Share

บทที่21

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-29 13:05:06

"ฝนจะตก" 

"พี่กูอยู่ไทย" 

"กวนตีน" 

ทุกวันอาทิตย์​ครอบครัวของผมจะต้องรวมตัวกันที่บ้านใหญ่ เพื่ออัพเดตเรื่องราวในช่วงเวลาที่ไม่ได้เจอกัน จิบชายามบ่ายเป็นเพื่อนมามี๊และน้องโฟ ตีกอล์ฟเป็นเพื่อนป๊า ปิดท้ายวันด้วยการกินมื้อเย็นด้วยกันพร้อมหน้า

แน่นอนว่าพี่คนโตของบ้านอย่างผมต้องกลับมาทุกครั้งที่อยู่ไทยเป็นประจำอยู่แล้ว เพียงแต่ไอ้แฝดชอบกวนประสาทให้ผมด่าเล่นเท่านั้นแหละ 

"น้องโฟคิดถึงพี่เลนส์​มากเลย" น้องสาวคนสวยวิ่งลงมาจากบันได โผลเข้ากอดคอผมอย่างออดอ้อน ทำผมเอ็นดูจนหันไปกดจมูกลงผมหนาเบาเบา 

"หึ พี่ก็คิดถึงน้องโฟ"

"แล้วพี่ละหมูอ้วน" 

"น้องโฟเจอพี่ฟิล์มบ่อยแล้วนี่นา" 

"หึ" 

"น่าน้อยใจมั้ย" 

เราสามคนพี่น้องนั่งคุยกันเรื่องทั่วๆ ไปที่ห้องนั่งเล่นระหว่างรอป๊าพามามี๊ลงมาจากห้องนอน ซึ่งส่วนใหญ่ผมจะเป็นคนฟังไอ้แฝดถามน้องโฟมากกว่า น้องสาวของเราสองคนเป็นเด็กน่ารักมากแลพก็พูดเก่งมากเช่นกัน เธอเป็นเหมือนความสดใสของบ้านเราเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่าคนที่จะมาดูแลน้องไปทั้งชีวิตจะต้องผ่านการคัดเลือกจากผมและไอ้ฟิล์ม​มาแล้ว คัดเลือกและดูความประพฤติมาตั้งแต่เด็กนั่นแหละ แต่ต้องขึ้นอยู่ว่าน้องจะยอมให้ดูแลด้วยรึป่าว

"มึงละไอ้เลนส์​ มึงมีบ้านอยู่อเมริกา?" น้องชายสุดที่รักหันมาถามอย่างยียวน จนผมรู้สึกเมื่อยขาอยากจะพาดไปที่คอน้องรักสักที

"ทำงาน" 

"ให้กูไปแทนมะ" 

"งานบริษัทมึงน้อย?" สงสัยคงต้องบอกป๊าให้เพิ่มงานให้ไอ้แฝดสักหน่อย จะได้ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องของผมมากนัก

"น้องโฟ อยากเรียนจบแล้วสิ" 

"จะได้ช่วยพี่ๆ ทำงาน" เห็นมั้ย? ผมบอกแล้วว่าน้องสาวผมน่ารัก

"ตั้งใจเรียนก็พอ" มือใหญ่ยื่นไปขยี้ผมหนาของน้องสาวจนผมยุ่งไปหมด แต่เธอก็ชอบเพราะมันทำให้เธออบอุ่นหัวใจ

ก่อนจะพากันไปกินมื้อเช้าง่ายๆ ที่ผมแวะซื้อมาจากคาเฟ่ของมินินเป็นกาแฟ ครัวซองค์และแซนวิชสไตล์​เกาหลีไส้แฮมไข่ดาวรองท้อง เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมง​ก็ถึงเวลาอาหารกลางวันเหมือนจะเป็นราดหน้าทะเลที่ไอ้แฝดรบเร้าขอให้ป๊าโชว์ฝีมือทำให้กินในไลน์​กลุ่มครอบครัว จนป๊ายอมรับปากเพราะทนรำคาญไม่ไหว

"ไอ้ฟิล์ม" 

"ว่า" 

"คืนนี้ไปส่งกูที่สนามบินด้วย" 

"ตารางงานมึงคือต้องอยู่ไทย" 

"เดี๋ยวนี้ทำงานที่ไหนก็ได้ มึงไม่รู้?" 

