Share

บทที่ 5

Author: ในน้ำมีปลา
“ใช่...ใช่ค่ะ คุณนายไม่ได้โทรหาป้า ป้าก็โทรไม่ติดเหมือนกัน อาจ...อาจจะบล็อกป้าไปแล้วก็ได้มั้งคะ”

“แกร๊ก”

เจียงเฉินหานวางตะเกียบลง เดินจากไปด้วยสีหน้าเย็นชา

ป้าหลี่ “...”

เธอคิดผิดแล้ว แค่คุณนายทำให้คุณผู้ชายไม่พอใจ เขาก็จะโมโหทันที

เดิมทีป้าหลี่หวังว่าเซ่าเยว่จะปล่อยให้คุณเจียงรอก่อนอีกหลายวัน แต่ตอนนี้ไม่คิดแบบนี้แล้ว

คนนอกอย่างเธอยังดูออกเลยว่าคุณเจียงชอบแบบอ่อนโยน ไม่ชอบแบบแข็งกร้าว เซ่าเยว่คงรู้ดีกว่าใครอยู่แล้ว ตั้งแต่แรกก็ไม่ควรเล่นแผนแสร้งปล่อยเพื่อให้จับแบบนี้เลย

เซ่าเยว่ทำแบบนี้ ทำให้ชีวิตของเธอก็ลำบากขึ้นไปด้วย

ช่างน่ารำคาญจริง ๆ

……

เจียงเฉินหานมาถึงบริษัท หลังจากประชุมประจำวันเสร็จไม่นาน เลขาก็เคาะประตูเข้ามา พร้อมส่งถุงของขวัญมาให้

เจียงเฉินหานเปิดดู

ป็นแหวนเรียบ ๆ วงหนึ่ง

กู้อี้ชวนบอกอีกว่า หลังเซ่าเยว่ขายแหวนแต่งงานไปแล้ว ยังไปเดินดูร้านเครื่องประดับอื่น ๆ อีกด้วย

ดังนั้นสองวันที่หายไป จริง ๆ แล้วรออยู่ที่นี่เหรอ?

อีกเดี๋ยวคงหิ้วข้าวกล่องมาส่งที่บริษัทอีกเหมือนเคยสินะ

เจียงเฉินหานขมวดคิ้วขึ้นในทันที

ปิดกล่องแหวน แล้ววางไว้ข้าง ๆ อย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นก็ทุ่มเทกับงานต่อ

ผ่านไปสักพัก เขาโทรศัพท์แจ้งสวี่หลินด้วยเสียงเย็นชา “วันนี้ห้ามให้เซ่าเยว่เข้าบริษัทเด็ดขาด!”

เขาไม่ชอบที่เซ่าเยว่ใช้เล่ห์เหลี่ยมเล่นกับเขา

หลังวางสาย เจียงเฉินหานก็โยนกล่องแหวนลงถังขยะอย่างไม่ไยดี

……

วันจันทร์ วันทำงาน

เซ่าเยว่นั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองอย่างตรงเวลา

หลังแต่งงานใหม่ ๆ เธอไม่ได้ไปทำงาน แต่ในงานเลี้ยงครอบครัวครั้งหนึ่ง ขณะที่คุณปู่เจียงไม่ได้อยู่ที่นั่น แม่ของเจียงเฉินหาน ไช่อิ๋ง ก็ได้ตำหนิเธอต่อหน้าคนทั้งงาน

บอกว่าเธอไม่ทำอะไรเลย เอาแต่กินดื่มฟรี ๆ อยู่ที่บ้าน แถมยังไม่มีลูกอีกต่างหาก ดูแลเจียงเฉินหานก็ดูแลไม่ดี เวลาออกไปเจอเพื่อนแล้วพูดถึงสะใภ้คนนี้ ก็ไม่มีหน้าไปอวดใครได้เลย

ตอนนั้นเจียงเฉินหานก็อยู่ด้วย แต่กลับไม่ช่วยออกปากปกป้องเธอ ปล่อยให้แม่ของเขาพูดจาทำร้ายเธออย่างเจ็บแสบ

