LOGINบนอาคารสูงเสียดฟ้าของโรงแรมห้าดาวใจกลางกรุง บนชั้น 63 เป็นที่ตั้งของร้านอาหารกึ่งบาร์ ซึ่งมีส่วนของสกายบาร์กลางแจ้ง สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอันงดงาม ผู้คนส่วนใหญ่ที่มาใช้บริการล้วนแล้วแต่เป็นคู่รัก แต่สำหรับอาชวินนั้นเป็นข้อยกเว้น
เมื่อไรก็ตามที่ชายหนุ่มรู้สึกกลัดกลุ้มหรือทุกข์ใจ การได้มานั่งจิบเครื่องดื่มทอดมองความงดงามยามพระอาทิตย์ใกล้ลาลับขอบฟ้า จวบจนผืนนภามืดสนิท นั่นเป็นสิ่งที่ช่วยกอบกู้ความรู้สึกของเขาให้ดีขึ้นได้บ้างไม่มากก็น้อย
ร่างกำยำภายใต้ชุดสูทราคาแพง นั่งเพียงลำพังอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ ในมือแกว่งแก้วเครื่องดื่มสีอำพันไปมาก่อนยกขึ้นจิบ ใบหน้า
หล่อเหลาเต็มไปด้วยแววเครียดขึง หวนคิดถึง บทสนทนาที่เกิดขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าสัวอิทธิพล ผู้เป็นบิดาบังเกิดเกล้า จู่ ๆ ก็เปิดอกพูดคุยกับชายหนุ่ม ว่าอยากเห็นลูกชายเป็นฝั่งเป็นฝา อยากเห็นหน้าหลานก่อนตาย ทำเอาคนเป็นลูกกตัญญูเช่นเขาต้องคิดหนัก
"ไอ้ซัน กูว่าแล้ว ติดต่อไม่ได้ทีไรต้องมานั่งซึมอยู่ที่นี่ตลอด" เสียงเรียกจากผู้มาใหม่ฉุดอาชวินออกจากห้วงความคิด
"แล้วมึงก็ต้องเสนอหน้าตามกุมาทุกที" ชายหนุ่มหันไปบ่น ชาคริต ผู้เป็นเพื่อนรักที่คบหากันมาอย่างยาวนาน เนื่องจากบิดาของพวกเขาทำธุรกิจร่วมกัน
ชาคริตนั่งลงบนเก้าอี้สตูลข้าง ๆ และหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์ ก่อนจะหันมาทางอาชวิน
"โห หน้าเป็นตูดเลยมึง เป็นไรวะ"
"แม่งก็เครียดเรื่องเดิมนั่นแหละ ยังคิดไม่ตกว่าจะเอาไงดี ป๋าก็โทรมาทุกวัน ทำเอากูไม่กล้ากลับบ้านเลย"
"กูว่ามึงต้องตัดใจได้แล้วนะ แอบชอบเขามาตั้งนาน มึงต้องเลิกหวังได้แล้ว ผู้หญิงมีตั้งมากมาย ลองเปิดใจมองคนอื่นบ้าง" ชาคริตกล่าวกับเพื่อนรักด้วยสีหน้าจริงจัง ทำเอาอาชวินคิดหนัก ชายหนุ่มเงียบไปครู่หนึ่งก่อนยกแก้วเครื่องดื่มสาดลงคอจนหมด และหันไปสั่งบาร์เทนเดอร์ต่อ
"เฮ้อ กูคงต้องตัดใจแล้วจริง ๆ สินะ"
เมื่อชาคริตเห็นว่าเพื่อนรักตัดสินใจได้แล้ว จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปพูดคุยเรื่องอื่น บางจังหวะก็หันไปเหล่สาวที่มากันเป็นกลุ่ม อีกทั้งยังชวนอาชวินให้ร่วมวงด้วยกัน เพื่อหวังว่าเพื่อนรักอาจถูกตาต้องใจใครเข้า จะได้มูฟออนได้เสียที
สองหนุ่มนั่งดื่มกันไปเกือบชั่วโมง
สมาร์ตโฟนเครื่องหรูของอาชวินก็มีเสียงแจ้งเตือนอีเมลดังขึ้น ชายหนุ่มหยิบอุปกรณ์สื่อสารคู่ใจขึ้นมาเปิดดู ก่อนที่จะรีบกดโทรออกหาใครบางคน เขารอสายอยู่นานแต่ทว่าปลายสายไม่รับ จนกระทั่งสายนั้นตัดไป สีหน้าเรียบเฉยของเขาเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด"ทำไมคุณเจ้าไม่รับ" อาชวินบ่นพึมพำ
"แล้วมึงจะโทรหาเขาเพื่อ..." ชาคริตถามพร้อมลากเสียงยาว
"ลูกค้าได้เอกสารไม่ครบ กูจะให้คุณเจ้าส่งเมลให้เขาใหม่"
"อ๋อ แล้วไป"
