น้ำแข็ง...
ฉันกับยัยแฟนแยกกันตรงหน้าตึกผู้ป่วยในเพราะยัยแฟนทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพยาบาล ส่วนฉันช่วยดูแลคนไข้ที่มาทำแผลอยู่อีกด้าน คอยหยิบจับนู่นนี่นั่นส่งให้คุณหมอแล้วก็ช่วยทำแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้คนไข้
"อ้าวน้ำแข็งมาทำงานเหรอ" พี่เหมันต์ที่เดินสวนฉันถามขึ้น ช่วงนี้พี่เหมันต์เข้ามาที่นี่บ่อยเพราะจะรับช่วงต่อจากคุณลุงหลังจากที่เรียนจบ ซึ่งก็หมายความว่าอีกแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น
"ใช่ค่ะ พี่เหมันต์จะกลับแล้วเหรอคะ"
"ยังหรอกวันนี้พี่มาดูตึกผู้ป่วยที่กำลังสร้างใหม่แทนพ่อน่ะ ช่วงนี้ท่านไม่ค่อยว่างพี่เลยมาดูแทน" อ่อ ตึกผู้ป่วยที่สร้างใหม่ท้ายสวนหย่อมสินะ
"ไอ้เหมันต์เมื่อไหร่มึงจะพากูไปกินข้าวเนี่ย ลากกูมาเป็นเพื่อนตั้งแต่เช้ายันเที่ยงให้กูกินแค่แซนวิชอันเดียวเองนะมึง" ขณะที่ฉันกำลังยืนคุยกับพี่เหมันต์อยู่ เสียงของใครบางคนที่เดินบ่นตามพี่เหมันต์มาก็ดังขึ้น
พอหันไปมองถึงได้รู้ว่าเป็นเขา... นายอัคคี!
"เออ ๆ บ่นเป็นคนแก่ไปได้ไอ้ห่า ปะน้ำแข็งไปกินข้าวเป็นเพื่อนพวกพี่หน่อยพี่ไม่ค่อยได้ไปโรงอาหารน่ะ พาไปที" ฉันพยักหน้าพลางส่งยิ้มให้พี่เหมันต์ที่ชวนฉันไปกินข้าวด้วย ก่อนจะเดินนำหน้าผู้ชายสองคนไปยังโรงอาหาร จะปฏิเสธก็ไม่ได้เพราะฉันต้องเริ่มงานช่วงบ่าย แล้วนี่ก็เหลือเวลาอีกตั้งชั่วโมงถึงจะได้เริ่มงาน
"พวกพี่ไปสั่งข้าวเถอะค่ะ เดี๋ยวน้ำแข็งนั่งจองโต๊ะไว้รอ" คนสองคนพยักหน้าให้ฉันก่อนจะมองไปรอบ ๆ โรงอาหารเพื่อดูร้านที่อยากกิน สายตาของคนทั่วทั้งโรงอาหารหันมาจับจ้องมองร่างสูงโปร่งของคนสองคนเป็นตาเดียว ฉันรู้น่าว่าพวกเขาหน้าตาดีน่ะเรื่องนี้ไม่เถียงหรอก แต่ถ้าเป็นเรื่องจิตใจและนิสัยฉันว่าพี่เหมันต์โอเคกว่าอีกคนเยอะเลย
"น้ำแข็งไปหาอะไรมานั่งกินด้วยกันสิ" พี่เหมันต์ที่เดินกลับมาพร้อมใครบางคนพูดกับฉันก่อนจะวางจานข้าวลง
"ค่ะ งั้นน้ำแข็งขอไปสั่งข้าวก่อนนะคะ ฝากกระเป๋าแล้วก็โทรศัพท์ด้วยนะคะ" ฉันตอบรับก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกจากโต๊ะพร้อมกับกระเป๋าสตางค์หนึ่งใบ เดินมองดูป้ายเมนูอาหารได้สักพักก็ตัดสินใจได้ว่าจะกินอะไร
.
.
.
อัคคี...
