เขาว่ากันว่าเวลาของความสุขมักผ่านไปไวเสมอ ญาณินเองก็เพิ่งมาเจอกับตัวเองเอาก็วันนี้ จากวันที่คลอดลูกชายออกมาจนถึงตอนนี้เป็นเวลาเกือบๆ สี่ปีแล้ว หลังจากที่ลูกชายรู้เรื่องและเข้าโรงเรียนแล้ว ความวุ่นวายก็ทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัว
“แม่ครับ พ่อไม่ยอมแวะร้านค้าให้เหนือ ทั้งที่สัญญาเอาไว้แล้วว่าถ้าเหนือสอบได้คะแนนดีจะให้ซื้อของเล่นได้”
เด็กชายวิ่งดุ่มๆ เข้ามาหาผู้เป็นแม่ทันทีที่กลับมาถึงบ้านและมีเรื่องผิดใจกับนอร์ทมาตลอดทาง
“แล้วพ่อบอกว่าอะไรครับ ทำไมถึงไม่แวะ”
“ก็เพราะว่าเหนือสอบได้คะแนนดี แต่ครูประจำชั้นแจ้งว่าเล่นแรงๆ กับเพื่อนจนเขาเป็นแผล ไม่รู้ว่าเป็นแบบนั้นแล้วแม่ญาจะปลอบหรือว่าดุกว่าพ่อกันแน่” นอร์ทที่เดินตามเข้ามาติดๆ ได้ยินลูกชายตัวแสบฟ้องภรรยาก็อดไม่ได้ที่จะพูดบอกความจริงให้แก่ญาณินได้รับรู้ ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ กันกับเธอ
“แต่เพื่อนทำเหนือก่อน เหนือแค่ป้องกันตัว แต่พ่อไม่เข้าใจเหนือเลย”
“เหนือ...แล้วลูกทำเพื่อนกลับจนเป็นแผลเลยเหรอครับ?” ญาณินซักถามความจริงจากปากของเหนือด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดูเข้มงวดกับเรื่องแบบนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว
“จริงครับ”
“ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าเหนือผิดจริงๆ ถ้าเพื่อนแกล้งหรือทำไม่ดีใส่ แม่สอนว่ายังไงครับ ต้องไปบอกคุณครูใช่ไหม?”
“ใช่ครับ” เด็กชายตอบกลับด้วยน้ำเสียหงอยๆ ก่อนจะเดินเข้าไปก่อนญาณินด้วยความรู้สึกผิด
“มันไม่ดีนะครับลูก แม่ไม่เคยสอนให้เหนือไปทำร้ายใคร เราปกป้องตัวเอง แต่ต้องใช้เหตุผลมากกว่ากำลัง เข้าใจไหมครับ”
“เข้าใจแล้วครับ เหนือขอโทษ”
“ถือว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรก แม่จะไม่โกรธหรือทำโทษเหนือ แต่เหนือต้องขอโทษพ่อด้วย” ญาณินเอ่ยพลางลูบศีรษะของลูกชายเบาๆ
“เหนือขอโทษครับพ่อ...เหนือจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว”
“โอเคครับ พ่อไม่โกรธเหนือเลยครับ แต่ห้ามทำอีกนะ” นอร์ทตอบพลางอุ้มเด็กชายเข้ามากอดเอาไว้ในอ้อมอก ก่อนจะถือโอกาสหอมแก้วลูกชายด้วยความรักและเอ็นดู
“ไม่ทำแล้วครับ แต่พาเหนือไปซื้อของเล่นได้ไหม?” เหนือรู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเอง แต่ในเมื่อขอโทษแล้วก็ถือว่าเป็นอันจบสิ้น จึงไม่ลืมที่จะทักท้วงเรื่องซื้อของเล่นขึ้นมา กับเรื่องนี้เขาจำได้แม่น ไม่มีทางลืมอย่างแน่นอน
“โอเคครับ เดี๋ยวพ่อพาไป”
“พี่ก็เป็นซะแบบนี้ ตามใจลูกจนเคยตัวแล้วนะคะ แล้วเดี๋ยวก็มาให้ญาดุลูกอีก”
“ก็ลูกเชื่อฟังญานี่ อีกอย่างพี่มีหน้าที่แค่ตามใจลูกกับญา ส่วนที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของญาก็แล้วกันนะ”
นอร์ทเชื่อว่าญาณินสามารถที่จะสอนให้ลูกชายเป็นคนดีได้ เพราะนิสัยส่วนตัวของเขาไม่ได้ดีเลิศไปซะทุกอย่าง ยังมีอีกหลายสิ่งเลยด้วยซ้ำที่ต้องเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับลูกชาย จึงตัดสินใจให้ญาณินเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดในบ้าน ไม่ว่าจะเหนือหรือนอร์ทต่างก็พากันเกรใจและเชื่อฟังเธอเป็นอย่างดี
“ตอนนี้ญาแทบแยกไม่ออกแล้วนะคะ ว่าพี่เป็นสามีของญาหรือว่าลูกชายคนโตของญากันแน่ ทำตัวให้มันสมกับเป็นคุณพ่อหน่อยได้ไหมคะพี่นอร์ท”
“ไม่เอาอะ พี่อยากเป็นเพื่อนกับลูก ให้ญาปวดหัวไปคนเดียวน่ะดีแล้ว เชื่อพี่”
ญาณินได้ฟังคำตอบของผู้เป็นสามีก็ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาด้วยความหนักอกหนักใจ วันๆ มีเรื่องให้ปวดหัว แต่ถึงอย่างนั้นญาณินก็รู้สึกว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นสีสันในชีวิตคู่หลังแต่งงานมีลูกระหว่างเธอกับนอร์ท เธอกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีวันที่เธอเบื่อกับชีวิตแบบนี้ เพราะมีเรื่องใหม่ๆ มาให้เธอได้เรียนรู้และเข้าใจไม่เว้นแต่ละวันเลยก็ว่าได้..
หลายเดือนต่อมา ครอบครัวเล็กๆ ของนอร์ทและญาณิน ตัดสินใจที่จะไปเที่ยวพักผ่อนฤดูร้อนกันที่ทะเล นั่นก็เพราะทั้งคู่อยากซึมซับบรรยากาศวันเก่าๆ ในอดีตที่เคยมาด้วยกันเมื่อคราวก่อนตอนที่ยังเป็นคู่กัดกัน
“พ่อกับแม่เคยมาด้วยกันแล้วเหรอครับ? ทำไมไม่เห็นรอเหนือก่อนเลย เราสามคนจะได้มาที่นี่ด้วยกันครั้งแรก” ขณะที่มือทั้งสองข้ามกำลังจับมือพ่อและแม่แล้วเดินจูงกันไปตามชายหาดในยามเย็น จู่ๆ เหนือก็พูดความสงสัยขึ้นมา จนญาณินกับนอร์ทหันหน้ามองกันโดยมิได้นัดหมาย
“ก็ตอนนั้นแม่ถูกบังคับให้มาเที่ยวน่ะสิ เพราะว่าเมื่อก่อนแม่ไม่ค่อยชอบออกไปไหน แต่น้ากวาก็อยากให้แม่ออกมาเปิดหูเปิดตา แล้วพ่อก็มายุ่งวุ่นวายกับแม่ทั้งๆ ที่ชอบบอกว่าแม่เป็นคนไม่ดี”
“จริงเหรอครับพ่อนอร์ท?”
