แชร์

บทที่ 5

ผู้เขียน: ในน้ำมีปลา
“ใช่...ใช่ค่ะ คุณนายไม่ได้โทรหาป้า ป้าก็โทรไม่ติดเหมือนกัน อาจ...อาจจะบล็อกป้าไปแล้วก็ได้มั้งคะ”

“แกร๊ก”

เจียงเฉินหานวางตะเกียบลง เดินจากไปด้วยสีหน้าเย็นชา

ป้าหลี่ “...”

เธอคิดผิดแล้ว แค่คุณนายทำให้คุณผู้ชายไม่พอใจ เขาก็จะโมโหทันที

เดิมทีป้าหลี่หวังว่าเซ่าเยว่จะปล่อยให้คุณเจียงรอก่อนอีกหลายวัน แต่ตอนนี้ไม่คิดแบบนี้แล้ว

คนนอกอย่างเธอยังดูออกเลยว่าคุณเจียงชอบแบบอ่อนโยน ไม่ชอบแบบแข็งกร้าว เซ่าเยว่คงรู้ดีกว่าใครอยู่แล้ว ตั้งแต่แรกก็ไม่ควรเล่นแผนแสร้งปล่อยเพื่อให้จับแบบนี้เลย

เซ่าเยว่ทำแบบนี้ ทำให้ชีวิตของเธอก็ลำบากขึ้นไปด้วย

ช่างน่ารำคาญจริง ๆ

……

เจียงเฉินหานมาถึงบริษัท หลังจากประชุมประจำวันเสร็จไม่นาน เลขาก็เคาะประตูเข้ามา พร้อมส่งถุงของขวัญมาให้

เจียงเฉินหานเปิดดู

ป็นแหวนเรียบ ๆ วงหนึ่ง

กู้อี้ชวนบอกอีกว่า หลังเซ่าเยว่ขายแหวนแต่งงานไปแล้ว ยังไปเดินดูร้านเครื่องประดับอื่น ๆ อีกด้วย

ดังนั้นสองวันที่หายไป จริง ๆ แล้วรออยู่ที่นี่เหรอ?

อีกเดี๋ยวคงหิ้วข้าวกล่องมาส่งที่บริษัทอีกเหมือนเคยสินะ

เจียงเฉินหานขมวดคิ้วขึ้นในทันที

ปิดกล่องแหวน แล้ววางไว้ข้าง ๆ อย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นก็ทุ่มเทกับงานต่อ

ผ่านไปสักพัก เขาโทรศัพท์แจ้งสวี่หลินด้วยเสียงเย็นชา “วันนี้ห้ามให้เซ่าเยว่เข้าบริษัทเด็ดขาด!”

เขาไม่ชอบที่เซ่าเยว่ใช้เล่ห์เหลี่ยมเล่นกับเขา

หลังวางสาย เจียงเฉินหานก็โยนกล่องแหวนลงถังขยะอย่างไม่ไยดี

……

วันจันทร์ วันทำงาน

เซ่าเยว่นั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองอย่างตรงเวลา

หลังแต่งงานใหม่ ๆ เธอไม่ได้ไปทำงาน แต่ในงานเลี้ยงครอบครัวครั้งหนึ่ง ขณะที่คุณปู่เจียงไม่ได้อยู่ที่นั่น แม่ของเจียงเฉินหาน ไช่อิ๋ง ก็ได้ตำหนิเธอต่อหน้าคนทั้งงาน

บอกว่าเธอไม่ทำอะไรเลย เอาแต่กินดื่มฟรี ๆ อยู่ที่บ้าน แถมยังไม่มีลูกอีกต่างหาก ดูแลเจียงเฉินหานก็ดูแลไม่ดี เวลาออกไปเจอเพื่อนแล้วพูดถึงสะใภ้คนนี้ ก็ไม่มีหน้าไปอวดใครได้เลย

ตอนนั้นเจียงเฉินหานก็อยู่ด้วย แต่กลับไม่ช่วยออกปากปกป้องเธอ ปล่อยให้แม่ของเขาพูดจาทำร้ายเธออย่างเจ็บแสบ

