Share

บทที่ 6

Author: ในน้ำมีปลา
เจียงเฉินหาน “เธอเก่งมากเลย”

เซี่ยอวิ๋นซูเห็นแววชื่นชมอย่างลึกซึ้งในดวงตาของเขา

ปฏิกิริยาแบบนี้อยู่ในความคาดหมายของเธอทั้งหมด

เจียงซื่อกรุปร่วมมือกับห้องทดลองของศาสตราจารย์ไต้ หากโปรเจกต์ของศาสตราจารย์ไต้ประสบความสำเร็จ เจียงซื่อกรุปก็ย่อมได้รับผลประโยชน์ตามไปด้วย

เซี่ยอวิ๋นซูกลับประเทศครั้งนี้ เธอตั้งใจจะเป็นบุคคลสำคัญในการพิชิตเทคโนโลยีหลัก เธอมั่นใจว่าตัวเองสามารถทำได้

ทุกวันนี้ไม่ใช่ยุคของสาวหวานใสซื่ออีกต่อไปแล้ว ไม่ใช่ว่าทำอาหารไม่กี่มื้อหรืออ้อนนิดอ้อนหน่อยก็จะสามารถมัดใจผู้ชายได้

ผู้หญิงต้องมีความสามารถ ผู้ชายถึงจะหันมามองเธอบ้าง

และเซี่ยอวิ๋นซูจะเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ

......

เซ่าเยว่ยุ่งอยู่ทั้งเช้า ระหว่างนั้นก็แวะไปชงกาแฟที่ห้องน้ำชา และหยิบติดมือมาเผื่อเพื่อนร่วมงานด้วยหนึ่งแก้ว

จู่ ๆ ก็ได้รับสายจากเลขาจาง

เธอเป็นเลขาของเจียงเฉินหาน

การติดต่อเพียงอย่างเดียวของเซ่าเยว่กับเธอ ก็คือถามเรื่องกำหนดการเดินทางของเจียงเฉินหาน

เซ่าเยว่ไม่อยากติดต่อใครที่เกี่ยวข้องกับเจียงเฉินหานเลย แต่เลขาจางเป็นสาวน้อยที่ใจดีมาก หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็รับสายของเธอ

“เซ่าเยว่ ตอนนี้เธอสบายดีไหม?” เสียงของเลขาจางเบามาก

“ฉันสบายดีมาก” เซ่าเยว่ไม่รู้ว่าเธอถามแบบนี้ทำไม

เสียงของเลขาจางเต็มไปด้วยความเป็นห่วง “ประธานเจียงเพิ่งพาผู้หญิงคนหนึ่งมาชมบริษัทเรา ฮือฮาสุด ๆ ผู้บริหารระดับสูงทุกคนต่างคิดว่าเธอคือว่าที่ภรรยาท่านประธาน...ฉันไม่รู้ว่าเธอรู้เรื่องนี้หรือเปล่า เลยบอกเธอไว้ก่อน ผู้หญิงคนนั้นชื่อเซี่ย...”

เสียงของเลขาจางหยุดลงกะทันหัน

จากนั้นก็มีเสียงเรียกเบา ๆ อย่างตกใจว่า “ผู้...ผู้ช่วยสวี่ ฉัน...”

เธอหลบอยู่ที่มุมทางเดิน ไม่คิดเลยว่าสวี่หลินจะเดินผ่านมาข้างหลัง!

สวี่หลินคว้าโทรศัพท์ของเลขาจางขึ้นมาดูแวบหนึ่ง แล้วขมวดคิ้วแน่น

“เธอมาถามกำหนดการเดินทางของประธานเจียงจากเธออีกแล้ว?”

