Share

บทที่ 15

คุณปู่เคยยัดเยียดคู่นัดบอดให้เขา เขาก็เลยพาเธอมาที่นี่ พอเธอเข้าไปข้างในเท่านั้นแหละ ถ้าไม่รังเกียจเพราะที่นี่ไม่มีลิฟต์ ก็รังเกียจดีไซน์สุดเชย แถมยังวีนเสียงแหลมด้วยว่า เธอจะไม่ทนอยู่ที่นี่แม้แต่วันเดียว

ส่วนเขาก็ไม่คิดจะทิ้งความตั้งใจเดิมของตัวเอง สุดท้ายเลยแยกทางใครทางมัน

หยานซูหัวเราะอย่างอ่อนโยน "ที่นี่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง การเดินทางสะดวก แถมยังอยู่ใกล้ที่ทำงานของฉันด้วย อยู่ที่นี่ก็ไม่แย่นะคะ"

เธอไม่ได้พูดเพราะรู้สึกเกรงใจ ถ้าเธอยอมรับกู่หยูเฉิงที่ไม่มีทั้งบ้านไม่มีทั้งรถได้ แล้วสามีสายฟ้าแล่บของเธอคนนี้ถึงขนาดเตรียมเรือนหอไว้ให้ด้วยความตั้งใจจริง แน่นอนว่าเธอรู้สึกเกินพอแล้ว

โป๋ซู่พูด "เข้าไปดูข้างในเถอะครับ"

เมื่อเข้ามาด้านในบ้าน หยานซูถึงได้เข้าใจว่าทำไมโป๋ซู่ถึงกังวลนัก บ้านหลังนี้นอกจากด้านนอกจะเก่าแล้ว การตกแต่งภายในก็ล้าสมัยมากเช่นกัน ผนังถูกติดด้วยวอลเปเปอร์ลายอนุรักษ์นิยม เพดานถูกทาด้วยน้ำยางสีขาว โทรศัพท์แบบติดผนังถูกติดให้เป็นเนื้อเดียวกับวอลพาเนล เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ล้วนทำขึ้นจากไม้มะฮอกกานีและได้รับการแกะสลักเป็นลวดลายดั้งเดิม

แม้ว่าการตกแต่งจะดูเก่า แต่การวางเค้าโครงต่าง ๆ กลับมีสไตล์ ป้ายคำอวยพรคู่ที่ดูสง่า ภาพวาดดอกไม้โบราณนั้นเข้ากับสวนดอกไม้ที่เชื่อมติดกับระเบียงห้องนั่งเล่นงดงามและเงียบสงบราวกับภาพวาด

ตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องสายตาของโป๋ซู่ก็เอาแต่จับจ้องอยู่ที่ภาพซึ่งแขวนอยู่บนผนัง นั่นคือรูปถ่ายครอบครัวของเขาที่อัดอยู่ในกรอบทรงวงรี

มันเป็นรูปถ่ายครอบครัวที่เต็มไปด้วยความรักกลมเกลียวเพียงใบเดียวในความทรงจำของโป๋ซู่ ในรูปถ่ายนั้นพ่อของเขาทั้งหนุ่มทั้งหล่อเหลา ในขณะที่แม่ซึ่งมีใบหน้างดงามประหนึ่งนางสวรรค์ประดับด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน และในอ้อมกอดของแม่กำลังอุ้มเขาที่มีใบหน้าราวกับประติมากรรมชั้นเอก

ความคิดของชายหนุ่มล่องลอยไปไกล เขาจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุแม่กอดเขาไว้ในอ้อมอกแน่น ตอนนั้นเขาคงเป็นสิ่งเดียวที่ให้ตายยังไงแม่ก็ไม่มีวันยอมปล่อย

ตอนนั้นแม่ของเขาพูดอะไรออกมามากมายแต่ไม่ปะติดปะต่อ แต่คิดว่าสิ่งที่แม่คงอยากจะพูดก็คือ เธอกลัวเพราะเขาต้องโตมากับครอบครัวที่บ้านแตกสาแหรกขาด เมื่อเขาโตขึ้นเขาอาจจะกลัวการแต่งงาน หรืออาจจะสูญเสียเซ้นส์ในการเลือกคู่ครองอย่างคนทั่วไป และสุดท้ายก็จะต้องจเอกับคนที่ไม่ดี และลุ่มหลงอยู่กับความหอมหวานอันจอมปลอมเช่นเธอ

