4
บอลเห็นเหตุ
เสียงกดกริ่งดังขึ้นในช่วงสายรุ้งพรายเป็นคนเดินไปเปิดประตูให้ พบผู้ชายคนหนึ่งจับมือเด็กชายตัวป้อมยืนอยู่หน้าบ้าน หญิงสาวพิจารณาผู้ชายคนตรงหน้าอีกครั้งยังไงเธอก็ไม่เคยรู้จักเขามาก่อนอย่างแน่นอน
“มาหาใครคะ”
“เอ่อ ผมมาหาน้าอำไพครับพอดีว่าจะแวะมารบกวนฝากน้อง ฟรังก์ไว้ครับ” คนพูดมองไปยังเด็กน้อยที่ยืนอยู่ด้านข้าง
“ฝากเด็ก” รุ้งพรายมองเด็กชายตัวป้อมกับลูกบอลในมือแล้วก็คิ้วขมวดมุ่น
“มาแล้วเหรอคะ เข้ามาเลยค่ะคุณทักษ์น้องฟรังก์” นางอำไพออกมาทันได้เห็นสองพ่อลูกเข้า จึงได้เชื้อเชิญให้เข้ามาภายในบ้าน
“ครับ ผมฝากไว้ทั้งวันเลยนะครับน้าอำไพ พอดีว่ามีธุระที่ต้องทำด่วนที่บริษัท” ดูคนเป็นพ่อจะรีบไปทำธุระจริง ๆ
“ได้ค่ะ รับรองจะดูแลอย่างดีเลยค่ะ นี่รุ้งพรายลูกสาวฉันเองค่ะ รุ้งนี่คุณทักษ์ดนัยเพื่อนบ้านเรานี่เอง แม่รับเลี้ยงน้องฟรังก์ให้ด้วย”
“อ๋อ รับดูแลเด็กด้วย สวัสดีค่ะคุณทักษ์” รุ้งพรายพยักหน้าให้มารดาก่อนหันมายกมือไหว้ทักษ์ดนัยอย่างเป็นทางการ
“ครับ งั้นผมไปก่อนนะครับ” ทักษ์ดนัยพ่อม่ายวัยสามสิบหกปียกมือรับไหว้ ก่อนจะเดินออกจากบ้านไปอย่างเร่งรีบ
“แม่นี่มันอะไรกันคะ” รุ้งพรายหันมามองมารดาแล้วก็เด็กชายตัวน้อยแบบคนหนักใจแทน
“ก็บอกแล้วไงว่าแม่รับจ้างทำทุกอย่างนั่นแหละ คุณทักษ์บ้านเขาอยู่ข้าง ๆ เรานี่เองลูก หลังนี้ไง” นางอำไพชี้นิ้วไปบ้านหลังที่ติดกันฝั่งซ้ายมือ
“บ้านหลังนี้เป็นของยายทองสุขไม่ใช่เหรอแม่”
“โอย ยายทองสุขเขาขายไปหลายปีแล้ว คุณทักษ์เขาซื้อต่ออยู่กับเมีย แต่เมียเขาบุญน้อยตายไปได้สามปีแล้ว กลายเป็นพ่อม่ายเนื้อหอมแถวนี้ไปเลย”
“หล่อแบบนี้ก็คงเนื้อหอมจริงอย่างที่แม่ว่า แต่แม่ไม่เหนื่อยเหรอคะเลี้ยงเด็กแบบนี้ รุ้งเคยเลี้ยงน้ำพุประสาทจะกินแต่ละวัน ทั้งซนทั้งดื้อ”
