Share

บทที่1 ปลดพันธนาการ

last update Last Updated: 2025-10-24 12:19:54

2 เดือนก่อน

“พี่จะพาน้องคิลกลับไปอยู่ด้วย” น้ำเสียงที่มุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยวอย่างคนตัดสินใจมาแล้วของพันเอกคีรี อิชยกุล ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบกประจำกรุงมอสโก ประเทศรัสเซียที่เอื้องเอ่ยออกมาพาให้หัวใจของหนุ่มสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามรู้สึกไหววูบ

ใจหายวาบเมื่อคีรีบอกว่าจะพา “น้องคิล” หรือ เด็กชายคีรกูร อิชยกุล ลูกชายวัย6ขวบเศษของคีรีที่คนทั้งคู่เลี้ยงดูมาแต่อ้อนแต่ออกในฐานะลูกบุญธรรมไปอยู่ที่รัสเซียด้วยกัน...นั่นหมายความว่าจากนี้ไปเขาและเธอจะไม่ได้เจอเด็กน้อยในทุก ๆ เช้าและเย็นอีกต่อไปแล้ว

คริษฐาอ้าปากหมายจะคัดค้านแต่แล้วก็ต้องหุบปากฉับ...แม่บุญธรรมอย่างอย่างเธอไม่มีสิทธิ์มีเสียงมากพอจะไปคัดค้านพ่อแท้ ๆ ได้เลย...ไม่มีสิทธิ์จริง ๆ

แน่นอนว่าไม่ใช่แค่คริษฐาที่เป็นเช่นนั้น สามีของหญิงสาวอย่างร้อยตำรวจเอกคีรินทร์ อิชยกุล หรือ ผู้กองคีรินทร์ ผู้เป็นน้องชายแท้ ๆ ของคีรีเองก็ไม่ต่างกัน...เขาและเธอเป็นแค่พ่อแม่บุญธรรมเท่านั้นจะคัดค้านอะไรคีรีได้

“พี่รู้ว่าเคทกับคีย์รักน้องคิลเหมือนลูก แล้วก็เลี้ยงมาตลอด แต่ตอนนี้พี่กับมาช่าเข้าใจกันแล้ว บ้านมาช่าก็เห็นด้วยเรื่องของเราแล้ว น้องคิลควรได้อยู่กับพ่อแม่ พี่กับมาช่าอยากจะใช้เวลาทั้งหมดชดเชยให้ลูกที่หายไปถึง6ปี เข้าใจพี่ด้วย” คีรีเอ่ยเมื่อรับรู้ได้ถึงปฏิกิริยาของทั้งคู่ ชายหนุ่มเองก็ละอายใจไม่น้อยเลยที่พูดออกไป 6ปีก่อนเพราะเมริย่า หรือ มาช่า ภรรยาสาวชาวรัสเซียของเขาซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับคริษฐาถูกผู้ไม่ประสงค์ดีหลอกให้เข้าใจเขาผิดจนฝากลูกชายที่เพิ่งคลอดได้เพียง3เดือนไว้กับคริษฐาที่เป็นญาติผู้น้องเพื่อไปเคลียร์ปัญหาและได้หายตัวไปเขาจึงตามไปทวงภรรยาคืนและยกหน้าที่ดูแลเด็กชายคีรกูรให้คริษฐาก่อนจะไร้การติดต่อไปอีกคนจนทำให้ครอบครัวที่รอโอกาสอยู่แล้วสบโอกาสคลุมถุงชนคริษฐาและคีรินทร์เพื่อรับเด็กชายคีรกูรเป็นลูกบุญธรรมและช่วยกันดูแล

6ปีทีเดียวที่ทั้งคู่ต้องทิ้งอะไรหลาย ๆ อย่างเพื่อเด็กชายคีรกูรแต่ตอนนี้เขากลับมาพูดทำร้ายจิตใจจะพรากเด็กชายคีรกูรไปจากพวกเขา ช่างน่าละอายจริง ๆ