อาชวินยกสมาร์ตโฟนขึ้นแนบหูอีกครั้ง คราวนี้เขารอเพียงไม่นาน ปลายสายก็กดรับ
"คุณเจ้า คือผมอยากให้คุณส่ง... คุณเจ้า! คุณเป็นอะไรร้องไห้ทำไมครับ" เสียงตกอกตกใจของอาชวินทำให้ชาคริตถึงกับต้องเงี่ยหูฟัง และได้ยินเสียงสะอื้นดังลอดออกมาจากโทรศัพท์ "คุณใจเย็นก่อนนะ เดี๋ยวผมไปหา รออยู่ตรงนั้น อย่าวางสาย เข้าใจไหม"
อาชวินเอียงศีรษะใช้ไหล่ดันสมาร์ตโฟนเอาไว้แนบหู ก่อนล้วงเข้าไปในเสื้อสูทราคาแพง ควักกระเป๋าสตางค์ขึ้นมา หยิบแบล็กการ์ดสีดำขลับโยนไปไว้ตรงหน้าชาคริต และเดินออกจากบาร์ไปโดยไม่ยอมร่ำลาเพื่อนรัก
ด้านชาคริตก็นั่งงง มองอาชวินเดินหายลับไป ก่อนจะหันกลับมามองบัตรสี่เหลี่ยมสีดำเมื่อมบนเคาน์เตอร์ และบ่นพึมพำกับบัตรใบหรู
"เจ้าของมึงมูฟออนแล้วจริง ๆ แต่มูฟกลับไปที่เดิมนะ เฮ้อ..."
งานเปิดตัวเครื่องประดับคอลเล็กชันใหม่ของบริษัท Eternal Gems ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมกับเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องประดับและอัญมณีรายใหญ่ระดับประเทศแขกเหรื่อที่มาร่วมงานล้วนแล้วแต่เป็นไฮโซเซเลบริตี้ผู้มีชื่อเสียงในแวดวงสังคม หลายคนต่างหมายมั่นอยากจับจองเป็นเจ้าของเครื่องประดับหรูหราที่ถูกผลิตขึ้นมาอย่างประณีตวิจิตรบรรจง นอกจากนี้ยังมีนักธุรกิจจากอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับจากทั่วทุกมุมโลกให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากงานถูกจัดกินเวลายาวนานเกือบตลอดทั้งสัปดาห์ โดยในสองวันแรกจะเป็นงานจัดแสดงสินค้าสำหรับนักธุรกิจ และอีกสองวันหลังจากนั้นจะเป็นวันค้าปลีก ที่มีการเปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้ามาชื่นชมและเลือกซื้อเครื่องประดับได้ตามอัธยาศัย และในวันสุดท้ายเป็นงานเลี้ยงขอบคุณคู่ค้าและพนักงานของบริษัท“พี่เจ้าอันนี้อร่อยมาก”แวววิวาห์เดินถือจานอาหารที่หล่อนตักมาจนพูนจานวางลงตรงหน้าจันทร์เจ้า เลขาฯคนสวยหันมาเห็นก็ขำพรวดออกมา ใจหนึ่งก็ขำ อีกใจหนึ่งก็สงสารรุ่นน้องคนสนิทที่ต้องทำงานอย่างหนักมาตลอดทั้งสัปดาห์ วันนี้ทั้งวันสองสาวได้รับประทานเพียงแครกเกอร์และกาแฟเท่านั้น จึงไม่แปลกเลยที่แวววิวาห์จ
ภายในห้องพักผ่อนส่วนตัวของอาชวิน ชายหนุ่มจัดเตรียมข้าวของเครื่องใช้ของแฟนสาวเอาไว้ครบครัน จันทร์เจ้าใช้เวลาเพียงไม่นานก็ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกออกไป และสวมใส่ชุดใหม่ซึ่งเป็นชุดเดรสแบรนด์ดังคอลเล็กชันล่าสุดที่แฟนหนุ่มสายเปย์สั่งตรงมาจากปารีสเพื่อเธอโดยเฉพาะหลังจากสำรวจดูความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมจนพอใจ จันทร์เจ้าก็เปิดประตูออกมาจากห้องสองขาเรียวก้าวไปข้างหน้าได้เพียงสองก้าวก็หยุดชะงัก เนื่องจากภายในห้องทำงานของท่านประธานหนุ่ม ไม่ได้มีเพียงแค่อาชวิน แต่ทว่ามีใครอีกคนซึ่งเธอคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีกำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว“อ้าว คุณลุง