Share

บทที่ 6

Author: ในน้ำมีปลา
เจียงเฉินหาน “เธอเก่งมากเลย”

เซี่ยอวิ๋นซูเห็นแววชื่นชมอย่างลึกซึ้งในดวงตาของเขา

ปฏิกิริยาแบบนี้อยู่ในความคาดหมายของเธอทั้งหมด

เจียงซื่อกรุปร่วมมือกับห้องทดลองของศาสตราจารย์ไต้ หากโปรเจกต์ของศาสตราจารย์ไต้ประสบความสำเร็จ เจียงซื่อกรุปก็ย่อมได้รับผลประโยชน์ตามไปด้วย

เซี่ยอวิ๋นซูกลับประเทศครั้งนี้ เธอตั้งใจจะเป็นบุคคลสำคัญในการพิชิตเทคโนโลยีหลัก เธอมั่นใจว่าตัวเองสามารถทำได้

ทุกวันนี้ไม่ใช่ยุคของสาวหวานใสซื่ออีกต่อไปแล้ว ไม่ใช่ว่าทำอาหารไม่กี่มื้อหรืออ้อนนิดอ้อนหน่อยก็จะสามารถมัดใจผู้ชายได้

ผู้หญิงต้องมีความสามารถ ผู้ชายถึงจะหันมามองเธอบ้าง

และเซี่ยอวิ๋นซูจะเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ

......

เซ่าเยว่ยุ่งอยู่ทั้งเช้า ระหว่างนั้นก็แวะไปชงกาแฟที่ห้องน้ำชา และหยิบติดมือมาเผื่อเพื่อนร่วมงานด้วยหนึ่งแก้ว

จู่ ๆ ก็ได้รับสายจากเลขาจาง

เธอเป็นเลขาของเจียงเฉินหาน

การติดต่อเพียงอย่างเดียวของเซ่าเยว่กับเธอ ก็คือถามเรื่องกำหนดการเดินทางของเจียงเฉินหาน

เซ่าเยว่ไม่อยากติดต่อใครที่เกี่ยวข้องกับเจียงเฉินหานเลย แต่เลขาจางเป็นสาวน้อยที่ใจดีมาก หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็รับสายของเธอ

“เซ่าเยว่ ตอนนี้เธอสบายดีไหม?” เสียงของเลขาจางเบามาก

“ฉันสบายดีมาก” เซ่าเยว่ไม่รู้ว่าเธอถามแบบนี้ทำไม

เสียงของเลขาจางเต็มไปด้วยความเป็นห่วง “ประธานเจียงเพิ่งพาผู้หญิงคนหนึ่งมาชมบริษัทเรา ฮือฮาสุด ๆ ผู้บริหารระดับสูงทุกคนต่างคิดว่าเธอคือว่าที่ภรรยาท่านประธาน...ฉันไม่รู้ว่าเธอรู้เรื่องนี้หรือเปล่า เลยบอกเธอไว้ก่อน ผู้หญิงคนนั้นชื่อเซี่ย...”

เสียงของเลขาจางหยุดลงกะทันหัน

จากนั้นก็มีเสียงเรียกเบา ๆ อย่างตกใจว่า “ผู้...ผู้ช่วยสวี่ ฉัน...”

เธอหลบอยู่ที่มุมทางเดิน ไม่คิดเลยว่าสวี่หลินจะเดินผ่านมาข้างหลัง!

สวี่หลินคว้าโทรศัพท์ของเลขาจางขึ้นมาดูแวบหนึ่ง แล้วขมวดคิ้วแน่น

“เธอมาถามกำหนดการเดินทางของประธานเจียงจากเธออีกแล้ว?”