“แบบนี้รุ้งก็มีประสบการณ์เลี้ยงน้องมาก่อน น้องน้ำพุก็คงอายุห้าหกขวบไล่ ๆ กับน้องฟรังก์นี่ ดีเลยได้ช่วยแม่ดูแลน้องกัน แม่จะได้ไม่เหนื่อยไง” นางอำไพเดินมาจูงมือเด็กชายตัวป้อมมืออีกข้างก็โอบไหล่ลูกสาวพากันเดินเข้าไปในบ้านพร้อม ๆ กัน
“เอาล่ะน้องฟรังก์นี่พี่รุ้งนะลูกสวัสดีพี่รุ้งหรือยัง”
“สวัสดีครับพี่รุ้ง” เด็กชายตัวป้อมยกมือขึ้นไหว้รุ้งพราย ทั้งน่ารักน่าเอ็นดู โดยเฉพาะผมหน้าม้าสั้นเต่อไม่เสมอกันตรงหน้าผาก
“เรียกพี่เลยเหรอแม่”
“ไม่เป็นไรหรอก หรืออยากเป็นน้า”
“พี่ดีแล้วล่ะค่ะ” หญิงสาวยิ้มรับอย่างอาย ๆ โน้มตัวลงต่ำแล้วหยิกแก้มของน้องฟรังก์เบา ๆ
“แก้มยุ้ยมากท่าทางพ่อจะเลี้ยงดีนะเรา”
“ครับผม พ่อชอบสั่งไก่ให้กิน” เด็กช่างพูดก็ยิ้มแก้มแทบปริ ดวงตากลมโตมองรุ้งพรายอย่างสนใจ
“สั่งไก่ ?” ร้านบริการส่งไก่ถึงบ้านคงมีไม่กี่ร้าน รุ้งพรายยิ้มแล้วหันไปมองหน้ามารดาเป็นเชิงคำถาม
“ก็พ่อม่ายน่ะลูกจะมีเวลาที่ไหนทำกับข้าว ว่าแต่ฟรังก์กินข้าวมาหรือยังครับ”
“ยังไม่ได้กินเลยครับ”
“แม่นี่อย่าบอกนะว่ามากินที่นี่เลย”
“คุณทักษ์แกให้ค่าจ้างรวมค่ากินของน้องฟรังก์ด้วยรุ้ง แม่ก็เห็นว่าคนกันเองก็ช่วยดูแลกันไป ก่อนหน้าแม่อยู่คนเดียวมันค่อนข้างเหงา” นางอำไพพูดมาถึงจุดนี้คนเป็นลูกก็เข้าใจในทันที
“โอเคค่ะ แม่ทำอะไรรุ้งทำด้วยก็แล้วกัน วันนี้จะช่วยเลี้ยงน้อง ฟรังก์เองค่ะ ก่อนอื่นหาของหม่ำกันก่อนนะครับน้องฟรังก์”
“ครับพี่รุ้ง”
หญิงสาวจัดการหาข้าวให้น้องฟรังก์กินเรียบร้อยแล้ว ก็ชวนเด็กน้อยเล่นเตะบอลที่เจ้าตัวถือมาด้วย นางอำไพเลยถือโอกาสนี้ไปซื้อของมาทำขนมเพิ่มในตลาดละแวกใกล้บ้าน
“น้องฟรังก์ชอบเตะบอลนะรุ้ง หน้าบ้านเราลานกว้างพอเล่นได้ อยู่กับแม่แม่เล่นไม่ค่อยได้แก่แล้ว” คนเป็นแม่บอกลูกสาวก่อนจะเดินออกจากบ้านไป รุ้งพรายอยากไปส่งแต่นางอำไพไม่ยอมพาเด็กไปตลาดด้วยจะร้อนอบอ้าวเสียเปล่า ๆ เลือกที่จะนั่งแท็กซี่ไปเหมือนทุกวัน
“แม่ไปนะ”
“นั่งรถดี ๆ นะคะ” รุ้งพรายส่งมารดาเสร็จแล้วก็เดินกลับเข้ามาหาน้องฟรังก์