ในคืนนั้นเอง เซ่าเยว่ส่งเรซูเม่สมัครงานทันที

ไม่ใช่เจียงซื่อกรุป แต่เป็นเอสกรุป

เอสกรุปเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ก่อตั้งมาไม่ถึงห้าปี มีมูลค่าตลาดทะลุห้าล้านล้านบาทไปแล้ว

ในฐานะที่เอสกรุปเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับแนวหน้า แม้แต่ตำแหน่งเลขา ก็ยังต้องเป็นบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับประเทศ

เซ่าเยว่จบจากมหาวิทยาลัยเอ วุฒิการศึกษาเพียงพอแล้ว แถมเธอยังเรียนสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่กำลังมาแรงที่สุด จึงสามารถเข้าแผนกวิจัยและพัฒนาได้

แต่โดยทั่วไป งานสายเทคนิคมักจะทำตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงสามทุ่ม หกวันต่อสัปดาห์ ถ้าโปรเจกต์ใหญ่ก็ต้องทุ่มเททำงานกันทั้งวันทั้งคืน แบบนี้ก็ไม่มีเวลาไปดูแลเจียงเฉินหานแล้ว

เซ่าเยว่จึงเลือกตำแหน่งงานฝ่ายบริหารที่ไม่หนักมากนัก กลายเป็นเลขาของสำนักงาน CEO

หลังจากคุณปู่เจียงรู้เรื่อง ก็หวังว่าเธอจะกลับไปที่เจียงซื่อกรุป

ยังไงก็เป็นบริษัทของบ้านตัวเอง ไม่ต้องเคร่งครัดเรื่องเวลาเข้างานหรือเลิกงาน ไม่ลำบากเกินไป และยังมีอิสระอีกด้วย

เซ่าเยว่รู้ดีว่าไช่อิ๋งเกลียดชังเธอมาก ถ้าไปทำงานที่เจียงซื่อกรุป ก็จะยิ่งง่ายต่อการทำให้เธออับอาย แถมยังจะถูกด่าว่าตั้งใจจะยึดทรัพย์สินของตระกูลเจียงอีกด้วย

ที่เอสกรุป ไม่มีเรื่องวุ่นวายเหล่านี้

เพราะเซ่าเยว่ท้อง สัปดาห์ที่แล้วจึงเขียนใบลาออกไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้ไม่คิดจะยื่นแล้ว

เธอต้องเขียนวิทยานิพนธ์ใหม่ จำเป็นต้องเข้าใจข้อมูลในสายงาน เอสกรุปเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุด อาศัยบริษัททำให้ได้รับทรัพยากรและโอกาสจำนวนมาก

งานเลขานุการที่ค่อนข้างสบาย ทำให้เธอมีเวลามากพอที่จะใช้กับการเขียนวิทยานิพนธ์

“เซ่าเยว่ วันนี้ไม่เอาข้าวกล่องมาด้วยเหรอ?”

เพื่อนร่วมงานโต๊ะข้าง ๆ ถามขึ้นด้วยความสงสัย

บางครั้งเซ่าเยว่ก็หิ้วข้าวกล่องกล่องสวย ๆ มาทำงานด้วย แต่พอถึงตอนเที่ยงก็หิ้วข้าวกล่องออกจากบริษัทไป ไม่รู้ว่าไปให้ใคร

ข้าวกล่องนั้น เซ่าเยว่ทำให้เจียงเฉินหาน

เวลาเจียงเฉินหานไปพบปะสังสรรค์เชิงธุรกิจก็มักจะดื่มเหล้า วันต่อมาเธอจะตื่นเช้ามาก ทำข้าวกล่องที่ช่วยบำรุงกระเพาะให้เขา

เจียงเฉินหานหิ้วข้าวกล่องไปที่บริษัทเป็นเรื่องง่ายที่สุดแล้ว แต่เขากลับเห็นว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก ไม่ยอมทำแม้แต่เรื่องง่าย ๆ ที่สะดวกจะทำ

เซ่าเยว่จึงต้องหิ้วข้าวกล่องของเขาไปที่บริษัท ช่วงพักกลางวันเธอจะเรียกรถไปส่งให้

โชคดีที่ระยะทางไม่ไกล และเวลายังพอทัน

เซ่าเยว่ “ไม่อยากทำข้าวกล่องแล้วน่ะ”

