[“ อืม งั้นแกก็อยู่กับพี่หมอของแกไปก่อนนะ พ่อเขาโทรบอกเพื่อนที่เป็นตำรวจให้แล้ว ป่านนี้คงจะตามไปดูพวกมันอยู่ ว่าแต่แกไม่เป็นอะไรแน่นะ หรือ จะให้ฉันกลับไปหาก่อนไหม “] พลอยไพรินที่คุยสายอยู่กับวรรณิหลา พูดกับเพื่อนอย่างเป็นห่วง
“ อย่าเลย แกจัดการทางนั้นให้เสร็จเถอะ ตอนนี้ฉันไม่เป็นอะไรมากแล้ว ถือว่ารอดตายที่อยู่ ๆ พี่หมอไนก็ขับรถไปหากลางดึก “ ณิหลาบอกกับเพื่อนพร้อมท่าทีสงสัยไม่น้อย
[“ อืม แปลกเนอะ แล้วแกไม่ได้ถามพี่เขาเหรอ ว่าทำไมอยู่ดีๆ ถึงได้ไปหาแกดึกขนาดนั้น “]
“ ยังเลย เมื่อเช้าฉันเองก็ยังคิดไม่ถึงเรื่องนี้ พี่หมอเขารีบไปทำงานด้วยก็เลยไม่ได้ถาม แล้วอีกอย่างทั้งที่ตอนแรกฉันมั่นใจแล้วแท้ๆ ว่าจะสู้ไอ้วิสิตได้ แต่พอได้เจอกับเหตุการณ์แบบนั้นอีก ฉันกลับเป็นฝ่ายควบคุมสติไม่ได้เอง แย่ที่สุด “ ณิหลาก้มหน้าพูดอย่างรู้สึกผิด ความมั่นใจของเธอเกือบทำร้ายตัวเองแล้วมั้ยล่ะ
[“ เอาน่า อย่าคิดมาก จิตใจแกคงจะยังไม่แข็งแรงพอแหละณิหลา แต่แกไม่ได้เป็นอะไรไปก็ดีแล้ว “ ]
“ อืม ฉันก็คิดแบบนั้น โชคดีของฉันจริงๆ ที่มีพี่หมอ “
[“ อืม งั้นแค่นี้ก่อนนะ ฉันต้องไปช่วยงานเขาแล้ว คิดว่าอีกสักอาทิตย์คงจะได้กลับ แกอยู่กับพี่หมอไปก่อน อย่างน้อยเขาก็ดูเป็นคนดีกว่าแม่เลี้ยงแก “]
“ อืม “ ณิหลาตกปากรับคำเพื่อนอย่างไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก เพราะเธอก็เกรงใจคุณหมอหนุ่มเหมือนกัน แต่พอเธอจะกดโทรหาพ่อของเธอ กลับไม่มีสัญญาณตอบรับ ปลายสายแจ้งว่าปิดเครื่องเสียได้
“ เฮ้อ พ่อนะพ่อเมื่อไหร่จะกลับมา ไม่เป็นห่วงลูกสาวคนนี้บ้างหรือไง “ เธอบ่นพึมพำอย่างหัวเสีย มือเล็กวางโทรศัพท์ในมือเอาไว้แล้วเดินสำรวจรอบบ้านเพราะไม่มีอะไรจะให้ทำฆ่าเวลา
“ หู้ “ ปากอิ่มอุทานเบาๆ เมื่อเดินมาที่หลังบ้านแล้วเห็นเครื่องออกกำลังกายครบชุด เหมือนกับว่าตรงนี้เป็นโซนออกกำลังกายโดยเฉพาะ ร่างบางยืนพิงเสาพร้อมกับอมยิ้มให้กับความคิดของเธอเอง
“ เครื่องออกกำลังกายหลายตัวเลย คุณหมอนี่ไม่ธรรมดาแน่นอน “ เธอคิดไปต่างๆ นาๆ ว่าถ้าคุณหมอหนุ่มเล่นเครื่องออกกำลังพวกนี้หมด หุ่นข้างในเสื้อผ้าของเขาจะเป็นอย่างไร
“ อุ้ย คิดแล้วก็เขินเลย เป็นบ้าไปแล้วไหมเรา “ วรรณิหลาเขินแล้วก้มมองตนเอง “ ยังไงเราก็ใช่กางเกงวอร์มแล้ว “ เธอเงยขึ้นไปจ้องที่เจ้ากระสอบทรายตรงหน้า
“ พ่อ!! ซวยแล้ว ตอนผมออกไปกินข้าว เห็นพวกตำรวจมันมายืนมองอยู่แถวหน้าปากซอยอะ พ่อ “ สรรหารีบวิ่งพรวดพราดเข้ามาหาพ่อของมันในบ้าน
