หลังจากที่เลือกชุดสำหรับวันแต่งงานกันเสร็จสรรพ ทั้งคู่ก็มีแพลนที่ต้องไปหาร้านทำของชำร่วยเพื่อเป็นของตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่แขกผู้มาร่วมยินดีในงานสำคัญของทั้งสอง ซึ่งกว่าที่ทุกอย่างจะเรียบร้อย ก็ทำเอาพวกเขาหมดเรี่ยวแรงไปตามๆ กัน
ขณะนี้เป็นเวลาประมาณหนึ่งทุ่มตรง ด้วยความที่ออกไปทำธุระเรื่องงานแต่งงานมาทั้งวัน ญาณินรู้สึกอ่อเพลียเอามากๆ จึงตัดสินใจหนีว่าที่สามีลงแช่น้ำในอ่างอยู่คนเดียว ทว่าไม่นานก็มีคนถอดเสื้อผ้าตามเข้ามา...
“พี่นอร์ท...ญาแช่อยู่นะคะ”
“แล้วพี่แช่ด้วยไม่ได้เหรอ?”
“ก็พี่ตัวใหญ่ กินที่ญาหมดแล้วเนี่ย” เธอเอ่ยปากบ่นก็จริง แต่ก็ยอมขยับให้นอร์ทลงมาแช่น้ำด้วยกันแต่โดยดี
“งั้นหนูก็มานั่งกับพี่สิ” พูดจบได้ยังไม่ทันไร คนอายุมากกว่าก็พลันอุ้มร่างของหญิงสาวเบื้องหน้าให้มานั่งยู่บนตักของตัวเอง ก่อนจะเกยค้างวางไว้บนไหล่ กระทั่งลมหายใจแผ่วเบาของเขาส่งผลให้ญาณินถึงกับต้องเบนหน้าหนีออกไปอีกทาง
“วันนี้ไม่ได้นะคะ พรุ่งนี้ญาต้องไปหาพ่อกับแม่”
“พี่ก็ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย แค่ขอแช่น้ำด้วยเอง หรือว่าญา...คิดอะไรกับพี่ อย่างนั้นเหรอ?” นอร์ทถามด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบ ทั้งสองใกล้ชิดกันจนถึงขนาดที่ลมหายใจรดต้นคอของหญิงสาว เธอพยายามเบี่ยงตัวออกเพราะทนจั๊กจี้ไม่ไหว แต่ก็ดันถูกแรงดึงของแฟนหนุ่มรั้งเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้เสียอย่างนั้น
“ไม่ใช่สักหน่อย ญาไม่เคยคิดก่อน มีแต่พี่นั่นแหละ” ญาณินรีบปฏิเสธถ้อยคำกล่าวหาของชายหนุ่มกลับไปอย่างรวดเร็ว กลับเรื่องอย่างว่า เธอไม่ใช่มือโปรเหมือนกับนอร์ทเสียหน่อย
“พี่คิดก่อนก็จริง แต่ญาก็ชอบยั่วพี่ก่อนเหมือนกัน”
“พี่นอร์ทพูดมั่ว ญาไม่เคย...” ประโยคเมื่อครู่ดังต้นแผ่วปลาย พูดไปพูดมาก็ชักจะเริ่มไม่แน่ใจในคำตอบของตัวเองสักเท่าไหร่นัก เพราะก็คงจะจริงอย่างที่อีกฝ่ายพูดมา
ทั้งสองพากันลงแช่น้ำในอาบอยู่สักพัก แล้วจึงจะลุกขึ้นมาอาบน้ำล้างตัวพร้อมกัน เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วก็พากันเข้านอนทันที
ชีวิตในช่วงนี้ของทั้งนอร์ทและญาณินต่างก็เต็มไปด้วยความชุลมุนวุ่นวาย นั่นเป็นเพราะวันงานแต่งที่กำลังจะมาถึงแล้วในอีกไม่ช้า ดังนั้นทั้งคู่จึงมีหลายอย่างที่ต้องจัดเตรียมให้พร้อมก่อนที่จะถึงวันจริง...
ซึ่งวันเวลาก็ช่างผ่านไปไวเสียจริง ว่าที่บ่าวสาวยังไม่ทันจะได้ทำอะไร วันแต่งงานก็มาถึง...
เช้าวันนี้คงเป็นวันที่ญาณินและนอร์ทตื่นเต้นที่สุดเลยก็ว่าได้ ก่อนหน้าเคยมีงานหมั้นหมายเกิดขึ้นมาก่อน แต่ในตอนนั้นทั้งสองไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเท่านี้มาก่อน คงเป็นเพราะในตอนนั้นเป็นการซ้อมดูสถานการณ์คร่าวๆ แต่ครานี้จะมาเล่นๆ หรือผิดพลาดไม่ได้ เพราะแขกในงานต่างก็เต็มไปด้วยผู้ทรงอิทธฺพลทั้งนั้น จะให้เสียหน้าของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายไม่ได้เด็ดขาด
“เป็นไงบ้างลูก ติดขัดตรงไหนหรือเปล่า อีกสิบนาทีจะต้องออกไปหน้าเวทีพร้อมกับพ่อแล้วนะ” คุณหญิงอรรีบเปิดประตูเข้ามาถามความพร้อมของลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนด้วยความเป็นห่วง
“พร้อมแล้วค่ะแม่ ญาต้องออกไปเตรียมตัวแล้วใช่ไหมคะ”
“ใช่ลูก เสร็จแล้วก็ตามแม่ออกมาเลย จะได้ไม่เสียเวลา”
“โอเคค่ะแม่” พูดจบ เจ้าสาวของงานอย่างญาณินก็รีบสาวเท้าเดินตามผู้เป็นแม่ออกไปจากห้องแต่งตัว ซึ่งคนที่สองที่ได้เจอหน้ารองจากคุณหญิงอรก็คือพ่อของเธอที่ขณะนี้กำลังยืนรอไปส่งลูกสาวให้กับนอร์ทอยู่อีกด้านหนึ่ง...