"กูจะตามไปสักวัน" คงไม่มีวันนั้น เพราะไปคราวนี้คือบินไปรับคนที่คิดถึงกลับบ้านโดยเฉพาะ เพราะเธอเรียนจบตามกำหนดแล้ว เหลือแค่กลับมาเก็บหน่วยกิตบางวิชาที่มหาวิทยาลัย​นิดหน่อยเท่านั้น 

หรือจะแกล้งให้มันบินไปเก้อดี?​

"..." ผมส่ายหัวอย่างเบื่อหน่ายไม่สนใจจะเถียงต่อให้เหนื่อย สู้เก็บแรงไว้เดินทางคืนนี้ดูคุ้มค่ากว่า ก่อนจะเดินไปที่รถเพื่อขับกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวไปสนามบิน

รอบนี้ผมเผื่อเวลาล่วงหน้าสามวันเพราะต้องเก็บเสื้อผ้าและของใช้ของผมและเธอกลับมาทั้งหมด รวมถึงคืนห้องที่เช่าเอาไว้ด้วย เพราะลำพังถ้าบินไปแค่ทำงานจริงๆ ผมจะไปพักที่โรงแรมซะมากกว่า ส่วนถ้าพอมีเวลาเหลือก็อยากจะชาร์ต​แบตเติมพลังงานให้ร่างกายรู้สึกกระชุ่มกระชวย​ขึ้นสักหน่อย ไม่ได้นอนกอดร่างนุ่มนิ่มเกือบครึ่งเดือน ทำเอาวิญญาณของผมแทบหลุดออกจากร่าง

lens.lff : กำลังรอขึ้นเครื่อง

nongpream​🌷: รับทราบค่ะ

nongpream 🌷: พรีมกำลังทยอยเก็บของ

เพราะงั้นก็เหลือแค่ของผมที่ต้องเก็บสินะ มีเวลาชาร์ต​แบตยาวๆ 'หึ' 

หลังจากเช็คอินเรียบร้อย คนตัวโตก็เดินสะพายกระเป๋าที่มีเพียงแปรงสีฟัน โฟมล้างหน้า กระเป๋าสตางค์ ​พาสปอร์ต​และไอแพด เดินไปยังห้องรับรองวีไอพีเตรียมรอขึ้นเครื่อง

เวลานี้ใจของเขารออยู่ที่อเมริกาแล้ว เหลือเพียงเขาพาตัวเองตามไปกอดก็เท่านั้น...

ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผมยัดเยียดสถานะใหม่ของตัวเองให้กับเธอ ใช่ว่าผมจะไม่อยากพบคุณพ่อคุณแม่เพื่อแนะนำตัวอย่างเป็นทางการว่าผมจะขออนุญาตดูแลลูกสาวของท่านให้ดีกว่าตัวผมเอง แต่คนตัวเล็กไม่ยอมขอเวลาอีกสักหน่อยให้ผมแน่ใจตัวเองมากกว่านี้ บอกว่ากลัวผมเปลี่ยนใจ เลยทำให้ผมสวนทางกับท่านทั้งสองคนตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา

และล่าสุด เมื่อสัปดาห์​ก่อนที่เราวิดีโอ​คอลกันผมได้ยื่นคำขาดกับเธอไปแล้วว่า ทันทีที่ถึงไทยผมจะตามไปส่งเธอที่บ้าน ไปสวัสดีว่าที่พ่อตาแม่ยายอย่างเป็นทางการ และห้ามเธอปฏิเสธ แต่สิ่งที่ยังไม่ได้บอกให้เธอรู้ตัวก็คือผมจะแอบพาป๊ากับมามี๊​ไปทำความรู้จัก​กับพวกท่านด้วย

"ฮัลโหล​ พี่ถึงแล้วนะ" ทันทีที่ผมเดินออกจากห้องรับรองผู้โดยสาย ก็รีบซื้อซิมเติมสัญญาณ​อินเตอร์​เน็ตกดโทรหาคนตัวเล็กที่ดื้อดึงอยากจะออกมารอรับผมเหมือนทุกครั้งที่ผมบินมาหา

"รอพรีมแป็บนึงนะคะ"

"พรีมกำลังลงรถ"

"ครับ ระวังตัวด้วย พี่รอไ..." 

