“ว่าแต่ณินเรียนคณะอะไรเหรอลูก เป็นยังไงบ้าง เห็นว่าเข้ามหาวิทยาลัยปีแรก” คุณอาฐาเบนความสนใจมาที่ญาณินทันทีที่เห็นว่าเธอมัวแต่ก้มหน้าและเงียบไปสักพักหนึ่งแล้ว
“อ๋อ...ตอนนี้หนูเรียนอยู่ที่สถาปัตย์น่ะค่ะ ปีแรกก็เหนื่อยหน่อยค่ะ เพราะว่ากิจกรรมค่อนข้างเยอะ แต่ก็พอที่จะปรับตัวได้อยู่ค่ะ”
“อ้าว จริงเหรอ ลูกชายของอาเรียนอยู่วิศวะฯ พอดีเลย พอเรียนจบทำงานด้วยกันก็คงจะดีสินะ ว่าไหม”
พูดจบก็หันไปถามความเห็นแม่ของญาณิน ซึ่งก็ดูเหมือนว่าเธอจะเห็นดีเห็นงามด้วยเช่นกัน
“จริง ๆ คณะสถาปัตย์กับคณะวิศวะฯ ก็ไม่ค่อยถูกกันสักเท่าไร เป็นแบบนี้กันมาแต่ไหนแต่ไรแล้วละค่ะ แต่สุดท้ายก็ต้องมาทำงานด้วยกันอยู่ดี หวังว่าพี่เขาจะเข้ากับหนูได้นะคะ ถ้าในอนาคตต้องทำงานร่วมกันจริง ๆ”
“ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะจ๊ะ เพราะลูกอาเนี่ย เข้ากับคนค่อนข้างยากแถมยังไม่ค่อยสนโลก แต่เขาเรียนดีนะแล้วก็จริงจังกับงานมาก ๆ”
“ถ้าเรื่องงานโอเค ทุกอย่างก็จบค่ะ หนูคงไม่ก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวขนาดนั้นน่ะค่ะ”
พวกเขาสนทนากันอยู่พักใหญ่ ก่อนจะทานข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา อาหารมื้อนี้เต็มไปด้วยของโปรดของญาณิน แม่ของเธอเป็นคนจัดเตรียมไว้ให้ทั้งหมด
แต่สิ่งหนึ่งที่ญาณินไม่รู้เลย คือคุณอาทั้งสองเป็นพ่อและแม่ของรุ่นพี่คณะวิศวะฯ ที่เธอไม่ชอบขี้หน้า และยังเป็นคู่กัดกับเขาตั้งแต่แรกเจอ อันที่จริงในตอนแรกญาณินเองก็แอบสงสัยแต่ก็ไม่ได้คิดว่ามันจะบังเอิญกันได้ถึงขนาดนั้น จึงเลือกที่จะปล่อยผ่านไป ไม่ได้ซักถามรายละเอียดของลูกชายอีกบ้านให้มากกว่านี้หน่อย
แต่กลับเป็นแม่ของนอร์ทที่ถูกชะตากับหญิงสาวคนนี้เข้าเสียเต็มประดา เธอเล็งเห็นเสน่ห์บางอย่างในตัวของญาณิน และเชื่อว่าจะเข้ากันได้กับลูกชาย
เลยคิดว่าหากมีโอกาส คงจะนัดให้ทั้งสองได้เจอและพูดคุยกันสักครั้ง เผื่อว่าจะได้สานสัมพันธ์กันต่อเหมือนอย่างที่เธอได้ตั้งใจเอาไว้
เมื่อทานข้าวเสร็จเป็นที่เรียบร้อย พวกเขาก็กล่าวลากันอยู่สักพัก ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านตามปกติ
เมื่อญาณินมาถึงบ้านก็สาวเท้าเดินมาเอนหลังนั่งพักที่โซฟาในห้องรับแขกทันที ส่วนพ่อและแม่ของเธอก็เดินตามกันเข้ามาติด ๆ
“จริง ๆ ลูกชายบ้านนั้นก็ใช้ได้นะคะคุณ ถ้าจะให้ทำความรู้จักกับเจ้าณินเอาไว้ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี เผื่อว่าในอนาคตจะได้ทำงานร่วมกันจริง ๆ เราจะได้ฝากลูกไว้ได้โดยที่ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร คุณว่าไงคะ” ผู้เป็นแม่เดินเข้ามาพร้อมทั้งปรึกษากับสามีเกี่ยวกับเรื่องของลูกสาวไปด้วยในเวลาเดียวกัน
“ก็น่าจะดีนะ แต่ถามเจ้าตัวก่อนเถอะ ฉันเห็นแกนั่งเงียบตลอด เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“ก็เปล่านะคะ หนูแค่เหนื่อย ๆ เพลีย ๆ อีกอย่างหนูไม่ได้เตรียมใจจะไปนั่งให้ใครสัมภาษณ์ นึกว่าจะได้กินข้าวกันแบบส่วนตัวซะอีก”
“นี่ยายณิณ คุณอาฐากับคุณอาภพเขาเป็นถึงทูตเลยนะ ชื่อเสียงก็ดี ฐานะสูงพอ ๆ กับบ้านเรา และที่สำคัญลูกชายก็เก่งเอามาก ๆ สนิทกับเขาไว้น่ะ ยังไงก็มีแต่ดีกับดี เชื่อแม่เถอะ”
คนเป็นแม่ให้คำแนะนำกับลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนด้วยความหวังดี ตามจริงแล้วหากได้ปรองดองกับบ้านนั้น พวกเขาก็คงจะไม่ห่วงญาณินมากถึงเพียงนั้น อย่างน้อยก็วางใจกว่าการที่ต้องปล่อยให้ลูกสาวไปอยู่ในการดูแลของคนอื่น
“พ่อกับแม่ล้มเลิกความคิดที่จะหาคู่ให้ณินไปเลยนะคะ หนูไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้”
“พ่อกับแม่ก็ไม่ได้จะหาคู่ให้แกซะหน่อย ก็แค่ปรึกษากันเอาไว้ อนาคตหากพ่อกับแม่เป็นอะไรไป แกจะได้ไม่ต้องลำบาก ปรองดองกันไว้ก็ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหนเลย”
“ไม่เสียหายตรงไหนเลยก็จริง แต่ณินไม่ได้เต็มใจ ลูกชายนิสัยใจคอแท้จริงแล้วเป็นยังไง พ่อกับแม่ก็ยังไม่รู้เลย แบบนี้มันวางใจได้จริง ๆ อย่างนั้นเหรอคะ?”