“อะไรกัน เอาเรื่องนี้มาฟ้องลูกเนี่ยนะ มันผ่านนานแล้วน้า ตอนนี้พ่อไม่ได้มองว่าแม่เป็นคนไม่ดีสักหน่อย”
“แล้วพ่อมองว่าแม่เป็นคนดีแล้วหรือยังครับ แม่เป็นคนดีจะตาย ห้ามไม่ชอบกันนะ” เด็กน้อยพูดขึ้นอย่างไม่รู้ประสีประสา คิดแค่ว่าพ่อเคยไม่ชอบแม่ แต่ในตอนนี้ไม่ควรจะต้องเป็นเช่นนั้น...
“พ่อเนี่ยนะจะไม่ชอบแม่ พ่อชอบมาตั้งนานแล้ว แต่แม่เขาน่ะเคยไม่ชอบพ่อ กว่าจะมาดีกันได้ ยากมากๆ”
“แล้วทำไมแม่ถึงไม่ชอบพ่อล่ะครับ พ่อก็เป็นคนดีเหมือนกัน ตามใจเหนือตลอดเลย”
“เมื่อก่อนพ่อน่ะแสบพอๆ กับเหนือเลยนะ แต่ตอนนี้ก็ดีเหมือนอย่างที่เหนือพูดจริงๆ อย่าไปคิดถึงอดีตเลยเนอะ แค่ตอนนี้เราสามคนมีความสุข ได้อยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาก็พอแล้ว” ญาณินเอ่ยพลางอุ้มร่างของเด็กชายขึ้นมากอดเอาไว้ในอ้อมอก แล้วพากันเดินเล่นกันอยู่ที่บริเวณชายหาดจนพระอาทิตย์ตกดิน
“ลูกหลับแล้วเหรอคะ?” หญิงสาวเอ่ยถามผู้เป็นสามีทันทีที่เห็นว่าเขาเดินออกมาจากห้องพักด้วยความระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียงดังรบกวนการนอนของลูกชายตัวแสบ
“หลับแล้ว สงสัยจะเหนื่อย พี่ให้กินไปกล่องหนึ่งก็หลับคาหลอดเลย ว่าแต่เราเถอะออกมานั่งทำอะไรคนเดียว ไม่หนาวเหรอ?” นอร์ทตอบคำถามเรื่องเหนือให้กับภรรยาได้รับรู้ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุยแล้วค่อยๆ หย่อนก้นลงนั่งข้างๆ กันกับญาณิน
ขณะนี้ลมเย็นๆ กำลังพัดผ่านร่างของพวกเขาไป มิวายยังได้ยินเสียงคลื่นซัดเข้าฝั่งเป็นระลอกๆ บรรยากาศในยามค่ำคืนนี้ทำเอาทั้งคู่อดหวนนึกถึงบรรยากาศในวันเก่าๆ ไม่ได้เลยจริงๆ
“จะว่าไป เราสองคนก็มาไกลกันเหมือนกันนะคะเนี่ย รอบที่แล้วที่มาด้วยกัน ยังตีกันไม่เลิกอยู่เลย”
“อืม...ก็จริง ตอนที่พี่เอาเรื่องงานแต่งงานไปบอกเพื่อนๆ พวกมันก็ยังถามพี่ซ้ำๆ ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ไม่มีเชื่อเลยนะว่าเราจะมาถึงจุดนี้กันได้จริงๆ ไม่เว้นแม้แต่พ่อกับแม่พี่”
“ทำไมเหรอคะ?”
“ก็เมื่อก่อน พี่เป็นคนไม่มีเป้าหมายอะไรในชีวิตเลย การที่จะมีครอบครัวได้พี่คิดว่าคงต้องสมบูรณ์แบบไม่น้อย แต่ก็ไม่คิดว่าพี่จะปรับตัวจนเข้ากับเราได้อย่างไม่มีที่ติ ถึงตอนนี้พี่นึกไม่ออกเลยว่าถ้าชีวิตพี่ไม่มีเรากับลูก พี่จะอยู่ยังไง”
ถ้อยคำที่แฝงไว้ด้วยความหมายอันลึกซึ้งส่งผลให้คนฟังค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกดีใจ เธอไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งนอร์ทจะพูดคำคำนี้ออกมาได้อย่างเต็มปากเต็มคำ เขาขาดเธอไม่ได้ นั่นคือความจริงที่ออกมาจากใจของนอร์ทจริงๆ
“มันจะไม่มีวันนั้นค่ะ ญากับลูกจะไม่ไปไหนทั้งนั้น จะอยู่เป็นกำลังให้พี่ในทุกๆ วัน ขอแค่พี่ซื่อสัตย์แล้วก็รักญากับลูกเหมือนอย่างวันนี้ตลอดไปก็พอแล้วค่ะ”
ญาณินตอบพร้อมกับค่อยๆ เอนศีรษะลงไปซบที่ไหล่กว้างของชายหนุ่มเคียงกายเบาๆ แม้ว่านอร์ทจะไม่ได้สมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ทว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาก็สามารถทำหน้าที่สามีและพ่อของลูกได้อย่างไร้ข้อบกพร่อง และดีที่สุดสำหรับญาณินแล้ว...
“แน่นอน พี่จะซื่อสัตย์กับญาแล้วก็ลูก เราจะมีกันแบบนั้นตลอดไป พี่สัญญา...”
“อีกหนึ่งเดือนข้างหน้า พี่ก็คงต้องกลับไปทำงานเหมือนเดิมแล้ว ญาจะเป็นคนดูแลลูกเอง ไม่ต้องเป็นห่วงเลยนะคะ”
“ใจพี่ เริ่มจะไม่อยากกลับไปซะแล้วสิ...”