เลขาจางเห็นประธานเจียงที่ยืนอยู่ข้างหลังสวี่หลิน พร้อมกับผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อเซี่ยอวิ๋นซู ก็ตกใจจนช็อก พูดอะไรไม่ออก

สวี่หลินไม่รอคำตอบจากเลขาจาง รีบรายงานตามหน้าที่ทันทีว่า “ประธานเจียง เป็นเซ่าเยว่ครับ เธอตามสืบกำหนดการเดินทางของคุณอีกแล้ว”

สวี่หลินไม่ได้วางสาย เขาไม่กลัวว่าเซ่าเยว่จะได้ยิน

เซ่าเยว่ขมวดคิ้ว

เธอไม่สนใจคำกล่าวหาเสีย ๆ หาย ๆ ของสวี่หลิน ตั้งใจจะวางสาย แต่แล้วเสียงเย็นชาของเจียงเฉินหานก็ดังขึ้นมา “ไม่ต้องสนใจเธอ”

นี่คือท่าทีที่เจียงเฉินหานมีต่อเธอมาตลอด

เซ่าเยว่ไม่ได้แปลกใจแต่อย่างใด

แค่เขาไม่ถามความจริงให้กระจ่าง แล้วก็เข้าใจเธอผิดไปเอง

เซ่าเยว่ในอดีตจะต้องอธิบายให้ชัดเจนเสมอ เพราะเธอกลัวเจียงเฉินหานจะเข้าใจผิด และก็กลัวว่าเขาจะโกรธด้วย

แต่ในเมื่อหย่ากันแล้ว เธอก็ไม่จำเป็นต้องแคร์ความรู้สึกของเจียงเฉินหานอีกต่อไป และยิ่งไม่ต้องไปสืบข่าวคราวของเขากับเซี่ยอวิ๋นซู

แต่วินาทีต่อมา เป็นเสียงที่เย็นชายิ่งกว่าของเจียงเฉินหาน “พรุ่งนี้คุณไม่ต้องมาทำงานแล้ว!”

เซ่าเยว่ตะลึง เขาจะไล่เลขาจางออกเหรอ?

ใช่แล้ว หลังจากติดต่อกับเลขาจางครั้งแรก เจียงเฉินหานก็จะไล่เธอออก

เซ่าเยว่ได้ขอร้องหลายครั้ง เลขาจางจึงสามารถอยู่ที่เจียงซื่อกรุปต่อได้ แต่เขาเคยเตือนแล้วว่าห้ามมีครั้งหน้าอีก

ก็แน่ล่ะ ไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว

เจียงเฉินหานไม่เคยไว้หน้าตนเลย

“เฉินหาน ไม่จำเป็นต้องโกรธมากขนาดนี้เพราะเลขาคนเดียวหรอก”

นี่...คือเสียงของเซี่ยอวิ๋นซูสินะ

ให้ความรู้สึกอ่อนโยนมาก

เหมือนกับชื่อของเธอ

เซี่ยอวิ๋นซูพูดปลอบ “เอาอย่างนี้นะ อีกเดี๋ยวฉันเลี้ยงข้าวเอง นายหายโกรธดีไหม? ถือซะว่าเห็นแก่หน้าฉัน”

สองวินาทีต่อมา “โอเค”

น้ำเสียงของเจียงเฉินหานไม่หนักไม่เบา

ถ้าเทียบกับความเย็นชาของประโยคก่อนหน้า ตอนนี้อ่อนโยนขึ้นเยอะ

เซี่ยอวิ๋นซูยิ้มบาง ๆ พลางพูด “งั้นเราไปกันเถอะ”

หลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงของเจียงเฉินหานและเซี่ยอวิ๋นซูอีก

เซ่าเยว่กระตุกยิ้มเยาะเย้ยตัวเอง ความรู้สึกขมขื่นเต็มหัวใจ

เธอเคยคิดมาตลอดว่าเจียงเฉินหานเอาใจยาก เพราะแต่ละครั้งที่ผ่านมา เธอต้องคอยง้อเขาหลายวัน เจียงเฉินหานถึงจะแสดงสีหน้าดี ๆ ให้เธอได้

สำหรับเซ่าเยว่ กระบวนการนี้เหมือนเป็นการทรมานทางใจ เธอจะกินไม่ได้ นอนไม่หลับทั้งคืน ตราบใดที่เจียงเฉินหานยังไม่หายโกรธ เธอก็ไม่สามารถมีสมาธิกับเรื่องอื่นได้เลย

แต่พอเปลี่ยนเป็นเซี่ยอวิ๋นซู แค่พูดประโยคเดียวก็พอแล้ว ง่าย ๆ แบบนี้เลย

สวี่หลินมองโทรศัพท์ที่คาสายไว้อยู่ รู้ว่าเซ่าเยว่ได้ยินทั้งหมดแล้ว

เซ่าเยว่ไม่ชอบสร้างความลำบากให้คนอื่น เลขาจางถูกไล่ออกเพราะเธอ คงจะรู้สึกผิดและทรมานใจแน่ ๆ

