“นายครับ คืนนี้มีงานประมูลเพชรการกุศลสนใจจะเข้าร่วมมั้ยครับ”เจมส์ผู้ช่วยส่วนตัวถามเอริค
“ไปสิ”เอริคตอบเสียงเรียบ “คุณนิต้าที่กำลังเป็นข่าวกับนายอยู่ตอนนี้ก็ไปร่วมงานนี้ด้วยนะครับ ผมเกรงว่าคุณแอนนาจะไม่พอใจเอานะครับ” “ดี งั้นนัดนิต้าให้เข้างานพร้อมกัน” “นายถ้าเป็นข่าวจะเป็นเรื่องใหญ่เอานะครับ เดี๋ยวคุณแอนนาจะไม่พอใจนะครับ” “นั่นแหละสิิ่งที่ผมต้องการ แม่จะได้เลิกจับคู่ผมกับยายหมูอ้วนซักที” “คุณเกวลินเธอไม่อ้วนแล้วนะครับนาย รูปที่คุณแอนนาส่งมาให้ล่าสุดเธอสวยมากๆเลยนะครับ” “นายชอบก็จีบเอาสิ”เอริคก็ยังตอบลูกน้องแบบไม่สนใจใยดีอะไร “แต่เธอเป็นคู่หมั้นนายนะครับ” “คู่หมั้นที่แม่เลือกเองน่ะสิ ผมไม่ได้เห็นด้วยซักหน่อย” ในวัยเด็กแอนนาแม่ของเอริคและแม่ของเกวลินเป็นเพื่อนรักกัน สองครอบครัวหมั้นหมายลูกๆให้กันตั้งแต่พวกเขายังเป็นเด็ก ในตอนนั้นเอริคไม่เคยเห็นด้วยกับการหมั้นหมายนี้เลย เพราะเขาไม่ชอบ เกวลินเป็นที่สุด เด็กอะไรกินเก่งแถมยังขี้แยอีกต่างหาก พวกเขาเจอกันล่าสุดตอนเอริคอายุ 21 ปีซึ่งในตอนนั้นเกวลินอายุเพียง 13 ขวบภาพจำของเขาที่มีต่อเธอจึงไม่ค่อยดีนัก ยิ่งพอรู้ว่าจนถึงตอนนี้แม่ของเขาก็ยังไม่ละความพยายามที่จะให้เขาแต่งงานกับเธอเขาก็ยิ่งไม่พอใจที่โดนคลุมถุงชนแบบนี้ เขาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้งานแต่งงานระหว่างเขากับเธอไม่เกิดขึ้น เอริคเลือกควงสาวไม่ซ้ำหน้า เพราะต้องการให้ภาพลักษณ์ออกไปว่าเขาเป็นเพลย์บอย คบผู้หญิงไม่เลือก แต่จริงๆแล้วเขาเป็นคนหวงตัวมากๆ ผู้หญิงที่เขาเคยควงอย่างมากก็ได้แค่จับมือหรือคล้องแขนเท่านั้น ทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขาต่างก็รู้ดีว่าเขาเป็นคนไม่มีหัวใจ ไม่ยอมเปิดใจคบใครจริงๆจังๆซักคน แต่ในทางกลับกันผู้หญิงที่เข้าหาเขาต่างก็มีความหวังว่าซักวันจะเอาชนะใจเขาให้ได้ เพราะผู้ชายคนนี้เป็นคนที่เพียบพร้อมในทุกด้าน ทั้งรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลายังกับพระเอกละคร หุ่นที่แซ่บเหมือนนายแบบ หน้าที่การงานก็ดีและที่สำคัญคือรวยมาก “คุณดูลูกชายตัวดีของเราสิ ควงผู้หญิงออกงานอีกแล้วชั้นจะเป็นลม”แอนนาบ่นพลางยื่นมือถือให้สามีดูข่าว “อายุก็ 31 แล้วยังทำตัวแบบนี้อยู่อีกฉันล่ะกลุ้มใจจริงๆค่ะ ควงสาวไม่ซ้ำหน้าแต่กับคู่หมั้นตัวเองไม่เคยสนใจเลย เฮ้อ…..” “เอาน่า คุณก็ใจเย็นๆลูกแค่ยังรักสนุกอยู่” “รักสนุกมา 31 ปีแล้วนะคะ เมื่อไหร่เราจะได้อุ้มหลานกันซักที” “เอาอย่างนี้ดีมั้ย หนูเกลก็เรียนจบแล้วเราให้หนูเกลกลับไปทำงานกับเจ้าลูกตัวแสบของเราดีมั้ย” “จริงด้วย เป็นความคิดที่ดีจริงๆค่ะ ไม่ได้ละฉันต้องนัดหนูเกลกับแม่ของเธอมาคุยกันแล้ว ช้ากว่านี้เราจะอดได้ลูกสะใภ้ดีๆแบบนี้เอา” ….ร้านอาหาร…. “น้องมาลาทางนี้จ้า” “พี่แอนนาสวัสดีค่ะ” “ป้าแอนนาสวัสดีค่ะ”มาลาและเกลทักทายป้า แอนนา “นั่งๆๆ ไม่ต้องพิธีรีตองมากหรอกคนกันเองทั้งนั้น” หลังทานข้าวเสร็จป้าแอนนาก็เข้าเรื่องทันที มาลาเองก็ทราบเรื่องมาบ้างแล้วเพราะป้าแอนนาโทรไปเล่าให้ฟังแต่ไม่อยากตัดสินใจแทนลูกสาว วันนี้จึงนัดเธอมาคุยกับแอนนาเพื่อให้เกวลินเป็นคนตัดสินใจเอง “หนูเกลจ๊ะ คือป้ามีเรื่องจะขอร้องน่ะลูก” “คะ ขอร้องหนูหรอคะคุณป้า” “ใช่จ่ะ มีแค่หนูคนเดียวที่จะช่วยป้าได้ ตอนนี้ป้ากลุ้มใจมาก” “คุณป้ามีเรื่องร้อนใจอะไรคะถ้าเกลช่วยได้ เกลพร้อมจะช่วยเต็มที่เลยค่ะ” “เรื่องนี้เกลช่วยป้าได้แน่นอน เพราะเกี่ยวกับหนูโดยตรง เอ่อ คือตอนนี้หนูเกลก็เรียนจบแล้ว ป้าอยากขอให้กลับไปทำงานเป็นเลขาที่บริษัทพี่เอริคเค้าน่ะลูก” “เลขา!!!ไม่ดีมั้งคะ”เกวลินอุทานด้วยความตกใจ “ดีสิจ๊ะ อีกอย่างพวกหนูสองคนก็หมั้นหมายกันมานานแล้ว ป้าอยากให้ไปเรียนรู้กันและกันจริงๆซักที ป้าอยากให้เกลกลับไปทำงานกับพี่เค้าและพักที่บ้านเอริคด้วยน่ะจ่ะ” “คุณป้า หนูกับพี่อีตา…เอ่อ…พี่เอริคเราไม่ได้เจอกันนานแล้วนะคะและอีกอย่างทุกครั้งที่เจอเราก็ไม่เคยคุยกันดีๆสักครั้ง น่าจะไม่ไหวมั้งคะ” “หนูเกล ตอนนี้ป้ากับลุงก็แก่ลงเต็มที มีลูกชายคนเดียวก็ทำให้เป็นห่วง ไม่รู้ว่าก่อนตายจะได้เห็นลูกชายเป็นฝั่งเป็นฝามั้ย จะมีผู้หญิงดีๆมาดูแลรึป่าวก็ไม่รู้”ป้าแอนนาตีหน้าเศร้าเรียกคะแนนสงสารจากหลานสาว “คุณป้า….”