มาได้ยังไงคะ แล้วเรื่องรถเรียบร้อยดีไหมคะ เอ๊ะ หรือว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ คุณลุงถึงได้ขึ้นมาถึงนี่” จันทร์เจ้าเดินตรงเข้ามาถามไถ่ชายชราด้วยความห่วงใย ทำเอาผู้อาวุโสเอ็นดูในความมีน้ำใจของหญิงสาวจนอดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้างออกมา“รถมาลากไปเรียบร้อยแล้วล่ะ ขอบใจหนูมากนะ ถ้าไม่ได้หนูลุงคงแย่”อาชวินยืนกอดอกทิ้งสะโพกพิงขอบโต๊ะทำงาน พลางมองทั้งสองคนสลับไปมา สีหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้“เจ้าขา...รู้จัก...” ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้เอ่ยถ
หลังกลับจากนครปฐม อาชวินและจันทร์เจ้าก็ต้องวุ่นวายกับการเตรียมงานเปิดตัวเครื่องประดับคอลเล็กชันใหม่ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนหน้างานของจันทร์เจ้าที่มากขึ้นเป็นเท่าตัว อาชวินจึงมีคำสั่งให้แวววิวาห์ขึ้นมาเป็นผู้ช่วยเลขานุการ แถมยังขึ้นเงินเดือนให้อีกด้วย มีหรือที่แวววิวาห์จะปฏิเสธวันนี้อาชวินออกไปตรวจดูความเรียบร้อยของเครื่องประดับที่จะให้นางแบบใส่ขึ้นโชว์ในวันงานโดยไม่ยอมพาจันทร์เจ้าไปด้วย ซึ่งก็น่าแปลกใจไม่น้อย เพราะตั้งแต่ได้แวววิวาห์มาช่วยงาน ประธานหนุ่มก็มักจะพาคนรักติดตามไปด้วยทุกครั้งแต่พอมาลองนึกดูอีกที ได้อยู่ทำงานที่บริษัทก็ดีเหมือนกัน เธอจะได้มีเวลาสะสางงานอื่น ๆ ที่คั่งค้างยาวเป็นหางว่าว“ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ กินเดี๋ยวก็ติดคอหรอกยัยหวาน”จันทร์เจ้าร้องปรามขณะที่เธอและแวววิวาห์กำลังนั่งรับประทานอาหารกลางวันในร้านอาหารสไตล์คาเฟ่แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริษัทตั้งแต่บริกรนำอาหารมาเสิร์ฟ แวววิวาห์ก็จัดการสวาปามอาหารในจานอย่างรีบร้อนด้วยความหิว“ก็มันหิวอ่ะพี่เจ้า” รุ่นน้องกล่าวเสียงอู้อี้ทั้งที่ยังมีอาหารอยู่ในปาก“โอ๊ย ยัยเด็กคนนี้ เคี้ยวให้เสร็จก่อนค่อยพูด”เมื่อถูกรุ่นพี่ที่รักบ
หลังจากเก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อย คุณเดือนเพ็ญก็เตรียมอาหารเสร็จพอดี ทั้งสามคนจึงมานั่งล้อมวงกันรับประทานอาหารเย็นบนแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน โดยอาหารที่ท่านนำมาต้อนรับแขกนั้นก็เป็นเมนูง่าย ๆ ที่ลูกสาวคนสวยของท่านโปรดปราน เช่น คะน้าหมูกรอบ นอกเหนือจากนั้นก็เป็นเมนูมาตรฐาน ที่ท่านคาดว่าแขกคนสำคัญน่าจะพอรับประทานได้ เช่น ต้มจืดเต้าหู้หมูสับ ไข่เจียวหมูสับ และผักน้ำพริกและชายหนุ่มก็ไม่ทำให้หญิงสูงวัยต้องผิดหวัง เพราะเขาสามารถรับประทานอาหารทุกอย่างในสำรับได้อย่างเอร็ดอร่อย หนำซ้ำยังเติมข้าวถึงสามรอบ กินไปชมไปไม่ขาดปาก เล่นเอาคุณเดือนเพ็ญยิ้มไม่หุบกันเลยทีเดียวนอกจากนี้อาชวินยังคอยดูแลเอาใส่จันทร์เจ้า คอยตักอาหารที่หญิงสาวโปรดปรานให้เป็นระยะ อีกทั้งยังคอยหมั่นหันมาถามไถ่คุณเดือนเพ็ญ คอยสังเกตว่าท่านต้องการจะตักอาหารอะไรในสำรับ เขาก็จะรีบคอยอำนวยความสะดวกให้ท่านทันทีนั่นก็ยิ่งทำให้คนเป็นแม่ชื่นชอบแฟนหนุ่มของลูกสาวมากขึ้นอีกเป็นกองหลังจากรับประทานอาหารกันจนอิ่มหนำสำราญ อาชวินก็ช่วยเก็บสำรับนำไปไว้ในครัว และช่วยล้างทำความสะอาดภาชนะต่าง ๆ แม้คุณเดือนเพ็ญจะห้ามปราม แต่ชายหนุ่มก็ยังขันอาสาที่จะทำส
