Share

บทที่ 4

Author: ในน้ำมีปลา
เซ่าเยว่ไม่ได้เถียงกลับ มองรอยที่นิ้วนางที่ยังไม่จางไปในทันที “รอยนี่น่าเกลียดชะมัด น่าจะถอดออกตั้งนานแล้ว”

เฉิงเหยียนโย่วได้ยินที่เธอพูด ก็พอจะรู้ได้ว่ารอบนี้เซ่าเยว่เอาจริง

แม้จะยังรับประกันไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อยท่าทีตอนนี้ก็ดีกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และก็ไม่จำเป็นต้องประชดอะไรอีก แต่ก็ยังอดไม่ได้อยู่ดี

“ความรักของเธอ ยังสู้ข้าวมื้อหนึ่งของฉันไม่ได้เลย”

เซ่าเยว่ไม่ได้อธิบาย “งั้นไปกันเถอะ จะเลี้ยงเธอพอดี”

เฉิงเหยียนโย่วไม่ขยับ เลิกคิ้วมองเธอ “เวลาของฉันมีค่ามากนะ บอกมาก่อนว่าเธอมาหาฉันทำไมกันแน่ จะได้ดูว่าเธอคู่ควรให้ฉันเสียเวลามากินข้าวด้วยหรือเปล่า”

เซ่าเยว่ “...”

เธอเงียบไปครู่หนึ่ง “วิทยานิพนธ์ที่ฉันค้างเอาไว้ก่อนหน้านี้ กำลังเตรียมจะเขียนใหม่ จำเป็นต้องขอยืมห้องแล็บของเธอใช้เก็บข้อมูล”

การเปลี่ยนแปลงในวงการรวดเร็วมาก ต้องทำการปรับเปลี่ยนหลายอย่าง

เซ่าเยว่ไม่กล้าพูดตรง ๆ ทางโทรศัพท์ เพราะความรู้สึกผิดที่คอยกวนใจ

ด้วยนิสัยของเฉิงเหยียนโย่ว คงจะด่าเธอว่ามัวหายหัวไปไหนมาตั้งนาน ถ้าเธอไม่แต่งงาน วิทยานิพนธ์ก็คงจะได้เผยแพร่ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว

ดังคาด เฉิงเหยียนโย่วมองเธอด้วยสายตาเหมือนเห็นสิ่งแปลกประหลาด “เกิดนึกครึ้มอะไรขึ้นมา?”

เซ่าเยว่ “ฉันจริงจัง”

เฉิงเหยียนโย่วมองเธออย่างพินิจพิเคราะห์

เธออยู่ในวงการนี้มาโดยตลอด เมื่อไม่นานมานี้ งานวิจัยของไต้อวิ๋นหานจากมหาวิทยาลัยเอ ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากบรรดาบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ

แทบไม่มีใครรู้เลยว่า จุดท้าทายสำคัญของโปรเจกต์ที่เขากำลังทำอยู่ตอนนี้ เซ่าเยว่ทำสำเร็จตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนแล้ว

และลูจิ-เอ็กซ์ฉบับสมบูรณ์ ก็อยู่ที่บริษัทของเธอ

ในฐานะที่เซ่าเยว่เป็นผู้พัฒนาเพียงคนเดียวของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ลูจิ-เอ็กซ์ อุปสรรคมากมายที่เธอเคยฝ่าฟันมา แค่หยิบขึ้นมาสักข้อเดียว ก็สามารถทำให้ทั้งห้องแล็บถึงกับชะงักได้ เซ่าเยว่คืออัจฉริยะระดับท็อปที่สุดที่เฉิงเหยียนโย่วเคยเจอมา

แต่คนอัจฉริยะคนนี้เป็นพวกคลั่งรัก ไปแต่งงานก็พอว่า แต่ตอนนี้งานที่ทำกลับตกต่ำจนต้องเป็นแค่เลขาตัวเล็ก ๆ ที่คอยเสิร์ฟน้ำเสิร์ฟชาให้คนอื่น

ไม่ยอมทุ่มเทให้กับสายงาน ปล่อยให้พรสวรรค์สูญเปล่า เฉิงเหยียนโย่วไม่เข้าใจเลยจริง ๆ

“เธอหยุดไปสามปี เธอแน่ใจเหรอว่าวิทยานิพนธ์จะยังมีค่าอยู่?”