ในคืนนั้นเอง เซ่าเยว่ส่งเรซูเม่สมัครงานทันที

ไม่ใช่เจียงซื่อกรุป แต่เป็นเอสกรุป

เอสกรุปเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ก่อตั้งมาไม่ถึงห้าปี มีมูลค่าตลาดทะลุห้าล้านล้านบาทไปแล้ว

ในฐานะที่เอสกรุปเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับแนวหน้า แม้แต่ตำแหน่งเลขา ก็ยังต้องเป็นบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับประเทศ

เซ่าเยว่จบจากมหาวิทยาลัยเอ วุฒิการศึกษาเพียงพอแล้ว แถมเธอยังเรียนสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่กำลังมาแรงที่สุด จึงสามารถเข้าแผนกวิจัยและพัฒนาได้

แต่โดยทั่วไป งานสายเทคนิคมักจะทำตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงสามทุ่ม หกวันต่อสัปดาห์ ถ้าโปรเจกต์ใหญ่ก็ต้องทุ่มเททำงานกันทั้งวันทั้งคืน แบบนี้ก็ไม่มีเวลาไปดูแลเจียงเฉินหานแล้ว

เซ่าเยว่จึงเลือกตำแหน่งงานฝ่ายบริหารที่ไม่หนักมากนัก กลายเป็นเลขาของสำนักงาน CEO

หลังจากคุณปู่เจียงรู้เรื่อง ก็หวังว่าเธอจะกลับไปที่เจียงซื่อกรุป

ยังไงก็เป็นบริษัทของบ้านตัวเอง ไม่ต้องเคร่งครัดเรื่องเวลาเข้างานหรือเลิกงาน ไม่ลำบากเกินไป และยังมีอิสระอีกด้วย

เซ่าเยว่รู้ดีว่าไช่อิ๋งเกลียดชังเธอมาก ถ้าไปทำงานที่เจียงซื่อกรุป ก็จะยิ่งง่ายต่อการทำให้เธออับอาย แถมยังจะถูกด่าว่าตั้งใจจะยึดทรัพย์สินของตระกูลเจียงอีกด้วย

ที่เอสกรุป ไม่มีเรื่องวุ่นวายเหล่านี้

เพราะเซ่าเยว่ท้อง สัปดาห์ที่แล้วจึงเขียนใบลาออกไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้ไม่คิดจะยื่นแล้ว

เธอต้องเขียนวิทยานิพนธ์ใหม่ จำเป็นต้องเข้าใจข้อมูลในสายงาน เอสกรุปเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุด อาศัยบริษัททำให้ได้รับทรัพยากรและโอกาสจำนวนมาก

งานเลขานุการที่ค่อนข้างสบาย ทำให้เธอมีเวลามากพอที่จะใช้กับการเขียนวิทยานิพนธ์

“เซ่าเยว่ วันนี้ไม่เอาข้าวกล่องมาด้วยเหรอ?”

เพื่อนร่วมงานโต๊ะข้าง ๆ ถามขึ้นด้วยความสงสัย

บางครั้งเซ่าเยว่ก็หิ้วข้าวกล่องกล่องสวย ๆ มาทำงานด้วย แต่พอถึงตอนเที่ยงก็หิ้วข้าวกล่องออกจากบริษัทไป ไม่รู้ว่าไปให้ใคร

ข้าวกล่องนั้น เซ่าเยว่ทำให้เจียงเฉินหาน

เวลาเจียงเฉินหานไปพบปะสังสรรค์เชิงธุรกิจก็มักจะดื่มเหล้า วันต่อมาเธอจะตื่นเช้ามาก ทำข้าวกล่องที่ช่วยบำรุงกระเพาะให้เขา

เจียงเฉินหานหิ้วข้าวกล่องไปที่บริษัทเป็นเรื่องง่ายที่สุดแล้ว แต่เขากลับเห็นว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก ไม่ยอมทำแม้แต่เรื่องง่าย ๆ ที่สะดวกจะทำ

เซ่าเยว่จึงต้องหิ้วข้าวกล่องของเขาไปที่บริษัท ช่วงพักกลางวันเธอจะเรียกรถไปส่งให้

โชคดีที่ระยะทางไม่ไกล และเวลายังพอทัน

เซ่าเยว่ “ไม่อยากทำข้าวกล่องแล้วน่ะ”

