“อูย” รุ้งพรายกระโดดลงมาผิดท่าไปหน่อย เลยต้องนอนแอ้งแม้งอยู่บนสนามหญ้า ลืมไปว่าฝั่งบ้านตัวเองมีเก้าอี้ให้ปีน แต่ฝั่งนี้ไม่มีตอนลงเลยเจ็บตัวจนได้ หญิงสาวค่อย ๆ ลุกขึ้นเดินไปเก็บลูกบอลมา
“น้องฟรังก์ได้ยินพี่รุ้งไหมครับ” ตะโกนถามกลับไป
“ได้ยินครับ” น้องฟรังก์ก็ตะโกนตอบกลับมาเหมือนกัน
“พี่รุ้งจะโยนบอลคืนให้แล้วนะ ตั้งใจรับดี ๆ ล่ะ”
“ครับโยนมาเลย” น้องฟรังก์ตั้งท่ารับบอลที่ค่อย ๆ ลอยโด่งข้ามกำแพงมา แต่เล็งเป้าพลาดไปลูกบอลเลยกลิ้งขลุก ๆ ไปอยู่อีกมุม เด็กชายตัวน้อยก็วิ่งไปเก็บแล้วกลับมายืนรอพี่สาวคนสวยอยู่ที่เดิม
“รอพี่รุ้งแป๊บนะครับ พี่หาทางปีนกลับไปก่อน” หญิงสาวตะโกนบอกน้องฟรังก์ที่ยืนอยู่อีกฝั่ง
“ครับ”
รุ้งพรายกระโดดขึ้นแล้วใช้แขนเกาะคานกำแพง แต่พอจะถีบเท้าปีนขึ้นเธอก็รูดลงไปกองอยู่กับพื้นหญ้าดังเดิม ทำอยู่อย่างนั้นหลายรอบก็ไม่สามารถปีนขึ้นได้สักที น้องฟรังก์ก็ส่งเสียงเรียกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหญิงสาวก็ตะโกนตอบไปว่าให้รอใกล้จะได้แล้ว กลั้นใจแล้วกระโดดคว้าคานกำแพงอีกรอบ คราวนี้หญิงสาวตั้งใจถีบเท้าขึ้นแรง ๆ แต่มือก็อ่อนจนปล่อยหลุดจากคาน
“ว้าย !”
แต่แทนที่ตัวเธอจะหล่นลงพื้นกลับไปอยู่ในอ้อมกอดของบางคนเข้า หญิงสาวค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมอง แล้วหัวใจก็ไหวยวบกับใบหน้าของคริษฐ์ที่อยู่ห่างไม่ถึงคืบ คริษฐ์ส่ายหน้าเหมือนระอาใจก่อนวางเธอลงบนพื้น
“เข้ามาทำอะไรในบ้านพี่” คริษฐ์ถามหญิงสาวเหมือนหาเรื่องสายตาก็จ้องแข็งเหมือนเธอผิดเต็มประตู ก็แหงล่ะ แอบเข้าบ้านคนอื่นแบบนี้มันผิดอยู่แล้ว
“คือลูกบอลมันลอยมาบ้านพี่คริษฐ์ รุ้งเดินไปหน้าบ้านแล้วเหมือนไม่มีคนอยู่ไม่มีรถด้วย ก็เลยเอ่อ”
“เหมือนไม่มีคนอยู่ กดกริ่งหรือยัง”
‘พลาดแล้วยัยรุ้ง’
“เปล่าค่ะ”
“ทีหลังกริ่งมีให้กดรู้ไหมแม่กับเตออกไปข้างนอกส่วนรถพี่ก็เข้าศูนย์อยู่ แอบปีนเข้าบ้านพี่แบบนี้พี่แจ้งความจับฐานบุกรุกได้นะรุ้ง” คริษฐ์ต่อว่าเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต
“เมื่อก่อนก็ปีนออกบ่อย” รุ้งพรายบ่นเบา ๆ
“พี่รุ้งครับอยู่ไหมครับ” เสียงน้องฟรังก์ตะโกนข้ามมาให้รุ้งพรายต้องตระหนัก ว่าเธอปล่อยเด็กชายตัวป้อมอยู่ในบ้านเพียงคนเดียว
