Share

บทที่ 6

Author: ในน้ำมีปลา
เจียงเฉินหาน “เธอเก่งมากเลย”

เซี่ยอวิ๋นซูเห็นแววชื่นชมอย่างลึกซึ้งในดวงตาของเขา

ปฏิกิริยาแบบนี้อยู่ในความคาดหมายของเธอทั้งหมด

เจียงซื่อกรุปร่วมมือกับห้องทดลองของศาสตราจารย์ไต้ หากโปรเจกต์ของศาสตราจารย์ไต้ประสบความสำเร็จ เจียงซื่อกรุปก็ย่อมได้รับผลประโยชน์ตามไปด้วย

เซี่ยอวิ๋นซูกลับประเทศครั้งนี้ เธอตั้งใจจะเป็นบุคคลสำคัญในการพิชิตเทคโนโลยีหลัก เธอมั่นใจว่าตัวเองสามารถทำได้

ทุกวันนี้ไม่ใช่ยุคของสาวหวานใสซื่ออีกต่อไปแล้ว ไม่ใช่ว่าทำอาหารไม่กี่มื้อหรืออ้อนนิดอ้อนหน่อยก็จะสามารถมัดใจผู้ชายได้

ผู้หญิงต้องมีความสามารถ ผู้ชายถึงจะหันมามองเธอบ้าง

และเซี่ยอวิ๋นซูจะเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ

......

เซ่าเยว่ยุ่งอยู่ทั้งเช้า ระหว่างนั้นก็แวะไปชงกาแฟที่ห้องน้ำชา และหยิบติดมือมาเผื่อเพื่อนร่วมงานด้วยหนึ่งแก้ว

จู่ ๆ ก็ได้รับสายจากเลขาจาง

เธอเป็นเลขาของเจียงเฉินหาน

การติดต่อเพียงอย่างเดียวของเซ่าเยว่กับเธอ ก็คือถามเรื่องกำหนดการเดินทางของเจียงเฉินหาน

เซ่าเยว่ไม่อยากติดต่อใครที่เกี่ยวข้องกับเจียงเฉินหานเลย แต่เลขาจางเป็นสาวน้อยที่ใจดีมาก หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็รับสายของเธอ

“เซ่าเยว่ ตอนนี้เธอสบายดีไหม?” เสียงของเลขาจางเบามาก

“ฉันสบายดีมาก” เซ่าเยว่ไม่รู้ว่าเธอถามแบบนี้ทำไม

เสียงของเลขาจางเต็มไปด้วยความเป็นห่วง “ประธานเจียงเพิ่งพาผู้หญิงคนหนึ่งมาชมบริษัทเรา ฮือฮาสุด ๆ ผู้บริหารระดับสูงทุกคนต่างคิดว่าเธอคือว่าที่ภรรยาท่านประธาน...ฉันไม่รู้ว่าเธอรู้เรื่องนี้หรือเปล่า เลยบอกเธอไว้ก่อน ผู้หญิงคนนั้นชื่อเซี่ย...”

เสียงของเลขาจางหยุดลงกะทันหัน

จากนั้นก็มีเสียงเรียกเบา ๆ อย่างตกใจว่า “ผู้...ผู้ช่วยสวี่ ฉัน...”

เธอหลบอยู่ที่มุมทางเดิน ไม่คิดเลยว่าสวี่หลินจะเดินผ่านมาข้างหลัง!

สวี่หลินคว้าโทรศัพท์ของเลขาจางขึ้นมาดูแวบหนึ่ง แล้วขมวดคิ้วแน่น

“เธอมาถามกำหนดการเดินทางของประธานเจียงจากเธออีกแล้ว?”

