หน้าหลัก / รักโบราณ / รักท่านอ๋อง...ช่างหวานล้ำ / ตอนที่ 9 ท่านอ๋องนั่งไม่ติด

แชร์

ตอนที่ 9 ท่านอ๋องนั่งไม่ติด

ผู้เขียน: ชาไทยเย็น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-09 02:54:05

 

หมิงลี่หยางเดินวนไปมาในห้องของตนเองด้วยความกระวนกระวายใจจนถึงช่วงค่ำเมื่อเห็นว่าฟางถิงถิงไม่กลับมาเสียที

เขาเอาแต่เฝ้าถามอาหลินทุกครั้งที่นางเดินผ่านหน้าห้องเขาว่าถิงถิงกลับมาหรือยัง คำตอบที่ได้มาทุกครั้งคือนางยังไม่กลับมา ทำให้เขารู้สึกนั่งไม่ติดที่

“ข้าไม่เคยทำอะไรบ้าๆ เช่นนี้มาก่อนเลยนะถิงถิง”

เขาเปลี่ยนชุดและสวมหน้ากากและออกไปทางหน้าต่างมุ่งตรงไปยังท่าเรือที่อาหลินบอก ไม่นานเขาก็พบนางที่กำลังเดินกลับบ้านพร้อมกับบุรุษหนุ่มรูปงามในชุดลำลองสบายๆ สีฟ้าอ่อน ทั้งคู่เดินคุยกันอย่างสบายใจพร้อมกับถือของมากมายในมือของบุรุษหนุ่มผู้นั้น

“กรมเจ้าท่า ขุนนางของหย่งโจวดูท่าจะว่างกันมากสินะ”

เขาเฝ้ามองนางจากด้านบน เมื่อนางกำลังจะเดินแยกจากบุรุษหนุ่มผู้นั้นเพื่อกลับไปยังร้านร้อยบุปผา

“ใต้เท้าตง ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะที่ไปเป็นเพื่อนข้าไปรับของ เราแยกกันตรงนี้ก็ได้เจ้าค่ะ”

“แม่นางฟางให้ข้าไปส่งที่ร้านเถิด ของมากมายถึงเพียงนี้เจ้าถือไปคนเดียวคงจะไม่สะดวก”

“ไม่รบกวนใต้เท้าตงเจ้าค่ะ ข้าถือไปได้เจ้าค่ะ”

“อย่าได้ปฏิเสธข้าเลย วันนี้ได้ข่าวว่าคุณชายเฉินผู้นั้นไปหาเรื่องเจ้าถึงที่ร้านอีกแล้วงั้นหรือ”

“ข่าวไปถึงท่านเร็วจริงนะเจ้าคะ"

“เอ่อ มีคนเล่าให้ข้าฟังน่ะ ลูกน้องในกรมข้าไปซื้อของในร้านเจ้าพอดี เขาเลยกลับมาเล่าให้ข้าฟัง ดังนั้น เจ้าก็ระวังเอาไว้ก่อนดีกว่านะ”

“หึ ลูกน้องเล่าให้ฟัง น่าเชื่อตายล่ะ ดูก็รู้ว่าเจ้าคงสั่งให้คนเฝ้าดูนางล่ะสิ ร้ายกาจไม่เบา แต่ตื้นเขินไปหน่อย”

“ขอบคุณใต้เท้าตงเจ้าค่ะ”

“ถิงถิง เจ้าอยู่นี่เอง ข้าตามหาจนทั่ว เห็นว่าค่ำแล้วเจ้ายังไม่กลับถึงร้าน ข้าเป็นห่วงเลยออกมาตาม ท่านนี้คือ…”

ลี่หยางเดินมาแทรกกลางทั้งสองคน ตงหลางมองหน้าบุรุษหนุ่มชุดดำสวมหน้ากากด้วยความรู้สึกแปลกใจ เขาเรียกนางว่าถิงถิงซึ่งดูสนิทสนมกัน ซึ่งแม้แต่เขายังไม่กล้าเรียกนางเช่นนั้น

“คุณชายท่านนี้คือ…”

“ข้าชื่ออาหยาง มารับถิงถิง ท่านคือ”

“ข้าน้อยชื่อตงหลาง เป็นหัวหน้ากรมเจ้าท่าที่หย่งโจว พอดีข้า..”