“เคทรักน้องคิลค่ะ ไม่รู้ว่าขาดน้องคิลไปเคทจะเป็นยังไง แต่เพื่อสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับน้องคิล น้องคิลควรได้อยู่กับพ่อและแม่แท้ๆ ของแก ถ้าพี่คีรีตัดสินใจแล้วเคทก็ไม่ขัดข้องค่ะ”

“ผมด้วย น้องคิลอยู่กับพ่อแม่ต้องมีความสุขกว่าอยู่กับผมกับเคทแน่ ๆ แต่ยังไงขอผมกับเคทยังเป็นพ่อคีย์กับแม่เคทได้มั้ย ไม่ชินเป็นอาคีย์เลย” คีรินทร์เอ่ยขณะที่มือหนายื่นมากุมมือคนเป็นภรรยาไว้ แม้ว่าเขาและเธอจะแต่งงานกันเพราะผู้ใหญ่และเพราะเด็กชายคีรกูรแต่อย่างไรก็คือสามี หน้าที่ปลอบใจภรรยาก็คือหน้าที่ของเขา

คีรีที่ไม่อยากให้ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบถอนใจก่อนจะเอ่ยขึ้นราวกับเพิ่งคิดขึ้นมาได้ “จริงสิ คีย์ เคท ตั้งแต่กลับมาพี่ยังไม่ได้ขอบใจทั้งสองคนเลย ขอบใจนะที่ช่วยดูแลน้องคิล ขอบใจจริง ๆ”

“ขอบจงขอบใจอะไรกันพี่ เจ้าคิลก็หลานผม อาดูแลหลานทำไมต้องขอบใจ”

“นั่นสิคะไม่เห็นต้องขอบจงขอบใจเลย มาช่ากับเคทก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน มาช่าฝากน้องคิลไว้กับเคท เคทก็ต้องดูแลอยู่แล้ว ถ้าพี่คีรีอยากขอบคุณจริง ๆ หลังจากนี้ก็ดูแลน้องคิลดี ๆ แล้วก็หาเพื่อนเล่นให้น้องคิลด้วย น้องคิลร่ำ ๆ อยากมีน้องมาพักใหญ่แล้ว เคทกับพี่คีย์ไม่มีน้องให้แกเล่นด้วย น้องคิลต้องเหงามาหลายปี พี่คีรีต้องรีบๆ มีน้องให้น้องคิลนะคะ” ลูกเสี้ยวสาวที่มีแม่เป็นน้องสาวของพ่อตาอีกฝ่ายเอ่ยก่อนจะแสร้งเย้าแหย่กลบเกลื่อนความเสียใจ “แว่ว ๆ ว่าน้องคิลอยากมีน้องสาวนะคะ ฝาแฝดได้ก็ดีนะ”

“พี่กับมาช่าก็คิด ๆ อยู่ ว่าแต่เราสองคนเถอะ ต่อไปไม่มีน้องคิลอยู่ด้วยคงจะเหงากันแน่...ไม่คิดจะมีสักคนสองคนไว้คลายเหงาเหรอ?”

“ก็ถามกันแต่แบบนี้ล่ะ” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายก่อนจะร่ายยาวราวกับอัดอั้น “ลูกนะไม่ใช่หมาใช่แมว นึกอยากมีก็หามาเลี้ยงได้เลยน่ะ ถ้าเขาไม่อยากมาบังคับให้มาเขาก็ไม่มาหรอก เลิกถามกันสักทีเถอะค่ะ”

“เอ่อ..พี่ขอโทษนะพี่ไม่รู้ว่ามีคนถามบ่อย” คีรีที่รู้ว่าตัวเองอาจจะไปพูดแทงใจดำเข้าให้แล้วเอ่ยก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างคนอยู่เป็น “เออจริงสิ คืนนี้พี่ว่าจะพาน้องคิลกับมาช่าไปกินข้าวนอกบ้าน เราสองคนไปด้วยกันสิ”

“ผมมีธุระแล้ว ไปด้วยไม่ได้หรอกครับ”

“เคทเองก็มีนัดกับพี่หมอแล้ว พี่คีรีกับมาช่าพาน้องคิลไปเถอะค่ะ พ่อแม่ลูกจะได้คุ้นชินกันมากขึ้น”

