“พี่ว่าน้องฟรังก์ง่วงนอนแล้วล่ะ พาเข้าไปนอนในบ้านเถอะ เตะบอลไปหาวไปหลายรอบแล้ว”
“ง่วงนอนเหรอคะ แต่แม่ยังไม่กลับเลย”
“ก็รุ้งไงพาเข้านอนทำไมต้องรอแม่”
“จริงด้วยค่ะ ไปน้องฟรังก์ไปนอนกัน”
หญิงสาวเดินไปจูงมือของคนง่วงนอนเข้าไปภายในบ้าน กระเป๋าของน้องฟรังก์มีขวดนมติดมาด้วย รุ้งพรายนึกสงสัยเล็กน้อยที่น้องฟรังก์อายุห้าขวบแล้วยังติดนมขวดอยู่
“น้องชายพี่รุ้งตอนห้าขวบไม่กินนมขวดแล้วนะน้องฟรังก์” รุ้งพรายมองขวดนมในมือตัวเองแล้วหรี่ตามองน้องฟรังก์ไปด้วย ยังไม่ยื่นให้ในทันที
“ถ้าไม่กินก็นอนไม่หลับครับพี่รุ้ง จะกินนม ๆ” เด็กน้อยกระโดดเหยง ๆ แบมือขอขวดนมไปด้วย
“เอา ๆ กินก็กิน” หญิงสาวยื่นขวดนมในมือให้ ดึงที่นอนเด็กในกระเป๋าออกมาปูกลางห้องรับแขก นมเข้าปากไม่ทันไรน้องฟรังก์ก็หลับปุ๋ยลงไปในทันที
“เฮ้ย หลับง่ายหลับดายขนาดนี้เลยเหรอน้องฟรังก์” หญิงสาวส่ายหน้าอย่างขำ ๆ ก่อนจะหันไปมองคนที่นั่งอยู่ตามลำพังตรงหน้าบ้าน รุ้งพรายเดินเข้าห้องน้ำเพื่อสำรวจดูตัวเองหน้ากระจก ผมหยักเป็นลอนถูกถักเปียหลวม ๆ เอาไว้ทั้งสองข้าง ไม่ได้ยุ่งเหยิงเหมือนเมื่อวานตอนทำความสะอาด ส่วนชุดที่สวมใส่ก็เป็นผ้าลูกไม้แขนกุดกางเกงยีนขาสั้นน่ามองอยู่ไม่น้อย
‘ใครสอนให้ชมตัวเองยัยรุ้ง’
คิดแล้วพวงแก้มก็แดงเถือกขึ้นทันตาเห็น จินตนาการของเธอไปไกลสุดกู่ ขณะที่เขากลับเมินเฉยใส่ รุ้งพรายเดินคอตกออกจากห้องน้ำแล้วตรงไปหาเขาที่หน้าบ้าน
“น้องฟรังก์หลับแล้วค่ะพี่คริษฐ์”
“งั้นพี่กลับนะ”
“เอ่อ พี่คริษฐ์ไม่อยู่ต่อหน่อยเหรอคะ”
“ไม่ล่ะ ไม่ได้มีธุระอะไรที่นี่แล้ว” พูดแล้วก็ลุกขึ้นเดินไปหน้าตาเฉย
“อ้าว” หญิงสาวออกอาการเหวอเล็กน้อย แต่ก็เดินไปส่งเขาตรงประตูหน้าบ้าน คริษฐ์เดินกลับบ้านตัวเองแบบเร็ว ๆ ไม่ได้มีท่าทีอาลัยอาวรณ์เธอแม้แต่น้อย
‘คาดหวังอะไรอยู่รุ้งพราย มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก’
“พี่คริษฐ์”
“อะไร”
“ว่าง ๆ แวะมากินขนมกับรุ้งได้นะคะ” หญิงสาวหยอดเสียงหวานแต่เขากลับหันหลังแล้วเดินจากไป ไม่คิดแม้จะตอบกลับมาให้เธอได้ชื่นใจแม้แต่คำเดียว
“เฮ้อ” รุ้งพรายส่ายหน้าแล้วปิดประตูบ้านตัวเอง เมื่อก่อนยังว่าพอมีโอกาสได้ใกล้ชิดสนิทสนมกัน แต่ตอนนี้ทำไมรู้สึกยิ่งห่างกันไกล