“เสียงเด็กที่ไหนกัน” คริษฐ์ถามพร้อมเลิกคิ้วสูง
“เอ่อ ลูกชายของคุณทักษ์ดนัยค่ะ เขาเอาลูกมาฝากแม่รุ้งเลี้ยง”
“คุณทักษ์ดนัยบ้านข้าง ๆ นั่นเหรอ” เป็นเรื่องใหม่ที่คริษฐ์เพิ่งรู้ว่านางอำไพรับเลี้ยงเด็กด้วย
“ค่ะพี่คริษฐ์ เอ่อ รุ้งขอเก้าอี้ปีนกลับไปได้ไหม” รุ้งพรายมองเขาแกมขอร้อง
“ไม่ได้”
“ทำไมล่ะ ปล่อยเด็กอยู่คนเดียวไม่ดีนะคะ”
“ที่พี่บอกว่าไม่ได้คือพี่ให้กลับไปทางประตูหน้าบ้าน ไม่ใช่มาปีนรั้วให้เสี่ยงแข้งขาหักแบบนี้ ตะโกนบอกเด็กไปว่าให้รอ” เขาบอกแก้มสั่ง
“น้องฟรังก์ครับรอพี่รุ้งก่อนนะครับ พี่จะเดินกลับไปทางหน้าประตูนะครับ” หญิงสาวตะโกนบอกเสียงดัง
“ครับ”
เจ้าของบ้านหนุ่มเลยจำต้องเดินมาส่งหญิงสาวที่หน้าประตูบ้าน แต่คริษฐ์ไม่ได้ทำแค่นั้นยังเดินตามรุ้งพรายไปถึงในบ้านของเจ้าตัวอีกด้วย
“พี่อยากเห็นหน้าเด็กนั่น” เขาบอกเหตุผลสั้น ๆ ไม่ใช่เพราะว่าอยากคุยกับเธอสักหน่อย รุ้งพรายพยายามหักห้ามใจไม่ให้คิดมากไปกว่านี้
“น้องฟรังก์ครับนี่คุณน้าคริษฐ์ครับ” หญิงสาวแนะนำให้สองหนุ่มต่างวัยได้รู้จักกัน เด็กน้อยก็ยกมือขึ้นไหว้คริษฐ์ได้อย่างน่ารัก
“พี่ไม่เคยรู้ว่าน้าอำไพรับดูแลเด็กด้วย”
“ค่ะรุ้งก็เพิ่งรู้ พี่คริษฐ์นั่งก่อนไหมคะ” หญิงสาวชี้ไปยังเก้าอี้สนามหน้าบ้าน
“ก็ดีเหมือนกัน”
“น้องฟรังก์ครับไปนั่งตรงนั้นกับน้าคริษฐ์ก่อนนะ เดี๋ยวพี่รุ้งจะหาขนมมาให้กิน”
“ครับพี่รุ้ง” น้องฟรังก์ก็ว่าง่ายแสนง่ายเดินไปนั่งอยู่ด้านข้างกับคริษฐ์แบบเงียบ ๆ ส่วนเจ้าของบ้านก็รีบเดินเข้าไปในห้องครัว มองเห็นสาคูไส้หมูของมารดาก็รีบยกออกมาให้สองหนุ่มได้กินกัน
“สาคูไส้หมูค่ะพี่คริษฐ์แม่เก็บเอาไว้ให้รุ้งกินนี่แหละ แต่มันเยอะกินคนเดียวคงไม่หมด”
“อืม” คริษฐ์มองจานขนมตรงหน้าแล้วก็นิ่งเฉยไม่ได้แตะในทันที
“ส่วนน้องฟรังก์นี่น้ำแดงกินกับขนมนะ กินเป็นไหมเรา”
“เป็นครับ”
“เอาลูกบอลวางไว้ก่อน แล้วมากินขนมกันนะครับ” หญิงสาวดึงลูกบอลออกจากมือของเด็กน้อย แล้วหันมามองแขกข้างบ้านอย่างสนใจ
“พี่คริษฐ์น้ำเปล่าคงไม่ว่าอะไรนะคะ รุ้งไม่ได้ซื้อพวกน้ำผลไม้ติดตู้เย็นไว้”
“ไม่เป็นไรพี่ไม่ได้หิวน้ำ” เขาตอบแบบนี้รุ้งพรายก็จนปัญญาจะพูดต่อ หญิงสาวหันมาสนใจน้องฟรังก์แทน