และก็ไม่จำเป็นแล้วด้วย

ตอนนี้เอง หัวหน้าฝ่ายเลขานุการ มั่วหนานหว่าน ก็เดินเข้ามาด้วยท่าทีรีบร้อน พร้อมประกาศข่าวสำคัญ

“ประธานกรุปจะกลับประเทศวันจันทร์หน้า เราต้องจัดเรียงรวบรวมเอกสารจากแต่ละฝ่ายให้เรียบร้อย เพื่อให้ท่านประธานสามารถตรวจสอบเอกสารได้ครบถ้วนและถูกต้อง”

มั่วหนานหว่านเคาะโต๊ะอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว “ทุกคนเร่งมือกันหน่อย”

การเติบโตของเอสกรุปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเป็นดั่งปาฏิหาริย์ แต่สิ่งที่ลึกลับที่สุดก็คือผู้ก่อตั้งของบริษัทนี้

เขาออกไปบุกเบิกตลาดในต่างประเทศมาโดยตลอด ส่วนคนที่ดูแลบริษัทอยู่คือรองประธาน เฟิงเยี่ยน

ผู้มีอำนาจตัวจริงของกรุป เซ่าเยว่ไม่เคยเจอเลย

หลังจากที่ทุกคนตกใจและตื่นเต้นกันแล้ว ก็เริ่มต้นวันอันแสนวุ่นวายทันที

......

เจียงซื่อกรุป

ผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวในห้องทำงานของเจียงเฉินหานอย่างไม่ทันตั้งตัว

ต้องรู้ไว้ว่า การจะพบประธานเจียงต้องนัดล่วงหน้า แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้อยู่ในรายชื่อ

นอกจากนี้ สวี่หลินยังลงมารับเธอด้วยตัวเอง พาเธอไปพบท่านประธาน เมื่อออกมาก็ยังปิดประตูให้อีกด้วย

การต้อนรับที่พิเศษแบบนี้ ทำให้พนักงานฝ่ายเลขานุการตกใจและสงสัยกันว่า “ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครน่ะ สวยสง่ามาก เหมือนดาราในทีวีเลย”

“ประธานเจียงไม่ชอบการพบปะทางธุรกิจที่ไม่ได้วางแผนล่วงหน้า แต่วันนี้เขายอมยกเว้นเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง แปลกมาก”

“ประธานเจียงไม่สนใจผู้หญิงมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ฉันทำงานมาหลายปีแล้ว ยังไม่เคยเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงตามลำพังในห้องทำงานเลย”

ทุกคนเริ่มคิดกันเบา ๆ ว่า “พวกเธอว่า ใช่คุณนายในอนาคตหรือเปล่า?”

หลังแต่งงาน เจียงเฉินหานก็ปกปิดเรื่องแต่งงานไว้ ไม่มีใครรู้ว่าเขาแต่งงานแล้ว นอกจากเพื่อนร่วมกลุ่ม

เจียงเฉินหานประพฤติตัวในเรื่องผู้หญิงได้ดี ไม่เคยมีข่าวฉาวใด ๆ การปฏิบัติต่อเพศตรงข้ามด้วยความแตกต่างจึงดูหายากเป็นพิเศษ การคาดเดาว่าเธอจะเป็นคุณนายในอนาคตจึงสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง

ในห้องทำงาน

พอเจียงเฉินหานเห็นเซี่ยอวิ๋นซู ก็วางงานที่กำลังทำอยู่ลงทันที

เซี่ยอวิ๋นซูเดินไปหน้าโต๊ะทำงานของเจียงเฉินหาน ใช้สองมือยันโต๊ะ ร่างกายโน้มไปข้างหน้า ก้มมองนิ้วมือว่างเปล่าที่ไม่มีแหวนของเขาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะถามว่า “นายยังไม่ได้รับแหวนเหรอ?”

เจียงเฉินหานชะงักไปเล็กน้อย “เธอเป็นคนส่งมาเหรอ?”

ไม่ใช่เซ่าเยว่ที่ซื้อให้เขาเหรอ?