เธอคิดไว้อยู่แล้วว่าการกลับมาบ้านต้องมีสักเรื่องที่ทำให้หนักใจไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง
ตั้งแต่ที่ผับชายหนุ่มเข้ามาเดินหน้าจีบเธอกันอย่างไม่ซ้ำหน้า ทว่าพ่อและแม่กลับจะจับคู่ให้เธอเสียได้ ญาณินรู้แบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเสีย จำต้องโต้ตอบกลับไปแบบนั้น
“ก็ลองดูก่อน คุณอาฐาดูถูกชะตากับแกมากถึงขนาดนั้น จะปล่อยให้โอกาสดี ๆ แบบนี้ผ่านไปเฉย ๆ อย่างนั้นเหรอ ไม่รู้แหละ แม่ไม่ยอม อย่างน้อยก็ต้องลองไปกินข้าวกับพี่เขาก่อนสักครั้งสองครั้ง แล้วค่อยมาตัดสินใจทีหลัง”
“แม่...แค่เรียนณินก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ณินว่าณินยังไม่พร้อมเรื่องนี้”
“ก็แค่ลองดูเฉย ๆ เอง ทำให้แม่ได้ไหม?”
หญิงสาวเจ้าของใบหน้างามหลบสายตา ญาณินใช้ความคิดอยู่สักพัก ใจหนึ่งก็อยากปฏิเสธแต่อีกใจก็เห็นใจผู้เป็นแม่ เท่าที่จำความได้เธอแทบไม่เคยขอร้องอะไรเลยสักอย่าง ไม่แปลกเลยว่าทำไมคำขอดังกล่าวถึงได้มีอิทธิพลต่อใจของผู้ฟังได้ถึงเพียงนี้
“โอเคค่ะ ลองดูก็ได้ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ณินขอตัวขึ้นไปอาบน้ำนอนแล้วนะคะ”
เมื่อตอบตกลงออกไปแล้ว ญาณินก็ตัดสินใจหนีหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองขึ้นห้องไปอาบน้ำนอนทันที
เธอพยายามไม่หงุดหงิดเวลาที่กลับมาอยู่บ้าน แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้อยู่ดี พ่อกับแม่ของเธอมักจะหาเรื่องมาให้หนักใจอยู่บ่อยครั้ง นี่ก็คงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ญาณินเลือกที่จะออกไปอยู่หอคนเดียวโดยที่ไม่คิดลังเลเลยแม้แต่น้อย
“ผู้ชายคนนั้นเป็นใครก็ไม่รู้ ให้ทำความรู้จักกันยังพอว่า แต่จะให้ดองกันเนี่ยนะ พ่อกับแม่คิดอะไรอยู่กันแน่”
หญิงสาวหย่อนกายลงนั่งที่บริเวณปลายเตียง ก่อนจะบ่นลอย ๆ ขึ้นมาด้วยความไม่เข้าใจ แต่ถึงกระนั้นเธอเผลอรับปากผู้เป็นแม่ไปแล้ว ถ้าจะให้กลับคำก็คงจะกระไรอยู่...
ตอนที่ 18หลังจากวันนั้น ญาณินก็กลับมาใช้ชีวิตคนเดียวที่หอเหมือนอย่างเดิม เธอรู้สึกสบายใจขึ้นมากที่ไม่ทนฟังคำร้องขอในวันนั้นของผู้เป็นแม่ ถึงจะรู้ดีว่าสุดท้ายต้องทำตามก็เถอะ...วันนี้เป็นเช้าวันใหม่ที่แสนสดใส หญิงสาวเจ้าของร่างเพรียวตื่นสายได้นิดหน่อยเพราะว่าเป็นหยุดสุดสัปดาห์ ไม่มีเรียนเหมือนอย่างทุกวันที่ผ่านมา จึงวางแพลนไว้ว่าเช้านี้จะไปเดินห้าง ซื้อเสื้อผ้าแล้วก็เครื่องสำอางดูสักหน่อย เผื่อว่าจะมีลุกใหม่ ๆ ให้ลูกค้าที่ผับได้ดูเป็นอาหารตาบ้างญาณินเดินทางมายังห้างสรรพสินค้าใกล้หอที่เธอพักอยู่เป็นประจำโดยใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ถ้าเทียบกับการจราจรที่กำลังติดขัดบนท้องถนนแล้วถือว่าเธอใช้เวลาไม่นานเท่าไรนักก็มาถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยหญิงสาวในคราบชุดกระโปรงยาวคลุมหัวเข่าอย่างมิดชิดเดินตรงดิ่งไปยังเชลฟ์เครื่องสำอาง แต่ก่อนเธอไม่ค่อยได้สนใจเรื่องพวกนี้เท่าที่ควร มีอะไรก็ใช้ ๆ ไป ไม่ได้คิดมากเหมือนกับตอนนี้เลยสักนิดแต่ทว่าในเวลานี้เธอไม่ใช่คนที่ใคร ๆ ก็ตั้งชายาให้เป็นยายเฉิ่มอย่างเดียวอีกแล้ว เพราะเธอยังอีกฉายานั่นก็คือดีเจสาวสุดแซ่บ หากจะให้ใช้แต่ของเดิมวนซ้ำไปซ้ำมาก็ดูจะยังไง ๆ อยู
