Share

บทที่ 5

Author: ในน้ำมีปลา
“ใช่...ใช่ค่ะ คุณนายไม่ได้โทรหาป้า ป้าก็โทรไม่ติดเหมือนกัน อาจ...อาจจะบล็อกป้าไปแล้วก็ได้มั้งคะ”

“แกร๊ก”

เจียงเฉินหานวางตะเกียบลง เดินจากไปด้วยสีหน้าเย็นชา

ป้าหลี่ “...”

เธอคิดผิดแล้ว แค่คุณนายทำให้คุณผู้ชายไม่พอใจ เขาก็จะโมโหทันที

เดิมทีป้าหลี่หวังว่าเซ่าเยว่จะปล่อยให้คุณเจียงรอก่อนอีกหลายวัน แต่ตอนนี้ไม่คิดแบบนี้แล้ว

คนนอกอย่างเธอยังดูออกเลยว่าคุณเจียงชอบแบบอ่อนโยน ไม่ชอบแบบแข็งกร้าว เซ่าเยว่คงรู้ดีกว่าใครอยู่แล้ว ตั้งแต่แรกก็ไม่ควรเล่นแผนแสร้งปล่อยเพื่อให้จับแบบนี้เลย

เซ่าเยว่ทำแบบนี้ ทำให้ชีวิตของเธอก็ลำบากขึ้นไปด้วย

ช่างน่ารำคาญจริง ๆ

……

เจียงเฉินหานมาถึงบริษัท หลังจากประชุมประจำวันเสร็จไม่นาน เลขาก็เคาะประตูเข้ามา พร้อมส่งถุงของขวัญมาให้

เจียงเฉินหานเปิดดู

ป็นแหวนเรียบ ๆ วงหนึ่ง

กู้อี้ชวนบอกอีกว่า หลังเซ่าเยว่ขายแหวนแต่งงานไปแล้ว ยังไปเดินดูร้านเครื่องประดับอื่น ๆ อีกด้วย

ดังนั้นสองวันที่หายไป จริง ๆ แล้วรออยู่ที่นี่เหรอ?

อีกเดี๋ยวคงหิ้วข้าวกล่องมาส่งที่บริษัทอีกเหมือนเคยสินะ

เจียงเฉินหานขมวดคิ้วขึ้นในทันที

ปิดกล่องแหวน แล้ววางไว้ข้าง ๆ อย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นก็ทุ่มเทกับงานต่อ

ผ่านไปสักพัก เขาโทรศัพท์แจ้งสวี่หลินด้วยเสียงเย็นชา “วันนี้ห้ามให้เซ่าเยว่เข้าบริษัทเด็ดขาด!”

เขาไม่ชอบที่เซ่าเยว่ใช้เล่ห์เหลี่ยมเล่นกับเขา

หลังวางสาย เจียงเฉินหานก็โยนกล่องแหวนลงถังขยะอย่างไม่ไยดี

……

วันจันทร์ วันทำงาน

เซ่าเยว่นั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองอย่างตรงเวลา

หลังแต่งงานใหม่ ๆ เธอไม่ได้ไปทำงาน แต่ในงานเลี้ยงครอบครัวครั้งหนึ่ง ขณะที่คุณปู่เจียงไม่ได้อยู่ที่นั่น แม่ของเจียงเฉินหาน ไช่อิ๋ง ก็ได้ตำหนิเธอต่อหน้าคนทั้งงาน

บอกว่าเธอไม่ทำอะไรเลย เอาแต่กินดื่มฟรี ๆ อยู่ที่บ้าน แถมยังไม่มีลูกอีกต่างหาก ดูแลเจียงเฉินหานก็ดูแลไม่ดี เวลาออกไปเจอเพื่อนแล้วพูดถึงสะใภ้คนนี้ ก็ไม่มีหน้าไปอวดใครได้เลย

ตอนนั้นเจียงเฉินหานก็อยู่ด้วย แต่กลับไม่ช่วยออกปากปกป้องเธอ ปล่อยให้แม่ของเขาพูดจาทำร้ายเธออย่างเจ็บแสบ

