LOGINสิบวันต่อมา...
เวลาเดินไปอย่างรวดเร็ว แต่ช่างแสนยาวนานช้าเป็นเต่าคลานสำหรับพุฒิตา
และแล้วการรอคอยอันแสนทรมานก็สิ้นสุดลงเสียทีเมื่อมีโทรศัพท์เรียกตัวเธอ
ทว่าครั้งนี้ไม่ได้ให้ไปที่ห้องครัวเหมือนอย่างเคย แต่เป็นส่วนสำนักงานของโรงแรม ซึ่งการไปที่นั่นทำให้เธอรู้สึกหวั่นใจเหลือเกิน
ตลอดสิบวันมานี้หญิงครุ่นคิดหาหลักฐานแก้ต่างให้ตัวเองอยู่หลายวิธี ทั้งพยายามส่งข้อความ และพยายามโทรติดต่อเพื่อนร่วมงานให้ช่วยเป็นพยานให้ แต่ดูเหมือนใครก็ไม่อยากเดือดร้อนด้วย จึงพากันติดต่อไม่ได้ หรือไม่ก็ตัดสายเธออย่างรวดเร็ว ที่สำคัญตัวพุฒิตาเองก็ไม่ได้สนิทกับใครมากนัก เพราะมัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เลิกจากตรงนี้ไปตรงนั้น ทำให้ไม่มีโอกาสสานสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานไว้สักเท่าไร แม้แต่เฟยเฟยที่ดูเป็นห่วงเป็นใยกันก็ยังไม่กล้าพูดอะไร
คิดแล้วก็รู้สึกอึดอัดหนักอกขึ้นมาพร้อมโทษตัวเองอีกครั้ง นังเตยนะนังเตย ทั้งที่ก็รู้สึกทะแม่งแต่ทำไมไม่รู้จักเก็บหลักฐานเซฟตัวเองเอาไว้บ้างเล่าโธ่เอ๋ย
หญิงสาวทึ้งผมตัวเอง เดินวนไปเวียนมา ตุ๋นตุ๋นเห็นทาสสาวเดินอยู่อย่างนี้หลายวันแล้ว วันแรก ๆ มันเงยหน้ามองแล้วร้องทักบ้าง เพราะแค่มองก็เวียนหัวแล้ว แต่ทาสก็ไม่หายจากอาการนี้สักที พักหลังมันเลยหลับตาใส่ดีกว่า
แต่ดูวันนี้ทาสจะลุกลี้ลุกลนยิ่งกว่าที่ผ่านมา ตุ๋นตุ๋นถอนหายใจ เอาใจช่วยแล้วกันนะ เพราะถ้าทาสแย่ เจ้านายอย่างตุ๋นก็แย่เหมือนกัน!
พุฒิตาหยุดเดินในที่สุด นึกอยากหาบางอย่างมาเป็นที่พึ่งทางใจ เธออยากรู้ว่าจะผ่านวันนี้ไปได้ไหมจึงลังเลอยู่นานว่าจะเปิดไพ่ประจำวันดีหรือไม่
แต่พักหลังมานี้ผลทำนายเจอแต่เรื่องซวย แถมยังแม่นเสียด้วย ทำเอาหญิงสาวสองจิตสองใจ
เอายังไงดีนะ... ใจหนึ่งก็กังวล อีกใจก็ขวางต่อมอยากรู้ไม่ไหว แต่ไหน ๆ ขอแง้มดูหน่อยแล้วกันน่า เผื่อได้ไพ่ดีมีกำลังใจให้ใจชื้นขึ้นมาบ้าง
พุฒิตาตัดสินใจได้ดังนั้นแล้วจึงกดเข้าแอปพลิเคชันเลือกไพ่ประจำวันเช่นที่เคยทำ
“สาธุขอให้ได้ขอให้โดนทีเถอะ” รอไม่นานก็ปรากฏคำทำนายที่เฉียบ สั้น และกระชับสุด ๆ
Card of the Day: Ten of Swords ⚔️ วิกฤติหนัก ตกงาน ถูกไล่ออก
กำลังใจกับผีน่ะสิ!