“เมื่อคืนฉันสัญญาว่าจะไปกินข้าวกับนาย แต่ทางศาสตราจารย์ไต้มีเรื่องด่วนกะทันหัน ปล่อยให้นายรอเก้อแล้ว เลยให้ของขวัญนายเป็นการชดเชยน่ะ”

เซี่ยอวิ๋นซูโชว์แหวนที่นิ้วนางให้ดู “แหวนผู้ชายของแบรนด์นี้มีไม่มาก รุ่นเดียวที่ฉันถูกใจคือรุ่นคู่รักนี้ ฉันน่ะแค่ใส่เล่น ๆ ส่วนที่ให้นายก็เลือกแบบที่ดูดีมีรสนิยมแล้ว นายไม่ว่าอะไรใช่ไหม?”

ถึงจะพูดแบบนี้ แต่เธอรู้ดีว่าเจียงเฉินหานจะไม่ว่าอะไรแน่นอน

เจียงเฉินหานดึงสติกลับมา จึงนึกขึ้นได้ว่าโยนกล่องแหวนลงถังขยะไปแล้ว เขาก้มตัวลงไปเก็บขึ้นมา วางไว้ในมืออย่างตั้งใจดู สีหน้าไม่ได้แสดงความรังเกียจเหมือนเมื่อครู่แล้ว

เซี่ยอวิ๋นซูสีหน้าแข็งทื่อเล็กน้อย “นายทิ้งแล้ว?”

เจียงเฉินหานมองเธอแวบหนึ่ง เก็บความรู้สึกเล็ก ๆ ของเธอไว้ในสายตา

จากนั้นเปิดกล่อง หยิบแหวนออกมา แล้วสวมที่นิ้วนางข้างซ้าย

เจียงเฉินหานแววตาอบอุ่น “ไม่รู้ว่าเธอเป็นคนส่งมา”

สีหน้าของเซี่ยอวิ๋นซูจึงดูดีขึ้นมาบ้างในที่สุด

กู้อี้ชวนเคยพูดว่า เจียงเฉินหานไม่เคยใส่แหวนแต่งงานเลย เว้นแต่ว่าจะมีสถานการณ์ที่จำเป็นจริง ๆ

สาเหตุในเรื่องนี้เดาได้ไม่ยากเลย

เจียงเฉินหานถาม “เธอโกรธเหรอ?”

เซี่ยอวิ๋นซูส่ายหน้า “ไม่โกรธหรอก นายไม่ได้ไม่ชอบแหวนวงนี้ซะหน่อย”

แต่เป็นคนต่างหาก

เซี่ยอวิ๋นซู “ชอบไหม?”

“สวยมาก” เจียงเฉินหานพยักหน้า แล้วถามต่อว่า “เมื่อวานเธอยุ่งอะไรเหรอ?”

เซี่ยอวิ๋นซู “โปรเจกต์ของศาสตราจารย์ไต้ติดขัดอยู่จุดหนึ่ง ฉันกลับบ้านไปดูข้อมูลทั้งคืนแต่ยังไม่มีไอเดียดี ๆ โชคดีที่บริษัทของเพื่อนร่วมชั้นฉันเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีนี้พอดี ฉันตั้งใจว่าจะหาเวลาไปปรึกษาเขาดู”

เถ้าแก่ของบริษัทนี้ชื่อเฉิงเหยียนโย่ว บังเอิญมากที่เป็นศิษย์จากมหาวิทยาลัยเอเหมือนกัน แถมยังเป็นรุ่นน้องของเธออยู่ไม่กี่รุ่นอีกด้วย

ในเมื่อเป็นศิษย์จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน การจะผูกมิตรกับเธอจึงง่ายมาก
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 100

