Compartilhar

บทที่ 3 อุบัติเหตุ

Autor: Tawan miki
last update Última atualização: 2025-12-08 18:49:24

บทที่ 3 อุบัติเหตุ

เวลา 17.00 น.

ในที่สุดก็เลิกงานสักที... เหนื่อยจนแทบจะบ้าตายกลับห้องเมื่อไหร่จะนอนให้จมเตียงเลยคอยดูคิดแค่นั้นใบหน้าก็เผลอคลี่ยิ้มออกมา แล้วหัวเราะเบา ๆ กับตัวเองเหมือนคนเพ้อ

“เป็นอะไรเจ้าเด็ก ยิ้มคนเดียวอีกแล้วนะ”เสียงแซวของ ชมพู่ ดังขึ้นข้าง ๆ

“แหะ ๆ ป่าวครับ”ธารน้ำตอบพลางยกมือเกาหลังคอแก้เก้อ

“แน่ใจ?”

“ครับ”

“งั้นไป กลับบ้านกันได้แล้ว”

“ครับผม!”

เสียงของชมพู่เรียกสติให้กลับมาจากภวังค์ความสุขจอมปลอมในหัว เขาคงดูเหมือนคนบ้าในสายตาอีกฝ่าย แต่ใครจะไปรู้บางทีแค่คิดถึงเตียงนุ่ม ๆ ก็มีความสุขได้แล้วนี่นา พอพูดจบ ทั้งคู่ก็เดินมาที่หน้าลิฟต์เพื่อจะลงไปชั้นล่าง ระหว่างรอลิฟต์ ธารน้ำก็เงยหน้าขึ้นถามอย่างสงสัย

“พี่ชมพู่ครับ เดือนนี้คนจากบริษัทแม่มายังครับ?”

“หืม? ยังเลย เห็นว่าอีกสองสามวันจะมา ตรวจงานเหมือนทุกเดือนนั่นแหละ”ชมพู่ตอบขณะมองตัวเลขชั้นที่กำลังไล่ลงมา

“เราเตรียมตัวไว้ให้พร้อมละ ถึงจะเป็นเด็กใหม่ก็ต้องสู้เข้าใจไหม”

“ครับ…” เขาพยักหน้ารับ แต่ใจเริ่มเต้นตุบ ๆ

มาทำงานได้วันเดียว บริษัทแม่จะมาตรวจแล้วเหรอเนี่ย...ชีวิตกูทำไมมันยุ่งเหยิงขนาดนี้วะ

เอาวะ ธารน้ำ มึงสู้มันไปเลย! ไม่ตายหรอกน่า!

“เป็นไรอีกเจ้าเด็ก ทำหน้าซึมอีกละ”

“ผมกลัวอ่ะ พี่ ผมเพิ่งมาทำงานเอง ถ้ามีศึกหนักนี่ผมไม่รอดแน่”

ชมพู่หัวเราะเสียงใส

“อย่าคิดมาก ดูด้วยว่าเราอยู่กับใคร นี่ใครคะ~ พี่ชมพู่คนสวยไงคะลูก ไม่ต้องกลัวค่ะ~”

คำพูดที่ตั้งใจให้ปลอบกลับทำให้เขาหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆถึงจะยังกลัวอยู่ แต่ก็อบอุ่นดีที่มีคนคอยช่วยแบบนี้

“ไปค่ะ ขับรถกลับบ้านค่ะ เลิกทำหน้าเป็นตูดลิงได้แล้ว”

“ค้าบพี่ สวัสดีครับ”

เขายกมือไหว้ขอบคุณที่อีกฝ่ายช่วยสอนงานให้ทั้งวัน ก่อนจะเตรียมแยกย้ายกลับ ชมพู่ยังไม่วายตะโกนตามหลังมาอีก

“อย่ามาสายละเจ้าเด็ก!”

“ครับผม!”

ธารน้ำตะโกนตอบพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะเดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์ เวสป้าสีเหลืองคู่ใจ ที่ใช้มาตั้งแต่มหาวิทยาลัยแล้วคว้าหมวกกันน็อกสีเหลืองที่เป็นสีเดียวกับตัวรถขึ้นมาใส่

เขาก็ย้ายมาอยู่คอนโดคนเดียวนาน ๆ ถึงจะกลับบ้านสักทีไม่ใช่ว่าบ้านอยู่ไกลหรอก แค่ “ขี้เกียจกลับ” มากกว่า ไหนจะเบื่อน้องชายจอมกวนที่ไม่เคยอยู่นิ่งอีกอยู่คนเดียวมันสบายกว่าเยอะ จะทำอะไรก็ได้ตามใจตัวเองพ่อกับแม่ก็ไม่เคยว่าอะไร แถมคอนโดที่อยู่ตอนนี้ก็เป็นของท่าน ซื้อไว้ให้ตั้งแต่ตอนสอบติดอีกต่างหาก

ถามว่าคิดถึงบ้านไหม...คิดถึงสิ แต่ส่วนใหญ่พอถึงวันหยุดก็ขี้เกียจทุกทีก็เลยได้แต่บอกตัวเองว่า “ไว้ค่อยกลับพรุ่งนี้ละกัน” เสมอ

พาร์ทลูคัส

ยังน่ารักเหมือนเดิม... ไม่เคยเปลี่ยนเลย

จิตใจดีเหมือนเดิมทุกอย่าง เห้อ... เด็กอ้วนเอ๊ย แบบนี้พี่จะหักใจได้ยังไงกันนะ นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่ได้เจอกันแบบนี้ ตั้งแต่วันที่เขาโดนแด๊ดให้พากลับอิตาลีก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย

เขาแอบใช้อำนาจและเส้นสายนิด ๆ หน่อย ๆ เพื่อดันให้ ธารน้ำ ได้เข้ามาทำงานในเครือมัตเตโอ้ทั้งหมดนั่น... ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยสักนิด

ก็เขานี่แหละ ที่อยากให้เด็กนั่นมาอยู่ใกล้ ๆ

ใกล้หู ใกล้ตา อยากรู้ว่าตอนทำงานจะเป็นยังไง จะยังยิ้มแบบเดิมไหม จะยังพูดเสียงใส ๆ แบบที่เคยทำไหมแต่สิ่งแรกที่ธารน้ำทำให้เขาเห็นในวันแรกคือ... มาสาย เขาได้แต่หัวเราะในลำคอเบา ๆ ‘หึหึ มันน่าภูมิใจจริง ๆ นะ ไอ้เด็กอ้วน…’

“นายครับ เมื่อกลางวันไปนอนที่ไหนมาครับ?”

เสียงของ ดีน มือขวาคนสนิทดังขึ้นจากเบาะหน้าลูคัสละสายตาจากเอกสารที่อยู่ในมือ เงยหน้าขึ้นมองคนถาม

“ถามทำไม?”

ดีนชะงัก

“ผม... แค่ถามเฉย ๆ ครับ นายดูเหมือนไม่ได้นอนที่ห้องพัก”

“ดาดฟ้ามีปัญหาอะไร?”น้ำเสียงเรียบแต่เย็นพอจะทำให้ใครก็ขนลุกได้

“ไม่มีครับ ใครจะกล้ามีปัญหากับนายล่ะครับ”

ดีนรีบตอบพร้อมรอยยิ้มกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ก่อนที่ คาล อีกหนึ่งลูกน้องคนสนิทจะเสริมขึ้นมาอย่างรู้จังหวะ

“เย็นนี้นายมีนัดทานข้าวกับคุณฟ้าลดาครับ”

“อืม...”