“น้องฟรังก์เตะบอลเก่งไหม” หญิงสาวแสร้งถามลองเชิง น้อง ฟรังก์บิดตัวป้อม ๆ ไปมาก่อนตอบแบบเขินอาย
“เก่งครับ”
“แหม ไม่ถ่อมตัวเลยนะเรา งั้นมาประลองฝีเท้ากับพี่รุ้งดีกว่า” รุ้งพรายเป็นฝ่ายเริ่มเตะบอลเบา ๆ ให้เด็กน้อย จากนั้นน้องฟรังก์ก็เตะคืนมาสุดแรงของเด็กคนหนึ่ง
ทั้งคู่ผลัดกันเตะบอลรับส่งไปมาอยู่เกือบสิบห้านาที เหมือนรุ้งพรายจะเริ่มเบื่อ เลยแกล้งเตะบอลโด่ง ๆ ให้น้องฟรังก์ใช้ศีรษะรับบอลบ้าง เตะไปเตะมาเธอคงจะเผลอออกแรงมากไปลูกบอลเลยลอยข้ามรั้วไปบ้านหลังขวามือแทน
“ตายละน้องฟรังก์”
“บอลหายไปเลยพี่รุ้ง” น้องฟรังก์ยืนมองกำแพงตาปริบ ๆ
รุ้งพรายเกิดรู้สึกผิดขึ้นมาที่ทำของเล่นของน้องฟรังก์ลอยหายวับไปกับขาจะทำไงดีบ้านโน้นมีคนอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ หญิงสาวลองเดินไปหน้าบ้านปรากฏว่าบ้านเงียบกริบเหมือนไม่มีคนอยู่ในนั้น ยิ่งโรงรถก็ยิ่งไม่เห็นรถจอดอยู่สักคัน เลยพาน้องฟรังก์เดินกลับมาที่บ้านตัวเอง
“เอางี้นะน้องฟรังก์พี่รุ้งจะปีนกำแพงขึ้นไปเก็บลูกบอลให้ น้อง ฟรังก์ยืนรอพี่รุ้งอยู่ตรงนี้นะครับ ห้ามไปไหนเด็ดขาดนะ” หญิงสาวกำชับพร้อมทั้งปิดประตูหน้าบ้านให้เรียบร้อย
“ได้ครับ” คนอยากเล่นบอลต่อเลยรับปากอย่างว่าง่าย
รุ้งพรายก็ลากเก้าอี้มาตั้งอยู่ข้างกำแพงพอปีนขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ ก็สามารถมองเห็นบริเวณภายในบ้านของคริษฐ์ได้ เห็นลูกบอลของน้อง ฟรังก์อยู่ไม่ไกลนัก ไม่ยากเกินความสามารถของเธอแน่ เพราะกำแพงบ้านของคริษฐ์เป็นแบบบล็อกสำเร็จรูปมีคานยาวแนวนอนด้านบน ไม่ใช่เหล็กเส้นที่มีปลายแหลมคมเหมือนบ้านหลังอื่น หญิงสาววาดขาขึ้นไปบนกำแพงแล้วเอี้ยวตัวขึ้นไปนั่งอยู่บนนั้น หันมามองน้องฟรังก์แล้วยกนิ้วโป้งยิ้มให้
“รอพี่ตรงนี้นะน้องฟรังก์อย่าซนล่ะ” กำชับเด็กน้อยอีกรอบด้วยความเป็นห่วง
“ครับพี่รุ้ง”
ตุบ !