“ไม่ได้นะคะ มันเป็นหน้าที่ อีกอย่างยังไงเราก็ได้เจอกันทุกเช้าเย็นอยู่แล้ว อย่าลืมนะคะว่าตั้งแต่ช่วงที่คลอดลูกจนลากยาวมาถึงตอนนี้ มันนานมาก ญารู้ว่านั่นเป็นบริษัทของคุณพ่อพี่ แต่ตอนแรกบอกไว้แค่ปีเดียว ตอนนี้มันจะสี่ห้าปีแล้วเข้าไปแล้วนะคะ เอาจริงๆ ญาเกรงใจคุณพ่อ อีกอย่างตอนนี้ญาแข็งแรงมาก ดูแลเจ้าเหนือได้สบายๆ เลยค่ะ”
“โอเค อันที่จริงพ่อพี่ก็เริ่มถามเรื่องนี้แล้วแหละ ว่าจะอยู่หรือว่าจะออก เพราะว่าตำแหน่งผู้บริหารจะต้องเป็นตำแหน่งถาวร ไม่ใช่ชั่วคราว แต่ถ้าญาพูดแบบนี้แล้ว พี่ก็จะกลับไปทำหน้าที่ที่ค้างคาไว้ให้เสร็จเรียบร้อย แล้วถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดี พี่จะลาออกแล้วมาทำธุรกิจเล็กๆ ที่ทำให้เราสามคนสามารถอยู่ด้วยตลอดยี่สิบชั่วโมงได้เลย โอเคไหม?”
ดวงตาคู่สวยเหลือบขึ้นมองสามี ก่อนจะค่อยๆ พยักหน้ารับข้อตกลงดังกล่าว ญาณินเชื่อใจและมั่นใจว่านอร์ทจะไม่ทำให้ผิดหวัง ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ดังนั้นหากเขาจะตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเธอก็ไม่จำเป็นจะต้องติเตียนหรือบังคับเขาต้องว้าวุ่นใจไปมากกว่าเดิม อย่างน้อยก็เป็นผลดีกับทุกฝ่าย จะได้ไม่ต้องผิดใจกันในอนาคต...
“ไหน มาให้พี่กอดหน่อยสิ”
“กอดอย่างเดียวเหรอคะ?”
“หื้ม อยากให้พี่ทำมากกว่านั้นเหรอ หรือว่าคำถามแบบนี้คืออยากมีน้องให้เหนืออีกสักคน?”
“ไม่เอาหรอกค่ะ ถ้ามีอีกคน ญาว่าพี่คงต้องลาออกแล้วจริงๆ” ญาณินพูดไปก็หัวเราะด้วยความชอบใจไปด้วยในเวลาเดียวกัน เธอเพียงแค่หยอกเล่นกับสามีเท่านั้น ไม่ได้คิดจะปั๊มลูกคนที่สองต่อแต่อย่างใด...
“พี่ยอมลาออกได้นะ ถ้าญาอยากมีอีกคน”
“นี่ พี่ไม่รู้จักเหนื่อยเลยหรือยังไงกัน แค่คนเดียวเราสองคนก็หัวฟูกันมาหลายปีแล้วนะคะ ถ้ามีอีกคนญาว่าญารับมือไม่ไหวแน่ๆ”
“แต่พี่ว่าบรรยากาศกำลังดีเลยนะ ลมเย็นๆ เสียงน้ำทะเลซัดเขาฝั่ง หรือคนต่อไปจะต้องชื่อว่าซีที่แปลว่าทะเลหรือเปล่าน้า...”
“ไม่ได้นะคะ ถ้าพี่ทำอะไรญา ญาจะฟ้องลูก ให้ลูกจัดการพี่ซะให้เข็ดเลย”
“โอเคๆ พี่ยอมแล้ว ห้ามฟ้องลูกชายนะ”
ทั้งสองนั่งดูวิวทิวทัศน์ของทะเลในยามน้ำค้างพรมอยู่สักพักใหญ่ เมื่อได้ยินเสียงร้องของลูกชาย ก็รีบพากันวิ่งกลับเข้าไปนอนด้วยกันสามพ่อแม่ลูกอย่างพร้อมหน้าตา ทุกคนต่างมีความสุขและอิ่มใจเป็นอย่างยิ่ง ต่อนับต่อจากนี้มันก็จะเป็นเช่นนี้ตลอดไป ไม่มีวันแยกจากกันไปไหนอย่างแน่นอน...
ตอนที่ 1 ท่ามกลางความเงียบสงบในยามเช้า อยู่ ๆ เสียงกดกริ่งก็พลันดังสวนขึ้นมาจนสามารถดึงความสนใจของแม่บ้านที่กำลังทำสวนในยามเช้า เธอเดินออกมาหาเพื่อดูว่าใครคือต้นเสียงดังกล่าว ก่อนจะพบเข้ากับบุรุษไปรษณีย์ที่ยืนรอตรงตู้จดหมายที่อยู่หน้ารั้ว“จดหมายมาส่งครับ ผมเห็นว่าเป็นมีเอกสารสำคัญด้วยเลยไม่กล้าเหน็บไว้ นี่ครับ” บุรุษไปรษณีย์คนนั้นเอ่ยบอกหญิงสาววัยกลางคนก่อนจะยืนซองเอกสารที่ว่าให้กับอีกฝ่ายหลังจากที่พูดจบอย่างรวดเร็ววินาทีนั้นเธอรับจดหมายปึกใหญ่ ๆ มาไว้ในมือ ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นชื่อจริงและนามสกุลจริงของคุณหนูปรากฏอยู่บนจดหมายที่บุรุษไปรษณีย์บอกเอาไว้ว่าสำคัญเป็นอย่างมาก“ขอบใจจ้ะ” เธอเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งปิดประตู หลังจากนั้นก็รีบสาวเท้าเดินกลับเข้ามาในคฤหาสน์หลังโต เพื่อส่งมอบจดหมายฉบับดังกล่าวให้กับผู้เป็นเจ้าของแต่ในขณะที่กำลังจะสาวเท้าเดินขึ้นไปชั้นบน อยู่ ๆ เสียงเรียกของคุณผู้หญิงก็พลันดังสวนขึ้นมาจนเธอชะงักงัน แล้วให้ความสนใจไปยังอีกฝ่ายแทบจะทันที“ทิพย์ นั่นจดหมายใครเหรอ?” ผู้เป็นนายเอ่ยถามด้วยความสงสัย ก่อนที่จะเบนสายตามองไปยังจดหมายในมือของทิพย์“มีเยอะเลยค่ะคุณผู้หญิง แต
