“คือ… ผม…” แม้จะพึ่งดื่มน้ำไป แต่คอของเขาก็แห้งผาก
“ผมกำลังสับสน และยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ยังไงก็ตามวันนี้พอก่อนเถอะ ผมขอตัวนะ… คุณอาร์ต” ในเมื่อเขาทำตัวเหินห่างขนาดนี้ ธามก็ไม่จำเป็นจะต้องทำตัวสนิทสนมกับเขาอีก
ที่ในห้องในเวลานี้ บรรยากาศเต็มไปด้วยแห่งความกระอักกระอ่วน บรรยากาศมาคุลอยอบอวลขึ้นมา แม้แสงไฟจะสว่างจ้า แต่ดวงตาของธามก็พร่ามัว
เขากำลังเดินผ่านอาชวิน แต่ทว่ามือหนาของอาชวินก็จับเอาไว้ ธามหันหน้ามามองเขา พร้อมกับน้ำตาที่ร่วงรินลงมา ก่อนที่ตรงหน้าของธามจะกลายเป็นสีขาวโพลน และร่างเล็ก ๆ ของธามก็ทรุดลงไป ดีที่ยังมีมือของอาชวินจับเอาไว้อยู่
“นาย… ธามเป็นอะไร”
พออาชวินได้ดึงตัวของธามเข้ามาปะทะกับแผงอก ใบหน้าของธามกระทบกับแผงหน้าอกของเขา อาชวินก็รู้ได้ทันทีว่า ธามกำลังป่วย
“ไม่สบายเหรอ?”
ธามได้สติมาบ้างแล้ว… ความร้อนที่กระจายออกมาทั่วทั้งร่างกายแผ่ซ่าน ตอนนี้ในหัวของธามปวดร้าวระบมไปหมด อีกทั้งการกลับมาได้เจอกับอาชวิน และได้รับความเฉยชา ไม่ยินดียินร้าย แล้วยังเหยียบย่ำน้ำใจของธามอีกด้วย
เขาสำนึกผิดแล้ว… และรอคอยกันกลับมาของอาชวินเสมอ เพียงอยากจะขอโทษอาชวินสักคำ
แต่ทว่า… ธามไม่ได้พูดอะไรเลย อาชวินทุ่มความร้าวรานที่เขาได้รับลงมาใส่ ยิ่งโหมทับใจที่แตกสลายของธาม เมื่อก่อนหน้านั้นหมดสิ้นแล้ว
“อาร์ต...ธามปวดหัวมาก”
“ธาม… ธาม… ธาม…” ธามหมดสติไปแล้ว อาชวินหน้าเจื่อน ใจหาย เขารีบอุ้มธามเข้าไปในห้องนอนหลังจากนั้นก็รีบหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้กับธาม อาชวินยังหายาแก้ไข้ให้กับธามกินด้วย
‘ทำไมนายชอบทำตัวเป็นภาระจริง ๆ ไม่เคยดูแลตัวเองเลยนะธาม ไหนรักแต่คนอื่น ทำไมนายไม่รักตัวเองบ้าง ธาม…’
ดวงตาของอาชวินแสนเจ็บปวด เขารู้นิสัยของธามดีที่สุด ธามอาจจะทำทุกอย่างเพื่อคนอื่นเสมอ
‘ฉันอยากจะให้นายทำทุกอย่างเพื่อตัวเองบ้างนะ’ อาชวินเอ่ยคำพูดเหล่านี้อยู่ในใจ
ในค่ำคืนที่มืดมิด อาชวินมองไปที่หน้าต่าง เวลานี้มีพายุอยู่ด้านนอก เสียงฝนที่ตกกระทบกับกระจก สายน้ำที่ไหลย้อยลงมาเป็นหยดน้ำไหลริน ทำให้บรรยากาศช่างหนาวเย็นในใจของเขายิ่งนัก
อาชวินก้าวเข้ามาในห้องของธามอย่างเงียบเชียบ หัวใจของเขายังคงเต็มไปด้วยความแค้นที่อัดแน่นมานานถึงห้าปี ห้าปีที่เขารอคอย…
เขาสร้างความสำเร็จให้กับตัวเอง โชคดีมาก อาชวินได้ไปอยู่และทำงานที่ฮ่องกง เพราะว่าเขามีเพื่อนอยู่ที่นั่น ในระหว่างที่เดินอยู่ในตรอกแคบ ๆ เขาได้เจอกับมิสเตอร์เฉินกวางฉี