แม้การลงโทษจะตกอยู่ที่เลขาจาง แต่สำหรับเซ่าเยว่แล้ว เป็นการลงโทษทางใจ

มีเพียงแบบนี้ เธอถึงจะไม่แอบทำอะไรลับหลังอีกในครั้งต่อไป

ถ้าจะโทษ ก็โทษเซ่าเยว่ที่ชอบสืบกำหนดการเดินทางของประธานเจียง

ถ้าทำอะไรก็ต้องถูกผู้หญิงคนหนึ่งคอยจับตามอง แค่เขาลองนึกว่าตัวเองเป็นประธานเจียง ก็รู้สึกอึดอัดแทนแล้ว

สวี่หลินโบกมือเบา ๆ หัวหน้าเลขาที่รออยู่ด้านข้างก็เดินเข้ามา

หัวหน้าเลขา “เรื่องลาออก จะจัดการให้เรียบร้อยภายในวันนี้ค่ะ”

สวี่หลินส่งเสียง “อืม” อย่างเย็นชา แล้วก็เดินจากไป

วันพุธเป็นวันเกิดของเซี่ยอวิ๋นซู ตามที่ประธานเจียงสั่ง เขาต้องไปเหมาภัตตาคารสตาร์ไลท์ที่เบย์คลับ และคุยกับเจ้าของร้านเรื่องเตรียมเซอร์ไพรส์วันเกิดให้เซี่ยอวิ๋นซู

เขายุ่งมากจนไม่มีเวลามาคอยจับตาดูเลขาตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งลาออก

หัวหน้าเลขารับโทรศัพท์ที่สวี่หลินส่งมา เตรียมจะคืนให้เลขาจาง แต่บังเอิญเห็นหน้าจอแสดงชื่อผู้โทรว่า เซ่าเยว่

เธอขมวดคิ้วทันที ใช้เวลาสักครู่ถึงนึกออกว่าเป็นใคร น้ำเสียงตำหนิ “เธอนี่ก็โง่ไม่เบาเหมือนกันนะ หล่อนก็แค่แม่บ้านที่ส่งข้าวกล่องให้ประธานเจียงเท่านั้น เธอถึงกับต้องทำให้ประธานเจียงไม่พอใจเพราะหล่อนเลยเหรอ?”

เลขาจางถูกท่านประธานจับได้ด้วยตัวเอง ตกใจจนเซ่อไปแล้ว ตอนนี้เธอถึงกล้าพูดขึ้นมา แต่ก็ยังพูดอย่างสั่น ๆ ว่า “เธอ...เธอไม่ใช่แม่บ้านนะคะ เธอเป็นภรรยาของท่านประธาน...”

“เธอมีตาไหม? เธอไม่เห็นเหรอว่าพวกเขายังใส่แหวนคู่รักด้วย? คุณเซี่ยก็คือว่าที่ภรรยาท่านประธาน เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลย”

“ไม่ใช่...”

“เลิกพูดได้แล้ว รีบไปโอนงานให้ไวเลย!”

เลขาจางไม่กล้าพูดอะไร รับโทรศัพท์ของตัวเองคืนมาเงียบ ๆ

พอหัวหน้าเลขาเดินไปแล้ว เธอก็ก้มลงดู ถึงขั้นยังคาสายอยู่?

ทั้งร่างของเธอสั่นสะท้าน “เซ่า...เซ่าเยว่ เธอไม่เป็นไรใช่ไหม! เรื่องเมื่อกี้ เธอไม่ได้ยินใช่ไหม!”

เลขาจางหวังว่าเซ่าเยว่จะไม่ได้ยิน แต่นี่เป็นไปไม่ได้เลย

“อย่าไปฟังที่พวกเขาพูดมั่ว ๆ นะ เธอไม่ใช่แม่บ้านเลย...ขอโทษนะ ขอโทษจริง ๆ ...”