บัดนี้ถือเป็นฤกษ์งามยามดีแล้ว ทันทีที่ผ้าม่านเปิดออก เจ้าสาวก็เดินควงผู้เป็นพ่อออกมา เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของแขกผู้มีเกียรติในงานยิ่งนัก ทั้งเสียงฮือฮาและเสียงปรบมือต่างก็ดังกระหึ่มขึ้นมาจนแยกแทบไม่ออกว่าเสียงไหนเป็นเสียงไหน
สองพ่อลูกได้ยิ้มกว้างแล้วมองหน้ากันด้วยความรู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก ทั้งสองพากันเดินไปยังด้านหน้าเวทีซึ่งมีเจ้าบ่าวยืนรอรับเจ้าสาวอยู่ด้วยใบหน้ายินดีเป็นอย่างยิ่ง
“พ่อฝากนอร์ทดูแลญาด้วยนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ขอให้หันหน้าคุยกัน อย่าทะเลาะกันข้ามวันข้ามคืน มีเรื่องอะไรในชีวิตถึงจะแต่งงานออกไปแล้ว ก็ยังกลับมาหาพ่อกับแม่ได้ตลอด ที่สำคัญต้องรีบมาหลานให้พ่อไวๆ นะ”
“ครับคุณพ่อ ผมจะทำตามคำแนะนำของคุณพ่อทุกอย่างเลย แล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วงญา ผมจะดูแลเธอได้ดีเท่าที่พ่อเคยดูแลเธอมาเลยครับ” นอร์ทรีบรับปากพ่อของญาณินอย่างรวดเร็ว เพราะนับจากนี้ไปญาณินถือเป็นอีกคนที่เขาจะต้องรับช่วงต่อดูแลให้ดีที่สุด ให้เทียบเท่าที่พ่อของเธอเคยเลี้ยงและดูแลมาหรือถ้าหากมากกว่านั้นได้ก็คงจะเป็นสามีที่เลิศที่สุด
พิธีการดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งงานแต่งวันนี้เสร็จสิ้นและผ่านลุล่วงไปได้ด้วยดี คู่สามีภรรยาพากันย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเรือนหอกันในวันนั้นเลย แต่ด้วยความเหนื่อยกลับมาถึงก็พากันนั่งพัก ไม่เป็นอันทำอะไรกันเลยก็ว่าได้
“คุณภรรยา หิวไหมครับ?” แต่คนที่กวนญาณินไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยก็คงจะหนีไม่พ้นนอร์ท ระหว่างที่เธอกำลังนอนเงยหน้าอยู่บนโซฟา จู่ๆ นอร์ทก็เข้ามาพูดถ้อยคำหวานแหว๋วที่ข้างๆ หูของเธอ
“พี่นอร์ท พูดอะไรคะเนี่ย”
“ก็ภรรยาไง หรือว่าอยากให้พี่เรียกเราว่าเมียจ๋า...”
“ไม่เอาทั้งสอง ไม่เหมาะกับพี่เลยสักนิด เรียกญาเหมือนเดิมน่ะดีแล้ว” ญาณินรีบปฏิเสธออกไปอย่างไม่คิดลังเล ภาพลักษณ์ของนอร์ท ใครต่อใครต่างก็รู้ว่าเขาไม่ใช่คนหวานๆ ออกจะแข็งกร้าวเลยเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นการที่เขามาพูดจาแบบนี้มันทำให้ญาณินรู้สึกแปลกประหลาดอย่างอธิบายไม่ถูก
“ก็พี่อยากเรียกแบบนี้ หนูไม่ชอบเหรอคะ?”
“ก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบนะคะ แต่ว่าญาไม่ชิน”
“งั้นก็ต้องยิ่งเรียกบ่อยๆ จะได้ชินไง”
“พี่นอร์ทจะเลิกแกล้งญาได้หรือยังคะ”
“ไม่เลิกหรอก เวลาญาโดนแกล้งน่ารักจะตายไป ยิ่งหงุดหงิดที่พี่แกล้งยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่” ชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงใหญ่ตอบกลับคำถามของผู้เป็นภรรยาด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง ก่อนจะกอดรัดเอวบางเอาไว้แน่น
“ถึงว่า ตอนที่เจอกันใหม่ๆ พี่นอร์ทถึงได้ชอบแกล้งญาจังเลยนะคะ เพราะแบบนี้นี่เอง”
“ไม่ใช่สักหน่อย ตอนนั้นพี่แกล้งเพราะเราน่าแกล้ง ไม่ได้มองว่าน่ารักเหมือนตอนนี้สักหน่อย”
“พี่นอร์ทจะยอมรับได้หรือยังคะว่าชอบญาก่อน เพราะถ้าไม่อย่างนั้นพี่คงไม่หาเรื่องญาตลอดเวลาแบบนั้น มันคือวิธีการเข้าหาคนที่ชอบเฉพาะตัวใช่ไหมคะ?”
คนอายุน้อยกว่าเลิกคิ้วถามฝ่ายตรงข้ามอย่างมั่นอกมั่นใจ ใบหน้าได้รูปยื่นเข้าไปใกล้นอร์ทจนเขาถึงกับต้องเอนตัวไปด้านหลังเพื่อหนีแรงกดดันจากเธอ
“ญานั่นแหละชอบพี่ก่อน ไม่งั้นญาจะมาเล่นกับพี่เหรอ?”
“ใครบอกญาเล่น ญาไม่ได้เล่นสักหน่อย ญาแค่ไม่ยอม เพราะว่าพี่ชอบหาเรื่องญาก่อน พี่นอร์ทยอมรับมาเถอะน่าว่าชอบญาก่อนจริงๆ ไม่ว่าจะญาณิณหรือญาญ่าก็เถอะ”
“ทีเรื่องแบบนี้นี่เก่งจังนะ โอเคๆ พี่ยอมรับก็ได้ว่าชอบญาก่อน แต่จะให้ทำยังไงได้ตอนแรกพี่ไม่รู้ว่าญาณินกับญาญ่าเป็นคนเดียวกันนี่ ถ้ารู้พี่ก็คง...” เจ้าของประโยคเว้นวรรค ไม่พูดต่อ จนคนฟังถึงกับขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่เข้าใจ
“ก็คงอะไรคะ ก็คงไม่ชอบอย่างนั้นเหรอ?”
“ก็คงจะชอบอยู่นั่นแหละ ว่าแต่...เมื่อไหร่จะใส่ชุดดีเจญาญ่าให้ดูอีก ไม่ได้เห็นนานแล้ว คิดถึงเหมือนกันนะเนี่ย” นอร์ทรู้ชะตากรรมตัวเองว่าหากไม่เปลี่ยนเรื่องคุยก็คงจะได้ถูกญาณินงอนกลับเป็นแน่ ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะเป็นความคิดที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว
“ก็พี่นอร์ทไม่ยอมให้ญาใส่ไม่ใช่เหรอคะ ขนาดชุดงานแต่งพี่ก็ยังสแกนแล้วสแกนอีก ไม่รู้หวงอะไรนักหนา ญาไม่มีอะไรให้ดูหรอกค่ะ”
“มีสิ พี่อยากดู...”
“ดูอะไรคะ พูดให้ชัดๆ หน่อย ญาเป็นคนเข้าใจอะไรยาก”
“ก็ดู...เอาเป็นว่ามาฉลองการย้ายเข้ามาอยู่เรือนหอของเราวันแรกกันดีไหม? เขาว่ากันว่าเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวต้องปั๊มลูก!”