ซึ่งกำลังถูกคนรุมทำร้าย อาชวินได้เข้าไปช่วยอย่างไม่คิดชีวิต ใช้วิชาป้องกันตัวที่มีอยู่ แม่ไม้มวยไทย ดีที่ตรงนั้น… มีไม้เบสบอลที่หักครึ่งอยู่ อาชวินจึงได้ใช้ไม้เบสบอลครึ่งอันนั้นจัดการกับพวกมันจนราบคาบ
พอดีคนของมิสเตอร์เฉินกวางฉีมาถึง จึงได้พามิสเตอร์เฉินและอาชวินออกไปจากจุดนั้น และเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้มิสเตอร์เฉินกวางฉี่รับเอาอาชวินเป็นบุตรบุญธรรม
เขาเพิ่งรู้ว่ามิสเตอร์เฉินเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในปักกิ่ง การช่วยชีวิตมิสเตอร์เฉินของอาชวินทำให้เขาเปลี่ยนชีวิต จากหน้ามือเป็นหลังมือ
และด้วยความรู้ในการทำธุรกิจต่าง ๆ ที่มิสเตอร์เฉินถ่ายทอดให้กับอาชวิน ทำให้เขาได้รับความไว้วางใจ และเงินทองมากมาย ตอนนี้เขาขอมิสเตอร์เฉินกลับมาอยู่ประเทศไทย เพื่อจะได้แก้แค้นคนที่เขารัก
การกลับมาหาธาม… ของอาชวิน ไม่ใช่เพื่อความรัก แต่เพื่อความเจ็บปวดที่ธามทำเอาไว้กับเขาต่างหาก
อาชวินมองไปรอบห้องที่เงียบสนิท ดูเหมือนทุกอย่างจะยังอยู่กับที่ ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลย
‘ธาม… นายกำลังทำให้ฉันสับสนนะ ได้ทำเหมือนกับว่านายรักฉันอย่างนั้นแหละ และทุกอย่างนี้นายจะเก็บเอาไว้ทำไม’
อาชวินเดินไปอยู่ที่หัวเตียง ก่อนจะหยิบกรอบรูปที่คว่ำหน้าอยู่ขึ้นมาดู เขาถึงกับผงะ… เพราะยังเป็นรูปคู่ที่ถ่ายด้วยกันในวันเวลาที่มีความสุข รอยยิ้มสดใสของทั้งสองยังปรากฏอยู่ในรูปนั้น
ชายหนุ่มนึกถึงวันเวลาที่เต็มไปด้วยความชื่นมื่นของทั้งสองคน
‘นายกำลังโกหกตัวเองนะธาม’ อาชวินก้มมองคนที่นอนอยู่บนเตียงด้วยแววตาโศก
สายตาของอาชวินตที่หยุดอยู่ที่เตียง เขาไม่อาจละสายตาไปจากธามได้ คนตัวเล็กนอนตัวงออยู่ใต้ผ้าห่มคล้ายกับต้องการกอดตัวเองให้ความอบอุ่นกับตัวเอง
ใบหน้าของธามยังคงซีดเซียว และมีเหงื่อแตกพร่างพราว
อาชวินรู้ได้ทันทีว่า…. ร่างกายของธามกำลังขับไล่พิษไข้ที่อยู่ในนั้น
“ธาม…” อาชวินเอ่ยขึ้น
น้ำเสียงที่ควรจะแข็งกร้าวกลับเปลี่ยนไป เขาไม่ต้องการยอมรับความรู้สึกอ่อนโยนที่กำลังพลุ่งพล่านขึ้นมา แต่ในตอนนี้เขาไม่สามารถปล่อยให้ธามอยู่ในสภาพนี้ได้
ธามไม่ได้ตอบกลับ เขาพยายามลืมตา แต่ความร้อนของไข้ทำให้เขาแทบจะไม่มีแรง กลิ่นปากของเขาเริ่มแดงซ่าน
“อาร์ต… ธามหิวน้ำจังเลย อาร์ตเอาน้ำให้ธามดื่มหน่อยสิ” ปากที่ขยับพูด ตาที่ยังไม่ลืมเต็มตา
“อ้อ! ไม่มีอาร์ตแล้วนี่นา ฉันโง่เองที่ฉันปล่อยนายไป ธามยังคงรักและรอคอยนายเสมอนะ อาร์ต...” ไม่รู้พูดมาจากหัวใจหรือว่าพูดมาจากพิษไข้ แต่คนที่ได้ยินถึงกับชะงักกัน
“นายกำลังเล่นละครหรือไงธาม” อาชวินอดที่จะเหน็บแนมไม่ได้