เกวลินหนักใจ เพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับเอริค เดิมทีเธอตั้งใจว่าเรียนจบจะทำงานที่อังกฤษไม่กลับเมืองไทย ส่วนนึงก็เพราะไม่อยากเจอคู่หมั้นของตนเอง เธอคิดว่าอยู่แบบนี้ต่อไปผู้ใหญ่ก็คงจะเลิกล้มความคิดที่จะให้เขาและเธอแต่งงานกันเอง แต่ที่ไหนได้เธอกลับคิดผิดโดยสิ้นเชิง “เอาอย่างนี้ ป้าขอร้องให้หนูเกลไปอยู่ที่บ้านกับพี่เอริคหกเดือน ถ้าครบหกเดือนแล้วพวกหนูทั้งคู่ยังไม่ชอบกันอยู่ ป้าก็จะถอนหมั้นให้หนูดีมั้ยจ๊ะ”ป้า แอนนายื่นข้อเสนอให้เกวลิน เธอคิดว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกันอดทนแค่หกเดือนแลกกับอิสระของเธอทั้งชีวิต หากไม่ใช่เพราะคำสัญญาที่พ่อเธอขอไว้ก่อนสิ้นใจ เธอไม่มีทางทนอยู่ในสภาพแบบนี้แน่ “พี่แอนนาว่ามันจะดีหรอคะที่เราทำกับลูกแบบนี้ ลูกๆจะไม่อึดอัดกันหรอคะ”มาลาถามแอนนาด้วยความกังวลใจ หลังเกวลินลูกสาวของเธอขอตัวออกไปพบเพื่อนแล้ว “ไม่หรอกเชื่อพี่ พี่ว่าพี่มองคนไม่ผิดยังไงซะเด็กสองคนนี้ต้องลงเอยกันแน่นอน” “บอกตามตรง มาลามองไม่เห็นทางเลยค่ะ” “เชื่อสายตาพี่ ไม่ต้องกังวลเรื่องเด็กๆเค้าแล้ว เราไปนวดให้ผ่อนคลายสบายใจดีกว่าพี่จองร้านไว้แล้ว”แอนนาพูดกับมาลาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและท่าทางที่มีความสุข“เป็นไงบ้างคะเหนื่อยมั้ย เจนแวะเอาข้าวมาให้”เจนถือกล่องข้าวเที่ยงเดินเข้ามาหาเจมส์ในห้องทำงาน“เหนื่อยนิดหน่อยครับ ยังต้องปรับตัวอีกเยอะ แต่มีกำลังใจดีอย่างนี้พี่สู้ตาย”เจมส์เดินเข้าไปกอดและหอมเจนหลายฟอดตอนนี้เป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้วที่เจมส์ออกมาดูแลบริษัทใหม่ที่เอริคสร้างไว้ให้ เขาทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจอย่างหนักเพื่อเรียนรู้งาน ไม่ใช่เพียงเพื่อตัวเองเท่านั้นแต่เขายังไม่อยากให้คนที่ไว้ใจและเชื่อใจเขามากที่สุดอย่างเอริคต้องผิดหวัง เจนที่รับรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีจึงคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆเสมอ “หวานเกินไปแล้ว”เอริคที่พึ่งเปิดประตูเข้ามาแซวคนทั้งคู่“พี่มาได้ไงครับ”เจมส์รีบผละออกจากเจนทันที“ได้ยินข่าวว่ายุ่งเลยแวะมาดู แต่ได้กำลังใจดีขนาดนี้น่าจะไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วมั้ง”“กำลังใจดีครับ แต่เรื่องงานก็ยังต้องปรึกษาพี่อยู่ดี”“กำลังใจอะไรคะเกลได้ยินไม่ถนัด”เกวลินที่พึ่งถือถุงอาหารเดินตามมาถามทุกคน“ก็คนที่เรากำลังห่วง ดูท่าจะไม่ต้องการเราแล้ว”เอริคยังแซวเจมส์ไม่เลิก“พี่เอริคก็แซวเกินไปค่ะเจนเขินไปหมดแล้ว”เจนพูดติดตลกกับทุกคน ทำเอาคนอื่นๆพลอยหัวเราะไปด้วย“ใช่ค่ะ พี่ก็แซวเกินไป แต่แกก็หวา
“เกลเสร็จยัง”“มาแล้วค่ะ”วันนี้ทั้งคู่มีนัดแคมป์ปิ้งกับเจมส์และเจน เมื่อ เอริคขนของขึ้นรถเรียบร้อยแล้วจึงเรียกภรรยาที่ตอนนี้ยังแต่งตัวไม่เสร็จ“เร่งจัง เกลเลือกชุดอยู่”เกวลินที่พึ่งแต่งตัวเสร็จรีบวิ่งลงมาหาสามีข้างล่างหาพร้อมกับชุดเอี๊ยมสีน้ำตาลน่ารัก“สวยแล้ว แต่งอะไรขนาดนั้นพี่หวง วันนี้เมียพี่แต่งตัวน่ารักจัง”เขาบอกภรรยาหลังจากมองสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าและดึงเธอเข้าไปกอดและหอมอย่างหมั่นเขี้ยว “อื้อ พอแล้วค่ะเครื่องสำอางลบหมดแล้ว”“เมียพี่ถึงไม่แต่งก็สวย อย่าสวยให้มันมากนักพี่ไม่ชอบให้คนอื่นมอง”“ขี้หวง ไปกันได้แล้วค่ะเดี๋ยวถึงช้ายัยเจนจะบ่นเอา”ทั้งคู่ใช้เวลาเดินทางเกือบสามชั่วโมงก็ถึงสถานที่ แคมป์ปิ้ง โดยมีเจมส์และเจนที่รออยู่ก่อนหน้าแล้ว “ยัยเกลทางนี้”เจนโบกมือเรียกเพื่อนรัก“สดชื่นจังเลยอากาศดีมาก”เกลคุยกับเพื่อนรักเมื่อเดินมาถึงเดิมทีวันนี้เอริคกับเจมส์อยากมากางเต้นท์นอนแต่กลัวสาวๆลำบากเกินไปจึงเลือกที่แคมป์ปิ้งที่มีรถบ้าน จะได้สะดวกสบายหน่อยหากสาวๆชอบครั้งหน้าถึงจะพาพวกเธอไปกางเต้นท์นอน“รถบ้านก็น่าอยู่จัง ข้างในสวยมากเลยพี่เอริคมาดูทางนี้ค่ะ”เกวลินที่ตื่นเต้นกับทุกสิ่
…ก๊อก ก๊อก ก๊อก…“พี่เจมส์มีอะไรคะ”เจนนึกแปลกใจที่เจมส์มาเคาะประตูกลางดึกแต่เมื่อถามไปก็ไม่มีเสียงตอบกลับจึงเดินออกมาเปิดประตูเจมส์ไม่พูดพร่ำทำเพลงเข้าไปจูบเธออย่างเร่าร้อนทันทีที่เห็นหน้าหญิงสาว“อื้อ คนบ้าเป็นอะไรคะ อยู่ดีๆมาเคาะห้องจูบคนอื่น”“เป็นคนที่รักเจนไงครับ”“นี่พี่ดื่มเหล้ามาหรอคะ พี่เมารึเปล่า”“ไม่เมาพี่แค่ย้อมใจ”“ย้อมใจทำไม”เจนถามเขาเสียงสั่นชายหนุ่มไม่ตอบแต่ก้มลงไปจูบเธอพร้อมกับผลักประตูออกและดันเธอเข้าห้อง เขาเลื่อนสองมือลงมาบีบเค้นสะโพกงามพลางจูบแลกลิ้นกับเธออย่างเร่าร้อน