ได้ไพ่ประจำวันแบบนี้ ทำเอาใจเหี่ยวเสียจนไม่อยากออกจากบ้านเลย… โทรไปขอเลื่อนก่อนได้ไหมนะ
หญิงสาวกระสับกระส่าย ความคิดตีกันในหัวอีกครั้ง พะว้าพะวังว่าจะออกจากบ้านดีหรือเปล่า จนทำให้เสียเวลาไปร่วมหลายนาที ครั้นเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าตนต้องรีบแต่งตัวเพื่อไปเผชิญกับความจริงแล้ว
รีบไปดีกว่า ก่อนจะโดนข้อหาไปนัดสายให้คะแนนติดลบไปยิ่งกว่านี้…พุฒิตาปลอบใจตัวเองแล้วกัดฟันแต่งตัวให้เสร็จ แม้ผลไพ่ที่ซ้ำเติมกับเหตุการณ์ที่รออยู่จะพาหมดอาลัยตายอยากซะเหลือเกิน แต่ยังไงก็ขอสวยไว้ก่อนแล้วกัน
“ตุ๋นตุ๋น หนูว่าวันนี้มี้แต่งลุคไหนดีคะ” เธอหยิบชุดออกมาทาบตัวเทียบถามเจ้านายถึงสองชุด แม้จะรู้ว่าไม่ได้คำตอบกลับมาก็ตาม
ตุ๋นตุ๋นปรือตาขึ้น มองชุดเดรสกระโปรงหวานระบายพลิ้วสีอ่อนทางซ้าย แล้วหันมองเชิ้ตขาวคู่กระโปรงทรงเอรัดรูปทางขวาพลางคิด
ก่อนจะปรึกษาแฟชั่นกับใครช่วยดูสไตล์กันด้วยได้ไหม แมวอย่างเราเน้นงานผิวนะเหมียว! ว่าแล้วแมวเน้นผิวอย่างตุ๋นก็ถอนใจใส่ทาสสวยแต่ซื่อบื้ออีกรอบ ก่อนซุกคางลงบนเบาะนุ่มแล้วหลับใส่ตามเคย ไม่สนใจทาสคนนี้อีก
“อ๋า นอนต่ออีกแล้ว ตุ๋นตุ๋นของมี้นอนเก่งจังเลย” พุฒิตาพูดคุยกับสัตว์เลี้ยงแสนรักแล้วรู้สึกผ่อนคลายขึ้นบ้าง ก่อนโยนชุดทั้งสองเข้าตู้ตามเดิม
เอาเป็นว่าสวยเสริมความมั่นใจสักหน่อยดีกว่า พุฒิตาหยิบกระเป๋าแบรนด์หรูที่เธอเก็บหอมรอมริบสอยตามกระแสออกมา วางทาบเข้าคู่กับชุดกระโปรงสูทเข้ารูปสีน้ำตาล เป็นชุดสวยสง่าที่เธอปิ๊งแต่แรกเห็นแม้ราคาจะแสนแรง ทั้งยังไม่มีโอกาสได้ใส่ไปไหนเลยสักครั้ง เพราะเธอเป็นเชฟอยู่ในครัวไม่จำเป็นต้องแต่งเต็ม อีกทั้งอากาศเมืองไทยที่ฆ่าคนอุตริใส่สูทให้ตายคาชุดได้ แต่วันนี้จะไปเข้าห้องเย็นทั้งที ชุดนี้คงช่วยเธอได้บ้างแหละน่า…
โดยปกติพุฒิตาจะใช้ชีวิตอยู่แต่ในครัว เสร็จแล้วไปสตูดิโอถ่ายภาพเมื่อมีงาน และกลับหอพัก ไม่เคยไปที่ไหนอื่นอีก โดยเฉพาะส่วนสำนักงานแห่งนี้ ล่าสุดคงประมาณสามสี่ปีก่อนตอนมารายงานตัวเป็นพนักงานประจำ จากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลยทำให้รู้สึกไม่คุ้นเคยและทำตัวไม่ถูกอยู่เล็กน้อย
