เพราะคนที่มีพระคุณต้องการความช่วยเหลือ คนเป็นหลานอย่างนิดก็ปฏิเสธคนเป็นอาไม่ได้ และนั้นก็เป็นที่มาของคำว่ารัก
더 보기บ้านนา
“ นิดเหนื่อยไหมลูก “ นวล แม่ของนิดเด็กสาววัยน่ารักสดใส ที่อายุเพียง15ปี ทั้งที่ยังเด็กอยู่แท้ๆแต่เธอทั้งช่วยแม่ทำงานแล้วก็ยังเรียนอีกด้วย ด้วยความที่เป็นคนจนแล้วก็ไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นนั้นเลยทำให้นวลกับนิดมีกันแค่สองคนแม่ลูก นั้นเลยทำให้นิดต้องช่วยแบ่งเบาภาระของแม่ เช่นค่าเรียนของเธอที่เธอสามารถจัดการเพื่อตัวเธอเองได้ “ ไม่เลยจ๊ะแม่ นิดไม่เหนื่อยหรอจ๊ะ “ นิดที่กลับมาจากโรงเรียน นวลก็ถามลูกสาวด้วยความเป้นห่วงเพราะตั้งแต่เธอโตขึ้นมาตั้งแต่เธอจำความได้นิดลูกสาวของเธอก็ไม่เคยได้หยุดพักเลย เลิกเรียนเสร็จก็ต้องออกไปทำงานพิเศษ ในเมือง “ นิดใกล้สอบแล้วนะลูก ไม่ไปไม่ได้เหรอทำงานพิเศษนะ “ ด้วยความเป็นห่วงแล้วก็สงสารลูกสาวที่ต้องไปอดตาหลับขับตานอน แล้วก็ต้องไปเรียนแต่เช้าอีก นวลผู้เป็นแม่ที่เห็นลูกทำงานด้วยเรียนด้วยแบบนั้นเธอก็รู้สึกเป็นห่วงกลัวว่าลูกจะเป็นอะไรไปก่อนที่จะถึงฝั่งฝัน “ ไม่เป็นไรจ๊ะแม่นิดไหวจ๊ะ “ นิด เธอเดินเอากระเป๋ามาวาง พร้อมกับหันมายิ้มหวานส่งให้แม่ ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านเพื่อผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วจะได้ขี่มอไซต์คู่ใจไปทำงานในตลาด แต่ระหว่างที่สองแม่ลูกกำลังคุยกันอยู่นั้น เสียงของใครบางคนก็ดังแทรกเข้ามาขัดจังหวะของสองแม่ลูกทันที “ พี่นวล พี่นวลอยู่ไหมจ๊ะ พี่นวล “ เสียงของหญิงสาวหน้าตาสวยแต่งตัวอย่างกับคุณนาย เดินเข้ามายังลานบ้านสังกระสีนวลและก็นิด สองแม่ลูกที่ได้ยินคนมาเรียกหาทั้งคู่ก็หันมาสนใจทันทีว่าคนที่มาเรียกหาเป็นใคร “ อยู่จ๊ะ ไม่ทราบว่าคุณ……..เอ้อ…….แจง……แจงจริงๆด้วย แจง ….ทำไมเธอถึงได้สวยขนาดนี้เนี่ย ตายจริงไปไงมาไง แล้วสบายดีไหมจ๊ะ “ นวล เธอเดินออกมาทางด้านนอก ก่อนจะต้องตกใจเมื่อเห็นน้องสาวของสามีที่ไม่ไเจอกันมานานมาหลังจากที่เธอหนีความยากจนไปหาฝันของเธอ นวลที่จำไม่ได้ว่าคนตรงหน้าเป็นใครเมื่อพินิจพิจารณาดูดีๆแล้วเธอก็จำได้ทันทีว่าคนตรงหน้าเป็นใคร