ในคืนนั้นเอง เซ่าเยว่ส่งเรซูเม่สมัครงานทันที

ไม่ใช่เจียงซื่อกรุป แต่เป็นเอสกรุป

เอสกรุปเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ก่อตั้งมาไม่ถึงห้าปี มีมูลค่าตลาดทะลุห้าล้านล้านบาทไปแล้ว

ในฐานะที่เอสกรุปเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับแนวหน้า แม้แต่ตำแหน่งเลขา ก็ยังต้องเป็นบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับประเทศ

เซ่าเยว่จบจากมหาวิทยาลัยเอ วุฒิการศึกษาเพียงพอแล้ว แถมเธอยังเรียนสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่กำลังมาแรงที่สุด จึงสามารถเข้าแผนกวิจัยและพัฒนาได้

แต่โดยทั่วไป งานสายเทคนิคมักจะทำตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงสามทุ่ม หกวันต่อสัปดาห์ ถ้าโปรเจกต์ใหญ่ก็ต้องทุ่มเททำงานกันทั้งวันทั้งคืน แบบนี้ก็ไม่มีเวลาไปดูแลเจียงเฉินหานแล้ว

เซ่าเยว่จึงเลือกตำแหน่งงานฝ่ายบริหารที่ไม่หนักมากนัก กลายเป็นเลขาของสำนักงาน CEO

หลังจากคุณปู่เจียงรู้เรื่อง ก็หวังว่าเธอจะกลับไปที่เจียงซื่อกรุป

ยังไงก็เป็นบริษัทของบ้านตัวเอง ไม่ต้องเคร่งครัดเรื่องเวลาเข้างานหรือเลิกงาน ไม่ลำบากเกินไป และยังมีอิสระอีกด้วย

เซ่าเยว่รู้ดีว่าไช่อิ๋งเกลียดชังเธอมาก ถ้าไปทำงานที่เจียงซื่อกรุป ก็จะยิ่งง่ายต่อการทำให้เธออับอาย แถมยังจะถูกด่าว่าตั้งใจจะยึดทรัพย์สินของตระกูลเจียงอีกด้วย

ที่เอสกรุป ไม่มีเรื่องวุ่นวายเหล่านี้

เพราะเซ่าเยว่ท้อง สัปดาห์ที่แล้วจึงเขียนใบลาออกไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้ไม่คิดจะยื่นแล้ว

เธอต้องเขียนวิทยานิพนธ์ใหม่ จำเป็นต้องเข้าใจข้อมูลในสายงาน เอสกรุปเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุด อาศัยบริษัททำให้ได้รับทรัพยากรและโอกาสจำนวนมาก

งานเลขานุการที่ค่อนข้างสบาย ทำให้เธอมีเวลามากพอที่จะใช้กับการเขียนวิทยานิพนธ์

“เซ่าเยว่ วันนี้ไม่เอาข้าวกล่องมาด้วยเหรอ?”

เพื่อนร่วมงานโต๊ะข้าง ๆ ถามขึ้นด้วยความสงสัย

บางครั้งเซ่าเยว่ก็หิ้วข้าวกล่องกล่องสวย ๆ มาทำงานด้วย แต่พอถึงตอนเที่ยงก็หิ้วข้าวกล่องออกจากบริษัทไป ไม่รู้ว่าไปให้ใคร

ข้าวกล่องนั้น เซ่าเยว่ทำให้เจียงเฉินหาน

เวลาเจียงเฉินหานไปพบปะสังสรรค์เชิงธุรกิจก็มักจะดื่มเหล้า วันต่อมาเธอจะตื่นเช้ามาก ทำข้าวกล่องที่ช่วยบำรุงกระเพาะให้เขา

เจียงเฉินหานหิ้วข้าวกล่องไปที่บริษัทเป็นเรื่องง่ายที่สุดแล้ว แต่เขากลับเห็นว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก ไม่ยอมทำแม้แต่เรื่องง่าย ๆ ที่สะดวกจะทำ

เซ่าเยว่จึงต้องหิ้วข้าวกล่องของเขาไปที่บริษัท ช่วงพักกลางวันเธอจะเรียกรถไปส่งให้

โชคดีที่ระยะทางไม่ไกล และเวลายังพอทัน

เซ่าเยว่ “ไม่อยากทำข้าวกล่องแล้วน่ะ”