วันนี้ไอ้เหมันต์ลากผมออกมาจากคอนโดแต่เช้าทั้ง ๆ ที่วันนี้เป็นวันหยุด แต่ผมต้องมาอยู่เป็นเพื่อนมันที่โรงพยาบาลเพราะมันมีงานที่นี่ ทั้ง ๆ ที่มันเองก็รู้ว่าผมไม่ชอบโรงพยาบาลยังจะให้มาอีก แต่ใครจะรู้ล่ะว่าการที่ผมมาเป็นเพื่อนมันวันนี้จะทำให้ผมได้เจอกับโจทก์เก่า ผู้หญิงหลายใจที่ทำให้ผมเจ็บแทบตายเมื่อหลายปีก่อน... น้ำแข็ง!
ครืด ครืด ครืด
สายเรียกเข้า แฟน ...ไม่ได้รับหนึ่งสาย
หลังจากที่ใครบางคนลุกออกจากโต๊ะไปได้สักพัก เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ตรงหน้าผมก็ดังขึ้น
แฟน พอเห็นรายชื่อของคนที่โทรเข้ามาบนหน้าจอโทรศัพท์หัวใจผมกระตุกวูบเหมือนกระโดดลงจากที่สูง ชื่อที่เจ้าของโทรศัพท์บันทึกไว้มันทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกและเริ่มกินข้าวไม่ลง กลัวคนไม่รู้หรือไงว่ามีแฟน...
ไม่นานนักคนที่เดินไปซื้อข้าวก็กลับมา ใบหน้าขาวเนียนที่นั่งฝั่งตรงข้ามผมไม่ได้หันมาสบตาหรือมองหน้าผม แต่หันไปหาไอ้เหมันต์และสนใจข้าวในจานของตัวเอง ทำราวกับว่าตรงนี้มีแค่เธอกับไอ้เหมันต์นั่งกินข้าวด้วยกันสองคนงั้นแหละ
"อื้ม น้ำแข็งเมื่อกี้แฟนโทรมาด้วยแหละ" ไอ้เหมันต์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ผมเงยหน้าขึ้นไปบอกเธอก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ
"อ้าวเหรอคะ เดี๋ยวน้ำแข็งโทรกลับเลยดีกว่าเผื่อมีอะไร" หึ! ทีอย่างงี้ล่ะรีบโทรกลับเลยนะ ผมขบกรามตัวเองไว้แน่นก่อนจะก้มหน้าก้มตาตักข้าวใส่ปากด้วยความหงุดหงิด คนตรงหน้าไม่ได้สนใจผมแต่รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดโทรออก
"โทรมาเหรอ"
[...]
"อ๋อกำลังกินน่ะ"
[...]
"อยู่กับพี่เหมันต์แล้วก็... แล้วก็เพื่อนพี่เหมันต์น่ะ"
[...]
"โอเค ๆ จ้า ๆ"
เสียงอ่อยเสียงหวานของคนตรงหน้าที่นั่งคุยโทรศัพท์อยู่ทำให้ผมที่ได้ยินรู้สึกไม่ค่อยเจริญอาหารนัก จากที่คิดว่าหิวข้าวจนตาลายแต่ตอนนี้กลับอยากอาเจียนออกมาแทน
"มามั้ย?" อยู่ ๆ ไอ้เหมันต์ก็ถามคนตรงหน้าผมขึ้น ไอ้ห่านี่ก็ยังจะชวนแฟนยัยนี่มาอีก แต่จะว่าไปผมก็อยากเจอมันอีกสักครั้งเหมือนกันนะ เพราะตั้งแต่วันนั้นที่มันถีบผม ผมยังไม่ได้เอาคืนมันเลย
"ไม่มาคะ"
"ว่าแล้ว..."
พรึ่บ!
