บทที่ 02
พอเดินเข้ามาในบ้าน ฉันก็สัมผัสได้ทันทีว่าบ้านหลังนี้ ไม่ธรรมดา ใหญ่โต อลังการชนิดที่โรงแรมห้าดาวยังต้องหลบให้ พวกแม่บ้านเดินไปมาดูวุ่นวาย แต่ก็ยังยกมือไหว้ฉันด้วยความสุภาพ “ห้องที่ฉันให้เตรียมไว้พร้อมแล้วใช่ไหม?” น้ำถามแม่บ้าน “เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วค่ะคุณหนู” “นี่คือคุณชบา เพื่อนฉันเอง เธอจะมาเป็นคนดูแลเฮียแม็ก” “สวัสดีค่ะ คุณชบา” “ไม่ต้องเรียกคุณก็ได้ เรียกชบาเฉยๆ ก็พอค่ะ สบายๆ” พวกแม่บ้านยิ้มรับก่อนจะช่วยถือของขึ้นไปเก็บบนห้อง ส่วนฉันก็โดนน้ำลากแขนพาไปข้างบนทันที “เดี๋ยวนะน้ำ... พ่อแม่เขาไม่อยู่บ้านเหรอ?” “อืม คุณลุงกับคุณป้าไปดูงานที่ต่างจังหวัด อีกสองอาทิตย์ถึงจะกลับ” “อ๋อ... โอเค” น้ำพาฉันมายืนหน้าห้องหนึ่งประตูไม้สักสีเข้ม บรรยากาศหน้าห้องนี่คือไม่ใช่แค่เงียบ แต่มันกดดันสุดๆ “นี่แหละ ห้องเฮียแม็ก” เธอกำลังจะเปิดประตู แต่ยังไม่ทันที่มือเธอจะจับลูกบิด... ตุบ! เพล้ง!! เพล้งงง!!! เสียงของปาอะไรบางอย่างกระแทกกำแพงดังลั่น “กูบอกว่าไม่กินก็ไม่กินสิวะ!! ออกไป!!!” เสียงตะโกนข้างในห้องดังก้อง เสียงผู้ชายทุ้มต่ำแต่แฝงไปด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด “คุณแม็ก... ทานอะไรสักหน่อยเถอะนะคะ” แม่บ้านเสียงสั่น “มึงจะออกไปดีๆ หรือจะให้กูยิงมึง” “ยะ...ยิงเลยเหรอคะ” "__"เฮือก.... ฉันแทบจะฉี่ราดที่ได้ยินแบบนั้น แกร๊ก... ประตูถูกเปิดออก แม่บ้านเดินออกมาด้วยใบหน้าซีดเผือด...มีเลือดไหลซึมตรงหน้าผากด้วย!! “น้ำ ฉันว่า..” ฉันเริ่มถอยหลังแบบอัตโนมัติ ตัวเย็นเฉียบจนไม่แน่ใจว่าเพราะตกใจหรือแอร์ “ป่ะ! เข้าไปข้างในกัน” น้ำดึงแขนฉัน “เดี๋ยวๆ ฉันว่า...ฉันขอลาออกดีกว่าน้ำ เดี๋ยวฉันเอาเงินคืนให้แกก็ได้!” “ไม่ได้! แกเซ็นสัญญากับฉันแล้ว เข้าไปเดี๋ยวนี้” “ไม่ไป! ไม่เอา!!” ฉันส่ายหน้ารัวๆ “มา! ไม่ต้องกลัว มีฉันอยู่ด้วย!”พูดจบน้ำก็ลากฉันเข้าไปในห้อง...ทันทีที่เท้าเหยียบเข้ามาในห้อง ฉันรู้เลยว่าที่นี่คือดงเสือของแท้!! เสียงขวดเหล้าพุ่งเฉียดหัวไปแบบเส้นยางแดงผ่าแปด ฟิ้ววว!!! เพล้งงง!!! “กูบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าเข้ามาอีก!!! ออกไป!!!” เสียงตะโกนดังก้อง เขายืนหันหลังให้พวกเรา ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำ พับแขนเสื้อไว้ครึ่งแขน ตัวสูงใหญ่ กล้ามแน่นๆ ขึ้นเป็นลอนให้เห็นชัดแม้จะอยู่ในเสื้อเชิ้ต เส้นผมสีเข้มยุ่งเหยิงนิดๆ เหมือนคนที่ไม่ได้หลับไม่นอนมาหลายวัน น้ำถอนหายใจแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนเป็นแข็งขึ้น “เฮียแม็ก... นี่น้ำเอง” “ออกไป ฉันไม่อยากเจอใคร” เสียงเขาเย็นเยียบ แต่...