เซ่าเยว่ “ฉันจะปรับแก้บางส่วน รอให้อาจารย์ออกมา ยืนยันแนวทางการวิจัยกับท่าน ถ้าผ่านแล้วฉันจะทำต่อเลย”

เงื่อนไขคือ อาจารย์ต้องเต็มใจพบเธอก่อน

เฉิงเหยียนโย่ว “งั้นเธอก็คงต้องรออีกนาน อาจารย์อุทิศตนทำวิจัยเพื่อชาติ ช่วงนี้คงไม่ได้ออกมาง่าย ๆ หรอก”

เซ่าเยว่ “ฉันค่อย ๆ รอได้”

เมื่อไม่ยึดติดกับเรื่องที่เจียงเฉินหานจะรักเธออีกต่อไป สิ่งที่เธอมีมากที่สุดก็คือเวลา

เฉิงเหยียนโย่วยังอยากพูดอะไรอีก แต่เธอรู้ดีว่า ถึงแม้เซ่าเยว่จะไม่ได้อยู่ในวงการมาหลายปี แต่สิ่งที่เธอจะวิจัยนั้น ด้วยเทคนิคของตนแล้ว ไม่สามารถให้คำแนะนำอะไรเธอได้เลย

โลกของอัจฉริยะ มันสุดโต่งอยู่แล้ว

เฉิงเหยียนโย่วไม่โน้มน้าวอีก “ข้าวมื้อนี้ ฉันกินกับเธอได้”

เฉิงเหยียนโย่วปากแข็งแต่ใจอ่อน ภายนอกดูเหมือนจำใจ แต่จริง ๆ แล้วแค่แกล้งทำ ถ้าไม่กินด้วยก็คงไม่มาที่นี่เป็นเพื่อนเธอหรอก

เซ่าเยว่ยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า “ขอบคุณประธานเฉิงที่ให้เกียรติค่ะ”

......

กู้อี้ชวนพาแฟนสาวเน็ตไอดอลที่เพิ่งยืนยันความสัมพันธ์เมื่อชั่วโมงก่อนออกไปเดินชอปปิง แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะเจอคนรู้จัก

กำลังจะตามไป คนก็หายไปแล้ว

เขาเดินเข้าไปในร้านขายอัญมณีนั้น ปล่อยให้แฟนสาวเลือกของที่ชอบไปพลาง สอบถามกับพนักงานร้านไปพลาง

ฟังไปฟังมา ก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว

ไอ้สารเลวเจียงเฉินหานนี่ ถึงขั้นหลอกเขา!

ถ้าเซ่าเยว่กลับไปตามง้อแต่โดยดีตั้งแต่เช้าตรู่จริง จะยังขายแหวนแต่งงานได้อีกเหรอ?

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็หันไปนัดเพื่อนกลุ่มหนึ่งออกมา

ตอนกลางคืน ทุกคนกำลังดื่มกันอย่างสนุกสนาน

ในที่สุด เจียงเฉินหานก็โผล่มา

พอเห็นเขา กู้อี้ชวนก็แกล้งพูดเสียงดังขึ้นมา “พวกนายว่า จู่ ๆ เซ่าเยว่ก็ขายแหวนแต่งงานแบบนี้ นี่กำลังแสดงละครบทไหนอยู่นะ?”

ทุกครั้งที่ปาร์ตี้กัน ทุกคนก็มักจะหาเรื่องแซวเซ่าเยว่กันเป็นเรื่องสนุก ตอนแรกก็ยังกังวลว่าเจียงเฉินหานจะไม่พอใจอยู่หรอก

ถ้าเจียงเฉินหานขมวดคิ้วนิดเดียว ก็คงไม่มีใครกล้าพูดอะไรต่อ แต่ปรากฏว่าพวกเขาคิดมากกันไปเอง

เจียงเฉินหานไม่แคร์เลยสักนิด แม้แต่แซวกันต่อหน้าก็ยังไม่มีปัญหา

แต่วันนี้ยังไม่ทันที่ทุกคนจะได้พูดอะไร เจียงเฉินหานก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ “แสดงให้ฉันดูนี่แหละ”