“กินเยอะ ๆ นะครับ เดี๋ยวพ่อกลับมาแล้วจะหาว่าพี่รุ้งดูแลไม่ดี”
“ครับ” น้องฟรังก์รีบหยิบส้อมจิ้มขนมสาคูใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อย รุ้งพรายจึงจิ้มขนมใส่ปากตัวเองไปด้วย สายตาก็เหลือบไปมองเขาที่นั่งนิ่ง ๆ ไม่พูดอะไร
‘ว่าแต่พี่คริษฐ์มาทำไมถ้าไม่คิดจะพูดอะไรอยู่แบบนี้’
กลายเป็นความอึดอัดใจเข้ามาแทนที่ พี่คริษฐ์ของรุ้งพรายในวันนี้ดูนิ่งขรึมกว่าตอนนั้นหลายขุมนัก ขรึมจนเธอแทบไม่กล้าชวนเขาคุยด้วยซ้ำ
“คุณน้าคริษฐ์ไม่กินขนมเหรอครับ อร่อยนะครับ” จู่ ๆ เด็กชายตัวน้อยก็ถามคริษฐ์ขึ้น รุ้งพรายแอบดีใจที่มีคนถามแทนเธอ มุมปากจึงกระตุกยิ้มขึ้นน้อย ๆ อย่างถูกใจในคำถามแสนซื่อของน้องฟรังก์
“งั้นเดี๋ยวน้าลองชิมดูนะครับ” คริษฐ์ไม่อยากทำให้เด็กผิดหวังจึงจับส้อมจิ้มขนมเข้าปากตัวเองหนึ่งชิ้น
“อร่อยใช่ไหมครับ”
“ครับอร่อยอย่างที่น้องฟรังก์บอกจริง ๆ” คริษฐ์ฉีกยิ้มกว้างให้น้องฟรังก์แต่หันมาทำหน้านิ่งใส่เธอ จะวางมาดใส่เธอไปถึงเมื่อไหร่ แบบนี้เธอจะกล้าเข้าใกล้ได้อีกไหม
สักพักใหญ่ ๆ น้องฟรังก์ก็กินขนมจนอิ่ม คริษฐ์เองก็อิ่มแล้วเหมือนกัน ดูเหมือนชายหนุ่มจะชวนน้องฟรังก์คุยกันตามประสาหนุ่ม ๆ เขาไม่คิดแม้แต่จะหันมาชวนเธอคุยด้วย พอขนมย่อยสองหนุ่มก็ชวนกันเตะฟุตบอลต่อ รุ้งพรายก็เก็บจานขนมเข้าไปล้างในห้องครัว เสร็จแล้วก็กลับออกมานั่งมองเขากับน้องฟรังก์เล่นเตะฟุตบอลกันอย่างสนุกสนาน
มีบ่อยครั้งที่น้องฟรังก์กระโดดเข้าไปเกาะแข้งเกาะขาของคริษฐ์ แล้วก็ถูกเขาเหวี่ยงตัวไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง เป็นภาพที่เธอแอบจินตนาการไปว่ากำลังนั่งมองสามีกับลูกชายเล่นกันอยู่ นั่งยิ้มอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า จนสายตาของเขามองดุ ๆ กลับคืนมา รอยยิ้มบนใบหน้าจึงค่อย ๆ หุบลง
“รุ้ง” สักพักหนึ่งคริษฐ์ก็หันมาเรียกเธอ
“คะพี่คริษฐ์”
ตอนที่ : 74 วันของเรา 5 (จบ)คริษฐ์ขานเหมือนไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้มือของเขากำลังล้วงเข้าไปในกระโปรงผ้าชีฟองสีครีมของภรรยา ค่อย ๆ ดึงชั้นในผ้าซาตินสีดำออกจากโคนขา อาการเบาหวิวแสนสะท้านส่งผลให้รุ้งพรายหนีบท่อนขาเข้าหากันแน่ แต่อีกคนใช่ว่าจะยอมให้ทำแบบนั้นได้ง่ายดาย