เลขาจางเห็นประธานเจียงที่ยืนอยู่ข้างหลังสวี่หลิน พร้อมกับผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อเซี่ยอวิ๋นซู ก็ตกใจจนช็อก พูดอะไรไม่ออก

สวี่หลินไม่รอคำตอบจากเลขาจาง รีบรายงานตามหน้าที่ทันทีว่า “ประธานเจียง เป็นเซ่าเยว่ครับ เธอตามสืบกำหนดการเดินทางของคุณอีกแล้ว”

สวี่หลินไม่ได้วางสาย เขาไม่กลัวว่าเซ่าเยว่จะได้ยิน

เซ่าเยว่ขมวดคิ้ว

เธอไม่สนใจคำกล่าวหาเสีย ๆ หาย ๆ ของสวี่หลิน ตั้งใจจะวางสาย แต่แล้วเสียงเย็นชาของเจียงเฉินหานก็ดังขึ้นมา “ไม่ต้องสนใจเธอ”

นี่คือท่าทีที่เจียงเฉินหานมีต่อเธอมาตลอด

เซ่าเยว่ไม่ได้แปลกใจแต่อย่างใด

แค่เขาไม่ถามความจริงให้กระจ่าง แล้วก็เข้าใจเธอผิดไปเอง

เซ่าเยว่ในอดีตจะต้องอธิบายให้ชัดเจนเสมอ เพราะเธอกลัวเจียงเฉินหานจะเข้าใจผิด และก็กลัวว่าเขาจะโกรธด้วย

แต่ในเมื่อหย่ากันแล้ว เธอก็ไม่จำเป็นต้องแคร์ความรู้สึกของเจียงเฉินหานอีกต่อไป และยิ่งไม่ต้องไปสืบข่าวคราวของเขากับเซี่ยอวิ๋นซู

แต่วินาทีต่อมา เป็นเสียงที่เย็นชายิ่งกว่าของเจียงเฉินหาน “พรุ่งนี้คุณไม่ต้องมาทำงานแล้ว!”

เซ่าเยว่ตะลึง เขาจะไล่เลขาจางออกเหรอ?

ใช่แล้ว หลังจากติดต่อกับเลขาจางครั้งแรก เจียงเฉินหานก็จะไล่เธอออก

เซ่าเยว่ได้ขอร้องหลายครั้ง เลขาจางจึงสามารถอยู่ที่เจียงซื่อกรุปต่อได้ แต่เขาเคยเตือนแล้วว่าห้ามมีครั้งหน้าอีก

ก็แน่ล่ะ ไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว

เจียงเฉินหานไม่เคยไว้หน้าตนเลย

“เฉินหาน ไม่จำเป็นต้องโกรธมากขนาดนี้เพราะเลขาคนเดียวหรอก”

นี่...คือเสียงของเซี่ยอวิ๋นซูสินะ

ให้ความรู้สึกอ่อนโยนมาก

เหมือนกับชื่อของเธอ

เซี่ยอวิ๋นซูพูดปลอบ “เอาอย่างนี้นะ อีกเดี๋ยวฉันเลี้ยงข้าวเอง นายหายโกรธดีไหม? ถือซะว่าเห็นแก่หน้าฉัน”

สองวินาทีต่อมา “โอเค”

น้ำเสียงของเจียงเฉินหานไม่หนักไม่เบา

ถ้าเทียบกับความเย็นชาของประโยคก่อนหน้า ตอนนี้อ่อนโยนขึ้นเยอะ

เซี่ยอวิ๋นซูยิ้มบาง ๆ พลางพูด “งั้นเราไปกันเถอะ”

หลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงของเจียงเฉินหานและเซี่ยอวิ๋นซูอีก

เซ่าเยว่กระตุกยิ้มเยาะเย้ยตัวเอง ความรู้สึกขมขื่นเต็มหัวใจ

เธอเคยคิดมาตลอดว่าเจียงเฉินหานเอาใจยาก เพราะแต่ละครั้งที่ผ่านมา เธอต้องคอยง้อเขาหลายวัน เจียงเฉินหานถึงจะแสดงสีหน้าดี ๆ ให้เธอได้

สำหรับเซ่าเยว่ กระบวนการนี้เหมือนเป็นการทรมานทางใจ เธอจะกินไม่ได้ นอนไม่หลับทั้งคืน ตราบใดที่เจียงเฉินหานยังไม่หายโกรธ เธอก็ไม่สามารถมีสมาธิกับเรื่องอื่นได้เลย

แต่พอเปลี่ยนเป็นเซี่ยอวิ๋นซู แค่พูดประโยคเดียวก็พอแล้ว ง่าย ๆ แบบนี้เลย

สวี่หลินมองโทรศัพท์ที่คาสายไว้อยู่ รู้ว่าเซ่าเยว่ได้ยินทั้งหมดแล้ว

เซ่าเยว่ไม่ชอบสร้างความลำบากให้คนอื่น เลขาจางถูกไล่ออกเพราะเธอ คงจะรู้สึกผิดและทรมานใจแน่ ๆ