“หว่า เสียดายจัง งั้นไว้คราวหน้าแล้วกัน ก่อนพี่กลับต้องได้ไปกินข้าวกับเราสองคนนะ” คีรีไม่รบเร้า ชายหนุ่มเอ่ยแล้วก็ลุกออกไปเมื่อได้ยินเสียงเรียกของภรรยาสาวที่ดังแว่วมาจากสนามหญ้าของบ้านทิ้งให้สองสามีภรรยาที่แต่งงานกันเพราะผู้ใหญ่ไว้เพียงลำพัง

ดวงตาคู่หวานทรงเสน่ห์ที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมมาจากมารดาชาวรัสเซียมองผ่านผนังกระจกไปยังสนามหญ้าที่ตอนนี้มีเมริย่า คีรี และเด็กชายคีรกูรกำลังวิ่งเล่นกันอยู่อย่างสนุกสนาน รอยยิ้มของเด็กชายคีรกูรทำให้คริษฐาคลี่ยิ้มตาม การได้อยู่กับพ่อแม่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับหนุ่มน้อยคนนี้ขอเพียงแค่หนุ่มน้อยมีรอยยิ้มเธอก็มีความสุขแล้ว แม้ว่าหลังจากนี้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันเหมือนที่เป็นมาตลอด

มือหนายื่นมาตบไหล่คนที่ยืนยิ้มอยู่ทว่านัยตย์ตาเศร้าก่อนจะเอ่ย “ไม่อยู่3วันนะ ดูแลตัวเองดี ๆ ด้วย”

“งานใหญ่?” หญิงสาวถามพร้อมกับหันมามองใบหน้าคม คีรินทร์เป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติดหลายครั้งหลายหนที่เขาหายไปเพื่องานของเขาเป็นเวลาหลายวัน 2-3วันบ้าง 2-3สัปดาห์บ้าง และทุก ๆ ทั้งก็จะบอกเธอไว้อย่างนี้เสมอและทุก ๆ ครั้งเธอก็จะถามอย่างนี้ทุกครั้งเช่นกัน

“ก็หนักเอาการ แต่สบายใจได้ ยังไงก็กลับมาส่งเจ้าคิลได้แน่นอน”

“ให้มันจริงเถอะ”

“เคยพูดแบบนี้แล้วมาไม่ได้มั้ยล่ะยัยจุ้น” เขาพูดก่อนจะยักไหล่และเอ่ยในเชิงเย้าแหย่ “ไปล่ะ อย่านอนร้องไห้นะ ไม่ได้อยู่ปลอบ”

“ใครเขาจะให้ปลอบ เหอะ” หญิงสาวเอ่ยก่อนจะหันหลังให้ราวกับคนแสนงอนทว่าคริษฐาก็รู้ดีว่าคนที่ควรจะเย้าหยอกต่อนั้นไม่มีทางสานต่อ เวลาของคีรินทร์มีค่าเกินกว่าจะมาเสียเวลาหยอกเย้าภรรยาที่ผู้ใหญ่หาให้ หยอกไม่จบอย่างนี้ประจำนั่นล่ะ แรก ๆ คริษฐาหันหลังให้เขาเล่นต่อแต่หลัง ๆ การหันหลังคือการตัดใจส่งคนขึ้นชื่อว่าเป็นสามีไปทำภารกิจที่อาจจะเสี่ยงถึงชีวิต

เธอไม่อยากจะมองเขาเดินจากไป ด้วยกลัวว่าเขาจะจากไปแล้วจากไปลับไม่กลับมาหาเธออีก เธอจึงเป็นฝ่ายหันหลังให้เขาเสมอ แม้ไม่พูดอะไรออกไปแต่คีรินทร์ก็รับรู้และเข้าใจได้เสมอ ก็เป็นอย่างนี้ประจำนั่นล่ะ

หลายต่อหลายคนมาเห็นท่าทีของทั้งคู่คงจะแปลกใจอยู่บ้าง ไม่ก็คิดว่าเป็นคู่รักที่น่ารักและเข้าอกเข้าใจกันดี แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย แม้หลายอย่างจะเหมือนเข้าใจได้โดยไม่ต้องพูดแต่ก็มีอย่างนึงที่ทั้งคู่ไม่เคยพูดกัน และไม่แน่ว่าอาจจะไม่รู้กันด้วยก็ได้