“สวัสดีค่ะ ติดต่ออะไรคะ” พนักงานต้อนรับเห็นพุฒิตาเดินตรงเข้ามาจึงกล่าวทักทาย
“มีนัดกับคุณบงกช เลขาฯ ท่านรองประธานค่ะ” เธอบอก
“ไม่ทราบให้แจ้งว่าใครมาขอพบคะ”
“พุฒิตาค่ะ”
“กรุณารอสักครู่ค่ะ” พนักงานต้อนรับต่อสายเข้าออฟฟิศที่อยู่ชั้นบน แจ้งความประสงค์ของผู้ติดต่อ แล้วหยิบคีย์การ์ดออกมาลงทะเบียน
“เชิญตามมาทางนี้ค่ะ” กล่าวจบเธอก็เดินนำพุฒิตาไปที่ทางเข้าลิฟต์โซนชั้นสูง แล้วแนะนำการใช้งานคีย์การ์ดให้เธอ
“คุณพุฒิตาแตะบัตรนี้แล้วหน้าจอจะปรากฏหมายเลขลิฟต์ที่ต้องขึ้นนะคะ ลิฟต์จะตรงขึ้นไปที่ชั้นสามสิบ เมื่อถึงแล้วจะมีคนรอรับอยู่หน้าลิฟต์ค่ะ” พุฒิตากล่าวขอบคุณ พนักงานต้อนรับคนนั้นจึงเดินกลับไปประจำยังเคาน์เตอร์ตามเดิม ส่วนเธอแตะคีย์การ์ดและเดินไปรอลิฟต์ที่เคลื่อนตัวลงมารับ ก่อนจะโดยสารลิฟต์สู่ที่หมาย
พุฒิตาหายใจไม่ทั่วท้องอยู่ตลอดเวลา มือเย็นเฉียบกำแน่นขึ้น อาจเพราะกังวล หรือเพราะไพ่สิบดาบ หรือไม่ก็เพราะแอร์เย็นเฉียบที่เป่ารดตัวเหมือนกลัวร้อน
ไม่ต้องเย็นเปลืองไฟขนาดนี้ก็ได้ไหม เอาซะนึกว่าอยู่อะแลสกา!!
แต่ถามว่าอะแลสกาเย็นขนาดไหนพุฒิตาไม่รู้หรอก ก็คนไม่เคยไปนี่นา
ไม่นานลิฟต์ก็จอดสนิท ประตูลิฟต์เปิดออก เธอพบว่ามีพนักงานหนุ่มหน้าใสคนหนึ่งยืนรออยู่แล้ว
“เชิญครับ ทุกคนรออยู่ข้างในแล้วครับ” เขากล่าวพร้อมพาเธอไปที่ห้องประชุมใหญ่สำหรับผู้บริหาร ที่ซึ่งใหญ่โตมโหฬารทั้งยังหรูหราหมาเห่า แต่ไม่ต่างอะไรจากลานประหารสำหรับเธอ…จะถึงเวลาโดนเชือดแล้ว!
ไม่สิ เรามาที่นี่เพื่อแก้ต่างให้ตัวเองต่างหาก ถึงไม่รู้จะมีใครรับฟังบ้างไหม แต่ก็ต้องพยายามลองดูสักตั้ง เป็นไงเป็นกัน สู้สิวะอีหญิง!!
ประตูเปิดออก แสงแดดยามสายส่องผ่านหน้าต่าง ทิ่มแทงนัยน์ตาเธอจนพร่ามัวไปวูบหนึ่ง พุฒิตาปรับสายตาอยู่ชั่วครู่ก่อนก้าวเข้าไปข้างในห้องประชุม
เธอกวาดสายตาโดยรอบก็พบกลุ่มคนที่รออยู่ ในจำนวนนั้น กิ่งกาญจน์เชฟตัวแสบกำลังนั่งลอยหน้าลอยตาอย่างไม่รู้สำนึก พุฒิตาฉุนกึกกำหมัด เธอไม่เคยเจอใครไร้ยางอายเท่านี้มาก่อนเลย ทั้งที่เธอไม่เคยทำอะไรให้แต่กลับทำร้ายกันได้ลงคอ นี่สินะโลกแห่งความจริง แม้ชีวิตที่ผ่านมาจะไม่เคยผูกใจเจ็บใคร แต่นับจากนี้ไป กิ่งกาญจน์คือศัตรูคู่แค้นอันดับหนึ่งของเธอ!