ตอนที่ : 74 วันของเรา 5 (จบ)คริษฐ์ขานเหมือนไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้มือของเขากำลังล้วงเข้าไปในกระโปรงผ้าชีฟองสีครีมของภรรยา ค่อย ๆ ดึงชั้นในผ้าซาตินสีดำออกจากโคนขา อาการเบาหวิวแสนสะท้านส่งผลให้รุ้งพรายหนีบท่อนขาเข้าหากันแน่ แต่อีกคนใช่ว่าจะยอมให้ทำแบบนั้นได้ง่ายดาย คริษฐ์ใช้สองมือจับที่ต้นขาแล้วดันแยกให้ออกจากกัน “อ๊ะ !” เหมือนถูกจับเปิดอ้าทั้งที่มีกระโปรงคลุมอยู่ ทว่าผ้าบางเบานั่นก็ร่นขึ้นอยู่เหนือสะโพก ยิ่งเขาดันต้นขาให้สูงขึ้นทุกอย่างก็ยิ่งเปิดอ้าและเปลือยเปล่าต่อหน้าต่อตาของเขา รุ้งพรายไม่เคยมั่นใจตั้งแต่หลังคลอดลูก ทุกครั้งที่ถูกร่วมรักเธอก็มักจะกล้า ๆ กลัว ๆ “พี่คริษฐ์ !” หญิงสาวสะบัดหน้าไปมาตามแรงขยับจากปลายนิ้วของเขา “ยังไม่ชินอีกเหรอรุ้งทำไมต้องอายพี่ขนาดนี้ด้วยหืม” “รุ้งยังอ้วนอยู่เลยนะคะพี่คริษฐ์” “อ้วน ! ไปเอาความคิดนี้มาจากไหนกันรุ้ง พี่ว่านี่มันหุ่นนางฟ้าชัด ๆ ดูสิอวบอิ่มจับตรงไหนก็เต็มไม้เต็มมือไปหมด” ไม่เพียงแค่พูดคริษฐ์ยังจับหมุบหมับอีกด้วย “พี่คริษฐ์พูดจริงเหรอคะ” “จะโกหกทำไม แบบนี้เซ็กซี่มากรู้ไหม ไ
ตอนที่ : 73 วันของเรา 4 “ก็มีบ้างค่ะ แย้มยังไม่ได้รู้ไม่ได้เห็นโลกใบนี้อีกตั้งหลายอย่าง จู่ ๆ จะให้มาเป็นแม่คนมันก็แปลก ๆ สักหน่อยค่ะ” “นี่จะบอกว่าฉันตัดอนาคตเธอเหรอแย้ม” เตชัสตัดพ้อภรรยา “ไม่ใช่ค่ะ คุณเตก็รู้ว่าก่อนหน้าแย้มก็ เอ่อ” แย้มรีบปฏิเสธแต่ก็ตะกุกตะกักในตอนท้ายประโยค “เอ่อ อะไร” คนได้ใจเขี่ยแก้มแย้มเล่น “ก็รู้ว่าแย้มมีใจให้ก่อนหน้าแล้วใช่ไหมคะ ในตอนนั้นถึงได้กล้าเอ่อ ปล้ำ” ถามเขาแล้วก็หลบสายตาที่จ้องหยาดเยิ้มกลับมาไปอีกทาง “ใช่ ฉันรู้ฉันถึงกล้าทำยังไงล่ะ”เตชัสยิ้มบาง ๆ เพราะเขาหงุดหงิดกับเรื่องของพี่ชายที่ไปหมั้นกับรุ้งพราย เตชัสรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ใช่คนสำคัญมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งรู้ว่าพวกเขาได้หมั้นกันความรู้สึกของเขาก็เหมือนเด็กขี้อิจฉา ที่ไม่เคยได้ของเล่นชิ้นถูกใจสักที เตชัสไม่เคยบอกใครเรื่องที่เขาอยากให้รุ้งพรายมาสนใจบ้าง มันเป็นความริษยาวัยเด็กที่พอโตขึ้นมาก็อยากจะได้ความรู้สึกพิเศษแบบนั้น แต่รุ้งพรายก็ทำให้เขารู้สึกไร้ค่ามาโดยตลอด ในวันนั้นเขาเลยอยากปลดปล่อยความรู้สึกพวกนั้นทิ้งไป และแย้มก็คือคนที่อยู่ตรงนั้นพอ