เจียงเฉินหานไม่เปิดเผยเรื่องแต่งงานต่อสาธารณะ และไม่อนุญาตให้เธอไปที่ออฟฟิศของเขา

ทุกครั้งที่เซ่าเยว่ส่งข้าวกล่องไป ก็มีเลขารับต่อ ทำให้ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแม่บ้านที่บ้าน เธอก็ไม่ถือสาหาความ

เซ่าเยว่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เลย เพียงแต่เธอไม่คาดคิดว่า เจียงเฉินหานที่แทบไม่เคยใส่แหวนแต่งงาน กลับใส่แหวนคู่รักกับเซี่ยอวิ๋นซู

มือของเจียงเฉินหานสวยมาก เรียวยาว ผิวขาวเนียน ข้อนิ้วชัดเจน ดูงดงามแต่เปี่ยมไปด้วยพลัง นิ้วนางที่เรียวยาวเมื่อสวมแหวนเพชรแล้วมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก

เมื่อมีโอกาส เซ่าเยว่ก็จะแอบมองนาน ๆ

แต่จำนวนครั้งที่เจียงเฉินหานสวมแหวนแต่งงานนั้นแทบนับนิ้วได้

เธอคิดมาตลอดว่าเจียงเฉินหานไม่ชอบความรู้สึกถูกผูกมัดจากเครื่องประดับ ที่แท้แล้วคิดมากไปเอง เขาแค่ไม่อยากใส่แหวนแต่งงานก็เท่านั้น

เซ่าเยว่ “ขอโทษนะ ตอนนี้ฉันช่วยให้เธอกลับมาทำงานไม่ได้แล้ว”

ถึงแม้เลขาจางจะเคยติดต่อกับเซ่าเยว่แค่ครั้งเดียว แต่ก็รู้สึกได้ว่าเธอเป็นคนดีมาก ๆ

จู่ ๆ ประธานเจียงก็สนใจผู้หญิงอีกคนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เธอรู้สึกไม่สบายใจ จึงมาบอกเซ่าเยว่ หวังให้เธอระวังตัวมากขึ้น

ผลลัพธ์กลับพังไม่เป็นท่า

เลขาจางรู้สึกผิดมาก “ไม่เป็นไร ๆ เมื่อก่อนฉันเคยบอกเธอแล้วว่า ฉันเตรียมกลับไปช่วยพ่อแม่ที่บ้านแล้วล่ะ การถูกไล่ออกไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับฉันเลย ตอนนี้ฉันก็เขียนใบลาออกไปครึ่งหนึ่งแล้ว!”

น้ำเสียงที่เธอพูดดูไม่เหมือนคนปลอบใจตัวเอง เซ่าเยว่จึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

จากนั้น เลขาจางพูดเสียงเบาลงนิดหน่อยว่า “แต่ว่าทำไมล่ะ เธอต่างหากที่เป็นภรรยาท่านประธาน ทำไมประธานเจียงถึงทำแบบนี้กับเธอ...”

ประธานเจียงไม่อนุญาตให้เซ่าเยว่เข้าไปในห้องทำงานของเขาเลย

แต่เซี่ยอวิ๋นซูกลับสามารถเข้าไปได้ตามสบาย มีสิทธิ์อะไรกัน?

ต่อให้ประธานเจียงจะอยากเก็บเรื่องแต่งงานไว้เป็นความลับ แค่บอกว่าเป็นญาติหรือเพื่อนก็ได้แล้ว ทุกคนก็จะไม่คิดมาก

แถมข้าวกล่องนั่นก็เป็นสิ่งที่เซ่าเยว่ตั้งใจทำอย่างเหน็ดเหนื่อย แล้วเอามาส่งให้ในช่วงพักกลางวัน แต่กลับถูกกันไว้ไม่ให้เข้า สิ่งที่ประธานเจียงทำนั้นช่างทำร้ายจิตใจคนเหลือเกิน!
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 417