“อ้อ ใต้เท้า ขอบคุณที่เป็นธุระไปส่งถิงถิงนะ ตอนนี้ข้ามาแล้ว ไหนล่ะของ ถิงถิงกลับบ้านเถอะ ข้าหิวข้าวแล้ว”

ถิงถิงมองเขาอย่างนึกไม่ถึงว่าจะกล้าเรียกนางเช่นนี้ต่อหน้าผู้อื่น และยังบอกตงหลางว่าเขาอยู่บ้านเดียวกับนางอีกจนนางทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าท่านอ๋องผู้นี้คิดอะไรอยู่กันแน่ เหตุใดถึงตามนางออกมาแบบนี้

“เอ่อ ใต้เท้าตง ขอบคุณท่านอีกครั้งเจ้าค่ะที่เป็นธุระให้ อีกสองวันข้าจะไปรบกวนท่านที่กรมเจ้าท่าอีกทีนะเจ้าคะ”

“เอ่อ ได้สิแม่นางฟาง แล้วข้าจะรออยู่ที่กรมนะ เจ้ามาแล้วก็แจ้งเด็กๆ ได้เลย”

“เจ้าค่ะ วันนี้ข้าต้องขอตัวก่อนเจ้าค่ะ”

“เอาล่ะใต้เท้า ของมีเท่านี้ใช่หรือไม่ ขอบคุณท่านมาก พวกข้าขอตัว ไปเถอะถิงถิง ค่ำแล้วเดี๋ยวจะอันตราย ไปเร็ว”

“เอ่อ ขอตัวเจ้าค่ะใต้เท้าตง เดี๋ยวสิ นี่ …อย่าดึงแขนข้าสิ”

เขากึ่งดึงกึ่งลากถิงถิงออกมาจากตงหลางเพื่อพาเดินกลับบ้าน เมื่อแยกกันออกมาแล้วเขาหันไปดูยังเห็นว่าตงหลางยังยืนมองดูด้วยความเสียดายเขาจึงจับมือนางและเดินกลับร้านอย่างรวดเร็ว

“หึ ท่านอ๋อง ไหนบอกให้ข้าสั่งคนให้จับตาดูแม่นางฟาง แต่ตัวเองกลับออกมาตามเองเสียอย่างนั้น”

เป่าอี้ที่เฝ้าตามท่านอ๋องออกมาถึงกับขำเล็กน้อยกับอาการที่ผิดปกติของเจ้านายของตนเองก่อนจะสั่งองครักษ์หญิงติดตามพวกเขาต่อไปเงียบๆ

“นี่ ปล่อยข้านะ ข้าเจ็บนะ คุณชายหมิง ปล่อยก่อน”

เขาจับมือนางไม่ปล่อยด้วยความหงุดหงิดเมื่อนึกถึงตอนที่เห็นนางเดินหยอกล้อมากับบุรุษหนุ่มแซ่ตงนั่นอย่างอารมณ์ดี แต่พอกับเขา นางกลับหงุดหงิดโวยวาย

“ถิงถิง เหตุใดออกไปจากร้านถึงไม่แจ้งข้าล่ะ”

“แล้วเหตุใดข้าต้องแจ้งท่านด้วยล่ะ ข้าออกไปเอาของที่นี่ประจำอยู่แล้ว ท่านเป็นอะไรไปน่ะ นี่มันเป็นงานของข้า”

“แล้วเหตุใดไม่พาเด็กที่ร้านมาสักคน อาหลานก็ได้ เหตุใดต้องไปคนเดียว แล้วยังไปเดินกับผู้ชายคนอื่นกลางชุมชนแบบนี้อีก มันดูไม่เหมาะ”

“คุณชายหมิง ไม่สิ นี่มันแปลกตรงไหน ข้าไปรับสินค้า ข้ามากับอาหลานและเด็กที่ร้านอีกสองคน แต่ของมันมากข้าเลยให้พวกเขาเอากลับไปก่อน และแวะไปทำเอกสารเพื่อขอรับสินค้าที่จะมาถึงท่าเรือในอีกสองวัน ใต้เท้าตงก็แค่ทำหน้าที่ของเขา ข้าไม่เข้าใจว่ามันผิดปกติอย่างไร”

ถิงถิงเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดนางต้องมายืนเล่ารายละเอียดพวกนี้ให้เขาฟังอย่างละเอียดราวกับว่านางกำลังไปทำผิดอะไรมาและถูกซักถาม

แต่สายตาของคนตรงหน้าทำให้นางต้องพูดอธิบายออกไปเพราะเขายังไม่ยอมปล่อยมือนาง อีกมือก็ยังหอบของให้นางอยู่

“ท่านบาดเจ็บอยู่นะ เอาของมานี่ ข้าถือเอง”

เขาดึงมือกลับพร้อมกับจูงมือนางเดินกลับร้านตามเดิมจนนางรู้สึกว่ามือที่ถูกเขาจับมีไฟประหลาดแล่นแปล๊บๆ ในมือนั้น ผสมกับความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย มากกว่าเดินกับใต้เท้าตงเสียด้วยซ้ำ

“ต่อไปหากจะออกมาอีกก็บอกข้า ข้าจะมาเป็นเพื่อน และไม่จำเป็นก็อย่าเดินกับขุนนางบนถนน คนจะมองเจ้าไม่ดี”

“แล้วที่ข้าเดินกับท่านเล่าเจ้าคะ ท่านก็เป็นบุรุษ และตอนนี้ยังจับมือข้าไม่ปล่อยอีก ปล่อยมือข้าก่อนสิ”

“ไม่ได้”

“ทำไมเจ้าคะ”

“เดี๋ยวเจ้าจะเดินหลง ข้างหน้าเริ่มมืดแล้ว รีบกลับบ้าน ข้าต้องทำแผลแล้ว เจ้าลืมหรือไม่”

“แต่ว่าแผลของท่านน่าจะสมานตัวแล้ว ไม่จำเป็นต้อง....”

“โอ๊ยย…. เจ็บ”

“คุณชายหมิง เป็นอะไรไป”

“จู่ๆ ก็…เจ็บมาก แผลข้าเหมือนจะแตก รีบกลับบ้านกันก่อน แล้วรีบดูให้ข้าที”

“ถ้าเช่นนั้นก็รีบกลับเถอะลี่หยาง ท่านเดินไหวหรือไม่ ข้าพยุงท่านไปเอง ค่อยๆ เดิน”

“ข้ายังไหว เราไปกันเถิด”

ถิงถิงเริ่มกังวลว่าแผลของเขาจะแตกเพราะวันนี้เขาช่วยนางเอาไว้ก็ออกแรงไปไม่น้อย นี่ยังออกมาเดินตามหานางอีก

 นางจะเลิกโกรธเขาชั่วคราว อาการบาดเจ็บของเขาจำเป็นต้องรักษาให้หาย เขาจะได้กลับจวนอ๋องได้ แต่คนที่ถูกพยุงนั้นกลับลอบยิ้มอย่างพอใจ อย่างน้อยวันนี้เขาก็ทำภารกิจสำเร็จลุล่วงทุกอย่างที่เขาพอใจ

"ท่านเปลี่ยนชุดก่อนนะเจ้าคะ เดี๋ยวข้าจะไปเตรียมน้ำมาเช็ดตัวให้ท่านเจ้าค่ะ"

“ได้สิ”

นางเอาของวางและแยกตัวออกไปเพื่อสั่งให้อาหลินเตรียมน้ำและเตรียมต้มยา ซึ่งนางเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว รอเพียงเวลาที่จะยกไปให้ท่านอ๋องเท่านั้น

“คุณหนู ให้พวกข้ายกไปเลยหรือไม่เจ้าคะ”

“ยกตามข้ามาเลยก็ได้”

อาหลินและสาวใช้อีกสองคนยกน้ำที่ใช้เช็ดตัว ถาดยาและผ้าพันแผลเดินตามถิงถิงเข้าไปที่ห้องของท่านอ๋อง ก่อนจะเข้าไปนางจึงเคาะประตูก่อน

“คุณชายหมิง ท่านเปลี่ยนชุดเรียบร้อยหรือยังเจ้าคะ”

“เรียบร้อยแล้ว เข้ามาเถอะ”

ถิงถิงเปิดประตูนำสาวใช้เขาไปเมื่อพวกนางวางของเสร็จจึงรีบออกไปจากห้องทันทีโดยไม่รอให้นางเรียกจนนางนึกแปลกใจไม่น้อย สาวใช้ของนางเหตุใดจึงกลัวท่านอ๋องมากขนาดนี้

“ข้าจะแกะผ้าพันแผลให้ท่านนะเจ้าคะ”

“ได้สิ ระวังหน่อยนะ ข้ารู้สึกว่ามีเลือดไหลออกมา”

“จริงหรือ แผลจะฉีกหรือไม่ ข้าไปเรียกท่านหมอมาทำให้ดีกว่า”

“อย่านะ อย่าไป….”