เขาตอบแค่นั้น ก่อนจะหันไปมองนอกหน้าต่าง รถเก๋ง BMW สีเทาอ่อนเคลื่อนตัวออกจากลานจอดของบริษัทช้า ๆ ความจริง เขาแทบไม่เคยไปไหนกับฟ้าลดาเลยและที่ยอมไปครั้งนี้

ก็เพราะแด๊ดขอไว้ ไม่ใช่เพราะเขาอยากไปเอง

ถ้าไม่ติดว่าเป็นลูกสาวเพื่อนสนิทของพ่อ เขาคงปฏิเสธไปตั้งแต่ต้นเพราะอะไรน่ะเหรอ...

ก็เพราะผู้หญิงแบบนั้น น่ารำคาญสิ้นดี

เขาไม่ชอบผู้หญิงที่ออดอ้อน ออเซาะ หรือพูดเสียงหวานราวกับจะหลอมละลายหัวใจใครต่อใครมันน่าเบื่อ เหมือนบทละครซ้ำ ๆ ที่เขาเคยดูจนจำได้ทุกบรรทัด

โครมมมมมม!!

เสียงกระแทกดังสนั่นจากท้ายรถ ทำให้คนทั้งคันสะดุ้ง

“จิ๊...” ลูคัสขมวดคิ้ว ก่อนพูดเสียงเรียบ

“ลงไปดูสิ ดีน”

“ครับนาย!”

ไม่กี่วินาทีต่อมา ดีนรีบกลับมาพร้อมรายงาน

“นายครับ มีคนขับมอเตอร์ไซค์ชนท้ายรถเรา...”

ลูคัสเหลือบตามองกระจกมองข้าง พยายามจะพยุงรถที่ล้มอยู่ข้างถนน

“จัดการด้วย” เขาพูดสั้น แล้วหลับตาลงเหนื่อยใจกับการขับรถของอีกฝ่าย มันน่าเบื่อมากๆ กับเรื่องรถ แมร่ง หงุดหงิด ขับยังไงวะให้มาชนท้าย

••••

เขาค่อย ๆ พยุงตัวขึ้นจากพื้นอย่างยากลำบาก

ร่างกายที่อวบอ้วนแถมยังมีพุงกลม ๆ ล้ำหน้าออกมา ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวดูช้าไปหมด ไหนจะรถเวสป้าคู่ใจที่หนักเอาเรื่องอีก...

บอกเลยว่าวันนี้กรรมมาเยือนแล้วแน่ ๆ

ในจังหวะที่เขากำลังพยายามพยุงรถขึ้น คนร่างสูงจากรถเก๋งสีเทาอ่อนก็เดินเข้ามาช่วยโดยไม่พูดอะไร มือใหญ่จับแฮนด์รถไว้แน่น ก่อนจะดันขึ้นอย่างง่ายดายราวกับมันไม่มีน้ำหนัก

“ขะ...ขอบคุณครับ”เสียงของเขาสั่นเล็กน้อย ทั้งเพราะตกใจและเหนื่อย

“ขอโทษด้วยครับ ที่ชนท้ายรถคุณ...”

ธารน้ำรีบก้มหน้าพูดด้วยน้ำเสียงสำนึกผิดเต็มร้อย หัวใจเต้นแรงไม่หยุด ทั้งเพราะอายและกลัวว่าต้องจ่ายค่าเสียหายก้อนโตจริง ๆ แล้วตอนขับมาเขามัวแต่เผลอมองร้านข้างทาง...จนพอมารู้ตัวอีกที รถข้างหน้าก็เบรกกะทันหันเสียแล้ว

“จะให้ผมชดใช้ยังไงก็บอกได้เลยนะครับ ผมยินดีรับผิดชอบทั้งหมด”

“มีปัญญาชดใช้หรือไง”

เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากคนที่ยืนอยู่ข้างหน้า น้ำเสียงเรียบแต่ฟังแล้วเย็นเฉียบจนเขาขนลุกซู่

ธารน้ำเงยหน้าขึ้นนิด ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากคนตรงหน้าสูง...มาก

ชุดสูทเรียบหรู ผมสีดำขลับ แววตาคมเฉียบที่มองลงมาทำเอาเขาแทบหายใจไม่ทั่วท้อง

“ครับ...”