“ เอ้อ กูคิดไว้แล้วว่าอีณิหลามันต้องแจ้งตำรวจ มึงไปเอากระเป๋าขึ้นรถ กูเก็บของใส่ไว้แล้ว “ วิสิตบอกกับลูกชายพร้อมทุบกำปั้นใส่ประตูอย่างโกรธแค้น
“ เราจะหนีกันเหรอพ่อ “
“ ก็เอ้อน่ะสิ! มึงจะอยู่ให้ตำรวจจับไปนอนคุกเหรอ! หนีไปตั้งหลักแล้วค่อยกลับมาจัดการมัน อีณิหลาตัวแสบ มึงไม่ตายดีแน่ “
บ้านพงษ์พิสิฐ
“ นางเอื้อย รินน้ำมาให้หน่อยสิ “ ณัฐลีที่กำลังนั่งอ่านนิตยสารอยู่ ยื่นแก้วน้ำให้แม่บ้านที่กำลังนั่งนวดขาให้กับนายอย่างเธอ ก่อนที่แม่บ้านอีกคนจะรีบวิ่งแตกตื่นเข้ามา
“ คุณหญิง คุณหญิง! มาแล้ว มาแล้ว มันมาแล้ว “ อ้ายวิ่งมานั่งลงต่อหน้าเจ้านายอย่างรีบร้อน
“ อะไรของมึง อะไรใครที่ไหนมา “ เอื้อยจึงหันไปถามกลับอ้ายอย่างสงสัย
“ ก็แฟนคุณไนไง ไม่รู้ว่าพากันมาตอนไหน สงสัยคงเข้ามาตอนมืดค่ำแบบวันนั้นแน่เลย “ คำพูดของคนใช้ทำเอาณัฐลีปิดหนังสือเสียงดัง เอื้อยที่นั่งใกล้ถึงกับสะดุ้งตัวลอย
“ แล้วคุณหญิงจะไปไหนคะ “เอื้อยแหงนคอถามเจ้านายที่ลุกยืน
“ ก็ไปดูหน้ามันไง สวยขนาดไหน ไนถึงได้หลงมันขนาดนั้น “ พูดจบคนพูดก็ทำตามที่บอก ณัฐลีเดินไปที่หลังบ้านซึ่งมีประตูเชื่อมต่อกับบ้านของลูกชาย
“ ว๊าย ! “ ณัฐลีเอามือขึ้นมากุมอกเพราะตกใจที่เดินมาเห็นกระสอบทรายแกว่งไปแกว่งมา คนต้นเหตุที่ได้ยินเสียงจึงหยุดทำ แล้วจ้องมาที่พวกเขา
“ อ้าว พี่เอื้อย “
“ อะ คุณณิหลงเองเหรอ อืมนี้คุณหญิงณัฐลีนะ เป็นแม่ของคุณไน “เอื้อยอ้ำอึ้งรีบบอกกับหญิงสาว ณิหลาได้ยินแบบนั้นก็รีบยกมือไหว้หญิงแก่ตามมารยาท ก่อนที่เธอจะเห็นว่า คุณหญิงกำลังจ้องมองมาที่เธอ ณัฐลีมองการแต่งตัวของหญิงสาวที่อยู่ในกางเกงวอร์ม เสื้อครอปตัวจิ๋วแขนกุด ด้วยสีหน้าไม่ชอบใจ
“ ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ เรียนหรือตอนนี้ทำงานอะไรอยู่ ?” คุณหญิงรีบเงยหน้ามองคนตรงหน้าพร้อมรัวคำถามใส่จนณิหลาไม่มีโอกาสจะได้ตอบ
“ ชื่อณิหลาค่ะ อายุ 22 เรียนจบมัธยม ตอนนี้กำลังทำงานอิสระวาดภาพขายตามโซเชียลแล้วก็ไปตั้งแผงขายที่ตลาดนัดค่ะ “ ณิหลารีบตอบทุกคำถามที่คนตรงหน้าถามกับเธอ ก่อนที่เธอจะเห็นว่าตัวเองกำลังโดยมองอย่างดูถูก
“ จบแค่มัธยมเหรอ เหอะ ไนไปขุดเธอมาจากไหนกัน ทำไมถึงได้ชอบอะไรแบบนี้ นึกว่าสก๊อย “ คนฟังถึงกับร้องอ่าวในใจเสียงดัง แล้วจึงรีบตอบกลับ
“ ณิหลาก็บอกไปแล้วนี่ค่ะ ว่าเป็นนักวาดอิสระ ไม่ใช่สก๊อย “
