“พี่สาวพี่บอมสวยจังเลยค่ะ สวยหล่อทั้งบ้านเลย” เด็กสาวเอ่ยขึ้นแก้เขิน
“ใช่จ้ะ ยิ่งพี่บอมยิ่งหล่อ… พี่ขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ ขอบคุณมากค่ะ”
จีน่า เจนจิราบอกพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่จะเอ่ยขอตัวแล้วเดินไปยังรถตู้คันหรูของบ้านที่มารอรับเธออยู่ ปล่อยให้รุ่นน้องผู้หวังดีมองตามด้วยสายตาอิจฉาแกมชื่นชม อิจฉาในความสวยและได้ใกล้ชิดหนุ่มฮอตของโรงเรียน ชื่นชมที่เธอไม่ใช่คนสวยที่ไร้สมอง เพราะพี่จีน่าผู้นี้นั้นถือว่าเรียนดี กิจกรรมเด่น
ทางด้านสองพี่น้องที่จู่ๆ วันนี้ผู้เป็นพี่สาวก็นึกใจดีไปรับน้องชายถึงโรงเรียน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าไม่เคยคิดจะไปโผล่หน้าให้เห็น แบม ภูวดลหันไปมองใบหน้าสวยของคนที่กำลังตั้งใจขับรถเก๋งยี่ห้อดังที่บิดาออกให้เนื่องจากอายุครบยี่สิบปี
“คิดยังไงวันนี้มารับผมที่โรงเรียน”
สารถีที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่หันมามองใบหน้าหล่อเหลาของน้องชาย ก่อนที่จะส่งยิ้มหวานให้ แบม ภูวดลรู้สึกขนลุกกับรอยยิ้มของพี่สาว เพราะถ้าบี๋ พิชสินีย์ส่งยิ้มแบบนี้มาให้ เธอมักจะมีเรื่องเดือดร้อนมาขอให้เขาช่วยเหลือเสมอ
“คืองี้…. พอดีที่กองถ่ายอะ เขาขาดตัวประกอบในฉากที่พี่ต้องแสดง เขาต้องการเด็กหนุ่มๆ ที่มีส่วนสูงเท่านี้ แล้วก็ต้องอยู่ในวัยเรียน ยิ่งมัธยมยิ่งดี พี่เลยคิดว่าเข้าข่ายน้องชายของพี่พอดี น๊า…. ช่วยพี่หน่อยนะ ไม่อย่างนั้นวันนี้พี่ไม่ได้ถ่ายแน่ๆ พรุ่งนี้พี่ไม่ว่างแล้วด้วย มีสอบ” บี๋ เริ่มบอกเหตุผลที่มารับน้องชาย
“ไม่อะ… พี่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบเป็นจุดสนใจ แค่ที่โรงเรียนก็พอแล้ว” เขาปฏิเสธทันทีแบบไม่ต้องคิดให้เสียเวลา
“แบม…. ช่วยพี่เหอะนะ พี่ขอ…. เขาไม่ได้ถ่ายเห็นหน้าตรงๆ เขาเอาแค่ด้านข้าง น๊าๆๆๆ ไม่มีใครจำได้หรอก เรื่องนี้เป็นละครเรื่องแรกของพี่ นะ…น๊า…..”