เขาดึงมือนางเอาไว้ ที่จริงแล้วเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก เพียงแต่เมื่อครู่พอเปิดดูที่บาดแผลเหมือนจะไม่เจ็บแล้วจึงได้ชกไปที่แผลเพื่อให้มีเลือดซึมออกมาเท่านั้น เพื่อจะได้เป็นข้ออ้างให้นางมาเปลี่ยนผ้าพันแผลให้เขาทั้งเช้าและเย็น หากว่านางเรียกหมอมาตรวจ หมอต้องรู้แน่ว่าเขาทำอะไรกับบาดแผล

“ก็ได้เจ้าค่ะ ข้าจะดูอาการให้ท่านก่อน หากไม่หนักอะไรเราก็แค่ทายาแล้วพันแผลตามเดิม”

“ไม่น่าจะหนักหรอก เจ้าทำแผลเถอะ”

ถิงถิงเริ่มแกะผ้าพันแผลออก เขาจงใจโน้มตัวเข้าไปสูดกลิ่นกายของนางตอนนางเอี้ยวตัวมาแกะผ้าพันแผลออก ทุกครั้งเขาก็มักจะทำเช่นนี้ จนนางร้องด้วยความตกใจทำเอาเขาถึงกับสะดุ้งและหันมามองนาง

“ตายจริง แผลเปิดแล้ว ต้องรีบใส่ยาก่อนเจ้าค่ะ"

“ข้าตกใจหมดเลย นึกว่าคนร้ายโจมตี เจ้าตะโกนเสียงดังเชียว”

“เหตุใดแผลจึงเปิด เลือดออกมาด้วย ท่านรอสักครู่ ข้าขอเช็ดทำความสะอาดก่อน แล้วจะทายาให้”

เขาปล่อยนางทำไปจนเสร็จเมื่อนางเริ่มพันแผล เขาก็เผลอสูดกลิ่นกายนางอีกครั้ง มือหนาของเขาเผลอโอบรัดตัวนางเข้ามาอย่างลืมตัวจนนางตกใจ

“ลี่หยาง ท่านจะทำอะไร”

“ข้า….ถิงถิง คือว่าข้า…”

เขาจับคางนางขึ้นมาสบตาเขา ไม่ทันจะพูดสิ่งใด ปากหนาของเขาก็ก้มลงจูบนางทันที …..

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • รักท่านอ๋อง...ช่างหวานล้ำ   ตอนที่ 10 ยังไม่อยากหาย

    ถิงถิงเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าเขาจะจูบนางเช่นนี้มือนางเริ่มปัดป่ายไปทั่วเพื่อให้เขาผละออกไป แต่มือหนาของเขากลับรวบตัวนางไม่ให้ดิ้นเพื่อจะได้รุกล้ำตัวนางให้มากขึ้น“ถิงถิง หลับตาสิ”“อื้ออ ไม่นะ ท่านอ๋อง…”เขาไม่สนใจแล้วว่านางจะหลับตาหรือไม่ เขาบดขยี้ปากอิ่มรูปกระจับของนาง รสชาตินี้นี่เอง นางช่างอ่อนหวานยิ่งนัก หวานกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้ ความรู้สึกเช่นนี้เขาพึ่งเคยรู้สึกเป็นครั้งแรก ลิ้นสากหนาของเขาเริ่มล้วงเข้าไปในปากนางเขากวาดลิ้นเพื่อเปิดทางเข้าไป ถิงถิงขัดขืนเขาไม่ไหว เรี่ยวแรงนางหายไปจนหมดสิ้นจนเขาสามารถรุกล้ำไปถึงข้างในได้ มือหนาข้างหนึ่งสางผมนางเล่นอย่างใจลอย จนเมื่อมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ถิงถิงจึงผลักตัวออกจากเขาอย่างรวดเร็ว“คุณหนูเจ้าคะ อาหารเย็นและยาพร้อมแล้วเจ้าค่ะ”“เอา…เอาเข้ามาได้เลย”นางเริ่มเดินสะเปะสะปะและหยิบผ้าขาวใส่อ่างก่อนจะรีบเดินสวนพวกสาวใช้ออกไปนอกห้องทันทีโดยไม่มองหน้าผู้ใดอีกเลยลี่หยางมองตามนางออกไปพร้อมกับจับริมฝีปากตัวเองและยิ้มเบาๆ จนอาหลินไม่กล้ามองเขาเพราะกลัว เมื่อตอนบ่ายทำราวกับจะฆ่าคนให้ได้ ตอนนี้ท่านอ๋องนั่งยิ้มเหมือนคนบ้า นางรับอาการแบบนี้ไม่ไหวจริง