    เซ่าเยว่จับไหล่เขาไว้ แล้วดึงตัวเขาขึ้นมาโจวซูไป๋เบือนหน้าหนี ไม่กล้ามองเธอ แตกต่างกับตอนเป็นหนุ่มโฮสต์ที่ใช้สายตายั่วยวนราวกับคนละคนตอนนี้หน้าบางไม่เบา ทั้งกลัวจะรบกวนคนอื่น เลยระมัดระวังตัว“ฉันเชื่อนาย ไปกับพวกเราเถอะ”สายตาของซางจื้อเหนียนตกอยู่บนมือที่เซ่าเยว่วางอยู่บนใหญ่โจวซูไป๋เขาเดินไป แล้วดึงมือของเซ่าเยว่ออกแล้วกวาดตามองโจวซูไป๋อย่างไม่ตั้งใจอีกครั้งเซ่าเยว่มองมือที่ถูกซางจื้อเหนียนดึงไว้ แล้วก็มองเขาเล็กน้อยครั้นชายหนุ่มรับรู้ถึงสายตาของเธอ เลยเลื่อนสายตามาเซ่าเยว่เห็นความไม่พอใจแสนราบเรียบในดวงตาของเขาทำไมเขาถึงได้เป็นปฏิปักษ์กับโจวซูไป๋อยู่นิด ๆ นะ?ถ้าให้พูดกันตามปกติแล้ว ประธานใหญ่ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ายังกระทบกระเทือนอารมณ์ของเขาไปด้วยเลยเกิดอะไรขึ้น?ซางจื้อเหนียนปล่อยมือของเซ่าเยว่โจวซูไป๋กลับถอยหลังไปด้วยความตกใจ เนื่องด้วยถนนกันดารยังไม่ได้ลาดยาง ทางก็ขรุขระไม่เรียบ ถึงกับล้มไปด้านหลังโดยไม่ทันระวัง ก้นกระแทกลงบนก้อนหินเล็ก ๆ เข้า มันเจ็บจนเขาถึงกับแยกเขี้ยว หน้ายับยู่ยี่ไปหมดโจวซูไป๋ไม่กล้าร้องออกมาก เลยได้แ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 416

    เซ่าเยว่เข้าใจความกังวลของซางจื้อเหนียน แต่เธอเชื่อโจวซูไป๋เพราะโจวซูไป๋มักจะโพสต์อินสตาแกรม คอยบันทึกเรื่องราวประจำวันในรั้วมหาวิทยาลัย แล้วก็วิ่งไปสัมภาษณ์ที่กองถ่ายอยู่บ่อย ๆเขายังถ่ายวล็อกว่าในวันหนึ่งทำอะไรบ้าง อาจเป็นเพราะต่อไปจะต้องเป็นนักแสดง เลยถ่ายทั้งที่ใส่แมสก์อยู่เสมอ แฟนคลับในโซเชียลมีเดียก็มีอยู่ไม่มากนักเป็นคนที่มีตัวตนอยู่จริง ๆแม้ว่าจะเคยเจอกันเพียงครั้งเดียว แต่กลับสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจได้เซ่าเยว่ยังไม่ทันพูดอะไร โจวซูไป๋ก็รีบพูดขึ้นว่า “ที่ผมพูดไปทุกอย่างเป็นความจริง ไม่ได้โกหกเลย...”ซางจื้อเหนียนมีสีหน้าไร้อารมณ์ “ทำไมนายถึงติดต่อเซ่าเยว่?”เซ่าเยว่เชื่อโจวซูไป๋ ซางจื้อเหนียนคอยเป็นด่านหน้าตรวจสอบให้แบบนี้ ก็ดีไม่น้อยแต่เธอคอยมองตาของโจวซูไป๋อยู่ตลอด สายตาของคนเรามันจะเผยข้อมูลต่าง ๆ มากมาย โจวซูไป๋ซื่อสัตย์ เขาไม่โกหกหรอกซางจื้อเหนียนเองก็ต้องมองออกอยู่แล้ว คนทึ่ม ๆ คนหนึ่งไม่มีทางกล้าพูดจาเดชต่อหน้าเขาหรอกทำไมต้องถามมากมายขนาดนี้ด้วย?บางทีวันนี้ซางจื้อเหนียนอาจจะค่อนข้างรอบคอบไปหน่อย?โจวซูไป๋หลบตา “...สถานการณ์มันคับขัน ผมก็เลยส่งไปให้พี