ทันทีที่พูดจบ นอร์ทก็ถือวิสาสะอุ้มภรรยาของเขาเข้าไปในห้องนอนอย่างว่องไว ก่อนจะวางเธอลงนอนบนเตียงนอนหวังฉลองวันแรกของการย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านใหม่จริงๆ อย่างที่ปากพูดเอาไว้เมื่อครู่นี้ แต่ทว่าญาณินกลับขัดขืน ไม่ยอมให้เขาฉวยโอกาสทำเรื่องอย่างว่าได้ง่ายๆ
“พี่นอร์ท ญาบอกกี่รอบแล้วว่าห้ามใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะกรณีอะไรก็แล้วแต่ นี่พี่กำลังบังคับญาด้วยการใช้กำลังอยู่นะคะ” ญาณินเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ซ้ำแล้วใบหน้าก็ยังเหมือนเด็กหาเรื่องไม่มีผิด ทำเอานอร์ทถึงกับหลุดขำในลำคอออกมาอย่างห้ามไม่ได้...
“อันนี้จริงจังแล้วใช่ไหมยัยแสบ”
“จริงจังมาก พรุ่งนี้...” ขณะที่ญาณินกำลังจะคิดหาข้ออ้างมาทำให้นอร์ทเลิกคิดที่จะทำเรื่องอย่าง อยู่ดีๆ ประโยคดังกล่าวของเธอก็ขาดหวงไปทั้งอย่างนั้น
“พรุ่งนี้ต้องไปไหนอีกคะ?”
“ไปหาคุณพ่อค่ะ”
“ไปทำไม ไม่เห็นพี่จะรู้ด้วยเลย พี่คุยกับคุณพ่อกับคุณแม่แล้วว่าช่วงนี้ไม่ต้องไปหาท่าน ให้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ท่านอยากอุ้มหลาน จำไม่ได้เหรอ?”
หญิงสาวเจ้าของใบหน้างามถึงกับส่ายหัวไปมา ไม่ยอมรับความจริง ไม่ใช่ว่าเธอไม่ชอบทำเรื่องอย่างว่ากับนอร์ท แน่นอนว่าเธอรู้สึกดีทุกครั้ง แต่ทั้งหมดนั้นก็ต้องแรกกับการที่เธอต้องนอนซมไปอีกหลายวันหลายคืน ซึ่งเธอยังไม่อยากหมดเรี่ยวแรงในวันนี้ วันที่เพิ่งจะจัดการงานแต่งเสร็จเรียบร้อย
“ไม่เอาวันนี้ได้ไหม ญายังเหนื่อยอยู่เลย”
“งั้นญานอนเฉยๆ โอเคไหมคะ?”
วินาทีนั้นญาณินเองก็ถึงกับพูดไม่ออก ไม่คิดว่าการที่ผู้ชายเก็บกดมานานและต้องการทำเรื่องอย่างว่ากับเธอ จะมีความมุ่งมั่นได้ถึงเพียงนี้ ไม่ว่าเธอจะงัดไม้ไหนออกมาเพื่อปฏิเสธ ก็ไม่สามารถรอดพ้นเงื้อมมือของนอร์ทได้อยู่ดี...
ตอนพิเศษ 3สองปีต่อมา...ขณะที่นอร์ทกำลังขนของที่ไปซื้อมาจากห้างเข้าบ้าน จู่ๆ ญาณินก็มีอาการแปลกประหลาด อ่อนเพลียคล้ายจะเป็นลม เธอเดินลงจากรถแล้วมาจับรถไว้หวังไม่ให้ตัวลงล้มลง“ญา หนูเป็นอะไร พี่เห็นหน้าซีดๆ ตั้งแต่ที่ห้างแล้วนะ” ชายหนุ่มรีบวางของในมือลงบนพื้นแล้วรีบวิ่งเข้าไปประคองร่างบางให้เดินเข้าไปพักในบ้าน และไม่ลืมที่จะถามอาการจากปากของเจ้าตัว“ญาเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่มันรู้สึกเพลียๆ แล้วก็เวียนหัวตลอดเวลาเลย”“โอเคๆ งั้นเข้าไปพักข้างในก่อนดีกว่า แล้วถ้ายังไม่ดีขึ้นเดี๋ยวพี่จะพาไปโรงพยาบาล”จากนั้นนอร์ทก็รีบพาภรรยาของเขาเข้ามานั่งพักที่โซฟาทันที แต่ทว่าระหว่างที่นั่งพักเอาแรง อาการของญาณินกลับไม่ทุเลาลงเลยแม้แต่น้อย มีแต่จะหนักขึ้นตลอดเวลาเลยก็ว่าได้“ญา พี่ว่าเราไปหาหมอกันเถอะ”“ไม่เป็นไรค่ะ พักอีกนิดก็น่าจะดีขึ้น”“ญา...อย่าดื้อสิ เดี๋ยวไปจะเตรียมรถ แล้วเดี๋ยวพี่มาช่วยพยุง ห้ามเดินไปไหนเองนะ รอพี่ เข้าใจไหม”ญาณินได้แต่พยักหน้ารับรู้ อาการของเธอเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่อาจต้านทาน เกรงว่าหากยังดื้อดึงไม่ยอมทำตามคำแนะนำของสามี อาจจะเกิดข่าวร้ายขึ้นก็ได้...ทว่าในตอนที่น
ตอนพิเศษ 4เมื่อเข้าเดือนที่แปดของการตั้งครรภ์ ญาณินก็เริ่มเดินเหินได้ยากมากขึ้น แน่นอนว่าการช่วยเหลือตัวเองในแต่วันยากกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก แล้วก็รู้สึกได้ทันทีเลยว่าการที่มีสามีคอยดูแลอยู่ตลอดเวลาช่วยให้เธอเหนื่อยได้น้อยลงมากเลยทีเดียวอีกอย่างช่วงห้าเดือนก่อนหน้านี้ นอร์ทได้พาญาณินได้ตรวจดูเพศของลูกในท้องก่อนได้รับข่าวว่าลูกน้อยของทั้งสองคนนั้นเป็นเพศชาย ซึ่งก็เป็นไปตามที่พวกเขาคาดเดากันเอาไว้อยู่แล้ว จึงดีใจกันมากที่ได้ลูกชายตามที่หวังเอาไว้...เนื่องจากอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนก็จะถึงกำหนดคลอดแล้ว เหล่าเพื่อนๆ ทั้งนอร์ทและญาณินจึงพากันมาเยี่ยมหา และพูดคุยถึงสารทุกข์สุกดิบกันตามประสาเพื่อนในวัยเรียนที่ปัจจุบันยังคงสนิทสนมและติดต่อกันอยู่“เป็นไงบ้างแก เห็นว่าช่วงแรกๆ แพ้ท้องหนักมาเลยใช่ไหม? ขอโทษทีนะที่เพิ่งมา ฉันเองก็เพิ่งจะกลับมาจากต่างประเทศ แต่พอมาถึงก็รีบมาหาแกเป็นคนแรกเลยนะ”คราวนี้แตงกวาเองก็ไม่พลาด หลังจากวันที่เรียนจบ เธอเองก็มีทางของตัวเอง ย้ายไปเรียนต่อเฉพาะทางที่ต่างประเทศ กลับมาอีกทีก็ได้ทราบข่าวว่าญาณินกำลังจะคลอดลูกน้อยออกมาแล้วในอีกไม่ช้า เมื่อเป็นเช่นนั้นเธอก็เลยชวนวีแ