พอเธอรู้ว่าคนตรงหน้าเป็นน้องสาวของสามีที่ตายไปเธอก็ตกตะลึงเพราะเธอสวยขึ้นอย่างกับคุณนายก็ไม่ปาน จากนั้นเธอก็จับตัวของแจงหมุนไป หมุนมาด้วยความตื่นเต้นดีใจที่ได้เจอน้องสาวสามีอีกครั้ง “ นี้ใช่หลานฉันใช่มั้ยจ๊ะพี่ นี้หนูนิดใช่มั้ยจ๊ะ “ แจง ที่ทักทายกับพี่สะไภ้เสร็จเรียบร้อยเธอก็หันมาสนใจเด็กน้อยหน้าตาดีด้านหลังของพี่สะไภ้ ก่อนนจะทำหน้าตาตื่นเต้นตกใจว่าหลานสาวของเธอตอนนี้สวยน่ารักขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย เพราตอนที่แจงจากไปจากที่นี้ตอนนั้นหนูนิดอายุเพียงขวบเดียวเท่านั้น แต่เธอไม่เชื่อเลยว่า ตอนนี้หลานสาวของเธอจะโตเป็นสาวเต็มตัวซะแล้ว “ สวัสดีคะ “ หนูนิดเมื่อผู้ใหญ่ทักทาย เธอก็ยกมือไหว้พร้อมกับส่งยิ้มหวานให้คนตรงหน้าอย่างเป็นมิตร จากนั้นทุกคนก็มานั่งคุยกันอย่างออกรสออกชาติว่าที่แจงกลับมาคราวนี้เธอกลับมาเพื่ออะไร “ คือว่าฉันจะไปอยู่เมืองนอกกับสามีฉันนะจ๊ะพี่ ฉันก็เลยอยากจะมาพาพี่กับหนูนิดไปอยู่ที่กรุงเทพด้วยกันพี่กับหนูนิดจะได้สบายไม่ต้องลำบากแบบนี้อีก แล้วอีกอย่างหนูนิดก็จะได้เรียนโรงเรียนดีๆด้วยนะจ๊ะ ฉันอยากให้พี่ไป คุณจอนร์สามีของฉันเขาเป็นนักธุรกิจแล้วอีกอย่างเขาก็ใจดีมากเลยนะพี่ ฉันให้เขาซื้อบ้านให้ฉัน ฉันก็เลยอยากมาพาพี่กับหลานไปอยู่ด้วยกันจ๊ะ “ แจงที่มารับพี่สะไภ้กับหลานสาวไปอยู่ที่กรุงเทพด้วยกัน เธอก็พูดจุดประสงค์ของเธอออกมาทันที นวลเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็หันมามองลูกสาวที่ตอนนี้กำลังจะขี่มอไซต์ไปทำงานร้านข้าวต้มในตลาด แล้วเธอก็มองไปด้านหลังที่มีบ้านสังกระสีเก่าๆ ความทรงจำมากมายระหว่างเธอกับสามี และก็ลูกที่นี้มันมีเยอะมากมายจริงๆ เธอมองอย่างใช่ความคิดแล้วก็พินิจพิจารณาว่าจะเอายังไงดี “ พี่อย่าคิดเยอะเลยนะพี่ เรามีกันอยู่แค่นี้นะจ๊ะพี่เพิ่มก็ตายไปแล้ว ฉันก็ไม่มีใครจะมีก็มีแต่พี่กับหลานฉันไม่อยากสบายคนเดียวฉันอยากให้พี่กับหลานสบายด้วยนะจ๊ะ ไปกับฉันเถอะนะพี่ อย่างน้อยพี่ก็นึกถึงยัยหนูนิดลูกสาวของพี่บ้างนะจ๊ะ พี่อยากเห็นยัยหนูนิดทำงานไปเรียนไปลำบากแบบนี้จนตายเลยเหรอจ๊ะ ไปเถอะนะพี่นวล “ แจง ที่เห้นพี่สะไภ้ทำหน้าตาเหมือนกับว่าเธอลังเล แจงก็เอามือมากุมที่มือของพี่สะไภ้ก่อนจะพูดออกมาเพื่อเกลี่ยกล่อมให้พี่สะไภ้ไปกับเธอ เวลาต่อมา หลังจากที่แจงจัดการเกลี่ยกล่อมให้พี่สะไภ้ไปกับเธอ แจงก็ตัดสินใจได้ทันทีว่าเพราะอนาคตของลูกสาวเพียงคนเดียวที่เธอเหลืออยู่ แล้วอีกอย่างที่แจงพูดมันก็เป็นเรื่องจริงเธอพูดถูกเรื่องอนาคตของหนูนิด ถ้าเธอไปอยู่ที่กรุงเทพกับน้องของสามีลูกสาวของเธออนาคตก็คงจะดีกว่านี้ เมื่อตัดสินใจได้แล้ว นวลกับหนูนิดก็ตัดสินใจตามแจงมาอยู่ที่กรุงเทพทันที กทม.บ้านทาวเฮ้าส์ “ นี้จ๊ะพี่บ้านของเรา พี่อยู่ที่นี้กับหลานให้สบายเลยนะจ๊ะ หนูนิดนี้จ๊ะห้องของหนูอาเตรียมเอาไว้ให้ หนูนิดชอบไหมจ๊ะ “ แจงเธอเดินเข้ามาจับที่ไหล่ของหลาน พร้อมกับพาเธอมาดูห้องนอนของเธอ ที่แจงเตรียมเอาไว้ให้ หนูนิดเมื่อมาเห็นห้องของตัวเองแบบนั้นเธอก็ตาโตอ้าปากค้างมองของข้างในที่เธอไม่เคยมีมาก่อน ด้วยสายตาตื่นตะลึงแล้วก็ตื่นเต้นากับของที่อยู่ตรงหน้า นวลที่เดินตามหลังมาเธอก็ตื่นเต้นตาโตไม่แพ้กัน “ แจงพี่เกรงใจแจงจังเลยจ๊ะ พี่ว่ามันไม่มากไปหน่อยเหรอจ๊ะ “ นวลที่เห็นสิ่งที่น้องของสามีทำให้เธอ นั้นก็ทำให้นวลรู้สึกเกรงใจเป็นอย่างมาก แจงเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็เอามือมากุมที่มือของพี่สะไภ้พร้อมกับส่งยิ้มหวานให้เธอ “ พี่ไม่ต้องคิดมากหรอกนะจ๊ะ ถึงยังไงเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันเราเหลือกันอยู่แค่นี้เองนะจ๊ะ อย่าเกรงใจเลยนะพี่คิดซะว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของพี่กับลูกสาว เพราะถึงยังฉันก็ไม่ค่อยได้อยู่ที่นี้หรอกจ๊ะ คุณจอนท์จะพาฉันไปอยู่ที่นู่นด้วยปีหนึ่งก็คงมาได้ไม่เกินปีละครั้งเท่านั้นแหละจ๊ะพี่ อย่าคิดมากเลยนะพี่อยู่ที่นี้กับลูกให้มีความสุขเถอะนะ “ แจงเธอเอามือจับที่มือพี่สะไภ้พร้อมกับบอกให้เธอ อยู่ที่นี้ให้สบาย จากนั้นแจงก็พานวลแล้วก็ลูกมาดูที่ต่างๆว่าที่นี้มีอะไรบ้างแล้วก็ใช่ยังไงบ้างหลายวันต่อมาหลังจากที่อาเธอร์บอกว่าจะให้หนูนิดทำงานอยู่ที่คฤหาสน์ของเขา ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาหนูนิดกับอาเธอร์ก็ไม่ได้เจอกันเลยเพราะเวลาที่อาเธอร์กลับมาหนูนิดก็เลิกงาน นั้นก็เลยทำให้เวลาของทั้งคู่ไม่ตรงกัน หนูนิดที่่รู้ตัวเองว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหนแล้วคนอย่างเธอมาในฐานะอะไร