ตอนที่ 19ถ้าหากว่าเขารู้แล้วจริง ๆ อย่างที่คาดเดาเอาไว้ ยังไงเธอก็ต้องเจรจากับเขา ว่าจะไม่แพร่งพรายออกไปให้คนอื่นรู้เป็นอันขาด“ไม่เป็นไรครับ ถ้ารีบ ก็ไปเถอะครับ ผมเองก็กำลังรีบอยู่เหมือนกัน”“ขอบคุณค่ะ ถ้าอย่างนั้นขอตัวก่อนนะคะ”พูดจบได้เพียงเสี้ยววินาที เธอหันหลังให้กับเขาพร้อมกับสวมแว่นที่ใช้ในชีวิตประจำวันให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมจากนั้นก็วิ่งหายเข้าไปด้านหลังเวทีด้วยความรวดเร็วนอร์ทที่ยังยืนอยู่บริเวณเดิม แปลกใจเล็กน้อยที่หญิงสาวคนนั้นมีอาการและท่าทีที่ดูผิดปกติ แต่ไม่นานเขาก็สะบัดไล่ความคิดเหล่านั้นทิ้งไปจนหมด ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วเดินจากไปทันที...เมื่อวิ่งมาจนพ้นสายตาของนอร์ทแล้ว ญาณินก็ถึงกับหายใจหอบ เธอยืนพิงผนังกำแพงข้างเวทีอยู่พักใหญ่ ๆ“เกือบไปแล้วไหมล่ะไอ้ญา...ว่าแต่พี่เขาจำฉันไม่ได้จริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?”เมื่อความเหนื่อยค่อย ๆ หายไปความสงสัยก็คลืบคลานเข้ามา ทั้งที่เตรียมถูกจับได้เอาไว้แล้วแท้ ๆ แต่นอร์ทกลับไม่แม้แต่จะเอะใจหรือทักท้วงอะไรขึ้นมาเลยสักนิดเดียว เขาปล่อยผ่าน และทำเหมือนว่าเป็นคนแปลกหน้ากันจริง ๆดูท่าการที่เธอเปลี่ยนลุกไปแบบนี้จะสามารถปกปิดสาวเฉิ
ตอนที่ 20เมื่อผลสอบออกมาเป็นที่น่าพอใจ ญาณินก็ถูกชวนให้ไปงานเลี้ยงฉลองกับเพื่อนในสาขา ซึ่งก็เป็นเพียงการไปทานอาหารมื้อเย็นด้วยกันเฉย ๆ ไม่ได้มีอะไรที่พิเศษมากไปกว่านั้นแต่อย่างใด“การสอบผ่านพ้นไปแล้ว ใครที่คะแนนดีก็ยินดีด้วยส่วนใครที่คะแนนยังไม่เป็นที่น่าพอใจก็ไว้ค่อยแก้ตัวกันใหม่ ทุกคน ชนแก้ว!”เสียงของกลุ่มเพื่อนในสาขาเดียวกันดังสวนขึ้นมาเพื่อปลุกใจให้กับทุก ๆ คนที่ได้ผ่านการสอบไฟนอลมาแล้วเป็นที่เรียบร้อย มีทั้งสมหวังและผิดหวังปะปนกันไป แต่ชีวิตต้องไปต่อ จะมัวจมปลักอยู่กับอดีตไม่ได้เด็ดขาดวินาทีนั้นเสียงแก้วกระทบกันลั่นไปทั่วบริเวณ เพื่อบ่งบอกถึงการร่วมกันเฉลิมฉลองเนื่องจากโอกาสปิดภาคเรียนญาณินอยู่จนงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้เลิก เธอรู้สึกมึน ๆ นิดหน่อยเพราะดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปก่อนหน้านี้ แต่ถือว่ายังดีที่มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน ไม่เหมือนกับเพื่อนคนอื่น ๆ ที่เมากันจนหมดสภาพในขณะเดียวกัน สายเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือของหญิงสาวดังขึ้น เธอรีบหยิบมันขึ้นมาเช็กดู ก่อนจะพบว่าต้นสายคือ เก้า เพื่อนสนิทสมัยมัธยมที่ตอนนี้ทำงานอยู่ที่เดียวกันมาได้สักพักหนึ่งแล้ว...“ว่าไงเก้า”“นี่แกลืมหรือเปล่า ว่
ตอนที่ 21ชายหนุ่มนิรนามเอ่ยเจตนาของการเข้ามาทักทายในครั้งนี้ออกไปตามตรง ไม่มีอ้อมค้อม ส่งผลให้ผู้ฟังชะงักงันไปชั่วครู่ เธอใช้ความคิดอยู่สักพักใหญ่ ๆ ก่อนจะให้คำตอบอีกฝ่ายกลับไปอย่างเน้นหนักและเด็ดขาด“คงไม่ได้หรอกค่ะ ฉันไม่ได้ให้ช่องทางติดต่อส่วนตัวกับใคร เพราะนี่คือที่ทำงาน อีกอย่างฉันเองก็ยังคงประจำอยู่ที่นี่ ไม่สามารถรับงานอื่นทับซ้อนกันได้หรอกค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ แต่ไม่สะดวกจริง ๆ ค่ะ”“อ๋อ ถ้าอย่างนั้นไม่เป็นไรครับ ขอตัวก่อนนะครับ”ทั้งที่มีคนเข้ามาไม่หยุดหย่อน แต่กลับไม่มีใครได้อะไรจากเธอเลยสักอย่าง ญาณินไม่สนใจคนพวกนั้น เพราะรู้ดีว่าเจตนาที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ ซึ่งเธอไม่ได้คิดที่จะเล่นด้วยแต่อย่างใดหรือจะให้พูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่มีใครสักคนที่ทำให้เธอรู้สึกถูกชะตา จนอยากสานต่อ“ฮอตจนไฟลุกก็คนนี้แหละว่ะ เราเห็นใครเข้ามาแกก็ปฏิเสธทุกคนเลยอะ ปิดใจอยู่เหรอ”เก้าที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ถึงกับต้องเอ่ยทัก เมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทของตนดูเฉยชากับความรักเหลือเกินตั้งแต่ที่รู้จักกันมา เขาก็แทบไม่เคยเห็นญาณินคบกับใครเลยสักคน แม้แต่คนคุยเพื่อดู ๆ ใจกันก็ยังไม่มีมาให้เห็นเลยด้วยซ้ำ“ก็เปล่านะ เปิดตลอ
