วันต่อมา
"นิสา นิสาเป็นยังไงบ้างลูก" เสียงนิดาแม่ของชนิสาถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงลูก "แม่" เมื่อเธอลืมตาขึ้นมา ก็เห็นว่าเป็นแม่เธอที่เรียกอยู่ข้างๆ "ทำไมถึงไปกินปลากะพงได้ละลูก" แม่เธอถามอย่างคนใจเย็น "ฮึกๆ นิสาเผลอไปกินจ้ะแม่" เธอเลี่ยงที่จะพูดความจริงดีที่สุด "ร้องไห้ทำไมลูก" เมื่อเห็นว่าเธอร้องไห้แม่เธอก็สวมกอดเธอเอาไว้ "นิสากลัวว่าจะตาย นิสากลัวจะไม่ได้เห็นพ่อกับแม่อีก ฮือๆๆ" เพราะเป็นสิ่งเดียวที่เธอกลัวที่สุดในชีวิตแล้ว "ไม่ต้องร้องไห้นะลูก นิสาปลอดภัยแล้ว หมอบอกแม่ว่าให้นอนดูอาการอีก 2 วันค่อยกลับได้" "เป็นว่าต้องอยู่โรงพยาบาล 3 วันเลยหรอจ้ะแม่" "ใช่ลูก อีกสักคืนสองคืน ให้ผืนแดงมันหยุบลงด้วย" "แล้วนี่แม่มาได้ยังไง พ่ออยู่กับใครจ้ะ" เธอเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงพ่อ "แม่ฝากไว้กับป้านุช แม่โทรมาหานิสาเมื่อเช้า หนูที่ชื่อแตงกวาเป็นคนรับสาย และบอกว่านิสานอนอยู่โรงพยาบาล แม่เลยรีบมาแต่เช้าเลย" "โธ่ แม่ ไม่เห็นต้องลำบากทิ้งพ่อมาเลย นี่ก็ไกลด้วย" "ทำยังไงได้ แม่เป็นห่วงลูก" แม่เธอพูดพร้อมลูบหัวเบาๆ "ขอบคุณนะจ๊ะแม่ นิสาก็ยังใจไม่ดีอยู่จริงๆ นิสากลัว กลัวจริงๆ" เธอพูดพร้อมกับกอดแม่เธอไว้แน่น "ไม่เป็นไรนะลูก คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองนะ" "แล้วที่พ่อจะไปหาหมอละจ้ะแม่" "ไม่เป็นไร เดี๋ยวตาวันพาไป ไม่ต้องห่วง" "จ้ะ นิสาโอนเงินให้ให้แล้วนะ แม่อยากกินอะไรอร่อยๆ ก็กินนะจ๊ะ “ "แม่ว่าแม่ประหยัดเงินไว้ดีกว่า ลูกก็เก็บไว้ใช้บ้างนะ ส่งมานี่มีใช่บ้างไหม" แม่เธอพูดด้วยความเป็นห่วง "มีจ้ะ แม่ไม่ต้องห่วง" ความจริงก็แทบจะไม่มีหรอก เธอให้พ่อแม่เธอไปบ้าง และอีกส่วนหนึ่งก็ฝากประจำเป็นเงินเก็บไว้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอก็อาศัยกินอาหารที่รีสอร์ท และก็แทบไม่ซื้อเสื้อผ้าเลย เพราะยังไงก็ได้ใส่แต่ชุดยูนิฟอร์มพนักงาน ส่วนเครื่องสำอางค์ อะไรที่สวยๆ งามๆ คุณขุนเขาเขาจะเป็นคนซื้อมาให้เธอทั้งหมด คงสมเพชที่เธอสภาพแย่แบบนี้ละมั้ง "แต่แม่ว่านิสาเก็บไว้ใช้อีกสักหน่อยก็ดีนะลูก" แม่ของเธอพูดพร้อมกับลูบหัวเบาๆ "ไม่เป็นไรจ้ะแม่ แม่ไม่ต้องคิดมากเรื่องเงินแล้วนะ ที่นิสาส่งให้แม่ใช้ได้หมดเลย แล้วที่ดินเรา เมื่อนิสาทำงานให้เขาครบ 2 ปี แล้วเขาจะคืนให้เราอย่างที่นิสาบอกแม่ไป" สองแม่ลูกก็กอดกันด้วยความรักความคิดถึง เธอบอกแม่ของเธอว่า เธอมีงานดีๆ ทำในไร่ 'สุขสมบูรณ์' และเมื่อทำงานให้เจ้านายนั่นคือ คุณขุนเขา ครบ 2 ปี คุณขุนเขาก็จะคืนที่ 6 ไร่ของเธอให้ ซึ่งเธอก็ไม่กล้าบอกจริงๆ ว่าเธออยู่ในฐานะนางบำเรอ และพ่วงด้วยตำแหน่งคนรับใช้... 