นั้นก็เลยทำให้หนูนิดไม่ได้ยึดติดอะไรมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่ทำได้แล้วก็ภาวะนาขอให้อาของเธอนำเงินมาใช้เขาให้เร็วที่สุดแล้วเธอก็จะได้กลับไปหาแม่ของเธอ เท่านั้น ทุกครั้งที่เธอคิดถึงแม่ที่อยู่ที่เมืองไทยโดยที่เธอไม่รุ้เลยว่าตอนนี้แม่ของเธอ จะเป็นยังไงบ้า หนูนิดเธอก็จะชอบร้องไห้ออกมา แต่ก็ยังดีหน่อยที่อย่างน้อยก็มีแมวหลงมาจากที่ไหนไม่รู้มาเป็นเพื่อนคุย กับเธอ เหมี๊ยว เหมี๊ยว เหมี๊ยว “ เจ้าหลงฉันไปทำงานก่อนนะ แกอยู่ที่นี้อย่าดื้ออย่าซนละ เดี๋ยวถ้าเสร็จงานแล้วฉันจะรับกลับมาให้อาหารแก “ หนูนิดที่แต่งตัวเสร็จแล้วก็เอาอาหารให้เจ้าหลงซึ่งเป็นแมวที่หลงทางมาจากไหนก็ไม่รู้ หนูนิดที่เห็นมันเดินตากหิมะมาเธอก็กลัวว่ามันจะตายก็เลยได้เลี้ยงมันไว้ ด้วยความสงสารจนมาถึงตอนนี้แหละ หนูนิดเอามือลูบที่หัวของมันเบาๆ พร้อมกับบอกมันว่
เช้าวันต่อมา หลังจากที่ผ่านศึกระหว่างอาเธอร์กับหนูนิดมาเป็นเวลายาวนานจนเกือบสว่าง จนกระทั้งหนูนิดสลบหมดแรงไปตอนไหนก็ไม่รู้ จนกระทั้งผ่านมาจนถึงเช้านี้ “ อื้อ………ปวดหัวจัง “ หนูนิด เธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยอาการเหมือนกับว่าร่างกายของเธอเหมือนกับรถสิบล้อวิ่งผ่านร่างเป็น10คัน แถมหัวของเธอก็ปวดอย่างกับว่าไปวิ่งชนอะไรมาอย่างแรง เมื่อเธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาหนูนิดถึงกับเอามือขึ้นมาจับที่หัวพร้อมกับร้องโอ๊ยออกมา ด้วยความเจ็บปวด อาเธอร์ที่นอนอยู่ข้างๆเมื่อได้ยินเสียงของแม่เสือสาวที่ตอบสนองรสวาทของเขาอย่างสะเด็ดสะเด่า โดยที่เธอไม่รู้ตัวเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลที่มีอยู่เต็มร่างนั้นเลยทำให้หนูนิดหื่นกามมากอย่างที่เธอไม่เคยเป็นมาก่อน อาเธอร์เสือแก่ที่ได้แม่เสือเด็กมาตอบสนองแบบนั้น ชายหนุ่มก็เคลิ้บเคลิ้มกับรสวาทที่เธอปนเปลอให้จนไม่สามารถหยุดได้ เขาก็หมดแรงเหมือนกันจนเผลอหลับตอนไหนก็ไม่รู้ แต่พอได้ยินเสียงของคนด้านข้างเขาก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อนจะหันมาพูดกับคนด้านข้างด้วยความงัวเงียว่า “ จะรีบตื่นทำไม ฉันเพิ่งได้นอนเอง “ อาเธอร์ ที่ได้ยินเสียงของคนด้านข้างตื่นขึ้นมา เขาก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่งัวเงีย