นักแสดงสาวหน้าใหม่พยายามเกลี้ยกล่อมผู้เป็นน้องชาย เพราะวันนี้ตัวประกอบที่นัดไว้เกิดอุบัติเหตุกะทันหัน และฉากนี้ก็ไม่สามารถเลื่อนไปถ่ายวันอื่นได้ แบม ภูวดลรู้สึกคิดหนัก เขาไม่ชอบเป็นที่รู้จัก แต่เขาก็รู้สึกเห็นใจพี่สาวอยู่ไม่น้อย เพราะละครเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของเธอ ด้วยความรักพี่ที่มีมากกว่าเขาจึงตอบตกลง
“แค่ฉากเดียวใช่ไหม”
“อืม…. ฉากเดียว น๊าๆๆๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่นั่งอยู่ทางข้างหลังตัวเอกแค่นั้น”
บี๋ พิชสินีย์หันมามองหน้าเขาอย่างลุ้นๆ ก่อนที่จะหันใบหน้างามกลับไปสนใจท้องถนนเบื้องหน้าต่อ
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ แต่แบมช่วยพี่บี๋ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ ถ้าเรื่องอื่นผมจะไม่ว่าเลย แต่ถ้าเป็นเรื่องแบบนี้ผมไม่ไหวจริงๆ”
ชายหนุ่มบอกพี่สาวเสียงเข้ม นักแสดงสาวหน้าใหม่ถึงกับร้องไชโยออกมาพร้อมกับปากที่พร่ำเอ่ยขอบคุณน้องชายที่ยอมช่วยแก้ปัญหาในครั้งนี้
สองพี่น้องเดินทางไปถึงกองถ่ายโดยใช้เวลาเพียงไม่นาน เพราะจากโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ไปถึงกองถ่ายไม่ถึงยี่สิบกิโลเมตร พี่โบวี่ ผู้จัดการส่วนตัวของบี๋ พิชสินีย์ที่รออยู่กองถ่ายก่อนแล้วออกมาต้อนรับ เธอรีบพาสองพี่น้องเข้าไปแต่งหน้าทำผม และเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเข้าฉาก แบม ภูวดล กลายเป็นที่สนใจของช่างภาพ ผู้จัดละคร หรือแม้แต่ผู้กำกับเองก็ดูจะชื่นชมเด็กหนุ่ม ผู้จัดการส่วนตัวของบี๋ พิชสินีย์อดที่จะเอ่ยปากชวนน้องชายของนักแสดงสาวในการดูแลเข้าวงการไม่ได้
“น้องแบมคะ ไม่สนใจเข้าวงการกับพี่บี๋บ้างหรอ เนี่ย...ผู้กำกับกับ กับพี่ตากล้องเอ่ยชมเราไม่หยุดเลย ขนาดไม่มีบทพูดแค่นั่งอยู่เฉยๆ ยังขึ้นกล้อง ราศีพระเอกจับเลยนะ”
“ไม่ล่ะครับ ผมไม่ถนัดเรื่องการแสดงออกเท่าไหร่” เขาปฏิเสธโดยไม่ต้องใช้เวลาคิด
“ไม่เก็บเอาไปคิดสักหน่อยหรอ”
เธอก็รู้ดีว่าตระกูลปรีชารักษ์นั้นร่ำรวย ไม่จำเป็นต้องให้ทายาทเข้าวงการก็มีเงินใช้ไปทั้งชาติ ของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับความชอบจริงๆ และดูท่าทางเด็กหนุ่มคนนี้มีแววก็จริง แต่เขาก็ไม่มีความชอบในด้านนี้
“โอ๊ย… พี่โบวี่ อย่าเสียเวลาเลยค่ะ นี่ขนาดมาวันนี้บี๋ยังต้องขอร้องน้องเกือบตาย”