“เชิญนั่งค่ะคุณพุฒิตา” บงกชเอ่ยขึ้น
พุฒิตายกมือไหว้ทุกคนรอบ ๆ ตามความเคยชินก่อนสบสายตากับกิ่งกาญจน์ที่มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตาเกลียดชังเปิดเผยไร้ซึ่งความพยายามเก็บงำอำพราง
หญิงสาวขมวดคิ้วกับความรู้สึกเป็นศัตรูของอีกฝ่าย ก่อนนั่งลงตามคำบงกชอย่างว่าง่าย
เมื่อเห็นว่าทุกคนมาพร้อมแล้ว เลขาฯ ท่านรองประธานจึงเริ่มแจกแจงรายละเอียด ซึ่งความจริงแล้วหน้าที่ผู้ชี้แจงควรเป็นของแผนกบุคคล ทว่าเธอขออาสาทำแทนเพราะเห็นใจซูเชฟสาวที่ต้องรับศึกหนักในครั้งนี้ ในมุมของเธอเห็นว่าพุฒิตาเป็นคนตั้งใจทำงานมาโดยตลอด จึงไม่อาจปักใจเชื่อว่าหญิงสาวจะสามารถลงมือก่อเหตุฉ้อฉลเช่นนี้ได้ ทว่าทางบริษัทมีเอกสารเป็นหลักฐานมัดตัว คงทำได้เพียงรอดูกันต่อไปว่าพุฒิตาจะแก้เกมอย่างไร
“วันนี้เราเชิญคุณมารับทราบผลการตรวจสอบและการพิจารณาค่ะ” เธอกล่าวต่อ
“ค่ะ” พุฒิตาตอบเพียงสั้น ๆ
จากนั้นบงกชจึงนำเอกสารต่าง ๆ ออกมาเรียงรายตรงหน้าพุฒิตาแล้วชี้แจง
“นี่เป็นสรุปรายงานนะคะ ส่วนนี่เป็นรายการจัดซื้อเนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้ ซึ่งในเอกสารเหล่านี้แสดงให้เห็นว่ามีการเปลี่ยนผู้จัดส่งของสดต่าง ๆ และคนที่ลงนามอนุมัติคือคุณพุฒิตาค่ะ”
“คะ? แต่เอกสารพวกนี้เชฟกิ่งเป็นคนบอกให้หนูเซ็นนะคะ” ไม่ต้องเปิดเอกสารดูก็รู้ มันคือเอกสารฉบับเดียวกับที่เชฟกิ่งให้เธอเซ็น มีการอนุมัติเปลี่ยนผู้จัดส่งจริง ๆ ตอนนั้นเธอสะเพร่าเองที่เซ็นลงไปตามที่เชฟกิ่งบอก
“ยังจะมา ‘คะ’ อีก ตัวเองเป็นคนต้องการเปลี่ยนผู้จัดส่งเองแท้ ๆ ทั้งที่พี่ก็เตือนแล้วแต่ไม่ฟัง ตอนนี้จะมาโบ้ยว่าพี่เป็นคนให้เซ็นได้ยังไง” กิ่งกาญจน์รีบสวนกลับทันทีที่พุฒิตาพูดจบ
“ไม่ใช่นะคะ เชฟกิ่งนั่นแหละที่บอกให้หนูเซ็น แถมยังบอกว่าให้หนูฝึกหน้าที่นี้ไว้เผื่อวันหน้าพอขึ้นเป็นเชฟแล้วจะได้ทำเป็น เชฟกิ่งเป็นคนคะยั้นคะยอให้หนูรีบเซ็น หนูเลยไม่ทันอ่านเอกสารให้ละเอียดค่ะ พอผู้จัดส่งเจ้าใหม่เอาของมาส่งหนูถึงรู้สึกสะกิดใจ แล้วทักท้วงเชฟด้วยนะคะว่าเจ้าเดิมดีอยู่แล้ว แต่ว่าเชฟเขา…”
“ตอแหล”