ปึก “ โอ๊ย เจ็บนะ “ หนูนิดเธอโอ๊ยออกมาด้วยความเจ็บถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกเมาแต่เพราะความแรงของการโยนของอาเธอร์ที่โยนตัวเธอลงไปที่เตียงขนาดใหญ่ ของห้องส่วนตัวผู้บริหาร อาเธอร์เมื่อได้ยินเสียงร้องเจ็บของเธอด้วยความโมโหคิดเหรอว่าคนอย่างอาเธอร์จะสนใจนอกจากจะปล่อยให้เธอเจ็บแถมยังจะลงโทษเธออีก ที่กล้ามาออ่ยเพื่อนเขา “ มึงแม่งร่านว่ะหนูนิด มึงอยากได้เพื่อนกูมากนักเหรอถึงกับยอมแดกเหล้า อีดอก “ อาเธอร์โมโหจัด จนพูดคำหยาบออกมา เขาตวาดลั้นพร้อมกับย่างสามขุมเข้าหาหนูนิด หนูนิดที่เกิดมาเป็นคนจนอายุ19ปีเธอไม่เคยโกหกใครเลยแม้แต่เด็กเมื่อชายหนุ่มพูดอะไรที่ไม่ใช่ความจริงออกมาแบบนั้นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอลถึงแม้จะน้อยนิดแต่ด้วยความที่เธอดื่มเป็นครั้งแรกนั้นเลยทำให้เธอปลีกกล้าขาแข็งขึ้นมา โดยเธอผุดลุกขึ้นยืนบนเตียง พร้อมกับชี้หน้าชายหนุ่มแล้วก็พูดออกมาตามที่เธออยากพูดทันที “ ไอ้คนบ้า หน้าตาก็ดีทำไมปากหมาขนาดนี้ ฉันอยากได้เพื่อนคุณเป็นผัวบ้าอะไรกัน ที่ฉันดื่มฉันอึดอัดนี้หนา คุณไม่รู้หรอก ก็คุณนั้นแหละทำให้ฉันต้องยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม มองฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ถ้าฉันไม่ดื่มก็กลัวคุณจะฆ่า พอฉันดื่มคุณ
แก๊ก “ ชนกับผมหน่อยสิครับ คุณหนูนิด “ โจท์ ยื่นแก้วเหล้ามาขอชนกับหนูนิด หนูนิดที่ไม่เคยดื่มเธอก็ทำท่าเก้ๆกังๆเอามือที่สั่นเทายื่นไปหยิบแก้วที่วางตรงหน้าเพื่อจะเอามาชนกับลูกค้า แซนดี้ที่เห็นแบบนั้นเธอก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาว่าเด็กสาวตรงหน้าทำตัวอย่างกับเป็นผ้าขาวเรียกร้องความสนใจจากผู้ชาย ยิ่งสายตาอาเธอร์ ที่เอาแต่จับจ้องมองมาที่เด็กสาวตรงหน้าเธอยิ่งหงุดหงิดเป็นอย่างมาก “ น้องคะไม่ต้องกลัวคุณโจท์หรอกนะคะ คุณโจท์เขาใจดีแถมยังโสดอีกต่างหากถ้าน้องทำถูกใจคุณโจท์ดีไม่ดีคุณโจท์เลี้ยงดูน้องเลยก็ได้นะคะ “ แซนดี้เมื่อเห็นายตาของอาเธอร์ที่เอาแต่มองไปยังเด็กสาวตรงหน้า ความรู้สึกหึงหวงของเธอก็ทำให้เธอพูดออกมาแบบนั้นเพื่อให้หญิงสาวสนใจ เธอคิดว่าร้อยทั้งร้อยผู้หญิงแบบหนูนิดยังไงซะก็เห็นเงินแล้วตาโตยิ่งมีคนรวยๆและที่สำคัญโจท์ที่หน้าตาโคตรหล่อจะเลี้ยงดูไม่มีทางที่พวกผู้หญิงหิวเงนจะกระโจนเข้าหา แล้วอีกอย่างเธอก็อยากให้อาเธอร์เลิกสนใจเด็กสาวตรงหน้าสักที นั้นก็เลยทำให้แซนดี้พูดออกมาแบบนั้น หนูนิดที่ได้ยินแบบนั้นต้องยอมรับเลยว่าเธอไม่สนใจเรื่องเงินหรอกแต่ที่เธอสนใจก็คือเธอไม่อยากอยู่ตรงนี้เมื่อโดนบอกให้ช
ห้อง วี.ไอ.พี 1 “ นายคะเด็กใหม่มาแล้วคะ ไม่ทราบว่าให้เธอไปรับแขกโต๊ะไหนดีคะ “ เจ๊ นีน่าแม่เล้าหรือว่าผู้จัดการโซนวีไอพี เดินเข้ามาถามอาเธอร์ที่โต๊ของเขา ว่าจะให้เอาหนูนิดเด็กไหม่ไปไว้ตรงไหน อาเธอร์เมื่อได้ยินแบบนั้นเขาที่กำลังนัวเนียกับผู้หญิงที่เขาเรียกมาใช้บริการเองต่างหาก เขาไม่กินเด็กในร้านเพราะมันจะเสียระบบ นั้นเลยทำให้อาเธอร์มีเด็กที่เขาใช้บริการเป็นประจำ เช่นดารา พริตตี๊ หรือแม้แต่นางแบบ และวันนี้เขาได้เรียกใช้บริการนางแบบสุดเซ็กซี่ ที่เขาใช้บริการเป็นประจำจน คนทั้งวงการคิดว่าเสืออย่างอาเธอร์มาหยุดอยู่ที่ แซนดี้ นางแบบสาวสุดเซ็กซี่ ที่ใครต่างก็จับตามองเพราะเธอทั้งสวยและก็เป็นถึงลูกสาวท่านายกรัฐมลตรีของฮ่องกง “ พาเธอไปรับแขกโซนบีเถอะ อย่าพาเธอมาใกล้โต๊ะฉันก็พอ “ อาเธอร์ พูดออกมาด้วยเสียงเรียบนิ่ง พร้อมกับแขนที่โอบกอดนางแบบสาวอยู่ไม่ห่าง เจ๊นีน่าเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็ยิ้มพร้อมกับก้มหัวอย่างทำความเคารพ ก่อนจะเดินถอยหลังออกมาหา หนูนิดที่ยืนอยู่กับการ์ด โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้สายตาทุกคู่ต่างก็จับจ้องมาที่เธอด้วยสายตาที่หื่นกระหาย ส่วนผู้หญิงเด็กรับแขกก็ไม่เบาทุกคนมองเธอด้วยสา
ห้อง วี.ไอ.พี “ hey what up man ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ Bro , you Fucking ok man ? “ เสียงของมาเฟียหนุ่มชาวจีนที่มารออาเธอร์ที่ห้องรับรองแขกวีไอพี พร้อมกับสาวๆที่ล้อมรอบตัวเขากับคนของเขาฝั่งละสองคน แต่พอเจอกับอาเธอร์เพื่อนเก่าแก่ทางการค้าที่ค้าขายกันมาอย่างยาวนาน เขาก็ลุกขึ้นมาทักทายอย่างเป็นกันเองแบฝรั่ง โดยการจับมือแล้วก็ดึงฝ่ายตรงข้ามเข้ามาหาตัวเอาอกชนกันอย่างกับนักเลง พร้อมกับทักทายอย่างคนสนิท