บี๋ พิชสินีย์ที่เพิ่งไปเปลี่ยนชุดกลับมาใส่ชุดนักศึกษาชุดเดิมเอ่ยขึ้นหลังจากเดินกลับมาหาน้องชายแล้วได้ยินประโยคเชิญชวนเข้าวงการพอดี
“แหม… เสียดายของ หน้าตาดีทั้งบ้านจริงๆ เลยนะคะบ้านเนี้ย”
ผู้จัดการสาวอดที่จะเสียดายไม่ได้ แต่ในเมื่อสองพี่น้องช่วยกันปฏิเสธขนาดนี้ก็คงจะตื๊อต่อไปก็คงไม่เข้าท่า
“อย่าไปรบกวนว่าที่คุณหมอในอนาคตเลยนะคะ” ผู้เป็นพี่สาวเอ่ยออกมายิ้มๆ
“หืม…. นี่น้องแบมจะเรียนหมอหรือคะ”
ผู้จัดการส่วนตัวของบี๋เอ่ยถามอย่างตื่นเต้น ซึ่งดูบุคลิกภาพของเด็กหนุ่มแล้วเหมาะสมอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าเป็นนักแสดงน่าจะดังมากเช่นกัน
“ครับ” ชายหนุ่มตอบสั้นๆ
“อืม…. ถ้าอย่างนั้นพี่ก็ขออวยพรให้ว่าที่คุณหมอได้เป็นคุณหมอสมใจนะคะ” ผู้จัดการสาวอวยพรให้กับนักแสดงตัวประกอบจำเป็นของเธอในวันนี้
“ขอบคุณครับ”
“พี่โบวี่คะ… ถ้าอย่างนั้นเราสองคนขอตัวกลับก่อนนะคะ คุณพ่อกับคณแม่รอทานข้าวที่บ้านค่ะ”
เมื่อเห็นว่าได้เวลาอันสมควรแล้ว นักแสดงหน้าใหม่จึงเอ่ยลาผู้จัดการส่วนตัว ปกติโบวี่จะคอยรับส่งบี๋ พิชสินีย์ แต่ทว่าวันนี้นักแสดงสาวไปรับน้องชายมาด้วย เธอจึงไม่ได้ไปรับและไปส่งอย่างเช่นเคย
สองหนุ่มสาวยกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่า ก่อนที่จะหันไปยกมือไหว้ลาคนในกองถ่าย สองพี่น้องเยื้องย่างออกจากกองถ่ายไปท่ามกลางสายตาที่มองไปที่คนทั้งคู่อย่างชื่นชม แกมเสียดายที่เด็กหนุ่มไม่สนใจจะเข้าวงการ
หลังจากที่ขึ้นไปนั่งบนรถของพี่สาวได้ แบม ภูวดลก็ถอนลมหายใจยาวๆออกมาจนพี่สาวได้ยิน เธอมองน้องชายยิ้มๆอย่างเข้าใจ ก่อนที่จะขับรถออกไปจากกองถ่ายที่อยู่ใจกลางกรุงแห่งนี้มุ่งตรงกลับบ้านปรีชารักษ์ ซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่ไม่ถึงสิบกิโลเมตร
เด็กหนุ่มหลับตาลงก่อนที่จะคิดทบทวนอยู่ภายในใจว่าวันนี้ มันช่างเป็นวันที่แสนวุ่นวายและเสียเวลาสำหรับเขาจริงๆ หวังว่าในชีวิตนี้เขาคงจะไม่ได้ก้าวเท้าเข้าไปในวงการบันเทิงอีกแล้ว
“แบม… นายล้างหน้าด้วยอะไรอะ หน้านายขาวดี”จู่ๆ เขาก็เอ่ยออกมาขัดจังหวะ ทั้งจีน่า เจนจิราและตั้ม อนุพงษ์ต่างพากันเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของแบม ภูวดลก็พากันเห็นด้วยกับกราฟ กาลัญญูกับเรื่องที่ว่าแบม ภูวดลนั้นหน้าขาวใส“โฟมล้างหน้าไง แล้วก็มาสก์หน้าก่อนนอน” เขาตอบตามความจริง“มาสก์หน้าด้วยเหรอนายน่ะ แต่มาสก์หน้าพวกผู้หญิงเขาทำกันไม่ใช่เหรอวะ” กราฟ กาลัญญูเอ่ยถามออกมาอย่างจับผิด“จีน่า… ก่อนนอนเธอมาสก์หน้านอนไหม”“ม่ะ…มาร์คสิ ถามได้ นายไม่มาร์คหรือไง เพิ่มวิตามินให้ผิวหน้าไง” จีน่าหันไปตอบอีกฝ่าย“ไม่อะ… ขี้เกียจหึๆ”สายตาที่มองไปยังแบม ภูวดลนั้นเต็มไปด้วยความจับผิด แต่มีหรือที่หนุ่มผู้เก็บงำความลับมานานอย่างแบม ภูวดลจะหลุดออกมา“พี่สาวมันเป็นดาราไง แม่มันก็เป็นคุณหมอ ไม่แปลกหรอกที่จะมันจะได้รับการดูแลจากแม่กับพี่สาว”ตั้ม อนุพงษ์เอ่ยออกมา เขาไม่ได้ช่วยเพื่อนแต่เขาคิดว่าเพื่อนดูแลตัวเองเพราะมีพี่สาวเป็นดาราและมีมารดาเป็นแพทย์หญิง“นายกำลังจับผิดอะไรเราหรือเปล่ากราฟ”แบม ภูวดลจ้องหน้าเขาพร้อมกับเอ่ยถามออกมา จีน่า เจนจิรากับตั้ม อนุพงษ์ก็หันไปมองหน้าเพื่อนใหม่เป็นตาเดียวกัน“เปล่า…. ก็แค่อยากรู
ร่างสูงโปร่งที่เดินผ่านเข้าประตูโรงเรียนมัธยมแห่งนี้มากำลังตกอยู่ในสายตาของคนที่กำลังนั่งรออยู่ แบม ภูวดลไม่ได้สนใจคนรอบข้างจึงทำให้เพื่อนใหม่เข้ามาประชิดตัว แขนแข็งแรงพาดลงบนไปไหล่กว้างมือหนาก็วางลงบนบ่า ชายหนุ่มสะดุ้งเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะหันใบหน้าหล่อเหลาไปมองแล้วพยายามจะเบี่ยงกายออกจากวงแขนแข็งแรงของอีกฝ่าย แต่ทว่ากราฟ กาลัญญูกลับบีบไหล่เขาอย่างแน่นหนา“ปล่อย!!!” น้ำเสียงแข็งกร้าวดังลอดไรฟันจนคนที่โอบไหล่อยู่ถึงกับหัวเราะดังอยู่ในลำคอ“หึๆ”กราฟ กาลัญญูผละวงแขนแข็งแรงของตนออกจากไหล่กว้างของอีกฝ่าย“หวงจังนะ… ร่างกายนายน่ะ”เขาเอ่ยออกมาขณะที่เดินข้างๆ สาวๆ ที่มองมาต่างพากันหวีดร้องเพราะหนุ่มฮอตกับหนุ่มหน้าหล่อ นักเรียนที่เพิ่งย้ายมาใหม่นั้นเดินเคียงข้างกันมา แบม ภูวดลไม่ตอบคำถามที่เขาถาม แต่ทว่ากลับรีบสาวเท้าก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว กราฟ กาลัญญูมองตามเพื่อนชายตรงหน้ายิ้มๆ ก่อนที่จะเร่งฝีเท้าแล้วก้าวตามไปอย่างไม่รีรอจีน่า เจนจิราที่เดินตามหลังมาแต่ไม่แสดงตัวเพราะเธอเองก็อยากจะรู้ว่าแบม ภูวดลนั้นคิดอย่างไรกับเพื่อนใหม่ที่เข้ามาก่อกวนให้เขารำคาญใจ หรือกำลังเข้ามาปั่นป่วนหัวใจขอ
“โอ๊ะ!!! รถมาพอดีเลย กลับก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้”มือหนายกขึ้นมาโบกลาเพื่อนทั้งสองก่อนที่ร่างสูงจะเดินตรงไปยังรถตู้คันหรูที่มารับเขาพอดี สองหนุ่มสาวไม่ได้ตอบอะไรออกมาเพียงแต่หันมามองหน้ากัน“ระวังนายกราฟไว้หน่อยก็ดีนะแบม จีน่าว่านายนี่ดูยังไงกับแบมอยู่นะ”จีน่าที่เดินคล้องแขนของกราฟ กาลัญญูตรงไปที่ยังรถตู้ของครอบครัวเอ่ยออกมา“เราก็ว่าอย่างนั้นแหละจีน่า นี่ก็ก่อกวนเราทุกวันเลย” แบม ภูวดลเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยใจ เพื่อนใหม่มาเรียนได้เพียงสัปดาห์เดียวแต่ทว่าทำเขาปั่นป่วนหัวใจ“แล้วเป็นไง แอบหวั่นไหวไปกับเขาไหม” จีน่า เจนจิราแอบกระซิบถาม“ไม่!!!”