คริษฐ์ใช้สองมือจับที่ต้นขาแล้วดันแยกให้ออกจากกัน “อ๊ะ !” เหมือนถูกจับเปิดอ้าทั้งที่มีกระโปรงคลุมอยู่ ทว่าผ้าบางเบานั่นก็ร่นขึ้นอยู่เหนือสะโพก ยิ่งเขาดันต้นขาให้สูงขึ้นทุกอย่างก็ยิ่งเปิดอ้าและเปลือยเปล่าต่อหน้าต่อตาของเขา รุ้งพรายไม่เคยมั่นใจตั้งแต่หลังคลอดลูก ทุกครั้งที่ถูกร่วมรักเธอก็มักจะกล้า ๆ กลัว ๆ “พี่คริษฐ์ !” หญิงสาวสะบัดหน้าไปมาตามแรงขยับจากปลายนิ้วของเขา “ยังไม่ชินอีกเหรอรุ้งทำไมต้องอายพี่ขนาดนี้ด้วยหืม” “รุ้งยังอ้วนอยู่เลยนะคะพี่คริษฐ์” “อ้วน ! ไปเอาความคิดนี้มาจากไหนกันรุ้ง พี่ว่านี่มันหุ่นนางฟ้าชัด ๆ ดูสิอวบอิ่มจับตรงไหนก็เต็มไม้เต็มมือไปหมด” ไม่เพียงแค่พูดคริษฐ์ยังจับหมุบหมับอีกด้วย “พี่คริษฐ์พูดจริงเหรอคะ” “จะโกหกทำไม แบบนี้เซ็กซี่มากรู้ไหม ไ
ตอนที่ : 73 วันของเรา 4 “ก็มีบ้างค่ะ แย้มยังไม่ได้รู้ไม่ได้เห็นโลกใบนี้อีกตั้งหลายอย่าง จู่ ๆ จะให้มาเป็นแม่คนมันก็แปลก ๆ สักหน่อยค่ะ” “นี่จะบอกว่าฉันตัดอนาคตเธอเหรอแย้ม” เตชัสตัดพ้อภรรยา “ไม่ใช่ค่ะ คุณเตก็รู้ว่าก่อนหน้าแย้มก็ เอ่อ” แย้มรีบปฏิเสธแต่ก็ตะกุกตะกักในตอนท้ายประโยค “เอ่อ อะไร” คนได้ใจเขี่ยแก้มแย้มเล่น “ก็รู้ว่าแย้มมีใจให้ก่อนหน้าแล้วใช่ไหมคะ ในตอนนั้นถึงได้กล้าเอ่อ ปล้ำ” ถามเขาแล้วก็หลบสายตาที่จ้องหยาดเยิ้มกลับมาไปอีกทาง “ใช่ ฉันรู้ฉันถึงกล้าทำยังไงล่ะ”เตชัสยิ้มบาง ๆ เพราะเขาหงุดหงิดกับเรื่องของพี่ชายที่ไปหมั้นกับรุ้งพราย เตชัสรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ใช่คนสำคัญมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งรู้ว่าพวกเขาได้หมั้นกันความรู้สึกของเขาก็เหมือนเด็กขี้อิจฉา ที่ไม่เคยได้ของเล่นชิ้นถูกใจสักที เตชัสไม่เคยบอกใครเรื่องที่เขาอยากให้รุ้งพรายมาสนใจบ้าง มันเป็นความริษยาวัยเด็กที่พอโตขึ้นมาก็อยากจะได้ความรู้สึกพิเศษแบบนั้น แต่รุ้งพรายก็ทำให้เขารู้สึกไร้ค่ามาโดยตลอด ในวันนั้นเขาเลยอยากปลดปล่อยความรู้สึกพวกนั้นทิ้งไป และแย้มก็คือคนที่อยู่ตรงนั้นพอ