และก็ไม่จำเป็นแล้วด้วย

ตอนนี้เอง หัวหน้าฝ่ายเลขานุการ มั่วหนานหว่าน ก็เดินเข้ามาด้วยท่าทีรีบร้อน พร้อมประกาศข่าวสำคัญ

“ประธานกรุปจะกลับประเทศวันจันทร์หน้า เราต้องจัดเรียงรวบรวมเอกสารจากแต่ละฝ่ายให้เรียบร้อย เพื่อให้ท่านประธานสามารถตรวจสอบเอกสารได้ครบถ้วนและถูกต้อง”

มั่วหนานหว่านเคาะโต๊ะอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว “ทุกคนเร่งมือกันหน่อย”

การเติบโตของเอสกรุปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเป็นดั่งปาฏิหาริย์ แต่สิ่งที่ลึกลับที่สุดก็คือผู้ก่อตั้งของบริษัทนี้

เขาออกไปบุกเบิกตลาดในต่างประเทศมาโดยตลอด ส่วนคนที่ดูแลบริษัทอยู่คือรองประธาน เฟิงเยี่ยน

ผู้มีอำนาจตัวจริงของกรุป เซ่าเยว่ไม่เคยเจอเลย

หลังจากที่ทุกคนตกใจและตื่นเต้นกันแล้ว ก็เริ่มต้นวันอันแสนวุ่นวายทันที

......

เจียงซื่อกรุป

ผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวในห้องทำงานของเจียงเฉินหานอย่างไม่ทันตั้งตัว

ต้องรู้ไว้ว่า การจะพบประธานเจียงต้องนัดล่วงหน้า แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้อยู่ในรายชื่อ

นอกจากนี้ สวี่หลินยังลงมารับเธอด้วยตัวเอง พาเธอไปพบท่านประธาน เมื่อออกมาก็ยังปิดประตูให้อีกด้วย

การต้อนรับที่พิเศษแบบนี้ ทำให้พนักงานฝ่ายเลขานุการตกใจและสงสัยกันว่า “ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครน่ะ สวยสง่ามาก เหมือนดาราในทีวีเลย”

“ประธานเจียงไม่ชอบการพบปะทางธุรกิจที่ไม่ได้วางแผนล่วงหน้า แต่วันนี้เขายอมยกเว้นเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง แปลกมาก”

“ประธานเจียงไม่สนใจผู้หญิงมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ฉันทำงานมาหลายปีแล้ว ยังไม่เคยเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงตามลำพังในห้องทำงานเลย”

ทุกคนเริ่มคิดกันเบา ๆ ว่า “พวกเธอว่า ใช่คุณนายในอนาคตหรือเปล่า?”

หลังแต่งงาน เจียงเฉินหานก็ปกปิดเรื่องแต่งงานไว้ ไม่มีใครรู้ว่าเขาแต่งงานแล้ว นอกจากเพื่อนร่วมกลุ่ม

เจียงเฉินหานประพฤติตัวในเรื่องผู้หญิงได้ดี ไม่เคยมีข่าวฉาวใด ๆ การปฏิบัติต่อเพศตรงข้ามด้วยความแตกต่างจึงดูหายากเป็นพิเศษ การคาดเดาว่าเธอจะเป็นคุณนายในอนาคตจึงสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง

ในห้องทำงาน

พอเจียงเฉินหานเห็นเซี่ยอวิ๋นซู ก็วางงานที่กำลังทำอยู่ลงทันที

เซี่ยอวิ๋นซูเดินไปหน้าโต๊ะทำงานของเจียงเฉินหาน ใช้สองมือยันโต๊ะ ร่างกายโน้มไปข้างหน้า ก้มมองนิ้วมือว่างเปล่าที่ไม่มีแหวนของเขาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะถามว่า “นายยังไม่ได้รับแหวนเหรอ?”

เจียงเฉินหานชะงักไปเล็กน้อย “เธอเป็นคนส่งมาเหรอ?”

ไม่ใช่เซ่าเยว่ที่ซื้อให้เขาเหรอ?