3 วันผ่านไป ณ ไร่สุขสมบูรณ์ เมื่อรถแล่นเข้ามาจอดที่หน้ารีสอร์ท พนักงานหลายคนก็เดินกู่ เข้ามารอถามอาการของชนิสาเต็มไปหมด จนเธอยิ้มออกมาอย่างสดใส แตงกวาที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ยิ้มตาม "นิสา,พี่นิสา,หนูนิสา,น้องนิสา" สรรพนามเรียกที่ต่างกัน แต่ก็ถามอาการของเธอในเรื่องเดียวกัน ส่วนคนที่ไม่ชอบเธอก็มองด้วยสายตาที่ผิดหวัง ว่าเธอไม่เป็นอะไรมาก "หนูนิสาอย่ากินปลาอีกนะ ลุงใจคอไม่ดีเลย ตอนนทีบอกว่า หนูหายใจไม่ออก" ลุงเจิมพูดขึ้น "ขอบคุณมากนะคะลุงเจิม ไม่กินแล้วค่ะ" "ป้าก็ว่า หนูนิสามาถามหาปลา ป้านี่ใจคอไม่ดีแล้ว ขวัญเอยขวัญมานะลูก" ป้าภาคนงานอวุโสเอ่ยขึ้นกับเธอ "ขอบคุณมากนะคะป้าภา" "ทุกคนโว้ย ต่อไปนี้ห้ามใครเอาเมนูปลาให้หนูนิสากินนะ เลี่ยงได้เลี่ยง ห้ามเอาเข้าใกล้เด็ดขาด" เสียงลุงเจิมดังขึ้น เสียงทุกคนพูดจารับทราบเป็นเสียงเดียวกันอย่างพร้อมเพียง เมื่อครั้งหนึ่งที่เธอเผลอกินน้ำซุปปลา ตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่แรกๆ โชคดีที่ตอนนั้นมันเป็นแค่น้ำซุป ไม่ถึงขั้นกินเยอะแบบนี้ แค่กินยาแก้แพ้แล้วก็นอนพักผ่อนก็หาย แต่คนงานก็ยังตกใจกันถึงตอนนี้ เธอดีใจมากที่คนงานหลายคน รักและเอ็นดูเธอจริงๆ เมื่อถึงวันที่เธอต้องไปจากที่นี่ เธอคงจะคิดถึงคนที่นี่มากแน่ๆ ... "มาอู้งานอะไรกันตรงนี้" เป็นเสียงของขุนเขาพูดขึ้นมา ทำให้ทุกคนเงียบกันหมด "..." "ไปทำงาน!!!" เขาพูดเสียงดัง จนพนักงานแตกตื่น และแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของใครของมัน แล้วนิสาก็มองหน้านที นทีก็พยักหน้าให้ และเดินแยกกันไปคนละทาง แต่ขุนเขาก็พูดขึ้นซะก่อน "เดี๋ยว!!!" ทั้งสองคนก็หันมาพร้อมกัน "นที มึงไปทำงาน ส่วนเธอตามฉันมา" "คุณขุนเขาครับนิสากำลังไม่สะ..." "มึงไปทำงานของมึง และไม่ต้องยุ่ง" เขาจ้องหน้านทีเขม่ง "แต่คุณขุน..." นทีมองหน้าขุนเขาด้วยความไม่ชอบใจ "ไป!!!" เขาพูดขึ้นเสียงดัง จนชนิสาพยักหน้าให้ นทีถึงได้เดินออกไป "ตามฉันมา" เขาพูดเสียงเรียบ เขาเดินนำเธอกลับมาที่บ้านของตัวเอง เปิดประตูอย่างช้าๆ และเดินไปหยุดที่โซฟา "คุณมีอะไรจะใช้ฉะ..." ทันทีที่เธอพูด