และก็ไม่จำเป็นแล้วด้วย

ตอนนี้เอง หัวหน้าฝ่ายเลขานุการ มั่วหนานหว่าน ก็เดินเข้ามาด้วยท่าทีรีบร้อน พร้อมประกาศข่าวสำคัญ

“ประธานกรุปจะกลับประเทศวันจันทร์หน้า เราต้องจัดเรียงรวบรวมเอกสารจากแต่ละฝ่ายให้เรียบร้อย เพื่อให้ท่านประธานสามารถตรวจสอบเอกสารได้ครบถ้วนและถูกต้อง”

มั่วหนานหว่านเคาะโต๊ะอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว “ทุกคนเร่งมือกันหน่อย”

การเติบโตของเอสกรุปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเป็นดั่งปาฏิหาริย์ แต่สิ่งที่ลึกลับที่สุดก็คือผู้ก่อตั้งของบริษัทนี้

เขาออกไปบุกเบิกตลาดในต่างประเทศมาโดยตลอด ส่วนคนที่ดูแลบริษัทอยู่คือรองประธาน เฟิงเยี่ยน

ผู้มีอำนาจตัวจริงของกรุป เซ่าเยว่ไม่เคยเจอเลย

หลังจากที่ทุกคนตกใจและตื่นเต้นกันแล้ว ก็เริ่มต้นวันอันแสนวุ่นวายทันที

......

เจียงซื่อกรุป

ผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวในห้องทำงานของเจียงเฉินหานอย่างไม่ทันตั้งตัว

ต้องรู้ไว้ว่า การจะพบประธานเจียงต้องนัดล่วงหน้า แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้อยู่ในรายชื่อ

นอกจากนี้ สวี่หลินยังลงมารับเธอด้วยตัวเอง พาเธอไปพบท่านประธาน เมื่อออกมาก็ยังปิดประตูให้อีกด้วย

การต้อนรับที่พิเศษแบบนี้ ทำให้พนักงานฝ่ายเลขานุการตกใจและสงสัยกันว่า “ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครน่ะ สวยสง่ามาก เหมือนดาราในทีวีเลย”

“ประธานเจียงไม่ชอบการพบปะทางธุรกิจที่ไม่ได้วางแผนล่วงหน้า แต่วันนี้เขายอมยกเว้นเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง แปลกมาก”

“ประธานเจียงไม่สนใจผู้หญิงมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ฉันทำงานมาหลายปีแล้ว ยังไม่เคยเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงตามลำพังในห้องทำงานเลย”

ทุกคนเริ่มคิดกันเบา ๆ ว่า “พวกเธอว่า ใช่คุณนายในอนาคตหรือเปล่า?”

หลังแต่งงาน เจียงเฉินหานก็ปกปิดเรื่องแต่งงานไว้ ไม่มีใครรู้ว่าเขาแต่งงานแล้ว นอกจากเพื่อนร่วมกลุ่ม

เจียงเฉินหานประพฤติตัวในเรื่องผู้หญิงได้ดี ไม่เคยมีข่าวฉาวใด ๆ การปฏิบัติต่อเพศตรงข้ามด้วยความแตกต่างจึงดูหายากเป็นพิเศษ การคาดเดาว่าเธอจะเป็นคุณนายในอนาคตจึงสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง

ในห้องทำงาน

พอเจียงเฉินหานเห็นเซี่ยอวิ๋นซู ก็วางงานที่กำลังทำอยู่ลงทันที

เซี่ยอวิ๋นซูเดินไปหน้าโต๊ะทำงานของเจียงเฉินหาน ใช้สองมือยันโต๊ะ ร่างกายโน้มไปข้างหน้า ก้มมองนิ้วมือว่างเปล่าที่ไม่มีแหวนของเขาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะถามว่า “นายยังไม่ได้รับแหวนเหรอ?”

เจียงเฉินหานชะงักไปเล็กน้อย “เธอเป็นคนส่งมาเหรอ?”

ไม่ใช่เซ่าเยว่ที่ซื้อให้เขาเหรอ?