แม้การลงโทษจะตกอยู่ที่เลขาจาง แต่สำหรับเซ่าเยว่แล้ว เป็นการลงโทษทางใจ

มีเพียงแบบนี้ เธอถึงจะไม่แอบทำอะไรลับหลังอีกในครั้งต่อไป

ถ้าจะโทษ ก็โทษเซ่าเยว่ที่ชอบสืบกำหนดการเดินทางของประธานเจียง

ถ้าทำอะไรก็ต้องถูกผู้หญิงคนหนึ่งคอยจับตามอง แค่เขาลองนึกว่าตัวเองเป็นประธานเจียง ก็รู้สึกอึดอัดแทนแล้ว

สวี่หลินโบกมือเบา ๆ หัวหน้าเลขาที่รออยู่ด้านข้างก็เดินเข้ามา

หัวหน้าเลขา “เรื่องลาออก จะจัดการให้เรียบร้อยภายในวันนี้ค่ะ”

สวี่หลินส่งเสียง “อืม” อย่างเย็นชา แล้วก็เดินจากไป

วันพุธเป็นวันเกิดของเซี่ยอวิ๋นซู ตามที่ประธานเจียงสั่ง เขาต้องไปเหมาภัตตาคารสตาร์ไลท์ที่เบย์คลับ และคุยกับเจ้าของร้านเรื่องเตรียมเซอร์ไพรส์วันเกิดให้เซี่ยอวิ๋นซู

เขายุ่งมากจนไม่มีเวลามาคอยจับตาดูเลขาตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งลาออก

หัวหน้าเลขารับโทรศัพท์ที่สวี่หลินส่งมา เตรียมจะคืนให้เลขาจาง แต่บังเอิญเห็นหน้าจอแสดงชื่อผู้โทรว่า เซ่าเยว่

เธอขมวดคิ้วทันที ใช้เวลาสักครู่ถึงนึกออกว่าเป็นใคร น้ำเสียงตำหนิ “เธอนี่ก็โง่ไม่เบาเหมือนกันนะ หล่อนก็แค่แม่บ้านที่ส่งข้าวกล่องให้ประธานเจียงเท่านั้น เธอถึงกับต้องทำให้ประธานเจียงไม่พอใจเพราะหล่อนเลยเหรอ?”

เลขาจางถูกท่านประธานจับได้ด้วยตัวเอง ตกใจจนเซ่อไปแล้ว ตอนนี้เธอถึงกล้าพูดขึ้นมา แต่ก็ยังพูดอย่างสั่น ๆ ว่า “เธอ...เธอไม่ใช่แม่บ้านนะคะ เธอเป็นภรรยาของท่านประธาน...”

“เธอมีตาไหม? เธอไม่เห็นเหรอว่าพวกเขายังใส่แหวนคู่รักด้วย? คุณเซี่ยก็คือว่าที่ภรรยาท่านประธาน เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลย”

“ไม่ใช่...”

“เลิกพูดได้แล้ว รีบไปโอนงานให้ไวเลย!”

เลขาจางไม่กล้าพูดอะไร รับโทรศัพท์ของตัวเองคืนมาเงียบ ๆ

พอหัวหน้าเลขาเดินไปแล้ว เธอก็ก้มลงดู ถึงขั้นยังคาสายอยู่?

ทั้งร่างของเธอสั่นสะท้าน “เซ่า...เซ่าเยว่ เธอไม่เป็นไรใช่ไหม! เรื่องเมื่อกี้ เธอไม่ได้ยินใช่ไหม!”

เลขาจางหวังว่าเซ่าเยว่จะไม่ได้ยิน แต่นี่เป็นไปไม่ได้เลย

“อย่าไปฟังที่พวกเขาพูดมั่ว ๆ นะ เธอไม่ใช่แม่บ้านเลย...ขอโทษนะ ขอโทษจริง ๆ ...”