ตอนพิเศษ 5เขาว่ากันว่าเวลาของความสุขมักผ่านไปไวเสมอ ญาณินเองก็เพิ่งมาเจอกับตัวเองเอาก็วันนี้ จากวันที่คลอดลูกชายออกมาจนถึงตอนนี้เป็นเวลาเกือบๆ สี่ปีแล้ว หลังจากที่ลูกชายรู้เรื่องและเข้าโรงเรียนแล้ว ความวุ่นวายก็ทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัว“แม่ครับ พ่อไม่ยอมแวะร้านค้าให้เหนือ ทั้งที่สัญญาเอาไว้แล้วว่าถ้าเหนือสอบได้คะแนนดีจะให้ซื้อของเล่นได้” เด็กชายวิ่งดุ่มๆ เข้ามาหาผู้เป็นแม่ทันทีที่กลับมาถึงบ้านและมีเรื่องผิดใจกับนอร์ทมาตลอดทาง“แล้วพ่อบอกว่าอะไรครับ ทำไมถึงไม่แวะ”“ก็เพราะว่าเหนือสอบได้คะแนนดี แต่ครูประจำชั้นแจ้งว่าเล่นแรงๆ กับเพื่อนจนเขาเป็นแผล ไม่รู้ว่าเป็นแบบนั้นแล้วแม่ญาจะปลอบหรือว่าดุกว่าพ่อกันแน่” นอร์ทที่เดินตามเข้ามาติดๆ ได้ยินลูกชายตัวแสบฟ้องภรรยาก็อดไม่ได้ที่จะพูดบอกความจริงให้แก่ญาณินได้รับรู้ ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ กันกับเธอ“แต่เพื่อนทำเหนือก่อน เหนือแค่ป้องกันตัว แต่พ่อไม่เข้าใจเหนือเลย”“เหนือ...แล้วลูกทำเพื่อนกลับจนเป็นแผลเลยเหรอครับ?” ญาณินซักถามความจริงจากปากของเหนือด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดูเข้มงวดกับเรื่องแบบนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว“จริงครับ”“ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าเหนือผ
ตอนที่ 1 ท่ามกลางความเงียบสงบในยามเช้า อยู่ ๆ เสียงกดกริ่งก็พลันดังสวนขึ้นมาจนสามารถดึงความสนใจของแม่บ้านที่กำลังทำสวนในยามเช้า เธอเดินออกมาหาเพื่อดูว่าใครคือต้นเสียงดังกล่าว ก่อนจะพบเข้ากับบุรุษไปรษณีย์ที่ยืนรอตรงตู้จดหมายที่อยู่หน้ารั้ว“จดหมายมาส่งครับ ผมเห็นว่าเป็นมีเอกสารสำคัญด้วยเลยไม่กล้าเหน็บไว้ นี่ครับ” บุรุษไปรษณีย์คนนั้นเอ่ยบอกหญิงสาววัยกลางคนก่อนจะยืนซองเอกสารที่ว่าให้กับอีกฝ่ายหลังจากที่พูดจบอย่างรวดเร็ววินาทีนั้นเธอรับจดหมายปึกใหญ่ ๆ มาไว้ในมือ ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นชื่อจริงและนามสกุลจริงของคุณหนูปรากฏอยู่บนจดหมายที่บุรุษไปรษณีย์บอกเอาไว้ว่าสำคัญเป็นอย่างมาก“ขอบใจจ้ะ” เธอเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งปิดประตู หลังจากนั้นก็รีบสาวเท้าเดินกลับเข้ามาในคฤหาสน์หลังโต เพื่อส่งมอบจดหมายฉบับดังกล่าวให้กับผู้เป็นเจ้าของแต่ในขณะที่กำลังจะสาวเท้าเดินขึ้นไปชั้นบน อยู่ ๆ เสียงเรียกของคุณผู้หญิงก็พลันดังสวนขึ้นมาจนเธอชะงักงัน แล้วให้ความสนใจไปยังอีกฝ่ายแทบจะทันที“ทิพย์ นั่นจดหมายใครเหรอ?” ผู้เป็นนายเอ่ยถามด้วยความสงสัย ก่อนที่จะเบนสายตามองไปยังจดหมายในมือของทิพย์“มีเยอะเลยค่ะคุณผู้หญิง แต
ตอนที่ 2แม้ว่าเมื่อวานจะจบวันได้ไม่ดีนัก แต่เช้าวันใหม่ที่ญาณินรอคอยก็มาถึงเสียที เธอตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวย้ายเข้าไปอยู่หอ แต่ก่อนจะออกจากบ้าน พ่อและแม่ของเธอก็มายืนเกลี้ยกล่อมไม่อยากให้เธอออกไปจากบ้านหลังนี้“ตอนนี้เปลี่ยนใจยังทันนะยายณิณ ลูกไม่เคยทำอะไรเอง จะไหวจริง ๆ เหรอ”ผู้เป็นแม่ถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบหากแต่แฝงไว้ด้วยความหวัง เธอเองก็เป็นห่วงญาณิน แต่ทว่าก็ไม่อยากขัดใจมากเท่าไรนัก เพราะได้ตัดสินใจลงไปแล้ว“อย่าพยายามเลยค่ะ ณินบอกแล้วไงคะว่าณินตัดสินใจแล้ว ของก็เก็บแล้ว รถก็เตรียมรอแล้ว แถมค่าหอ ค่าเรียนก็จ่ายมัดจำตามข้อตกลงไปก่อนแล้ว ถอยไม่ได้หรอกค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปเถอะ เดี๋ยวจะสายเอา”ชายวัยกลางคนถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาแล้วบอกให้ลูกสาวรีบไป ด้วยความที่เลี้ยงมากับมือ พวกเขารู้ว่ายังไงก็ไม่บังคับญาณินไม่ได้อยู่แล้ว จึงจำใจต้องยอมให้ไปแต่โดยดี ถึงแม้ว่าผู้เป็นแม่จะยังคงอาลัยอาวรณ์อยู่มากเลยก็ตาม“อย่างนั้นณินลาตรงนี้เลยนะคะ ไม่ต้องไปส่งก็ได้ ไว้ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ณินจะโทร.มาบอกนะคะ”“อืม ตามนั้น ไปก็ไป...”บทสนทนาระหว่างพ่อแม่ลูกจบลงแต่เพียงเท่านั้น ญาณินขึ้น