จู่ ๆ ดวงตาของโป๋ซู่ก็ชื้นขึ้นมา เขาพูดพึมพำว่า "คุณแม่ครับ ผมพาลูกสะใภ้กลับมาที่บ้านแล้ว ผมว่าแม่จะต้องชอบเธอแน่ เธอแตกต่างกับคุณแม่โดยสิ้นเชิง เธอแข็งแกร่ง มองโลกในแง่ดี แล้วก็มีความเชื่อมั่นในตัวเอง"

ในขณะที่สายตาของหยานซูกำลังเพ่งความสนใจไปที่คำกลอนซึ่งเขียนเอาไว้ใต้ภาพวาด "รูปงามดั่งดอกเหมย รอยยิ้มดั่งน้ำค้างและหิมะแรก แต่คงไว้ซึ่งความหยิ่งทะนง"

เป็นลายมือที่เต็มไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่

หยานซูเอ่ยชมออกมาจากใจจริง "เจ้าของภาพวาดนี้มีหลายอย่างคล้ายกับฉันอยู่นะคะ"

โป๋ซู่หน้าซีดเล็ก ๆ เขาหันไปหาหยานซูด้วยความตกใจ เขาพยายามปฏิเสธอย่างถึงที่สุดว่าหยานซูมีความคล้ายกับแม่ของเขา ตอนที่เขาหาภรรยา เขาเองก็ตั้งใจหาผู้หญิงที่ตรงข้ามกับแม่ของตัวเองให้มากที่สุด

เพราะแบบนั้น คำพูดของหยานซูจึงทำให้เขารู้สึกช็อค "ซูซู คุณไม่เหมือนกับเธอเลยครับ"

หยานซูยิ้ม

เหมือนหรือไม่เหมือน เธอดูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือไง?

หยานซูใช้นิ้วปัดฝุ่นบนโต๊ะ แล้วก็พบว่ามีฝุ่นปริมาณหน้าเตอะเลยทีเดียว ดังนั้นเธอจึงรีบดึงทักษะความเป็นแม่ศรีเรือนออกมา เธอเดินเข้าไปห้องน้ำ ไม่นานก็ออกมาพร้อมไม้ถูกพื้นและผ้าขี้ริ้ว

โป๋ซู่มองหยานซูด้วยความตกตะลึง

หยานซูสวมชุดเดรสผ้าฝ้ายแขนกุดสีขาว เธอรวบผมยาวนุ่มสลวยแล้วถักเป็นเปียเดียวแบบลวก ๆ แล้วเสียบปิ่นลายดอกไม้ตรงปลายผม เธอในตอนนี้ดูสง่างามแต่ก็มีความอ่อนเยาว์ในคราวเดียวกัน

จากนั้นก็ลงมือถูพื้นและเช็ดโต๊ะอย่างกระฉับกระเฉง

เสน่ห์อันน่าหลงใหลนั้นเหมือนดั่งแม่ของเขาไม่มีผิด

จู่ ๆ โป๋ซู่ก็เดินเข้าไป ชายหนุ่มสวมกอดเอวบางของหยานซูเบา ๆ จากด้านหลัง เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "ซูซู คุณไม่ต้องเปลืองแรงทำอะไรที่สกปรกแถมเหนื่อยแบบนี้หรอกนะ เดี๋ยวผมเรียกป้าแม่บ้านมาทำความสะอาดให้"

หน้าผากของหยานซูมีเหงื่อเม็ดโต ๆ ซึมออกมา ม่านตาโตสีดำเปล่งประกายไร้เดียงสา "โป๋ซู่ วัน ๆ ฉันเอาแต่นั่งอยู่ในห้องตรวจ ให้ฉันออกกำลังกายบ้างเถอะค่ะ"

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status