เลขาจางเห็นประธานเจียงที่ยืนอยู่ข้างหลังสวี่หลิน พร้อมกับผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อเซี่ยอวิ๋นซู ก็ตกใจจนช็อก พูดอะไรไม่ออก

สวี่หลินไม่รอคำตอบจากเลขาจาง รีบรายงานตามหน้าที่ทันทีว่า “ประธานเจียง เป็นเซ่าเยว่ครับ เธอตามสืบกำหนดการเดินทางของคุณอีกแล้ว”

สวี่หลินไม่ได้วางสาย เขาไม่กลัวว่าเซ่าเยว่จะได้ยิน

เซ่าเยว่ขมวดคิ้ว

เธอไม่สนใจคำกล่าวหาเสีย ๆ หาย ๆ ของสวี่หลิน ตั้งใจจะวางสาย แต่แล้วเสียงเย็นชาของเจียงเฉินหานก็ดังขึ้นมา “ไม่ต้องสนใจเธอ”

นี่คือท่าทีที่เจียงเฉินหานมีต่อเธอมาตลอด

เซ่าเยว่ไม่ได้แปลกใจแต่อย่างใด

แค่เขาไม่ถามความจริงให้กระจ่าง แล้วก็เข้าใจเธอผิดไปเอง

เซ่าเยว่ในอดีตจะต้องอธิบายให้ชัดเจนเสมอ เพราะเธอกลัวเจียงเฉินหานจะเข้าใจผิด และก็กลัวว่าเขาจะโกรธด้วย

แต่ในเมื่อหย่ากันแล้ว เธอก็ไม่จำเป็นต้องแคร์ความรู้สึกของเจียงเฉินหานอีกต่อไป และยิ่งไม่ต้องไปสืบข่าวคราวของเขากับเซี่ยอวิ๋นซู

แต่วินาทีต่อมา เป็นเสียงที่เย็นชายิ่งกว่าของเจียงเฉินหาน “พรุ่งนี้คุณไม่ต้องมาทำงานแล้ว!”

เซ่าเยว่ตะลึง เขาจะไล่เลขาจางออกเหรอ?

ใช่แล้ว หลังจากติดต่อกับเลขาจางครั้งแรก เจียงเฉินหานก็จะไล่เธอออก

เซ่าเยว่ได้ขอร้องหลายครั้ง เลขาจางจึงสามารถอยู่ที่เจียงซื่อกรุปต่อได้ แต่เขาเคยเตือนแล้วว่าห้ามมีครั้งหน้าอีก

ก็แน่ล่ะ ไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว

เจียงเฉินหานไม่เคยไว้หน้าตนเลย

“เฉินหาน ไม่จำเป็นต้องโกรธมากขนาดนี้เพราะเลขาคนเดียวหรอก”

นี่...คือเสียงของเซี่ยอวิ๋นซูสินะ

ให้ความรู้สึกอ่อนโยนมาก

เหมือนกับชื่อของเธอ

เซี่ยอวิ๋นซูพูดปลอบ “เอาอย่างนี้นะ อีกเดี๋ยวฉันเลี้ยงข้าวเอง นายหายโกรธดีไหม? ถือซะว่าเห็นแก่หน้าฉัน”

สองวินาทีต่อมา “โอเค”

น้ำเสียงของเจียงเฉินหานไม่หนักไม่เบา

ถ้าเทียบกับความเย็นชาของประโยคก่อนหน้า ตอนนี้อ่อนโยนขึ้นเยอะ

เซี่ยอวิ๋นซูยิ้มบาง ๆ พลางพูด “งั้นเราไปกันเถอะ”

หลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงของเจียงเฉินหานและเซี่ยอวิ๋นซูอีก

เซ่าเยว่กระตุกยิ้มเยาะเย้ยตัวเอง ความรู้สึกขมขื่นเต็มหัวใจ

เธอเคยคิดมาตลอดว่าเจียงเฉินหานเอาใจยาก เพราะแต่ละครั้งที่ผ่านมา เธอต้องคอยง้อเขาหลายวัน เจียงเฉินหานถึงจะแสดงสีหน้าดี ๆ ให้เธอได้

สำหรับเซ่าเยว่ กระบวนการนี้เหมือนเป็นการทรมานทางใจ เธอจะกินไม่ได้ นอนไม่หลับทั้งคืน ตราบใดที่เจียงเฉินหานยังไม่หายโกรธ เธอก็ไม่สามารถมีสมาธิกับเรื่องอื่นได้เลย

แต่พอเปลี่ยนเป็นเซี่ยอวิ๋นซู แค่พูดประโยคเดียวก็พอแล้ว ง่าย ๆ แบบนี้เลย

สวี่หลินมองโทรศัพท์ที่คาสายไว้อยู่ รู้ว่าเซ่าเยว่ได้ยินทั้งหมดแล้ว

เซ่าเยว่ไม่ชอบสร้างความลำบากให้คนอื่น เลขาจางถูกไล่ออกเพราะเธอ คงจะรู้สึกผิดและทรมานใจแน่ ๆ