“ถ้าอย่างนั้นเตยขอลากลับก่อนจะได้ไหมคะ กลัวจะจัดของไม่ทันค่ะ” ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร เธอก็ต้องรีบลากลับบ้านเสียแล้ว“เอาเถอะ ไว้พรุ่งนี้หรือวันหลังแม่แวะไปหาที่บ้านเจ้าเชนแล้วกันนะ” คุณนายสุพรรณีรู้สึกเสียดาย ยังไม่ทันได้ศึกษาอุปนิสัยของว่าที่ลูกสะใภ้เลย ก็ต้องส่งเธอให้กับเจ้าลูกชายสุดแสบเสียแล้ว ความรู้สึกนี้มันช่างเหมือนตอนที่กำลังจะส่งชิฌาเข้าเรือนหอเลยไม่ผิดเพี้ยนร่ำลากันเสร็จ พุฒิตารีบเดินทางกลับห้องพักพร้อมเจ้าหมูตุ๋น และห้องน้ำแมวอันใหม่ที่เพิ่งจะได้มา ทำการเก็บข้าวของลงกล่องและกระเป๋าเดินทางในแบบฉบับที่คิดว่าหยิบอะไรได้ก็ยัด ๆ ไปก่อนเมื่อแพ็กของตัวเองเรียบร้อย เธอจึงหันไปจัดแจงเก็บของใช้ของเจ้าหมูตุ๋น ไม่ว่าจะเป็นกระบะทราย ที่นอนแมว และของเล่นสารพัดอย่างที่กระจัดกระจายอยู่ทุกมุมห้องทุกอย่างดูเหมือนจะเสร็จสิ้น เหลือบไปดูเวลาก็พบว่าขณะนี้ล่วงเลยไปจนห้าทุ่มแล้วนี่เธอยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่เช้า! ว่าแล้วก็คุ้ยหาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กดน้ำร้อนใส่รอประมาณสามนาทีแล้วก็นั่งซดไปพลางเปิดแชตพิมพ์หากลุ่มเพื่อน ๆ ไปพลางToei: นอนแล้วยังสาว~Wann: ยางงงงงToei: ทำไรอะหวาน ดึกมว้ากWa
ชิฌาขับตามทางเข้าไปจอดภายในโรงจอดรถ จากนั้นหันมาแซวหญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านหลังนิดหน่อย“เป็นยังไง เห็นบ้านแล้วลมแทบจับเลยไหม”ใช่…ลมแทบจับ หวังว่าบ้านของคุณเชนอะไรนั่นจะไม่ใหญ่เท่านี้หรอกนะตอนที่ขับผ่านเพียงหน้าบ้านก็เล่นเอาเธอคิดสะระตะว่า ถ้าต้องทำความสะอาดบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้คนเดียว มีหวังเธอคงตายคาที่แน่นอน“เดี๋ยวเราเข้าไปคุยรายละเอียดกันในบ้านดีกว่า” ชิฌาเสนอ เพราะทุกคนต่างนั่งรถเดินทางกันมาเหนื่อยๆ ถึงระยะทางไม่ไกล แต่การจราจรที่ติดขัดเกินไปก็สร้างความเมื่อยล้าให้กับผู้โดยสารได้เช่นกันเมื่อเข้าไปภายใน พุฒิตาวางตะกร้าเจ้าหมูตุ๋นลงข้าง ๆ เพราะระยะทางระหว่างโรงจอดรถกับตัวบ้านก็ใช่ว่าจะใกล้ ๆ แบกมานาน ๆ เล่นเอากล้ามแขนแทบขึ้นเช่นกันจากนั้นเธอก็ก้มลงถอดรองเท้าแล้วนำไปวางบนชั้นที่จัดไว้สำหรับแขกผู้มาเยี่ยมเยือน“แมวชื่ออะไรเหรอจ๊ะ” คุณนายสุพรรณีถามขึ้น“หมูตุ๋นค่ะ”“มันไม่อึดอัดเหรออยู่แต่ในกรง ไหนจะต้องกินน้ำ ขับถ่ายอีก” จะว่าไปตัวมันก็ดูเนียนน่าสัมผัสพิกล“ไม่หรอกค่ะ มันชินแล้ว” เมื่อก่อนเธอเคยหิ้วมันไปด้วยทุกที่ แต่นั่นก็ค่อนข้างนานมาแล้วเหมือนกัน“ถ้าน้องไม่ข่วนข้าวของ ไม่เข้าห้อ