ตอนที่ 2แม้ว่าเมื่อวานจะจบวันได้ไม่ดีนัก แต่เช้าวันใหม่ที่ญาณินรอคอยก็มาถึงเสียที เธอตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวย้ายเข้าไปอยู่หอ แต่ก่อนจะออกจากบ้าน พ่อและแม่ของเธอก็มายืนเกลี้ยกล่อมไม่อยากให้เธอออกไปจากบ้านหลังนี้“ตอนนี้เปลี่ยนใจยังทันนะยายณิณ ลูกไม่เคยทำอะไรเอง จะไหวจริง ๆ เหรอ”ผู้เป็นแม่ถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบหากแต่แฝงไว้ด้วยความหวัง เธอเองก็เป็นห่วงญาณิน แต่ทว่าก็ไม่อยากขัดใจมากเท่าไรนัก เพราะได้ตัดสินใจลงไปแล้ว“อย่าพยายามเลยค่ะ ณินบอกแล้วไงคะว่าณินตัดสินใจแล้ว ของก็เก็บแล้ว รถก็เตรียมรอแล้ว แถมค่าหอ ค่าเรียนก็จ่ายมัดจำตามข้อตกลงไปก่อนแล้ว ถอยไม่ได้หรอกค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปเถอะ เดี๋ยวจะสายเอา”ชายวัยกลางคนถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาแล้วบอกให้ลูกสาวรีบไป ด้วยความที่เลี้ยงมากับมือ พวกเขารู้ว่ายังไงก็ไม่บังคับญาณินไม่ได้อยู่แล้ว จึงจำใจต้องยอมให้ไปแต่โดยดี ถึงแม้ว่าผู้เป็นแม่จะยังคงอาลัยอาวรณ์อยู่มากเลยก็ตาม“อย่างนั้นณินลาตรงนี้เลยนะคะ ไม่ต้องไปส่งก็ได้ ไว้ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ณินจะโทร.มาบอกนะคะ”“อืม ตามนั้น ไปก็ไป...”บทสนทนาระหว่างพ่อแม่ลูกจบลงแต่เพียงเท่านั้น ญาณินขึ้น
ตอนที่ 3ระยะเวลาผ่านมาประมาณหนึ่งสัปดาห์ วันนี้เป็นวันแรกของการไปเรียน ญาณินตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ เพราะมีเรียนช่วงแปดโมงตรง เธอยังกะเวลาไม่ถูก จึงตื่นเร็วกว่าปกติ ถ้าหากว่าได้ไปเรียนดูสักระยะก็คงจะกะเวลาได้พอดีมากขึ้นใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวอยู่ประมาณสามสิบนาที ทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย หญิงสาวในคราบชุดนักศึกษาเดินออกมาจากซอยของหอพัก ก่อนจะตรงดิ่งไปยังสถานีรถไฟฟ้าเพื่อไปลงสถานีต่อไปทันทีที่มาถึงมหาวิทยาลัย ญาณินตรงดิ่งเข้ามานั่งรออาจารย์ในคลาสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยความที่เธอเป็นหญิงสาวแต่งตัวเชย ๆ ทั้งยังมีแว่นปกปิดความเป็นตัวตนที่แท้จริงเอาไว้ภายในนั่นจึงส่งผลให้เพื่อน ๆ ในห้องเรียนเดียวกัน ไม่มีใครให้ความสนใจมาที่เธอเลยสักคน ผิดกับสาวสวยที่มีดีกรีเป็นถึงดาราเน็ตไอดอลที่ใครต่างก็ให้ความสนใจและพูดชื่นชมกันอย่างไม่ขาดปาก“นี่เธอ...อยู่คนเดียวเหมือนกันหรอกเหรอ?”ในขณะที่ญาณินกำลังเบนสายตาออกไปทางนอกหน้าต่างเพื่อชมนกชมใจไปพลาง ๆ ระหว่างรออาจารย์ จู่ ๆ หญิงสาวแปลกหน้าก็เดินเข้ามาทักทายพร้อมทั้งหย่อนกายลงนั่งข้าง ๆ เธอ“อืม ฉันไม่ค่อยมีเพื่อนน่ะ มาเรียนที่นี่ก็มาคนเดียว ไม่มีคนรู้จักเลยส
ตอนที่ 4“พี่ไม่มีเรียนหรือไง เดี๋ยวหนูจะขึ้นไปเรียนกับเพื่อนแล้วค่ะ พี่ไปได้แล้ว” แตงกวาเห็นว่าญาณินไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร เธอจึงรีบไล่รุ่นพี่คนนั้นให้กลับไปเรียนทันที อย่างน้อยได้อยู่กันสองคนก็น่าจะดีกว่ามีคนนอกเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วย“แตงกวา จริง ๆ เธอไม่ต้องไล่พี่เขาไปก็ได้นะ เขามาจีบเธอนี่คงใจเสียหมดแล้วมั้งน่ะ” เมื่อรุ่นพี่ที่มาตามจีบเพื่อนสาวเดินจากไปตามคำขอของเธอ ญาณินก็รีบพูดความคิดเห็นของตนสวนขึ้นมาอย่างไว“ไม่เป็นไรหรอก บางทีฉันเองก็แอบรำคาญเหมือนกัน อยากอยู่กับเพื่อนแบบสองต่อสองบ้างน่ะ”“เพิ่งมาเรียนเมื่อวานวันแรก วันนี้แกก็มีหนุ่มมาติดซะแล้ว เนื้อหอมไม่เบาเลยนะแตงกวา” ญาณินพูดแซวอย่างทีเล่นทีจริงพร้อมทั้งปรากฏรอยยิ้มละไมบนใบหน้า“เปล่าสักหน่อย ฉันขึ้นมาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ที่รู้ว่าสอบติดได้ใหม่ ๆ แล้วพอมาอยู่ก็รู้สึกเบื่อ ก็เลยไปหางานพาร์ตไทม์ทำเล่น ๆ น่ะ แล้วก็ไปเจอที่เขานี่แหละ นับตั้งแต่นั้นมาเขาก็ตามจีบฉันมาเรื่อย ๆ เลย”“อ๋อ...เป็นแบบนี้นี่เอง”“คนอย่างฉัน เอาอะไรมาเนื้อหอม ฟลุกเจอมามากกว่า” หญิงสาวตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ ก่อนจะหลบหลีกสายตาของญาณินไปชั่วขณะ แตงกวา