โครม! 

แต่แล้วเสียงดังที่ได้ยิน พร้อมกับสัญญาณขาดหายของปลายสายทำใจแกร่งกระตุกวูบหล่นไปกองที่พื้น คิ้วเข้มขมวดพันกันยุ่ง แทบไม่มีแรงเดินต่อไป ก้มมองโทรศัพท์​ในมืออีกครั้ง

ตัวเล็กยังอยู่ในสาย...

"ฮัลโหล​ ตัวเล็ก" 

"ตัวเล็ก" 

"พรีม" 

"พรีม ได้ยินพี่มั้ย" 

สองขายาวรีบวิ่งออกจากอาคารโดยสารไปตามเสียงสัญญาณรถพยาบาลและเสียงเอะอะโวยวายของผู้คน พยายามคุยพยามเรียกคนในสายให้เธอตอบกลับ เพราะใจยังหวังว่าคนตรงนั้นต้องไม่ใช่คนที่บอกว่าจะมารับกัน

ภาวนาว่าคนที่นอนนิ่งอยู่ที่พื้นไม่ใช่เธอ...

"Stop! Stop!" 

"She is my girlfriend.

คำภาวนาของผมไม่สำเร็จ...

คนตัวโตวิ่งฝ่าวงล้อมไม่ฟังเสียงห้ามของเจ้าหน้าที่ที่กำลังพาร่างบางไม่ได้สติในมือกำโทรศัพท์​ไว้แน่นขึ้นเปลเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ทำขาแกร่งอ่อนแรงจนแทบล้มทั้งยืน ก่อนจะพยายามตั้งสติเดินไปคุยกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอติดตามขึ้นรถพยาบาลไปพร้อมเธอ

"พะ พี่เลนส์" 

"พี่อยู่ตรงนี้ ไม่ต้องกลัวนะ" 

"จะ เจ็บ"

มือใหญ่เอื้อมไปลูบผมชุ่มไปด้วยน้ำสีแดงเบาเบาหวังช่วยให้เธอหายเจ็บ พยายามชวนใบหน้าที่อ่อนแรงพูดคุยให้ตาที่สลึมสะลือไม่ปิดลงจนทำให้เขาใจหาย กอบกุมมือเธอเอาไว้ให้เธอรู้สึกปลอดภัยและรับรู้ว่ามีผมอยู่ข้างๆ ตรงนี้

"พรีม พรีมอย่าหลับนะ" 

 

 

 

 

 

 

 

 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • รักในความร้าย   บทที่22

    หลังจากที่ตัวเล็กเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ห้องที่ผมไม่สามารถเข้าไปด้วยได้ ทำได้เพียงแค่นั่งรออยู่หน้าประตูอย่างมีความหวัง พยายามเรียกสติของตัวเองกดโทรหาไอ้แฝดคนที่ผมคิดว่าเวลานี้น่าจะจัดการทุกอย่างแทนผมได้ ผมเล่าเหตุการณ์ให้แฝดฟังจนพอเข้าใจ และให้เป็นธุระไปส่งข่าวให้คุณพ่อคุณแม่ของพรีมทราบด้วยตัวเองจะได้คอยดูแลพวกท่าน รวมถึงจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินไฟล์ทที่เร็วที่สุดและที่พักในเครือใกล้โรงพยาบาล พาขึ้นเครื่องบินมาพร้อมกัน แน่นอนว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับตัวเล็กสร้างความตกใจให้ท่านทั้งสองคนมาก ยิ่งคุณแม่ด้วยแล้วถึงกับเป็นลมไปหลายรอบ จนไอ้ฟิล์มต้องขอให้ท่านทั้งสองคนพักอยู่ที่โรงแรม ก่อนที่มันจะมาหาผมด้วยความเป็นห่วงและรู้สึกหน่วงในหัวใจ ที่เขาบอกว่า การมีพี่น้องฝาแฝด ความรู้สึกจะสื่อถึงกัน ถ้าอีกคนมีความสุข อีกคนจะสุขด้วย ถ้าอีกคนทุกข์ อีกคนก็ทุกข์ไม่ต่างกัน ผมว่าจริงนะ และเป็นแบบนี้ตลอดเวลาเกือบยี่สิบสี่ปี"ไอ้แฝด เป็นยังไงบ้างวะ""น้องยังไม่ฟื้น""มึงใจเย็นๆ" ไอ้ฟิล์มตบไหล่ปลอบใจเบาเบา ให้ผมพยายามตั้งสติ"กูว่า มึงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่าหว่ะ" เพราะผมอยู่ในชุดนี้มาเกือบสามวัน ต