แม้การลงโทษจะตกอยู่ที่เลขาจาง แต่สำหรับเซ่าเยว่แล้ว เป็นการลงโทษทางใจ

มีเพียงแบบนี้ เธอถึงจะไม่แอบทำอะไรลับหลังอีกในครั้งต่อไป

ถ้าจะโทษ ก็โทษเซ่าเยว่ที่ชอบสืบกำหนดการเดินทางของประธานเจียง

ถ้าทำอะไรก็ต้องถูกผู้หญิงคนหนึ่งคอยจับตามอง แค่เขาลองนึกว่าตัวเองเป็นประธานเจียง ก็รู้สึกอึดอัดแทนแล้ว

สวี่หลินโบกมือเบา ๆ หัวหน้าเลขาที่รออยู่ด้านข้างก็เดินเข้ามา

หัวหน้าเลขา “เรื่องลาออก จะจัดการให้เรียบร้อยภายในวันนี้ค่ะ”

สวี่หลินส่งเสียง “อืม” อย่างเย็นชา แล้วก็เดินจากไป

วันพุธเป็นวันเกิดของเซี่ยอวิ๋นซู ตามที่ประธานเจียงสั่ง เขาต้องไปเหมาภัตตาคารสตาร์ไลท์ที่เบย์คลับ และคุยกับเจ้าของร้านเรื่องเตรียมเซอร์ไพรส์วันเกิดให้เซี่ยอวิ๋นซู

เขายุ่งมากจนไม่มีเวลามาคอยจับตาดูเลขาตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งลาออก

หัวหน้าเลขารับโทรศัพท์ที่สวี่หลินส่งมา เตรียมจะคืนให้เลขาจาง แต่บังเอิญเห็นหน้าจอแสดงชื่อผู้โทรว่า เซ่าเยว่

เธอขมวดคิ้วทันที ใช้เวลาสักครู่ถึงนึกออกว่าเป็นใคร น้ำเสียงตำหนิ “เธอนี่ก็โง่ไม่เบาเหมือนกันนะ หล่อนก็แค่แม่บ้านที่ส่งข้าวกล่องให้ประธานเจียงเท่านั้น เธอถึงกับต้องทำให้ประธานเจียงไม่พอใจเพราะหล่อนเลยเหรอ?”

เลขาจางถูกท่านประธานจับได้ด้วยตัวเอง ตกใจจนเซ่อไปแล้ว ตอนนี้เธอถึงกล้าพูดขึ้นมา แต่ก็ยังพูดอย่างสั่น ๆ ว่า “เธอ...เธอไม่ใช่แม่บ้านนะคะ เธอเป็นภรรยาของท่านประธาน...”

“เธอมีตาไหม? เธอไม่เห็นเหรอว่าพวกเขายังใส่แหวนคู่รักด้วย? คุณเซี่ยก็คือว่าที่ภรรยาท่านประธาน เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลย”

“ไม่ใช่...”

“เลิกพูดได้แล้ว รีบไปโอนงานให้ไวเลย!”

เลขาจางไม่กล้าพูดอะไร รับโทรศัพท์ของตัวเองคืนมาเงียบ ๆ

พอหัวหน้าเลขาเดินไปแล้ว เธอก็ก้มลงดู ถึงขั้นยังคาสายอยู่?

ทั้งร่างของเธอสั่นสะท้าน “เซ่า...เซ่าเยว่ เธอไม่เป็นไรใช่ไหม! เรื่องเมื่อกี้ เธอไม่ได้ยินใช่ไหม!”

เลขาจางหวังว่าเซ่าเยว่จะไม่ได้ยิน แต่นี่เป็นไปไม่ได้เลย

“อย่าไปฟังที่พวกเขาพูดมั่ว ๆ นะ เธอไม่ใช่แม่บ้านเลย...ขอโทษนะ ขอโทษจริง ๆ ...”

