Masuk เลนส์ เจ้าของธุรกิจสายการบินชื่อดัง หล่อ โสด เย็นชา เอาแต่ใจ มีฝาแฝดชื่อ ฟิล์ม (จากเรื่อง "เธอในความ(ลับ)รัก") และน้องสาวคนสวย น้องโฟกัส (จากเรื่อง "โฟกัสเพียงเธอ") ลูกชายฝาแฝดของนาย - หนูมาย จากเรื่อง "รักกันแบบธุรกิจ" พรีม ดาวคณะวิศวะการบิน น่ารัก ยิ้มเก่ง เธอแอบชอบเขามานาน พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้อยู่ใกล้มากที่สุด ทำทุกอย่างเพื่อให้เขาหันมามองกัน แต่ความเย็นชาของเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนอยู่ไกลเข้าไปทุกทีและไม่อยากแอบรักเขาอีกต่อไป... "แค่นี้จะยอมแพ้?" "พี่เลนส์ไม่เคยรักใคร ไม่รู้หรอกค่ะว่าพรีมรู้สึกยังไง" "รู้ได้ยังไง?" #นิยายฟิลกู้ด #ไม่มีนอกกายนอกใจ นิยายเรื่องนี้แต่งจากจินตนาการของไรท์แต่เพียงผู้เดียว โปรดอย่าลอกเลียนแบบและนำไปตัดแต่ง ขอสงวนสิทธิ์เป็นไปตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พุทธศักราช 2558
Lihat lebih banyak"ยัยพรีม วันนี้พี่เขามาวันสุดท้ายแล้วนะ แกจะไม่บอกเขาสักหน่อยหรอ"
"ฉันกลัว" ฉันตอบใยไหมเพื่อนสนิทที่สุดของฉันไปตามความรู้สึก ฉันกลัวว่าถ้าเด็กแว่นอย่างฉันวิ่งเข้าไปบอกความรู้สึกกับเขาตอนนี้ สุดท้ายคนที่เสียใจที่สุดต้องเป็นฉันคนนี้แน่ ขอยืนมองเขาอยู่ไกลๆ อยู่ตรงนี้ แบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว ฉันยืนมองคนตัวโตอยู่ตรงมุมตึก แอบมองเขาที่กำลังยุ่งอยู่กับการรับดอกไม้และของขวัญจากรุ่นน้องที่ต่างก็มาแสดงความยินดีที่เขาสำเร็จการศึกษาชั้นสูงสุดของโรงเรียนและยังสามารถสอบติดคณะวิศวะการบินของมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับประเทศเป็นอันดับหนึ่งได้อีกด้วย จะว่าไปเส้นทางของฉันกับเขาก็เหมือนเส้นขนานไม่มีทางมาเจอกันได้เลยด้วยซ้ำ จนเมื่อหลายเดือนก่อนวันที่ฉันย้ายเข้ามาเรียนที่นี่เป็นวันแรก และเพราะความซุ่มซ่ามของฉันเองนี่แหละที่ทำให้เราได้เจอกัน ...หลายเดือนก่อน... คนตัวเล็กในชุดนักเรียนชั้นมัธยมปลายวิ่งหน้าตาตื่นเข้าประตูโรงเรียนอย่างเร่งรีบเพราะใกล้เวลาเข้าเรียนคาบแรกในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ใช่! ฉันมาสาย สายมากด้วย!! แต่แล้วยิ่งรีบก็เหมือนยิ่งช้า... ปึก!! "โอ๊ย!!" เพราะฉันมัวแต่ก้มหาแว่นตาในกระเป๋าผ้าไม่ทันได้สังเกตเห็นว่ามีคนยืนอยู่ข้างหน้า กระทั่งหน้าผากมนกระแทกกับแผ่นหลังแกร่งเข้าอย่างแรง สองขาเล็กถอยเซไปด้านหลังจนเกือบจะหงายท้อง แว่นตาที่ฉันนั่งซ่อมมาเมื่อเช้าให้พอใส่ได้ชั่วคราวหลุดออกจากมืออย่างง่ายดาย นาทีนี้ฉันได้แต่ภาวนาขอให้กระจกแว่นไม่แตกก็พอ ไม่อยากนั้นคนสายตาสั้นมากอย่างฉันคงใช้ชีวิตลำบากแน่ "เป็นอะไรรึป่าว" เสียงทุ้มเอ่ยถามนิ่งๆ "ขะ ขอโทษค่ะ" ฉันพยายามตั้งขาให้มั่น ก้มศีรษะขอโทษเขาเล็กน้อย โทษฐานที่เป็นฝ่ายซุ่มซ่ามทำให้เขาเสียเวลา ก่อนจะย่อตัวลงไปเก็บแว่นพังๆ ของฉันที่นอนอยู่บนพื้น "อืม" แต่ยังช้ากว่าเขา เพราะตอนนี้แว่นสีชมพูคู่ใจได้ถูกส่งมาอยู่ในมือเล็กนี้แล้ว "ไอ้เลนส์ ทำไรอยู่วะ สายแล้วนะเว้ย" "เร็ว!" ฉันยังไม่ทันได้ขอบคุณความใจดีของเขาที่ช่วยเก็บแว่นให้ เขาก็วิ่งตามหลังเพื่อนที่พูดเสียงเข้มเข้าอาคารเรียนไปแล้ว เขาชื่อ 'พี่เลนส์' "พรีม แกนั่งรอตรงนี้ อยากกินอะไรเดี๋ยวฉันไปซื้อให้" ใยไหมเพื่อนคนแรกของฉันที่นี่บอกอย่างใจดี เพราะเธอรู้ว่าฉันเดินค่อนข้างลำบาก "เหมือนกันก็ได้" ฉันบอกเพื่อนอย่างไม่เรื่องมาก หยิบแว่นขึ้นมามองตาละห้อย ดีที่ใยไหมช่วยขอสลับที่กับเพื่อนให้ฉันได้นั่งข้างหน้า ไม่อย่างนั้นฉันคงเรียนไม่รู้เรื่องและจดการบ้านไม่ทันแน่ "ตัวเล็ก" "..." ฉันมองแว่นกรอบสีชมพูในมือใหญ่ของคนตัวโตอย่างงุนงง ดูจากความหนาของเลนส์แล้ว น่าจะพอพอกับของฉันเลย "แว่นพังไม่ใช่?" "อะ อ่อค่ะ" "เอาไปใส่ก่อน" "มะ ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวก็เลิกเรียนแล้ว" กรอบสีชมพูขนาดนี้ ต้องเป็นของแฟนเขาแน่เลย "อย่าดื้อ" เขาขมวดคิ้วทำเสียงดุใส่จนฉันตกใจรีบยื่นมือรับมาถือไว้ทั้งที่ไม่ควรทำ "ขะ ขอบคุณค่ะ" ยังไม่พอแค่นั้น เขายังยืนกดดันใช้สายตาบังคับให้ฉันใส่แว่นที่เขาเอามาให้ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะอาหารกับเพื่อนๆ ถัดไปอีกสองโต๊ะหันหน้ามาทางฉัน ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องเขาตลอดทางราวกับว่าเขาเป็นดาราเลยก็ว่าได้ "แกรู้จักพี่เขาด้วยหรอ" "ฉันวิ่งชนพี่เขาเมื่อเช้า" "นั่นหน่ะ หนุ่มฮอตประจำโรงเรียนเราเชียวนะ" "ร หรอ" และหลังจากนั้นประวัติทั้งหมดของคนตัวโตก็ถูกถ่ายทอดออกมาทุกเรื่องราวผ่านเสียงเจื้อยแจ้วของใยไหม จนฉันรู้ว่าเขาไม่ชอบทานเผ็ด เล่นกีฬาเก่ง เรียนเก่งมาก มีฝาแฝดหนึ่งคนชื่อ 'พี่ฟิล์ม' น่าจะเป็นคนที่เรียกเขาเมื่อเช้า กลุ่มของเขามีสี่คน มีพี่มินินเป็นผู้หญิงคนเดียวและเป็นคนที่ทั้งโรงเรียนจับให้เป็นคู่จิ้นกับเขา พอฟังมาถึงตรงนี้ฉันก็อดจะเงยหน้าขึ้นไปมองผู้หญิงที่นั่งข้างๆ เขาไม่ได้ พี่เขาทั้งสวยทั้งน่ารักเวลายิ้มก็สดใสมากๆ ดูเหมาะกันสุดๆ ไปเลย สมแล้วที่เป็นคู่จิ้นกัน "พี่คะ" "..." "พรีมเอาแว่นมาคืนค่ะ ส่วนนี่ข้าวเหนียวหมูปิ้ง พรีมตั้งใจซื้อมาฝากขอบคุณที่พี่ให้ยืมแว่นตาค่ะ" เป็นประโยคยาวเหยียดที่ฉันซ้อมท่องมาตลอดคืนเพื่อมาพูดกับเขาวันนี้ ฉันตื่นแต่เช้ามืดเพื่อให้ทันแวะซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งหน้าปากซอยหมู่บ้านมาฝากเขาและใยไหม ตั้งใจมายืนรอเขาตรงมุมตึกตามที่ใยไหมเล่าให้ฟังว่าปกติแล้วเขาจะมาถึงเวลาประมาณนี้และชอบมานั่งหลบมุมอยู่กับเพื่อนด้านหลังอาคารเรียน กว่าฉันจะพูดทุกคำที่ซ้อมมาจบทำเอามือเต็มไปด้วยเหงื่อ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ฉันไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้เสียงหัวใจที่เต้นแรงอย่างในตอนนี้ มันตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เห็นหน้า เขาเรียกว่าอะไร? อาจจะเป็นเพราะความใจดีของเขาก็ได้ที่สร้างความประทับใจให้กับฉันตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน "ขอบคุณครับ" "พรีม พรีมไปก่อนนะคะ" เขายื่นมือมารับของไปถือไว้เองทั้งหมด รวมถึงข้าวเหนียวหมูปิ้งด้วย พร้อมกับรอยยิ้มบางๆ พอให้เห็นลักยิ้มเล็กๆ ของเขา อย่างนี้สินะ เขาถึงได้ฮอตที่สุดในโรงเรียนแบบที่ใยไหมว่า... และหลังจากวันนั้น ฉันก็พาตัวเองไปอยู่ในรัศมีของเขาเสมอ เขาซ้อมกีฬา ฉันซ้อมเชียร์ เขาแข่งกีฬา ฉันไปเป็นกำลังใจให้อยู่ห่างๆ ห่างจนเขาไม่สังเกตเห็น ตอนพักกลางวันของทุกวันฉันเลือกที่จะนั่งโต๊ะเดิมทุกครั้ง โต๊ะที่เขาเดินเอาแว่นมาให้ รอถึงเวลาที่เหมาะสม...