ตอนที่ 22หลังจากที่ดื่มไปสักระยะ ญาณินขอตัวออกไปเข้าห้องน้ำ ก่อนจะกลับมาที่โต๊ะในเวลาต่อมา แต่ทว่าหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้ได้ยังไม่ทันไร อยู่ ๆ ก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายเธอเป็นคนที่สามของค่ำคืนนี้ “สะดวกคุยไหมครับ ผมอยากทำความรู้จักกับคุณสักหน่อย”ญาณินเงยหน้าขึ้นเพื่อมองอีกฝ่ายพร้อมกับปฏิเสธ หากแต่เมื่อสายตาเบนขึ้น ก็เผยให้เห็นใบหน้าของชายคนที่เธอรู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดี เพราะเขาคือ นอร์ท... “คะ? หมายถึงฉันเหรอคะ?” “ก็ใช่น่ะสิครับ ผมสนใจอยากรู้จักด้วย จะได้ไหมครับ?”นอร์ทเอ่ยถามหญิงสาวเบื้องหน้าอย่างมีมารยาท ดูนอบน้อมไม่เหมือนชายหนุ่มรุ่นพี่ที่ปากจัดคนนั้นเลยแม้แต่น้อย “ก็...คงได้มั้งคะ”น้ำเสียงที่ใช้ตอบกลับไปตะกุกตะกักทั้งยังฉายแววประหม่าเอาไว้อย่างเห็นได้ชัด เธอเองก็กังวลกลัวว่าเมื่อใดพูดคุยกันแล้ว นอร์ทจะจับได้ว่าแท้จริงแล้วเธอคือใครกันแน่ หากเป็นเช่นนั้นคงได้ผับแตกแหง ๆ “ผมนั่งด้วยได้ไหมครับ” “ได้ค่ะ...เชิญนั่งเลย”เมื่อคำตอบดังกล่าวเล็ดลอดออกมาจากปากของญาณิน เพื่อน ๆ ที่ทั้งอยู่ในโต๊ะเดียวกันก็ถึงกับวางแก้
ตอนที่ 23นอร์ทปรึกษาเพื่อน ๆ ในกลุ่ม เมื่อเห็นว่าพวกเขาก็ดูจะสนใจในตัวของดีเจญาญ่าไม่ต่างกันแต่เมื่อครู่ตอนที่เขาไปพูดคุยเพื่อตีสนิทด้วย นอร์ทกลับรู้สึกแปลกประหลาด สงสัยว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไรกันแน่ ตอนที่เห็นเขาเดินเข้าไปทำไมถึงได้ดูตกใจแล้วก็เสียอาการถึงเพียงนั้น“เอาจริง ๆ กูก็รู้สึกคุ้น ๆ หน้าดีเจคนนี้มาตั้งแต่แรกแล้วนะ แต่กูก็คิดว่าตัวเองคงคิดไปเอง เลยไม่ได้ถามความเห็นจากพวกมึงด้วย มึงว่าคุ้น ๆ เหมือนเรารู้จักป้ะ?” เพื่อนอีกคนในกลุ่มพูดสวนขึ้นมาท่ามกลางแสงสีเสียงของตัวผับ“เออ ก็คุ้น ๆ นะ แต่บอกไม่ถูกว่าเป็นใครอะ เหมือนจะรู้จัก แต่ก็เหมือนว่าจะไม่ใช่ แปลกว่ะ”วีเอ่ยขึ้นเพื่อสมทบความเห็นของเพื่อนคนนั้น ก่อนจะหันหลังกลับไปมองดีเจสาวคนสวยให้แน่ใจอีกครั้ง ว่าเธอใช่คนที่พวกเขารู้จักจริงอย่างที่กำลังตั้งข้อสงสัยกันอยู่หรือไม่“ก็มันแปลก แต่กูเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันแปลกตรงไหน ช่างเหอะว่ะ เสียเวลา ยังไงก็น่าจะไม่ใช่คนที่เราสนิทกันมาก ๆ หรอก ไม่เห็นจะคุ้นหน้าเลย”นอร์ทตัดสินใจที่จะเปลี่ยนเรื่อง เพราะเห็นว่าสงสัยไปก็เสียเวลาเปล่า ถึงจะคุ้นหน้าแต่สุดท้ายก็บอกไม่ได้อยู่ดีว่าเธอเป็นใ