เจียงเฉินหานไม่เปิดเผยเรื่องแต่งงานต่อสาธารณะ และไม่อนุญาตให้เธอไปที่ออฟฟิศของเขา

ทุกครั้งที่เซ่าเยว่ส่งข้าวกล่องไป ก็มีเลขารับต่อ ทำให้ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแม่บ้านที่บ้าน เธอก็ไม่ถือสาหาความ

เซ่าเยว่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เลย เพียงแต่เธอไม่คาดคิดว่า เจียงเฉินหานที่แทบไม่เคยใส่แหวนแต่งงาน กลับใส่แหวนคู่รักกับเซี่ยอวิ๋นซู

มือของเจียงเฉินหานสวยมาก เรียวยาว ผิวขาวเนียน ข้อนิ้วชัดเจน ดูงดงามแต่เปี่ยมไปด้วยพลัง นิ้วนางที่เรียวยาวเมื่อสวมแหวนเพชรแล้วมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก

เมื่อมีโอกาส เซ่าเยว่ก็จะแอบมองนาน ๆ

แต่จำนวนครั้งที่เจียงเฉินหานสวมแหวนแต่งงานนั้นแทบนับนิ้วได้

เธอคิดมาตลอดว่าเจียงเฉินหานไม่ชอบความรู้สึกถูกผูกมัดจากเครื่องประดับ ที่แท้แล้วคิดมากไปเอง เขาแค่ไม่อยากใส่แหวนแต่งงานก็เท่านั้น

เซ่าเยว่ “ขอโทษนะ ตอนนี้ฉันช่วยให้เธอกลับมาทำงานไม่ได้แล้ว”

ถึงแม้เลขาจางจะเคยติดต่อกับเซ่าเยว่แค่ครั้งเดียว แต่ก็รู้สึกได้ว่าเธอเป็นคนดีมาก ๆ

จู่ ๆ ประธานเจียงก็สนใจผู้หญิงอีกคนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เธอรู้สึกไม่สบายใจ จึงมาบอกเซ่าเยว่ หวังให้เธอระวังตัวมากขึ้น

ผลลัพธ์กลับพังไม่เป็นท่า

เลขาจางรู้สึกผิดมาก “ไม่เป็นไร ๆ เมื่อก่อนฉันเคยบอกเธอแล้วว่า ฉันเตรียมกลับไปช่วยพ่อแม่ที่บ้านแล้วล่ะ การถูกไล่ออกไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับฉันเลย ตอนนี้ฉันก็เขียนใบลาออกไปครึ่งหนึ่งแล้ว!”

น้ำเสียงที่เธอพูดดูไม่เหมือนคนปลอบใจตัวเอง เซ่าเยว่จึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

จากนั้น เลขาจางพูดเสียงเบาลงนิดหน่อยว่า “แต่ว่าทำไมล่ะ เธอต่างหากที่เป็นภรรยาท่านประธาน ทำไมประธานเจียงถึงทำแบบนี้กับเธอ...”

ประธานเจียงไม่อนุญาตให้เซ่าเยว่เข้าไปในห้องทำงานของเขาเลย

แต่เซี่ยอวิ๋นซูกลับสามารถเข้าไปได้ตามสบาย มีสิทธิ์อะไรกัน?

ต่อให้ประธานเจียงจะอยากเก็บเรื่องแต่งงานไว้เป็นความลับ แค่บอกว่าเป็นญาติหรือเพื่อนก็ได้แล้ว ทุกคนก็จะไม่คิดมาก

แถมข้าวกล่องนั่นก็เป็นสิ่งที่เซ่าเยว่ตั้งใจทำอย่างเหน็ดเหนื่อย แล้วเอามาส่งให้ในช่วงพักกลางวัน แต่กลับถูกกันไว้ไม่ให้เข้า สิ่งที่ประธานเจียงทำนั้นช่างทำร้ายจิตใจคนเหลือเกิน!
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 256