ตอนที่ 3ระยะเวลาผ่านมาประมาณหนึ่งสัปดาห์ วันนี้เป็นวันแรกของการไปเรียน ญาณินตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ เพราะมีเรียนช่วงแปดโมงตรง เธอยังกะเวลาไม่ถูก จึงตื่นเร็วกว่าปกติ ถ้าหากว่าได้ไปเรียนดูสักระยะก็คงจะกะเวลาได้พอดีมากขึ้นใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวอยู่ประมาณสามสิบนาที ทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย หญิงสาวในคราบชุดนักศึกษาเดินออกมาจากซอยของหอพัก ก่อนจะตรงดิ่งไปยังสถานีรถไฟฟ้าเพื่อไปลงสถานีต่อไปทันทีที่มาถึงมหาวิทยาลัย ญาณินตรงดิ่งเข้ามานั่งรออาจารย์ในคลาสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยความที่เธอเป็นหญิงสาวแต่งตัวเชย ๆ ทั้งยังมีแว่นปกปิดความเป็นตัวตนที่แท้จริงเอาไว้ภายในนั่นจึงส่งผลให้เพื่อน ๆ ในห้องเรียนเดียวกัน ไม่มีใครให้ความสนใจมาที่เธอเลยสักคน ผิดกับสาวสวยที่มีดีกรีเป็นถึงดาราเน็ตไอดอลที่ใครต่างก็ให้ความสนใจและพูดชื่นชมกันอย่างไม่ขาดปาก“นี่เธอ...อยู่คนเดียวเหมือนกันหรอกเหรอ?”ในขณะที่ญาณินกำลังเบนสายตาออกไปทางนอกหน้าต่างเพื่อชมนกชมใจไปพลาง ๆ ระหว่างรออาจารย์ จู่ ๆ หญิงสาวแปลกหน้าก็เดินเข้ามาทักทายพร้อมทั้งหย่อนกายลงนั่งข้าง ๆ เธอ“อืม ฉันไม่ค่อยมีเพื่อนน่ะ มาเรียนที่นี่ก็มาคนเดียว ไม่มีคนรู้จักเลยส
ตอนที่ 4“พี่ไม่มีเรียนหรือไง เดี๋ยวหนูจะขึ้นไปเรียนกับเพื่อนแล้วค่ะ พี่ไปได้แล้ว” แตงกวาเห็นว่าญาณินไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร เธอจึงรีบไล่รุ่นพี่คนนั้นให้กลับไปเรียนทันที อย่างน้อยได้อยู่กันสองคนก็น่าจะดีกว่ามีคนนอกเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วย“แตงกวา จริง ๆ เธอไม่ต้องไล่พี่เขาไปก็ได้นะ เขามาจีบเธอนี่คงใจเสียหมดแล้วมั้งน่ะ” เมื่อรุ่นพี่ที่มาตามจีบเพื่อนสาวเดินจากไปตามคำขอของเธอ ญาณินก็รีบพูดความคิดเห็นของตนสวนขึ้นมาอย่างไว“ไม่เป็นไรหรอก บางทีฉันเองก็แอบรำคาญเหมือนกัน อยากอยู่กับเพื่อนแบบสองต่อสองบ้างน่ะ”“เพิ่งมาเรียนเมื่อวานวันแรก วันนี้แกก็มีหนุ่มมาติดซะแล้ว เนื้อหอมไม่เบาเลยนะแตงกวา” ญาณินพูดแซวอย่างทีเล่นทีจริงพร้อมทั้งปรากฏรอยยิ้มละไมบนใบหน้า“เปล่าสักหน่อย ฉันขึ้นมาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ที่รู้ว่าสอบติดได้ใหม่ ๆ แล้วพอมาอยู่ก็รู้สึกเบื่อ ก็เลยไปหางานพาร์ตไทม์ทำเล่น ๆ น่ะ แล้วก็ไปเจอที่เขานี่แหละ นับตั้งแต่นั้นมาเขาก็ตามจีบฉันมาเรื่อย ๆ เลย”“อ๋อ...เป็นแบบนี้นี่เอง”“คนอย่างฉัน เอาอะไรมาเนื้อหอม ฟลุกเจอมามากกว่า” หญิงสาวตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ ก่อนจะหลบหลีกสายตาของญาณินไปชั่วขณะ แตงกวา
ตอนที่ 5.1เวลาผ่านไปสักระยะ ญาณินและแตงกว่าเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น และสามารถที่จะเรียกว่าเพื่อนสนิทกันอย่างได้เต็มปากขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงตรงโดยประมาณ สองสาวคณะสถาปัตย์เดินออกมาจากตรงหลังเลิกคลาสเป็นที่เรียบร้อย ทั้งคู่ยังตกลงกันไม่ได้ว่าจะไปกินข้าวกลางวันกันที่ไหนดี จึงเดินเถียงกันมาตลอดทาง“ฉันรู้แล้ว ถ้าอย่างนั้นเราไปกินข้าวกันที่ตึกวิศวะฯ กันไหมล่ะ”“แหม ยายกวาคบกับพี่เขาได้ยังไม่ทันไร ก็ติดหนึบเลยนะ”“เปล่าสักหน่อย ฉันก็แค่เสนอตัวเลือกให้แกไง แต่ไปด้วยกันก็ดีนะ”“ฉันไม่ไปได้ไหม ขี้เกียจเดินด้วยอะ”ญาณินตัดสินใจปฏิเสธออกไปด้วยน้ำเสียงไม่มั่นคง เพราะใจหนึ่งเธอเองก็ไม่อยากเพื่อนสนิทต้องไปคนเดียว แต่อีกใจเธอก็ไม่ได้อยากไปที่นั่นมากถึงเพียงนั้น จึงยังไม่ค่อยแน่ใจว่าจะเอายังไงดี“อะไรกัน แล้วแกจะให้ฉันไปคนเดียวเหรอ อีกอย่างฉันเองก็ไม่ได้อยากปล่อยให้แกไปกินคนเดียวเหมือนกัน ไปด้วยกันนี่แหละ นะ ๆ ๆ”ประโยคดังกล่าวลอยแว่วมาถึงหูของหญิงสาวเจ้าของใบหน้างามจนเธอรู้สึกใจอ่อนยวบลงมาแทบจะทันที ญาณินเองก็เป็นห่วงแตงกวาไม่ต่างกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยหากว่าเธอจะยอมใจอ่อนให้ง่าย ๆ“อืม ไปเป็นเพื่อนก