ตอนที่ 24เมื่อวานญาณินค่อนข้างเหน็ดเหนื่อยกว่าปกติ เลยทำให้เช้าวันนี้เธอตื่นสาย จึงทำให้เหลือเวลาในการเตรียมตัวไปมหาวิทยาลัยน้อยลงกว่าเดิม เกือบ ๆ หนึ่งชั่วโมงแต่ด้วยความเคยชิน หลังจากที่ลืมตาตื่นมาได้หมาด ๆ หญิงสาวก็รีบมุ่งตรงไปยังสถานศึกษาที่อยู่ไม่ไกลจากหอพักมากเท่าไรนักทันที ทว่ามาถึงใต้ตึกคณะของตัวเองได้ยังไม่ทันไร แตงกวาก็ดันชวนเธอไปตึกวิศวะฯ อีกจนได้“น้า...ญา ไปเป็นเพื่อนหน่อย เราลืมเลกเชอร์ไว้ที่พี่วีอะ ต้องรีบไปเอา แต่ไม่กล้าไปคนเดียว”“ไม่เอาอะ แกก็ให้พี่วีเอามาให้สิ ฉันไม่อยากไปเจอพี่นอร์ท แกก็รู้”แน่นอนว่าคำตอบของญาณินคือการปฏิเสธกลับไปอย่างไม่ลังเล เมื่อคืนเพิ่งจะหนีกลุ่มนั้นมาเสียหัวซุกหัวซุน ยังไงเธอก็ไม่มีทางไปสู้หน้าพวกเขาหรอก ไม่อย่างนั้นคงถูกจับได้แหง ๆ“ไปแป๊บเดียว ไม่เจอหรอกน่า”แตงกวายังคงขอร้องให้หญิงสาวข้างกายไปที่ศึกคณะวิศวะฯเป็นเพื่อน เพราะไม่อยากไปคนเดียว กลัวว่าจะกลายเป็นที่จับตามองของคนในคณะนั้นแล้วทำตัวไม่ถูกแต่กลับลืมไปว่าญาณินเกลียดการไปที่นั่นอย่างถึงที่สุด“กวา...ถ้ายังอยากเป็นเพื่อนกันอยู่ ก็ให้พี่เขาเอามาให้ มาคนเดียวด้วย”ญาณินเริ่มหัวเสีย เมื
ตอนที่ 25แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะปกปิดไปตลอดเสียเมื่อไหร่กัน หากเธอพร้อมตอนไหน เธอก็จะบอกกับแตงกวาก่อนเลยเป็นคนแรก“โอเค เข้าใจแล้ว แต่สัญญาก่อนว่าคราวหน้าจะต้องไปด้วยกัน คนเราก็ต้องมีสังคมหน่อยสิ เรียนเสร็จกลับหอนอน แบบนี้มันได้ที่ไหนกัน ถ้าเรียนจบแล้วต้องไปทำงานพวกเราก็จะไม่ได้มีโอกาสแบบนี้แล้วนะ แกลองเอากลับไปคิดดู วันนี้ฉันกลับหอแล้ว คงไม่ได้ไปเหมือนกัน อยากไปพร้อมกับแก เคนะ”“อื้ม ไว้เจอกันนะ เดี๋ยวไว้ไปด้วยกันก็ได้”“อืม บาย พรุ่งนี้เจอกัน”ทั้งสองร่ำลากันอยู่สักพักก่อนที่จะแยกย้ายกลับหอตามที่พูดคุยกันเอาไว้ทันทีซึ่งเหตุผลที่ญาณินปฏิเสธก็เพราะเธอจำเป็นจะต้องไปทำงานตอนกลางคืน ยังถือว่าโชคเข้าข้างที่แตงกวาปฏิเสธแฟนหนุ่มเธอไปแล้ว ไม่อย่างนั้นก็อาจจะถูกแตงกวาจับได้แน่ ๆ คนที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันในระดับหนึ่ง คงสังเกตเห็นได้ไม่ยากเท่าไรสามชั่วโมงผ่านไป...หญิงสาวเจ้าของร่างเพรียวกลับมาอาบน้ำแต่งตัว แปลงโฉมเป็นดีเจสาวสุดแซ่บเหมือนอย่างทุก ๆ คืนที่ผ่านมา กิจวัตรประจำวันของญาณินวนลูปอยู่แบบนี้ติดต่อกันมานานถึงสองเดือนเต็มเธอรู้สึกเหนื่อยในทุก ๆ วัน เพราะตอนเช้าต้องตื่นไปเรียนโดยที่ยังเป็นลุกสา
ตอนพิเศษ 5เขาว่ากันว่าเวลาของความสุขมักผ่านไปไวเสมอ ญาณินเองก็เพิ่งมาเจอกับตัวเองเอาก็วันนี้ จากวันที่คลอดลูกชายออกมาจนถึงตอนนี้เป็นเวลาเกือบๆ สี่ปีแล้ว หลังจากที่ลูกชายรู้เรื่องและเข้าโรงเรียนแล้ว ความวุ่นวายก็ทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัว“แม่ครับ พ่อไม่ยอมแวะร้านค้าให้เหนือ ทั้งที่สัญญาเอาไว้แล้วว่าถ้าเหนือสอบได้คะแนนดีจะให้ซื้อของเล่นได้” เด็กชายวิ่งดุ่มๆ เข้ามาหาผู้เป็นแม่ทันทีที่กลับมาถึงบ้านและมีเรื่องผิดใจกับนอร์ทมาตลอดทาง“แล้วพ่อบอกว่าอะไรครับ ทำไมถึงไม่แวะ”“ก็เพราะว่าเหนือสอบได้คะแนนดี แต่ครูประจำชั้นแจ้งว่าเล่นแรงๆ กับเพื่อนจนเขาเป็นแผล ไม่รู้ว่าเป็นแบบนั้นแล้วแม่ญาจะปลอบหรือว่าดุกว่าพ่อกันแน่” นอร์ทที่เดินตามเข้ามาติดๆ ได้ยินลูกชายตัวแสบฟ้องภรรยาก็อดไม่ได้ที่จะพูดบอกความจริงให้แก่ญาณินได้รับรู้ ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ กันกับเธอ“แต่เพื่อนทำเหนือก่อน เหนือแค่ป้องกันตัว แต่พ่อไม่เข้าใจเหนือเลย”“เหนือ...แล้วลูกทำเพื่อนกลับจนเป็นแผลเลยเหรอครับ?” ญาณินซักถามความจริงจากปากของเหนือด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดูเข้มงวดกับเรื่องแบบนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว“จริงครับ”“ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าเหนือผ