ตอนที่ : 72 วันของเรา 3 “น่ารักที่สุดเลย รอบนี้ครั้งสุดท้ายแล้วจริง ๆ พี่รับรอง” เขาฉีกยิ้มจนเห็นฟันขาวเรียงสะอาด รุ้งพรายพลิกตัวหันหน้าเข้าหาเขา แล้วโน้มหน้าเข้าไปจูบแก้มสากด้านขวาเบา ๆ “รุ้งรักพี่คริษฐ์ค่ะ ไปไหนไปกัน” ได้ไฟเขียวแบบนี้สามีของเธอก็เดินหน้าต่อในอ่างอาบน้ำ กว่าเขาจะถึงฝั่งฝันแสนเร่าร้อนรุ้งพรายก็แทบสลบคาอกของสามี รู้ตัวอีกทีก็ถูกช้อนอุ้มขึ้นมาวางบนเตียงนอน สภาพของเธอคงไม่ไหวแล้วจริง ๆ สามีจึงจัดการสวมชุดนอนให้ พอได้ซุกอกอุ่น ๆ ของเขา รุ้งพรายก็ไม่อยากเปิดเปลือกตาขึ้นมาอีกเลย ในความกึ่งหลับกึ่งตื่นเธอกลับได้ยินเสียงนุ่ม ๆ ของเขา กระซิบแผ่วเบาตรงใบหู “สุดท้ายพี่ก็หนีรุ้งไม่พ้น” ในความมึนงงเธอขมวดคิ้วขึ้นตามความรู้สึกสงสัย“และพี่ก็รักรุ้งจนได้” คราวนี้คนใกล้จะหลับสนิทถึงกับเผยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า ได้รางวัลพิเศษเป็นการหอมแก้มซ้ายขวาจากสามี ค่ำคืนนี้เธอจะได้นอนหลับอย่างมีความสุข ในอ้อมอกของคนที่เธอรักสุดหัวใจ“รุ้งก็รักพี่คริษฐ์ค่ะ” เธอตอบเขาทั้งที่หลับตาคริษฐ์เขี่ยแก้มของภรรยาเบา ๆ รอยยิ้มของเขาแต่งแต้มเต็มใบหน้า แม้ตอนหลับจิตใต้สำ
ตอนที่ : 71 วันของเรา 2 “พี่คริษฐ์ !” คราวนี้หญิงสาวผวาเข้ากอดคอเข้าแน่น หนีบต้นขาเข้าหากันแน่นไม่ยอมปล่อย “ไม่เอาน่าคนดีของพี่ ไม่งอแงสิ” “รุ้งไม่ได้งอแงนะ แต่ว่า แต่...” “พี่ขอนะ” “คะ” รุ้งพรายยังงงแต่เขาเลื่อนชั้นในออกจากสะโพกของเธอ ใช้ปลายเท้าเขี่ยทิ้งลงข้างเตียง ความเย็นโล่งหวิวสัมผัสเข้ากับความเป็นชายของเขา “รุ้ง” คริษฐ์เรียกคนที่แทบจะตัวแข็งไปอีกรอบ “คะ” หนนี้รุ้งพรายไม่กล้าสู้หน้าเขา เธอรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันที “อย่ากลัวพี่สิ ไหนว่ารักพี่ไง” “ก็รักค่ะ” ‘แต่ก็กลัว’ “รักแล้วทำไมถึงทำท่าไม่มั่นใจพี่แบบนี้ล่ะ” คริษฐ์เห็นหน้าเจ้าสาวของตัวเองแล้วพลอยหัวใจอิ่มเอมไปด้วย ทั้งสวยทั้งนุ่มนิ่มไปทั้งตัว ยัยเด็กจอมตื๊อในอดีตคนนั้นทำเขาใจสะท้านได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือท่าทีเอียงอายแกมไร้เดียงสายิ่งทำให้เขาสุขใจขึ้นไปอีก ก้มลงจูบปิดปากอิ่มอย่างดูดดื่มและเรียกร้อง ฝ่ามือก็ขยำทรวงอวบอัดทั้งสองข้างอย่างเท่าเทียม กายท่อนล่างก็เสียดสีให้เกิดหยาดน้ำหวานหล่อเลี้ยง และเมื่อทุกอย่างพรั่งพร้อมแล้วคริษฐ์ก