ตอนพิเศษ 5เขาว่ากันว่าเวลาของความสุขมักผ่านไปไวเสมอ ญาณินเองก็เพิ่งมาเจอกับตัวเองเอาก็วันนี้ จากวันที่คลอดลูกชายออกมาจนถึงตอนนี้เป็นเวลาเกือบๆ สี่ปีแล้ว หลังจากที่ลูกชายรู้เรื่องและเข้าโรงเรียนแล้ว ความวุ่นวายก็ทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัว“แม่ครับ พ่อไม่ยอมแวะร้านค้าให้เหนือ ทั้งที่สัญญาเอาไว้แล้วว่าถ้าเหนือสอบได้คะแนนดีจะให้ซื้อของเล่นได้” เด็กชายวิ่งดุ่มๆ เข้ามาหาผู้เป็นแม่ทันทีที่กลับมาถึงบ้านและมีเรื่องผิดใจกับนอร์ทมาตลอดทาง“แล้วพ่อบอกว่าอะไรครับ ทำไมถึงไม่แวะ”“ก็เพราะว่าเหนือสอบได้คะแนนดี แต่ครูประจำชั้นแจ้งว่าเล่นแรงๆ กับเพื่อนจนเขาเป็นแผล ไม่รู้ว่าเป็นแบบนั้นแล้วแม่ญาจะปลอบหรือว่าดุกว่าพ่อกันแน่” นอร์ทที่เดินตามเข้ามาติดๆ ได้ยินลูกชายตัวแสบฟ้องภรรยาก็อดไม่ได้ที่จะพูดบอกความจริงให้แก่ญาณินได้รับรู้ ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ กันกับเธอ“แต่เพื่อนทำเหนือก่อน เหนือแค่ป้องกันตัว แต่พ่อไม่เข้าใจเหนือเลย”“เหนือ...แล้วลูกทำเพื่อนกลับจนเป็นแผลเลยเหรอครับ?” ญาณินซักถามความจริงจากปากของเหนือด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดูเข้มงวดกับเรื่องแบบนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว“จริงครับ”“ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าเหนือผ
ตอนพิเศษ 4เมื่อเข้าเดือนที่แปดของการตั้งครรภ์ ญาณินก็เริ่มเดินเหินได้ยากมากขึ้น แน่นอนว่าการช่วยเหลือตัวเองในแต่วันยากกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก แล้วก็รู้สึกได้ทันทีเลยว่าการที่มีสามีคอยดูแลอยู่ตลอดเวลาช่วยให้เธอเหนื่อยได้น้อยลงมากเลยทีเดียวอีกอย่างช่วงห้าเดือนก่อนหน้านี้ นอร์ทได้พาญาณินได้ตรวจดูเพศของลูกในท้องก่อนได้รับข่าวว่าลูกน้อยของทั้งสองคนนั้นเป็นเพศชาย ซึ่งก็เป็นไปตามที่พวกเขาคาดเดากันเอาไว้อยู่แล้ว จึงดีใจกันมากที่ได้ลูกชายตามที่หวังเอาไว้...เนื่องจากอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนก็จะถึงกำหนดคลอดแล้ว เหล่าเพื่อนๆ ทั้งนอร์ทและญาณินจึงพากันมาเยี่ยมหา และพูดคุยถึงสารทุกข์สุกดิบกันตามประสาเพื่อนในวัยเรียนที่ปัจจุบันยังคงสนิทสนมและติดต่อกันอยู่“เป็นไงบ้างแก เห็นว่าช่วงแรกๆ แพ้ท้องหนักมาเลยใช่ไหม? ขอโทษทีนะที่เพิ่งมา ฉันเองก็เพิ่งจะกลับมาจากต่างประเทศ แต่พอมาถึงก็รีบมาหาแกเป็นคนแรกเลยนะ”คราวนี้แตงกวาเองก็ไม่พลาด หลังจากวันที่เรียนจบ เธอเองก็มีทางของตัวเอง ย้ายไปเรียนต่อเฉพาะทางที่ต่างประเทศ กลับมาอีกทีก็ได้ทราบข่าวว่าญาณินกำลังจะคลอดลูกน้อยออกมาแล้วในอีกไม่ช้า เมื่อเป็นเช่นนั้นเธอก็เลยชวนวีแ
ตอนพิเศษ 3สองปีต่อมา...ขณะที่นอร์ทกำลังขนของที่ไปซื้อมาจากห้างเข้าบ้าน จู่ๆ ญาณินก็มีอาการแปลกประหลาด อ่อนเพลียคล้ายจะเป็นลม เธอเดินลงจากรถแล้วมาจับรถไว้หวังไม่ให้ตัวลงล้มลง“ญา หนูเป็นอะไร พี่เห็นหน้าซีดๆ ตั้งแต่ที่ห้างแล้วนะ” ชายหนุ่มรีบวางของในมือลงบนพื้นแล้วรีบวิ่งเข้าไปประคองร่างบางให้เดินเข้าไปพักในบ้าน และไม่ลืมที่จะถามอาการจากปากของเจ้าตัว“ญาเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่มันรู้สึกเพลียๆ แล้วก็เวียนหัวตลอดเวลาเลย”“โอเคๆ งั้นเข้าไปพักข้างในก่อนดีกว่า แล้วถ้ายังไม่ดีขึ้นเดี๋ยวพี่จะพาไปโรงพยาบาล”จากนั้นนอร์ทก็รีบพาภรรยาของเขาเข้ามานั่งพักที่โซฟาทันที แต่ทว่าระหว่างที่นั่งพักเอาแรง อาการของญาณินกลับไม่ทุเลาลงเลยแม้แต่น้อย มีแต่จะหนักขึ้นตลอดเวลาเลยก็ว่าได้“ญา พี่ว่าเราไปหาหมอกันเถอะ”“ไม่เป็นไรค่ะ พักอีกนิดก็น่าจะดีขึ้น”“ญา...อย่าดื้อสิ เดี๋ยวไปจะเตรียมรถ แล้วเดี๋ยวพี่มาช่วยพยุง ห้ามเดินไปไหนเองนะ รอพี่ เข้าใจไหม”ญาณินได้แต่พยักหน้ารับรู้ อาการของเธอเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่อาจต้านทาน เกรงว่าหากยังดื้อดึงไม่ยอมทำตามคำแนะนำของสามี อาจจะเกิดข่าวร้ายขึ้นก็ได้...ทว่าในตอนที่น