อาชวินเดินเข้ามานั่งข้างเตียง ใช้หลังมือสัมผัสหน้าผากของธาม “ไข้ขึ้นสูงมาก สงสัยต้องกินยาอีก”
เขาตัดสินใจไม่ฟังเสียงในใจที่บอกให้เขาทิ้งคนตรงหน้าไว้ แต่กลับหยิบผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้ธามแทน แล้ววางปกลงไปบนหน้าผาก
“นายมันโง่จริง ๆ” อาชวินบ่นออกมาขณะที่เช็ดเหงื่อบนหน้าผากของธาม
"ปล่อยตัวเองจนเป็นแบบนี้ได้ยังไง ไม่รู้จักดูแลตัวเองเลย คนโง่ นายนี่มันโง่ตลอด" อาชวินพึมพำ
“อาร์ตนายพูดอะไรนะ ฉันได้ยินไม่ชัด” แต่เสียงของธามก็อยู่ในลำคอ
“ลุกขึ้นมากินยาเถอะ” อาชวินหยิบยาและแก้วน้ำพร้อมกลับปลุกให้ธามลุกขึ้น
คืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวและแสงไฟจากตึกระฟ้าของฮ่องกง ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ สวยงามเกินกว่าจะบรรยาย ท่ามกลางความสูงของตึกที่ถูกประดับประดาไปด้วยไฟหลากสีมีร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุด ที่สร้างบรรยากาศโรแมนติกและหรูหราให้กับคู่รักที่ต้องการฉลองความรักอาชวินและธามนั่งอยู่ที่โต๊ะที่ประดับด้วยเทียนสีทอง พวกเขามองกันด้วยความรักและความอบอุ่นธามสวมชุดที่สูทเรียบง่ายสีขาว บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและรอยยิ้ม ขณะที่อาชวินในชุดทักซิโด้สีดำ ที่ดูหล่อเหลาและมีเสน่ห์มาก เมื่อแสงเทียนส่องถึงพวกเขา ทำให้เกิดเงาสลัวที่เติมเต็มบรรยากาศของความรัก“อาร์ต” ธามเรียกชื่อเขาเสียงเบาเขามองตาอาชวินด้วยความรักที่ลึกซึ้ง
ธามลุกขึ้นนั่งบเตียง จ้องมองหน้าอาชวินอย่างใจอ่อน ได้แต่คิดว่า เวลาเท่านั้นที่จะทำให้อาชวินใจดีกับตัวเองก็ได้จู่ ๆ อาชวินก็เอ่ยขึ้น “ไปจัดกระเป๋าเดินทาง”“ไปไหน”“ไปไหน... ก็ไปด้วยกันไง”“แต่ถ้านายไม่บอกฉันก่อนล่ะก็”“นี่! เมื่อกี้ยังบอกว่าไงนะ” เขาชี้หน้าธาม“ก็ได้ ก็ได้ ไปแล้ว” ธามรีบลุกไปที่ตู้เสื้อผ้า โดยที่มีร่างหนาของอาชวินตามมาติด ๆ เขารีบยกเอากระเป๋าเดินทางที่อยู่บนหลังตู่ลงมาวางไว้บนพื้น และหันมามองธามด้วยสายตานิ่ง ๆ อีกครั้ง“จัดกระเป๋าของนาย สำหรับหนึ่งอาทิตย์นะ”
“ไม่… ไม่นะ… อาร์ตนายจะไปไหน อย่าจากฉันไป… กลับมาเถอะ กลับมา… ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ… ฉันผิดไปแล้ว ฉัน… ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันรักนาย… อาร์ต… ถ้าขาดนายครั้งนี้ฉันจะฆ่าตัวตาย ฉันจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกที่โหดร้ายนี้อีกแล้ว ไม่… ไม่… ไม่…”เม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้าของธาม