ช่วงเย็นมารดาของรุ้งพรายก็กลับจากตลาดมาพร้อมกับวัตถุดิบทำขนมเต็มท้ายรถแท็กซี่ รุ้งพรายรีบวิ่งไปช่วยหิ้วของลงจากรถเข้าบ้าน
“เป็นไงรุ้งเลี้ยงน้องฟรังก์สนุกไหมลูก”
“สนุกค่ะแม่ น้องฟรังก์เลี้ยงง่ายนะ กินง่ายนอนก็ง่าย” หญิงสาวบอกมารดาระหว่างเดินเข้าห้องครัว
“หลับยังไม่ตื่นใช่ไหม ตื่นอีกทีก็เกือบเย็นเลยล่ะ”
“ใช่ค่ะแม่ เอ่อแม่ รุ้งมีเรื่องจะบอก” หญิงสาวยิ้มแหย ๆ คนเป็นแม่ก็รีบปิดตู้เย็นแล้วหันมามองลูกสาว
“ทำอะไรผิดไว้ใช่ไหมถึงได้ทำหน้าแบบนี้” นางอำไพชี้นิ้วใส่หน้าลูกสาวเหมือนคนจ้องจับผิด รุ้งพรายเลยเดินเข้าไปกอดเอวท่านอย่างเอาอกเอาใจ
“แม่รู้ทันตลอดเลย คืองี้นะ รุ้งเล่นเตะบอลกับน้องฟรังก์ตอนกลางวัน แล้วมีจังหวะหนึ่งที่รุ้งเตะแรงไปหน่อย บอลเลยลอยข้ามกำแพงบ้านไปฝั่งบ้านคุณป้าพิมพ์ค่ะแม่”
“ซนนักนะเรา แล้วยังไงต่อ” คนถามดันตัวลูกสาวออกแล้วมองหน้าตรง ๆ
“รุ้งคิดว่าไม่มีใครอยู่บ้าน เพราะเดินไปดูที่หน้าประตูแล้วไม่เห็นรถจอดอยู่สักคัน เลยกลับมาปีนข้ามกำแพงไปเก็บลูกบอลให้น้องฟรังก์ค่ะ” คนสารภาพผิดบอกไม่เต็มน้ำเสียง
“รุ้ง ! ไปปีนกำแพงบ้านคนอื่นได้ยังไงลูก” นางอำไพตกใจในการกระทำของลูกสาวอยู่ไม่น้อย
“ก็บอลของน้องฟรังก์นี่แม่ ปีนไปเก็บแล้วปีนกลับคิดว่าน่าจะง่าย ๆ”
“แล้วมันเป็นยังไงต่อล่ะ ง่ายสมใจไหม”
“แฮ่ ปีนกลับไม่ได้ พี่คริษฐ์เลยต้องมาเปิดประตูบ้านให้”
“เห็นไหมถูกเขาจับได้อีก ตายล่ะ นี่คุณพิมพ์จะคิดว่ารุ้งเป็นเด็กแบบไหนเนี่ย เที่ยวไปปีนกำแพงบ้านคนอื่นแบบนี้” นางอำไพเป็นกังวลต่อเรื่องนี้ค่อนข้างมาก ไม่อยากให้คนอื่นมองลูกสาวในแง่ลบ
“ไม่ร้ายแรงขนาดนั้นมั้งแม่ พี่คริษฐ์ยังไม่ว่าอะไรเลย” คนทำผิดก็แย้งไม่เต็มเสียง
“ไม่ว่าเลยเหรอ” นางอำไพทำหน้าไม่เชื่อเลยสักนิด
“ความจริงก็ว่านิดหน่อยค่ะ” หญิงสาวยอมรับแบบอาย ๆ
“รุ้งนะรุ้งพรุ่งนี้ไปขอโทษคุณป้าพิมพ์เลยนะ เดี๋ยวแม่จะทำขนมให้เอาไปฝากเขาด้วย”
“ต้องขอโทษด้วยเหรอแม่ รุ้งไม่ได้ทำอะไรผิดร้ายแรงสักหน่อย ถ้าพี่คริษฐ์ไม่บอกก็ไม่มีใครรู้หรอกค่ะ”
“แค่ปีนบ้านเขาก็ผิดแล้วลูก และอย่าคิดง่าย ๆ ว่าเขาไม่รู้เขาแม่ลูกกันยังไงก็ต้องบอกกันอยู่ดี พรุ่งนี้วันอาทิตย์คุณพิมพ์น่าจะอยู่บ้าน”