“เมื่อคืนฉันสัญญาว่าจะไปกินข้าวกับนาย แต่ทางศาสตราจารย์ไต้มีเรื่องด่วนกะทันหัน ปล่อยให้นายรอเก้อแล้ว เลยให้ของขวัญนายเป็นการชดเชยน่ะ”

เซี่ยอวิ๋นซูโชว์แหวนที่นิ้วนางให้ดู “แหวนผู้ชายของแบรนด์นี้มีไม่มาก รุ่นเดียวที่ฉันถูกใจคือรุ่นคู่รักนี้ ฉันน่ะแค่ใส่เล่น ๆ ส่วนที่ให้นายก็เลือกแบบที่ดูดีมีรสนิยมแล้ว นายไม่ว่าอะไรใช่ไหม?”

ถึงจะพูดแบบนี้ แต่เธอรู้ดีว่าเจียงเฉินหานจะไม่ว่าอะไรแน่นอน

เจียงเฉินหานดึงสติกลับมา จึงนึกขึ้นได้ว่าโยนกล่องแหวนลงถังขยะไปแล้ว เขาก้มตัวลงไปเก็บขึ้นมา วางไว้ในมืออย่างตั้งใจดู สีหน้าไม่ได้แสดงความรังเกียจเหมือนเมื่อครู่แล้ว

เซี่ยอวิ๋นซูสีหน้าแข็งทื่อเล็กน้อย “นายทิ้งแล้ว?”

เจียงเฉินหานมองเธอแวบหนึ่ง เก็บความรู้สึกเล็ก ๆ ของเธอไว้ในสายตา

จากนั้นเปิดกล่อง หยิบแหวนออกมา แล้วสวมที่นิ้วนางข้างซ้าย

เจียงเฉินหานแววตาอบอุ่น “ไม่รู้ว่าเธอเป็นคนส่งมา”

สีหน้าของเซี่ยอวิ๋นซูจึงดูดีขึ้นมาบ้างในที่สุด

กู้อี้ชวนเคยพูดว่า เจียงเฉินหานไม่เคยใส่แหวนแต่งงานเลย เว้นแต่ว่าจะมีสถานการณ์ที่จำเป็นจริง ๆ

สาเหตุในเรื่องนี้เดาได้ไม่ยากเลย

เจียงเฉินหานถาม “เธอโกรธเหรอ?”

เซี่ยอวิ๋นซูส่ายหน้า “ไม่โกรธหรอก นายไม่ได้ไม่ชอบแหวนวงนี้ซะหน่อย”

แต่เป็นคนต่างหาก

เซี่ยอวิ๋นซู “ชอบไหม?”

“สวยมาก” เจียงเฉินหานพยักหน้า แล้วถามต่อว่า “เมื่อวานเธอยุ่งอะไรเหรอ?”

เซี่ยอวิ๋นซู “โปรเจกต์ของศาสตราจารย์ไต้ติดขัดอยู่จุดหนึ่ง ฉันกลับบ้านไปดูข้อมูลทั้งคืนแต่ยังไม่มีไอเดียดี ๆ โชคดีที่บริษัทของเพื่อนร่วมชั้นฉันเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีนี้พอดี ฉันตั้งใจว่าจะหาเวลาไปปรึกษาเขาดู”

เถ้าแก่ของบริษัทนี้ชื่อเฉิงเหยียนโย่ว บังเอิญมากที่เป็นศิษย์จากมหาวิทยาลัยเอเหมือนกัน แถมยังเป็นรุ่นน้องของเธออยู่ไม่กี่รุ่นอีกด้วย

ในเมื่อเป็นศิษย์จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน การจะผูกมิตรกับเธอจึงง่ายมาก
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 256