“เมื่อคืนฉันสัญญาว่าจะไปกินข้าวกับนาย แต่ทางศาสตราจารย์ไต้มีเรื่องด่วนกะทันหัน ปล่อยให้นายรอเก้อแล้ว เลยให้ของขวัญนายเป็นการชดเชยน่ะ”

เซี่ยอวิ๋นซูโชว์แหวนที่นิ้วนางให้ดู “แหวนผู้ชายของแบรนด์นี้มีไม่มาก รุ่นเดียวที่ฉันถูกใจคือรุ่นคู่รักนี้ ฉันน่ะแค่ใส่เล่น ๆ ส่วนที่ให้นายก็เลือกแบบที่ดูดีมีรสนิยมแล้ว นายไม่ว่าอะไรใช่ไหม?”

ถึงจะพูดแบบนี้ แต่เธอรู้ดีว่าเจียงเฉินหานจะไม่ว่าอะไรแน่นอน

เจียงเฉินหานดึงสติกลับมา จึงนึกขึ้นได้ว่าโยนกล่องแหวนลงถังขยะไปแล้ว เขาก้มตัวลงไปเก็บขึ้นมา วางไว้ในมืออย่างตั้งใจดู สีหน้าไม่ได้แสดงความรังเกียจเหมือนเมื่อครู่แล้ว

เซี่ยอวิ๋นซูสีหน้าแข็งทื่อเล็กน้อย “นายทิ้งแล้ว?”

เจียงเฉินหานมองเธอแวบหนึ่ง เก็บความรู้สึกเล็ก ๆ ของเธอไว้ในสายตา

จากนั้นเปิดกล่อง หยิบแหวนออกมา แล้วสวมที่นิ้วนางข้างซ้าย

เจียงเฉินหานแววตาอบอุ่น “ไม่รู้ว่าเธอเป็นคนส่งมา”

สีหน้าของเซี่ยอวิ๋นซูจึงดูดีขึ้นมาบ้างในที่สุด

กู้อี้ชวนเคยพูดว่า เจียงเฉินหานไม่เคยใส่แหวนแต่งงานเลย เว้นแต่ว่าจะมีสถานการณ์ที่จำเป็นจริง ๆ

สาเหตุในเรื่องนี้เดาได้ไม่ยากเลย

เจียงเฉินหานถาม “เธอโกรธเหรอ?”

เซี่ยอวิ๋นซูส่ายหน้า “ไม่โกรธหรอก นายไม่ได้ไม่ชอบแหวนวงนี้ซะหน่อย”

แต่เป็นคนต่างหาก

เซี่ยอวิ๋นซู “ชอบไหม?”

“สวยมาก” เจียงเฉินหานพยักหน้า แล้วถามต่อว่า “เมื่อวานเธอยุ่งอะไรเหรอ?”

เซี่ยอวิ๋นซู “โปรเจกต์ของศาสตราจารย์ไต้ติดขัดอยู่จุดหนึ่ง ฉันกลับบ้านไปดูข้อมูลทั้งคืนแต่ยังไม่มีไอเดียดี ๆ โชคดีที่บริษัทของเพื่อนร่วมชั้นฉันเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีนี้พอดี ฉันตั้งใจว่าจะหาเวลาไปปรึกษาเขาดู”

เถ้าแก่ของบริษัทนี้ชื่อเฉิงเหยียนโย่ว บังเอิญมากที่เป็นศิษย์จากมหาวิทยาลัยเอเหมือนกัน แถมยังเป็นรุ่นน้องของเธออยู่ไม่กี่รุ่นอีกด้วย

ในเมื่อเป็นศิษย์จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน การจะผูกมิตรกับเธอจึงง่ายมาก
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 417