เพราะคีรินทร์และคริษฐาแทบจะเติมโตมาอย่างเพื่อน อย่างพี่อย่างน้องไม่ได้มาเจอกันในวันนึงและตกหลุมรักกัน คบหาดูใจกัน และแต่งงานกันเหมือนกับคู่แต่งงานคู่อื่น ๆ แต่ทั้งคู่แทบจะอยู่ด้วยกันในเกือบทุกช่วงเวลา บ้านก็อยู่ห่างกันแค่คนละฟากถนน ครอบครัวสนิทสนมเป็นมิตรที่ดีต่อกันมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ พี่น้องต่างเติบโตมาด้วยกันรวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ครอบครัวเดียวเมื่อต้องมาแต่งงานกันสิ่งหนึ่งที่ไม่มีเหมือนกับคู่แต่งงานคู่อื่นก็คือความรัก และไม่รู้ว่าจะเริ่มปลูกต้นรักกันอย่างไรเพราะความสัมพันธ์มันเกินจุด ๆ นั้นไปแล้ว

เพราะไร้ข่าวคราวของคีรีและเมริย่าเพื่อไม่ให้เด็กชายตัวน้อยต้องรู้สึกขาดคริษฐาจึงต้องรับบทแม่และภรรยา คีรินทร์เองก็ต้องรับบทพ่อและสามีเวลาส่วนใหญ่ก็คือการทำหน้าที่พ่อกับแม่ให้กับหนุ่มน้อย ความสัมพันธ์ทางด้านหัวใจของทั้งคู่จึงแทบไม่คืบหน้า...ถ้าไม่มีหนุ่มน้อยคีรกูรก็ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเป็นเช่นไรต่อไป

ดวงตาคู่หวานมองไปยังเด็กชายคีรกูรอีกครั้งก่อนจะถอนใจ...หรืออิสระที่เธอเคยฝันหากำลังจะมาเยือนเธอแล้วจริง ๆ

แล้วตอนนี้เธอต้องการมันหรือไม่? หากตั้งคำถามนี้กับตัวเองในตอนนี้หญิงสาวก็รู้สึกสมองขาวโพลนไปหมด เธอไม่รู้ ไม่สามารถตอบได้ มันสับสนไปหมด

เธอรักคีรินทร์เหรอ? คำถามนี้เธอก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ มันสับสนยิ่งกว่าคำถามที่แล้วเสียอีก เธอไม่รู้ว่ารักคีรินทร์หรือแค่ผูกพัน ไม่รู้ว่าระหว่างกันมันควรเรียกว่ารักหรือผูกพัน...ไม่รู้จริง ๆ

มาแล้วคร่า ฝากติดตามด้วยน๊า เรื่องนี้ไม่ดราม่าจ้า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักวุ่น ๆ กับคุณ(อดีต)สามี   บทที่3 ไม่ใช่ของตายของเธอ