ตอนพิเศษ 2หลังจากที่เลือกชุดสำหรับวันแต่งงานกันเสร็จสรรพ ทั้งคู่ก็มีแพลนที่ต้องไปหาร้านทำของชำร่วยเพื่อเป็นของตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่แขกผู้มาร่วมยินดีในงานสำคัญของทั้งสอง ซึ่งกว่าที่ทุกอย่างจะเรียบร้อย ก็ทำเอาพวกเขาหมดเรี่ยวแรงไปตามๆ กันขณะนี้เป็นเวลาประมาณหนึ่งทุ่มตรง ด้วยความที่ออกไปทำธุระเรื่องงานแต่งงานมาทั้งวัน ญาณินรู้สึกอ่อเพลียเอามากๆ จึงตัดสินใจหนีว่าที่สามีลงแช่น้ำในอ่างอยู่คนเดียว ทว่าไม่นานก็มีคนถอดเสื้อผ้าตามเข้ามา...“พี่นอร์ท...ญาแช่อยู่นะคะ”“แล้วพี่แช่ด้วยไม่ได้เหรอ?”“ก็พี่ตัวใหญ่ กินที่ญาหมดแล้วเนี่ย” เธอเอ่ยปากบ่นก็จริง แต่ก็ยอมขยับให้นอร์ทลงมาแช่น้ำด้วยกันแต่โดยดี“งั้นหนูก็มานั่งกับพี่สิ” พูดจบได้ยังไม่ทันไร คนอายุมากกว่าก็พลันอุ้มร่างของหญิงสาวเบื้องหน้าให้มานั่งยู่บนตักของตัวเอง ก่อนจะเกยค้างวางไว้บนไหล่ กระทั่งลมหายใจแผ่วเบาของเขาส่งผลให้ญาณินถึงกับต้องเบนหน้าหนีออกไปอีกทาง“วันนี้ไม่ได้นะคะ พรุ่งนี้ญาต้องไปหาพ่อกับแม่”“พี่ก็ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย แค่ขอแช่น้ำด้วยเอง หรือว่าญา...คิดอะไรกับพี่ อย่างนั้นเหรอ?” นอร์ทถามด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบ ทั้งสองใกล้ชิดกั
ตอนพิเศษ 1หลังจากที่ญาณินถูกนอร์ททำเซอร์ไพรส์ให้ เมื่อกลับมาถึงห้องเธอก็เอาแต่ร้องไห้จนนอร์ทใจไม่ดี คิดว่าตนทำเรื่องผิดมหันต์เอาไว้ แต่ที่ไหน...“ญา หนูเป็นอะไร พี่ทำอะไรผิดจนหนูไม่พอใจหรือเปล่า?” นอร์ทตัดสินใจเอ่ยถามเธอออกไปตามตรง แม้จะแอบหวั่นใจ กลัวคำตอบที่จะได้รับกลับมาอยู่ไม่น้อยเลยก็ตาม“เปล่าค่ะ...หนูแค่ดีใจ ไม่คิดว่าพี่จะมีมุมนี้เหมือนคนอื่นเขาด้วย...” ญาณินเอ่ยขณะเดียวกันก็ยังร้องไห้ไม่ยอมหยุด เธอเพียงตื้นตันใจ ไม่คิดว่าแฟนหนุ่มที่ในอดีตเคยเป็นคู่กัดกันมาก่อนจะมีมุมโรแมนติกเหมือนกับคนอื่นๆ“อ๋อ เรื่องนี้เองเหรอ ที่ทำให้แฟนพี่ร้องไห้หนักขนาดนี้ พี่ก็นึกว่าซุกกิ๊กไว้ไม่เนียนซะอีก”“ห๊า...กิ๊กไหน ใครคะ?” หญิงสาวร่างบางถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ซ้ำยังปาดน้ำตาบนแก้มจนแห้งสนิททันทีที่ได้ยินอีกฝ่ายตอบสวนกลับมาเช่นนั้น“ล้อเล่นครับ จริงจังอะไรขนาดนั้น”“พี่นอร์ท! ใครให้เล่นแบบนี้ ญาใจหายหมดเลย” ญาณินถึงกับถอนหายใจแรง ตอบกลับแฟนหนุ่มด้วยน้ำเสียงเจือแววตำหนิอยู่ไกลๆ ทั้งที่เธอกำลังตื้นตันใจอยู่กับเซอร์ไพรส์ก่อนหน้านี้ แต่ทว่านอร์ทกลับเอาเรื่องมือที่สามมาเป็นเรื่องล้อเล่น ญาณินคิดแ
ตอนที่ 99ในที่สุดช่วงเวลาที่คู่รักหนุ่มสาวรอคอยก็มาถึง จริง ๆ แล้วยังไม่ถึงเวลาที่พระอาทิตย์จะตก แต่ด้วยความเบื่อหน่าย นอร์ทจึงไปถามรายละเอียดพนักงานโรงแรมเกี่ยวกับกิจกรรมที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ ก่อนจะได้รู้ว่าช่วงหกโมงเย็นจะมีม้าออกมาเดินเล่นที่ริมหาดซึ่งพวกเขาสามารถขึ้นขี่แล้วเดินเล่นได้หนึ่งรอบถ้วน แต่ก่อนที่จะลงไป นอร์ทกลับรู้สึกไม่สบายใจกับการแต่งตัวของญาณินเท่าไรนัก“ไหนว่าพี่รอดูไง พอญาแต่งออกมาแล้ว จะมาทำหน้างอทำไมคะเนี่ย”“มันโป๊ไป ตอนแรกพี่นึกว่ามันจะปิดเยอะกว่านี้ แต่นี่คือ...”ขณะที่เอ่ยสายตาก็พลางลอบมองร่างบางตั้งแต่หัวจดเท้า ชุดว่ายน้ำที่อยู่บนตัวของญาณินงดงามเกินคำบรรยายแต่ทว่าสิ่งเดียวที่เขาไม่พึงพอใจก็คงจะหนีไม่พ้นชุดที่โป๊จนเผยให้เห็นเนื้อหนังมังสาเกือบทุกส่วนของร่างกาย ทั้งส่วนเว้าส่วนโค้งและรวมไปถึงก้นเนียน ๆ ของเธอนั่นก็ด้วย“นาน ๆ ทีจะได้มาเที่ยวทะเล เว้นไว้สักครั้งนะคะ”“โอเค พี่ไม่เถียงด้วยแล้ว หนูอยากใส่อะไรก็ใส่ แต่ไม่มีครั้งหน้าแล้วนะ เสร็จแล้วก็รีบลงไป เดี๋ยวจะไม่ทันพระอาทิตย์ตกดินเอานะ”“รับทราบค่ะ”เมื่อได้รับคำอนุญาตจากว่าที่สามีเป็นที่เรียบร้อย ญ