เสียงเข้มดังออกมาก่อนที่จะขึ้นไปนั่งบนรถ เพื่อนสาวรีบตามขึ้นไปก่อนที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ราวกับรู้ว่ามีอะไรบางอย่าง เธอรู้สึกได้ว่าแบม ภูวดลแอบหวั่นไหวไปกับคนที่ชอบก่อกวนเขาร่างสูงโปร่งที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำภายในห้องนอนส่วนตัวของตนนั่งลงบนเตียงก่อนที่มือหนาจะเอื้อมไปหยิบสมาร์ทโฟนที่มีเสียงข้อความดังเข้ามาเป็นระยะ สายตาคมกวาดอ่านทุกตัวอักษรในข้อความที่ส่งเข้ามาจากเพื่อนใหม่ แบม ภูวดลเลิกคิ้วหนาของตนขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อได้อ่านกราฟ เด็กใหม่ : น
เพื่อนใหม่ที่ย้ายเข้ามาได้เพียงหนึ่งสัปดาห์ทำเอาชีวิตที่เคยสงบสุขของแบม ภูวดลวุ่นวาย เขาต้องเผชิญกับอัตราการเต้นของหัวใจที่แรงและเร็วบ่อยครั้งเพราะอีกฝ่ายมักจะถึงเนื้อถึงตัวอยู่เสมอ ถึงแม้จะมีสองเพื่อนสนิทคอยกันและห้ามปรามให้ แต่ทว่าเพื่อนใหม่ดูเหมือนจะอยากแกล้งเขาให้เขาเปิดเผยตัวตนเสียเหลือเกิน“พอทีเถอะ ถ้านายยังไม่เลิกถึงเนื้อถึงตัวเราอีก นายก็ไปอยู่กลุ่มอื่นซะกราฟ” แบม ภูวดลเอ่ยออกมาอย่างเหลืออด“หึๆ เป็นอะไร ฉันก็แค่โอบไหล่นาย จับแขน มันถึงเนื้อถึงตัวตรงไหน เพื่อนผู้ชายคนอื่นเขาก็ทำกัน”กราฟ กาลัญญูเอ่ยออกมายิ้มๆ เขารู้สึกสนุกที่เพื่อนจอมหวงเนื้อหวงตัวราวกับว่าตัวเองเป็นผู้หญิงคนนี้โมโห“นายก็รู้ว่าแบมไม่ชอบให้ใครมาสัมผัสร่างกายของเขา แบบนี้มันเท่ากับลวนลามกันนะ ถามจริงนายชอบผู้ชายปะเนี่ย” จีน่า เจนจิราเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกไม่ชอบใจเช่นกัน“จริง…. ถ้ามึงยังไม่เลิกยุ่งกับแบม มึงก็ไปอยู่กลุ่มอื่นเลยไอ้กราฟ” ตั้ม อนุวัฒน์เอ่ยออกมาอย่างโมโหเช่นกัน“โอเค โอเค ขอโทษ ขอโทษ ต่อไปเราจะไม่แกล้งนายแล้ว ก็อยากรู้ไงว่าทำไมถึงโดนตัวนายไม่ได้ ความรู้สึกมันเหมือนแบบโดนไฟช๊อตปะ” ดูเหมือนอีกฝ่ายจะยอ