ตอนที่ : 72 วันของเรา 3 “น่ารักที่สุดเลย รอบนี้ครั้งสุดท้ายแล้วจริง ๆ พี่รับรอง” เขาฉีกยิ้มจนเห็นฟันขาวเรียงสะอาด รุ้งพรายพลิกตัวหันหน้าเข้าหาเขา แล้วโน้มหน้าเข้าไปจูบแก้มสากด้านขวาเบา ๆ “รุ้งรักพี่คริษฐ์ค่ะ ไปไหนไปกัน” ได้ไฟเขียวแบบนี้สามีของเธอก็เดินหน้าต่อในอ่างอาบน้ำ กว่าเขาจะถึงฝั่งฝันแสนเร่าร้อนรุ้งพรายก็แทบสลบคาอกของสามี รู้ตัวอีกทีก็ถูกช้อนอุ้มขึ้นมาวางบนเตียงนอน สภาพของเธอคงไม่ไหวแล้วจริง ๆ สามีจึงจัดการสวมชุดนอนให้ พอได้ซุกอกอุ่น ๆ ของเขา รุ้งพรายก็ไม่อยากเปิดเปลือกตาขึ้นมาอีกเลย ในความกึ่งหลับกึ่งตื่นเธอกลับได้ยินเสียงนุ่ม ๆ ของเขา กระซิบแผ่วเบาตรงใบหู “สุดท้ายพี่ก็หนีรุ้งไม่พ้น” ในความมึนงงเธอขมวดคิ้วขึ้นตามความรู้สึกสงสัย“และพี่ก็รักรุ้งจนได้” คราวนี้คนใกล้จะหลับสนิทถึงกับเผยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า ได้รางวัลพิเศษเป็นการหอมแก้มซ้ายขวาจากสามี ค่ำคืนนี้เธอจะได้นอนหลับอย่างมีความสุข ในอ้อมอกของคนที่เธอรักสุดหัวใจ“รุ้งก็รักพี่คริษฐ์ค่ะ” เธอตอบเขาทั้งที่หลับตาคริษฐ์เขี่ยแก้มของภรรยาเบา ๆ รอยยิ้มของเขาแต่งแต้มเต็มใบหน้า แม้ตอนหลับจิตใต้สำ
ตอนที่ : 71 วันของเรา 2 “พี่คริษฐ์ !” คราวนี้หญิงสาวผวาเข้ากอดคอเข้าแน่น หนีบต้นขาเข้าหากันแน่นไม่ยอมปล่อย “ไม่เอาน่าคนดีของพี่ ไม่งอแงสิ” “รุ้งไม่ได้งอแงนะ แต่ว่า แต่...” “พี่ขอนะ” “คะ” รุ้งพรายยังงงแต่เขาเลื่อนชั้นในออกจากสะโพกของเธอ ใช้ปลายเท้าเขี่ยทิ้งลงข้างเตียง ความเย็นโล่งหวิวสัมผัสเข้ากับความเป็นชายของเขา “รุ้ง” คริษฐ์เรียกคนที่แทบจะตัวแข็งไปอีกรอบ “คะ” หนนี้รุ้งพรายไม่กล้าสู้หน้าเขา เธอรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันที “อย่ากลัวพี่สิ ไหนว่ารักพี่ไง” “ก็รักค่ะ” ‘แต่ก็กลัว’ “รักแล้วทำไมถึงทำท่าไม่มั่นใจพี่แบบนี้ล่ะ” คริษฐ์เห็นหน้าเจ้าสาวของตัวเองแล้วพลอยหัวใจอิ่มเอมไปด้วย ทั้งสวยทั้งนุ่มนิ่มไปทั้งตัว ยัยเด็กจอมตื๊อในอดีตคนนั้นทำเขาใจสะท้านได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือท่าทีเอียงอายแกมไร้เดียงสายิ่งทำให้เขาสุขใจขึ้นไปอีก ก้มลงจูบปิดปากอิ่มอย่างดูดดื่มและเรียกร้อง ฝ่ามือก็ขยำทรวงอวบอัดทั้งสองข้างอย่างเท่าเทียม กายท่อนล่างก็เสียดสีให้เกิดหยาดน้ำหวานหล่อเลี้ยง และเมื่อทุกอย่างพรั่งพร้อมแล้วคริษฐ์ก
