นคนที่ได้รับการอบรมมาดี แทบไม่เคยระเบิดอารมณ์ใส่คนใช้เลย แต่ก็ไม่อาจต้านทานกลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากตัวเขาได้ สำหรับคนตัวเล็ก ๆ อย่างเธอ แค่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็รู้สึกกดดันไม่น้อยแล้ว

“คุณผู้ชาย ค่อย ๆ ทานนะคะ”

อาหารก็ไม่ได้ถึงกับกินไม่ได้ แต่ถ้าเทียบกับของเซ่าเยว่แล้ว มักจะขาดอะไรบางอย่างอยู่เสมอ

เพียงแค่สองวัน เจียงเฉินหานก็เริ่มคิดถึงอาหารเช้าที่เซ่าเยว่ทำให้บ้างแล้ว “เธอโทรหาป้าบ้างไหม?”

ป้าหลี่กำลังจะออกไป จู่ ๆ ก็สะดุ้งขึ้นมา “อะ อะ...อะไรนะคะ?”

เจียงเฉินหานขมวดคิ้ว

ป้าหลี่ “!”

เธอรีบตั้งสติทันที แล้วรีบพูดว่า “เปล่าค่ะ!”

เจียงเฉินหานขมวดคิ้วแน่นขึ้นกว่าเดิม “ไม่สักครั้งเลยเหรอ?”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 100

    “...งั้นก็อวยพรให้พวกเขาเถอะ” คอมเมนต์ในเน็ตก็ตรงกับความเป็นจริงทั้งหมด เซ่าเยว่ไม่มีอะไรให้ประหลาดใจเฉิงเหยียนโย่วไม่มีอะไรจะพูดอยู่ครึ่งวัน ดีใจไปด้วยว่าเซ่าเยว่ไม่ค่อยสนใจนัก และสะอิดสะเอียนผู้ชายสารเลวไปด้วยไม่ว่าจะว่ายังไง เซ่าเยว่ก็สำคัญที่สุดเธอไม่อยากสนใจก็ไม่ต้องสนใจ ได้แต่อดกลั้นความสะอิดสะเอียนที่มีต่อผู้ชายสารเลวเอาไว้ และไม่พูดอะไรมากอีกจากนั้นก็พูดคุยกันอีกเล็กน้อย ก่อนที่ทั้งสองคนจะวางสายไปเซ่าเยว่ไม่สนใจเจียงเฉินหานกับเซี่ยอวิ๋นซูเลยจริง ๆ แต่ก็ยังกดเข้าไปในการค้นหาร้อนแรง โดยพิมพ์ชื่อของทั้งสองคนลงไปเลยไถตั้งแต่ต้นจนจบ ก็ไม่เห็นชื่อของซางจื้อเหนียนเลยโปรเจกต์การกุศลถูกนำเสนอออกมาเรื่อย ๆ ย่อมยิ่งดีอยู่แล้ว คนของตระกูลซือจะทำการโปรโมตอย่างยิ่งใหญ่ด้วยรูปลักษณ์ของซางจื้อเหนียน ถ้าโพสต์รูปภาพส่ง ๆ สักรูป ต้องขึ้นการค้นหาร้อนแรงแน่นอนแต่ไม่มีภาพเลยสักใบที่งานเลี้ยงเมื่อกี้มีสื่อมามากมายขนาดนั้น แต่รูปและวิดีโอที่เผยแพร่ออกไป คนของตระกูลซือจะตรวจสอบทั้งหมดเป็นได้แค่ท่าทางของตัวซางจื้อเหนียนเอง เขาชอบอยู่เงียบ ๆ มากกว่า ไม่อย่างนั้นตระกูลซือไม่มีเหตุผลใ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 99

    “นี่เป็นแค่การสมมติ แต่ในความเป็นจริงการสมมตินี้ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ เพราะงั้นเธอก็อย่าเอาสถานการณ์จริงมาโต้แย้งฉัน ฉันก็แค่อยากรู้ความคิดของเธอ”“จริงสิ ยังต้องกำจัดความสัมพันธ์ของเขากับเจียงเฉินหานด้วย สมมติว่าทั้งสองคนไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด แล้วซางจื้อเหนียนก็ชอบเธอ เธอจะเลือกยังไง?”ความคิดที่สลัดสถานการณ์จริงออกไปคือการเพ้อฝัน เซ่าเยว่ไม่ชอบการสมมติแต่ก็แค่คุยไปเรื่อยเปื่อยกับเพื่อนเท่านั้น ยังไงก็ไม่เป็นไรเธอจึงครุ่นคิดอย่างจริงจังอยู่ครู่หนึ่ง“อย่างแรก ซางจื้อเหนียนชอบฉัน อย่างที่สอง เขากับเจียงเฉินหานไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ภายใต้พื้นฐานการสมมติสองข้อนี้ คนที่จะปฏิเสธก็คงมีน้อยหรือเปล่า ถึงยังไงซางจื้อเหนียนก็หน้าตาดี มีเงิน รูปร่างดี ข้อดีเหล่านี้พอให้ผู้หญิงเราอิ่มเอมใจแล้ว”เฉิงเหยียนโย่ว “เพราะงั้นคำตอบของเธอคืออะไรเหรอ?”“ความคิดของคนจะปลี่ยนไปตามประสบการณ์ของตัวเอง เหยียนโย่ว ฉันเคยผ่านการแต่งงานที่ล้มเหลวกับเจียงเฉินหานมาก่อน เธอรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดของฉันคืออะไรไหม?”“มุมมองด้านความรัก?”“ใช่ มุมมองด้านความรักเปลี่ยนไปแล้ว กับเพื่อนฉันก