  • รักท่านอ๋อง...ช่างหวานล้ำ   ตอนที่ 9 ท่านอ๋องนั่งไม่ติด

    หมิงลี่หยางเดินวนไปมาในห้องของตนเองด้วยความกระวนกระวายใจจนถึงช่วงค่ำเมื่อเห็นว่าฟางถิงถิงไม่กลับมาเสียที เขาเอาแต่เฝ้าถามอาหลินทุกครั้งที่นางเดินผ่านหน้าห้องเขาว่าถิงถิงกลับมาหรือยัง คำตอบที่ได้มาทุกครั้งคือนางยังไม่กลับมา ทำให้เขารู้สึกนั่งไม่ติดที่“ข้าไม่เคยทำอะไรบ้าๆ เช่นนี้มาก่อนเลยนะถิงถิง”เขาเปลี่ยนชุดและสวมหน้ากากและออกไปทางหน้าต่างมุ่งตรงไปยังท่าเรือที่อาหลินบอก ไม่นานเขาก็พบนางที่กำลังเดินกลับบ้านพร้อมกับบุรุษหนุ่มรูปงามในชุดลำลองสบายๆ สีฟ้าอ่อน ทั้งคู่เดินคุยกันอย่างสบายใจพร้อมกับถือของมากมายในมือของบุรุษหนุ่มผู้นั้น“กรมเจ้าท่า ขุนนางของหย่งโจวดูท่าจะว่างกันมากสินะ”เขาเฝ้ามองนางจากด้านบน เมื่อนางกำลังจะเดินแยกจากบุรุษหนุ่มผู้นั้นเพื่อกลับไปยังร้านร้อยบุปผา“ใต้เท้าตง ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะที่ไปเป็นเพื่อนข้าไปรับของ เราแยกกันตรงนี้ก็ได้เจ้าค่ะ”“แม่นางฟางให้ข้าไปส่งที่ร้านเถิด ของมากมายถึงเพียงนี้เจ้าถือไปคนเดียวคงจะไม่สะดวก”“ไม่รบกวนใต้เท้าตงเจ้าค่ะ ข้าถือไปได้เจ้าค่ะ”“อย่าได้ปฏิเสธข้าเลย วันนี้ได้ข่าวว่าคุณชายเฉินผู้นั้นไปหาเรื่องเจ้าถึงที่ร้านอีกแล้วงั้นหรือ”“ข่าวไปถ