    เซ่าสวินมองแล้วก็หัวเราะเยาะใส่เสียงเย็น “ถ้านี่ไม่เรียกว่าประจบ แล้วมันคืออะไร?”เซ่าเยว่ตวัดสายตามองเขาเล็กน้อยนั่นแหละเซ่าสวินถึงได้ใส่ที่หุ้มรองเท้าอย่างเชื่องช้า เซ่าเยว่เดินเข้าไปก่อน เซ่าสวินเห็นแบบนั้น หลังจากที่ใส่ที่หุ้มรองเท้าแล้วก็ไปเหยียบที่พื้นด้านนอกประตูสักสองที ถึงได้ตามเธอเข้าไปเซ่าสวินรู้สึกสนใจกับแค่ห้องของเซ่าเยว่เท่านั้น เขาไม่ได้มองการตกแต่งภายในบ้านของซางจื้อเหนียนสักเท่าไร เพียงแต่ตามอยู่ด้านหลังเซ่าเยว่ด้วยใบหน้าไม่พอใจเมื่อเซ่าเยว่หยุด เขาเองก็หยุดตามซางจื้อเหนียนกำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา เซ่าเยว่รู้มานานแล้วว่าเวลาส่วนตัวนั้นเขาจะไม่เหมือนกับรูปลักษณ์ภายนอกที่เอาจริงเอาจัง กลับจะทำตัวตามสบาย ทำเรื่องที่มีชีวิตชีวาเสียมากกว่า ไม่ใช่ประธานใหญ่ผู้แข็งทื่อไร้ชีวิตชีวาเซ่าเยว่เดินมาถึงตรงหน้าเขาแล้วนั่นแหละ ซางจื้อเหนียนถึงได้หันไปมอง เขามองเซ่าเยว่ก่อนเล็กน้อย แล้วค่อยมองไปทางเซ่าสวินที่อยู่ด้านหลังเธอเซ่าสวินสัมผัสได้ถึงแววตาของเขา แล้วก็ทำตัวดีทั้งที่ไม่ใช่เพราะเซ่าเยว่อยู่ด้านหน้า สายตานั่นทั้งดุดันทั้งโหดเหี้ยมราวกับหมาป่าเลยทีเดียวซางจื้อเหนี

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 255

    เซ่าสวิน “...”เซ่าสวินลากเซ่าเยว่กลับบ้านโดยที่ไม่ต้องคิดเลยแม้แต่น้อย สีหน้าก็ย่ำแย่ยิ่งกว่าเธอเสียอีก “เธอจะไปขอโทษคนแซ่ซางนั่น? ทำไม!”เซ่าเยว่เองก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีท่าทีรุนแรงขนาดนี้ ทั้งสีหน้าเองก็ไม่น่าดูยิ่งกว่าเดิม “ขัดขวางขนาดนี้ เธอต้องไม่ได้ทำเรื่องดี ๆ แน่!”เซ่าสวิน “ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”เซ่าเยว่ไม่เชื่อเขาเลยสักนิด เปิดโทรศัพท์ดูกล้องวงจรปิดทันทีเซ่าสวินสีหน้าแข็งค้างไปในชั่วพริบตา เขาคิดจะแย่งมา แต่ก็คิดว่าแย่งมาก็ไม่มีประโยชน์อะไร ถึงยังไง จะช้าหรือเร็วเธอก็ต้องเห็นอยู่ดี เลยยอมรับตรง ๆ อย่างไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น “ฉันเห็นว่าคนแซ่ซางนั่นไม่ใช่คนดีอะไร เลยช่วยเธอสั่งสอนไปไม่กี่ประโยคเองแล้วจะทำไม? อีกอย่างนะ ชั้นนี้ก็มีพวกเธออยู่กันแค่สองหลัง แถมข้างบ้านยังเป็นผู้ชายน่าเอือมระอาอีก ฉันก็ต้องเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของเธออยู่แล้วสิ ในเมื่อฉันอยู่ที่นี่ แถมยังเป็นผู้ชายทั้งแท่ง จะช่วยเธอข่มขู่สักหน่อยแบบนั้น ฉันก็มีสิทธิ์ไหม?”เซ่าสวินยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองมีเหตุผล การกระทำที่เขาทำไปเมื่อครู่นี้ไม่มีอะไรผิดเลยสักนิดเดียวเมื่อเซ่าเยว่ได้ยินคำว่า ‘น่าเอือ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 254