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 98

    เซ่าเยว่สบายใจอย่างที่สุดประธานซางยึดมั่นในหลักการเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เงินของเขา เขาก็จะไม่รับแม้แต่แดงเดียวที่เป็นของเขา เขาจะรับเอาไว้แน่นอนหลังกินอาหารค่ำ เซ่าเยว่ก็เก็บกล่องดิลิเวอรีซางจื้อเหนียนพูดขึ้นว่า “วางไว้เถอะ นี่ไม่ใช่งานที่คุณต้องทำ เดี๋ยวจะมีคนเก็บ”เซ่าเยว่รู้ว่าเขาเป็นโรครักความสะอาด ฉะนั้นจึงชิงลงมือก่อนล่วงหน้า ทำไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว เก็บจนสะอาดไปแล้ว สุดท้ายถือถุงขยะและเสื้อสูทตัวนอกของเขา พลางบอก ‘ฝันดี’ แล้วเปิดประตูออกไปซางจื้อเหนียนนั่งอยู่บนโซฟาเห็นข้อความที่ลู่เจี้ยนเฉินส่งมาก่อนหน้านี้[เมื่อกี้ฉันบอกว่าฉันอยากไปส่งเซ่าเยว่กลับบ้าน นายถึงขั้นสั่งอาหารค่ำมาแล้ว จู่ ๆ ก็บอกว่าเบื่อขึ้นมากะทันหัน ไอ้ความ ‘กะทันหัน’ นี่มัน ‘กะทันหัน’ เกินไปหน่อยหรือเปล่า? สารภาพมาเถอะ นายอยากไปส่งเซ่าเยว่กลับบ้านใช่ไหม!]ซางจื้อเหนียน [ใช่][จิ้งจอกเฒ่า ฉันรู้อยู่แล้วเชียว]ลู่เจี้ยนเฉิน [นายหมายความว่ายังไง เซ่าเยว่ขอบคุณนายต่อหน้าเราเยอะแยะขนาดนั้น นายกลับไม่ตอบกลับสักแอะ ถ้าเป็นฉันไปส่งเขากลับแทนนายละก็...นายชอบที่จะเมินขนาดนี้ สมควรแล้วที่นายจะโสด! สุดท้ายก็มาเ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 97

    ซางจื้อเหนียนไม่ได้เปลี่ยนรองเท้า เซ่าเยว่ยกเลิกแผนกลับไปเปลี่ยนรองเท้าที่ห้องเธอเคยมาสองครั้งแล้ว ทุกครั้งที่มา ห้องก็สะอาดสะอ้านตลอด น่าจะมีคนมาทำความสะอาดทั้งข้างนอกและข้างในทุกวันแต่ก่อนหน้านี้ เซ่าเยว่มาคนเดียว วันนี้ซางจื้อเหนียนก็อยู่ด้วยไม่ชินเล็กน้อยทว่ายังปรับตัวไม่ได้เซ่าเยว่วางถุงที่ใส่สูทของเขาเอาไว้ลงก่อน แล้วถือมื้อค่ำไปวางบนโต๊ะอาหาร เธอหยิบออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ก่อนจะเปิดออก ทำเหมือนอย่างปกติหลังซางจื้อเหนียนล้างมือ ก็มานั่งบนโต๊ะอาหารเซ่าเยว่พูดขึ้นว่า “ประธานซาง คุณทานให้อร่อยนะคะ ฝันดีค่ะ”เธอพูดจบก็คิดจะออกไป ทว่าชายหนุ่มกลับเอ่ยปากขึ้นอย่างเย็นชา “เยอะขนาดนี้ ผมกินไม่หมด” ปริมาณของอาหารค่ำ เซ่าเยว่สั่งน้อยลงครึ่งหนึ่ง แต่ยังไงที่ซางจื้อเหนียนสั่งก่อนหน้านี้ก็สำหรับสี่ที่ แม้จะลดลงครึ่งหนึ่งก็กินไม่หมดเซ่าเยว่เพียงอยากกลับไปพักผ่อนที่ห้อง ลังเลว่าจะปฏิเสธดีไหม ชายหนุ่มยกตะเกียบขึ้นมา พร้อมเบือนสายตาไปจากบนตัวของเธอแล้วเซ่าเยว่จึงไม่ปฏิเสธ...ปฏิเสธครั้งสองครั้งยังพอทน ปฏิเสธเยอะเกินไปจะทำให้เขารู้สึกว่าไม่ไว้หน้ากันเลยแม้แต่น้อย ถึงยังไงก็เป็นแ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 96