  • รักในความร้าย   บทที่21

    "ฝนจะตก" "พี่กูอยู่ไทย" "กวนตีน" ทุกวันอาทิตย์​ครอบครัวของผมจะต้องรวมตัวกันที่บ้านใหญ่ เพื่ออัพเดตเรื่องราวในช่วงเวลาที่ไม่ได้เจอกัน จิบชายามบ่ายเป็นเพื่อนมามี๊และน้องโฟ ตีกอล์ฟเป็นเพื่อนป๊า ปิดท้ายวันด้วยการกินมื้อเย็นด้วยกันพร้อมหน้าแน่นอนว่าพี่คนโตของบ้านอย่างผมต้องกลับมาทุกครั้งที่อยู่ไทยเป็นประจำอยู่แล้ว เพียงแต่ไอ้แฝดชอบกวนประสาทให้ผมด่าเล่นเท่านั้นแหละ "น้องโฟคิดถึงพี่เลนส์​มากเลย" น้องสาวคนสวยวิ่งลงมาจากบันได โผลเข้ากอดคอผมอย่างออดอ้อน ทำผมเอ็นดูจนหันไปกดจมูกลงผมหนาเบาเบา "หึ พี่ก็คิดถึงน้องโฟ""แล้วพี่ละหมูอ้วน" "น้องโฟเจอพี่ฟิล์มบ่อยแล้วนี่นา" "หึ" "น่าน้อยใจมั้ย" เราสามคนพี่น้องนั่งคุยกันเรื่องทั่วๆ ไปที่ห้องนั่งเล่นระหว่างรอป๊าพามามี๊ลงมาจากห้องนอน ซึ่งส่วนใหญ่ผมจะเป็นคนฟังไอ้แฝดถามน้องโฟมากกว่า น้องสาวของเราสองคนเป็นเด็กน่ารักมากแลพก็พูดเก่งมากเช่นกัน เธอเป็นเหมือนความสดใสของบ้านเราเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่าคนที่จะมาดูแลน้องไปทั้งชีวิตจะต้องผ่านการคัดเลือกจากผมและไอ้ฟิล์ม​มาแล้ว คัดเลือกและดูความประพฤติมาตั้งแต่เด็กนั่นแหละ แต่ต้องขึ้นอยู่ว่าน้องจะยอมให้ดูแลด้วยรึป่