  • รักท่านอ๋อง...ช่างหวานล้ำ   ตอนที่ 8 คนเดียวในหัวใจ

    “เอ่อ คุณชาย คำถามพวกนี้ข้าต้องตอบท่านจริงๆ หรือเจ้าคะ”“ใช่ เพื่อความปลอดภัยของเจ้าเอง”“เขาชื่อเฉินลู่เสียน เป็นลูกขุนนางกรมเจ้าท่า มารดาของเขาอยากให้เขาแต่งงานออกเรือนเพราะความรักสนุกเสเพลไปวันๆ จึงมาทาบทามสู่ขอข้า แต่ข้าก็ปฏิเสธไปแล้วสองครั้ง พวกเขาก็ยังไม่คิดจะเลิกรา พวกเขาชอบมาวุ่นวายที่ร้านข้าเป็นประจำ อาหลานเองก็รับมือเขาไปหลายรอบแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ลดละความพยายาม จนมาครั้งนี้เจอท่าน คิดว่าเขาคงจะเข็ดไปอีกนาน”“แล้วเจ้าไม่ได้รู้สึกชอบเขางั้นหรือ”“แม้ว่าสตรีทั้งเมืองต่างลุ่มหลงในเงินและอำนาจและหน้าตาของเขา แต่ข้าก็มิใช่หนึ่งในสตรีเหล่านั้นอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ ชายมากรักเสเพลไม่รักใครจริงเช่นนั้น ไม่มีประโยชน์ที่จะเสียเวลาไปให้คุณค่า”รอยยิ้มบนใบหน้าของท่านอ๋องเผยขึ้นมาอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะยกชาขึ้นมาจิบเพื่อปกปิดแต่ก็ไม่สามารถควบคุมความดีใจออกนอกหน้าในคำพูดของนางไปได้“แล้ว เจ้ายังไม่มีคนที่ชอบพอกันบ้างเลยหรือถิงถิง”ถิงถิงหันมามองหน้าท่านอ๋อง สายตานางมองเขาอย่างมีความนัยบางอย่างซึ่งเขามองไม่ออกว่านางหมายความว่าอย่างไรในสายตานั้น แต่เขาก็ใคร่รู้เหลือเกิน จนนางพูดกับเขา“ข้ามีคนที่อย

  • รักท่านอ๋อง...ช่างหวานล้ำ   ตอนที่ 7 ว่าที่คู่หมั้นกับชายหน้ากากเงิน

    “เจ้าว่าอย่างไรนะ ว่าที่คู่หมั้น”“ใช่เจ้าค่ะ แต่คุณหนูไม่ยอมรับหมั้นเขาเสียที จึงได้แต่เป็นว่าที่เจ้าค่ะ”“หึ ถ้าเช่นนั้นก็ยังมิได้ถือว่าเป็นอะไรกัน”สายตาเขาหันไปทางหน้าร้านพร้อมกับความรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้ยินที่อาหลินพูดมา รู้แต่ว่าตราบใดที่เขายังอยู่ที่ร้านร้อยบุปผาแห่งนี้ เขาจะไม่มีวันให้ชายอื่นมาใกล้นางเด็ดขาด“ข้าจะไปดูเสียหน่อย”“แต่ว่าท่านอ๋องเพคะ ไม่ได้นะเพคะ คุณหนูสั่งเอาไว้”“อยู่ที่นี่เจ้าเรียกข้าว่าคุณชายหมิงเถอะ เจ้าชื่ออาหลินใช่หรือไม่”“ใช่เพคะ เอ่อ ใช่เจ้าค่ะคุณชายหมิง”“งั้นอาหลิน ข้าวานให้เจ้าไปดูเหตุการณ์แล้วกลับมาเล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่”“เจ้าค่ะ ข้าจะรีบไปดูให้เดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”หมิงลี่หยางเดินไปที่สวนสมุนไพรที่ปลอดคนก่อนจะเป่าปากเรียกคนออกมา เป่าอี้ปรากฏตัวต่อหน้าเขาทันที“ท่านอ๋อง ขออภัยที่กระหม่อมละเลยต่อหน้าที่ ทำให้พระองค์ต้องตกอยู่ในอันตราย”“สืบหรือยัง”“สืบแล้วพ่ะย่ะค่ะ คนของสำนักหงลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ดูท่าพวกมันจะไม่ยอมปล่อยข้าเลยสินะ”“จากเบาะแสที่กระหม่อมได้มา พวกมันยังอยู่ในเมืองหย่งโจวตามที่พระองค์คาดการณ์ไว้พ่ะย่ะค่ะ”“เจ้าจัดองครักษ์มาคุ้