ที่เซ่าเยว่พูดในร้านกาแฟ สวี่หลินเล่าให้เขาฟังหมดทุกอย่างแล้ว

เขาไม่แปลกใจเลยว่านั่นเป็นการแสร้งทำ

แต่เขาก็คิดเหมือนสวี่หลิน เซ่าเยว่คงโดนกระตุ้นถึงได้เป็นแบบนี้

การขายแหวนแต่งงาน ก็ย่อมเป็นกลยุทธ์ของเธออยู่แล้ว

“แสดงละครเหรอ? ก็เหมือนจะเป็นเรื่องที่เซ่าเยว่ทำออกมาได้จริง ๆ”

“แต่กลยุทธ์นี้ใช้กับพี่เจียงของเราไม่ได้ผลหรอก ใครก็รู้ว่าหลังจากพี่เจียงแต่งงานแล้ว ก็ไม่เคยใส่แหวนแต่งงานเลย”

กู้อี้ชวนเปิดโปงหมดเปลือก “ในโอกาสพิเศษเขาก็ใส่อยู่แล้วล่ะ แต่ยังไงก็ไม่กล้าไม่ใส่ตอนอยู่ต่อหน้าคุณปู่เจียง...”

เจียงเฉินหานปรายตามองเขาอย่างไม่พอใจ

กู้อี้ชวนรีบกระแอมไอทีหนึ่ง “ใช่ ๆ ๆ ไม่เคยใส่เลย! ไม่เคยใส่สักครั้งเดียว!”

พอพูดจบ สีหน้าของเจียงเฉินหานถึงได้ดูดีขึ้น

กู้อี้ชวนกระตุกมุมปากเล็กน้อย แล้วถามอีกว่า “...หลังจากนั้นฉันเห็นเซ่าเยว่ยังไปที่ร้านขายเครื่องประดับร้านอื่นอีก คาดว่าอยากจะซื้อแหวนคู่รักใหม่มาให้นาย นายจะใส่ไหม?”

เจียงเฉินหานทำเหมือนไม่ได้ยิน

นิ้วมือเรียวยาวกำลังเล่นโทรศัพท์ ในดวงตาเปลี่ยนไปมีแววอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย

เจียงเฉินหานนั้นสมกับชื่อของเขา เขาเป็นพวกเย็นชาสง่างามที่มีความอดกลั้นสูง ความอ่อนโยนที่ปรากฏอยู่บนหว่างคิ้วนั้นพบเห็นได้ยากมาก

กู้อี้ชวนรีบเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็เห็นว่าเขากำลังคุยกับเซี่ยอวิ๋นซูอยู่

แต่พอหันมาอีกที มือถือก็ล็อกหน้าจอไปซะแล้ว

เจียงเฉินหานเงยหน้าขึ้น สีหน้าไม่พอใจที่ถูกรบกวน “นายเรียกฉันมา เพราะเรื่องน่าเบื่อเรื่องนี้น่ะเหรอ?”

กู้อี้ชวนพอจะมองออกว่า ต่อให้เซ่าเยว่จะไม่กลับบ้านเป็นเดือน เจียงเฉินหานก็ไม่สนใจเลย

ไม่ว่าเซ่าเยว่จะทำเรื่องวุ่นวายอะไรออกมาแค่ไหน ขอแค่เจียงเฉินหานไม่สนใจ ก็ไม่มีความหมายอะไรทั้งนั้น และย่อมไม่ได้เห็นความสนุกสนานของเขาด้วยเช่นกัน

กู้อี้ชวนส่งเสียงจิ๊อย่างเสียดาย “แม้ว่าฉันจะไม่ชนะ แต่นายแพ้ก่อนนะ อย่าลืมเลี้ยงข้าวด้วย”

เดิมพันเรื่องเซ่าเยว่จะกลับมาเมื่อไร

เจียงเฉินหานให้ความร่วมมือมาก “นายบอกเวลามาได้เลย”

กู้อี้ชวน “ใกล้จะวันเกิดเซี่ยคนสวยแล้ว เอาเป็นวันนั้นเลยแล้วกัน มาสนุกด้วยกัน”

เจียงเฉินหาน “ถึงนายไม่พูด ก็จะเชิญพวกนายมาอยู่ดี”

กู้อี้ชวน “ที่แท้นายวางแผนไว้ตั้งนานแล้วนี่เอง ใส่ใจดีจริง ๆ เลยนะ”

ใส่ใจกับไม่ใส่ใจ มันช่างแตกต่างกันจริง ๆ

ถ้าเขาจำไม่ผิด วันเกิดของเซ่าเยว่คือเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว

วันนั้นเจียงเฉินหานไปสังสรรค์ดื่มเหล้าด้วยกันกับพวกเขา ระหว่างนั้นเซ่าเยว่โทรมา แต่เจียงเฉินหานดื่มหนักเลยไม่ได้รับสาย จึงเป็นเขาที่รับแทน

ประโยคแรกที่เธอพูดคือ “นายยังยุ่งอยู่อีกเหรอ? วันเกิดฉันผ่านไปแล้วนะ”

ตอนนั้นเป็นเวลาตีหนึ่ง

กู้อี้ชวน “ฉันเอง โทษที พี่เจียงดื่มหนักไปหน่อย... เอ่อ สุขสันต์วันเกิดนะ”

เซ่าเยว่เงียบไปไม่กี่วินาที ราวกับยอมรับเรื่องที่สามีลืมวันเกิดของเธอได้ทั้งหมด จากนั้นก็ฝากให้เขาดูแลเจียงเฉินหานให้ดี ไม่บ่นแม้แต่คำเดียว

ตอนนั้นกู้อี้ชวนคิดในใจว่า เซ่าเยว่ช่างเป็นนักรักคนหนึ่งจริง ๆ

......

เวลาเช้ามืด เจียงเฉินหานเลิกจากปาร์ตี้ของกู้อี้ชวนแล้วกลับถึงบ้าน

ตอนเดินผ่านห้องนั่งเล่น เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมา แล้วเหลือบมองไปที่โซฟา

ไม่เห็นเงาร่างที่คุ้นเคย

พอขึ้นไปชั้นบน ห้องรับรองแขกที่ปลายสุดของทางเดินก็มืดสนิท

นี่คือห้องของเซ่าเยว่ เป็นห้องที่อยู่ชั้นสองและไกลจากห้องนอนหลักมากที่สุด

ผ่านไปหนึ่งวันแล้ว เธอก็ยังไม่กลับมา

เจียงเฉินหานไม่ได้ใส่ใจ หันหลังกลับเข้าไปในห้องนอนหลัก

วันจันทร์ วันทำงาน

เจียงเฉินหานล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้วก็ลงมาข้างล่าง ป้าหลี่ยุ่งอยู่กับการจัดเตรียมอาหารเช้าเต็มโต๊ะให้เขา เขาเหลือบมองแล้วก็ไม่ได้รู้สึกอยากกินนัก แต่ก็ยังนั่งลงที่โต๊ะอาหารอยู่ดี

ป้าหลี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกในที่สุด

สองวันที่คุณนายไม่อยู่บ้าน แต่ละวันผ่านไปอย่างยากเย็นเหลือเกิน

เจียงเฉินหานเป็นคนที่ได้รับการอบรมมาดี แทบไม่เคยระเบิดอารมณ์ใส่คนใช้เลย แต่ก็ไม่อาจต้านทานกลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากตัวเขาได้ สำหรับคนตัวเล็ก ๆ อย่างเธอ แค่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็รู้สึกกดดันไม่น้อยแล้ว

“คุณผู้ชาย ค่อย ๆ ทานนะคะ”

อาหารก็ไม่ได้ถึงกับกินไม่ได้ แต่ถ้าเทียบกับของเซ่าเยว่แล้ว มักจะขาดอะไรบางอย่างอยู่เสมอ

เพียงแค่สองวัน เจียงเฉินหานก็เริ่มคิดถึงอาหารเช้าที่เซ่าเยว่ทำให้บ้างแล้ว “เธอโทรหาป้าบ้างไหม?”

ป้าหลี่กำลังจะออกไป จู่ ๆ ก็สะดุ้งขึ้นมา “อะ อะ...อะไรนะคะ?”

เจียงเฉินหานขมวดคิ้ว

ป้าหลี่ “!”

เธอรีบตั้งสติทันที แล้วรีบพูดว่า “เปล่าค่ะ!”