ร่างที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง“ธาม ธาม ธาม ในฝันร้ายเหรอ ตื่นได้แล้ว ธาม…” อาชวินเขย่าร่างกายของธามอย่างแรง เพื่อเลือกสติของธามให้กลับมาธามสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้าย เหงื่อไหลซึมทั่วหน้าผาก หัวใจเต้นแรงราวกับเพิ่งวิ่งหนีจากสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต แต่สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ปีศาจหรือเงามืด
“แฮ่ก... แฮ่ก…” เสียงลมหายใจแรงออกมาจากร่างของธาม กลีบปากงับเม้มเข้าหากัน พร้อมกับหลับตาพริ้ม รอรับความบันเทิงอันใหญ่โตของอาชวินดวงตาสีน้ำตาลเข้มหลุบมองล่วงหน้าน้อย ๆ ที่หลับตาปี๋ ความรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดยังปะปนอยู่ในอารมณ์ของอาชวิน แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็คือความสุข ความคิดถึง ที่อยากจะมอบให้กับคนตรงหน้า“ฉันขอร้องนะ อาร์ต... นายอย่าเกลียดฉัน” ปากเล็กยังพร่ำพูดออกมาเหมือนเพ้อเจ้อ ก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะขบงับเข้าหากัน และทำใบหน้าเหยเก“พร้อมนะ” อาชวินถาม ก่อนจะกดหัวมนหยักเข้าไปในช่องทางรูจีบด้านหลังของธาม“อาร์ต... อาร์ต... อาร์ต...” ธามเอาแต่เรียกชื่อของเขาสองมือจิกเล็บเข้าไปในเนื้อหนังของตัวเองที่ตรงใต้เข่า ร่างสู
“เอาเถอะนะ ตอนนี้เราอยู่ในสนามรบแล้ว กำลังจะขึ้นประลองยุทธกันแล้ว ฉันว่านายกินเถอะ นายลืมไปแล้วเหรอว่า วันนี้เป็นวันเกิดของฉันน่ะ”‘วันเกิดของอาร์ต บ้าจริง… ฉันลืมไปได้ยังไงเนี่ย ก็เพราะนายนั่นแหละ’ ธามรู้สึกเสียใจที่ลืมวันเกิดของอาชวินไปได้ทั้ง ๆ ที่ เขามักจะไปทำบุญทุกปีคนเดียว เพื่ออวยพรวันเกิดให้กับอาชวิน ธามจึงกวักมือเรียกพนักงาน“มีอะไรคะ”“วันนี้วันเกิดแฟนของผม”“ได้เลยค่ะ มีส่วนลด 10% ทุกเมนูเลยนะคะ”คำว่าแฟนของผม ทำให้หัวใจของอาชวินเต้นแรงผิดจังหวะแล้วธามก็ดึงพนักงานสาวเข้ามากระซิบกระซาบบอกอะไรบางสิ่งบางอย่าง
ในเวลาต่อมา “กว่าจะเสด็จออกมาได้นะ ชักช้าจริง” อาชวินเดินเข้าไปกระชากแขนของธาม ร่างเล็ก ๆ ปะทะที่แผงอกของอาชวิน“นี่นายทำเกินไปแล้วนะ มันเจ็บนะ ปล่อย!”“คนอย่างนายรู้สึกเจ็บเป็นด้วยเหรอ” แววตาเยาะเย้ยถากถาง“ทำไมนายจะต้องพูดจาแบบนี้ด้วย มันทำร้ายจิตใจกันนะ รู้ไหม?”“รู้จักคำว่าทำร้ายจิตใจด้วยเหรอ นึกว่า… ไม่สำนึกสำเหนียกด้วยซ้ำ”“...” ธามมองอาชวินอย่างท้อแท้ใจ“ก็ได้ ต่อไปฉันจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว เชิญนายตามสบายเถอะ นายอยากว่า อยากด่า อยากจะทำอะไรกับฉันก็เชิญ ก็ได้ทั้งนั้นแหละ”