เจียงเฉินหานไม่เปิดเผยเรื่องแต่งงานต่อสาธารณะ และไม่อนุญาตให้เธอไปที่ออฟฟิศของเขา

ทุกครั้งที่เซ่าเยว่ส่งข้าวกล่องไป ก็มีเลขารับต่อ ทำให้ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแม่บ้านที่บ้าน เธอก็ไม่ถือสาหาความ

เซ่าเยว่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เลย เพียงแต่เธอไม่คาดคิดว่า เจียงเฉินหานที่แทบไม่เคยใส่แหวนแต่งงาน กลับใส่แหวนคู่รักกับเซี่ยอวิ๋นซู

มือของเจียงเฉินหานสวยมาก เรียวยาว ผิวขาวเนียน ข้อนิ้วชัดเจน ดูงดงามแต่เปี่ยมไปด้วยพลัง นิ้วนางที่เรียวยาวเมื่อสวมแหวนเพชรแล้วมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก

เมื่อมีโอกาส เซ่าเยว่ก็จะแอบมองนาน ๆ

แต่จำนวนครั้งที่เจียงเฉินหานสวมแหวนแต่งงานนั้นแทบนับนิ้วได้

เธอคิดมาตลอดว่าเจียงเฉินหานไม่ชอบความรู้สึกถูกผูกมัดจากเครื่องประดับ ที่แท้แล้วคิดมากไปเอง เขาแค่ไม่อยากใส่แหวนแต่งงานก็เท่านั้น

เซ่าเยว่ “ขอโทษนะ ตอนนี้ฉันช่วยให้เธอกลับมาทำงานไม่ได้แล้ว”

ถึงแม้เลขาจางจะเคยติดต่อกับเซ่าเยว่แค่ครั้งเดียว แต่ก็รู้สึกได้ว่าเธอเป็นคนดีมาก ๆ

จู่ ๆ ประธานเจียงก็สนใจผู้หญิงอีกคนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เธอรู้สึกไม่สบายใจ จึงมาบอกเซ่าเยว่ หวังให้เธอระวังตัวมากขึ้น

ผลลัพธ์กลับพังไม่เป็นท่า

เลขาจางรู้สึกผิดมาก “ไม่เป็นไร ๆ เมื่อก่อนฉันเคยบอกเธอแล้วว่า ฉันเตรียมกลับไปช่วยพ่อแม่ที่บ้านแล้วล่ะ การถูกไล่ออกไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับฉันเลย ตอนนี้ฉันก็เขียนใบลาออกไปครึ่งหนึ่งแล้ว!”

น้ำเสียงที่เธอพูดดูไม่เหมือนคนปลอบใจตัวเอง เซ่าเยว่จึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

จากนั้น เลขาจางพูดเสียงเบาลงนิดหน่อยว่า “แต่ว่าทำไมล่ะ เธอต่างหากที่เป็นภรรยาท่านประธาน ทำไมประธานเจียงถึงทำแบบนี้กับเธอ...”

ประธานเจียงไม่อนุญาตให้เซ่าเยว่เข้าไปในห้องทำงานของเขาเลย

แต่เซี่ยอวิ๋นซูกลับสามารถเข้าไปได้ตามสบาย มีสิทธิ์อะไรกัน?

ต่อให้ประธานเจียงจะอยากเก็บเรื่องแต่งงานไว้เป็นความลับ แค่บอกว่าเป็นญาติหรือเพื่อนก็ได้แล้ว ทุกคนก็จะไม่คิดมาก

แถมข้าวกล่องนั่นก็เป็นสิ่งที่เซ่าเยว่ตั้งใจทำอย่างเหน็ดเหนื่อย แล้วเอามาส่งให้ในช่วงพักกลางวัน แต่กลับถูกกันไว้ไม่ให้เข้า สิ่งที่ประธานเจียงทำนั้นช่างทำร้ายจิตใจคนเหลือเกิน!
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 100