    เซ่าสวินถึงขั้นเริ่มคิดแล้วว่าจะย้ายมาคอยดูเซ่าเยว่ดีไหม เพราะชีวิตหลังจากแต่งงานไปเซ่าเยว่ก็ไม่มีความสุขเลย และตอนนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรตอนนี้เตรียมตัวจะแบกรับหน้าที่นิด ๆ หน่อย เขาจะไม่เข้าไปยุ่มย่ามกับการเลือกของเซ่าเยว่ แต่ว่าเขาจะรับผิดชอบในการคุมเป็นด่านหน้า อย่างน้อยยามที่เซ่าเยว่จำเป็นต้องใช้งานเขา เขาก็ต้องอยู่ เธอจะได้ไม่ได้เผชิญหน้าเพียงลำพังเซ่าสวินอ่านคนแซ่ซางคนนี้ไม่ออก ลางสังหรณ์มันบอกว่าหมอนี้ไม่มีทางเป็นคนดีแน่ ดังนั้นเลยขอเตือนก่อนสักหน่อย จะดีที่สุดถ้าตัดความคิดของหมอนี่ทิ้งไปเสียซางจื้อเหนียนนึกถึงโจวซูไป๋ อายุไม่ต่างกับเซ่าสวินมากนักเซ่าเยว่ชอบเด็กหนุ่มเอ๊าะ ๆ จริงเหรอ?มือที่ห้อยอยู่ข้างกายพลันกำแน่น ใบหน้าของเขานั้นแยกไม่ออกว่ายินดีหรือโกรธเคือง “แล้ว?”เซ่าสวินชะงักไป ขมวดคิ้ว “แล้วก็ขอให้ต่อไปนายอย่ามาวุ่นวายกับเธออีก เข้าใจไหม?”ซางจื้อเหนียนกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “งั้นเหรอ?”คำพูดของเซ่าสวินนั้นชัดเจนแจ่มแจ้ง ไม่รู้ว่าหมอนี่ยังจะมีอะไรให้มาย้อนถามอีก เขายิ่งรังเกียจหมอนี่มากขึ้นทุกที “ไม่ใช่หรือไง? หรือว่าเซ่าเยว่จะเป็นฝ่ายเข้าไปวุ่นวายกับนาย?

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 253

    เซ่าสวินสูงประมาณหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร สูงราว ๆ คิ้วของซางจื้อเหนียน ปีนี้ซางจื้อเหนียนอายุได้ยี่สิบแปดปี เทียบกับเซ่าสวินที่เพิ่งจะอายุยี่สิบปีแล้วก็ยังห่างกันอยู่ตั้งแปดปี แม้ว่าจะใกล้ถึงเลขสามแล้ว ทว่ายังห่างจากวัยกลางคนที่แท้จริงอยู่มากโขยิ่งไปกว่านั้นคือประธานใหญ่ซางหน้าตาหล่อเหลาเหนือสามัญ จากหน้าตาสุดแสนจะเพอร์เฟกต์ของเขาแล้ว ต่อให้แก่ก็ยังเป็นผู้ชายหน้าตาดี ยิ่งกว่านั้น ประธานใหญ่ก็ยืนหลังเหยียดตรง โครงหน้าคมชัดราวกับได้รับการแกะสลัก กลิ่นอายน่าเกรงขามทั้งที่ไม่แสดงสีหน้าดุดัน สูงส่งเย็นชาและเย่อหยิ่งเป็นอย่างยิ่ง ไม่ได้ดูน่าเบื่อเอือมระอาเลยสักนิดพูดได้แค่ว่า เซ่าสวินค่อนข้างตั้งการ์ด ทั้งมีอคติไม่เบาต่อผู้ชายน่าสงสัยทุกประเภทที่มาโผล่อยู่หน้าประตูบ้านของเซ่าเยว่ในตอนนี้ ในสายตาของเขานั้น ซางจื้อเหนียนก็เป็นหนึ่งการมีอยู่ของพวกห่วย ๆ ไม่เอาไหนซางจื้อเหนียนประหลาดใจไม่น้อยคนอายุน้อยรุ่น ๆ เซ่าสวินแบบนี้ ส่วนใหญ่พอเห็นเขาก็จะพากันกลัวหัวหดคนที่กล้ามองเขาตรง ๆ นั้นมีค่อนข้างน้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนที่ชี้หน้าต่อว่าเขาเลยซางจื้อเหนียนผ่านโลกผ่านประสบการณ์มาเยอะ ทว่าส