สองร่างยืนเบียดกันอยู่ที่ประตูกระจกทางออกไปยังระเบียงห้องหอ คุณหมอสวมกอดภรรยาของเขาแนบแน่นแล้วจรดจมูกหอมลงบนแก้มนิ่มหอมแล้ว ก็หอมอีก เหมือนกับว่ามันไม่อาจเพียงพอต่อความต้องการในตัวเขา“ พี่หมอ ณิหลาจั๊กจี้น่า “ หญิงสาวเบี่ยงตัวหนีพร้อมเดินออกมาจากอ้อมแขนของเขา ไนยะเห็นเช่นนั้นก็เผยยิ้มรีบปิดผ้าม่านเอาไว้แล้วจ้องมาที่ร่างบาง“ พี่หมอ วันนี้งดไม่ได้หรือคะ “ “ บ้า วันนี้วันเข้าหอนะ ขนาดวันธรรมดาพี่ยังทำทุกคืน วันเข้าหอแบบนี้พี่จะพลาดได้ยังไง “ เขาเดินมายืนต่อหน้าของหญิงสาว ณิหลาก้มหน้าหงุดคิดหาทางรอด “ งั้นณิหลาไปอาบน้ำก่อนนะคะ “ หญิงสาวว่าจบก็รีบจับผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ “ เฮ้ยเดี๋ยว! น้องคิดว่าจะหนีพี่พ้นเหรอ “ เขาก็รีบวิ่งตามเธอเข้าไป ผ่านไปหลายชั่วโมงสองร่างของคู่รักก็มานอนกอดกันอยู่บนเตียง “ ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าวันที่ณิหลาถูกวางยาแล้วมาเจอกับพี่..จะทำให้เรามีวันนี้ “ หญิงสาวที่นึกคิดถึงความหลังเรื่องราวเลวร้ายและคนชั่วร้ายที่เคยเข้ามาในชีวิตเธอ บัดนี้มันได้หายไปหมดสิ้น ทุกคนที่เคยทำร้ายเธอต่างได้รับโทษกรรม บ้างก็ติดคุกบ้างก็หายสาบสูญ เหลือไว้ก็แค่คนที่ดีและรักเธอจริงๆ หน
หลายวันต่อมาคุณหมอณัฐชัยเพิ่งกลับมาจากทำงาน ลงจากรถเขาก็รีบออกตามหาเมียไปทั่วบ้าน“ ณิหลาครับพี่กลับมาแล้ว ไปไหนเนี่ย ? “ เมื่อหาจนทั่วแล้วไม่เจอเธอ เขาจึงจะเดินไปหาที่บ้านแม่ แต่ทว่าเมื่อเขาเดินออกมายังหน้าบ้าน ก็เห็นว่าที่ภรรยาเดินกลับมาจากจุดหมายที่เขากำลังจะไปพอดี “ ทำไมมาสภาพนี้? “ ไนยะเดินเข้าไปประคองเธอที่กำลังเดินเซ ใบหน้าแดงแจ๋เพราะฤทธิ์เมา หญิงสาวซบลงตรงหน้าอกของคนตรงหน้า ไนยะก็รีบกอดเธอเอาไว้ “ แม่ชวนไปเลือกบัดเชิญงานแต่งมานะคะ แล้วคุณแม่ก็เอายาดองสูตรเด็ดมาแบ่งณิหลาจิบๆ “ มือน้อยยกขึ้นจับจีบตรงหน้าแฟนเพื่อจะบอกเขาไปว่าจิบแค่นี้ “ นี่แม่ชวนน้องเมาเหรอ “ “ ใช่ แต่แค่นิดหน่อยเอง จิบๆ “ “ ไม่จิบ ไม่หน่อยแล้วมั้งแบบนี้นะ “ เขาอุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าหญิง แล้วพามาส่งที่โซฟาในบ้าน เมื่อวางเธอนั่งลงปุ๊บมือเล็กก็ทาบลงตรงหว่างขาของเขาทันที “ หยุดๆ ณิหลา !” เขารีบปรามเธอที่กำลังบีบตรงนั้นของเขาเล่น จนเขาเกิดมีอารมณ์“ ทำไม? มันแข็งแล้วนี่ค่ะ “ ไนยะรีบดึงแขนของเธอออกจากเป้าเขา“ อย่าดื้อได้มั้ยตัวแสบ “ แต่คนเมาหาได้ฟังเขาไม่ มือเล็กดึงเขามานั่งข้างเธอจากนั้นจึงซุกหน้าลงหว่างขาของเขา