ตอนที่ : 70 วันของเรา26วันของเรา คืนเข้าหอของคริษฐ์กับรุ้งพราย หลังจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้ให้พรและส่งตัวเข้าหอเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นเวลาของคู่บ่าวสาวคริษฐ์มองดูเตียงนอนสีชมพูระบายลูกไม้สวยงาม เขาสั่งงดโรยดอกกุหลาบบนเตียงเพราะไม่อยากเสียเวลาปัดออก เจ้าสาวคนงามก็ยังนั่งนิ่งอยู่บนเตียง วันนี้รุ้งพรายสวยจนเขาตะลึง ชุดเจ้าสาวด้านหน้าดูเรียบง่ายเป็นผ้าซาตินแขนกุด ทว่าเปิดเปลือยด้านหลังไปถึงเอว มีโบผูกอันใหญ่ด้านหลังกระโปรงที่ทิ้งชายลงลากพื้นแลดูเรียบหรู “เหนื่อยไหมรุ้ง” เจ้าบ่าวเดินมานั่งลงด้านข้างกับเจ้าสาว “เหนื่อยค่ะ ปวดขาไปหมดแล้ว” รุ้งพรายถลกกระโปรงขึ้นเพื่อดูเท้าของตัวเอง คริษฐ์ถึงกับคุกเข่าลงกับพื้นห้อง “พี่คริษฐ์ทำอะไรคะ” เจ้าสาวร้องเสียงหลงเมื่อเจ้าบ่าวยกเท้าของเธอขึ้นมาวางบนหน้าขาของเขา “พี่จะดูว่าเท้าเป็นแผลไหม ใส่รองเท้าใหม่อาจไม่ชิน” เอ่ยแล้วก็หันเท้าของเจ้าสาวเพื่อดูบริเวณส้น พบว่ามีรอยถลอกจนแดงไปทั้งสองข้าง “นี่แค่ญาติพี่น้องแล้วก็จัดในสวนบ้านพี่เองนะ ถ้าเป็นในโรงแรมอาจจะหนักกว่านี้” คริษฐ์บอกแล้วก็อดสงสารเจ้าสาวไม่ได
ตอนที่ : 69 ทางออกของทุกคน 3 “ก็ให้แย้มมานั่งเป็นเพื่อนจะไปอาบน้ำทำไมกันคะ” แย้มก็ทำหน้าทะเล้นใส่เขาบ้าง “ไม่ต้องมาย้อนฉันเลย ไปเดี๋ยวนี้” “ไม่ค่ะ” “ถ้าไม่ไปฉันจะเป็นคนพาไปเองนะ อ้อ แล้วฉันก็จะอาบเป็นเพื่อนเธอด้วย” อีกคนลุกขึ้นโดยอัตโนมัติ ไม่ดีแน่หากปล่อยให้เขาเข้าห้องอาบน้ำด้วย “ไม่ต้องค่ะ แย้มอาบคนเดียวดีกว่า” หญิงสาวแทบจะวิ่งเข้าห้องน้ำไป โดยมีเสียงหัวเราะของเตชัสไล่หลังไปติด ๆ กลับออกมาอีกครั้งเขาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม แย้มสวมเสื้อยืดสีขาวตัวยาวกับกางเกงขาสั้นเอวยืดแบบที่เตชัสชอบให้สวมใส่ เตชัสเห็นแล้วก็อมยิ้มพร้อมกับชี้ลงที่หน้าตักของตัวเอง “มานั่งนี่เลย” แย้มทำหน้างอใส่เล็กน้อยแต่ก็ยอมเดินไปทิ้งสะโพกลงนั่งบนตักของเขาอย่างว่าง่าย “หอม ๆ แบบนี้ค่อยน่ากอดหน่อย” คนพูดซุกหน้าลงตรงซอกคอของแย้มสูดกลิ่นกายสาวเข้าเต็มปอด “แย้มไม่ได้ใช้น้ำหอมแบบสาว ๆ คนอื่นของคุณเต ไม่ได้น่ากอดขนาดนั้นหรอกค่ะ” “อยู่กับฉันแค่สองคนทำไมต้องพูดถึงคนอื่นนะแย้ม เสียอารมณ์หมด” เตชัสตำหนิหญิงสาวเล็กน้อย นั่นทำให้แย้