“แบบนั้นก็ได้ค่ะ ถ้าแม่อยากให้รุ้งขอโทษรุ้งก็จะไปค่ะ” เพื่อความสบายใจของมารดา รุ้งพรายจึงยอมทำตามที่ท่านบอก เห็นสีหน้าโล่งอกของมารดาแล้วหญิงสาวก็รู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิดที่จะไปขอโทษนางพิมพ์พร
ห้าโมงเย็นทักษ์ดนัยก็มารับลูกชายกลับบ้าน รุ้งพรายเก็บของใส่กระเป๋าเป้ของน้องฟรังก์เพื่อคืนคนเป็นพ่อ เจอกันตอนเช้าชายหนุ่มดูเสื้อผ้าเรียบร้อยผมเผ้าก็เนียนกริบ พอตกเย็นมาเท่านั้นสภาพเหมือนเขาไปฟัดกับตัวอะไรมาก็ไม่ปาน
“คุณรุ้งอย่าตกใจกับสภาพของผมนะครับ พอดีขากลับมีการวิ่งราวกันขึ้นตรงหน้าออฟฟิศ ผมเลยวิ่งไปช่วยเขาจับคนร้ายน่ะครับ” ทักษ์ดนัยเป็นฝ่ายบอกเสียเองหลังจากหญิงสาวยืนขมวดคิ้วมองเขาอย่างสงสัย
“ค่ะ แล้วคุณทักษ์เป็นอะไรมากไหม วิ่งตามคนร้ายแบบนั้นอันตรายนะคะ” หญิงสาวบอกขณะยื่นกระเป๋าเป้คืนเขา
“ไม่เป็นไรครับ ผมพอมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง คนร้ายเป็นเด็กติดยามาวิ่งราวกระเป๋าผู้หญิงในบริษัท ตอนนี้ถูกตำรวจคุมตัวไปแล้วครับ”
“แหม ฮีโร่เลยนะคะแบบนี้”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับคุณรุ้ง เอาล่ะน้องฟรังก์ลาพี่รุ้งเขาสิลูก” ทักษ์ดนัยหันไปบอกลูกชาย
“ผมไปก่อนนะครับพี่รุ้ง” น้องฟรังก์ยกมือขึ้นไหว้ แล้วตามด้วยโบกมือบ๊ายบายหญิงสาว
“วันหลังว่าง ๆ มาเล่นเตะบอลกับพี่รุ้งอีกนะคะ” รุ้งพรายก็โบกมือให้น้องฟรังก์ก่อนจะปิดประตูบ้านแล้วเดินกลับเข้าไปข้างใน
ทักษ์ดนัยเห็นทั้งคู่เข้ากันได้ก็รู้สึกดีใจ เขาห่วงมากเรื่องที่จะให้คนอื่นดูแลลูกชายของตัวเอง เคยคิดจะพาไปฝากตามศูนย์รับฝากเด็ก แต่พอเจอข่าวร้าย ๆ ในแต่ละวันก็ทำใจไม่ได้เลยสักที ต้องมาพึ่งพาคนข้างบ้านซึ่งเห็นกันมาหลายปี ทั้งสนิทและไว้วางใจกันอย่างนางอำไพ
ตอนที่ : 45 ตอนพิเศษ 6 (จบ) พรธีราเปิดประตูห้องให้พี่ชาย ด้วยสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็คาดไว้แล้วว่าเขาคงต้องมาถาม เรื่องของนวินแน่นอน “เล่ามา ว่าทำไมถึงได้ไว้ใจไอ้กันต์มันขนาดนั้น” “พี่เอื้อทำไมถามตรงแบบนี้ล่ะคะ เอยก็อายเป็นนะคะ” พรธีราเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงตัวเอง คนเป็นพี่ชายเดินตามไป ทรุดตัวนั่งลงบนขอบเตียง พร้อมกับลูบเส้นผมของน้องสาวไปมา “ไม่ต้องมาอายเลย เล่าให้พี่ฟังหน่อยเผื่อพี่จะมองไอ้กันต์มันเปลี่ยนไปบ้าง” แม้เรื่องจะคลี่คลายไปแล้ว แต่ความระแวงนั้นยังคงมีอยู่ “พี่เอื้อรู้ไหมคะว่าพี่กันต์สักรอยใหม่ตรงอกข้างซ้าย” “หืม จริงเหรอ” “จริงค่ะ” “แล้ว” เขานึกไม่ออกว่ามันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ คนเป็นน้องสาวรีบลุกขึ้นจากเตียง ไปหยิบโทรศัพท์มือถือของตนออกมา เปิดรูปที่ตัวเองถ่ายไว้ ยื่นให้พี่ชายดู “นี่ไอ้กันต์เหรอ” “ค่ะ” คนเป็นน้องสาวอมยิ้ม เป็นยิ้มแบบแปลก ๆ เหมือนมีบางอย่างซ่อนไว้ในรูปนี้ พัสวีพยายามมองให้ลึก ตีความหมายให้ออก‘XI•VIII•MCMXCVIII =11Aug1998’
ตอนที่ : 44 ตอนพิเศษ 5เสียงนกร้องจิ๊บ ๆ มาจากไหน คนหลับอุตุซุกหน้าหาความอบอุ่น กอดรัดเอาไว้ราวหมอนข้างที่ห้องของตัวเอง แต่หมอนข้างของเธอทำไมขยับได้ รีบลืมตาขึ้นในทันที“พี่กันต์” หญิงสาวมองคน ที่ชันศอกมองเธอมองเธอ ด้วยรอยยิ้มแสนอบอุ่นอยู่ก่อนหน้าแล้ว พลันหัวใจก็อุ่นวาบตามไปด้วย“กี่โมงแล้วคะเนี่ย เอยหลับไม่รู้ตัวเลย”“หลับสนิทดีแล้วครับ เหนื่อยมาทั้งคืน” คนพูดตาเป็นประกายวับ จิ้มแก้มนุ่มของอีกคนเล่นเบา ๆ“พี่กันต์เอยปวดเนื้อปวดตัวไปหมดเลย” คนงอแงทำหน้าเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า นวินหัวเราะกลั้นขำอย่างเอ็นดู จะไม่ให้ปวดได้ยังไง เมื่อคืนเขาใส่เต็มแรงแบบไม่ยั้งก๊อก ก๊อก ก๊อก“อาหารเช้ามาแล้ว” เขาลุกขึ้นจากเตียง แล้วสะบัดผ้าห่มคลุมตัวหญิงสาวจนมิด แทบไม่อยากให้ใครได้เห็นแม้แต่นิ้วเท้าของคนบนเตียงเขาเปิดประตูแค่แง้ม รับถาดอาหารเข้ามา นำมาวางไว้บนโต๊ะตรงริมสระว่ายน้ำ“น้องเอยหิวหรือยังครับ ถ้าหิวออกมากินได้เลย ตรงนี้ทางสะดวก”“ทางสะดวกอะไรคะพี่กันต์” พอก้าวเท้าลงจากเตียงเท่านั้นแหละ พรธีราถึงกับห่อตัวด้วยความรู้สึกเบาหวิว เพราะเธออยู่ในชุดเสื้อยืดตัวเดียว ลมพัดทีคงเย็นวาบไปถึงทรวง หญิงสาวเดินก