“บอกมาได้เลยครับ ว่าต้องชดใช้ยังไง”

ถึงสภาพเขาจะดูไม่น่ามีเงินก็ตาม แต่พ่อกับแม่เขาไม่เคยสอนให้หนีความผิดถ้าทำผิดก็ต้องรับผิด...ต่อให้ต้องเอาเงินเก็บทั้งชีวิตมาจ่ายก็เถอะ

ชายชุดสูทเหลือบตามองเด็กตรงหน้าที่พูดด้วยใบหน้าเปื้อนฝุ่นและเข่าแตกเล็กน้อยก่อนจะหันไปทางลูกน้องแล้วพูดเสียงเรียบ

“งั้นรอตรงนี้ เดี๋ยวฉันไปถามนายก่อน”

“งั้นเดี๋ยวผมไปคุยกับเขาเองครับ”

ธารน้ำพูดสวนแทบจะทันที ทั้งที่ขาเจ็บยังฝืนก้าว วิ่งกระเผก ๆ ไปทางรถเก๋งคันนั้นโดยไม่ฟังคำห้ามของใครทั้งสิ้นในใจมีแต่เสียงของแม่ที่เคยสอน‘ทำผิดก็ต้องกล้ารับผิด อย่าหนี อย่ากลัว’แม้ตอนนี้เขาจะทั้งกลัว ทั้งเจ็บ ทั้งเหนื่อย

แต่สิ่งเดียวที่ชัดในใจคือ เขาต้องไปเจรจากับเจ้าของรถให้ได้

ก๊อก ๆ

เสียงเคาะกระจกดังขึ้นเบา ๆ ก่อนที่กระจกติดฟิล์มดำรอบคันจะค่อย ๆ เลื่อนลง เผยให้เห็นใบหน้าคมของชายหนุ่มในรถ แสงเย็นสะท้อนบนกรอบหน้าและดวงตาคมลึกที่มองออกมาอย่างไม่ใส่ใจนัก แต่กลับทำให้หัวใจคนยืนอยู่นอกรถเต้นแรงอย่างไม่มีเหตุผล

“คุณ!!”เสียงธารน้ำดังขึ้นพร้อมกับตาเบิกกว้าง เขาจำได้ดี ผู้ชายที่เจอที่ดาดฟ้าเมื่อกลางวัน ลูคัส

“มีอะไร?”เสียงทุ้มถามกลับเรียบ ๆ ทั้งที่สายตาเต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่างยากจะอ่าน

“เอ่อ... ผมขอโทษครับ ที่ชนท้ายรถคุณ”ธารน้ำรีบพูด เสียงตะกุกตะกักปนประหม่า ใบหน้าก้มงุดจนคางแทบชนอก

“เห้อ...” ลูคัสถอนหายใจเบา ๆ แล้วเอียงศีรษะนิด

“นายอีกแล้วเหรอ... เจ้าเด็กอ้วน”

“เราบอกแล้วไงว่าชื่อธารน้ำ...”

เสียงอีกฝ่ายบ่นงึมงำ แต่ก็ยังไม่กล้าสบตาคนตรงหน้าเต็ม ๆ

“ขึ้นรถ”

“ไปไหนครับ?” ธารน้ำขมวดคิ้ว มองอีกฝ่ายด้วยความงุนงง

“ไปหาหมอไง จะให้ตายอยู่ตรงนี้หรือไง”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวเราขับไปเองก็ได้”

“ขึ้นรถ” น้ำเสียงเข้มกว่าเดิมนิดหนึ่งจนธารน้ำสะดุ้ง

“แต่เราเป็นห่วงน้องฟักทอง...”