เจนที่โดนรสจูบของเขาเข้าไปถึงกับอ่อนระทวยยืนแทบไม่อยู่จนต้องใช้สองแขนโอบรอบคอเขาไว้“วันนี้พี่ขอได้มั้ย”“ขะ…ขออะไรคะ”“เป็นของพี่นะ”เขากระซิบข้างหูเธอด้วยเสียงกระเส่า“พี่เจมส์เจนไม่เคย”“พี่จะสอนเจนเองนะครับ”พูดจบเจมส์ไม่รอคำตอบประกบปากจูบเธอทันทีพร้อมกับดันหญิงสาวให้เดินไปนั่งบนเตียงก่อนจะอุ้มเธอขึ้นมานั่งบนตักตัวเองเจมส์ใช้สองมือบีบคลึงสองเต้างามของเจนจากด้านนอกก่อนจะสอดมือเข้าไปสัมผัสและบีบคลึงสองเต้าอวบอิ่มในชุดนอน“อื้อ”เจนสะดุ้งและร้องครางออกมา“หืม ไม่ได้ใส่เสื้อในด้วยจะยั่วพี่หรอ”“บ้า
เจมส์นั่งดื่มกับญาติๆของเจนจนดึกดื่นก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนพ่อกับแม่ก็เข้านอนกันหมดแล้ว เหลือเพียงเจนที่นั่งดูทีวีรอเขาอยู่ที่ห้องนั่งเล่น“ยังไม่นอนอีกหรอ”“รอพี่นั่นแหละ ดื่มอะไรขนาดนั้น ไปค่ะเดี๋ยวเจนพาไปดูห้องนอน”เจนพาเขาเดินขึ้นชั้นสองของบ้าน ข้างบนมีห้องนอนสองห้องคือห้องของเธอกับอีกห้องเอาไว้รับรองแขก ส่วนพ่อกับแม่นอนข้างล่างเพราะอายุมากแล้วเดินขึ้นข้างบนไม่ไหว“พี่นอนห้องนี้นะคะ ตรงนั้นห้องนอนเจนถ้าอยากได้อะไรก็บอก”“อยากได้เจน”“ไอ้พี่เจมส์บ้าเข้าห้องไปเลย”“งั้นขอพี่มัดจำไว้ก่อน”พูดจบเขาก้มลงประกบริมฝีปากจูบเธออย่างดูดดื่มทันที ก่อนจะผลักประตูห้องนอนของตัวเองและดึงเธอล้มลงไปนอนด้วยกัน“พี่กลัวผีคืนนี้นอนด้วยกันนะ”“ไม่เอา ปล่อยเลยเจนจะกลับห้อง”“สัญญาว่านอนกอดเฉยๆไม่ทำอะไร นะครับ”เจนที่แพ้ลูกอ้อนของเขาก็ยอมใจอ่อนตามใจเขาจนได้“งั้นก็รีบนอนค่ะ”เมื่อแสงจากแดดในยามเช้าส่องลอดผ้าม่านหน้าต่างเข้ามาทำให้เจนลืมตาตื่น เธอมองไปรอบๆก็ไม่พบเจมส์อยู่ในห้อง เจนเดินกลับห้องไปอาบน้ำและเดินลงไปข้างล่างเห็นเจมส์เดินถือผักเต็มตะกร้ากำลังกลับเข้าบ้านพร้อมพ่อของตน เธอมองดูทั้งคู่
“มีเรื่องอะไรรึป่าวคะ” เกวลินถามเอริคเมื่อเห็นเขาคุยโทรศัพท์ไปพลางมองหน้าเธอเป็นระยะ“ป่าว ไอ้เจมส์ไม่สบายโทรมาลางาน”“ตายจริง แล้วเป็นอะไรมากมั้ยคะ ไปหาหมอรึยัง”“ไม่ต้องห่วงมันหรอก มันมีคนดูแลแล้ว”“มีใครก็คุณเจมส์เค้าอยู่คนเดียวนี่คะ”“แฟน”“คุณเจมส์เค้ามีแฟนแล้วหรอ ก็ว่าช่วงนี้ดูสดใส