เขาก็หันหน้ามาจูบเธอโดยทันที เขาบดปากหนาของตัวเองกับปากบางของเธอ เริ่มด้วยจังหวะที่รุณแรงและก็ค่อยๆ เชืองช้าลง ลิ้นร้อนของเขาก็สอดเข้าไปภายในโพรงปากของเธอ เธอก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ปล่อยให้เขาทำอยู่แบบนั้น เนิ่นนานหลายนาที เขาก็ผละออกให้เธอได้หายใจ โดยที่เธอไม่ได้ร้องขออะไร เขามองเธอที่ปากบวมเจ่อ พร้อมกับตาที่แดงก่ำ เหมือนจะร้องไห้ เขาก็หยุดทันที "เธอนี่มัน..." เมื่อเขาเห็นแววตานั้นของเธอ เขาก็ทำอะไรไม่ถูกแล้ว "คุณมีอะไรจะใช้ฉันคะ ฉันจะได้ทำ" "ป่วยไม่ทันไร ลืมหน้าที่ของตัวเองแล้วหรอ" "ไม่ลืมค่ะ แค่จะถามให้แน่ใจว่าจะให้ทำเรื่องอะไร" "หึ ไหนว่าป่วย ไหนว่านอนโรงบาล" "หายแล้วค่ะ พร้อมกลับมารับใช้" "รับใช้ที่บ้าน หรือรับใช้ที่เตียง" "แล้วแต่คุณจะสั่ง" คำพูดที่ดูถูกดูแคลนนี้ ทำให้หัวใจของเธอชาขึ้นมาอีกครั้ง สำหรับเขาเธอก็เป็นได้แค่นี้แหละ 'ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรนะนิสา เธอต้องไม่เป็นไร' เธอได้แต่ปลอบใจตัวเองอยู่ในใจ แม้จะเจ็บปวดมากแค่ไหน ก็ห้ามแสดงออกมา "เก่งหนิ ไปป่วยมาท่าไหนล่ะ ไอ้นทีถึงลางานไปอยู่เฝ้าได้ 2-3 วัน" และเขาก็ยิ้มเย้ยหยันเธอ "ก็ทุกท่านั่นแหละค่ะ" เมื่อเขาไม่ยอมหยุดดูถูกเธอ เธอก็จะตามนั้นกับเขาไป อยากคิดอะไรก็คิดไปเถอะ เธอป่วยปางตายขนาดนี้ยังไม่คิดจะถามไถ่ ไม่เคยใยดีอะไร คนที่นอนด้วยกันเกือบทุกวัน จะไม่รู้สึกอะไรบ้าง นอกจากความใคร่จริงๆ หรอ นทีไม่ได้เป็นอะไรกับเธอเลย เขายังเห็นอกเห็นใจเธอได้ ในฐานะพนักงานที่ไร่เหมือนกัน แต่กับเขาแม้จะถามเธอว่า เธอเป็นยังไงบ้าง ยังไม่มี... "นี่เธอ!!!" เขาพูดขึ้นเสียงดัง "ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอไปทำงานก่อนนะคะ บ้านไม่เรียบร้อยเลย" เมื่อพูดจบเธอก็รีบเดินเข้าไปห้องเก็บของ และเอาอุปกรณ์ทำงานบ้าน ออกมาทันที โดยไม่สนใจเขาที่มองเธอตาขวางอยู่ตรงนั้นวันเกิดน้องของขวัญวันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 3 ขวบของเด็กหญิงตัวน้อย ที่วันนี้ใส่ชุดเจ้าหญิงสีชมพูแสนสวยทรงฟูฟ่องพร้อมมงกุฏวิบวับที่ประดับบนหัว กำลังเดินไปเดินมา ส่องดูงานวันเกิดตัวเอง ที่คนในไร่กำลังเตรียมกันอยู่อย่างตื่นเต้น"แม่ขา เค้กเจ้าหญิงล่ะ""กำลังมาค่ะ นั่งนิ่งๆ ได้แล้วนะ คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย กำลังจะมาถึงแล้วนะคะ""จริงหย่อ เย้" และลูกสาวตัวน้อยของชนิสาก็นั่งเรียบร้อยทันทีสักพักก็ลุกเดินขึ้นไปดูอีก เพราะปีนี้น้องของขวัญโตขึ้นจนเริ่มตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆ ที่ได้เจอ"จวัญ""ไทก้าาาาาา" และน้องของขวัญก็รีบวิ่งเข้าไปกอด น้องชายสุดที่รักของเธอน้องไทก้าลูกชายของนทีและแตงกวาในวัย 2 ขวบเมื่อมาถึงก็เรียกพี่สาวอย่างน้องของขวัญ พร้อมกอดกันกลม จนผู้ใหญ่ต่างพากันยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู"ไงนิสา เป็นยังไงบ้างช่วงนี้""สวัสดีค่ะ ดีใจที่มานะคะพี่นที แตงกวา" ชนิสาก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เพราะตอนนี้แตงกวาก็ท้องลูกคนที่สองได้สี่เดือนแล้ว"หื้อ ต้องมาสิค่ะ งานวันเกิดหลานสาวสุดที่รักของเราสองคนทั้งที แล้วก็แตงกวาคิดถึงพี่นิสา""พี่ก็คิดถึงเหมือนกัน" และทั้งสองคนก็กอดกัน ด้วยความคิดถึงนทีก็ยืนยิ้ม
เมื่อเห็นว่าขุนเขาไม่สนใจ เดือนนภาก็จะทำทุกอย่างให้เขาสนใจเอง เธอจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด เมื่อนั่งอยู่สักพักก็ตั้งใจว่าจะตามขุนเขาไป แล้วก็เห็นเขาอยู่ภายในห้องทำงานกับผู้หญิงอีกคน"ขุนคะ" และเสียงของเดือนนภาก็ดังขึ้น"เดือน.." ขุนเขาเรียกด้วยความตกใจที่เธอยังตามเขามาถึงตรงนี้"คือเดือนไม่เข้าใจที่พนักงานแนะนำ Package ค่ะ เดือนอยากคุยกับเจ้าของรีสอร์ทโดยตรง" เธอแปลกใจไม่น้อยที่คนไม่ชอบเด็กอย่างขุนเขา หัวเราะกับเด็กได้แบบนั้น หรือนี่จะเป็นลูกของขุนพลพี่ชายของเขา แล้วผู้หญิงคนตรงหน้าเป็นใครทำไมสวยขนาดนี้ แต่ยังไงก็ภาวนาขอให้ไม่ใช่แฟนของขุนเขาก็พอ"..." และชนิสาก็หันมองขุนเขา เธอไม่เคยเห็นผู้หญิงสวยๆ คนนี้มาก่อน เธอคือใคร มันต้องมีอะไร"ได้ เชิญคุณออกไปรอที่ห้องรับรองที่เดิมก่อน เดี๋ยวตามออกไป""ค่ะ" เดือนนภาตอบอย่างว่าง่าย เธอรู้ว่าถึงยังไงเขาก็ยังจะรักเธออยู่"ขออนุญาติค่ะ" ชนิสาเดินมาหาเดือนนภาพร้อมกับเอา Package ทุกอย่างที่อยู่ในแฟ้มมาให้ดู"ฉันว่าฉันบอกชัดแล้วนะว่าฉันจะคุยแค่กับเจ้าของไร่" เมื่อยังเห็นพนักงานคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของไร่อย่างขุนเขามาคุย เดือนนภาพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจทันที"ค่