    “...งั้นก็อวยพรให้พวกเขาเถอะ” คอมเมนต์ในเน็ตก็ตรงกับความเป็นจริงทั้งหมด เซ่าเยว่ไม่มีอะไรให้ประหลาดใจเฉิงเหยียนโย่วไม่มีอะไรจะพูดอยู่ครึ่งวัน ดีใจไปด้วยว่าเซ่าเยว่ไม่ค่อยสนใจนัก และสะอิดสะเอียนผู้ชายสารเลวไปด้วยไม่ว่าจะว่ายังไง เซ่าเยว่ก็สำคัญที่สุดเธอไม่อยากสนใจก็ไม่ต้องสนใจ ได้แต่อดกลั้นความสะอิดสะเอียนที่มีต่อผู้ชายสารเลวเอาไว้ และไม่พูดอะไรมากอีกจากนั้นก็พูดคุยกันอีกเล็กน้อย ก่อนที่ทั้งสองคนจะวางสายไปเซ่าเยว่ไม่สนใจเจียงเฉินหานกับเซี่ยอวิ๋นซูเลยจริง ๆ แต่ก็ยังกดเข้าไปในการค้นหาร้อนแรง โดยพิมพ์ชื่อของทั้งสองคนลงไปเลยไถตั้งแต่ต้นจนจบ ก็ไม่เห็นชื่อของซางจื้อเหนียนเลยโปรเจกต์การกุศลถูกนำเสนอออกมาเรื่อย ๆ ย่อมยิ่งดีอยู่แล้ว คนของตระกูลซือจะทำการโปรโมตอย่างยิ่งใหญ่ด้วยรูปลักษณ์ของซางจื้อเหนียน ถ้าโพสต์รูปภาพส่ง ๆ สักรูป ต้องขึ้นการค้นหาร้อนแรงแน่นอนแต่ไม่มีภาพเลยสักใบที่งานเลี้ยงเมื่อกี้มีสื่อมามากมายขนาดนั้น แต่รูปและวิดีโอที่เผยแพร่ออกไป คนของตระกูลซือจะตรวจสอบทั้งหมดเป็นได้แค่ท่าทางของตัวซางจื้อเหนียนเอง เขาชอบอยู่เงียบ ๆ มากกว่า ไม่อย่างนั้นตระกูลซือไม่มีเหตุผลใ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 99

    “นี่เป็นแค่การสมมติ แต่ในความเป็นจริงการสมมตินี้ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ เพราะงั้นเธอก็อย่าเอาสถานการณ์จริงมาโต้แย้งฉัน ฉันก็แค่อยากรู้ความคิดของเธอ”“จริงสิ ยังต้องกำจัดความสัมพันธ์ของเขากับเจียงเฉินหานด้วย สมมติว่าทั้งสองคนไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด แล้วซางจื้อเหนียนก็ชอบเธอ เธอจะเลือกยังไง?”ความคิดที่สลัดสถานการณ์จริงออกไปคือการเพ้อฝัน เซ่าเยว่ไม่ชอบการสมมติแต่ก็แค่คุยไปเรื่อยเปื่อยกับเพื่อนเท่านั้น ยังไงก็ไม่เป็นไรเธอจึงครุ่นคิดอย่างจริงจังอยู่ครู่หนึ่ง“อย่างแรก ซางจื้อเหนียนชอบฉัน อย่างที่สอง เขากับเจียงเฉินหานไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ภายใต้พื้นฐานการสมมติสองข้อนี้ คนที่จะปฏิเสธก็คงมีน้อยหรือเปล่า ถึงยังไงซางจื้อเหนียนก็หน้าตาดี มีเงิน รูปร่างดี ข้อดีเหล่านี้พอให้ผู้หญิงเราอิ่มเอมใจแล้ว”เฉิงเหยียนโย่ว “เพราะงั้นคำตอบของเธอคืออะไรเหรอ?”“ความคิดของคนจะปลี่ยนไปตามประสบการณ์ของตัวเอง เหยียนโย่ว ฉันเคยผ่านการแต่งงานที่ล้มเหลวกับเจียงเฉินหานมาก่อน เธอรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดของฉันคืออะไรไหม?”“มุมมองด้านความรัก?”“ใช่ มุมมองด้านความรักเปลี่ยนไปแล้ว กับเพื่อนฉันก

