ในอดีตเพราะมารดาของนางมีนิสัยร้ายกาจเป็นที่เลื่องลือ แม้นางทำตัวแสนดีย่อมมีคดีติดตัวมิอาจลบล้าง และยามนี้บุตรสาวของนายหญิงรองผู้ล่วงลับเช่นนาง ไหนเลยจะสู้บุตรสาวของนายหญิงใหญ่ที่ยังมีชีวิตอยู่
ที่สำคัญแม่เลี้ยงยังมีบุตรชายค้ำชู ไม่บอกก็รู้ว่านางที่ตัวคนเดียวไร้มารดาไม่มีพี่หรือน้องชายร่วมอุทร ต้องเจอนรกขุมไหน ไม่ว่าจะทนกัดฟันยืนหยัดอย่างไร ก็ต้องแพ้พ่ายในทุกวัน
พี่หญิงได้แต่งงานกับฉางเฟิง ส่วนนางต้องแต่งงานตามการตัดสินใจของบิดามารดาและวาจาของแม่สื่อ
วันนั้น นางบังเอิญแอบได้ยินท่านพ่อกับแม่เลี้ยงพูดคุยกันว่าจะให้นางแต่งกับพ่อหม้ายผู้ร่ำรวย พอไปสืบถึงรู้ว่าคนผู้นั้นแก่กว่านางยี่สิบกว่าปี มีร้านค้ามากมายเป็นสินสอดสู่ขอ แต่เขามีอนุเต็มเรือน ลูกหลานครบถ้วน ในจวนที่กำแพงสูงลิบนั้นเป็นครอบครัวใหญ่ ปัญหาเยอะ มีทั้งนายท่านผู้เฒ่าบ้าอำนาจ นายหญิงผู้เฒ่าที่เคร่งจารีตแต่ลำเอียงรักบุตรหลานผู้ชายเป็นที่สุด เห็นบุตรหลานผู้หญิงเป็นขยะไร้ค่า
ทั้งยังมีท่านลุง มีท่านอา รวมกันหลายคน และมีบุรุษที่แต่งสะใภ้คนแล้วคนเล่ารับอนุไม่เว้นแต่ละวัน นับเป็นครอบครัวถ้ำเสือรังหมาป่าเฉกจวนไป๋ทุกประการ
ซึ่งนางไม่มีทางแต่งกับคนบ้านนั้น และนั่นจึงทำให้เกิดการแต่งงานระหว่างนางกับอู๋หมิงในวันนี้
คืนนั้น ที่หออวิ๋นเซียว นางเมามายอย่างจงใจ ส่วนเขาก็เมาเหล้า ‘ชนิดพิเศษ’ ที่นางรินให้
นี่คือแผนการสิ้นคิดอย่างที่สุดในชีวิตนี้ของนาง กระนั้นก็ยังกล้าตัดสินใจทำ!
นางไร้ยางอายหรือ?
ไม่หรอก! นี่คือการเอาชีวิตรอดต่างหาก
นางทำถูกแล้ว... ต่อให้ย้อนกลับไปได้ก็ยังจะทำ! มันเป็นวิธีเดียวที่จะหลุดพ้นจากว่าที่สามีเฒ่าบ้ากามและไม่ต้องพบเจอครอบครัวสามีที่เหมือนตระกูลไป๋ทุกอย่าง
ท่ามกลางกลิ่นอายมงคล
ไป๋เล่อชิงตกอยู่ในภวังค์ห้วงคำนึงแห่งตนนิ่งนาน จนผู้เป็นเจ้าบ่าวต้องกระแอมไอเพื่อเรียกสติ
“คุณหนูไป๋ ไม่นอนหรือไร?”
น้ำเสียงราบเรียบและห้าวห้วนทำไป๋เล่อชิงสะดุ้ง นางยิ้มแห้ง “นอนสิ นอนเจ้าค่ะ”
หญิงสาวรีบลุกขึ้นปลดชุดมงคลออกและถอดเครื่องหัวออกด้วยตัวเองอย่างคล่องแคล่ว แต่ไหนแต่ไรนางต้องอยู่แบบช่วยเหลือตัวเองมาโดยตลอด แค่ถอดชุดจึงไม่นับว่ายากอันใด
ใช้เวลาไม่นานก็เดินกลับมาที่เตียงนอน
“มาเถอะท่านพี่ ข้าปลดชุดให้”
“ไม่ต้อง ข้าทำเองได้” อู๋หมิงเอ่ยเสียงเนิบเช่นเดิม ปลดอาภรณ์สีแดงลงกองบนพื้นห้องอย่างไม่ใส่ใจ
ไป๋เล่อชิงนึกขึ้นได้ “จริงด้วยท่านพี่ พวกเรายังไม่ได้ดื่มเหล้ามงคลกันเลย”
อู๋หมิงปรายตามองสุรากับขนมมงคลบนโต๊ะนิ่งๆ ก่อนหันกายเดินมานั่งลงที่เก้าอี้ด้วยท่าทีราบเรียบเฉยเมยพลางว่าด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
“เจ้าคงไม่ใส่ยาแปลกๆในเหล้าอีก ใช่หรือไม่?”
วาจาเขาทำไป๋เล่อชิงขนลุกซู่ ลำตัวชาวาบ
ใช่แล้ว คืนนั้น ที่นางมอมเหล้าเขา ล้วนยากปิดบัง
อู๋หมิงรู้ความจริงว่านางตั้งใจให้เกิดเรื่องราววสันต์ ไม่ใช่ล่วงเกินนางอย่างมิอาจหักห้ามใจเพราะความเมา เขารู้กระทั่งว่าเหตุที่ตัวเองเมามายจนควบคุมตัวเองมิได้ล้วนเป็นเพราะฤทธิ์ยามิใช่ฤทธิ์สุราเหมือนที่คนอื่นเข้าใจ
เขายอมรับผิดว่าดื่มเหล้าจนขาดสติจึงล่วงเกินนาง และขอรับผิดชอบทุกอย่าง ไม่พูดถึงอาการผิดปกติจากการดื่มเหล้าสักนิด
และก็ใช่อีกเช่นกันที่นางมองเขาผิดไปอย่างมหันต์ อู๋หมิงมิได้เป็นบุรุษทึมทื่อใสซื่อเฉกรูปลักษณ์ภายนอก!
หวังว่าชีวิตหลังแต่งงานจะไม่กลายร่างเป็นชิ้นเนื้อบนเขียงให้ผู้เป็นสามีสับจนเละหรอกนะ!
ในขณะที่ประตูหน้าร้าน ไป๋เล่อชิงยังคงถูกไป๋หลินเย้ยหยัน“ดูเถิด พี่แค่ออกมาร้านผ้าเท่านั้น แต่ท่านพี่กลับไม่วางใจให้มาคนเดียว มิรู้ว่าห่วงใยอันใดหนักหนา”พูดจบก็ยกชายผ้าปิดปากหัวเราะคิกคักมีความสุข เยาะเย้นเหยียดหยันเต็มที่ลูกไม้ตื้นเขินหาได้แพรวพราวน่ากังวลไม่ เฮอะ!ไป๋เล่อชิงลอบกลอกตาเอือมระอาตลบหนึ่งก่อนว่า “เช่นนั้น ข้าไปทักทายเขาหน่อยเป็นไร ไม่เจอกันนาน คิดถึงมาก” เท่านั้นล่ะ ไป๋หลินพลันสะดุดกึก รอยยิ้มเย้ยหุบฉับ “ไม่ดีกระมัง?”ไป๋เล่อชิงทำตาโต “ไม่ดีรึ? ถึงอย่างไรนั่นก็พี่เขย ญาติสนิทมิตรสหาย อา...