    เซ่าสวินมองแล้วก็หัวเราะเยาะใส่เสียงเย็น “ถ้านี่ไม่เรียกว่าประจบ แล้วมันคืออะไร?”เซ่าเยว่ตวัดสายตามองเขาเล็กน้อยนั่นแหละเซ่าสวินถึงได้ใส่ที่หุ้มรองเท้าอย่างเชื่องช้า เซ่าเยว่เดินเข้าไปก่อน เซ่าสวินเห็นแบบนั้น หลังจากที่ใส่ที่หุ้มรองเท้าแล้วก็ไปเหยียบที่พื้นด้านนอกประตูสักสองที ถึงได้ตามเธอเข้าไปเซ่าสวินรู้สึกสนใจกับแค่ห้องของเซ่าเยว่เท่านั้น เขาไม่ได้มองการตกแต่งภายในบ้านของซางจื้อเหนียนสักเท่าไร เพียงแต่ตามอยู่ด้านหลังเซ่าเยว่ด้วยใบหน้าไม่พอใจเมื่อเซ่าเยว่หยุด เขาเองก็หยุดตามซางจื้อเหนียนกำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา เซ่าเยว่รู้มานานแล้วว่าเวลาส่วนตัวนั้นเขาจะไม่เหมือนกับรูปลักษณ์ภายนอกที่เอาจริงเอาจัง กลับจะทำตัวตามสบาย ทำเรื่องที่มีชีวิตชีวาเสียมากกว่า ไม่ใช่ประธานใหญ่ผู้แข็งทื่อไร้ชีวิตชีวาเซ่าเยว่เดินมาถึงตรงหน้าเขาแล้วนั่นแหละ ซางจื้อเหนียนถึงได้หันไปมอง เขามองเซ่าเยว่ก่อนเล็กน้อย แล้วค่อยมองไปทางเซ่าสวินที่อยู่ด้านหลังเธอเซ่าสวินสัมผัสได้ถึงแววตาของเขา แล้วก็ทำตัวดีทั้งที่ไม่ใช่เพราะเซ่าเยว่อยู่ด้านหน้า สายตานั่นทั้งดุดันทั้งโหดเหี้ยมราวกับหมาป่าเลยทีเดียวซางจื้อเหนี

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 255

    เซ่าสวิน “...”เซ่าสวินลากเซ่าเยว่กลับบ้านโดยที่ไม่ต้องคิดเลยแม้แต่น้อย สีหน้าก็ย่ำแย่ยิ่งกว่าเธอเสียอีก “เธอจะไปขอโทษคนแซ่ซางนั่น? ทำไม!”เซ่าเยว่เองก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีท่าทีรุนแรงขนาดนี้ ทั้งสีหน้าเองก็ไม่น่าดูยิ่งกว่าเดิม “ขัดขวางขนาดนี้ เธอต้องไม่ได้ทำเรื่องดี ๆ แน่!”เซ่าสวิน “ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”เซ่าเยว่ไม่เชื่อเขาเลยสักนิด เปิดโทรศัพท์ดูกล้องวงจรปิดทันทีเซ่าสวินสีหน้าแข็งค้างไปในชั่วพริบตา เขาคิดจะแย่งมา แต่ก็คิดว่าแย่งมาก็ไม่มีประโยชน์อะไร ถึงยังไง จะช้าหรือเร็วเธอก็ต้องเห็นอยู่ดี เลยยอมรับตรง ๆ อย่างไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น “ฉันเห็นว่าคนแซ่ซางนั่นไม่ใช่คนดีอะไร เลยช่วยเธอสั่งสอนไปไม่กี่ประโยคเองแล้วจะทำไม? อีกอย่างนะ ชั้นนี้ก็มีพวกเธออยู่กันแค่สองหลัง แถมข้างบ้านยังเป็นผู้ชายน่าเอือมระอาอีก ฉันก็ต้องเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของเธออยู่แล้วสิ ในเมื่อฉันอยู่ที่นี่ แถมยังเป็นผู้ชายทั้งแท่ง จะช่วยเธอข่มขู่สักหน่อยแบบนั้น ฉันก็มีสิทธิ์ไหม?”เซ่าสวินยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองมีเหตุผล การกระทำที่เขาทำไปเมื่อครู่นี้ไม่มีอะไรผิดเลยสักนิดเดียวเมื่อเซ่าเยว่ได้ยินคำว่า ‘น่าเอือ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 254