3 ปีผ่านไปทุกอย่างยังคงดำเนินต่อไป ขุนเขาดีกับชนิสาทุกอย่าง เป็นดั่งคำสัญญาที่เคยให้ไว้ ขุนเขาไม่เคยขาดตกบกพร่องอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ของสามีหรือหน้าที่ของพ่อรวมไปถึงดีกับครอบครัวชนิสาทุกอย่าง ขุนเขาก็ขอร้องให้พวกท่านมาอยู่ด้วยที่ไร่ แต่พวกท่านก็ไม่ยอมมา และสุดท้ายขุนเขาก็ดื้อไปสร้างบ้านหลังใหญ่ให้ตรงที่ดิน 6ไร่ ที่เขาเคยใช้เป็นข้อต่อรองให้ได้ชนิสามาอยู่ด้วยในตอนนั้น ทั้งยังกว้านซื้อที่ดินบริเวณรอบๆ นั้นจาก 6 ไร่ในตอนแรก กลายเป็น 50 ไร่ในตอนนี้ไปแล้วทีแรกพ่อแม่นิสาก็ไม่อยากรับ แต่ขุนเขาก็อ้างว่า เผื่อเขากับนิสามีลูกกันอีกหลายๆ คน แล้วลูกอยากไปเที่ยวบ้านตากับยายจะได้มีบ้านหลังใหญ่ให้ได้อยู่สบาย กับมีพื้นที่กว้างๆ ให้วิ่งเล่น ชนิสาก็ได้แต่ยิ้มปลื้มใจที่สามีเธอเป็นคนที่น่ารักอบอุ่น และรักเธอและครอบครัวของเธอได้มากขนาดนี้ทุกอย่างที่เป็นสมบัติส่วนของเขาในตอนนี้เขาให้ชนิสาเป็นคนจัดการดูแลทั้งหมด เรื่องเงินหรืออะไรก็แล้วแต่ทุกบัญชีเป็นชนิสาเก็บทั้งหมด เขายกทุกสิ่งทุกอย่างให้เธอโดยไม่มีข้อแม้แต่อย่างใดบุษบาก็เห็นดีเห็นงามด้วย กับการเปลี่ยนไปของขุนเขา เพราะเธอก็รักลูกสะใภ้คนเล็กคนนี้
เมื่อเสร็จงานเลี้ยงวันเกิดชนิสา กับวันที่เขาตั้งใจจะจัดขึ้นเพื่อง้อเธอ ทุกคนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน และเขาก็พยายามให้ชนิสามานอนกับเขาที่บ้านให้ได้เมื่อเข้ามาภายในบ้านเขาแล้ว ขุนเขาก็กอดหอมชนิสาทันที ด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ และดีใจที่สุดในชีวิต"พี่ขอโทษนิสานะ ขอโทษสำหรับทุกอย่าง" เขาพูดพร้อมกับน้ำตาซึม"คุณ...""นิสาเรียกพี่ว่าพี่ได้ไหม พี่ไม่อยากห่างเหินกับนิสาอีกแล้ว""คะ...ค่ะ พี่ขุนเขา" นิสาเรียกพร้อมกับยิ้มบางให้ และกอดเขาแน่นเช่นกัน"พี่รักนิสานะ พี่รักนิสากับลูกมากๆ" เขาพูดพร้อมกับพรมจูบไปที่หน้าผากเธอ"นิสาก็รักพี่ขุนเขาค่ะ""..." คำว่ารักจากปากเธอ... แล้วขุนเขาก็ร้องไห้ออกมา อย่างรู้สึกผิด"ร้องไห้ทำไมคะ" นิสาเช็ดน้ำตาให้ขุนเขาอย่างเอ็นดู เขาเป็นคนเจ้าน้ำตาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่"พี่ทำผิดกับนิสาไว้มากๆ เพราะความโง่เง่าของพี่""ช่างเถอะค่ะ อะไรที่มันผ่านไปแล้ว เราลืมมันกันเถอะนะคะ ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว""แต่สิ่งที่พี่ทำลงไป...มันร้ายแรงมาก""พี่ขุนเขา...""ทั้งพี่ยังหึงนทีกับชนิสา ด้วยเรื่องไร้สาระ" ขุนเขาพูดเสียงแผ่ว"หึงนิสากับพี่นทีเนี่ยนะ" ชนิสาก็ถามด้วยความแปลกใจหงึกๆ ขุนเขาก