"มึงจะไปไหน" ผมถามไอ้เหมันต์ที่ลุกขึ้นจากโต๊ะทำท่าเหมือนจะไปไหนทั้ง ๆ ที่ข้าวในจานมันยังกินไม่หมด
"กูมีธุระน่ะเดี๋ยวมา มึงกับน้ำแข็งกินกันต่อเลยนะแล้วเจอกันหลังสวนหย่อมนะมึง อ้อ! น้ำแข็งพี่ฝากไอ้อัคคีด้วยนะ" ไอ้เพื่อนชั่วร่ายยาวเหยียดก่อนจะเดินดุ่ม ๆ ออกจากโรงอาหารไป ทิ้งให้ผมกับใครบางคนนั่งอยู่ด้วยกันแค่สองคน
น้ำแข็ง...ฉันกับยัยแฟนแยกกันตรงหน้าตึกผู้ป่วยในเพราะยัยแฟนทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพยาบาล ส่วนฉันช่วยดูแลคนไข้ที่มาทำแผลอยู่อีกด้าน คอยหยิบจับนู่นนี่นั่นส่งให้คุณหมอแล้วก็ช่วยทำแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้คนไข้"อ้าวน้ำแข็งมาทำงานเหรอ" พี่เหมันต์ที่เดินสวนฉันถามขึ้น ช่วงนี้พี่เหมันต์เข้ามาที่นี่บ่อยเพราะจะรับช่วงต่อจากคุณลุงหลังจากที่เรียนจบ ซึ่งก็หมายความว่าอีกแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น"ใช่ค่ะ พี่เหมันต์จะกลับแล้วเหรอคะ""ยังหรอกวันนี้พี่มาดูตึกผู้ป่วยที่กำลังสร้างใหม่แทนพ่อน่ะ ช่วงนี้ท่านไม่ค่อยว่างพี่เลยมาดูแทน" อ่อ ตึกผู้ป่วยที่สร้างใหม่ท้ายสวนหย่อมสินะ"ไอ้เหมันต์เมื่อไหร่มึงจะพากูไปกินข้าวเนี่ย ลากกูมาเป็นเพื่อนตั้งแต่เช้ายันเที่ยงให้กูกินแค่แซนวิชอันเดียวเองนะมึง" ขณะที่ฉันกำลังยืนคุยกับพี่เหมันต์อยู่ เสียงของใครบางคนที่เดินบ่นตามพี่เหมันต์มาก็ดังขึ้นพอหันไปมองถึงได้รู้ว่าเป็นเขา... นายอัคคี!"เออ ๆ บ่นเป็นคนแก่ไปได้ไอ้ห่า ปะน้ำแข็งไปกินข้าวเป็นเพื่อนพวกพี่หน่อยพี่ไม่ค่อยได้ไปโรงอาหารน่ะ พาไปที" ฉันพยักหน้าพลางส่งยิ้มให้พี่เหมันต์ที่ชวนฉันไปกินข้าวด้วย ก่อนจะเดินนำหน้าผู้ชายสองคนไปยังโรงอาหา
น้ำแข็ง..."พี่เอิร์ธมาได้ยังไงคะ แล้วรู้ได้ไงว่าน้ำแข็งอยู่ที่นี่" ฉันหันไปถามคนข้าง ๆ ที่ทำหน้าที่ขับรถอยู่"เพื่อนเราโทรมาบอกพี่น่ะ เห็นบอกว่าคืนนี้น่าจะยังไม่กลับง่าย ๆ เลยให้พี่ไปรับเราที่ร้านหมูกะทะ" คนถูกถามหันมาตอบก่อนจะหันไปสนใจถนนตรงหน้าแล้วถามต่อ"ว่าแต่เราจะกลับเลยหรือไปไหนต่อหรือเปล่า""งั้นกลับบ้านเลยก็ได้ค่ะ ทีแรกน้ำแข็งว่าจะไปค้างกับแฟนน่ะ""แล้วคนเมื่อกี้... ใช่เจ้าของเกียร์ที่ห้อยคอเราอยู่หรือเปล่า" พี่เอิร์ธถามต่อทั้ง ๆ ที่สายตาของพี่เขายังจับจ้องไปที่ถนน