ตอนที่ : 43 ตอนพิเศษ 4เขาเลื่อนฝ่ามือขึ้นมาประคองใบหน้า แนบริมฝีปากเข้าหาอย่างเนิบช้า จูบนุ่มรสหวานละมุนปลายลิ้น ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนพรธีราหายใจแทบไม่ทัน ยิ่งสะดุดลมหายใจ เมื่อบางอย่างใต้น้ำ กดแนบกับด้านล่างของเธอ ความปรารถนาแข็งกร้าวดันผ่านเนื้อผ้าออกมา สัมผัสกับเนื้อตัวของเธออย่างแนบชิด“น้องเอยครับ” เสียงแหบพร่าบอกอารมณ์ของคนพูด นวินไม่รอช้าดึงข้อมือของหญิงสาวให้เดินตามเขาไป ตรงบันไดมุมอับอีกฟากของสระว่ายน้ำ มุมนี้มืดสนิทมีแผ่นไม้กั้นหน้าผาเอาไว้“พี่กันต์ อ๊ะ” คนถูกระดมจูบแบบไม่ทันได้ตั้งตัว อ่อนเปลี้ยลงในทันทีนวินนั่งบนบันไดขั้นสุดท้าย เขาให้หญิงสาวคร่อมอยู่บนตัก ตัวอยู่เหนือน้ำแค่เหนือเอว พรธีรากอดคอเขาเอาไว้แน่น ระหว่างที่ถูกปลดตะขอเสื้อชั้นในออก ฝ่ามือหนาของเขาเลื่อนไปใต้เสื้อกล้ามตัวน้อย ก่อนจะดึงขึ้นไปค้างไว้เหนืออก“อื้อ !” หญิงสาวแอ่นอกให้เขาเชยชมในความมืด ปลายถันถูกดูดดุน ขบเม้มสะท้านสะเทือนไปทั้งตัว สะโพกหนาบดเบียดเข้าหาเธออย่างแนบแน่น ทุกสัมผัสเร่าร้อนอยู่ใต้น้ำ เหนือน้ำก็หวานฉ่ำไปด้วยรสลิ้น ที่ปาดป้ายไปมาอย่างเมามันนวินเลื่อนฝ่ามือลงในผ้าชิ้นน้อยใต้น้ำ อีกคนสะดุ้งเฮือก
ตอนที่ : 42 ตอนพิเศษ 3พอหญิงสาววางสายเท่านั้นแหละ นวินก็หลุดเสียงหัวเราะออกมาดัง ๆ เขาทั้งขำทั้งตลกในสกิลการโกหกของพรธีรา ช่างกล้าพูดออกไปได้“นิสัยไม่ดี”“อ้าวไหงมาว่าพี่แบบนั้นล่ะครับน้องเอย พี่ไม่ได้บอกให้น้องเอยโกหกคุณแม่นะครับ น้องเอยคิดเองทำเองทั้งนั้น”“ก็เพราะพี่กันต์นั่นแหละ ทำให้เอยต้องโกหก” อีกคนหน้าหงิกหน้างอ ยกความผิดให้เขาคนเดียว“โอ๋ ๆ ไม่เอา ไม่งอแงนะครับ”“เอยไม่ใช่เด็กนะคะ เอะอะก็งอแง ๆ อยู่นั่นแหละ”“ก็มันเหมาะกับน้องเอยนี่ครับ ทั้งงอแงทั้งขี้แย แต่น่ารักน่าเอ็นดูไปหมด” คนพูดยิ้มไปถึงดวงตา พรธีราเลยนั่งตัวบิดด้วยความอายอยู่บนเตียง“คุณแม่เชื่อเหรอที่น้องเอยบอกไปเมื่อกี้นี้”“ไม่รู้สิคะ ได้ยินเสียงถอนหายใจเบา ๆ ก่อนวางสายด้วย”“เชื่อก็แปลกแล้ว พี่คงต้องหลบหน้าไปบ้านน้องเอยสักพักแล้วล่ะ” คำพูดกึ่งเล่นกึ่งจริงของเขา ทำให้หญิงสาวนึกระแวงขึ้นมา“อย่ามองพี่แบบนั้นสิครับ พี่ไม่ได้คิดชิ่ง แค่กลับไปตั้งหลักที่บ้านก่อน” เขารีบบอกเพราะหญิงสาวเริ่มมองเขาแบบไม่มั่นใจ เพิ่งเรียกศรัทธากลับมาได้ นวินไม่อยากให้พรธีราระแวงเขาอีกแล้ว“ไม่เชื่อพี่เหรอครับน้องเอย” นวินลุกขึ้นจากเก้าอี้