ตอนที่ 5.1เวลาผ่านไปสักระยะ ญาณินและแตงกว่าเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น และสามารถที่จะเรียกว่าเพื่อนสนิทกันอย่างได้เต็มปากขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงตรงโดยประมาณ สองสาวคณะสถาปัตย์เดินออกมาจากตรงหลังเลิกคลาสเป็นที่เรียบร้อย ทั้งคู่ยังตกลงกันไม่ได้ว่าจะไปกินข้าวกลางวันกันที่ไหนดี จึงเดินเถียงกันมาตลอดทาง“ฉันรู้แล้ว ถ้าอย่างนั้นเราไปกินข้าวกันที่ตึกวิศวะฯ กันไหมล่ะ”“แหม ยายกวาคบกับพี่เขาได้ยังไม่ทันไร ก็ติดหนึบเลยนะ”“เปล่าสักหน่อย ฉันก็แค่เสนอตัวเลือกให้แกไง แต่ไปด้วยกันก็ดีนะ”“ฉันไม่ไปได้ไหม ขี้เกียจเดินด้วยอะ”ญาณินตัดสินใจปฏิเสธออกไปด้วยน้ำเสียงไม่มั่นคง เพราะใจหนึ่งเธอเองก็ไม่อยากเพื่อนสนิทต้องไปคนเดียว แต่อีกใจเธอก็ไม่ได้อยากไปที่นั่นมากถึงเพียงนั้น จึงยังไม่ค่อยแน่ใจว่าจะเอายังไงดี“อะไรกัน แล้วแกจะให้ฉันไปคนเดียวเหรอ อีกอย่างฉันเองก็ไม่ได้อยากปล่อยให้แกไปกินคนเดียวเหมือนกัน ไปด้วยกันนี่แหละ นะ ๆ ๆ”ประโยคดังกล่าวลอยแว่วมาถึงหูของหญิงสาวเจ้าของใบหน้างามจนเธอรู้สึกใจอ่อนยวบลงมาแทบจะทันที ญาณินเองก็เป็นห่วงแตงกวาไม่ต่างกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยหากว่าเธอจะยอมใจอ่อนให้ง่าย ๆ“อืม ไปเป็นเพื่อนก
ตอนที่ 5.2เวลานี้เขากำลังกอดอกแล้วทอดสายตามองคนตรงหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่เขาทำเหมือนกับว่าโกรธแค้นกันมาแต่ชาติปางก่อนเลยอย่างไรอย่างนั้น“ญา ไปซื้อข้าวกันเถอะ”แตงกวาที่นั่งมองสถานการณ์อันแสนจะน่าอึดอัดนั้นอยู่สักพัก จึงตัดสินใจพาเพื่อนสาวของตนออกมา ก่อนที่จะบานปลายกันไปมากกว่านี้เมื่อเดินออกมาจนลับสายตาจากกลุ่มคน ญาณินก็ไม่คิดที่จะเก็บอาการอีกต่อไปแล้ว...“ฉันไปทำอะไรให้เขาอะ ถึงได้มองกันด้วยสายตาแบบนั้น ตั้งแต่ฉันเดินเข้ามา เขาก็มองฉันตั้งแต่หัวจดเท้า แกก็เห็น”“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ปกติพี่เขาก็ไม่ได้เป็นแบบนี้นะ แต่ฉันก็ไม่ได้สนิท พี่นอร์ทเขาก็คงเป็นแบบนี้กับทุกคนแหละ แกอย่าคิดมากเลย”“เขาจงใจจะหาเรื่องฉันชัด ๆ เลย คนอะไรไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่กลับมองกันด้วยสายตาแบบนั้น คิดแล้วก็โมโหไม่หาย”ทั้งที่เป็นการพบเจอกันครั้งแรก แต่หญิงสาวกลับรู้สึกคับข้องใจกับอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก ซ้ำยังหมายหัวนอร์ทเอาไว้ว่าคงจะไม่มีทางญาติดีกันง่าย ๆ อย่างแน่นอน“อย่าโมโหสิ แกก็เฉย ๆ ไปก่อน ไปซื้อข้าวกันเถอะ”ญาณินไม่ได้คัดค้านอะไร เธอยอมเงียบเฉยตามที่แตงกวาบอก
ตอนที่ 6หากแต่หลังจากวันนั้น แตงกวากลับชวนญาณินไปกินข้าวกลางวันที่โรงอาหารคณะวิศวะฯ อยู่บ่อย ๆ ช่วงนี้เธอติดแฟนหนุ่มคนนั้นมาก ถ้าจะปล่อยญาณินเอาไว้คนเดียวก็ยังไง ๆ อยู่ เธอจึงจำเป็นต้องบังคับเพื่อนสาวให้ไปด้วยกัน“ญา…”“ฉันไม่ไป แกอยากไปก็ไปเลย ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก”“ไม่เอาอะ ไปด้วยกันเถอะนะ ขอร้อง...”“แตงกวา แกก็รู้ว่าฉันไม่อยากเจอเขา”ญาณินยังคงยืนกรานปฏิเสธอยู่อย่างนั้น เพราะรู้ดีว่าถ้าไปก็คงจะถูกผู้ชายคนนั้นหาเรื่องอีกเหมือนอย่างที่ผ่าน ๆ มา เธอไม่อยากยุ่งกับคนแบบนั้นอีกแล้ว“ฉันรู้ แต่ว่าฉันไม่อยากไปคนเดียว แกคิดว่าผู้หญิงไปนั่งในกลุ่มผู้ชายแบบนั้น มันจะดีเหรอ?”“ถ้าอย่างนั้นแกก็ไม่ต้องไปสิ ให้แฟนแกมาคณะเราบ้าง”“ไม่ได้หรอก ฉันรับปากไว้แล้วอะว่าจะไปกินข้าวด้วยทุกวัน นะ...ไปด้วยกันเถอะนะญา” ทว่าแตงกวากลับไม่ยอมลดละความพยายาม เธอออดอ้อนเพื่อนสนิทข้างกายอยู่พักใหญ่ เพราะไม่อยากผิดคำพูดที่ได้ให้ไว้กับแฟนหนุ่ม“เออ ๆ ไปก็ไป ถ้าไม่ใช่แกฉันไม่ยอมแบบนี้ทุกวันหรอกนะ รู้เอาไว้ด้วย”“เย่ ถ้าอย่างนั้นไปกันเลยดีกว่า ขอบคุณนะเพื่อนรัก...”หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้กับความเอาแต่ใจของแตงกว
ตอนที่ 7“จะให้เย็นยังไงอีก ที่ผ่านมายังเย็นไม่พอหรือไง คนบ้าอะไรหาเรื่องกันทุกครั้งที่เจอหน้า นี่ถามจริง ๆ เลยนะคะ ฉันไปทำอะไรให้ ถึงได้ทำนิสัยเสียใส่กันแบบนี้ตลอดเลย”เป็นครั้งแรกที่ญาณินไม่คิดที่จะอดกลั้นความรู้สึกที่มีต่ออีกฝ่ายอีกต่อไปแล้ว เธอไม่สนใจว่าผู้คนรอบข้างจะมองมาอย่างไร อย่างน้อย ๆ วันนี้นอร์ทจะต้องได้รับรู้ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาตั้งแต่แรกเจอจนถึงตอนนี้ว่ามันไม่เคยมีความรู้สึกดี ๆ เลยแม้แต่นิดเดียว“แล้วทำไม กับแค่คำว่าเฉิ่ม ต้องโมโหขนาดนี้เลยเหรอ สงสัยจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ถึงได้ร้อนตัว”“ไอ้นอร์ท มึงก็หาเรื่องน้องเขาอยู่ได้ พอได้แล้ว”“กูไม่พอ มึงคิดว่ามึงห้ามกูได้เหรอ?”