ตอนพิเศษ 4เมื่อเข้าเดือนที่แปดของการตั้งครรภ์ ญาณินก็เริ่มเดินเหินได้ยากมากขึ้น แน่นอนว่าการช่วยเหลือตัวเองในแต่วันยากกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก แล้วก็รู้สึกได้ทันทีเลยว่าการที่มีสามีคอยดูแลอยู่ตลอดเวลาช่วยให้เธอเหนื่อยได้น้อยลงมากเลยทีเดียวอีกอย่างช่วงห้าเดือนก่อนหน้านี้ นอร์ทได้พาญาณินได้ตรวจดูเพศของลูกในท้องก่อนได้รับข่าวว่าลูกน้อยของทั้งสองคนนั้นเป็นเพศชาย ซึ่งก็เป็นไปตามที่พวกเขาคาดเดากันเอาไว้อยู่แล้ว จึงดีใจกันมากที่ได้ลูกชายตามที่หวังเอาไว้...เนื่องจากอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนก็จะถึงกำหนดคลอดแล้ว เหล่าเพื่อนๆ ทั้งนอร์ทและญาณินจึงพากันมาเยี่ยมหา และพูดคุยถึงสารทุกข์สุกดิบกันตามประสาเพื่อนในวัยเรียนที่ปัจจุบันยังคงสนิทสนมและติดต่อกันอยู่“เป็นไงบ้างแก เห็นว่าช่วงแรกๆ แพ้ท้องหนักมาเลยใช่ไหม? ขอโทษทีนะที่เพิ่งมา ฉันเองก็เพิ่งจะกลับมาจากต่างประเทศ แต่พอมาถึงก็รีบมาหาแกเป็นคนแรกเลยนะ”คราวนี้แตงกวาเองก็ไม่พลาด หลังจากวันที่เรียนจบ เธอเองก็มีทางของตัวเอง ย้ายไปเรียนต่อเฉพาะทางที่ต่างประเทศ กลับมาอีกทีก็ได้ทราบข่าวว่าญาณินกำลังจะคลอดลูกน้อยออกมาแล้วในอีกไม่ช้า เมื่อเป็นเช่นนั้นเธอก็เลยชวนวีแ
ตอนพิเศษ 3สองปีต่อมา...ขณะที่นอร์ทกำลังขนของที่ไปซื้อมาจากห้างเข้าบ้าน จู่ๆ ญาณินก็มีอาการแปลกประหลาด อ่อนเพลียคล้ายจะเป็นลม เธอเดินลงจากรถแล้วมาจับรถไว้หวังไม่ให้ตัวลงล้มลง“ญา หนูเป็นอะไร พี่เห็นหน้าซีดๆ ตั้งแต่ที่ห้างแล้วนะ” ชายหนุ่มรีบวางของในมือลงบนพื้นแล้วรีบวิ่งเข้าไปประคองร่างบางให้เดินเข้าไปพักในบ้าน และไม่ลืมที่จะถามอาการจากปากของเจ้าตัว“ญาเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่มันรู้สึกเพลียๆ แล้วก็เวียนหัวตลอดเวลาเลย”“โอเคๆ งั้นเข้าไปพักข้างในก่อนดีกว่า แล้วถ้ายังไม่ดีขึ้นเดี๋ยวพี่จะพาไปโรงพยาบาล”จากนั้นนอร์ทก็รีบพาภรรยาของเขาเข้ามานั่งพักที่โซฟาทันที แต่ทว่าระหว่างที่นั่งพักเอาแรง อาการของญาณินกลับไม่ทุเลาลงเลยแม้แต่น้อย มีแต่จะหนักขึ้นตลอดเวลาเลยก็ว่าได้“ญา พี่ว่าเราไปหาหมอกันเถอะ”“ไม่เป็นไรค่ะ พักอีกนิดก็น่าจะดีขึ้น”“ญา...อย่าดื้อสิ เดี๋ยวไปจะเตรียมรถ แล้วเดี๋ยวพี่มาช่วยพยุง ห้ามเดินไปไหนเองนะ รอพี่ เข้าใจไหม”ญาณินได้แต่พยักหน้ารับรู้ อาการของเธอเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่อาจต้านทาน เกรงว่าหากยังดื้อดึงไม่ยอมทำตามคำแนะนำของสามี อาจจะเกิดข่าวร้ายขึ้นก็ได้...ทว่าในตอนที่น
ตอนพิเศษ 2หลังจากที่เลือกชุดสำหรับวันแต่งงานกันเสร็จสรรพ ทั้งคู่ก็มีแพลนที่ต้องไปหาร้านทำของชำร่วยเพื่อเป็นของตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่แขกผู้มาร่วมยินดีในงานสำคัญของทั้งสอง ซึ่งกว่าที่ทุกอย่างจะเรียบร้อย ก็ทำเอาพวกเขาหมดเรี่ยวแรงไปตามๆ กันขณะนี้เป็นเวลาประมาณหนึ่งทุ่มตรง ด้วยความที่ออกไปทำธุระเรื่องงานแต่งงานมาทั้งวัน ญาณินรู้สึกอ่อเพลียเอามากๆ จึงตัดสินใจหนีว่าที่สามีลงแช่น้ำในอ่างอยู่คนเดียว ทว่าไม่นานก็มีคนถอดเสื้อผ้าตามเข้ามา...“พี่นอร์ท...ญาแช่อยู่นะคะ”“แล้วพี่แช่ด้วยไม่ได้เหรอ?”“ก็พี่ตัวใหญ่ กินที่ญาหมดแล้วเนี่ย” เธอเอ่ยปากบ่นก็จริง แต่ก็ยอมขยับให้นอร์ทลงมาแช่น้ำด้วยกันแต่โดยดี“งั้นหนูก็มานั่งกับพี่สิ” พูดจบได้ยังไม่ทันไร คนอายุมากกว่าก็พลันอุ้มร่างของหญิงสาวเบื้องหน้าให้มานั่งยู่บนตักของตัวเอง ก่อนจะเกยค้างวางไว้บนไหล่ กระทั่งลมหายใจแผ่วเบาของเขาส่งผลให้ญาณินถึงกับต้องเบนหน้าหนีออกไปอีกทาง“วันนี้ไม่ได้นะคะ พรุ่งนี้ญาต้องไปหาพ่อกับแม่”“พี่ก็ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย แค่ขอแช่น้ำด้วยเอง หรือว่าญา...คิดอะไรกับพี่ อย่างนั้นเหรอ?” นอร์ทถามด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบ ทั้งสองใกล้ชิดกั