“น้องฟักทอง?” ลูคัสเลิกคิ้ว

“ใช่... มอเตอร์ไซค์เราน่ะ”

“เอาไว้นั่นแหละ”

“ไม่ได้ครับ นั่นลูกรักเราเลยนะ” เสียงสั่นนิด ๆ แต่เต็มไปด้วยความห่วงใยสุดหัวใจ

“ขึ้นรถ”

“แต่เรา…”

“ห่วงตัวเองก่อนไหม?”

คำพูดเรียบแต่ฟังดูดุ จนอีกฝ่ายต้องเม้มปากแน่น ลูคัสหันไปสั่งลูกน้องเสียงเข้ม

“ดีน โทรให้คนมาเอารถมอเตอร์ไซค์นั่นไปซ่อม”

“ครับนาย”

เขาหันกลับมามองธารน้ำอีกครั้ง ดวงตาคมคู่นั้นสะท้อนแววเอือมระคนห่วง

“ทีนี้ขึ้นรถได้หรือยัง... หรือจะให้ผมอุ้มขึ้น?”

“ครับ...”

ธารน้ำตอบเสียงอ่อย ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ลากขาเดินไปอีกฝั่งอย่างทุลักทุเล ขาที่ยังระบมทำให้ก้าวช้ากว่าปกติ แต่โชคยังดีที่ลูกน้องของลูคัสเดินมาช่วยพยุงไว้ถ้าไม่มีคนนั้นช่วยไว้ วันนี้เขาคงเป็นลมกลางถนนไปก่อนแน่ ๆ

Continue a ler este livro gratuitamente
Escaneie o código para baixar o App

Último capítulo

  • รักนี้อยู่ในออฟฟิศ   บทที่ 9 ขยันแกล้ง

    บทที่ 9 ขยันแกล้ง พาร์ทลูคัส ผมรู้อยู่แล้วว่าเด็กอ้วนจะต้องหาทางหลบหน้าผมหลังเลิกงาน ผมเลยมาแอบดักรอไว้ที่ลานจอดรถ การเคลื่อนไหวทุกอย่างของเจ้าตัวอยู่ในสายตาผมทั้งหมด ผมจึงตั้งใจแกล้งเข้าไปจับคอเสื้อด้านหลัง เพื่อทำให้เด็กคนนี้ตกใจเล่นที่ไหนได้... เจ้าตัวกริ๊ดเสียงดังจนหูผมเกือบดับ แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะถึงจะเสียงดังแค่ไหน ผมก็ยังคงชอบที่จะแกล้งอยู่ดีผมรู้ดีว่าเด็กตรงหน้าไม่ค่อยพอใจเรื่องที่ผมปิดบังสถานะตัวเอง ถ้าผมบอกความจริงทั้งหมดว่าผมต้องพัวพันกับธุรกิจแบบไหน คนตรงหน้าก็จะกลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้ผมอีก และนั่นคือสิ่งที่ผมทำใจยอมรับไม่ได้เด็ดขาด ผมพยายามหักห้ามใจไม่ให้ตามไปวุ่นวายกับน้อง แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ต่อความต้องการของตัวเองผมเลยแกล้งขอนั่งมอเตอร์ไซค์ไปด้วย ทั้งที่รู้ว่าเจ้าของรถไม่อยากให้ไป แต่มีหรือที่คนอย่างผมจะฟังเสียงคัดค้าน ตลอดทางผมจงใจจับเอว... จะเรียกว่าเอวไหมนั้นก็ไม่รู้ หึหึ แต่พุงเด็กนี่นุ่มนิ่มไปหมด สัมผัสที่ได้ช่างน่าหลงใหลจนอยากจะจับกดคาเตียงฟังแล้วเหมือนผมเป็นคนเลว... มันก็เลวจริง ๆ นั่นแหละ ทั้งธุรกิจสีเทา ธุรกิจมืด ไหนจะต้องจัดการคนที่มาขัดผลประโยชน์จนถึง