Toei: โอ๋ยยย เอาดี ๆ ชมอยู่LadyGecko: บอกแล้ว ฉันแม่น ฉันเก่ง ฉันสวย และรวยมว้ากToei: ไหนบอกมีหนี้เยอะLadyGecko: นังลูกจกตกอับ เคยได้ยินคำนี้ไหม ‘รวยหนี้’ นั่นแหละแม่เลยLadyGecko เพิ่มคุณเป็นเพื่อนToei: ไหนบอกจะเพิ่มเพื่อนต้องเสียเงินไงLadyGecko: ยกให้เป็นกรณีพิเศษ ไว้ลับฝีปาก แต่ถ้าจะดูดวงจ่ายเงินนะบอกก่อนToei: ลับฝีปากอะไรก๊อน ลูกจกออกจะเรียบร้อยดุจผ้ายับที่พับไว้ แต่เดี๋ยวแชร์ให้ค่าLadyGecko: ดีมาก แล้วอย่าลืมไปตามหาญาติด้วยนะ เผื่อมีญาติเหลืออยู่Toei: ตอนนู้นเจ้าหน้าที่เหมือนเคยตาม แล้วบอกว่าประสานงานติดต่อไม่ได้LadyGecko: บางทีเขาอาจจะตกหล่น ถ้าไม่เขาตกหล่น ก็ฉันมั่ว แค่นั้น จะเสียหายอะไรToei: โอเคร ขอบคุณมัก ๆ แม่จก ไว้ลูกจกจะเอาธูปเทียนและพานดอกไม้ไปกราบไหว้LadyGecko: เปลี่ยนจากธูปเทียน พานดอกไม้ เป็นพวงมาลัยเงินทองแล้วกันนะToei: งก!LadyGecko: ยอมรับ ฉันไปก่อน ง่วงจะนอนหลังจากได้แชร์ความสุขกับใครสักคนแล้ว พุฒิตามุ่งตรงกลับไปยังหอพักของตัวเอง และเริ่มลงมือเก็บข้าวของอย่างจริงจังสิ่งหนึ่งที่เธอกังวลมากคือ เจ้าหมูตุ๋นแมวเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างจะติดที่ เธอเคยอ่านเจอ บ
เดี๋ยวนะ...ผู้ชายฟรี แล้วเชนไหน ไม่ใช่เชนเดียวกันใช่ไหม พุฒิตาหวั่นใจแต่ไม่กล้าถาม ตอนนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้เงินก้อนมาใช้หนี้ เธอปลอบใจตัวเองว่าชื่อนี้คงโหลมากกว่า“ถ้าอย่างนั้นก็ขอผ่อนเดือนละแปดหมื่นห้าพันบาทค่ะคุณป้า ประมาณสองปีครึ่งน่าจะหมดค่ะ” พุฒิตาคำนวณหนี้สินในหัวอย่างรวดเร็ว ทางออกอยู่ตรงหน้า ต่อให้นอนในรูหนู เธอกับตุ๋นตุ๋นต้องผ่านมันไปให้ได้ อย่างมากก็แค่สามปีเท่านั้น ไม่นับว่านานเลย“โอเค แล้วนี่พร้อมเริ่มงานเมื่อไรดี ป้าจะได้โทรบอกลูกชายของป้า” คุณนายสุพรรณีดีใจจนเนื้อเต้น อยากจะจับหนูเตยคนนี้ไปส่งให้ถึงมือลูกชายเธอเสียวันพรุ่งนี้เลยด้วยซ้ำ เธอเชื่อว่าลูกชายจอมซนของเธอต้องไม่ปล่อยหนูเตยที่แสนจะน่ารักไปอย่างแน่นอน“จะว่าไปก็เริ่มได้เลยค่ะคุณป้า ว่าแต่ที่ทำงานเลี้ยงแมวได้ไหม เตยมีแมวหนึ่งตัว แต่มันเรียบร้อยมากค่ะ” เรื่องเรียบร้อยหรือไม่ เอาไว้ไปตายเอาดาบหน้าแล้วกันนังเตย ตอนนี้ขอให้มีงานทำก่อน ตอนนี้ต้องรอด ท่องไว้ต้องรอด!“งั้นดีเลย เดี๋ยวป้าให้คนไปช่วยขนของมาเลยดีไหม เริ่มงานพรุ่งนี้เลยเป็นไง” คุณนายสุพรรณีไม่ตอบเรื่องแมว เพราะเธอรู้ดีว่าหากนำเจ้าแมวเข้าบ้านแล้วจะเกิดอะไรขึ