    “...งั้นก็อวยพรให้พวกเขาเถอะ” คอมเมนต์ในเน็ตก็ตรงกับความเป็นจริงทั้งหมด เซ่าเยว่ไม่มีอะไรให้ประหลาดใจเฉิงเหยียนโย่วไม่มีอะไรจะพูดอยู่ครึ่งวัน ดีใจไปด้วยว่าเซ่าเยว่ไม่ค่อยสนใจนัก และสะอิดสะเอียนผู้ชายสารเลวไปด้วยไม่ว่าจะว่ายังไง เซ่าเยว่ก็สำคัญที่สุดเธอไม่อยากสนใจก็ไม่ต้องสนใจ ได้แต่อดกลั้นความสะอิดสะเอียนที่มีต่อผู้ชายสารเลวเอาไว้ และไม่พูดอะไรมากอีกจากนั้นก็พูดคุยกันอีกเล็กน้อย ก่อนที่ทั้งสองคนจะวางสายไปเซ่าเยว่ไม่สนใจเจียงเฉินหานกับเซี่ยอวิ๋นซูเลยจริง ๆ แต่ก็ยังกดเข้าไปในการค้นหาร้อนแรง โดยพิมพ์ชื่อของทั้งสองคนลงไปเลยไถตั้งแต่ต้นจนจบ ก็ไม่เห็นชื่อของซางจื้อเหนียนเลยโปรเจกต์การกุศลถูกนำเสนอออกมาเรื่อย ๆ ย่อมยิ่งดีอยู่แล้ว คนของตระกูลซือจะทำการโปรโมตอย่างยิ่งใหญ่ด้วยรูปลักษณ์ของซางจื้อเหนียน ถ้าโพสต์รูปภาพส่ง ๆ สักรูป ต้องขึ้นการค้นหาร้อนแรงแน่นอนแต่ไม่มีภาพเลยสักใบที่งานเลี้ยงเมื่อกี้มีสื่อมามากมายขนาดนั้น แต่รูปและวิดีโอที่เผยแพร่ออกไป คนของตระกูลซือจะตรวจสอบทั้งหมดเป็นได้แค่ท่าทางของตัวซางจื้อเหนียนเอง เขาชอบอยู่เงียบ ๆ มากกว่า ไม่อย่างนั้นตระกูลซือไม่มีเหตุผลใ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 99

    “นี่เป็นแค่การสมมติ แต่ในความเป็นจริงการสมมตินี้ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ เพราะงั้นเธอก็อย่าเอาสถานการณ์จริงมาโต้แย้งฉัน ฉันก็แค่อยากรู้ความคิดของเธอ”“จริงสิ ยังต้องกำจัดความสัมพันธ์ของเขากับเจียงเฉินหานด้วย สมมติว่าทั้งสองคนไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด แล้วซางจื้อเหนียนก็ชอบเธอ เธอจะเลือกยังไง?”ความคิดที่สลัดสถานการณ์จริงออกไปคือการเพ้อฝัน เซ่าเยว่ไม่ชอบการสมมติแต่ก็แค่คุยไปเรื่อยเปื่อยกับเพื่อนเท่านั้น ยังไงก็ไม่เป็นไรเธอจึงครุ่นคิดอย่างจริงจังอยู่ครู่หนึ่ง“อย่างแรก ซางจื้อเหนียนชอบฉัน อย่างที่สอง เขากับเจียงเฉินหานไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ภายใต้พื้นฐานการสมมติสองข้อนี้ คนที่จะปฏิเสธก็คงมีน้อยหรือเปล่า ถึงยังไงซางจื้อเหนียนก็หน้าตาดี มีเงิน รูปร่างดี ข้อดีเหล่านี้พอให้ผู้หญิงเราอิ่มเอมใจแล้ว”เฉิงเหยียนโย่ว “เพราะงั้นคำตอบของเธอคืออะไรเหรอ?”“ความคิดของคนจะปลี่ยนไปตามประสบการณ์ของตัวเอง เหยียนโย่ว ฉันเคยผ่านการแต่งงานที่ล้มเหลวกับเจียงเฉินหานมาก่อน เธอรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดของฉันคืออะไรไหม?”“มุมมองด้านความรัก?”“ใช่ มุมมองด้านความรักเปลี่ยนไปแล้ว กับเพื่อนฉันก