  • รักนี้อยู่ในออฟฟิศ   บทที่ 8 ยิ่งหลบ ยิ่งเจอ

    บทที่ 8 ยิ่งหลบ ยิ่งเจอ หลังเลิกงานเย็น ธารน้ำรีบเก็บข้าวของทุกอย่างใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังที่ลานจอดรถ เขารีบคล่อมน้องฟักทองมอเตอร์ไซค์คู่ใจทันที เขากลัวว่าถ้าชักช้าแม้แต่วินาทีเดียว จะต้องเผชิญหน้ากับ ลูคัส ผู้บริหารปากแข็งที่หลอกลวงเขาอีกครั้ง ระหว่างที่กำลังจะสตาร์ทรถอยู่นั้นเอง จู่ๆ ก็มีมือหนาใหญ่เอื้อมมาจับคอเสื้อด้านหลังของเขาไว้แน่นกริ๊ดดดด!ธารน้ำร้องเสียงหลงด้วยความตกใจจนตัวโยน นึกว่าโดนผีอำหรือโดนใครมาทำร้ายยามวิกาล“อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลยนะ! เดี๋ยวลูกช้างจะทำบุญไปให้! ฮือๆ”“พี่เอง! จะร้องทำไมเนี่ย”เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยดังขึ้นที่ด้านหลัง“เอ้า! แล้วใครเขามาเงียบๆ แบบนี้ล่ะ! ตกใจหมด!” ธารน้ำหันไปโวยวายทันที แต่ก็ยังไม่วายส่งค้อนวงใหญ่ให้คนด้านหลัง“ถ้าไม่มาแบบนี้จะรู้ได้ยังไง ว่าเราไม่อยากเจอหน้าพี่” ลูคัสตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ“ก็ไม่อยากเจอไง! ไม่เข้าใจที่พูดเหรอไง!” “ไม่!”“ปล่อยนะ! จะกลับบ้าน!”“เดี๋ยวไปส่ง”“ไม่ไปกับคนแปลกหน้า!” “เหรอ”พูดไม่ทันขาดคำ ร่างสูงที่รั้งคอเสื้อเขาไว้ก็จัดการปล่อยมือออก ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นกระโดดขึ้

  • รักนี้อยู่ในออฟฟิศ   บทที่ 7 ผู้บริหารคนใหม่

    บทที่ 7 ผู้บริหารคนใหม่แฮ่ก... แฮ่ก...เสียงหอบหายใจหนักๆ ดังมาจากร่างของคนตัวอ้วนที่เพิ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้าลิฟต์มาอย่างรวดเร็ว และรีบเดินกะเผลกๆ ไปที่แผนกด้วยความเร่งรีบ เขาเหนื่อยจากการวิ่งหนี ลูคัส บนดาดฟ้า แถมยังไปกวนประสาทร่างสูงคนนั้นเข้าอีก คิดแล้วก็หมั่นไส้ คนอะไรถามดีๆ ก็ไม่ยอมบอกความจริง ให้เราทำแผลให้ตั้งนาน แต่ก็ไม่ยอมบอกอะไรเลยว่าไปโดนอะไรมา มันน่าตีจริงๆ!พอเดินมาถึงที่โต๊ะทำงาน พี่ชมพู่ ก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาเขาแทบจะทันทีแฮ่ก... แฮ่ก…“เจ้าเด็ก! เตรียมตัวเร็ว!”“มีอะไรครับพี่ชมพู่”“เรียกประชุมด่วน! ผู้บริหารคนใหม่เรียกแผนกของเราทั้งหมดให้เข้าไปประชุมตอนนี้เลย!”“โอ๊ย! เหนื่อยหายใจไม่ทันแล้วเนี่ย” ชมพู่โอดครวญ“ใจเย็นสิครับ หายใจลึกๆ” ธารน้ำพยายามปลอบ แต่สายตาก็ยังเร่งเร้า“ไปเร็ว! เดี๋ยวโดนหาว่าไปสายนะ”“ครับ!”มาแบบนี้ไม่ทันได้ตั้งตัวเลย เมื่อกี้ก็ว่าเหนื่อยจากการวิ่งหนีไอ้คนปากแข็งบนดาดฟ้าแล้ว นี่พี่ชมพู่ยังพาเหนื่อยอีกรอบเพราะความรีบร้อน ‘โอ้ย! ทำไมกันนะ ชีวิตของไอ้ธารน้ำคนนี้มักจะมีแต่เรื่องให้วิ่งเข้าใส่จังเลย’ เรียกประชุมอะไรเอาตอนนี้ แทนที่จะเรียกตั้งแต่เช