“เดี๋ยวก่อนสิแม่...อยู่ ๆ จะเดินไปบอกให้เตยมาแต่งงานกับลูกชายของแม่มันจะละครไปหน่อยไหมคะ แล้วอีกอย่างเรายังไม่รู้พื้นเพของเตยดีพอเลยนะคะ” ชิฌารีบหยุดแม่ของตน ใจคอจะไม่ไตร่ตรองศึกษานิสัยใจคอกันดูก่อนสักหน่อยรึยังไงนะ“ใจเย็น ๆ อาณี สองคนนี้เขามีดวงที่เสริมเกื้อหนุนกัน แต่ดูท่าช่วงนี้อาจจะมีปัญหากัน อย่างไรเสียตอนนี้เราก็หาทางให้เขาได้รู้จักคุ้นเคยกันก่อน เรื่องแต่งงานค่อยว่ากันหลังจากนี้ก็ไม่สาย” ซินแสสำทับอีกแรง“แล้วไหนซินแสบอกว่าตาเชนต้องแต่งภายในสองปีนี้ล่ะคะ” เธอรีบท้วง เพราะเกรงว่าลูกชายตนจะเป็นคนไร้คู่ และไม่มีทายาทสืบทอดให้“อั๊วว่าลื้อก็แก่แล้วนะ ทำเป็นใจร้อนเป็นวัยรุ่นไปได้”“ใช่ค่ะแม่ ตอนนี้เรามาหาทางช่วยน้องเตยเรื่องเงินก่อนดีไหมคะ” ชิฌาเสนอขึ้น เพราะตอนนี้ปัญหาใหญ่ของนางแบบสาวในสังกัดเธอคือเรื่องเงิน ไม่ใช่เรื่องคู่ครอง“จริงด้วย งั้นแม่ให้เตยเขาไปเลยดีไหม เท่าไรนะ สามล้านหรือเปล่า” เธอหันไปถามบุตรสาวที่นั่งข้าง ๆ“สองล้านแม่...มันก็ได้อยู่หรอกค่ะ แต่หนูว่าเตยเขาคงไม่รับมาฟรี ๆ แน่นอน”“นั่นสิ มันดูจะเป็นนิยายเกินไป อยู่ ๆ ก็มีคนเอาเงินมาให้ตั้งสองสามล้าน เดี๋ยวแม่ขอคิดก่อ
“ช่วงนี้รู้สึกว่าดวงตก มีการใส่ร้าย โยนความผิดด้วยใช่ไหม” ซินแสเมิ่งเปิดประเด็น“ใช่ค่ะ” ทันทีที่ตอบออกไป คุณนายสุพรรณีที่นั่งอยู่อีกข้างกระถดตัวเข้ามาใกล้ และทำคอยื่นยาวเพื่อส่องดูกระดาษที่ซินแสเขียน“ลื้ออยู่เฉย ๆ เลยอาณี หดคอกลับไป ขออั๊วคุยกับหนูเตยก่อน” คอยืดยาวประหนึ่งยีราฟค่อย ๆ หดกลับเข้าที่พร้อมสีหน้าสลดราวกับเด็ก ๆ ทำผิดแล้วถูกจับได้ดีแค่ไหน...ซินแสเพียงปรามด้วยคำพูด ไม่ช่วยดันศีรษะกลับเข้าที่ให้ได้เขินอายไปมากกว่านี้ภาพตรงหน้าทำให้ชิฌาถึงกับส่ายหัว ความชอบกินเผือกเสพดราม่าของอดีตนางเอกเบอร์ต้นระดับประเทศอย่างแม่ของตนช่างไม่มีใครเกินจริง ๆพุฒิตาเองก็ตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนรู้สึกเข้าใจหัวอกคุณแม่เจ้านายเป็นอย่างดี ตอนหมอดูทำนายดวงให้เพื่อน สภาพคอเธอก็เป็นอย่างนี้ไม่ผิดเพี้ยนซินแสเมิ่งเริ่มสนทนาถามไถ่ถึงปัญหาของพุฒิตา เธอจึงเล่าเหตุการณ์นับตั้งแต่วันที่บุพการีเสียชีวิต กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการพาพุฒิตาไปอาศัยยังบ้านเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง เธอให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี อยู่อาศัยที่นั่นพร้อมเรียนหนังสือจนกระทั่งจบมัธยมปลายพอได้วุฒิม.หกในขณะอายุสิบเจ็ดปี เธอก็กลับมาสมัครงานเป็นพนักง






![จิรัติพันประดับ [เซตเกี่ยวรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)