  • รักในความร้าย   บทที่20

    สัปดาห์​นี้เป็นสัปดาห์ที่พี่เลนส์​ทำงานอยู่ไทยเพราะสองสัปดาห์​ที่ผ่านมาเขาบินมาทำงานที่นี่และอยู่เป็นเพื่อนฉันแล้ว ตลอดระยะเวลาเกือบหกเดือนเจ้าของสายการบินอย่างเขาก็บินไปบินกลับระหว่างไทยกับอเมริกาเป็นว่าเล่น อยู่ไทยสองสัปดาห์​ อีกสองสัปดาห์​บินมาอเมริกา​สลับไปอย่างนี้และช่วงเวลาที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน เขาก็ไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกเหงาหรือว่าห่างกันเลยสักนิดถึงเวลาเราจะไม่ตรงกันเลยแต่เขาก็จะรอฉันตื่นแล้ววิดีโอ​คอลคุยกันทุกวัน บางวันถ้าฉันเข้านอนแล้วเขาก็ให้เปิดกล้องทิ้งไว้ส่วนเขาก็นั่งทำงานคอยมองฉันเงียบๆ ไม่ส่งเสียง"ไม่ใส่สร้อย?""พรีมกลัวตกหาย""กลัวคนรู้ว่ามีแฟน?""พบคนงอนหนึ่งอัตราแล้วน๊าา"อย่างตอนนี้ฉันกำลังแต่งตัวไปเรียนส่วนเขาก็กำลังเข้านอน แต่สั่งให้เปิดกล้องอยากจะดูว่าฉันใส่ชุดอะไรไปเรียนเรียบร้อยถูกใจเขาหรือเปล่า รู้สึกเหมือนมีสไตลิสต์​ส่วนตัวคอยช่วยเลือกเสื้อผ้าให้เลย ที่สำคัญสิ่งที่ขาดไม่ได้และเขาจะงอแงทุกครั้งถ้าฉันไม่ใส่ก็คือสร้อยคอที่มีตัวย่อ 'PL' ชื่อของเราสองคนที่เขาให้เป็นของขวัญแสดงความยินดีที่ฉันสอบทุนได้ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบหรือไม่อยากใส่หรอกนะ แต่เขาหน่ะชอบคิดไปไกล

  • รักในความร้าย   บทที่19

    "ตัวเล็ก" "คะ" แก้มนุ่มแดงราวกับลูกสตอเบอร์รี่​พยายามหลบสายตาคู่คมที่มองไม่ห่าง"พี่ไม่อยากเป็นแฟนตัวเล็กแล้ว" ตากลมโตฉายความสงสัยปนความน้อยใจมาเห็นให้อย่างปิดไม่มิด ทั้งๆ ที่เขาพึ่งจูบสูบวิญญาณ​ฉันไปแท้ๆ หน่ะหรอ"อยากเป็นผัวเลย" "ได้มั้ย" แต่เขาก็ไม่ปล่อยให้ความน้อยใจอยู่กับฉันนาน เสียงที่แหบพร่าบอกความต้องการของตัวเองพร้อมกับแววตาออดอ้อนแฝงความเอาแต่ใจจนทำให้ฉันรู้สึกหวามไหวมวนท้องไปหมดอยากจะมุดหนีไปจากตรงนี้ ติดตรงที่ใจดันคิดสวนทางกันนี่แหละ"เดี๋ยวก็ลบหนึ่งร้อยเลยนี่" ฉันเลยสู้โดยการเลียนแบบเขาที่จ้องแต่หาเรื่องมาหักคะแนนกัน ติดลบไปเลย ดูซิ!​ จะยังกล้าเล่นกับใจฉันอยู่มั้ย"ยอม"ปากร้อนฉกจูบลงมาที่ปากของฉันอีกครั้งโดยไม่รอให้ฉันอนุญาติเหมือนครั้งก่อน จูบของเขาครั้งนี้มันทั้งดูดดื่มทั้งเอาแต่ใจทั้งเจ้าเล่ห์​คอยหลอกล่อให้ฉันเผลอไผลจนเขาสามารถรุกล้ำเข้ามาได้อย่างง่ายดายเขาพาฝูงผีเสื้อมาบินเล่นในร่างกายของฉัน"อะ อื้อ" ฉันไม่รู้ว่าเผลอตัวปล่อยใจไปกับรสจูบของเขานานเท่าไหร่ รู้ตัวอีกทีเดรสตัวยาวที่ฉันใส่ก็ร่นขึ้นมากองอยู่บนหน้าท้องแบนราบ มือหนาลูบแผ่วเบาวนไปมาตามผิวเนียนลื่นบริเวณต้