ชวนเขาไปร่ำสุราด้วยกันดีกว่า” ว่าแล้วก็ทำท่าจะเดินไปหาฉางเฟิงอย่างโจ่งแจ้ง แสดงออกว่าต้องการคนเขาไประลึกความหลัง ไป๋หลินตกใจ รีบรั้งชายเสื้อของไป๋เล่อชิงเอาไว้ ดวงตาเผยแววหึงหวงจนลนลานด้วยเกรงว่าจะถูกแย่งคืน“ไม่นะ น้องหญิง”ไป๋เล่อชิงแอบยิ้มสะใจ นางไม่คิดไปหาฉางเฟิงจริงๆ เสียหน่อย บุรุษเช่นนั้นนางไม่มีทางแย่งคืนหรอก ใครอยากได้ก็เอาไปเถอะ!แต่ปากว่า “พี่หญิงใหญ่ ปล่อยข้านะ ข้าจะไปหาฉางเฟิง”“ไม่”หน้าประตูร้านอาภรณ์สองพี่น้องยื้อยุดกันเล็กน้อย ฝ่ายฉางเฟิงเองก็มองไป๋เล่อชิงตาละห้
ครั้นคิดถึงตรงนี้ ไป๋เล่อชิงก็พลันเห็นภาพวาบหวิวเป็นกล้ามหน้าท้องของอู๋หมิงโดยไม่ได้ตั้งใจ ความหวั่นไหวก่อเกิดในใจทันใด พาลให้แก้มนุ่มเกิดริ้วแดงซ่านมิอาจห้าม นางรีบดึงสติคืนมาก่อนว่าต่อ “ไม่มีความเคลื่อนไหวเลย ระดูก็เพิ่งมาวันนี้”ลู่หว่านจับมือไป๋เล่อชิงปลอบ “ชิงเอ๋อร์อย่ากังวล ข้าเองแต่งกับเฉิงอวี่ได้เกือบปีเลยเชียว กว่าจะตั้งครรภ์”เฉิงเอินพลันรู้สึกผิด “ชิงชิง ข้าขอโทษที่ปากพล่อย ขอตบปากตัวเองนะ นี่แน่ะๆ” นางทำปากจู๋ยกมือตีแปะๆไป๋เล่อชิงหัวเราะคิก “มาๆ ข้าตบให้”“อ๊ะ ไม่ต้องๆ ข้าเกรงใจ”“ไม่เป็นไร”“ไม่เอา”สตรีทั้งสองวิ่งหนีรอบตัวลู่หว่านเด็กสาววัยสะพรั่งมักเป็นเช่นนี้เสมอเวลาเจอกัน วุ่นวายอย่างยิ่ง ลู่หว่านให้รู้สึกปลงยิ่งนัก ชีวิตพวกเจ้าสงบสุขเกินไปกระมัง? นางรีบปราม “พวกเจ้าอย่าทำเช่นนี้มันดูไม่งาม” เฉิงเอินหยุดเล่นแต่ปากว่า “ไม่เป็นไรหรอกพี่สะใภ้ ชีวิตอย่าจริงจังเกินไป ทำตัวเป็นเด็กบ้างจะได้ปลดปล่อย”“ใช่แล้ว” ไป๋เล่อชิงเห็นด้วยอย่างยิ่ง มีเพียงอยู่กับสหายแสนดีอย่างเฉิงเอิน นางถึงได้เป็นตัวของตัวเองจังหวะนั้น เสียงทักทายของสตรีผู้หนึ่งพลันดังขึ้น “น้องรอง”สตรีทั้งสา
ร้านอาภรณ์ถังอวิ้นไป๋เล่อชิงเห็นเฉิงเอินกับพี่สะใภ้ยืนรออยู่ก่อนแล้วตรงหน้าประตูทางเข้าเฉิงเอินโบกมือ “ชิงชิง ทางนี้” นางจึงรีบเดินไปหาทันที เมื่อถึงก็จับมือสหายพลางยิ้มร่า “เฉิงเอินของข้า คิดถึงๆ”เฉิงเอินว่า “ข้านึกว่าท่านพี่อู๋ของเจ้าไม่ยอมให้มา เห็นว่าเขาอาจจะจับเจ้าขังไว้ในเรือนแล้วนั่งเฝ้าไม่ห่าง อย่างกับผู้คุมกับนักโทษอันใดเทือกนั้นเสียอีก สงสัยว่าคงหายโกรธแล้วเป็นแน่ จึงใจดีอนุญาตให้เจ้าออกมาเที่ยว”ผู้ถูกเย้ารีบเถียง “ไม่ใช่เสียหน่อย ท่านพี่อู๋ไปทำงานไม่รู้ว่าข้าออกมา ส่วนแม่สามีแค่พักผ่อนยามบ่ายไม่ให้ใครรบกวน ข้าจึงออกมาได้โดยสะดวกต่างหากเล่า”“อ้อ...” เฉิงเอินทำเสียงสูงสนุกสนาน “เช่นนี้นี่เอง แสดงว่าเขายังไม่หายเคืองเจ้าสินะ เป็นไร? กลัวกระมัง ถึงหนีจากเรือนมาเจอข้า อยากให้ข้าปลอบใจหรือไม่เล่า”ถูกรู้ทันจนได้ “ก็ใช่น่ะสิ สามีข้าน่ากลัวอยู่นะ ไม่อยากคุยกับเจ้าแล้ว” หันไปทางสตรีอีกคนดีกว่า “ข้าคิดว่าพี่ชายเฉิงมากกว่านะที่หวงแหนพี่สะใภ้ลู่ยิ่งกว่าใคร ไม่ค่อยให้ออกจากเรือนง่ายๆ นี่นา” ว่าพลางปรายตามองยิ้มๆ อย่างต้องการหยอกเย้าลู่หว่านคือสะคราญโฉมที่ไป๋เล่อชิงกล่าวถึง“ชิง
ไป๋เล่อชิงได้ตระหนักอย่างแท้จริงว่าบุรุษที่มีท่าทางจืดชืดคล้ายไม่ประสาต่อโลกหล้านามว่าอู๋หมิง แท้จริงกลับดุดันยิ่งกว่าเสือ ร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ กระบวนท่าร่วมรักประหนึ่งทหารศึกกระหายเลือดที่ได้ออกรบอหังการหรือไม่ก็จอมยุทธเจ้าสำราญที่ออกท่องยุทธจนล่วงรู้ฟ้าดิน เขาพานางท่องราตรีวสันต์จนขาพับขาอ่อน ทำเอาแม่นางน้อยเช่นนาง ถึงขั้นบรรลุแจ้งในทุกท่วงท่าร่วมรักทุกขั้นตอนเนื่องจากสามีเร่าร้อน ตอนเช้าเมื่อตื่นนอน ภรรยาถึงขั้นต้องเดินขาสั่นไปยกน้ำชาให้แม่สามีโถงเรือนยามรุ่งอรุณ แสงแดดสาดเข้าทางหน้าต่าง ส่งผลให้ทั่วห้องอบอุ่นกำลังดีเมื่ออากาศทำให้สบายตัวคนย่อมสบายใจหวังว่าแม่สามีจะโปรดโปร่งอารมณ์ดีไม่รู้สึกหงุดหงิดร้อนรุ่มอันใดไป๋เล่อชิงเดินเข้าประตูโถงเรือนมาพร้อมอู๋หมิง เห็นแม่สามีนั่งอยู่จึงรีบคารวะทักทายอย่างมีมารยาท“สะใภ้ทำความเคารพแม่สามีเจ้าค่ะ”ซืออวิ๋นช้อนตามองสะใภ้นิ่งๆอย่างพินิจพิจารณา สีหน้าไม่เผยความนัยว่าชอบไป๋เล่อชิงหรือไม่ เพราะบุตรชายไม่เคยเล่าเรื่องสตรีของเขาให้ฟัง หมิงเอ๋อร์คบหากับนางยามใดก็สุดรู้ จู่ๆ ก็กลับเรือนมาบอกมารดาว่าอยากแต่งงาน พอถามว่าแต่งกับสตรีคนใด พามาให้แม่รู