ตอนที่ 98หลายสัปดาห์ต่อมา...“ญา วันนี้ไปเที่ยวกันไหม?” นอร์ทเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ แฟนสาว ก่อนที่จะเอ่ยถามความเห็นของเธอ หลังจากที่ได้ไอเดียดี ๆ มาจากเพื่อนรัก“ไปเที่ยวที่ไหนคะ เดี๋ยวอีกสองวัน ก็จะได้ไปเที่ยวทะเลด้วยกันแล้วนี่คะ”“ก็ช่วงนี้มันน่าเบื่อ เราไปเที่ยวในกรุงเทพฯ กันก่อนก็ได้ อีกอย่างวันนี้หนูก็ไม่มีเรียน พี่อยากพาไปที่ที่หนึ่ง”“ไปได้ค่ะ ว่าแต่ที่ไหนเหรอคะ”“สวนสนุก”เมื่อความต้องการของนอร์ทเป็นเช่นนั้น มีหรือที่ญาณินจะขัด ตอนแรกเธอก็ไม่ได้คิดอะไร เพียงแค่อยากมาเที่ยวเป็นเพื่อนตามประสาคู่รักทั่วไป แต่ก็ไม่คิดเลยว่าสถานที่ที่นอร์ทพาเธอมา จะสวยแล้วก็ดูมีอะไรให้น่าทำเยอะแยะเต็มไปหมด“เป็นไงบ้าง? ชอบไหม?”“พี่พาญามาทั้งทีก็ต้องชอบสิคะ ว่าแต่พี่ไปรู้ที่ดี ๆ แบบนี้มาจากไหน ทำไมญาไม่คุ้นตามาก่อนเลย”“ที่นี่เป็นสวนสนุกเปิดใหม่ ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก คนก็เลยยังน้อย แต่เพื่อนพี่บอกกันมาปากต่อปากว่าที่นี่เหมาะแก่การสารภาพสุด ๆ”วันนี้เป็นอีกวันที่นอร์ทชาร์ตพลังมาเต็มร้อย เขาพยายามทำให้แฟนสาวประทับใจในการมาเที่ยวผ่อนคลายครั้งนี้ให้ได้มากที่สุด ญาณินจึงเห็นเขายิ้มแย้มและดูสดใสร่าเริงต
ตอนที่ 97นับจากวันที่เข้าไปปรึกษากับพ่อและแม่จนถึงปัจจุบัน เวลาผ่านมาเกือบ ๆ หนึ่งเดือนเต็ม ทุกคนต่างก็ยุ่งวุ่นวายเกี่ยวกับเรื่องงานหมั้นหมาย เนื่องจากว่าครอบครอวของทั้งคู่มีชื่อเสียงดังนั้นหมั้นกันทั้งทีก็ต้องป่าวประกาศให้ทุกคนรู้ ในส่วนของสถานที่พิธีการก็ต้องยิ่งใหญ่เหมาะสมกับฐานะทางบ้านของทางฝ่ายชายและฝ่ายหญิง เรื่องนี้คุณหญิงอรเป็นคนจัดการดูแลให้ทั้งหมด ไม่มีปัญหาใด ๆ ระหว่างการเตรียมการเลยก็ว่าได้จนกระทั่งระยะเวลาเดินทางมาถึงวันงาน ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่น แขกที่มาร่วมแสดงความยินดีต่างก็ปลื้มปริ่มกับบรรยากาศภายในงาน คุณหญิงอรสะดวกจัดงานเช้า จึงจำเป็นจะต้องมีพิธีสงฆ์ แห่ขันหมากและกั้นประตู หลังจากนั้นจึงจะเป็นพิธีสวมแหวนต่อหน้าญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย เมื่อฝ่ายชายและหญิงสวมแหวนให้กันเรียบร้อย ก็ต่อด้วยพิธีรับไหว้ทันทีบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยแขกคนสนิทของทั้งสองฝ่าย เพื่อนสนิทของนอร์ทและญาณินก็ไม่พลาดที่จะมาเก็บภาพบรรยากาศให้กับเพื่อนรัก พวกเขาทุกคนต่างก็เห็นจุดเริ่มต้นของสองคนมาตลอด มีทั้งสุขและทุกข์ โดยเฉพาะในช่วงแรกที่ทะเลาะกันทุกวี่ทุกวัน เรื่องนั้นเพื่อน ๆ ในกลุ่มจำได้
ตอนที่ 96หลังจากวันนั้น นอร์ทก็คิดมาเสมอว่าควรจะทำทุกอย่างให้ถูกต้อง และให้เกียรติทางฝั่งของญาณิน เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่ทางบ้านของนอร์ทนัดทานข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา นอร์ทตัดสินใจแล้วว่าจะไปบอกเรื่องสำคัญกับพวกท่านตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเย็น นอร์ทเดินมานั่งรอพ่อและแม่ที่บริเวณโต๊ะอาหารก่อนเป็นคนแรก ระหว่างที่พวกท่านกำลังเดินเข้ามาร่วมโต๊ะ มือไม้ของชายหนุ่มกลับอยู่ไม่เป็นสุข เขาประหม่าจนทำตัวไม่ถูกทั้ง ๆ ที่อยู่ต่อหน้าคนกันเองทั้งนั้นแต่เขากลับรู้สึกผิดแปลกไปจากเดิม คงเป็นเพราะความในใจที่เขาอยากจะบอกกับทุกคน เป็นเรื่องที่ใหญ่อยู่พอสมควร“เป็นยังไงบ้างลูก เห็นว่าช่วงนี้เรียนหนักแถมยังติดหนูญาอีกต่างหาก ลืมที่บ้านไปแล้วหรือยัง” ผู้เป็นแม่เอ่ยทักทายลูกชายหัวแก้วหัวแหวน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดแซวเขาที่พักหลังมานี้ติดแฟนเสียยิ่งกว่าอะไร“ก็เรื่อย ๆ นะครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดี แต่ก็คงจะไปหนักช่วงใกล้จบมากกว่า ตอนนี้ยังไหวอยู่ครับแม่”“งั้นก็ดีแล้ว ว่าแต่หนูญาล่ะเป็นยังไงบ้าง เธอสบายดีใช่ไหม”“สบายดีครับ ช่วงนี้น้องเรียนหนัก เพราะว่าจะได้ขึ้นมาเป็นรุ่นพี่ มีเรื่องให้ต้องเต็มไปหมด วันนี้ก็เ