    สายตาของซางจื้อเหนียนย้ายไปจากตัวของหญิงสาวตั้งนานแล้ว เขาชี้ดิลิเวอรีหลากหลายเมนูที่ตั้งอยู่เต็มโต๊ะ “กินข้าวเถอะ”ลู่เจี้ยนเฉินเรียกให้เซ่าเยว่มาด้วยกันเซ่าเยว่กำลังสังเกตสีหน้าของซางจื้อเหนียน เขาไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ จึงไม่รู้ชัดว่าเขาคิดยังไง แต่ไม่ได้พูดมาก คงน่าจะผ่านด่านละมั้งเธอมองของกินเต็มโต๊ะนี่ “ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ พวกคุณกินกันเถอะ”ลู่เจี้ยนเฉินอึ้งไป “รีบขนาดนี้เชียว คุณมีธุระเหรอ?”เซ่าเยว่พยักหน้าลู่เจี้ยนเฉินผลักซางจื้อเหนียน “ให้เธออยู่ต่อสิ” เขาเข้าใจแล้ว เซ่าเยว่ถูกความบ้าอำนาจของเจ้านายบีบบังคับ เพียงแค่เชื่อฟังจิ้งจอกเฒ่าเท่านั้นใบหน้าของซางจื้อเหนียนเต็มไปด้วยความไม่แยแสเซ่าเยว่ลุกขึ้น ทั้งเกรงใจและทั้งเหินห่าง “ประธานซาง พวกคุณสนุกกันต่อเถอะค่ะ ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ คืนนี้ขอบคุณคุณมากนะคะ”ลู่เจี้ยนเฉินลุกขึ้นยืนตาม “เกรงใจขนาดนี้ไปทำไมกัน เรื่องใหญ่แค่ไหนกันเชียว ถ้าไม่ได้เป็นเพราะฐานะของซางจื้อเหนียนเหมาะจะสั่งสอนยัยเด็กหน้าไม่อายมากกว่า ไม่อย่างนั้นผมก็คงไปช่วยคุณแล้ว ยังไงก็กินให้อิ่มก่อนแล้วค่อยไปเถอะ!”เซ่าเยว่ตอบกลับ “เราเจอกันพรุ่งนี้นะคะ”ล

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 95

    “เป็นเรื่องจริง ผมยังจำครั้งแรกที่เล่นไพ่นกกระจอกได้ เจ้านายคุณอุตส่าห์ชนะแล้ว แต่สุดท้ายพวกเราหลายคน ต่างคนต่างชนะไพ่แต้มดีกันคนละตา เอาคืนเงินที่เขาหามาอย่างยากลำบากทั้งหมด สุดท้ายยังต้องจ่ายเพิ่มอีกด้วยซ้ำ” ลู่เจี้ยนเฉินพูดขึ้นอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นเซ่าเยว่มองซางจื้อเหนียน เขาไม่พูดอะไร เพราะนั่นคือความจริง“เราต่อกันเถอะ”เฟิงเยี่ยน “เราจะไม่อ่อนข้อให้หรอกนะ”อวี๋หลินโจวเองก็พยักหน้า“วันนี้ผู้ชายอกสามศอกทั้งสามคน ใครก็อย่าห้ามให้เสียมาด”ลู่เจี้ยนเฉินดูเรื่องสนุกไม่รังเกียจเรื่องใหญ่โต ยากที่ซางจื้อเหนียนจะกำหนดตัวชี้วัดผลงานให้เซ่าเยว่ ชนะก็หมดสนุกแล้ว ต้องให้เธอแพ้ตลอดถึงจะสนุกเมื่อเผชิญหน้ากับ ‘การยั่วยุ’ ของทั้งสามคน เซ่าเยว่ก็ฉีกยิ้มพร้อมเอ่ยว่า “ไม่เป็นไรค่ะ มาเถอะ”ลู่เจี้ยนเฉินพลันฮึกเหิมขึ้นมา “นี่ ๆ ๆ ซางจื้อเหนียน เลขาตัวน้อยนายกำลังลองดีกับเราอยู่ นายพนันว่าเราชนะหรือพนันว่าเลขาตัวน้อยนายจะชนะ!”ซางจื้อเหนียนก็ยังทำท่าทีขี้เกียจจะพูดเช่นเดิมเซ่าเยว่ที่เย็นชาดั่งหุ่นยนต์ ถึงกับรับคำท้าอย่างทรงพลัง กลับปลุกเร้าจิตใจอย่างเอาชนะของเฟิงเยี่ยนอีกด้ว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status