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 98

    เซ่าเยว่สบายใจอย่างที่สุดประธานซางยึดมั่นในหลักการเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เงินของเขา เขาก็จะไม่รับแม้แต่แดงเดียวที่เป็นของเขา เขาจะรับเอาไว้แน่นอนหลังกินอาหารค่ำ เซ่าเยว่ก็เก็บกล่องดิลิเวอรีซางจื้อเหนียนพูดขึ้นว่า “วางไว้เถอะ นี่ไม่ใช่งานที่คุณต้องทำ เดี๋ยวจะมีคนเก็บ”เซ่าเยว่รู้ว่าเขาเป็นโรครักความสะอาด ฉะนั้นจึงชิงลงมือก่อนล่วงหน้า ทำไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว เก็บจนสะอาดไปแล้ว สุดท้ายถือถุงขยะและเสื้อสูทตัวนอกของเขา พลางบอก ‘ฝันดี’ แล้วเปิดประตูออกไปซางจื้อเหนียนนั่งอยู่บนโซฟาเห็นข้อความที่ลู่เจี้ยนเฉินส่งมาก่อนหน้านี้[เมื่อกี้ฉันบอกว่าฉันอยากไปส่งเซ่าเยว่กลับบ้าน นายถึงขั้นสั่งอาหารค่ำมาแล้ว จู่ ๆ ก็บอกว่าเบื่อขึ้นมากะทันหัน ไอ้ความ ‘กะทันหัน’ นี่มัน ‘กะทันหัน’ เกินไปหน่อยหรือเปล่า? สารภาพมาเถอะ นายอยากไปส่งเซ่าเยว่กลับบ้านใช่ไหม!]ซางจื้อเหนียน [ใช่][จิ้งจอกเฒ่า ฉันรู้อยู่แล้วเชียว]ลู่เจี้ยนเฉิน [นายหมายความว่ายังไง เซ่าเยว่ขอบคุณนายต่อหน้าเราเยอะแยะขนาดนั้น นายกลับไม่ตอบกลับสักแอะ ถ้าเป็นฉันไปส่งเขากลับแทนนายละก็...นายชอบที่จะเมินขนาดนี้ สมควรแล้วที่นายจะโสด! สุดท้ายก็มาเ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 97

    ซางจื้อเหนียนไม่ได้เปลี่ยนรองเท้า เซ่าเยว่ยกเลิกแผนกลับไปเปลี่ยนรองเท้าที่ห้องเธอเคยมาสองครั้งแล้ว ทุกครั้งที่มา ห้องก็สะอาดสะอ้านตลอด น่าจะมีคนมาทำความสะอาดทั้งข้างนอกและข้างในทุกวันแต่ก่อนหน้านี้ เซ่าเยว่มาคนเดียว วันนี้ซางจื้อเหนียนก็อยู่ด้วยไม่ชินเล็กน้อยทว่ายังปรับตัวไม่ได้เซ่าเยว่วางถุงที่ใส่สูทของเขาเอาไว้ลงก่อน แล้วถือมื้อค่ำไปวางบนโต๊ะอาหาร เธอหยิบออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ก่อนจะเปิดออก ทำเหมือนอย่างปกติหลังซางจื้อเหนียนล้างมือ ก็มานั่งบนโต๊ะอาหารเซ่าเยว่พูดขึ้นว่า “ประธานซาง คุณทานให้อร่อยนะคะ ฝันดีค่ะ”เธอพูดจบก็คิดจะออกไป ทว่าชายหนุ่มกลับเอ่ยปากขึ้นอย่างเย็นชา “เยอะขนาดนี้ ผมกินไม่หมด” ปริมาณของอาหารค่ำ เซ่าเยว่สั่งน้อยลงครึ่งหนึ่ง แต่ยังไงที่ซางจื้อเหนียนสั่งก่อนหน้านี้ก็สำหรับสี่ที่ แม้จะลดลงครึ่งหนึ่งก็กินไม่หมดเซ่าเยว่เพียงอยากกลับไปพักผ่อนที่ห้อง ลังเลว่าจะปฏิเสธดีไหม ชายหนุ่มยกตะเกียบขึ้นมา พร้อมเบือนสายตาไปจากบนตัวของเธอแล้วเซ่าเยว่จึงไม่ปฏิเสธ...ปฏิเสธครั้งสองครั้งยังพอทน ปฏิเสธเยอะเกินไปจะทำให้เขารู้สึกว่าไม่ไว้หน้ากันเลยแม้แต่น้อย ถึงยังไงก็เป็นแ