“ พี่หมอตื่นได้แล้ว มันจะแปดโมงแล้วนะคะ “ ณิหลาที่ตื่นมาได้สักพักแล้ว รีบปลุกคนที่ยังคงหลับคาเต้าของเธอให้มีสติ“ พี่ไน!!! “ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ขยับเธอจึงตะคอกใส่เขาเสียงดัง จนชายหนุ่มสะดุ้งลืมตา“ หา ห๊ะ!! “ ไนยะโงหัวขึ้นมาจ้องหน้าเมีย “ อีกสิบนาทีจะแปดโมง วันนี้ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลเหรอ “ มือใหญ่ยกขึ้นลูบผมตัวเองที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง ดวงตาที่กึ่งหลับกึ่งตื่นโตขึ้น“ ไปสิ พี่มีนัดผ่าตัดตอนเก้าโมงด้วย “ เขาคลานลงจากเตียงแล้วยืนบิดขี้เกียจ วรรณิหลาจ้องเขาด้วยใบหน้าร้อนผ่าว เหตุเพราะเขาไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แล้วเจ้านั้นมันก็แกว่งไปแกว่งมาเวลาที่เขาขยับ“ พี่อาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวจะไปไม่ทัน “ คนโดนมองไม่รู้ตัวเลย เขารีบจับเอาผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทำให้หญิงสาวได้สติ รีบส่ายหน้า“ พี่ให้ณิหลาเตรียมอะไรไว้ให้กินมั้ยคะ “ “ ไม่เป็นไร น้องนอนต่อเถอะ “ ณิหลานั่งอมยิ้มมองไปที่ประตู ซึ่งที่เป็นแบบนี้เพราะเมื่อคืนแม้จะเคลิ้มหลับกันไปแล้ว แต่ตอนเขาหายเหนื่อยได้สติตื่นขึ้นมา เขาก็สะกิดเธอทั้งคืน คิดได้แบบนั้นเธอก็เปิดผ้าห่มก้มมองหว่างขาตัวเอง ที่ตอนนี้เหมือนมันจะปวดแสบปวดร้อนไปหมด เขากะจะให้เธ
บ้านคุณหมอ“ ณิหลาครับ “ คุณหมอณัฐชัยที่เพิ่งจะอาบน้ำเปลี่ยนชุดเสร็จ เดินเข้ามาหาแฟนสาวที่กำลังยืนเหม่ออยู่ตรงระเบียงห้องนอน เมื่อร่างของเขาเดินมาถึงตัวเธอก็เข้าแนบชิดด้วยการสวมกอดใบหน้าคมซุกใส่ซอกคอขาวเพื่อสูดดมคนรัก“ เหม่ออะไรอยู่ครับที่รักของหมอไน “ เขาจรดจมูกหอมไปที่แก้มของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้ากินได้เขาคงจะกลืนเธอลงท้องไปแล้ว “ พี่หมอ กลืนณิหลาลงท้องไปเลยไหมคะ “ “ ถ้าทำได้พี่ก็คงทำไปนานแล้วละ แต่น้องยังไม่ให้คำตอบพี่เลยนะ ว่ายืนคิดอะไรอยู่ “ มือใหญ่สองข้างจับที่ราวระเบียงแล้วให้คนตัวน้อยอยู่ตรงกลางระหว่างแขนของเขา“ ณิหลาก็แค่กำลังคิด เรารู้จักกันมาได้แค่ 3-4 เดือนแต่จะแต่งงานกันแล้ว ณิหลาเลยอยากรู้ว่าอะไรทำให้พี่หมอคิดว่า ณิหลาคือคนที่ใช่ของพี่ คนที่พี่อยากแต่งงานด้วย “ ร่างเล็กหันมาแล้วเงยหน้าจ้องคนที่เธอถาม “ ก็คงจะเป็นคำตอบเดียวกัน ถ้าพี่ถามน้องกลับว่าทำไมน้องถึงได้ตกลงจะแต่งกับพี่ “ คนฟังเผยยิ้ม “ ก็เพราะความรู้สึกยังไงละค่ะ เพราะณิหลารู้สึกอยากแต่งแล้วก็ใช้ชีวิตร่วมกับพี่ “ คนพี่ก้มลงมาจ้องตากลม“ ใช่ พี่เองก็รู้สึกแบบเดียวกับน้องนั่นแหละ ถึงได้ขอน้องแต่งงาน เพราะพี่เอ