หลังออกจากโรงพยาบาลได้เพียงหนึ่งวัน เลขานุการคนเก่งก็กลับมาทำงานตามปกติ ถึงแม้ว่าอาชวินจะขอร้องให้เธอพักผ่อนต่ออีกสักระยะ แต่จันทร์เจ้าเบื่อหน่ายเกินกว่าที่จะนอนอยู่เฉย ๆ ภายในห้องสี่เหลี่ยม เธอจึงออดอ้อนชายหนุ่มขอกลับมาทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ยังดี มีหรือที่อาชวินจะกล้าปฏิเสธคนรัก เพียงแค่เธอส่งสายตาเว้าวอนเหมือนลูกแมวน้อยเท่านั้น หัวใจชายหนุ่มก็อ่อนยวบยาบ ยินยอมตามที่เธอร้องขออย่างราบคาบช่วงนี้อาชวินมีภารกิจรัดตัวตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เนื่องจากกำลังอยู่ในช่วงเตรียมงานเปิดตัวเครื่องประดับคอลเล็กชันใหม่ ซึ่งในครั้งนี้มีผลงานที่ชายหนุ่มออกแบบเองรวมอยู่ด้วยกว่าจะถึงช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ทั้งคู่ต่างรอคอยก็เล่นเอาหน้าตาหล่อเหลาของท่านประธานหมองคล้ำไปถนัดตา“กาแฟค่ะ”ตุ๊กตาหน้ารถคนสวยยื่นแก้วกาแฟลาเต้เย็นให้กับสารถีหนุ่ม ขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครปฐมในเย็นวันศุกร์ที่สภาพการจราจรหนาแน่นจันทร์เจ้ารู้สึกสงสารอาชวินไม่น้อย ที่เห็นเขานั่งหาวนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่ออกเดินทาง คงเกิดจากความอ่อนเพลียสะสม ด้วยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาชายหนุ่มทำงานโต้รุ่งเกือบทุกคืน“ขอบคุณครับ” เขาหันมาก
ภายในห้องสตูดิโอขนาดกะทัดรัดเปิดแอร์เย็นฉ่ำ แต่ทว่าอุณหภูมิภายในกายของชายหญิงบนโซฟาตัวยาวกลับอุ่นจัดราวกับมีไฟสุมชายหนุ่มคลอเคลียใบหน้าคมคร้ามลงบนใบหูเล็ก ยื่นปลายลิ้นโลมเลียจุดอ่อนไหวจนเธอสั่นสะท้าน ก่อนซุกไซร้ลงไปยังซอกคอระหง พรมจูบทั่วทุกอณูด้วยความเสน่หา หญิงสาวเอียงคอตอบรับอย่างเต็มใจขณะที่ฝ่ามือหนาทั้งสองข้างลูบไล้ไปตามเรือนร่างอรชรนุ่มนิ่ม ไต่ลงไปบีบขยำสะโพกงอนผ่านเนื้อผ้าชุดเดรสบางเบา และนั่นก็ยังไม่สาแก่ใจชายหนุ่ม เขาเลื่อนมือขึ้นมารูดซิปเดรสตัวยาวจากทางด้านหลัง ปลดเปลื้องปราการที่เป็นอุปสรรคลงไปกองบนสะโพกผาย ก่อนก้มลงไปชิดร่องอกอวบอิ่ม สูดดมกลิ่นกายสาวที่เขาแสนถวิลหา กดจูบหนักหน่วงลงบนเนินเนื้ออ่อน ดูดดุนฝากรอยรักแดงระเรื่อไปถ้วนทั่วร่างบางนั่งบดเบียดบนตักกว้าง สัมผัสได้ถึงความแข็งขึงที่เริ่มขยายตัว นั่นยิ่งทำให้เธอส่ายเอวปลุกเร้าความเป็นชายให้ผงาดมากขึ้นกายแกร่งเมื่อโดนกระตุ้น ก็ปวดร้าวจนแทบขาดใจ เขาผละออกจากทรวงอกคู่งามอย่างอ้อยอิ่ง เงยหน้าขึ้นมองดวงหน้าสวยด้วยความหลงใหล นัยน์ตาดำขลับมีเพียงภาพสะท้อนของหญิงสาวที่เขาทั้งรักและหวงแหนยิ่งกว่าสิ่งใด อยากฝากฝังตัวตนเข้าไปปร