อาเธอร์เมื่อเห็นเพื่อนสนิทของตัวเองที่มาเยื่อนถึงที่ เขาก็ยิ้มออกมาพร้อมกับเอามือตบที่หลังของโจท์ ก่อนจะมานั่งดื่มกับเขาพร้อมกับคุยเรื่องสำคัญ “ เอ้อ ว่าแต่มึงมีเรื่องอะไรที่เรียกกูมาหาเร่งด่วนว่ะอาเธอร์ “ โจท์ มาเฟียหล่อชาวจีนเพื่อนเพื่อนและก็เพื่อน ทางธุรกิจ เขาถามอาเธอร์ออกมาด้วยความสงสัยเมื่ออยู่ๆเขาโดนเรียกตัวมาอย่างเร่งด่วนเพราะปกติ เวลาเขากับอาเธอร์มีเรื่องจะคุยกันหรือว่าพบเจอกันพวกเขาจะนัดเจอกันก่อนเป็นอาทิตย์หรือไม่ก็เป็นเดือน แต่คราวนี้ไม่เพื่อนรักให้คนโทรมาหาว่าให้เขาเข้ามาหาอย่างเร่งด่วน นั้นเลยทำให้โจท์รู้สึกแปลกใจไม่น้อยว่ามีเรื่อง อะไร อาเธอร์เมื่อโดนถามแบบนั้นเขาก็เข้าเรื่อง
“ ไม่ดีมั้งคุณอาเธอร์ เรื่องแค่นี้เองผมว่าเรามาคุยกันก่อนดีกว่าเผื่อว่าเราจะหาทางออกร่วมกันได้ “ เสี่ยชาร์ลี เมื่อได้ยินข้อเสนอของอาเธอร์เสี่ยชาร์ลี้ต้องยอมรับเลยว่าเขาตกใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้เพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ว่าตนเองกลัว อาเธอร์เมื่อได้ยินแบบนั้นเขาก็รู้อยู่แล้วว่าเสี่ยชาร์ลีไม่มีทางยอมให้ลูกชายเพียงคนเดียวของตนเป็นอะไรแน่นอน นั้นก็เลยเข้าทางเขาพอดีอาเธอร์ก็เลยแสยะยิ้มมุมปากก่อนจะพูดสิ่งที่ตัวเองต้องออกมา “ ก็ได้ถ้าเสี่ยเห็นว่าเรื่องนี้ เสี่ยอยากคุยผมก็จะคุย “ อาเธอร์หันมามองหน้าเสี่ยชาร์ลีด้วยสายตาเรียบนิ่งพร้อมกับยิ้มมุมปากอย่างพอใจเมื่อศัตรูเดินเข้ามาติดกับ เวลาต่อมา “ พ่อไปยอมมันทำไม เห็นไหมว่าเราเสียอะไรไปบ้างพ่อไม่หน้ายอมมันเลย “ แบรนดอน โวยวายออกมาเมื่อได้ยินข้อเสนอของพ่อที่ยอมเสียธุรกิจค้าอาวุธให้อาเธอร์ที่เป็นต่ออยู่แล้ว แต่พ่อก็ยอมเสียท่อน้ำเลี้ยงของ องค์กร ที่มีอยู่แค่หยิบมือเดียวอยู่แล้ว เสี่ยชาร์ลีเมื่อได้ยินลูกชายโวยวายแบบนั้นเขาก็รู้สึกโกรธและก็โมโหขึ้นมาทันที ผลัวะ “ ไอ้ลูกเวรเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะแกไม่ใช่เหรอ ถ้าแกไม่มายุ่งวุ่นวายกับเขาเ