    คริษฐาไม่ใช่ผู้หญิงบอบบางที่ถูกบอกเลิกแล้วจะเสียใจร้องไห้ฟูมฟาย โอเค! ในตอนแรกเธออาจจะตกใจ รู้สึกคิดอะไรไม่ออกบอกไม่ถูกอยู่บ้าง แต่โน๊ตที่คีรินทร์ทิ้งไว้ก็ทำให้ทุกอย่างจางหายไปในความคิดของคริษฐาสิ่งที่คีรินทร์ต้องการจะสื่อทั้งหมดก็คือยกบ้านให้เธอ ให้เธออยู่ที่นี่เพื่อรอเขากลับมาเริ่มต้นใหม่ด้วยกันในสักวันหนึ่ง...ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่แต่ถ้าเธอทำตามนั้นเธอก็ไม่ต่างจากของตายที่เขาหันมาเมื่อไหร่ก็ยังวางอยู่ที่เดิมน่ะสิ...ฝันไปเถอะนั่นไม่ใช่สไตล์ของเธอ คีรินทร์จะต้องสำนึกกับการคิดว่าเธอเป็นของตาย และต้องเสียดายจนแทบบ้าที่กล้าบอกเลิกเธอด้วยความคิดบ้า ๆ บอ ๆและสิ่งที่หญิงสาวทำสิ่งแรกหลังจากเห็นโน๊ตของอดีตสามีก็คือการตัดสินใจเก็บกระเป๋าและออกไปจากอะไรเดิม ๆ และที่เดิม ๆ ที่เคยอยู่เขาจะให้เธอรออยู่ที่นี่เธอก็จะไม่รอ...แล้วเขาจะได้รู้ ว่าไม่ควรสิ้นคิดขอเลิกเธอ1สัปดาห์ต่อมาว่ากันว่าอยากทำให้ใครเสียดายก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดูดีขึ้น ยิ่งถ้าอยากให้แฟนเก่า สามีเก่า หรือคนสิ้นคิดเสียดายเล่นเพื่อความสะใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ต้องทำให้ตัวเองสวยขึ้น ดูดีขึ้น“อุแม่!!! เกิดอะไรขึ้นคะชะนี ผมยาวสลว

  • รักวุ่น ๆ กับคุณ(อดีต)สามี   บทที่2 หย่า

    หลายวันต่อมาร่างบางกอดอกมองร่างสูงที่นั่งยอง ๆ ให้ตัวเองอยู่ในระดับสายตาของหนูน้อยผู้เคยเป็นลูกชายมาโดยตลอดด้วยความหมั่นไส้ ปากบอกว่าไม่อยู่3วันแต่เอาเข้าจริงแล้วหายไปเป็นสัปดาห์ กว่าจะกลับมาก็วันที่เด็กชายคีรกูล คีรีและภรรยาจะเดินทางแล้ว“คิล พ่อคีย์ขอโทษนะที่หายไปหลายวัน กว่าจะโผล่มาก็วันคิลจะไปแล้ว”“พ่อคีย์ชอบเบี้ยวตลอดนั่นล่ะ คิลชินแล้ว ให้อภัยได้ครับ” เด็กชายคีรกูรเอ่ยกับพ่อบุญธรรมที่เพิ่งจะโผล่มาหลังจากหายไปหลายวันก่อนจะยักไหล่ “คิลรู้นา ความจริงแล้วที่หายไปน่ะ หายไปทำใจใช่มั้ยล่า ต่อไปไม่มีคิลอยู่ด้วยแล้ว พ่อคีย์จะต้องไปแอบไปร้องไห้มาแน่ ๆ เลย”“ทำเป็นรู้ ลูกผู้ชายเขาไม่ร้องไห้เพราะเรื่องแค่นี้หรอก”“หึ อย่าให้คิลรู้ก็แล้วกันว่าคิลไม่อยู่แล้วพ่อคีย์ร้องไห้ขี้มูกโป่ง”“ไม่มีทางหรอกเจ้าหนู” คีรินทร์เอ่ยพลางยกมือยีผมเจ้าหนูน้อยอย่างที่เคยทำมาโดยตลอด รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมก่อนที่ชายหนุ่มจะรวบร่างเล็กเข้ามากอด “ต่อไปไม่มีพ่อคีย์คอยแหย่ แม่เคทคอยปรามแล้ว อย่าดื้อกับพ่อกับแม่นะเจ้าหนู พ่อคีย์รักคิลนะ โทรหาพ่อคีย์กับแม่เคทบ่อย ๆ ด้วยล่ะ”“ครับ คิลก็รักพ่อคีย์ รักแม่เคท คิลไ