    เซ่าเยว่จับไหล่เขาไว้ แล้วดึงตัวเขาขึ้นมาโจวซูไป๋เบือนหน้าหนี ไม่กล้ามองเธอ แตกต่างกับตอนเป็นหนุ่มโฮสต์ที่ใช้สายตายั่วยวนราวกับคนละคนตอนนี้หน้าบางไม่เบา ทั้งกลัวจะรบกวนคนอื่น เลยระมัดระวังตัว“ฉันเชื่อนาย ไปกับพวกเราเถอะ”สายตาของซางจื้อเหนียนตกอยู่บนมือที่เซ่าเยว่วางอยู่บนใหญ่โจวซูไป๋เขาเดินไป แล้วดึงมือของเซ่าเยว่ออกแล้วกวาดตามองโจวซูไป๋อย่างไม่ตั้งใจอีกครั้งเซ่าเยว่มองมือที่ถูกซางจื้อเหนียนดึงไว้ แล้วก็มองเขาเล็กน้อยครั้นชายหนุ่มรับรู้ถึงสายตาของเธอ เลยเลื่อนสายตามาเซ่าเยว่เห็นความไม่พอใจแสนราบเรียบในดวงตาของเขาทำไมเขาถึงได้เป็นปฏิปักษ์กับโจวซูไป๋อยู่นิด ๆ นะ?ถ้าให้พูดกันตามปกติแล้ว ประธานใหญ่ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ายังกระทบกระเทือนอารมณ์ของเขาไปด้วยเลยเกิดอะไรขึ้น?ซางจื้อเหนียนปล่อยมือของเซ่าเยว่โจวซูไป๋กลับถอยหลังไปด้วยความตกใจ เนื่องด้วยถนนกันดารยังไม่ได้ลาดยาง ทางก็ขรุขระไม่เรียบ ถึงกับล้มไปด้านหลังโดยไม่ทันระวัง ก้นกระแทกลงบนก้อนหินเล็ก ๆ เข้า มันเจ็บจนเขาถึงกับแยกเขี้ยว หน้ายับยู่ยี่ไปหมดโจวซูไป๋ไม่กล้าร้องออกมาก เลยได้แ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 416

    เซ่าเยว่เข้าใจความกังวลของซางจื้อเหนียน แต่เธอเชื่อโจวซูไป๋เพราะโจวซูไป๋มักจะโพสต์อินสตาแกรม คอยบันทึกเรื่องราวประจำวันในรั้วมหาวิทยาลัย แล้วก็วิ่งไปสัมภาษณ์ที่กองถ่ายอยู่บ่อย ๆเขายังถ่ายวล็อกว่าในวันหนึ่งทำอะไรบ้าง อาจเป็นเพราะต่อไปจะต้องเป็นนักแสดง เลยถ่ายทั้งที่ใส่แมสก์อยู่เสมอ แฟนคลับในโซเชียลมีเดียก็มีอยู่ไม่มากนักเป็นคนที่มีตัวตนอยู่จริง ๆแม้ว่าจะเคยเจอกันเพียงครั้งเดียว แต่กลับสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจได้เซ่าเยว่ยังไม่ทันพูดอะไร โจวซูไป๋ก็รีบพูดขึ้นว่า “ที่ผมพูดไปทุกอย่างเป็นความจริง ไม่ได้โกหกเลย...”ซางจื้อเหนียนมีสีหน้าไร้อารมณ์ “ทำไมนายถึงติดต่อเซ่าเยว่?”เซ่าเยว่เชื่อโจวซูไป๋ ซางจื้อเหนียนคอยเป็นด่านหน้าตรวจสอบให้แบบนี้ ก็ดีไม่น้อยแต่เธอคอยมองตาของโจวซูไป๋อยู่ตลอด สายตาของคนเรามันจะเผยข้อมูลต่าง ๆ มากมาย โจวซูไป๋ซื่อสัตย์ เขาไม่โกหกหรอกซางจื้อเหนียนเองก็ต้องมองออกอยู่แล้ว คนทึ่ม ๆ คนหนึ่งไม่มีทางกล้าพูดจาเดชต่อหน้าเขาหรอกทำไมต้องถามมากมายขนาดนี้ด้วย?บางทีวันนี้ซางจื้อเหนียนอาจจะค่อนข้างรอบคอบไปหน่อย?โจวซูไป๋หลบตา “...สถานการณ์มันคับขัน ผมก็เลยส่งไปให้พี