ไป๋เล่อชิงทำใจดีสู้เสือ นางผลิรอยยิ้มจิ้มลิ้มจนเห็นลักยิ้มที่แก้มซ้าย แลดูน่ารักน่าชังไม่เบา “ข้าไม่ใส่อะไรแล้วทั้งนั้น เราดื่มเหล้ามงคลกันก่อน ท่านคงเหนื่อยแล้ว จะได้รีบพักผ่อน”อู๋หมิงดื่มสุรามงคลรวดเดียวหมดจอก ไม่มีหรอกคล้องแขนแสนหวาน ไป๋เล่อชิงจึงประคองจอกดื่มคนเดียวอย่างเงียบๆ ช่วยมิได้ นางบังอาจผูกมัดเขาจนดิ้นไม่หลุดนี่นาพอหมดจอกก็เห็นอู๋หมิงลุกขึ้นจากเก้าอี้ตรงหน้าเดินไปล้มตัวลงนอนบนเตียงซึ่งตั้งอยู่อีกฝั่งของห้องหอ นางจึงลุกขึ้นไปเก็บเสื้อผ้ามาพับให้เรียบร้อยนำไปวางบนชั้นไม้ด้านใน แล้วปลดชุดของตนเองมาพับเก็บด้วยกัน ก่อนตามเขาไปนอนลงบนเตียงเดียวกันช่วยไม่ได้ ไม่มีที่อื่นให้นอนแล้วนี่นาครั้นหัวถึงหมอนนางค่อยถามอย่างกล้าๆกลัวๆ “ท่านคงโกรธเกลียดข้ามากกระมัง?”อู๋หมิงปรายตามองเจ้าสาวหมาดๆของตนแวบหนึ่ง เป็นเชิงคำถาม “คิดว่าข้าชอบ?”เห็นเป็นคนนิ่งๆ เงียบขรึมแต่แท้จริงแล้วพอได้พูดกลับทำคนสะดุ้งแล้วสะดุ้งอีก ช่างเฉียบคมยิ่งนัก“ท่านไม่ชอบก็สมควรแล้ว ข้าเป็นคนมอมเหล้า เอ่อ...ขอโทษจริงๆ ขอโทษจากใจ” ไป๋เล่อชิงสบตาเขาชั่วอึดใจ เสมองไปทางขื่อคานอย่างมิอาจสู้ นางเพิ่งรู้ แววตาเขา น่าก
ในอดีตเพราะมารดาของนางมีนิสัยร้ายกาจเป็นที่เลื่องลือ แม้นางทำตัวแสนดีย่อมมีคดีติดตัวมิอาจลบล้าง และยามนี้บุตรสาวของนายหญิงรองผู้ล่วงลับเช่นนาง ไหนเลยจะสู้บุตรสาวของนายหญิงใหญ่ที่ยังมีชีวิตอยู่ ที่สำคัญแม่เลี้ยงยังมีบุตรชายค้ำชู ไม่บอกก็รู้ว่านางที่ตัวคนเดียวไร้มารดาไม่มีพี่หรือน้องชายร่วมอุทร ต้องเจอนรกขุมไหน ไม่ว่าจะทนกัดฟันยืนหยัดอย่างไร ก็ต้องแพ้พ่ายในทุกวัน พี่หญิงได้แต่งงานกับฉางเฟิง ส่วนนางต้องแต่งงานตามการตัดสินใจของบิดามารดาและวาจาของแม่สื่อวันนั้น นางบังเอิญแอบได้ยินท่านพ่อกับแม่เลี้ยงพูดคุยกันว่าจะให้นางแต่งกับพ่อหม้ายผู้ร่ำรวย พอไปสืบถึงรู้ว่าคนผู้นั้นแก่กว่านางยี่สิบกว่าปี มีร้านค้ามากมายเป็นสินสอดสู่ขอ แต่เขามีอนุเต็มเรือน ลูกหลานครบถ้วน ในจวนที่กำแพงสูงลิบนั้นเป็นครอบครัวใหญ่ ปัญหาเยอะ มีทั้งนายท่านผู้เฒ่าบ้าอำนาจ นายหญิงผู้เฒ่าที่เคร่งจารีตแต่ลำเอียงรักบุตรหลานผู้ชายเป็นที่สุด เห็นบุตรหลานผู้หญิงเป็นขยะไร้ค่า ทั้งยังมีท่านลุง มีท่านอา รวมกันหลายคน และมีบุรุษที่แต่งสะใภ้คนแล้วคนเล่ารับอนุไม่เว้นแต่ละวัน นับเป็นครอบครัวถ้ำเสือรังหมาป่าเฉกจวนไป๋ท