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 98

    เซ่าเยว่สบายใจอย่างที่สุดประธานซางยึดมั่นในหลักการเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เงินของเขา เขาก็จะไม่รับแม้แต่แดงเดียวที่เป็นของเขา เขาจะรับเอาไว้แน่นอนหลังกินอาหารค่ำ เซ่าเยว่ก็เก็บกล่องดิลิเวอรีซางจื้อเหนียนพูดขึ้นว่า “วางไว้เถอะ นี่ไม่ใช่งานที่คุณต้องทำ เดี๋ยวจะมีคนเก็บ”เซ่าเยว่รู้ว่าเขาเป็นโรครักความสะอาด ฉะนั้นจึงชิงลงมือก่อนล่วงหน้า ทำไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว เก็บจนสะอาดไปแล้ว สุดท้ายถือถุงขยะและเสื้อสูทตัวนอกของเขา พลางบอก ‘ฝันดี’ แล้วเปิดประตูออกไปซางจื้อเหนียนนั่งอยู่บนโซฟาเห็นข้อความที่ลู่เจี้ยนเฉินส่งมาก่อนหน้านี้[เมื่อกี้ฉันบอกว่าฉันอยากไปส่งเซ่าเยว่กลับบ้าน นายถึงขั้นสั่งอาหารค่ำมาแล้ว จู่ ๆ ก็บอกว่าเบื่อขึ้นมากะทันหัน ไอ้ความ ‘กะทันหัน’ นี่มัน ‘กะทันหัน’ เกินไปหน่อยหรือเปล่า? สารภาพมาเถอะ นายอยากไปส่งเซ่าเยว่กลับบ้านใช่ไหม!]ซางจื้อเหนียน [ใช่][จิ้งจอกเฒ่า ฉันรู้อยู่แล้วเชียว]ลู่เจี้ยนเฉิน [นายหมายความว่ายังไง เซ่าเยว่ขอบคุณนายต่อหน้าเราเยอะแยะขนาดนั้น นายกลับไม่ตอบกลับสักแอะ ถ้าเป็นฉันไปส่งเขากลับแทนนายละก็...นายชอบที่จะเมินขนาดนี้ สมควรแล้วที่นายจะโสด! สุดท้ายก็มาเ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 97

    ซางจื้อเหนียนไม่ได้เปลี่ยนรองเท้า เซ่าเยว่ยกเลิกแผนกลับไปเปลี่ยนรองเท้าที่ห้องเธอเคยมาสองครั้งแล้ว ทุกครั้งที่มา ห้องก็สะอาดสะอ้านตลอด น่าจะมีคนมาทำความสะอาดทั้งข้างนอกและข้างในทุกวันแต่ก่อนหน้านี้ เซ่าเยว่มาคนเดียว วันนี้ซางจื้อเหนียนก็อยู่ด้วยไม่ชินเล็กน้อยทว่ายังปรับตัวไม่ได้เซ่าเยว่วางถุงที่ใส่สูทของเขาเอาไว้ลงก่อน แล้วถือมื้อค่ำไปวางบนโต๊ะอาหาร เธอหยิบออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ก่อนจะเปิดออก ทำเหมือนอย่างปกติหลังซางจื้อเหนียนล้างมือ ก็มานั่งบนโต๊ะอาหารเซ่าเยว่พูดขึ้นว่า “ประธานซาง คุณทานให้อร่อยนะคะ ฝันดีค่ะ”เธอพูดจบก็คิดจะออกไป ทว่าชายหนุ่มกลับเอ่ยปากขึ้นอย่างเย็นชา “เยอะขนาดนี้ ผมกินไม่หมด” ปริมาณของอาหารค่ำ เซ่าเยว่สั่งน้อยลงครึ่งหนึ่ง แต่ยังไงที่ซางจื้อเหนียนสั่งก่อนหน้านี้ก็สำหรับสี่ที่ แม้จะลดลงครึ่งหนึ่งก็กินไม่หมดเซ่าเยว่เพียงอยากกลับไปพักผ่อนที่ห้อง ลังเลว่าจะปฏิเสธดีไหม ชายหนุ่มยกตะเกียบขึ้นมา พร้อมเบือนสายตาไปจากบนตัวของเธอแล้วเซ่าเยว่จึงไม่ปฏิเสธ...ปฏิเสธครั้งสองครั้งยังพอทน ปฏิเสธเยอะเกินไปจะทำให้เขารู้สึกว่าไม่ไว้หน้ากันเลยแม้แต่น้อย ถึงยังไงก็เป็นแ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 96