คงไม่ผิดถ้าพี่เขาจะถามเพราะฉันเรียนคณะแพทย์แต่มีเกียร์สวมที่คอมาตลอดหลายปี เกียร์นี้เป็นสัญลักษณ์ของคณะวิศวกรรมศาตร์ คนคนนึงให้ฉันเก็บรักษามันเอาไว้หลังจากที่เขาได้รับมัน และฉันก็ดูแลมันเป็นอย่างดีแม้ว่าตอนนี้เจ้าของมันจะทิ้งมันไปแล้วก็ตาม"ค่ะ" ฉันตอบแบบไม่หันไปสบตากับพี่เขา ก่อนจะหลุบตาลงมองมือทั้งสองข้างที่กุมกันอยู่บนตักด้วยความรู้วสึกหน่วงใจอย่างบอกไม่ถูก จากที่คิดว่าลืมเรื่องนี้ไปแล้วแต่อยู่ ๆ ก็กลับมานึกถึงมันอีก"พี่เอิร์ธจะไม่ดุน้ำแข็งหน่อยเหรอคะ" ฉันหันไปถามคนข้าง ๆ ที่ตอนนี้วางมือข้างหนึ่งลงบนศีรษะฉันแล้
อัคคี...วันนี้หลังจากเลิกเรียนแทนที่ผมจะได้กลับไปนอนเปื่อยที่คอนโดแต่ไอ้พวกเพื่อนตัวดีกลับลากผมมากินหมูกระทะซะงั้น พอจะปฏิเสธมันก็บอกว่าวันนี้จะแนะนำรุ่นน้องให้รู้จักผมก็เลยต้องมาร้านที่พวกเรามานั่งกันเป็นร้านหมูกะทะเจ้าประจำที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยนัก ดีหน่อยที่มาตอนร้านเพิ่งเปิดคนก็เลยไม่เยอะเท่าไหร่"ทางนี้ ๆ" เสียงไอ้เหมันต์ตะโกนเรียกใครสักคนพลางโบกไม้โบกมือให้กัน ผมหันไปมองกลุ่มคนมาใหม่สามคนด้วยใบหน้าเรียบเฉยพลางเหลือบตาไปมองผู้หญิงคนนึงที่ตอนนี้เดินมานั่งลงฝั่งตรงข้ามกับผม"นั่งเลย ๆ เอาอะไรเพิ่มมั้ยพี่จะได้สั่ง" ไอ้เหมันต์ลุกขึ้นจัดที่ทางให้สามคนที่มาใหม่ พลางส่งเมนูให้ก่อนจะกวักมือเรียกพนักงานให้มาเพิ่มแก้วเครื่องดื่มให้"นี่รุ่นน้องกูนะพวกมึง" หลังจากที่มันคุยกับพนักงานเสร็จมันก็พูดต่อพร้อมกับบุ้ยปากไปยังผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งยิ้มอยู่"คนเปรี้ยว ๆ แซ่บ ๆ นี่ชื่อน้องเรดาห์พวกมึงคงรู้จักใช่มั้ย" ไอ้เหมันต์แนะนำรุ่นน้องผู้หญิงหน้าสวยคนหนึ่งซึ่งผมจำได้ว่าเธอเป็นนางแบบชุดว่ายน้ำที่กำลังดังในตอนนี้ แต่แปลกแฮะทำไมมาเรียนหมอ"ส่วนคนนี้ที่น่ารัก ๆ ตัวเล็ก ๆ หน่อย ชื่อน้องเจ้าถิ่นแล
น้ำแข็ง...ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ที่ห้องพยาบาลของคณะวิศวกรรมศาสตร์ แปลกใจใช่ไหมล่ะว่าทำไม ก็มีคนเป็นลมเพราะฉันน่ะสิ เพื่อน ๆ เลยให้ฉันดูแลเขาจนกว่าจะพื้น ฉันก็เลยอดเข้าแลปไปด้วย นอกจากจะไม่ได้ช่วยเพื่อน ๆ ทำสรุปตรวจสุขภาพประจำปีแล้ว ฉันยังต้องมาเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์อีก เฮ้อ!"