ตอนที่ : 41 ตอนพิเศษ 2 “ขอบคุณครับ ว่าแต่อาหารกินกันที่ไหนครับ” “ครัวของเราเปิดถึงสี่ทุ่มค่ะ โทรสั่งมากินตรงระเบียงหน้าสระว่ายน้ำก็ได้นะคะ หรืออยากจะไปกินที่ร้านก็ได้ เบอร์โทรวางไว้ตรงโทรศัพท์ค่ะ” “ขอบคุณครับ” พนักงานเดินจากไปแล้ว นวินก็เดินไปล็อกประตูห้อง พร้อมกับมองหาคนที่เดินเข้ามาก่อนหน้าแล้ว พรธีราเปิดระเบียงออกไปนั่งชมความสวยงามของสระว่ายน้ำ ที่ตัดกับวิวป่าเขาด้านหน้า ห้องพักเขาแทบจะอยู่ติดกับไหล่เขาชันเลยก็ว่าได้ ดีที่มีอะไรรั้วกั้นไว้ด้านหน้าสระว่ายน้ำ “อากาศหลังฝนตกดีมากเลยค่ะพี่กันต์” คนที่นั่งบนเก้าอี้หวายตัวกลมหันมามองนวิน ซึ่งเปิดบานเลื่อนมานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเธอ “น้องเอยไม่หิวเหรอครับ พี่เริ่มหิวแล้วนะเนี่ย ตั้งแต่ปั่นจักรยาน ก็ยังไม่ได้กินข้าวเย็นกันเลยนะครับ มัวแต่ขับรถไปขับรถมาอยู่นี่” คนพูดถือเมนูอาหารออกมาด้วย “หิวแล้วค่ะ ไหนขอดูเมนูหน่อยว่ามีอะไร” “สรุปเราสั่งมากินในห้องกันดีกว่าเนอะน้องเอย พี่ขี้เกียจออกไปที่ร้านอาหาร” “ค่ะ” “หืม ว่านอนสอนง่าย
ตอนที่ : 40 ตอนพิเศษตอนพิเศษ ทั้งคู่ปั่นจักรยานรอบอ่างเก็บน้ำไปจนครบรอบ ถึงนำจักรยานไปคืนที่ร้านเช่า นวินซื้อน้ำมะพร้าวเป็นลูกจากร้านค้าแถวนั้น ให้หญิงสาวดื่มคลายกระหาย ทั้งสองต่างนั่งพักดื่มน้ำมะพร้าวให้หายเหนื่อย “ข้อความนั่นมีอะไรดีเหรอครับน้องเอย เห็นยิ้มเล็กยิ้มน้อย มาตลอดทางที่ปั่นจักรยานเลย” ชายหนุ่มอดสงสัยไม่ได้ แก้มของพรธีรานั้นพองจนแทบปริเลยตั้งแต่ตอนนั้น “ไม่มีอะไรสักหน่อย” “เฮ้ น้องเอยอย่ามีความลับกับพี่สิครับ” “แล้วพี่กันต์ล่ะคะมีความลับอะไรกับเอยหรือเปล่า” “ไม่มี ไม่มีเลยครับน้องเอย” คนตอบส่ายหน้าเร็ว ๆ “จริงนะคะ” “จริงสิครับ พี่จะโกหกน้องเอยทำไม” ทั้งคู่นั่งอมยิ้มให้กัน โดยที่ต่างคนต่างคิดว่าตัวเองเก็บความลับได้มิด ถึงนวินไม่พูดออกมาตรง ๆ พรธีรากลับรู้สึกว่าหัวใจของเธอพองโตขึ้น จนแทบจะหลุดออกมานอกอก ผู้ชายคนนี้ทำให้เธอรู้สึกแตกสลายมาแล้วหนหนึ่ง ครั้งนี้เขากลับทำให้เธอรู้สึก เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ทั้งรักทั้งชังมันให้ความรู้สึกแบบนี้นี่เอง “เสร็จจากนี