    เซ่าสวินถึงขั้นเริ่มคิดแล้วว่าจะย้ายมาคอยดูเซ่าเยว่ดีไหม เพราะชีวิตหลังจากแต่งงานไปเซ่าเยว่ก็ไม่มีความสุขเลย และตอนนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรตอนนี้เตรียมตัวจะแบกรับหน้าที่นิด ๆ หน่อย เขาจะไม่เข้าไปยุ่มย่ามกับการเลือกของเซ่าเยว่ แต่ว่าเขาจะรับผิดชอบในการคุมเป็นด่านหน้า อย่างน้อยยามที่เซ่าเยว่จำเป็นต้องใช้งานเขา เขาก็ต้องอยู่ เธอจะได้ไม่ได้เผชิญหน้าเพียงลำพังเซ่าสวินอ่านคนแซ่ซางคนนี้ไม่ออก ลางสังหรณ์มันบอกว่าหมอนี้ไม่มีทางเป็นคนดีแน่ ดังนั้นเลยขอเตือนก่อนสักหน่อย จะดีที่สุดถ้าตัดความคิดของหมอนี่ทิ้งไปเสียซางจื้อเหนียนนึกถึงโจวซูไป๋ อายุไม่ต่างกับเซ่าสวินมากนักเซ่าเยว่ชอบเด็กหนุ่มเอ๊าะ ๆ จริงเหรอ?มือที่ห้อยอยู่ข้างกายพลันกำแน่น ใบหน้าของเขานั้นแยกไม่ออกว่ายินดีหรือโกรธเคือง “แล้ว?”เซ่าสวินชะงักไป ขมวดคิ้ว “แล้วก็ขอให้ต่อไปนายอย่ามาวุ่นวายกับเธออีก เข้าใจไหม?”ซางจื้อเหนียนกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “งั้นเหรอ?”คำพูดของเซ่าสวินนั้นชัดเจนแจ่มแจ้ง ไม่รู้ว่าหมอนี่ยังจะมีอะไรให้มาย้อนถามอีก เขายิ่งรังเกียจหมอนี่มากขึ้นทุกที “ไม่ใช่หรือไง? หรือว่าเซ่าเยว่จะเป็นฝ่ายเข้าไปวุ่นวายกับนาย?

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 253

    เซ่าสวินสูงประมาณหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร สูงราว ๆ คิ้วของซางจื้อเหนียน ปีนี้ซางจื้อเหนียนอายุได้ยี่สิบแปดปี เทียบกับเซ่าสวินที่เพิ่งจะอายุยี่สิบปีแล้วก็ยังห่างกันอยู่ตั้งแปดปี แม้ว่าจะใกล้ถึงเลขสามแล้ว ทว่ายังห่างจากวัยกลางคนที่แท้จริงอยู่มากโขยิ่งไปกว่านั้นคือประธานใหญ่ซางหน้าตาหล่อเหลาเหนือสามัญ จากหน้าตาสุดแสนจะเพอร์เฟกต์ของเขาแล้ว ต่อให้แก่ก็ยังเป็นผู้ชายหน้าตาดี ยิ่งกว่านั้น ประธานใหญ่ก็ยืนหลังเหยียดตรง โครงหน้าคมชัดราวกับได้รับการแกะสลัก กลิ่นอายน่าเกรงขามทั้งที่ไม่แสดงสีหน้าดุดัน สูงส่งเย็นชาและเย่อหยิ่งเป็นอย่างยิ่ง ไม่ได้ดูน่าเบื่อเอือมระอาเลยสักนิดพูดได้แค่ว่า เซ่าสวินค่อนข้างตั้งการ์ด ทั้งมีอคติไม่เบาต่อผู้ชายน่าสงสัยทุกประเภทที่มาโผล่อยู่หน้าประตูบ้านของเซ่าเยว่ในตอนนี้ ในสายตาของเขานั้น ซางจื้อเหนียนก็เป็นหนึ่งการมีอยู่ของพวกห่วย ๆ ไม่เอาไหนซางจื้อเหนียนประหลาดใจไม่น้อยคนอายุน้อยรุ่น ๆ เซ่าสวินแบบนี้ ส่วนใหญ่พอเห็นเขาก็จะพากันกลัวหัวหดคนที่กล้ามองเขาตรง ๆ นั้นมีค่อนข้างน้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนที่ชี้หน้าต่อว่าเขาเลยซางจื้อเหนียนผ่านโลกผ่านประสบการณ์มาเยอะ ทว่าส