    สายตาของซางจื้อเหนียนย้ายไปจากตัวของหญิงสาวตั้งนานแล้ว เขาชี้ดิลิเวอรีหลากหลายเมนูที่ตั้งอยู่เต็มโต๊ะ “กินข้าวเถอะ”ลู่เจี้ยนเฉินเรียกให้เซ่าเยว่มาด้วยกันเซ่าเยว่กำลังสังเกตสีหน้าของซางจื้อเหนียน เขาไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ จึงไม่รู้ชัดว่าเขาคิดยังไง แต่ไม่ได้พูดมาก คงน่าจะผ่านด่านละมั้งเธอมองของกินเต็มโต๊ะนี่ “ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ พวกคุณกินกันเถอะ”ลู่เจี้ยนเฉินอึ้งไป “รีบขนาดนี้เชียว คุณมีธุระเหรอ?”เซ่าเยว่พยักหน้าลู่เจี้ยนเฉินผลักซางจื้อเหนียน “ให้เธออยู่ต่อสิ” เขาเข้าใจแล้ว เซ่าเยว่ถูกความบ้าอำนาจของเจ้านายบีบบังคับ เพียงแค่เชื่อฟังจิ้งจอกเฒ่าเท่านั้นใบหน้าของซางจื้อเหนียนเต็มไปด้วยความไม่แยแสเซ่าเยว่ลุกขึ้น ทั้งเกรงใจและทั้งเหินห่าง “ประธานซาง พวกคุณสนุกกันต่อเถอะค่ะ ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ คืนนี้ขอบคุณคุณมากนะคะ”ลู่เจี้ยนเฉินลุกขึ้นยืนตาม “เกรงใจขนาดนี้ไปทำไมกัน เรื่องใหญ่แค่ไหนกันเชียว ถ้าไม่ได้เป็นเพราะฐานะของซางจื้อเหนียนเหมาะจะสั่งสอนยัยเด็กหน้าไม่อายมากกว่า ไม่อย่างนั้นผมก็คงไปช่วยคุณแล้ว ยังไงก็กินให้อิ่มก่อนแล้วค่อยไปเถอะ!”เซ่าเยว่ตอบกลับ “เราเจอกันพรุ่งนี้นะคะ”ล

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 95

    “เป็นเรื่องจริง ผมยังจำครั้งแรกที่เล่นไพ่นกกระจอกได้ เจ้านายคุณอุตส่าห์ชนะแล้ว แต่สุดท้ายพวกเราหลายคน ต่างคนต่างชนะไพ่แต้มดีกันคนละตา เอาคืนเงินที่เขาหามาอย่างยากลำบากทั้งหมด สุดท้ายยังต้องจ่ายเพิ่มอีกด้วยซ้ำ” ลู่เจี้ยนเฉินพูดขึ้นอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นเซ่าเยว่มองซางจื้อเหนียน เขาไม่พูดอะไร เพราะนั่นคือความจริง“เราต่อกันเถอะ”เฟิงเยี่ยน “เราจะไม่อ่อนข้อให้หรอกนะ”อวี๋หลินโจวเองก็พยักหน้า“วันนี้ผู้ชายอกสามศอกทั้งสามคน ใครก็อย่าห้ามให้เสียมาด”ลู่เจี้ยนเฉินดูเรื่องสนุกไม่รังเกียจเรื่องใหญ่โต ยากที่ซางจื้อเหนียนจะกำหนดตัวชี้วัดผลงานให้เซ่าเยว่ ชนะก็หมดสนุกแล้ว ต้องให้เธอแพ้ตลอดถึงจะสนุกเมื่อเผชิญหน้ากับ ‘การยั่วยุ’ ของทั้งสามคน เซ่าเยว่ก็ฉีกยิ้มพร้อมเอ่ยว่า “ไม่เป็นไรค่ะ มาเถอะ”ลู่เจี้ยนเฉินพลันฮึกเหิมขึ้นมา “นี่ ๆ ๆ ซางจื้อเหนียน เลขาตัวน้อยนายกำลังลองดีกับเราอยู่ นายพนันว่าเราชนะหรือพนันว่าเลขาตัวน้อยนายจะชนะ!”ซางจื้อเหนียนก็ยังทำท่าทีขี้เกียจจะพูดเช่นเดิมเซ่าเยว่ที่เย็นชาดั่งหุ่นยนต์ ถึงกับรับคำท้าอย่างทรงพลัง กลับปลุกเร้าจิตใจอย่างเอาชนะของเฟิงเยี่ยนอีกด้ว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status