ตอนที่ : 70 วันของเรา26วันของเรา คืนเข้าหอของคริษฐ์กับรุ้งพราย หลังจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้ให้พรและส่งตัวเข้าหอเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นเวลาของคู่บ่าวสาวคริษฐ์มองดูเตียงนอนสีชมพูระบายลูกไม้สวยงาม เขาสั่งงดโรยดอกกุหลาบบนเตียงเพราะไม่อยากเสียเวลาปัดออก เจ้าสาวคนงามก็ยังนั่งนิ่งอยู่บนเตียง วันนี้รุ้งพรายสวยจนเขาตะลึง ชุดเจ้าสาวด้านหน้าดูเรียบง่ายเป็นผ้าซาตินแขนกุด ทว่าเปิดเปลือยด้านหลังไปถึงเอว มีโบผูกอันใหญ่ด้านหลังกระโปรงที่ทิ้งชายลงลากพื้นแลดูเรียบหรู “เหนื่อยไหมรุ้ง” เจ้าบ่าวเดินมานั่งลงด้านข้างกับเจ้าสาว “เหนื่อยค่ะ ปวดขาไปหมดแล้ว” รุ้งพรายถลกกระโปรงขึ้นเพื่อดูเท้าของตัวเอง คริษฐ์ถึงกับคุกเข่าลงกับพื้นห้อง “พี่คริษฐ์ทำอะไรคะ” เจ้าสาวร้องเสียงหลงเมื่อเจ้าบ่าวยกเท้าของเธอขึ้นมาวางบนหน้าขาของเขา “พี่จะดูว่าเท้าเป็นแผลไหม ใส่รองเท้าใหม่อาจไม่ชิน” เอ่ยแล้วก็หันเท้าของเจ้าสาวเพื่อดูบริเวณส้น พบว่ามีรอยถลอกจนแดงไปทั้งสองข้าง “นี่แค่ญาติพี่น้องแล้วก็จัดในสวนบ้านพี่เองนะ ถ้าเป็นในโรงแรมอาจจะหนักกว่านี้” คริษฐ์บอกแล้วก็อดสงสารเจ้าสาวไม่ได
ตอนที่ : 69 ทางออกของทุกคน 3 “ก็ให้แย้มมานั่งเป็นเพื่อนจะไปอาบน้ำทำไมกันคะ” แย้มก็ทำหน้าทะเล้นใส่เขาบ้าง “ไม่ต้องมาย้อนฉันเลย ไปเดี๋ยวนี้” “ไม่ค่ะ” “ถ้าไม่ไปฉันจะเป็นคนพาไปเองนะ อ้อ แล้วฉันก็จะอาบเป็นเพื่อนเธอด้วย” อีกคนลุกขึ้นโดยอัตโนมัติ ไม่ดีแน่หากปล่อยให้เขาเข้าห้องอาบน้ำด้วย “ไม่ต้องค่ะ แย้มอาบคนเดียวดีกว่า” หญิงสาวแทบจะวิ่งเข้าห้องน้ำไป โดยมีเสียงหัวเราะของเตชัสไล่หลังไปติด ๆ กลับออกมาอีกครั้งเขาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม แย้มสวมเสื้อยืดสีขาวตัวยาวกับกางเกงขาสั้นเอวยืดแบบที่เตชัสชอบให้สวมใส่ เตชัสเห็นแล้วก็อมยิ้มพร้อมกับชี้ลงที่หน้าตักของตัวเอง “มานั่งนี่เลย” แย้มทำหน้างอใส่เล็กน้อยแต่ก็ยอมเดินไปทิ้งสะโพกลงนั่งบนตักของเขาอย่างว่าง่าย “หอม ๆ แบบนี้ค่อยน่ากอดหน่อย” คนพูดซุกหน้าลงตรงซอกคอของแย้มสูดกลิ่นกายสาวเข้าเต็มปอด “แย้มไม่ได้ใช้น้ำหอมแบบสาว ๆ คนอื่นของคุณเต ไม่ได้น่ากอดขนาดนั้นหรอกค่ะ” “อยู่กับฉันแค่สองคนทำไมต้องพูดถึงคนอื่นนะแย้ม เสียอารมณ์หมด” เตชัสตำหนิหญิงสาวเล็กน้อย นั่นทำให้แย้