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 252

    ตอนทำงาน เซ่าเยว่มักจะมีบรรยากาศที่ดูมีความเชี่ยวชาญอย่างหนึ่ง ทั้งจริงจัง เย็นชา และมีสมาธิเซ่าสวินรู้สึกกังวลขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ จู่ ๆ เขาก็กดข้อมือของเธอไว้ พลางโน้มลำตัวช่วงบนลงเล็กน้อยแล้วถาม “ปลอดภัยแน่นะ?”เซ่าเยว่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ปลอดภัย”เซ่าสวินถามอีก “จะแกะรอยมาไม่ถึงตัวเธอใช่ไหม? ถูกจับได้ทีนี่เข้าคุกเลยนะ”เซ่าเยว่ว่า “ถ้าพี่อยู่ที่บริษัทนาย แล้วเซี่ยหมิงลงมือกับนายละก็ พี่จะรู้ตัวทันที เซี่ยหมิงก็คงถูกจับเข้าคุกไปแล้ว”เซ่าสวิน “ตอนนี้ฉันกำลังถามเธอนะ รับรองความปลอดภัยของตัวเองได้แน่ใช่ไหม?”เซ่าเยว่มองความกังวลของเขาออก “สบายใจได้ ตอนนี้พี่มีหลาย ๆ เรื่องที่ต้องทำ ทั้งเขียนวิทยานิพนธ์ของพี่ ใช้ชีวิตของตัวพี่เอง พี่ไม่ยอมให้ตัวเองต้องตกไปอยู่ในอันตรายหรอกน่า”เธอทำงานใหญ่ที่ฮ่องกงมาแล้ว ถ้าไม่มั่นใจว่าตัวเองไม่มีทางพลาดแน่ ๆ เซ่าเยว่ไม่มีทางลงมือเซ่าเยว่เห็นเขายังเป็นกังวล เลยมีสีหน้าไม่เข้าใจสักนิด “เธอจะเอาจริงเอาจังขนาดนี้ไปทำไม มันก็แค่เรื่องสิบกว่านาทีเท่านั้นเอง ง่ายจะตาย ถ้าเธอยังจะเอาแต่ลุกลี้ลุกลนอยู่แบบนี้นะ ก็ไปเข้าห้องน้ำไป เข้าเสร็จพี่ก็เ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 251

    เซ่าเยว่เรียนอะไรก็ตามล้วนเรียนรู้ได้ไว เรื่องวาดรูปก็เหมือนกันเพราะความสามารถในการคิดเชิงพื้นที่สูง เธอเลยชอบภาพวาดพู่กันจีนที่มีการยืดมิติพื้นที่หรือไม่ก็ให้ความรู้สึกได้สัดส่วน แบบนี้จะทำให้เธอนึกถึงสูตรคณิตศาสตร์เลยค่อนข้างชอบวาดรูปไม้ไผ่เป็นพิเศษตอนเด็ก ๆ เซ่าเยว่ค่อนข้างซน เธอมักจะไปขโมยผลงานของเหลียงหงเม่าอยู่บ่อย ๆ ตอนนี้ในสตูดิโอเลยติดภาพของตาแก่นั่นไว้อยู่หลายภาพเนื่องจากตอนที่เซ่าเยว่เรียนวาดภาพมักทำอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ ทั้งยังชอบก่อความวุ่นวาย หลัก ๆ คือตอนนั้นมีของที่เธอสนใจค่อนข้างเยอะ ไม่ได้ตั้งสมาธิทั้งหมดมาลงกับการวาดภาพขนาดนั้น เหลียงหงเม่าเลยรู้สึกว่าเซ่าเยว่หยาบกระด้างเกินไป จิตใจว่อกแว่ก ทำอะไรให้สำเร็จไม่ได้หรอก เลยตัดสินใจไม่สอนเซ่าสวินยิ่งดูก็ยิ่งอยากหัวเราะ “นี่เธอขโมยรูปของตาแก่นั่น แถมยังเก็บเอาไว้ตั้งหลายปีขนาดนี้อีก เธอไม่กลัวว่าเขาจะมาเอาเรื่องกับเธอหรือไง?”จำนวนมากทีเดียวเชียว หากเอาไปประมูลขายในตลาด อาจจะถึงขั้นที่ซื้อซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นเล็กเครื่องนั้นของเธอกลับมาได้เลยเซ่าเยว่ “เขาก็แค่ปิดตาไปข้างหนึ่งก็เท่านั้น ถือว่าให้พี่ไป”เซ่าสวิน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status