“ เอ้า ยืนยิ้มกันอยู่นั้นแหละ “ หนึ่งเดียวที่เห็นเพื่อนมัวแต่ยืนเขินจ้องหน้าณิหลา จึงยื่นมือมาดันหลังให้เพื่อนขยับเข้าไปใกล้มากขึ้น ไนยะอมยิ้มเขินให้คนตรงหน้าเล็กน้อย “ ณิหลา รู้มั้ยครับ ว่าวันนั้นพี่รอดมาได้ยังไง “ เสียงทุ้มแผ่วถาม คนฟังก็ส่ายหน้า “ เพราะเสียงของน้อง ณิหลา เสียงของน้องเป็นแสงนำทางให้พี่กลับมา แล้วนี่ ดอกไม้สำหรับผู้หญิงของหมอไนครับ “ เขายื่นช่อดอกไม้ในมือส่งให้เธอ น้องก็เผยยิ้มให้แล้วรับมา “ ทำไมถึงเป็นดอกเดซี่ด้วยล่ะคะ “ “ น้องไม่รู้ความหมายของมันเหรอ “ “ ถ้าอยากให้รู้ก็บอกมาสิคะ “ “ ดอกเดซี่ หมายถึงเราจะอยู่ให้กำลังใจ และอยู่เคียงข้างกันตลอดไป แทนความรู้สึกของพี่ที่มีต่อน้อง แต่งงานกับพี่นะครับ “ เขาจับแหวนเพรชขึ้นมาโชว์ต่อหน้าเธอ หญิงสาวรีบยกมือปิดปากด้วยความซาบซึ้งตาของเธอแดงก่ำแต่บ่งบอกว่าเต็มไปด้วยความสุข หน้ามนรีบหันไปมองสนุ๊กกับพลอยซึ่งเป็นดั่งครอบครัวของเธอที่ยังเหลืออยู่ ทั้งสองคนรีบพยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้ม “ ตกลง ณิหลาแต่งค่ะ “ เสียงหวานสั่นหันมายิ้มให้คนตรงหน้า ไนยะเห็นแบบนั้นก็รีบสวมแหวน พร้อมกับรีบสวมกอดเธอท่ามกลางเสียงตบมือยินดีของทุกคน“ เสี่ยคะ
สองอาทิตย์ต่อมา บ้านของหมอไนยะวรรณิหลาในชุดเดรสลูกไม้สีขาวยืนซึม เก็บหนังสือเรียน หนังสือการ์ตูนในตู้หนังสือของหมอไนยะออกมาใส่กล่อง “ ณิหลา เสร็จหมดหรือยัง “ ครีมหอมเดินเข้ามาหาณิหลาในบ้าน คนโดนเรียกรีบหันไปจ้องคนมาใหม่ “ อ้าว มากันแล้วเหรอ “ “ อืม ตอนนี้แม่ณัฐกับพี่เจนรออยู่ที่รถ เสร็จหมดแล้วหรือยัง มีแค่สองกล่องนี้เหรอ “ ครีมหอมจ้องมองที่กล่องบนโต๊ะ แล้วรีบช่วยณิหลาอุ้มเอากล่องออกมา“ แล้วพลอยกับลุงสนุ๊กของเราไปหรือยัง “ ณัฐลีถามเมื่อทั้งหมดขึ้นรถกันมาแล้ว “ เห็นว่าออกมาแล้ว ป่านนี้ก็คงจะถึงแล้วละค่ะ “ ณิหลาหันไปตอบคุณหญิง จากนั้นในรถก็เงียบไป เพราะคนพูดเก่งอย่างพลอยเจนต้องตั้งใจขับรถ ครีมหอมก็นั่งอยู่ด้านหน้า ทำให้ด้านหลังที่มีเพียงสาวอายุเยอะ กับวรรณิหลาที่ยังซึมๆ จึงไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อะไรกันมากนัก เมื่อรถขับใกล้ถึงโรงพยาบาล ณิหลาก็เกิดความสงสัย “ เราแค่มาแจกของให้เด็ก ทำไมต้องแต่งตัวชุดสวย หรูหราอย่างกับจะไปงานแต่งด้วยล่ะคะ “ หญิงสาวพูดพร้อมกับรอยยิ้มขบขันไม่เข้าใจ ครีมหอมกับพลอยเจนที่นั่งอยู่ข้างหน้าก็หันไปจ้องหน้ากันแล้วแอบอมยิ้ม“ เดี๋ยวพอเราไปถึงก็รู้เองแหละณิหลา “ ณ