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 415

    เซ่าเยว่ปลอบ “ไม่ต้องกังวล ประธานซางไม่ถือสานายหรอก”ซางจื้อเหนียน “...”เซ่าเยว่ไม่สนใจเขา คอยห่วงใยความรู้สึกของโจวซูไป๋...ซางจื้อเหนียนกำมือเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัวคอยมองโจวซูไป๋ด้วยความเย็นเยียบโจวซูไป๋ไม่กล้าสบตากับซางจื้อเหนียน แต่ก็สัมผัสได้ถึงอันตราย ราวกับจะเขมือบใครสักคนเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น เขาเลยหลบไปข้าง ๆ โดยอัตโนมัติ “ไม่...ไม่ถือสาจริง ๆ เหรอ?”เซ่าเยว่มองออกว่าโจวซูไป๋กลัวซางจื้อเหนียนเอามาก ๆ นี่ค่อนข้างจะเป็นเรื่องปกติด้วยซ้ำไป ประธานใหญ่มีรังสีแข็งแกร่ง ทั้งทำให้คนคาดเดาความคิดไม่ออก การที่เจอกับเขาแล้วไม่กลัวต่างหากถึงจะพบเจอได้น้อยเซ่าเยว่มองซางจื้อเหนียนเล็กน้อย ให้เขาวางใจ เลิกจ้องเขม็งเด็กมหาวิทยาลัยคนหนึ่งได้แล้ว เจ้าตัวเครียดไปหมดแล้ว ซางจื้อเหนียน “...”เขาเม้มปากแน่นกว่าเดิมเขาไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ โจวซูไป๋จะทำตัวอ่อนปวกเปียกแบบนี้เพื่อ?แต่เซ่าเยว่ดันหลงกลนี้เซ่าเยว่เดินมาตรงหน้าโจวซูไป๋ มองเศษหญ้าบนหัวเขา เอ่ยถามถึงเรื่องราวให้ชัดเจนก่อน “นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”ครั้นโจวซูไป๋นึกถึงเรื่องที่ตนเองเจอแล้วก็ทั้งเซ็ง ทั้งโมโห

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 414

    จู่ ๆ ซางจื้อเหนียนก็รู้สึกตลกขึ้นมาเจียงเฉินหานคนเดียวก็จะเต็มกลืนอยู่แล้ว ทำไมถึงได้มีหนุ่มน้อยหน้าหล่อมาอีกคนเล่า?หรือว่าเซ่าเยว่จะเป็นเหมือนกับที่เซ่าสวินว่าไว้จริง ๆ ที่ชอบคนอายุน้อย?ไม่อย่างนั้นทำไมเซ่าเยว่ถึงได้คิดจะขับรถมาหาหมอนี่ทั้งที่ข้อความก็ไม่ชัดเจน ถึงขั้นที่คิดจะให้เขากลับไปก่อน แล้วจะมาคนเดียวด้วยซ้ำซางจื้อเหนียนประมูลข้อมูลนี้ในหัวอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ไม่แสดงสีหน้าอะไรทั้งสิ้น เขาจำได้ว่าคราวก่อนเคยเจอหน้ากันอยู่หนหนึ่งที่ผับ ไม่รู้จักกระทั่งชื่อด้วยซ้ำเซ่าเยว่ถึงกับมาเพื่อหมอนี่ ซางจื้อเหนียนต้องมองหมอนี่ให้ดีเสียแล้วกวาดสายตาล้ำลึกและคมกริบมองตัวโจวซูไป๋ตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่รอบหนึ่ง แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นายชื่ออะไร?” โจวซูไป๋ถูกมองสำรวจด้วยสายตาเย็นยะเยือกก็แข็งทื่อไปทั้งตัวในชั่วพริบตาตอนที่เขาได้ยินเสียของเซ่าเยว่นั้น หัวใจเต้นระรัวเพราะตื่นเต้นเกินไป ถึงขั้นที่แทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความซึ้งใจด้วยซ้ำ ทว่าตอนนี้กระทั่งใบหน้ายิ้มแย้มก็ยังไม่กล้าทำความประทับใจของโจวซูไป๋ที่มีต่อซางจื้อเหนียนนั้นลึกซึ้งเกินบรรยาย เงียบขรึม ไม่แสดงอารมณ์ เปี่ย