หลายวันต่อมา หลังจากที่หนูนิดนอนป่วยติดเตียงมาหลายวัน อาการป่วยของเธอตอนนี้ก็ดีขึ้นมากจนเธอรู้สึกดีกว่าวันแรกที่มาถึง เธอรู้สึกได้กำลังวังชาและก็รู้สึกโล่งอย่างดีกว่าเมื่อหลายวันก่อน เป็นเพราะว่าเธอได้นอนพักผ่อนและก็ได้กินอาหารบำรุงร่างกายนั้นเลยทำให้หนูนิดรู้สึกดีและก็สดชื่นเป็นอย่างมาก “ พี่เซียคะ หลายวันมานี้หนูนิดขอบคุณมากเลยนะคะ ถ้าไม่ได้พี่ดูแลหนูนิดก็คงตายไปแล้วขอบคุณมากๆนะคะ “ หนูนิด ที่นั่งอยู่บนเตียงเมื่อเธอรู้สึกว่าตัวเองหายดีมากแล้วเธอก็ขอบคุณเซียที่ดูแลเธอมาตลอดหลายวันด้วยความทราบซึ่งใจเป็นอย่างมาก เซียเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็ส่งยิ้มหวานให้หนูนิดก่อนจะเดินเข้ามาหาหนูนิดที่เตียงจากนั้นเธอก็ย้อนก้นลงแล้วก็เอามือมาจับที่มือของหนูนิดแล้วก็พูดกับเธอว่า “ ไม่เป็นไรจ๊ะ ถ้าเธออยากขอบคุณ เธอก็ไปขอบคุณนายใหญ่เถอะจ๊ะ ตลอดเวลาที่เธอสลบไปเจ้านายคอยให้หมอแถมยังสั่งให้พี่ดูแลเธออย่างใกล้ชิด จ๊ะ “ เซีย เธอเอามือมากุมที่มือของหนูนิดพร้อมกับบอกให้หนูนิดไปขอบคุณเจ้านายของเธอ เพราะความจริงก็คือความจริงถึงแม้ว่าเจ้านายจะดูใจร้ายและก็พูดทำร้ายจิตรใจของเด็กสาวคนนี้แต่ดีที่เธอไม่ได้ยินที่เจ้าน
เวลาต่อมา “ มึงว่าเจ้านายเรา จะคิดอะไรกับเด็กคนนั้นไหมว่ะ “ แฮ๊ช ที่เห็นท่าทางของเจ้านายเมื่อ1ชั่วโมงที่แล้วนั้น เขาก็ถามอเล็กซ์ออกมาด้วยความสงสัย ตั้งแต่เขาอยู่กับเจ้านายมาตั้งแต่ก่อตั้ององค์กร เขาไม่เคยเห็นเจ้านายมีความรักกับผู้หญิงคนไหนเลยนอกจาก แอนนี่ แฟนสาวที่เขารักมากเท่านั้น “ กูก็ไม่รู้ว่ะแต่ที่กูรู้ เจ้านายแม่งน่ากลัวชิปหาย “ อเล็กซ์ หันมาพูดกับคู่หูอย่างคนไม่รู้ แต่ที่เขารู้คือเมื่อกี่เจ้านายน่ากลัวมาก แฮ๊ตเมื่อได้ยินแบบนั้นเขาก็ทำหน้าตาเบื่อหน่ายพร้อมกับส่ายหน้าหันมาดูดบุหรี่ ด้วยความเหนื่อยหน่ายว่าคู่หูของเขาไม่มีความรู้สึกนึกคิดเรื่องอะไรแบบนี้เลยนอกจาก เรื่องตีรัน ฟันแทง และก็เรื่องปืนเท่านั้นที่เขาสนใจเรื่องผู้หญิงแฮ๊ตก็รู้ดีว่าเขาไม่หน้าถามเพื่อนแบบนั้นเลย เพราะคำตอบที่ได้เขารู้ดีว่าคืออะไร ฟู่……“ เอ้อ กูผิดเองที่ถามมึง ไอ้คนไร้หัวใจ “ แฮ๊ช พ่นควันบุหรี่ออกมาพร้อมกับพูดประชดเพื่อนว่าเขาไม่หน้าถามเลย ก่อนจะหันมาสูบบุหรี่แล้วก็คุมงานต่อ คฤหาสน์ “ ไอ้อาเธอร์ ยูก็เบาๆมือหน่อยสิว่ะ ยูเล่นไม่ปราณีน้องเขาเลยน้องเขาก็ตายสิว่ะ “ หมอหนุ่ม หน้าตาดีดูเหมือน ว่าจะสนิทกับมาเฟี
댓글