ชายหนุ่มใบหน้าคมสันหันไปมองเพื่อนสนิทก่อนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบและแฝงไว้ด้วยความไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่งวินาทีที่ญาณินได้ยินคำตอบเช่นนั้น เธอก็ได้แต่ขมวดคิ้ว ในชีวิตของเธอไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมารู้จักมักคุ้นกับคนแบบนี้เลย เธอคงตัดสินใจผิดแล้วที่ตามติดแตงกวามาด้วยตั้งแต่วันแรก ๆ“คนแบบนี้น่ะเหรอคะ ที่มีแต่คนเคารพ ไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะ”“มันเกี่ยวอะไร ตัวเองโมโหแล้วพาลไปเรื่อย แบบนี้ก็ได้เหรอ
ตอนพิเศษ 5เขาว่ากันว่าเวลาของความสุขมักผ่านไปไวเสมอ ญาณินเองก็เพิ่งมาเจอกับตัวเองเอาก็วันนี้ จากวันที่คลอดลูกชายออกมาจนถึงตอนนี้เป็นเวลาเกือบๆ สี่ปีแล้ว หลังจากที่ลูกชายรู้เรื่องและเข้าโรงเรียนแล้ว ความวุ่นวายก็ทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัว“แม่ครับ พ่อไม่ยอมแวะร้านค้าให้เหนือ ทั้งที่สัญญาเอาไว้แล้วว่าถ้าเหนือสอบได้คะแนนดีจะให้ซื้อของเล่นได้” เด็กชายวิ่งดุ่มๆ เข้ามาหาผู้เป็นแม่ทันทีที่กลับมาถึงบ้านและมีเรื่องผิดใจกับนอร์ทมาตลอดทาง“แล้วพ่อบอกว่าอะไรครับ ทำไมถึงไม่แวะ”“ก็เพราะว่าเหนือสอบได้คะแนนดี แต่ครูประจำชั้นแจ้งว่าเล่นแรงๆ กับเพื่อนจนเขาเป็นแผล ไม่รู้ว่าเป็นแบบนั้นแล้วแม่ญาจะปลอบหรือว่าดุกว่าพ่อกันแน่” นอร์ทที่เดินตามเข้ามาติดๆ ได้ยินลูกชายตัวแสบฟ้องภรรยาก็อดไม่ได้ที่จะพูดบอกความจริงให้แก่ญาณินได้รับรู้ ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ กันกับเธอ“แต่เพื่อนทำเหนือก่อน เหนือแค่ป้องกันตัว แต่พ่อไม่เข้าใจเหนือเลย”“เหนือ...แล้วลูกทำเพื่อนกลับจนเป็นแผลเลยเหรอครับ?” ญาณินซักถามความจริงจากปากของเหนือด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดูเข้มงวดกับเรื่องแบบนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว“จริงครับ”“ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าเหนือผ
ตอนพิเศษ 4เมื่อเข้าเดือนที่แปดของการตั้งครรภ์ ญาณินก็เริ่มเดินเหินได้ยากมากขึ้น แน่นอนว่าการช่วยเหลือตัวเองในแต่วันยากกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก แล้วก็รู้สึกได้ทันทีเลยว่าการที่มีสามีคอยดูแลอยู่ตลอดเวลาช่วยให้เธอเหนื่อยได้น้อยลงมากเลยทีเดียวอีกอย่างช่วงห้าเดือนก่อนหน้านี้ นอร์ทได้พาญาณินได้ตรวจดูเพศของลูกในท้องก่อนได้รับข่าวว่าลูกน้อยของทั้งสองคนนั้นเป็นเพศชาย ซึ่งก็เป็นไปตามที่พวกเขาคาดเดากันเอาไว้อยู่แล้ว จึงดีใจกันมากที่ได้ลูกชายตามที่หวังเอาไว้...เนื่องจากอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนก็จะถึงกำหนดคลอดแล้ว เหล่าเพื่อนๆ ทั้งนอร์ทและญาณินจึงพากันมาเยี่ยมหา และพูดคุยถึงสารทุกข์สุกดิบกันตามประสาเพื่อนในวัยเรียนที่ปัจจุบันยังคงสนิทสนมและติดต่อกันอยู่“เป็นไงบ้างแก เห็นว่าช่วงแรกๆ แพ้ท้องหนักมาเลยใช่ไหม? ขอโทษทีนะที่เพิ่งมา ฉันเองก็เพิ่งจะกลับมาจากต่างประเทศ แต่พอมาถึงก็รีบมาหาแกเป็นคนแรกเลยนะ”คราวนี้แตงกวาเองก็ไม่พลาด หลังจากวันที่เรียนจบ เธอเองก็มีทางของตัวเอง ย้ายไปเรียนต่อเฉพาะทางที่ต่างประเทศ กลับมาอีกทีก็ได้ทราบข่าวว่าญาณินกำลังจะคลอดลูกน้อยออกมาแล้วในอีกไม่ช้า เมื่อเป็นเช่นนั้นเธอก็เลยชวนวีแ
ตอนพิเศษ 3สองปีต่อมา...ขณะที่นอร์ทกำลังขนของที่ไปซื้อมาจากห้างเข้าบ้าน จู่ๆ ญาณินก็มีอาการแปลกประหลาด อ่อนเพลียคล้ายจะเป็นลม เธอเดินลงจากรถแล้วมาจับรถไว้หวังไม่ให้ตัวลงล้มลง“ญา หนูเป็นอะไร พี่เห็นหน้าซีดๆ ตั้งแต่ที่ห้างแล้วนะ” ชายหนุ่มรีบวางของในมือลงบนพื้นแล้วรีบวิ่งเข้าไปประคองร่างบางให้เดินเข้าไปพักในบ้าน และไม่ลืมที่จะถามอาการจากปากของเจ้าตัว“ญาเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่มันรู้สึกเพลียๆ แล้วก็เวียนหัวตลอดเวลาเลย”“โอเคๆ งั้นเข้าไปพักข้างในก่อนดีกว่า แล้วถ้ายังไม่ดีขึ้นเดี๋ยวพี่จะพาไปโรงพยาบาล”จากนั้นนอร์ทก็รีบพาภรรยาของเขาเข้ามานั่งพักที่โซฟาทันที แต่ทว่าระหว่างที่นั่งพักเอาแรง อาการของญาณินกลับไม่ทุเลาลงเลยแม้แต่น้อย มีแต่จะหนักขึ้นตลอดเวลาเลยก็ว่าได้“ญา พี่ว่าเราไปหาหมอกันเถอะ”“ไม่เป็นไรค่ะ พักอีกนิดก็น่าจะดีขึ้น”“ญา...อย่าดื้อสิ เดี๋ยวไปจะเตรียมรถ แล้วเดี๋ยวพี่มาช่วยพยุง ห้ามเดินไปไหนเองนะ รอพี่ เข้าใจไหม”ญาณินได้แต่พยักหน้ารับรู้ อาการของเธอเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่อาจต้านทาน เกรงว่าหากยังดื้อดึงไม่ยอมทำตามคำแนะนำของสามี อาจจะเกิดข่าวร้ายขึ้นก็ได้...ทว่าในตอนที่น