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 413

    ซางจื้อเหนียนยกข้ออ้างอย่างหนึ่งออกมาโดยไร้ช่องโหว่ “ผมได้ยินมั่วหนานหว่านบอกว่าคุณจะลาออก ทำไมไม่บอกผม?”ชั่วพริบตาเดียวเซ่าเยว่ก็หายตกอกตกใจแล้ว “มันไม่ทันน่ะสิคะ วันนั้นพอตื่นเช้ามาก็ไม่เจอคุณแล้ว”เธอพูดถึงเหตุผลที่ลาออก “มันเกี่ยวกับแผนทางหน้าที่การงานน่ะค่ะ ตั้งแต่วันนี้ไปฉันจะร่วมสร้างธุรกิจกับเฉิงเหยียนโย่ว เธอรอฉันมาสามปีแล้ว ตั้งแต่นี้ฉันจะร่วมสู้ฝ่าฟันไปกับเธอ”เพื่อนสาวทั้งสองคนเริ่มหาเงินและทำกิจการแล้วหลังจากเซ่าเยว่หย่า กำลังวังชาและเวลาของเธอล้วนโฟกัสอยู่กับตัวของเธอเอง จนดึงแพสชันกลับมาได้ เซ่าเยว่ยังมีหลายสิ่งที่อยากลอง ทั่วทั้งตัวเปี่ยมล้นไปด้วยพลังที่ใช้ไม่หมด เต็มเปี่ยมไปด้วยกำลังวังชา ความรู้สึกแบบนี้มันดีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนมันจริงอย่างที่คิดเลย ร่างกายกำลังบอกเธอว่า เธอไม่เหมาะกับเจียงเฉินหาน“ประธานซาง การได้อยู่ในบริษัทของคุณมาสามปีเต็มนี่ พอหันกลับไปมองแล้วมันก็วิเศษไม่เบานะคะ”ก็เหมือนอย่างที่เฉิงเหยียนโย่วพูด งานง่าย ๆ สบาย ๆ มีตั้งมากมายขนาดนั้น ทำไมเธอถึงได้เลิกบริษัทของซางจื้อเหนียน ไม่อย่างนั้นคงไม่มีเรื่องราวมากมายขนาดนี้ตามมาแน่ซางจื้อเ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 412

    เซ่าเยว่นึกไม่ถึงว่าจะได้ยินเรื่องซุบซิบเข้าทว่าพอรู้แล้วก็ไม่ได้แปลกใจ ซางจื้อเหนียนยอดเยี่ยมขนาดนี้ คนที่ชอบเขาต้องเยอะมากแน่นอนซางจื้อเหนียนมีท่าทางเย็นชาตอนที่พูดเรื่องนี้ ก็เท่ากับว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเฟิงเจียเพราะถ้าชอบ เฟิงเจียคงได้เป็นแฟนเขาไปแล้ว ไม่ใช่เธอ“ฉันมั่นใจนะว่าเจอเธอเป็นครั้งแรก แล้วเรื่องความสัมพันธ์รักหลอก ๆ ของพวกเราก็ไม่มีใครรู้ด้วย ทำไมเฟิงเจียถึงได้มองฉันเป็นศัตรูรุนแรงขนาดนั้น?”ซางจื้อเหนียน “บางทีเธออาจจะเคยเจอพวกเรามาก่อน”เซ่าเยว่คิดว่าก็ใช่ เพราะเฟิงเจียเรียกชื่อเธอออกมาแต่เฟิงเจียก็ช่างขี้หึงเกินไปจริง ๆ ถึงจะถูกเฟิงเจียเจอเข้าฝ่ายเดียวโดยบังเอิญ แต่ตอนอยู่ข้างนอกเธอกับซางจื้อเหนียนก็ไม่ได้มีท่าทางใกล้ชิดสนิทสนมอะไร แค่นี้ก็ต้องหึง แล้วก็มาต่อว่าเธอเนี่ยนะ?เธอไม่ใช่ประเด็นสำคัญสักหน่อยคนที่เฟิงเจียชอบคือซางจื้อเหนียน ก็ต้องดูท่าทีของซางจื้อเหนียนสิ การที่มาจับจ้องผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเขาเนี่ย มันให้ความสำคัญสลับกันแล้วรอบตัวซางจื้อเหนียนจะต้องไม่ได้มีผู้หญิงอย่างเธอคนเดียวแน่ พอมีใครเข้ามาสักหนึ่งคน เฟิงเจียก็ต้องจัดการหนึ่งคน ไม่เห

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status