ฉันสิ ตัวเย็นกว่า! “ฉันมีคนจะมาแนะนำ” น้ำพูดเรียบๆ “เธอจะมาเป็นคนดูแลเฮีย” เขาหันหน้ามาอย่างช้าๆ จังหวะนั้น...ใจฉันแทบหยุดเต้น ตึก…ตึก…ตึก… พอเห็นหน้าเขาชัดๆ เท่านั้นแหละ…หัวใจฉันแทบวาย หล่อชิบหาย! แต่น่ากลัวชิบหายยิ่งกว่า!! ดวงตาเรียวคมจ้องมาที่ฉันเหมือนจะเฉือนเนื้อฉันเป็นชิ้นๆ หน้าตาเขาเคร่งเครียดจนแทบไม่เห็นแววของมนุษย์ “ออกไป!!!” ฉันสะดุ้งโหยง พร้อมกับหมุนตัวกลับรีบวิ่งออกจากห้อง พวกเราทั้งคู่วิ่งออกจากห้องแบบไม่หันกลับมามองเลยด้วยซ้ำ พอออกมานอกห้องขาฉันทรุดลงกับพื้นอย่างหมดแรง “น้ำ!! ฉันไม่เอาด้วยแล้วเว้ยงานนี้!!! ขอลาออก” “ไม่ได้!” น้ำพูดเสียงจริงจัง “ในสัญญาระบุไว้ว่าห้ามลาออกทุกกรณีจนกว่าจะครบกำหนด ถ้าแกถอนตัว ต้องจ่ายเงิน 10 ล้าน” “ห๊า!!!”เท่านั้นแหละฉันล้มตัวลงนอนกับพื้นอีกครั้ง แล้วทุกอย่างมืดไปทันที... หลายชั่วโมงต่อมา… “วันแรกคุณชบาก็เป็นลมซะแล้ว แบบนี้จะไหวไหมคะคุณน้ำ?” “เอาเถอะ ยังไงพวกเราก็ต้องช่วยชบาดูแลเฮียแม็กแล้วล่ะ ฉันเชื่อว่าเธอต้องทำได้” ฉันเริ่มรู้สึกตัว ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาได้ยินเสียงคนพูดกันอยู่รอบๆ ตัว “ชบา! แกเป็นยังไงบ้าง?” น้ำถามพลางประคองฉันให้ลุกขึ้นนั่งรอบตัวฉันเต็มไปด้วยแม่บ้านที่ถือยาดมกันคนละอัน “น้ำ... ฉันขอยกเลิกสัญญาได้ไหม ฉันคงไม่รอดแน่ๆ…” “ไม่ได้ แกเซ็นสัญญาแล้ว เอกสารนั่นคุณลุงสุชาติเป็นคนเขียนขึ้นมาเอง แกจะโดนปรับสิบล้านนะชบา ฉันก็เตือนแกแล้วว่าให้อ่านก่อนเซ็น”ฉันกุมขมับ “โอ๊ย... ฉันก็ผิดเอง ไม่อ่านให้ดี เห็นว่าเป็นเพื่อนกันเลยไว้ใจ เงินตั้งสิบล้าน ฉันไม่มีปัญญาหาให้หรอก… สรุปคือ...ฉันต้องอยู่ที่นี่จริงๆ สินะ?” “ใช่ แกต้องสู้!” ฉันถอนหายใจยาว “โอเค...ในเมื่อหนีไม่ได้ ก็สู้แม่งนี่แหละ” “แล้ว...น้ำ แกช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม ว่าทำไมพี่ชายแกถึงได้กลายเป็นแบบนี้…” น้ำเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจ “เฮียแม็กเขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนนะ แต่ก่อนเขาเป็นคนขี้เล่น ใจดี รักเพื่อนฝูง ถึงจะเป็นมาเฟียแต่ก็ไม่เคยทำร้ายใครเปล่าๆ... จนกระทั่ง...วันนั้น” “วันไหน?” “หนูนิด...แฟนเก่าของเฮีย เธอเสียชีวิตต้นปีนี้เอง อุบัติเหตุรถชน วันนั้นเธอกับเฮียทะเลาะกันอย่างหนัก...หลังจากนั้นเฮียก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน” ฉันนั่งฟังเงียบๆ พอได้รู้เรื่องราว...