ขุนเขายังคงทำทุกอย่างอยู่เหมือนเดิม วันนี้ก็เช่นกัน เขามาแอบดูเธอแต่ก็ต้องตกใจ ที่เธอไปไหนมาไหนกับผู้ชาย ที่ดูดีมากคนหนึ่ง แถมผู้ชายคนนั้น ยังเข้านอกออกในบ้านเธอได้ด้วย"ไอ้หน้าหล่อนั่นใครวะ" ขุนเขาบ่นขึ้นด้วยท่าทีที่หัวเสียเมื่อนิสาออกจากบ้านไปกับผู้ชายคนนั้นแล้ว ขุนเขาก็กำลังจะตามไป แต่มีคนมาเคาะกระจกรถซะก่อน"พ่อหนุ่มๆ""คะ...ครับ" ขุนเขาเลื่อนกระจกลงมาก่อนจะตอบรับ"ป้าเองนะ ร้านขายโจ๊ก""อ่อ สวัสดีครับ""กินเยอะๆ นะพ่อหนุ่ม" ลุงเจ้าของร้านก็ทำเมนูเดิมมาให้เขากิน แต่แปลกที่ครั้งนี้เขารู้สึกว่าใช้ได้ มันก็อร่อยไปอีกแบบ"ป้าอยากขอบคุณเอ็ง คนที่นี่ก็ด้วย"และชาวบ้านหลายคนก็ต่างมารุมล้อมขอบคุณเขา เพราะเสี่ยไพบูลย์เขาปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ ทั้งลดต้นลดดอก แล้วป่าวประกาศกับชาวบ้านว่า จะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ และไม่หน้าเลือด จะทำเพื่อลูกชายลูกสะใภ้ และหลานที่จะเกิดมาทั้งนี้ชาวบ้านหลายคน ยังพากันกู่ไปที่บ้านของนิดากับทวี จากที่เคยว่าเคยนินทา ตอนนี้เป็นรักใคร่ครอบครัวนี้ยิ่งกว่าอะไร จนนิดาและทวีก็ยิ้มออกมาอย่างปลื้มปริ่มณ ไร่สุขสมบูรณ์"ไปไหนมา""..." เขายังไม่อยากบอกแม่เขา เรื่องที่เขาไปตามเฝ้
ขุนเขาจอดรถไว้ในตลาดชุมชนแห่งหนึ่งพร้อมลงจากรถด้วยความรีบเร่ง"ใช่ที่นี่จริงๆ หรอ" เขาพูดพร้อมกับดูกระดาษที่นทีจดชื่อร้านก๋วยจั๊บเจ้น้อยไว้ให้"เอาอะไรพ่อหนุ่ม" และลุงผู้ชายก็ถามขึ้น"อะ...เอาเมนูแนะนำก็ได้ครับ" เขาพูดแบบไม่คิดอะไรไม่นานป้าอีกคนก็ถือถ้วยใบโตมาเสริ์ฟ"..." เชี่ยอะไรวะเนี่ยโจ้กใส่มาม่าหรอ เขามองเมนูที่เขาเข้าไม่ถึง และไม่คิดว่าจะมีเมนูนี้เป็นเมนูแนะนำของร้านเขาชั่งใจอยู่นาน พร้อมกับกินเข้าไป ด้วยความรู้สึกที่ฝืนๆ จนกินไปได้แค่ครึ่งก็พอแล้ว และป้าคนที่มาเสริ์ฟก็นั่งแกะไข่ต้มอยู่ข้างๆ"เอ่อ ป้าครับ แถวนี้คนเยอะแบบนี้ทุกวันเลยหรอ""ไม่หรอกพ่อหนุ่มวันนี้มีตลาดนัดชุมชน คนเลยเยอะ ที่นี่มันสงบจะตาย ถ้าไม่มีตลาดคนก็ไม่พลุ่งพล่านแบบนี้หรอก""ดีจังเลยนะครับ คนที่นี่ดูเป็นกันเองมาก""ก็กันเองสิ ส่วนมากก็รู้จักกันทั้งนั้นแหละพ่อหนุ่ม""จริงหรอครับ" และขุนเขาก็ยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง"แล้วเอ็งมาจากไหนล่ะ" ลุงผู้ชายก็ถามขึ้น"อ่อ มาจากอีกอำเภอครับ พอดีมาหาใครบางคนครับ แต่ไม่รู้ว่าบ้านอยู่ตรงไหน""แล้วชื่ออะไรละ เผื่อป้ารู้จัก""เอ่อ...ชื่อนิสาครับ" ขุนเขาพูดขึ้นด้วยความหวัง"นิสาห