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 415

    เซ่าเยว่ปลอบ “ไม่ต้องกังวล ประธานซางไม่ถือสานายหรอก”ซางจื้อเหนียน “...”เซ่าเยว่ไม่สนใจเขา คอยห่วงใยความรู้สึกของโจวซูไป๋...ซางจื้อเหนียนกำมือเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัวคอยมองโจวซูไป๋ด้วยความเย็นเยียบโจวซูไป๋ไม่กล้าสบตากับซางจื้อเหนียน แต่ก็สัมผัสได้ถึงอันตราย ราวกับจะเขมือบใครสักคนเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น เขาเลยหลบไปข้าง ๆ โดยอัตโนมัติ “ไม่...ไม่ถือสาจริง ๆ เหรอ?”เซ่าเยว่มองออกว่าโจวซูไป๋กลัวซางจื้อเหนียนเอามาก ๆ นี่ค่อนข้างจะเป็นเรื่องปกติด้วยซ้ำไป ประธานใหญ่มีรังสีแข็งแกร่ง ทั้งทำให้คนคาดเดาความคิดไม่ออก การที่เจอกับเขาแล้วไม่กลัวต่างหากถึงจะพบเจอได้น้อยเซ่าเยว่มองซางจื้อเหนียนเล็กน้อย ให้เขาวางใจ เลิกจ้องเขม็งเด็กมหาวิทยาลัยคนหนึ่งได้แล้ว เจ้าตัวเครียดไปหมดแล้ว ซางจื้อเหนียน “...”เขาเม้มปากแน่นกว่าเดิมเขาไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ โจวซูไป๋จะทำตัวอ่อนปวกเปียกแบบนี้เพื่อ?แต่เซ่าเยว่ดันหลงกลนี้เซ่าเยว่เดินมาตรงหน้าโจวซูไป๋ มองเศษหญ้าบนหัวเขา เอ่ยถามถึงเรื่องราวให้ชัดเจนก่อน “นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”ครั้นโจวซูไป๋นึกถึงเรื่องที่ตนเองเจอแล้วก็ทั้งเซ็ง ทั้งโมโห

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 414

    จู่ ๆ ซางจื้อเหนียนก็รู้สึกตลกขึ้นมาเจียงเฉินหานคนเดียวก็จะเต็มกลืนอยู่แล้ว ทำไมถึงได้มีหนุ่มน้อยหน้าหล่อมาอีกคนเล่า?หรือว่าเซ่าเยว่จะเป็นเหมือนกับที่เซ่าสวินว่าไว้จริง ๆ ที่ชอบคนอายุน้อย?ไม่อย่างนั้นทำไมเซ่าเยว่ถึงได้คิดจะขับรถมาหาหมอนี่ทั้งที่ข้อความก็ไม่ชัดเจน ถึงขั้นที่คิดจะให้เขากลับไปก่อน แล้วจะมาคนเดียวด้วยซ้ำซางจื้อเหนียนประมูลข้อมูลนี้ในหัวอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ไม่แสดงสีหน้าอะไรทั้งสิ้น เขาจำได้ว่าคราวก่อนเคยเจอหน้ากันอยู่หนหนึ่งที่ผับ ไม่รู้จักกระทั่งชื่อด้วยซ้ำเซ่าเยว่ถึงกับมาเพื่อหมอนี่ ซางจื้อเหนียนต้องมองหมอนี่ให้ดีเสียแล้วกวาดสายตาล้ำลึกและคมกริบมองตัวโจวซูไป๋ตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่รอบหนึ่ง แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นายชื่ออะไร?” โจวซูไป๋ถูกมองสำรวจด้วยสายตาเย็นยะเยือกก็แข็งทื่อไปทั้งตัวในชั่วพริบตาตอนที่เขาได้ยินเสียของเซ่าเยว่นั้น หัวใจเต้นระรัวเพราะตื่นเต้นเกินไป ถึงขั้นที่แทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความซึ้งใจด้วยซ้ำ ทว่าตอนนี้กระทั่งใบหน้ายิ้มแย้มก็ยังไม่กล้าทำความประทับใจของโจวซูไป๋ที่มีต่อซางจื้อเหนียนนั้นลึกซึ้งเกินบรรยาย เงียบขรึม ไม่แสดงอารมณ์ เปี่ย