เจียงเฉินหานขมวดคิ้วแน่นขึ้นกว่าเดิม “ไม่สักครั้งเลยเหรอ?”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 256

    เซ่าสวินมองแล้วก็หัวเราะเยาะใส่เสียงเย็น “ถ้านี่ไม่เรียกว่าประจบ แล้วมันคืออะไร?”เซ่าเยว่ตวัดสายตามองเขาเล็กน้อยนั่นแหละเซ่าสวินถึงได้ใส่ที่หุ้มรองเท้าอย่างเชื่องช้า เซ่าเยว่เดินเข้าไปก่อน เซ่าสวินเห็นแบบนั้น หลังจากที่ใส่ที่หุ้มรองเท้าแล้วก็ไปเหยียบที่พื้นด้านนอกประตูสักสองที ถึงได้ตามเธอเข้าไปเซ่าสวินรู้สึกสนใจกับแค่ห้องของเซ่าเยว่เท่านั้น เขาไม่ได้มองการตกแต่งภายในบ้านของซางจื้อเหนียนสักเท่าไร เพียงแต่ตามอยู่ด้านหลังเซ่าเยว่ด้วยใบหน้าไม่พอใจเมื่อเซ่าเยว่หยุด เขาเองก็หยุดตามซางจื้อเหนียนกำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา เซ่าเยว่รู้มานานแล้วว่าเวลาส่วนตัวนั้นเขาจะไม่เหมือนกับรูปลักษณ์ภายนอกที่เอาจริงเอาจัง กลับจะทำตัวตามสบาย ทำเรื่องที่มีชีวิตชีวาเสียมากกว่า ไม่ใช่ประธานใหญ่ผู้แข็งทื่อไร้ชีวิตชีวาเซ่าเยว่เดินมาถึงตรงหน้าเขาแล้วนั่นแหละ ซางจื้อเหนียนถึงได้หันไปมอง เขามองเซ่าเยว่ก่อนเล็กน้อย แล้วค่อยมองไปทางเซ่าสวินที่อยู่ด้านหลังเธอเซ่าสวินสัมผัสได้ถึงแววตาของเขา แล้วก็ทำตัวดีทั้งที่ไม่ใช่เพราะเซ่าเยว่อยู่ด้านหน้า สายตานั่นทั้งดุดันทั้งโหดเหี้ยมราวกับหมาป่าเลยทีเดียวซางจื้อเหนี

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 255

    เซ่าสวิน “...”เซ่าสวินลากเซ่าเยว่กลับบ้านโดยที่ไม่ต้องคิดเลยแม้แต่น้อย สีหน้าก็ย่ำแย่ยิ่งกว่าเธอเสียอีก “เธอจะไปขอโทษคนแซ่ซางนั่น? ทำไม!”เซ่าเยว่เองก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีท่าทีรุนแรงขนาดนี้ ทั้งสีหน้าเองก็ไม่น่าดูยิ่งกว่าเดิม “ขัดขวางขนาดนี้ เธอต้องไม่ได้ทำเรื่องดี ๆ แน่!”เซ่าสวิน “ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”เซ่าเยว่ไม่เชื่อเขาเลยสักนิด เปิดโทรศัพท์ดูกล้องวงจรปิดทันทีเซ่าสวินสีหน้าแข็งค้างไปในชั่วพริบตา เขาคิดจะแย่งมา แต่ก็คิดว่าแย่งมาก็ไม่มีประโยชน์อะไร ถึงยังไง จะช้าหรือเร็วเธอก็ต้องเห็นอยู่ดี เลยยอมรับตรง ๆ อย่างไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น “ฉันเห็นว่าคนแซ่ซางนั่นไม่ใช่คนดีอะไร เลยช่วยเธอสั่งสอนไปไม่กี่ประโยคเองแล้วจะทำไม? อีกอย่างนะ ชั้นนี้ก็มีพวกเธออยู่กันแค่สองหลัง แถมข้างบ้านยังเป็นผู้ชายน่าเอือมระอาอีก ฉันก็ต้องเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของเธออยู่แล้วสิ ในเมื่อฉันอยู่ที่นี่ แถมยังเป็นผู้ชายทั้งแท่ง จะช่วยเธอข่มขู่สักหน่อยแบบนั้น ฉันก็มีสิทธิ์ไหม?”เซ่าสวินยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองมีเหตุผล การกระทำที่เขาทำไปเมื่อครู่นี้ไม่มีอะไรผิดเลยสักนิดเดียวเมื่อเซ่าเยว่ได้ยินคำว่า ‘น่าเอือ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 254