เห็นคุยไลน์แล้วยิ้มอยู่บ่อยๆ ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันน๊า”“เดี๋ยวมันพร้อมก็บอกเองแหละ ไม่ต้องไปยุ่งเรื่องของเค้า”“รู้แล้วค่ะ แค่พูดเล่นเฉยๆ ทำเป็นจริงจังไปได้”เอริคได้แต่คิดในใจว่าถ้าเกวลินรู้เรื่องนี้เธอจะรู้สึกยังไง ใจนึงก็ดีใจกับเจมส์ที่มีคนมาอยู่เคียงข้างซักที เพราะเขาเองก็เป็นห่วงเจมส์มากเหมือนน้องชายแท้ๆ ตัวเองยิ่งก่อนหน้านี้เขาเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยยิ่งนึกเป็นห่วง พอรู้ว่าได้คนดีๆ มาดูแลเขาก็หายห่วง“อาบน้ำไหวมั้ยหรือจะให้เช็ดตัวให้ก่อน” เจนถามเจมส์หลังเห็นว่าเขาอาการดีขึ้นแล้ว“อาบได้ครับ”“งั้นก็ไปใช้ห้องน้ำข้างบน คืนนี้ก็นอนห้องตรงข้ามห้องเจนก็ได้ค่ะ เจนจัดห้องให้แล้วจะได้นอนสบายๆ หน่อย”“ขอบคุณครับ แฟนพี่น่ารักจัง”“ไปอาบน้ำได้แล้วค่ะจะได้ลงมาทานข้าวทานยา”“ค้าบ ไปเดี๋ยวนี้เลยค้าบ”เจมส์
แสงแดดยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่เข้ามาในบ้านทำให้เจนลืมตาตื่นขึ้นมา“อื้อ เมื่อยจังเลย”เจนบิดขี้เกียจและรู้สึกปวดเมื่อยนิดหน่อยเพราะนอนบนโซฟาทั้งคืน“กลิ่นอะไรหอมจัง”เธอสูดดมกลิ่นหอมของข้าวต้มที่โชยออกมาจากในครัวเจนเดินตามที่มาของกลิ่นหอมนี้มาถึงในครัวก็เห็นเจมส์กำลังง่วนกับการทำอาหารอยู่ เธอรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เขาทำอาหารเป็นท่าทางดูคล่องแคล่วใช้ได้ทีเดียว เจนยืนกอดอกพิงประตูมองเขาอยู่อย่างนั้น“จะมองอีกนานมั้ยครับคุณนาย”“คะ..ใครมอง ไม่มี๊ เอ่อเจนแค่มาหาน้ำดื่ม”เมื่อโดนจับได้เจนจึงรีบเฉไฉแก้เขินรีบเดินไปเปิดตู้เย็นหาน้ำดื่มเจมส์ยิ้มเอ็นดูกับท่าทางของเธอก่อนเดินมาซ้อนหลังเจนและก้มลงช่วยเธอหยิบขวดน้ำ เมื่อเธอเห็นมือเขาเอื้อมมาหยิบขวดน้ำก็รีบปล่อยพร้อมทั้งปิดประตูตู้เย็นหันกลับไปหาคนข้างหลังทันที“เจนหยิบเองก็ได้”“พี่หยิบมาดื่มเอง พี่ก็หิวน้ำเหมือนกัน”เจนที่ตอนแรกคิดว่าเขาจะหยิบน้ำให้ตัวเองก็อายที่เข้าใจผิดใช้กำปั้นทุบอกเขารัวๆ จนเจมส์ต้องจับข้อมือเธอไว้และดันหลังเธอติดกับตู้เย็น“พี่ล้อเล่น อ่ะให้เจนนั่นแหละ”เขายิ้มบอกเธอ“แกล้งเจนอีกแล้วนะ”เจนบ่นเขาพร้อมกับยื่นมือไปรับน้ำดื่