ตอนพิเศษ 1หลังจากที่ญาณินถูกนอร์ททำเซอร์ไพรส์ให้ เมื่อกลับมาถึงห้องเธอก็เอาแต่ร้องไห้จนนอร์ทใจไม่ดี คิดว่าตนทำเรื่องผิดมหันต์เอาไว้ แต่ที่ไหน...“ญา หนูเป็นอะไร พี่ทำอะไรผิดจนหนูไม่พอใจหรือเปล่า?” นอร์ทตัดสินใจเอ่ยถามเธอออกไปตามตรง แม้จะแอบหวั่นใจ กลัวคำตอบที่จะได้รับกลับมาอยู่ไม่น้อยเลยก็ตาม“เปล่าค่ะ...หนูแค่ดีใจ ไม่คิดว่าพี่จะมีมุมนี้เหมือนคนอื่นเขาด้วย...” ญาณินเอ่ยขณะเดียวกันก็ยังร้องไห้ไม่ยอมหยุด เธอเพียงตื้นตันใจ ไม่คิดว่าแฟนหนุ่มที่ในอดีตเคยเป็นคู่กัดกันมาก่อนจะมีมุมโรแมนติกเหมือนกับคนอื่นๆ“อ๋อ เรื่องนี้เองเหรอ ที่ทำให้แฟนพี่ร้องไห้หนักขนาดนี้ พี่ก็นึกว่าซุกกิ๊กไว้ไม่เนียนซะอีก”“ห๊า...กิ๊กไหน ใครคะ?” หญิงสาวร่างบางถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ซ้ำยังปาดน้ำตาบนแก้มจนแห้งสนิททันทีที่ได้ยินอีกฝ่ายตอบสวนกลับมาเช่นนั้น“ล้อเล่นครับ จริงจังอะไรขนาดนั้น”“พี่นอร์ท! ใครให้เล่นแบบนี้ ญาใจหายหมดเลย” ญาณินถึงกับถอนหายใจแรง ตอบกลับแฟนหนุ่มด้วยน้ำเสียงเจือแววตำหนิอยู่ไกลๆ ทั้งที่เธอกำลังตื้นตันใจอยู่กับเซอร์ไพรส์ก่อนหน้านี้ แต่ทว่านอร์ทกลับเอาเรื่องมือที่สามมาเป็นเรื่องล้อเล่น ญาณินคิดแ
ตอนที่ 99ในที่สุดช่วงเวลาที่คู่รักหนุ่มสาวรอคอยก็มาถึง จริง ๆ แล้วยังไม่ถึงเวลาที่พระอาทิตย์จะตก แต่ด้วยความเบื่อหน่าย นอร์ทจึงไปถามรายละเอียดพนักงานโรงแรมเกี่ยวกับกิจกรรมที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ ก่อนจะได้รู้ว่าช่วงหกโมงเย็นจะมีม้าออกมาเดินเล่นที่ริมหาดซึ่งพวกเขาสามารถขึ้นขี่แล้วเดินเล่นได้หนึ่งรอบถ้วน แต่ก่อนที่จะลงไป นอร์ทกลับรู้สึกไม่สบายใจกับการแต่งตัวของญาณินเท่าไรนัก“ไหนว่าพี่รอดูไง พอญาแต่งออกมาแล้ว จะมาทำหน้างอทำไมคะเนี่ย”“มันโป๊ไป ตอนแรกพี่นึกว่ามันจะปิดเยอะกว่านี้ แต่นี่คือ...”ขณะที่เอ่ยสายตาก็พลางลอบมองร่างบางตั้งแต่หัวจดเท้า ชุดว่ายน้ำที่อยู่บนตัวของญาณินงดงามเกินคำบรรยายแต่ทว่าสิ่งเดียวที่เขาไม่พึงพอใจก็คงจะหนีไม่พ้นชุดที่โป๊จนเผยให้เห็นเนื้อหนังมังสาเกือบทุกส่วนของร่างกาย ทั้งส่วนเว้าส่วนโค้งและรวมไปถึงก้นเนียน ๆ ของเธอนั่นก็ด้วย“นาน ๆ ทีจะได้มาเที่ยวทะเล เว้นไว้สักครั้งนะคะ”“โอเค พี่ไม่เถียงด้วยแล้ว หนูอยากใส่อะไรก็ใส่ แต่ไม่มีครั้งหน้าแล้วนะ เสร็จแล้วก็รีบลงไป เดี๋ยวจะไม่ทันพระอาทิตย์ตกดินเอานะ”“รับทราบค่ะ”เมื่อได้รับคำอนุญาตจากว่าที่สามีเป็นที่เรียบร้อย ญ
ตอนที่ 98หลายสัปดาห์ต่อมา...“ญา วันนี้ไปเที่ยวกันไหม?” นอร์ทเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ แฟนสาว ก่อนที่จะเอ่ยถามความเห็นของเธอ หลังจากที่ได้ไอเดียดี ๆ มาจากเพื่อนรัก“ไปเที่ยวที่ไหนคะ เดี๋ยวอีกสองวัน ก็จะได้ไปเที่ยวทะเลด้วยกันแล้วนี่คะ”“ก็ช่วงนี้มันน่าเบื่อ เราไปเที่ยวในกรุงเทพฯ กันก่อนก็ได้ อีกอย่างวันนี้หนูก็ไม่มีเรียน พี่อยากพาไปที่ที่หนึ่ง”“ไปได้ค่ะ ว่าแต่ที่ไหนเหรอคะ”“สวนสนุก”เมื่อความต้องการของนอร์ทเป็นเช่นนั้น มีหรือที่ญาณินจะขัด ตอนแรกเธอก็ไม่ได้คิดอะไร เพียงแค่อยากมาเที่ยวเป็นเพื่อนตามประสาคู่รักทั่วไป แต่ก็ไม่คิดเลยว่าสถานที่ที่นอร์ทพาเธอมา จะสวยแล้วก็ดูมีอะไรให้น่าทำเยอะแยะเต็มไปหมด“เป็นไงบ้าง? ชอบไหม?”