ตอนพิเศษ 2หลังจากที่เลือกชุดสำหรับวันแต่งงานกันเสร็จสรรพ ทั้งคู่ก็มีแพลนที่ต้องไปหาร้านทำของชำร่วยเพื่อเป็นของตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่แขกผู้มาร่วมยินดีในงานสำคัญของทั้งสอง ซึ่งกว่าที่ทุกอย่างจะเรียบร้อย ก็ทำเอาพวกเขาหมดเรี่ยวแรงไปตามๆ กันขณะนี้เป็นเวลาประมาณหนึ่งทุ่มตรง ด้วยความที่ออกไปทำธุระเรื่องงานแต่งงานมาทั้งวัน ญาณินรู้สึกอ่อเพลียเอามากๆ จึงตัดสินใจหนีว่าที่สามีลงแช่น้ำในอ่างอยู่คนเดียว ทว่าไม่นานก็มีคนถอดเสื้อผ้าตามเข้ามา...“พี่นอร์ท...ญาแช่อยู่นะคะ”“แล้วพี่แช่ด้วยไม่ได้เหรอ?”“ก็พี่ตัวใหญ่ กินที่ญาหมดแล้วเนี่ย” เธอเอ่ยปากบ่นก็จริง แต่ก็ยอมขยับให้นอร์ทลงมาแช่น้ำด้วยกันแต่โดยดี“งั้นหนูก็มานั่งกับพี่สิ” พูดจบได้ยังไม่ทันไร คนอายุมากกว่าก็พลันอุ้มร่างของหญิงสาวเบื้องหน้าให้มานั่งยู่บนตักของตัวเอง ก่อนจะเกยค้างวางไว้บนไหล่ กระทั่งลมหายใจแผ่วเบาของเขาส่งผลให้ญาณินถึงกับต้องเบนหน้าหนีออกไปอีกทาง“วันนี้ไม่ได้นะคะ พรุ่งนี้ญาต้องไปหาพ่อกับแม่”“พี่ก็ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย แค่ขอแช่น้ำด้วยเอง หรือว่าญา...คิดอะไรกับพี่ อย่างนั้นเหรอ?” นอร์ทถามด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบ ทั้งสองใกล้ชิดกั
ตอนพิเศษ 1หลังจากที่ญาณินถูกนอร์ททำเซอร์ไพรส์ให้ เมื่อกลับมาถึงห้องเธอก็เอาแต่ร้องไห้จนนอร์ทใจไม่ดี คิดว่าตนทำเรื่องผิดมหันต์เอาไว้ แต่ที่ไหน...“ญา หนูเป็นอะไร พี่ทำอะไรผิดจนหนูไม่พอใจหรือเปล่า?” นอร์ทตัดสินใจเอ่ยถามเธอออกไปตามตรง แม้จะแอบหวั่นใจ กลัวคำตอบที่จะได้รับกลับมาอยู่ไม่น้อยเลยก็ตาม“เปล่าค่ะ...หนูแค่ดีใจ ไม่คิดว่าพี่จะมีมุมนี้เหมือนคนอื่นเขาด้วย...” ญาณินเอ่ยขณะเดียวกันก็ยังร้องไห้ไม่ยอมหยุด เธอเพียงตื้นตันใจ ไม่คิดว่าแฟนหนุ่มที่ในอดีตเคยเป็นคู่กัดกันมาก่อนจะมีมุมโรแมนติกเหมือนกับคนอื่นๆ“อ๋อ เรื่องนี้เองเหรอ ที่ทำให้แฟนพี่ร้องไห้หนักขนาดนี้ พี่ก็นึกว่าซุกกิ๊กไว้ไม่เนียนซะอีก”“ห๊า...กิ๊กไหน ใครคะ?” หญิงสาวร่างบางถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ซ้ำยังปาดน้ำตาบนแก้มจนแห้งสนิททันทีที่ได้ยินอีกฝ่ายตอบสวนกลับมาเช่นนั้น“ล้อเล่นครับ จริงจังอะไรขนาดนั้น”“พี่นอร์ท! ใครให้เล่นแบบนี้ ญาใจหายหมดเลย” ญาณินถึงกับถอนหายใจแรง ตอบกลับแฟนหนุ่มด้วยน้ำเสียงเจือแววตำหนิอยู่ไกลๆ ทั้งที่เธอกำลังตื้นตันใจอยู่กับเซอร์ไพรส์ก่อนหน้านี้ แต่ทว่านอร์ทกลับเอาเรื่องมือที่สามมาเป็นเรื่องล้อเล่น ญาณินคิดแ
ตอนที่ 99ในที่สุดช่วงเวลาที่คู่รักหนุ่มสาวรอคอยก็มาถึง จริง ๆ แล้วยังไม่ถึงเวลาที่พระอาทิตย์จะตก แต่ด้วยความเบื่อหน่าย นอร์ทจึงไปถามรายละเอียดพนักงานโรงแรมเกี่ยวกับกิจกรรมที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ ก่อนจะได้รู้ว่าช่วงหกโมงเย็นจะมีม้าออกมาเดินเล่นที่ริมหาดซึ่งพวกเขาสามารถขึ้นขี่แล้วเดินเล่นได้หนึ่งรอบถ้วน แต่ก่อนที่จะลงไป นอร์ทกลับรู้สึกไม่สบายใจกับการแต่งตัวของญาณินเท่าไรนัก“ไหนว่าพี่รอดูไง พอญาแต่งออกมาแล้ว จะมาทำหน้างอทำไมคะเนี่ย”“มันโป๊ไป ตอนแรกพี่นึกว่ามันจะปิดเยอะกว่านี้ แต่นี่คือ...”ขณะที่เอ่ยสายตาก็พลางลอบมองร่างบางตั้งแต่หัวจดเท้า ชุดว่ายน้ำที่อยู่บนตัวของญาณินงดงามเกินคำบรรยายแต่ทว่าสิ่งเดียวที่เขาไม่พึงพอใจก็คงจะหนีไม่พ้นชุดที่โป๊จนเผยให้เห็นเนื้อหนังมังสาเกือบทุกส่วนของร่างกาย ทั้งส่วนเว้าส่วนโค้งและรวมไปถึงก้นเนียน ๆ ของเธอนั่นก็ด้วย“นาน ๆ ทีจะได้มาเที่ยวทะเล เว้นไว้สักครั้งนะคะ”“โอเค พี่ไม่เถียงด้วยแล้ว หนูอยากใส่อะไรก็ใส่ แต่ไม่มีครั้งหน้าแล้วนะ เสร็จแล้วก็รีบลงไป เดี๋ยวจะไม่ทันพระอาทิตย์ตกดินเอานะ”“รับทราบค่ะ”เมื่อได้รับคำอนุญาตจากว่าที่สามีเป็นที่เรียบร้อย ญ