หัวใจก็ห่อเหี่ยวไปกับเขานิดๆแต่ถึงยังไงฉันก็สงสารตัวเองมากกว่า...ตอนนี้@โรงพยาบาลหลังจากฉันไปขอยากับหมอเสร็จ พอกลับมาถึงห้องก็เห็นคุณแม็กยืนเหม่ออยู่ที่ระเบียง เขาเหลือบตามามองฉันครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหน้ากลับไปทางเดิม ส่วนฉันก็แค่ถอนหายใจแล้วเดินไปนั่งที่โซฟา หยิบยาขึ้นมาจะทาแผลที่แขน“โอ๊ะ! แสบชะมัด...”พึ่บ!อยู่ๆ ยาก็หายไปจากมือฉันเฉยเลย และแน่นอนว่าไปอยู่ในมืออีตาเย็นชานั่นแทน“นี่คุณ! เอายาคืนมานะ ฉันไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับคุณตอนนี้หรอกนะ!”เขาไม่พูดอะไร แต่กลับนั่งลงยองๆ ตรงหน้า ดึงแขนฉันไปดูก่อนจะหยิบกระดาษทิชชู่ข้างๆ ขึ้นมา“คุณจะทำอะไรน่ะ?”เฮียแม็กเงยหน้ามองฉันนิดหนึ่ง แต่ไม่ตอบ จากนั้นก็ใช้ทิชชู่ค่อยๆ ซับที่ตุ่มพองบนแขนเบาๆ บีบเอาน้ำใสๆ ออกมา“โอ๊ย! เบาๆ หน่อยสิ เจ็บนะ!”“แค่นี้ทำเป็นจะตาย”พูดเสร็จก็เปิดยาทาแผลอย่างคล่องมือ ก่อนจะบรรจงทาให้ฉันจนเสร็จ แล้วลุกกลับไปนอนบนเตียงแบบไม่พูดอะไรอีก“...ขอบคุณค่ะ”“อืม”แค่นั้น แล้วเขาก็พลิกตัวหันหลังให้ฉันอีกตามเคย หึ! ขอโทษสักคำก็ไม่มี...ไอ้ผู้ชายเฮงซวย! ได้แต่ด่าในใจสิ ถ้าหลุดปากไป มีหวังได้ลงไปนอนที่พื้นอีกแน่ฉันนั่งเล่นโทรศัพท์ เปิดแชทคุยกับยัยน้ำไปเรื่อย เธอบอกว่าจะเข้ามาช่วงเย็น พร้อมพ่อแม่ของคุณ
@โรงพยาบาล – เวลา 20:00 น.ตอนนี้คุณแม็กยังหลับอยู่เวลาเขาหลับนิ่งเหมือนเจ้าชายน้ำแข็งในร่างปีศาจเขานอนแบบนี้ดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แต่ตอนตื่นนะเหรอ โอ๊ย... เหมือนยักษ์หลุดจากถ้ำ แค่สบตาก็หนาวยะเยือกไปถึงไขสันหลังแล้ว"เป็นไงบ้างวะแก เฮียเริ่มยอมแกบ้างยัง?"น้ำถามพร้อมเลิกคิ้ว เหมือนจะเดาได้อยู่แล้วว่าคำตอบคืออะไร"ยอมกับผีสิ... ฉันโดนโยนออกจากห้องวันเว้นวัน ดูข้อเท้าฉันสิ ยังไม่หายเลย!"ฉันชี้ให้ดูรอยแดงที่ยังเหลืออยู่เล็กน้อย แม้จะดีขึ้นแล้ว แต่มันก็เป็นเครื่องยืนยันความเกรี้ยวกราดของเขาได้ดี"แฮร่~ อยู่ไปนานๆ เดี๋ยวก็คุ้นเองล่ะชบา!""โอ๊ย คุ้นกับการถูกโยนเหรอ ฉันนี่กลัววันไหนจะโดนเหล็กดามทั้งตัวจริงๆ""ใจเย็นน่า! ฉันเป็นกำลังใจให้ สู้ๆ"น้ำหัวเราะขำๆ ก่อนจะขอตัวกลับ ฉันเองก็ได้แค่มองเธอเดินจากไปฌเวลา 04:00 น.“หนูนิด... หนูนิด... เฮียขอโทษ... ฮึก...”ฉันสะดุ้งตื่นเพราะเสียงครางเบาๆ คล้ายคนละเมอของคุณแม็ก เขาเรียกชื่อใครสักคนซ้ำๆ พร้อมเสียงสะอื้นที่บีบใจฉันลุกขึ้นเดินไปข้างเตียง พยายามเขย่าแขนเขาเบาๆ“คุณแม็ก... คุณแม็กคะ…”หมับ!มือเขาคว้ามือฉันไปแน่นอย่างกับกลัวฉันจะหายไป“อย่าทิ้