  • รักนี้อยู่ในออฟฟิศ   บทที่ 6 กลับมา

    บทที่ 6 กลับมาหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ที่พี่ชมพู่กระซิบบอกเรื่องข่าววงในเกี่ยวกับการเข้ามาของผู้บริหารคนใหม่ ธารน้ำก็เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีวี่แววของใครคนนั้น หรือว่าเขาจะเปลี่ยนใจกลับอิตาลีไปแล้ว? ช่างเถอะ... มันไม่ใช่เรื่องของเขาแต่สิ่งที่น่าแปลกใจและทำให้ธารน้ำเป็นกังวลมากกว่าคือ ลูคัส ตั้งแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุแล้วลูคัสมาส่งเขาที่คอนโด ชายหนุ่มคนนั้นก็หายตัวไปดื้อๆ เหมือนไม่เคยมีตัวตน ธารน้ำตั้งใจว่าจะติดต่อเขาเพื่อสอบถามเรื่องค่าซ่อมรถเก๋งที่โดนชนท้าย และค่าซ่อมมอเตอร์ไซค์ของเขาเองที่จู่ๆ ก็กลับมาสวยปิ๊งเหมือนใหม่... แต่ก็ไม่รู้จะตามหาได้ที่ไหนไปดูที่ลานจอดรถของบริษัทก็ไม่เห็นรถสปอร์ตคันหรูของเขาเลย ‘เอ๊ะ! หรือว่าโดนไล่ออกไปแล้วนะ’ ความคิดผุดขึ้นมาอย่างเป็นห่วง แต่ก็รีบสะบัดมันทิ้งไปว่าแล้วเขาก็กลับมาก้มหน้าทำงานของตัวเองต่ออย่างตั้งใจ แต่ก็ต้องหยุดชะงักลงเพราะเสียงเรียกของพี่ชมพู่ที่ดังขึ้นข้างๆ“เจ้าเด็กๆ!”“ครับ?”ธารน้ำหันไปมองด้วยความสงสัยเต็มที่ เพราะอยู่ดีๆ พี่ชมพู่ก็หันมาหาเขาด้วยสีหน้าตื่นเต้นและตกใจราวกับเพิ่งเจอเรื่องเหลือเชื่อมา