ตอนที่ 98หลายสัปดาห์ต่อมา...“ญา วันนี้ไปเที่ยวกันไหม?” นอร์ทเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ แฟนสาว ก่อนที่จะเอ่ยถามความเห็นของเธอ หลังจากที่ได้ไอเดียดี ๆ มาจากเพื่อนรัก“ไปเที่ยวที่ไหนคะ เดี๋ยวอีกสองวัน ก็จะได้ไปเที่ยวทะเลด้วยกันแล้วนี่คะ”“ก็ช่วงนี้มันน่าเบื่อ เราไปเที่ยวในกรุงเทพฯ กันก่อนก็ได้ อีกอย่างวันนี้หนูก็ไม่มีเรียน พี่อยากพาไปที่ที่หนึ่ง”“ไปได้ค่ะ ว่าแต่ที่ไหนเหรอคะ”“สวนสนุก”เมื่อความต้องการของนอร์ทเป็นเช่นนั้น มีหรือที่ญาณินจะขัด ตอนแรกเธอก็ไม่ได้คิดอะไร เพียงแค่อยากมาเที่ยวเป็นเพื่อนตามประสาคู่รักทั่วไป แต่ก็ไม่คิดเลยว่าสถานที่ที่นอร์ทพาเธอมา จะสวยแล้วก็ดูมีอะไรให้น่าทำเยอะแยะเต็มไปหมด“เป็นไงบ้าง? ชอบไหม?”“พี่พาญามาทั้งทีก็ต้องชอบสิคะ ว่าแต่พี่ไปรู้ที่ดี ๆ แบบนี้มาจากไหน ทำไมญาไม่คุ้นตามาก่อนเลย”“ที่นี่เป็นสวนสนุกเปิดใหม่ ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก คนก็เลยยังน้อย แต่เพื่อนพี่บอกกันมาปากต่อปากว่าที่นี่เหมาะแก่การสารภาพสุด ๆ”วันนี้เป็นอีกวันที่นอร์ทชาร์ตพลังมาเต็มร้อย เขาพยายามทำให้แฟนสาวประทับใจในการมาเที่ยวผ่อนคลายครั้งนี้ให้ได้มากที่สุด ญาณินจึงเห็นเขายิ้มแย้มและดูสดใสร่าเริงต
ตอนที่ 97นับจากวันที่เข้าไปปรึกษากับพ่อและแม่จนถึงปัจจุบัน เวลาผ่านมาเกือบ ๆ หนึ่งเดือนเต็ม ทุกคนต่างก็ยุ่งวุ่นวายเกี่ยวกับเรื่องงานหมั้นหมาย เนื่องจากว่าครอบครอวของทั้งคู่มีชื่อเสียงดังนั้นหมั้นกันทั้งทีก็ต้องป่าวประกาศให้ทุกคนรู้ ในส่วนของสถานที่พิธีการก็ต้องยิ่งใหญ่เหมาะสมกับฐานะทางบ้านของทางฝ่ายชายและฝ่ายหญิง เรื่องนี้คุณหญิงอรเป็นคนจัดการดูแลให้ทั้งหมด ไม่มีปัญหาใด ๆ ระหว่างการเตรียมการเลยก็ว่าได้จนกระทั่งระยะเวลาเดินทางมาถึงวันงาน ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่น แขกที่มาร่วมแสดงความยินดีต่างก็ปลื้มปริ่มกับบรรยากาศภายในงาน คุณหญิงอรสะดวกจัดงานเช้า จึงจำเป็นจะต้องมีพิธีสงฆ์ แห่ขันหมากและกั้นประตู หลังจากนั้นจึงจะเป็นพิธีสวมแหวนต่อหน้าญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย เมื่อฝ่ายชายและหญิงสวมแหวนให้กันเรียบร้อย ก็ต่อด้วยพิธีรับไหว้ทันทีบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยแขกคนสนิทของทั้งสองฝ่าย เพื่อนสนิทของนอร์ทและญาณินก็ไม่พลาดที่จะมาเก็บภาพบรรยากาศให้กับเพื่อนรัก พวกเขาทุกคนต่างก็เห็นจุดเริ่มต้นของสองคนมาตลอด มีทั้งสุขและทุกข์ โดยเฉพาะในช่วงแรกที่ทะเลาะกันทุกวี่ทุกวัน เรื่องนั้นเพื่อน ๆ ในกลุ่มจำได้
ตอนที่ 96หลังจากวันนั้น นอร์ทก็คิดมาเสมอว่าควรจะทำทุกอย่างให้ถูกต้อง และให้เกียรติทางฝั่งของญาณิน เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่ทางบ้านของนอร์ทนัดทานข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา นอร์ทตัดสินใจแล้วว่าจะไปบอกเรื่องสำคัญกับพวกท่านตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเย็น นอร์ทเดินมานั่งรอพ่อและแม่ที่บริเวณโต๊ะอาหารก่อนเป็นคนแรก ระหว่างที่พวกท่านกำลังเดินเข้ามาร่วมโต๊ะ มือไม้ของชายหนุ่มกลับอยู่ไม่เป็นสุข เขาประหม่าจนทำตัวไม่ถูกทั้ง ๆ ที่อยู่ต่อหน้าคนกันเองทั้งนั้นแต่เขากลับรู้สึกผิดแปลกไปจากเดิม คงเป็นเพราะความในใจที่เขาอยากจะบอกกับทุกคน เป็นเรื่องที่ใหญ่อยู่พอสมควร“เป็นยังไงบ้างลูก เห็นว่าช่วงนี้เรียนหนักแถมยังติดหนูญาอีกต่างหาก ลืมที่บ้านไปแล้วหรือยัง” ผู้เป็นแม่เอ่ยทักทายลูกชายหัวแก้วหัวแหวน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดแซวเขาที่พักหลังมานี้ติดแฟนเสียยิ่งกว่าอะไร“ก็เรื่อย ๆ นะครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดี แต่ก็คงจะไปหนักช่วงใกล้จบมากกว่า ตอนนี้ยังไหวอยู่ครับแม่”“งั้นก็ดีแล้ว ว่าแต่หนูญาล่ะเป็นยังไงบ้าง เธอสบายดีใช่ไหม”“สบายดีครับ ช่วงนี้น้องเรียนหนัก เพราะว่าจะได้ขึ้นมาเป็นรุ่นพี่ มีเรื่องให้ต้องเต็มไปหมด วันนี้ก็เ