    เซ่าสวินถึงขั้นเริ่มคิดแล้วว่าจะย้ายมาคอยดูเซ่าเยว่ดีไหม เพราะชีวิตหลังจากแต่งงานไปเซ่าเยว่ก็ไม่มีความสุขเลย และตอนนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรตอนนี้เตรียมตัวจะแบกรับหน้าที่นิด ๆ หน่อย เขาจะไม่เข้าไปยุ่มย่ามกับการเลือกของเซ่าเยว่ แต่ว่าเขาจะรับผิดชอบในการคุมเป็นด่านหน้า อย่างน้อยยามที่เซ่าเยว่จำเป็นต้องใช้งานเขา เขาก็ต้องอยู่ เธอจะได้ไม่ได้เผชิญหน้าเพียงลำพังเซ่าสวินอ่านคนแซ่ซางคนนี้ไม่ออก ลางสังหรณ์มันบอกว่าหมอนี้ไม่มีทางเป็นคนดีแน่ ดังนั้นเลยขอเตือนก่อนสักหน่อย จะดีที่สุดถ้าตัดความคิดของหมอนี่ทิ้งไปเสียซางจื้อเหนียนนึกถึงโจวซูไป๋ อายุไม่ต่างกับเซ่าสวินมากนักเซ่าเยว่ชอบเด็กหนุ่มเอ๊าะ ๆ จริงเหรอ?มือที่ห้อยอยู่ข้างกายพลันกำแน่น ใบหน้าของเขานั้นแยกไม่ออกว่ายินดีหรือโกรธเคือง “แล้ว?”เซ่าสวินชะงักไป ขมวดคิ้ว “แล้วก็ขอให้ต่อไปนายอย่ามาวุ่นวายกับเธออีก เข้าใจไหม?”ซางจื้อเหนียนกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “งั้นเหรอ?”คำพูดของเซ่าสวินนั้นชัดเจนแจ่มแจ้ง ไม่รู้ว่าหมอนี่ยังจะมีอะไรให้มาย้อนถามอีก เขายิ่งรังเกียจหมอนี่มากขึ้นทุกที “ไม่ใช่หรือไง? หรือว่าเซ่าเยว่จะเป็นฝ่ายเข้าไปวุ่นวายกับนาย?

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 253

    เซ่าสวินสูงประมาณหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร สูงราว ๆ คิ้วของซางจื้อเหนียน ปีนี้ซางจื้อเหนียนอายุได้ยี่สิบแปดปี เทียบกับเซ่าสวินที่เพิ่งจะอายุยี่สิบปีแล้วก็ยังห่างกันอยู่ตั้งแปดปี แม้ว่าจะใกล้ถึงเลขสามแล้ว ทว่ายังห่างจากวัยกลางคนที่แท้จริงอยู่มากโขยิ่งไปกว่านั้นคือประธานใหญ่ซางหน้าตาหล่อเหลาเหนือสามัญ จากหน้าตาสุดแสนจะเพอร์เฟกต์ของเขาแล้ว ต่อให้แก่ก็ยังเป็นผู้ชายหน้าตาดี ยิ่งกว่านั้น ประธานใหญ่ก็ยืนหลังเหยียดตรง โครงหน้าคมชัดราวกับได้รับการแกะสลัก กลิ่นอายน่าเกรงขามทั้งที่ไม่แสดงสีหน้าดุดัน สูงส่งเย็นชาและเย่อหยิ่งเป็นอย่างยิ่ง ไม่ได้ดูน่าเบื่อเอือมระอาเลยสักนิดพูดได้แค่ว่า เซ่าสวินค่อนข้างตั้งการ์ด ทั้งมีอคติไม่เบาต่อผู้ชายน่าสงสัยทุกประเภทที่มาโผล่อยู่หน้าประตูบ้านของเซ่าเยว่ในตอนนี้ ในสายตาของเขานั้น ซางจื้อเหนียนก็เป็นหนึ่งการมีอยู่ของพวกห่วย ๆ ไม่เอาไหนซางจื้อเหนียนประหลาดใจไม่น้อยคนอายุน้อยรุ่น ๆ เซ่าสวินแบบนี้ ส่วนใหญ่พอเห็นเขาก็จะพากันกลัวหัวหดคนที่กล้ามองเขาตรง ๆ นั้นมีค่อนข้างน้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนที่ชี้หน้าต่อว่าเขาเลยซางจื้อเหนียนผ่านโลกผ่านประสบการณ์มาเยอะ ทว่าส