  • รักนี้อยู่ในออฟฟิศ   บทที่ 5 ตายแล้วกล้วยทอด

    บทที่ 5 ตายแล้วกล้วยทอด หลังจากหาหมอเสร็จ ลูคัสก็ให้ลูกน้องจัดการขับรถมาส่งธารน้ำถึงหน้าคอนโดหรูอย่างรวดเร็ว พอรถเก๋ง BMW จอดเทียบ เขาก็ลดกระจกแล้วพูดสั้นๆ ว่า “ถึงแล้ว” ก่อนจะเหยียบคันเร่งขับออกไปอย่างรวดเร็วธารน้ำยืนงงอยู่หน้าคอนโด ได้แต่กะพริบตาปริบๆ ‘อะไรเนี่ย... รีบไปไหนของเขา’ พลางหันกลับไปที่ลานจอดรถของอาคาร และก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นรถมอไซด์เวสป้าคู่ใจสีเหลืองที่เขาตั้งชื่อเล่นว่า 'น้องฟักทอง' จอดอยู่ในช่องจอดเรียบร้อย ‘เอ๊ะ! เขารู้ได้ไงวะ ว่ารถเราจอดอยู่ตรงไหน แต่ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันก็ทำให้เขาเลิกสนใจความสงสัยนั้นไปในทันที ‘ช่างเถอะ! ขอขึ้นห้องนอนก่อนละกัน’ ว่าแล้วก็เดินกะเผลกๆ ตรงขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 20 ทันทีทันทีที่เข้าห้อง ธารน้ำก็รีบตรงดิ่งไปที่ห้องน้ำก่อนเลย วันนี้เจอศึกหนักมาทั้งวัน ทั้งเข้างานสาย รถชน เจ็บตัว แถมยังต้องมานั่งเถียงกับผู้ชายหน้าหล่อที่กวนประสาทเป็นที่หนึ่งอีก ‘เอ๊ะ หรือเราจะโทรหาแม่ก่อนดี? ไม่สิ... อาบน้ำก่อนดีกว่า!’เขาใช้เวลาอาบน้ำเกือบชั่วโมง ไม่ใช่อะไรนะ... ลีลาจ้า! เนอะ ตามประสาคนหล่อที่ดูดีทุกอณูอย่างเขา ก็ต้องพิถีพิถันหน่อย! พออาบน้ำเส

  • รักนี้อยู่ในออฟฟิศ   บทที่ 4 คุณเป็นใครกันแน่

    บทที่ 4 คุณเป็นใครกันแน่โห..รถอย่างสวย!ทันทีที่ธารน้ำก้าวขึ้นมานั่งในรถ เบาะหนังนุ่มนิ่มหอมกลิ่นใหม่ ๆ ทำเอาแทบอยากกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ตรงนั้นเลยทีเดียวแม่เจ้า... รถหรูขนาดนี้ คนขับก็หล่อ ลูกน้องยังดูดีอีก นี่มันชีวิตในฝันของใครสักคนแน่ ๆ แต่ทำไมมันดันเป็นเขานะ เขาเหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แอบสำรวจเงียบ ๆ ตั้งแต่ข้างล่างขึ้นบนสูทดี น้ำหอมแพง หน้าแบบนี้ไม่ได้อยู่แผนกเดียวกับพี่เพ็ญแน่ ๆ …แต่ก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดี ว่าแล้วก็เปิดบทสนทนาเลยดีกว่า“เอ่อ... คุณทำงานแผนกอะไรอ่ะ ถึงได้มีรถหรูแบบนี้?”เสียงถามเต็มไปด้วยความอยากรู้แบบเด็กซื่อ ๆ ที่พยายามทำเนียนไม่ให้ดูอยากรู้อยากเห็นจนเกินไป“ทำไมต้องบอก?”เสียงตอบกลับเรียบเฉย แต่แฝงรอยยิ้มมุมปากบาง ๆ“คุณจะเล่นตัวทำไมเนี่ย เราถามดี ๆ นะ ตั้งแต่ตอนกลางวันแล้วนะ ยังไม่ตอบเลย”ธารน้ำเถียงเสียงอ่อย ๆ พร้อมทำหน้ามุ่ยนิด ๆ เหมือนงอน“ผู้จัดการ”คำตอบสั้น ๆ ทำเอาธารน้ำชะงักไปนิด แต่คนที่ตกใจยิ่งกว่าคือลูกน้องทั้งสองที่นั่งข้างหน้าดีนกับคาลหันมามองหน้ากันผ่านกระจกมองหลังแทบจะพร้อมกันผู้จัดการ?ในเมื่อเจ้านายตัวจริงคือเจ้าของบริษัททั้งคน จะโกหกท

Mais capítulos
Explore e leia bons romances gratuitamente
Acesso gratuito a um vasto número de bons romances no app GoodNovel. Baixe os livros que você gosta e leia em qualquer lugar e a qualquer hora.
Leia livros gratuitamente no app
ESCANEIE O CÓDIGO PARA LER NO APP
DMCA.com Protection Status