“นายคนที่เราเจอตอนนั้นไง จำได้ไหม” เสียงหวานเอ่ยถามเพื่อนสนิทด้วยความตื่นเต้น“อืม… ไม่คิดเลย…ว่าจะมาเรียนที่นี่”แบม ภูวดลมองไปที่เพื่อนใหม่ที่หันมาสบตาเข้ากับเขาพอดี รอยยิ้มที่มุมปากของอีกฝ่ายทำเอาเขาต้องหลบสายตาที่ทะเล้นและแพรวพราวนั่น แต่จู่ๆ ร่างสูงก็เดินตรงมาหายังกลุ่มของเขา ทั้งจีน่า เจนจิราและตั้ม อนุพงษ์ถึงกับตกใจ แม้แต่แบม ภูวดลเองก็ตกใจไม่ต่างกัน“สวัสดี ห้อง…หกทับหนึ่งใช่ปะ” เสียงทุ้มดังขึ้นท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่กำลังมองมาอย่างสนใจ“อืม…ใช่"เสียงทุ้มของแบม ภูวดลดังขึ้น สาวๆ ที่มองมาเห็นภาพสองหนุ่มยืนอยู่ใกล้กันก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ เพราะคนหล่อกับคนหล่ออยู่ด้วยกันแล้วภาพที่มองเห็นมันช่างดูเจริญหูเจริญตา เป็นอาหารตาชั้นเยี่ยม“สวัสดี เจอกันอีกแล้ว นาย…จำเราได้ไหม” กราฟ กาลัญญูทักทายหนุ่มหล่อตรงหน้าแล้วเอ่ยถามออกมา“จำได้ว่าเราเคยเจอกันครั้วหนึ่ง แต่จำชื่อนายไม่ได้หรอก” แบม ภูวดลตอบก่อนที่จะมองไปยังเพื่อนสนิททั้งสอง“ถ้าอย่างนั้นเราขอแนะนำตัวกับนายและจีน่าอีกที เราชื่อกราฟ กาลัญญู พิเชษฐ์พัฒน์ ย้ายมาจากโรงเรียนฝั่งมีน”หนุ่มหล่อรีบแนะนำตัว สองหนุ่มสาวเพื่อนซี้ได้แต่หันไปม
หลังจากปิดภาคเรียนไปนานเกือบเดือน การกลับมาเรียนในภาคเรียนที่สองอีกครั้งก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ชีวิตนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยก็เริ่มต้นขึ้น ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาก้าวลงจากรถตู้คันหรูของครอบครัวก่อนที่จะเยื้องย่างเข้าประตูโรงเรียนไป ทุกย่างก้าวของแบม ภูวดลนั้นเป็นที่จับตามองจากสาวๆ รุ่นน้อง ทุกท่วงท่าจังหวะการเดินมันทำให้สาวๆ มองตาเขาแทบลืมหายใจ ถ้าจะบอกว่าเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกของวงไอดอลก็ไม่มีใครปฏิเสธได้ลงเลย“แบม!!!”เสียงทุ้มที่ตะโกนตามหลังมาพร้อมกับเสียงฝีเท้าหนักๆ วิ่งตรงมายังเขาทำให้คนถูกเรียกชื่อถึงกับชะงักหยุดเดินแล้วหันกลับไปมอง“มาแต่เช้า” เสียงทุ้มดังออกมาจากริมฝีปากสีแดงอมชมพูเป็นธรรมชาติ“นายก็มาเช้านี่ แล้วจีน่ามายัง วันนี้ได้ข่าวว่าห้องเรามีนักเรียนใหม่ย้ายมาจากโรงเรียนฝั่งมีนคนหนึ่งด้วย”ตั้ม อนุพงษ์เอ่ยขึ้นก่อนที่จะบอกถึงเรื่องราวที่ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นกับเพื่อนสนิท“ฝั่งมีน…” เขาทวนคำของเพื่อนสนิท“อืม…. เห็นบอกว่าย้ายมาเทอมนี้แหละ” ตั้ม อนุพงษ์บอกก่อนที่จะสาวเท้าก้าวเดินตามเพื่อนสนิทไป“ย้ายมาตอนนี้อะนะ” แบม ภูวดลยังเอ่ยถามด้วยความข้องใจ“อืม…” คน