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 96

    สายตาของซางจื้อเหนียนย้ายไปจากตัวของหญิงสาวตั้งนานแล้ว เขาชี้ดิลิเวอรีหลากหลายเมนูที่ตั้งอยู่เต็มโต๊ะ “กินข้าวเถอะ”ลู่เจี้ยนเฉินเรียกให้เซ่าเยว่มาด้วยกันเซ่าเยว่กำลังสังเกตสีหน้าของซางจื้อเหนียน เขาไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ จึงไม่รู้ชัดว่าเขาคิดยังไง แต่ไม่ได้พูดมาก คงน่าจะผ่านด่านละมั้งเธอมองของกินเต็มโต๊ะนี่ “ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ พวกคุณกินกันเถอะ”ลู่เจี้ยนเฉินอึ้งไป “รีบขนาดนี้เชียว คุณมีธุระเหรอ?”เซ่าเยว่พยักหน้าลู่เจี้ยนเฉินผลักซางจื้อเหนียน “ให้เธออยู่ต่อสิ” เขาเข้าใจแล้ว เซ่าเยว่ถูกความบ้าอำนาจของเจ้านายบีบบังคับ เพียงแค่เชื่อฟังจิ้งจอกเฒ่าเท่านั้นใบหน้าของซางจื้อเหนียนเต็มไปด้วยความไม่แยแสเซ่าเยว่ลุกขึ้น ทั้งเกรงใจและทั้งเหินห่าง “ประธานซาง พวกคุณสนุกกันต่อเถอะค่ะ ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ คืนนี้ขอบคุณคุณมากนะคะ”ลู่เจี้ยนเฉินลุกขึ้นยืนตาม “เกรงใจขนาดนี้ไปทำไมกัน เรื่องใหญ่แค่ไหนกันเชียว ถ้าไม่ได้เป็นเพราะฐานะของซางจื้อเหนียนเหมาะจะสั่งสอนยัยเด็กหน้าไม่อายมากกว่า ไม่อย่างนั้นผมก็คงไปช่วยคุณแล้ว ยังไงก็กินให้อิ่มก่อนแล้วค่อยไปเถอะ!”เซ่าเยว่ตอบกลับ “เราเจอกันพรุ่งนี้นะคะ”ล

  • รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี   บทที่ 95

    “เป็นเรื่องจริง ผมยังจำครั้งแรกที่เล่นไพ่นกกระจอกได้ เจ้านายคุณอุตส่าห์ชนะแล้ว แต่สุดท้ายพวกเราหลายคน ต่างคนต่างชนะไพ่แต้มดีกันคนละตา เอาคืนเงินที่เขาหามาอย่างยากลำบากทั้งหมด สุดท้ายยังต้องจ่ายเพิ่มอีกด้วยซ้ำ” ลู่เจี้ยนเฉินพูดขึ้นอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นเซ่าเยว่มองซางจื้อเหนียน เขาไม่พูดอะไร เพราะนั่นคือความจริง“เราต่อกันเถอะ”เฟิงเยี่ยน “เราจะไม่อ่อนข้อให้หรอกนะ”อวี๋หลินโจวเองก็พยักหน้า“วันนี้ผู้ชายอกสามศอกทั้งสามคน ใครก็อย่าห้ามให้เสียมาด”ลู่เจี้ยนเฉินดูเรื่องสนุกไม่รังเกียจเรื่องใหญ่โต ยากที่ซางจื้อเหนียนจะกำหนดตัวชี้วัดผลงานให้เซ่าเยว่ ชนะก็หมดสนุกแล้ว ต้องให้เธอแพ้ตลอดถึงจะสนุกเมื่อเผชิญหน้ากับ ‘การยั่วยุ’ ของทั้งสามคน เซ่าเยว่ก็ฉีกยิ้มพร้อมเอ่ยว่า “ไม่เป็นไรค่ะ มาเถอะ”ลู่เจี้ยนเฉินพลันฮึกเหิมขึ้นมา “นี่ ๆ ๆ ซางจื้อเหนียน เลขาตัวน้อยนายกำลังลองดีกับเราอยู่ นายพนันว่าเราชนะหรือพนันว่าเลขาตัวน้อยนายจะชนะ!”ซางจื้อเหนียนก็ยังทำท่าทีขี้เกียจจะพูดเช่นเดิมเซ่าเยว่ที่เย็นชาดั่งหุ่นยนต์ ถึงกับรับคำท้าอย่างทรงพลัง กลับปลุกเร้าจิตใจอย่างเอาชนะของเฟิงเยี่ยนอีกด้ว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status