  • รักในความร้าย   บทที่18

    "ทำไมมึงรีบบินจังวะ" "นัดลูกค้า" "นัดลูกค้า อาทิตย์​หน้าไม่ใช่?""กูไม่ต้องเตรียมตัว?" "ปกติมึงไม่ไปล่วงหน้านานขนาดนี้" ไอ้แฝดพูดถูก ปกติถ้ามีงานผมจะบินไปล่วงหน้าอย่างมากคือสองวันเพราะมีเรียน แต่ตอนนี้ผมเรียนจบแล้ว และมีใครบางคนรออยู่ที่นั่นผมจึงรีบเดินทางไปตามที่รับปากเธอเอาไว้ วันนี้เลยให้แฝดทำหน้าที่เป็นคนขับรถพาผมมาส่งที่สนามบิน แต่ก็ลืมคิดไปว่า...ไอ้ฟิล์ม​มันพูดมาก เลยเลือกเปิดเพลงที่เราชอบเหมือนกันคลอเบาเบาเป็นการบอกทางอ้อมให้น้องรักหยุดพูด ซึ่งก็ได้ผลเพราะตอนนี้ไอ้แฝดกำลังร้องเพลงสบายอารมณ์ไปพร้อมกับเพลงที่เปิดให้ได้ยิน"ถึงแล้วแชทบอก" "ครับคุณน้องชาย" "ค่อยว่านอนสอนง่ายสมกับเป็นแฝดกูหน่อย" ไม่รู้ไอ้ฟิล์มมันกวนตีนเหมือนใคร? ผมใช้เวลากว่ายี่สิบชั่วโมงบนเครื่องบินที่มีที่นั่งส่วนตัวของผมโดยเฉพาะสามารถปิดที่กั้นเป็นห้องมีทีวีและสิ่งอำนวยความสะดวก​ครบครันและปรับที่นั่งเป็นที่นอนได้สบายเลยทำให้ผมได้พักสายตาเต็มอิ่ม มีแรงพอพาเธอไปเดินเที่ยวได้ทันทีที่ไปถึงส่วนที่พัก ผมก็แอบเช่าห้องฝั่งตรงข้ามห้องของเธอเอาไว้แบบไม่มีกำหนดโดยที่เธอไม่รู้ เพราะเธอยื่นคำขาดไม่ให้ผมนอนห้องเดียวกั

  • รักในความร้าย   บทที่17

    ป๊อก!"โอ๊ย! พรีมเจ็บนะ" นิ้วเรียวยาวดีดลงบนหน้าผากมนไม่เต็มแรงนัก แต่ก็พอให้คนตัวเล็กรู้สึกเจ็บและเป็นรอยแดง จนตาคู่คมไหววูบอย่างรู้สึกผิด ค่อยๆ เป่าเบาเบาตรงรอยแดงเป็นการไถ่โทษ"คิดเองเออเอง" เสียงทุ้มแอบบ่นคนบนตักแกร่งเบาเบาอย่างลืมตัว"..." "หึ" ทำตากลมโตมองตาขวางพองขนขู่จนทำให้ผมเริ่มรู้สึกกลัว รีบอธิบายเคลียร์​ตัวเองแสดงความบริสุทธิ์ใจ​ว่าที่เธอเข้าใจทั้งหมด...ผมถูกเธอกล่าวหา ผมกับมินินเป็นเพียงเพื่อนสนิทกันเท่านั้นไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้ ที่ผ่านมาใช่ว่าผมกับเพื่อนจะไม่เคยได้ยินข่าวลือที่คนอื่นต่างจับคู่ให้เราสองคน และเป็นไอ้ตริติณที่ถือโอกาสนี้ใช้ผมเป็นไม้กันหมาไม่ให้ใครเข้ามาจีบน้องตัวเองได้ ซึ่งผมก็ปล่อยเลยตามเลยเพราะไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่ตอนนี้ ต่างจากตอนนั้น..."พี่ยังไม่มีแฟน""แต่กำลังจะมี" "จิ๊ ปล่อยพรีมเดี๋ยวนี้เลย" แต่ดูเหมือนจะทำให้ลูกเสือโกรธมากกว่าเดิมสินะ สองแขนแกร่งจึงต้องออกแรงกระชับแขนกอดเธอให้แน่นขึ้น จนแทบอยากให้เธอละลายเข้าไปอยู่ในตัวจะได้ไม่หนีหายไปไหน"ไม่อยากรู้​หรอว่าใคร" "เรื่องของพี่ค่ะ เพราะพรีมไม่ได้จีบพี่แล้ว" คนแสนงอนทำหน้าบึ้งตึงยืนกรานว่าเธอ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status