  • รักท่านอ๋อง...ช่างหวานล้ำ   ตอนที่ 6 เดินชมร้านร้อยบุปผา

    โจ๊กได้ถูกยกมาให้ในห้อง พร้อมกับสาวใช้อาหลินที่เข้ามายกอ่างน้ำและของที่ไม่ได้ใช้ออกไป ถิงถิงเดินเข้าไปพยุงตัวท่านอ๋องขึ้นมานั่งที่โต๊ะ“ท่านกินไหวหรือไม่”“หากไม่ไหว เจ้าจะป้อนข้าหรือไม่”“คือว่า…ท่าน…ท่านหมอบอกว่าท่านจะต้องกินเองเพื่อให้กล้ามเนื้อได้ออกแรงบ้าง”“แต่ข้าพึ่งจะฟื้นเองนะ ถิงถิง เจ้าจะใจร้ายกับข้างั้นหรือ”สายตาที่ส่งมาให้ทำเอานางปฏิเสธไม่ลง ท่านอ๋องเองก็ไม่เคยจะพูดและทำเช่นนี้กับผู้ใดมาก่อนเช่นกัน แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใดที่เขาอยากจะทำเช่นนี้กับนาง“ก็ได้ ข้าจะป้อนท่าน แต่มื้อต่อๆ ไป ท่านต้องกินเองเพื่อจะได้หายเร็วๆ”“ได้สิ ถิงถิง ข้าต้องใช้หมึกพู่กันกับกระดาษ เจ้าช่วยเตรียมให้ข้าทีสิ”“ได้เจ้าค่ะ อาหลิน ไปเอามาทีสิ"“เจ้าค่ะคุณหนู”นางป้อนโจ๊กเขาจนอิ่มและยกน้ำให้เขาดื่มด้วยตัวเอง อาหลานเป็นคนเดินเอากระดาษและพู่กันมาวางไว้ให้นางวางบนโต๊ะอย่างแรงด้วยความไม่พอใจเล็กน้อยจนท่านอ๋องตกใจหันมามองหน้าสาวใช้ผู้นั้น นางสะบัดหน้าและเดินออกจากห้องไปทันที ถิงถิงถึงกับมองตามนางไปและหันมามองท่านอ๋อง“นี่ข้าไปทำอะไรให้นางไม่พอใจเมื่อไหร่งั้นหรือ ก่อนออกไปก็เห็นยังดีๆ อยู่นี่”“นั่นอาหลานเจ้า

  • รักท่านอ๋อง...ช่างหวานล้ำ   ตอนที่ 5 ข้ออ้างขออยู่ต่อ

    “ข้าเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ท่านอ๋องแล้วขอรับ ตอนนี้รอเพียงให้ท่านอ๋องฟื้นก็ไม่น่าจะมีอันตรายแล้วขอรับคุณหนู”“แล้วเขาจะมีไข้อีกหรือไม่เจ้าคะ”“ไม่แล้วขอรับ ช่วงนี้ให้พระองค์นอนพักไปก่อนเพื่อให้ยาเข้าไปสมานแผลภายใน น่าจะอีกราวๆ วันหรือสองวันคงฟื้นขอรับ”“ขอบคุณท่านหมอมาก ท่านทิ้งยาเอาไว้ก็ได้เจ้าค่ะ ข้าจะเป็นคนเปลี่ยนยากับผ้าพันแผลให้เขาเอง สองวันนี้รบกวนท่านมากเลยแทบจะไม่ได้พักผ่อน”“ไม่เป็นไรขอรับคุณหนูอย่าได้เกรงใจข้า หากไม่ได้คุณหนูช่วยข้าไว้ ข้ากับครอบครัวคงตายไปแล้ว”“อย่าพูดเช่นนั้นเจ้าค่ะท่านหมอ อย่าได้คิดมากอีกเลย เรื่องในอดีตข้าลืมไปหมดแล้ว”“ขอรับ ถ้าเช่นนั้น ข้าจะเอายาวางให้ท่าน ยาต้องเปลี่ยนวันละสองรอบ เช้าเย็น และพันแผลจนกว่าแผลจะแห้ง”“ขอบคุณท่านหมอเจ้าค่ะ"“เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน”ท่านหมอเดินออกไปแล้ว ถิงถิงจึงเดินมาเพื่อเช็ดตัวให้กับท่านอ๋องที่บัดนี้เริ่มมีเหงื่อออกเพิ่มเพราะอาการเจ็บปวดจากยาทาแผลเมื่อเช็ดตัวให้เขาเสร็จแล้ว นางจึงดึงผ้าห่มมาห่มให้เขาพร้อมกับมองใบหน้าที่บัดนี้หลับสนิทอยู่ตรงหน้านาง เขาดูเปลี่ยนไปจากเมื่อสิบปีที่แล้วมาก“หายเร็วๆ นะพี่หยางหยาง”ถิงถิงเดินออกไ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status