“ไอ้บ้าเอ๊ย! ทำคนอื่นเจ็บแล้วยังไม่รู้จักขอโทษอีก!”เสียงฉันสบถอย่างหัวเสีย ขณะที่พี่กล้วยกับป้าพรวิ่งขึ้นมาทันที“เกิดอะไรขึ้นคะ?” พี่กล้วยถาม สีหน้าเป็นห่วง“จะอะไรล่ะคะ ก็เจอมนุษย์ถ้ำไล่ออกจากห้องน่ะสิ! โชคดีนะที่เขาไม่ใช้ตีนถีบฉันออกมาแทน!” ฉันประชดเสียงสั่น พูดแล้วก็เจ็บใจจนอยากเตะประตูสักที“แล้วคุณชบาเป็นอะไรมากไหมคะ?” พี่กล้วยรีบสำรวจตัวฉัน“มีแค่ข้อเท้าเคล็ดค่ะ พอดี...เกิดเรื่องนิดหน่อย” ฉันพูดพลางกัดฟันแน่น“โธ่...คุณชบา เจ็บมากไหมคะ?” พี่กล้วยเสียงอ่อน ฉันพยักหน้าตอบเบาๆ แทนคำพูด“ยังโชคดีนะคะที่โดนแค่นี้ ปกติใครเข้าไป...หัวแตกกันออกมาทุกคนเลยค่ะ” ป้าพรพูดเสริม ฉันได้แต่ถอนหายใจแบบหมดคำจะพูด“ฉันว่าเขาควรไปบำบัดจิตมากกว่า ปล่อยให้อยู่ในสภาพแบบนี้ ไม่ไหวหรอกค่ะ!”“ไปค่ะ เดี๋ยวกล้วยพยุงลงไปข้างล่าง กล้วยจะประคบข้อเท้าให้เองนะคะ”ฉันพยักหน้ารับ แล้วปล่อยให้พี่กล้วยช่วยประคองลงไปข้างล่าง พอถึงโซฟา เธอก็เอาลูกประคบมาช่วยประคบข้อเท้าให้ฉันจนเริ่มรู้สึกดีขึ้นขณะที่ฉันนั่งพัก ใจยังหวิวอยู่ จู่ๆ คำพูดของยัยน้ำก็แว๊บขึ้นมาในหัว...> “ฉันขอร้องเถอะนะ ชบา ช่วยทำให้เฮียแม็กกลับมาเป็นเห
บทที่3หลังจากที่น้ำเล่าเรื่องของเฮียแม็กให้ฟังจนหมด นางก็ขอตัวกลับบ้าน ปล่อยให้ฉันเดินขึ้นมาดูห้องนอนตัวเองที่ดันไปอยู่ติดกับห้องของมาเฟียคลั่งเหล้าอย่างเฮียแม็กพอดิบพอดีเอาจริง ถึงเรื่องที่เขาเคยเจอจะทั้งเศร้า ทั้งสะเทือนใจ แต่ฉันก็อดรู้สึกกลัวเขาไม่ได้เลยภาพสายตาคมกริบ เย็นชาเหมือนน้ำแข็งในขั้วโลกใต้ยังชัดเจนในหัวฉันอยู่เลย… เขาจ้องหน้าฉันเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อกันยังไงยังงั้น ยิ่งบวกกับรอยสักยาวตั้งแต่ต้นคอจรดต้นแขน ถึงจะไม่ถึงขั้นน่ากลัวแบบนักเลงเถื่อน แต่ก็ทำให้ฉันอยากจะหนีกลับบ้านไปหาหมอนข้างแทนในทันทีแล้วนี่มันเรื่องบ้าอะไรอีกล่ะ ทำไมต้องให้ฉันนอนห้องติดกับเขาด้วยถ้าอยู่ดี ๆ เฮียแม็กคุมคลั่งแล้วคว้ามีดมาปาดคอฉันขึ้นมากลางดึกล่ะ!? ใครจะรับผิดชอบ!?เพล้งงง!!!"__" ฉันสะดุ้งจนขาแทบทรุดนั่งลงกับพื้น"เอาเหล้าให้กู!!! เดี๋ยวนี้!!! เอาเหล้ามา!!!"เสียงตะโกนโหด ๆ แว่วขึ้นมาจากห้องข้าง ๆ เหมือนคำสั่งจากยมทูต เสียงเขาน่ากลัวชะมัด ขนาดไม่ได้เห็นหน้าก็ทำฉันขนลุกได้แล้วฉันกลืนน้ำลายลงคอ รีบหันหลังจัดของเข้าตู้เสื้อผ้าให้เสร็จ ๆ แล้วอาบน้ำเปลี่ยนชุดลงไปข้างล่างทันที หัวใจยังเต้นไม่เป
บทที่ 02 พอเดินเข้ามาในบ้าน ฉันก็สัมผัสได้ทันทีว่าบ้านหลังนี้ ไม่ธรรมดา ใหญ่โต อลังการชนิดที่โรงแรมห้าดาวยังต้องหลบให้ พวกแม่บ้านเดินไปมาดูวุ่นวาย แต่ก็ยังยกมือไหว้ฉันด้วยความสุภาพ “ห้องที่ฉันให้เตรียมไว้พร้อมแล้วใช่ไหม?” น้ำถามแม่บ้าน “เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วค่ะคุณหนู” “นี่คือคุณชบา เพื่อนฉันเอง เธอจะมาเป็นคนดูแลเฮียแม็ก” “สวัสดีค่ะ คุณชบา” “ไม่ต้องเรียกคุณก็ได้ เรียกชบาเฉยๆ ก็พอค่ะ สบายๆ” พวกแม่บ้านยิ้มรับก่อนจะช่วยถือของขึ้นไปเก็บบนห้อง ส่วนฉันก็โดนน้ำลากแขนพาไปข้างบนทันที “เดี๋ยวนะน้ำ... พ่อแม่เขาไม่อยู่บ้านเหรอ?” “อืม คุณลุงกับคุณป้าไปดูงานที่ต่างจังหวัด อีกสองอาทิตย์ถึงจะกลับ” “อ๋อ... โอเค” น้ำพาฉันมายืนหน้าห้องหนึ่งประตูไม้สักสีเข้ม บรรยากาศหน้าห้องนี่คือไม่ใช่แค่เงียบ แต่มันกดดันสุดๆ “นี่แหละ ห้องเฮียแม็ก” เธอกำลังจะเปิดประตู แต่ยังไม่ทันที่มือเธอจะจับลูกบิด... ตุบ! เพล้ง!! เพล้งงง!!! เสียงของปาอะไรบางอย่างกระแทกกำแพงดังลั่น “กูบอกว่าไม่กินก็ไม่กินสิวะ!! ออกไป!!!” เสียงตะโกนข้างในห้องดังก้อง เสียงผู้ชายทุ้มต่ำแต่แฝงไปด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด “คุณแม็ก... ทานอะไรสัก
บทที่ 01สวัสดีค่ะ ฉันชื่อชบา อายุ 25 ปี ตอนนี้อยู่ตัวคนเดียว พ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว ฉันเลยต้องดิ้นรนทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียน โชคดีที่ยังมีผู้ใหญ่ใจดีให้ทุนการศึกษาจนฉันเรียนจบปริญญาตรีนิสัยฉันก็ง่ายๆ แบบว่าอยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ กินอะไรก็ได้ ไม่เรื่องมากตอนนี้ฉันกำลังหางานอยู่... ก็เพิ่งโดนเจ้านายเก่าไล่ออกเมื่อวานนี้เอง สาเหตุเหรอ? ก็เพราะฉันไม่ยอมเป็น “เด็ก” ของเขาน่ะสิ ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมไปทำงานที่ไหน เจ้านายต้องพยายามเสนออะไรแบบนี้ทุกที บางคนก็แก่จนหัวหงอก ยังไม่วายคิดเรื่องอย่างว่า เหนื่อยใจแทนเมียพวกเขาจริงๆ ที่ต้องมีผัวเป็นเฒ่าหัวงูแบบนี้“ทำไมงานมันหายากขนาดนี้วะเนี่ย...” ฉันพึมพำกับตัวเอง มองไปรอบๆ ก็มีแต่ตึก บริษัทเพียบไปหมด แต่ไม่มีใครเปิดรับสมัครเลย เศร้าใจชะมัด“แล้วฉันจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่ารถ ค่าคอนโด ค่าเน็ต ค่าน้ำค่าไฟอีก เฮ้อ...ชีวิตตู :( ”ฉันนั่งบ่นกับตัวเองบนรถ กำลังจะน้ำตาร่วงอยู่แล้วกริ๊ง~ กริ๊ง~เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ชื่อที่โชว์คือ "น้ำ"“ฮัลโหล ว่าไงน้ำ”“แกหางานได้ยัง ชบา?”“ยังเลย ไปสมัครที่ไหนก็ไม่รับอ่ะ” ฉันตอบเสียงเศร้า มันเศร้าจริงๆ นี่ห