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 252

    ตอนทำงาน เซ่าเยว่มักจะมีบรรยากาศที่ดูมีความเชี่ยวชาญอย่างหนึ่ง ทั้งจริงจัง เย็นชา และมีสมาธิเซ่าสวินรู้สึกกังวลขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ จู่ ๆ เขาก็กดข้อมือของเธอไว้ พลางโน้มลำตัวช่วงบนลงเล็กน้อยแล้วถาม “ปลอดภัยแน่นะ?”เซ่าเยว่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ปลอดภัย”เซ่าสวินถามอีก “จะแกะรอยมาไม่ถึงตัวเธอใช่ไหม? ถูกจับได้ทีนี่เข้าคุกเลยนะ”เซ่าเยว่ว่า “ถ้าพี่อยู่ที่บริษัทนาย แล้วเซี่ยหมิงลงมือกับนายละก็ พี่จะรู้ตัวทันที เซี่ยหมิงก็คงถูกจับเข้าคุกไปแล้ว”เซ่าสวิน “ตอนนี้ฉันกำลังถามเธอนะ รับรองความปลอดภัยของตัวเองได้แน่ใช่ไหม?”เซ่าเยว่มองความกังวลของเขาออก “สบายใจได้ ตอนนี้พี่มีหลาย ๆ เรื่องที่ต้องทำ ทั้งเขียนวิทยานิพนธ์ของพี่ ใช้ชีวิตของตัวพี่เอง พี่ไม่ยอมให้ตัวเองต้องตกไปอยู่ในอันตรายหรอกน่า”เธอทำงานใหญ่ที่ฮ่องกงมาแล้ว ถ้าไม่มั่นใจว่าตัวเองไม่มีทางพลาดแน่ ๆ เซ่าเยว่ไม่มีทางลงมือเซ่าเยว่เห็นเขายังเป็นกังวล เลยมีสีหน้าไม่เข้าใจสักนิด “เธอจะเอาจริงเอาจังขนาดนี้ไปทำไม มันก็แค่เรื่องสิบกว่านาทีเท่านั้นเอง ง่ายจะตาย ถ้าเธอยังจะเอาแต่ลุกลี้ลุกลนอยู่แบบนี้นะ ก็ไปเข้าห้องน้ำไป เข้าเสร็จพี่ก็เ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 251

    เซ่าเยว่เรียนอะไรก็ตามล้วนเรียนรู้ได้ไว เรื่องวาดรูปก็เหมือนกันเพราะความสามารถในการคิดเชิงพื้นที่สูง เธอเลยชอบภาพวาดพู่กันจีนที่มีการยืดมิติพื้นที่หรือไม่ก็ให้ความรู้สึกได้สัดส่วน แบบนี้จะทำให้เธอนึกถึงสูตรคณิตศาสตร์เลยค่อนข้างชอบวาดรูปไม้ไผ่เป็นพิเศษตอนเด็ก ๆ เซ่าเยว่ค่อนข้างซน เธอมักจะไปขโมยผลงานของเหลียงหงเม่าอยู่บ่อย ๆ ตอนนี้ในสตูดิโอเลยติดภาพของตาแก่นั่นไว้อยู่หลายภาพเนื่องจากตอนที่เซ่าเยว่เรียนวาดภาพมักทำอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ ทั้งยังชอบก่อความวุ่นวาย หลัก ๆ คือตอนนั้นมีของที่เธอสนใจค่อนข้างเยอะ ไม่ได้ตั้งสมาธิทั้งหมดมาลงกับการวาดภาพขนาดนั้น เหลียงหงเม่าเลยรู้สึกว่าเซ่าเยว่หยาบกระด้างเกินไป จิตใจว่อกแว่ก ทำอะไรให้สำเร็จไม่ได้หรอก เลยตัดสินใจไม่สอนเซ่าสวินยิ่งดูก็ยิ่งอยากหัวเราะ “นี่เธอขโมยรูปของตาแก่นั่น แถมยังเก็บเอาไว้ตั้งหลายปีขนาดนี้อีก เธอไม่กลัวว่าเขาจะมาเอาเรื่องกับเธอหรือไง?”จำนวนมากทีเดียวเชียว หากเอาไปประมูลขายในตลาด อาจจะถึงขั้นที่ซื้อซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นเล็กเครื่องนั้นของเธอกลับมาได้เลยเซ่าเยว่ “เขาก็แค่ปิดตาไปข้างหนึ่งก็เท่านั้น ถือว่าให้พี่ไป”เซ่าสวิน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status