โตจนป่านนี้แล้วยังกลัวเข็มอีก ไหนบอกแค่นี้ไม่ถึงตายไง หึ เป็นลมซะงั้นพ่อคนเก่ง" ฉันหันไปพูดกับคนบนเตียงที่ยังคงนอนไม่ได้สติอยู่ด้วยอารมณ์หงุดหงิด เพราะเขาทำให้ฉันเสียเวลา"ฉันได้ยินนะ" แต่แล้วเสียงทุ้มของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็ดังขึ้น ทำให้ฉันที่นั่งเฝ้าอยู่ตกใจเล็กน้อย แต่ก็ดีแล้วแหละที่เขาฟื้นขึ้นมา"ฟื้นแล้วก็ดี ฉันไปล่ะ"หมับ!"ว๊ายย! ปล่อยนะ!" แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะหันหลังให้ คนที่นอนอยู่ก็คว้าข้อมือฉันเอาไว้ก่อนจะกระชากให้ล้มลงบนตัวเขาที่นอนอยู่บนเตียง ใบหน้าของฉันที่ตอนนี้นอนทับร่างเขาเอาไว้นั้นห่างจากเขาเพียงคืบ ลมหายใจร้อน ๆ ที่เป่ารดใบหน้าของฉันอยู่ทำให้ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวเขา กลิ่นที่ฉันคุ้นเคย...อัคคี...ผมมองคนตัวเล็กดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาบนตัวผม กลิ่นหอม ๆ จากตัวเธอปะทะกับจมูกผมเต็ม ๆ มันเป็นกลิ่นหอมที่ผมต
วันตรวจสุขภาพประจำปี ของมหาวิทยาลัย JR"สวัสดีค่ะ พี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ นักศึกษาทุกคน เราชื่อเจ้าถิ่นนะคะเรียนแพทย์ศาสตร์ปีสาม วันนี้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้ากลุ่มนักศึกษาแพทย์ที่มาทำการตรวจร่างกายประจำปีให้แก่คณะวิศวกรรมศาสตร์ค่ะ ก่อนอื่นขอแนะนำทีมงานก่อนนะคะ" เสียงยัยเจ้าถิ่นเพื่อนสาวหน้าสวยขาวหมวยและรวยมากของฉันกล่าวเปิดงานพร้อมแนะนำตัวเสียงปรบมือ โห่ร้อง เสียงโฮแซว จากหนุ่ม ๆ วิศวะ ฮือฮาซ้ำไปซ้ำมาเมื่อสาว ๆ คณะแพทย์ออกมาแนะนำตัวคนแล้วคนเล่า"หวัดดี เราชื่อเรดาห์นะคะเรียนแพทย์ปีสาม" เรดาห์เพื่อนสาวสุดสวยหุ่นเอ็กซ์ดีกรีดาวคณะ และพ่วงด้วยตำแหน่งนางแบบที่โด่งดังตอนนี้แนะนำตัว การปรากฏตัวของเธอเรียกเสียงฮือฮา เสียงโฮแซวกึกก้องหอประชุม"และคนสุดท้ายของทีมเราค่ะ..." ถึงคิวฉันแล้วสินะ...."สวัสดีค่ะ เราชื่อน้ำแข็งเป็นนักศึกษาแพทย์ปีสาม" ฉันแนะนำตัวก่อนจะโปรยยิ้มทักทายทุกคนที่ยืนปรบมือให้พวกเราอยู่ก่อนจะแยกย้ายกันไปปฏิบัติหน้าที่การตรวจสุขภาพประจำปีครั้งแรกของชั้นปีที่พวกเราเรียนอยู่ มีรุ่นพี่ตั้งแต่ปีสี่ ปีห้าและรุ่นพี่ปีหกคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด และคอยทำหน้าที่บางอย่างที่นักศึกษาแพทย์ชั้น