  • รักวุ่น ๆ กับคุณ(อดีต)สามี   บทที่1 ปลดพันธนาการ

    2 เดือนก่อน“พี่จะพาน้องคิลกลับไปอยู่ด้วย” น้ำเสียงที่มุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยวอย่างคนตัดสินใจมาแล้วของพันเอกคีรี อิชยกุล ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบกประจำกรุงมอสโก ประเทศรัสเซียที่เอื้องเอ่ยออกมาพาให้หัวใจของหนุ่มสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามรู้สึกไหววูบใจหายวาบเมื่อคีรีบอกว่าจะพา “น้องคิล” หรือ เด็กชายคีรกูร อิชยกุล ลูกชายวัย6ขวบเศษของคีรีที่คนทั้งคู่เลี้ยงดูมาแต่อ้อนแต่ออกในฐานะลูกบุญธรรมไปอยู่ที่รัสเซียด้วยกัน...นั่นหมายความว่าจากนี้ไปเขาและเธอจะไม่ได้เจอเด็กน้อยในทุก ๆ เช้าและเย็นอีกต่อไปแล้วคริษฐาอ้าปากหมายจะคัดค้านแต่แล้วก็ต้องหุบปากฉับ...แม่บุญธรรมอย่างอย่างเธอไม่มีสิทธิ์มีเสียงมากพอจะไปคัดค้านพ่อแท้ ๆ ได้เลย...ไม่มีสิทธิ์จริง ๆแน่นอนว่าไม่ใช่แค่คริษฐาที่เป็นเช่นนั้น สามีของหญิงสาวอย่างร้อยตำรวจเอกคีรินทร์ อิชยกุล หรือ ผู้กองคีรินทร์ ผู้เป็นน้องชายแท้ ๆ ของคีรีเองก็ไม่ต่างกัน...เขาและเธอเป็นแค่พ่อแม่บุญธรรมเท่านั้นจะคัดค้านอะไรคีรีได้“พี่รู้ว่าเคทกับคีย์รักน้องคิลเหมือนลูก แล้วก็เลี้ยงมาตลอด แต่ตอนนี้พี่กับมาช่าเข้าใจกันแล้ว บ้านมาช่าก็เห็นด้วยเรื่องของเราแล้ว น้องคิลควรได้อยู่กับพ่อแม่ พ

  • รักวุ่น ๆ กับคุณ(อดีต)สามี   อารัมภบท

    ว่ากันว่าการแต่งงานคือจุดเริ่มต้นของคนสองคนที่ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ส่วนการหย่าร้างนั้นคือปลายทางจุดสิ้นสุดของการใช้ชีวิตคู่ เมื่อมีการหย่าร่างก็หมายถึงคนสองคนได้ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์และต่างคนต่างไปและต่างมีชีวิตของตัวเองทว่าการหย่าร้างอาจจะไม่ใช่จุดสิ้นสุดก็เป็นได้“ทะ ท้อง เคทท้องเหรอคะพี่หมอ?” น้ำเสียงตื่นตะลึงนั้นถามมาขณะที่ใบหน้าของผู้ถามนั้นซีดเผือดไร้สีเลือดไปแล้ว “พี่หมอ” ของคนถูกถามพยักหน้าแทนการตอบรับก่อนจะยื่นมือไปกุมมือคนที่กำลังตกใจ“ลูกน่ะเป็นของขวัญจากฟ้าที่ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะจะมี หลายคนที่เขาอยากมีแต่ไม่มีน่ะเเยอะแยะไป เรามีแล้วน่ะต้องยินดีและก็ต้องดูแลเขาให้ดีเข้าใจมั้ย”“คะ เคท เคทรู้ค่ะพี่หมอ แต่...” เสียงนั้นตอบกลับก่อนจะเงียบไปเพราะพูดไม่ออก สมองมันตื้อไปหมด เธอไม่รู้ว่าจะพูดยังไงเธอไม่รู้จะบอกคนตรงหน้าว่ายังไง เธอท้อง...ท้องในขณะที่เพิ่งจะเซนต์ใบหย่ากับพ่อของลูกไปเมื่อเช้าวานนี้เองสถานะของเธอตอนนี้คือแม่ม่ายหมาด ๆ แล้วเธอจะมามีลูกตอนไม่มีสามีเนี่ยนะ!!!เธอไม่ได้เสียใจที่เจ้าตัวเล็กมาแอบนอนขดอยู่ในท้องรอวนลืมตาดูโลก แต่เธอกำลังช็อค...ตอนที่พี่ป้าน้าอาปู่ย่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status