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 413

    ซางจื้อเหนียนยกข้ออ้างอย่างหนึ่งออกมาโดยไร้ช่องโหว่ “ผมได้ยินมั่วหนานหว่านบอกว่าคุณจะลาออก ทำไมไม่บอกผม?”ชั่วพริบตาเดียวเซ่าเยว่ก็หายตกอกตกใจแล้ว “มันไม่ทันน่ะสิคะ วันนั้นพอตื่นเช้ามาก็ไม่เจอคุณแล้ว”เธอพูดถึงเหตุผลที่ลาออก “มันเกี่ยวกับแผนทางหน้าที่การงานน่ะค่ะ ตั้งแต่วันนี้ไปฉันจะร่วมสร้างธุรกิจกับเฉิงเหยียนโย่ว เธอรอฉันมาสามปีแล้ว ตั้งแต่นี้ฉันจะร่วมสู้ฝ่าฟันไปกับเธอ”เพื่อนสาวทั้งสองคนเริ่มหาเงินและทำกิจการแล้วหลังจากเซ่าเยว่หย่า กำลังวังชาและเวลาของเธอล้วนโฟกัสอยู่กับตัวของเธอเอง จนดึงแพสชันกลับมาได้ เซ่าเยว่ยังมีหลายสิ่งที่อยากลอง ทั่วทั้งตัวเปี่ยมล้นไปด้วยพลังที่ใช้ไม่หมด เต็มเปี่ยมไปด้วยกำลังวังชา ความรู้สึกแบบนี้มันดีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนมันจริงอย่างที่คิดเลย ร่างกายกำลังบอกเธอว่า เธอไม่เหมาะกับเจียงเฉินหาน“ประธานซาง การได้อยู่ในบริษัทของคุณมาสามปีเต็มนี่ พอหันกลับไปมองแล้วมันก็วิเศษไม่เบานะคะ”ก็เหมือนอย่างที่เฉิงเหยียนโย่วพูด งานง่าย ๆ สบาย ๆ มีตั้งมากมายขนาดนั้น ทำไมเธอถึงได้เลิกบริษัทของซางจื้อเหนียน ไม่อย่างนั้นคงไม่มีเรื่องราวมากมายขนาดนี้ตามมาแน่ซางจื้อเ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 412

    เซ่าเยว่นึกไม่ถึงว่าจะได้ยินเรื่องซุบซิบเข้าทว่าพอรู้แล้วก็ไม่ได้แปลกใจ ซางจื้อเหนียนยอดเยี่ยมขนาดนี้ คนที่ชอบเขาต้องเยอะมากแน่นอนซางจื้อเหนียนมีท่าทางเย็นชาตอนที่พูดเรื่องนี้ ก็เท่ากับว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเฟิงเจียเพราะถ้าชอบ เฟิงเจียคงได้เป็นแฟนเขาไปแล้ว ไม่ใช่เธอ“ฉันมั่นใจนะว่าเจอเธอเป็นครั้งแรก แล้วเรื่องความสัมพันธ์รักหลอก ๆ ของพวกเราก็ไม่มีใครรู้ด้วย ทำไมเฟิงเจียถึงได้มองฉันเป็นศัตรูรุนแรงขนาดนั้น?”ซางจื้อเหนียน “บางทีเธออาจจะเคยเจอพวกเรามาก่อน”เซ่าเยว่คิดว่าก็ใช่ เพราะเฟิงเจียเรียกชื่อเธอออกมาแต่เฟิงเจียก็ช่างขี้หึงเกินไปจริง ๆ ถึงจะถูกเฟิงเจียเจอเข้าฝ่ายเดียวโดยบังเอิญ แต่ตอนอยู่ข้างนอกเธอกับซางจื้อเหนียนก็ไม่ได้มีท่าทางใกล้ชิดสนิทสนมอะไร แค่นี้ก็ต้องหึง แล้วก็มาต่อว่าเธอเนี่ยนะ?เธอไม่ใช่ประเด็นสำคัญสักหน่อยคนที่เฟิงเจียชอบคือซางจื้อเหนียน ก็ต้องดูท่าทีของซางจื้อเหนียนสิ การที่มาจับจ้องผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเขาเนี่ย มันให้ความสำคัญสลับกันแล้วรอบตัวซางจื้อเหนียนจะต้องไม่ได้มีผู้หญิงอย่างเธอคนเดียวแน่ พอมีใครเข้ามาสักหนึ่งคน เฟิงเจียก็ต้องจัดการหนึ่งคน ไม่เห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status