“พี่พาญามาทั้งทีก็ต้องชอบสิคะ ว่าแต่พี่ไปรู้ที่ดี ๆ แบบนี้มาจากไหน ทำไมญาไม่คุ้นตามาก่อนเลย”“ที่นี่เป็นสวนสนุกเปิดใหม่ ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก คนก็เลยยังน้อย แต่เพื่อนพี่บอกกันมาปากต่อปากว่าที่นี่เหมาะแก่การสารภาพสุด ๆ”วันนี้เป็นอีกวันที่นอร์ทชาร์ตพลังมาเต็มร้อย เขาพยายามทำให้แฟนสาวประทับใจในการมาเที่ยวผ่อนคลายครั้งนี้ให้ได้มากที่สุด ญาณินจึงเห็นเขายิ้มแย้มและดูสดใสร่าเริงต
ตอนที่ 97นับจากวันที่เข้าไปปรึกษากับพ่อและแม่จนถึงปัจจุบัน เวลาผ่านมาเกือบ ๆ หนึ่งเดือนเต็ม ทุกคนต่างก็ยุ่งวุ่นวายเกี่ยวกับเรื่องงานหมั้นหมาย เนื่องจากว่าครอบครอวของทั้งคู่มีชื่อเสียงดังนั้นหมั้นกันทั้งทีก็ต้องป่าวประกาศให้ทุกคนรู้ ในส่วนของสถานที่พิธีการก็ต้องยิ่งใหญ่เหมาะสมกับฐานะทางบ้านของทางฝ่ายชายและฝ่ายหญิง เรื่องนี้คุณหญิงอรเป็นคนจัดการดูแลให้ทั้งหมด ไม่มีปัญหาใด ๆ ระหว่างการเตรียมการเลยก็ว่าได้จนกระทั่งระยะเวลาเดินทางมาถึงวันงาน ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่น แขกที่มาร่วมแสดงความยินดีต่างก็ปลื้มปริ่มกับบรรยากาศภายในงาน คุณหญิงอรสะดวกจัดงานเช้า จึงจำเป็นจะต้องมีพิธีสงฆ์ แห่ขันหมากและกั้นประตู หลังจากนั้นจึงจะเป็นพิธีสวมแหวนต่อหน้าญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย เมื่อฝ่ายชายและหญิงสวมแหวนให้กันเรียบร้อย ก็ต่อด้วยพิธีรับไหว้ทันทีบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยแขกคนสนิทของทั้งสองฝ่าย เพื่อนสนิทของนอร์ทและญาณินก็ไม่พลาดที่จะมาเก็บภาพบรรยากาศให้กับเพื่อนรัก พวกเขาทุกคนต่างก็เห็นจุดเริ่มต้นของสองคนมาตลอด มีทั้งสุขและทุกข์ โดยเฉพาะในช่วงแรกที่ทะเลาะกันทุกวี่ทุกวัน เรื่องนั้นเพื่อน ๆ ในกลุ่มจำได้
ตอนที่ 96หลังจากวันนั้น นอร์ทก็คิดมาเสมอว่าควรจะทำทุกอย่างให้ถูกต้อง และให้เกียรติทางฝั่งของญาณิน เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่ทางบ้านของนอร์ทนัดทานข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา นอร์ทตัดสินใจแล้วว่าจะไปบอกเรื่องสำคัญกับพวกท่านตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเย็น นอร์ทเดินมานั่งรอพ่อและแม่ที่บริเวณโต๊ะอาหารก่อนเป็นคนแรก ระหว่างที่พวกท่านกำลังเดินเข้ามาร่วมโต๊ะ มือไม้ของชายหนุ่มกลับอยู่ไม่เป็นสุข เขาประหม่าจนทำตัวไม่ถูกทั้ง ๆ ที่อยู่ต่อหน้าคนกันเองทั้งนั้นแต่เขากลับรู้สึกผิดแปลกไปจากเดิม คงเป็นเพราะความในใจที่เขาอยากจะบอกกับทุกคน เป็นเรื่องที่ใหญ่อยู่พอสมควร“เป็นยังไงบ้างลูก เห็นว่าช่วงนี้เรียนหนักแถมยังติดหนูญาอีกต่างหาก ลืมที่บ้านไปแล้วหรือยัง” ผู้เป็นแม่เอ่ยทักทายลูกชายหัวแก้วหัวแหวน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดแซวเขาที่พักหลังมานี้ติดแฟนเสียยิ่งกว่าอะไร“ก็เรื่อย ๆ นะครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดี แต่ก็คงจะไปหนักช่วงใกล้จบมากกว่า ตอนนี้ยังไหวอยู่ครับแม่”“งั้นก็ดีแล้ว ว่าแต่หนูญาล่ะเป็นยังไงบ้าง เธอสบายดีใช่ไหม”“สบายดีครับ ช่วงนี้น้องเรียนหนัก เพราะว่าจะได้ขึ้นมาเป็นรุ่นพี่ มีเรื่องให้ต้องเต็มไปหมด วันนี้ก็เ