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 252

    ตอนทำงาน เซ่าเยว่มักจะมีบรรยากาศที่ดูมีความเชี่ยวชาญอย่างหนึ่ง ทั้งจริงจัง เย็นชา และมีสมาธิเซ่าสวินรู้สึกกังวลขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ จู่ ๆ เขาก็กดข้อมือของเธอไว้ พลางโน้มลำตัวช่วงบนลงเล็กน้อยแล้วถาม “ปลอดภัยแน่นะ?”เซ่าเยว่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ปลอดภัย”เซ่าสวินถามอีก “จะแกะรอยมาไม่ถึงตัวเธอใช่ไหม? ถูกจับได้ทีนี่เข้าคุกเลยนะ”เซ่าเยว่ว่า “ถ้าพี่อยู่ที่บริษัทนาย แล้วเซี่ยหมิงลงมือกับนายละก็ พี่จะรู้ตัวทันที เซี่ยหมิงก็คงถูกจับเข้าคุกไปแล้ว”เซ่าสวิน “ตอนนี้ฉันกำลังถามเธอนะ รับรองความปลอดภัยของตัวเองได้แน่ใช่ไหม?”เซ่าเยว่มองความกังวลของเขาออก “สบายใจได้ ตอนนี้พี่มีหลาย ๆ เรื่องที่ต้องทำ ทั้งเขียนวิทยานิพนธ์ของพี่ ใช้ชีวิตของตัวพี่เอง พี่ไม่ยอมให้ตัวเองต้องตกไปอยู่ในอันตรายหรอกน่า”เธอทำงานใหญ่ที่ฮ่องกงมาแล้ว ถ้าไม่มั่นใจว่าตัวเองไม่มีทางพลาดแน่ ๆ เซ่าเยว่ไม่มีทางลงมือเซ่าเยว่เห็นเขายังเป็นกังวล เลยมีสีหน้าไม่เข้าใจสักนิด “เธอจะเอาจริงเอาจังขนาดนี้ไปทำไม มันก็แค่เรื่องสิบกว่านาทีเท่านั้นเอง ง่ายจะตาย ถ้าเธอยังจะเอาแต่ลุกลี้ลุกลนอยู่แบบนี้นะ ก็ไปเข้าห้องน้ำไป เข้าเสร็จพี่ก็เ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 251

    เซ่าเยว่เรียนอะไรก็ตามล้วนเรียนรู้ได้ไว เรื่องวาดรูปก็เหมือนกันเพราะความสามารถในการคิดเชิงพื้นที่สูง เธอเลยชอบภาพวาดพู่กันจีนที่มีการยืดมิติพื้นที่หรือไม่ก็ให้ความรู้สึกได้สัดส่วน แบบนี้จะทำให้เธอนึกถึงสูตรคณิตศาสตร์เลยค่อนข้างชอบวาดรูปไม้ไผ่เป็นพิเศษตอนเด็ก ๆ เซ่าเยว่ค่อนข้างซน เธอมักจะไปขโมยผลงานของเหลียงหงเม่าอยู่บ่อย ๆ ตอนนี้ในสตูดิโอเลยติดภาพของตาแก่นั่นไว้อยู่หลายภาพเนื่องจากตอนที่เซ่าเยว่เรียนวาดภาพมักทำอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ ทั้งยังชอบก่อความวุ่นวาย หลัก ๆ คือตอนนั้นมีของที่เธอสนใจค่อนข้างเยอะ ไม่ได้ตั้งสมาธิทั้งหมดมาลงกับการวาดภาพขนาดนั้น เหลียงหงเม่าเลยรู้สึกว่าเซ่าเยว่หยาบกระด้างเกินไป จิตใจว่อกแว่ก ทำอะไรให้สำเร็จไม่ได้หรอก เลยตัดสินใจไม่สอนเซ่าสวินยิ่งดูก็ยิ่งอยากหัวเราะ “นี่เธอขโมยรูปของตาแก่นั่น แถมยังเก็บเอาไว้ตั้งหลายปีขนาดนี้อีก เธอไม่กลัวว่าเขาจะมาเอาเรื่องกับเธอหรือไง?”จำนวนมากทีเดียวเชียว หากเอาไปประมูลขายในตลาด อาจจะถึงขั้นที่ซื้อซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นเล็กเครื่องนั้นของเธอกลับมาได้เลยเซ่าเยว่ “เขาก็แค่ปิดตาไปข้างหนึ่งก็เท่านั้น ถือว่าให้พี่ไป”เซ่าสวิน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status