ฉันจะพาตัวเองให้ได้เข้าไปอยู่ใกล้ๆ เขามากกว่านี้ 'พี่เลนส์รอพรีมก่อนนะ' #พาพี่เลนส์กับน้องพรีมมาทักทายค่ะ #ฝากกด ♥️ เป็นกำลังใจให้น้องพรีมด้วยนะคะ #อ่านเพลินๆ ฟินๆ สบายๆ เหมือนเดิมนะคะใครว่าคนสองคนอยู่ด้วยกัน ยิ่งทะเลาะกันจะยิ่งมีลูกหัวปีท้ายปี ผมขอค้านหัวชนฝา! เพราะตอนนี้ผมกับใยไหม เราแต่งงานกันเข้าสู่ปีที่สามแล้วตั้งแต่วันที่เธอเรียนจบ งานแต่งของเราก็เกิดขึ้นทันที ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ หรือเราสองคนอยู่ในสถานะไหน คุณเธอก็มีเรื่องให้ผมอยากฟาดได้ทุกวัน เถียงได้ทุกเรื่อง ต้องจับปรับทัศนคติกันทุกคืน แต่ถึงอย่างนั้นเราสองคนก็ยังไม่มีลูกให้ผมได้มีเพื่อนไปเตะฟุตบอลสักคนเพราะเธอยังสนุกกับอาชีพนักบินอยู่... ปีนี้ จะยังไงก็แล้วแต่ เป้าหมายของผมคือ ต้องมีลูกกับเธอสักคนให้ได้ และเริ่มลงมือทำตามแผนที่วางไว้คนเดียวเงียบๆ มาเกือบสองเดือนแล้ว เริ่มจากทำทีเป็นเผลอลืมใส่เกาะป้องกันบ้าง แอบใช้เข็มเจาะซองสีเงินทุกชิ้นในกล่องบ้าง ถึงจะมั่นใจความแข็งแรงของตัวเองว่ามีมากพอที่ฝ่าฝันทุกด่านผ่านเข้าไปได้ แต่ผมก็ปฏิบัติการทุกวันไม่มีขาดตกบกพร่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้มากยิ่งขึ้นไม่แน่ว่าตอนนี้...อาจจะมีตัวป่วนตัวน้อยๆ หลับอยู่ในท้องเธอแล้วก็ได้ส่วนวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งในแผนที่ผมวางเอาไว้ พาเธอมาเล่นกับน้องภนลูกชายวัยสองขวบของไอ้เลนส์กับน้องพรีม เพราะหว
หลังจากวันนั้น วันที่เขาทั้งย้ำและยัดเยียดความสัมพันธ์แบบก้าวกระโดดให้ฉัน ยอมรับตามตรงว่าภายในใจตอนนี้ยังคงมีคำถามว่า "ฉันกับเขามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร" จุดที่...ต้องกินข้าวด้วยกันทุกวัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน พากันดูหนังบ้าง ช่วยกันทำการบ้านบ้าง แต่ข้อนี้เป็นสิ่งที่เขาต้องช่วยสอนฉันอยู่แล้วหล่ะ แต่ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ตีกันทุกวัน เป็นเขานั่นแหละที่ชอบหาเรื่องว่าฉัน ใส่กระโปรงสั้นก็ไม่ชอบ แต่งหน้าจัดเกินไปก็ขัดใจ แต่พอฉันพูดว่าเขาบ้าง เขาก็งอนไม่พูดด้วยหาเรื่องให้ฉันคอยง้อ ถามว่าฉันง้อไหม? ก็ต้องง้อซิ เพราะเขาเล่นนอนพลิกตัวเสียงดังไปมากวนจนฉันข่มตาหลับไม่ลงเลย จนบางครั้งฉันอยากจะทุบให้หลังแอ่นสักที แต่ติดตรงที่กลัวว่าเขาจะเอาคืนโดยการกดฉันให้จมเตียงหน่ะสิ และเขาทำอย่างนั้นแน่"วันนี้พี่ภัทรไม่มีเรียนไม่ใช่เหรอ""ไปทำงานกลุ่ม" "งั้นไหมขับรถไปเองแล้วกัน" "ไม่ ไปด้วยกัน" "ไหมเลิกเย็น" "...""โอเค โอเค" ในเมื่อเขาอยากจะขับรถให้ ฉันก็ไม่อยากขัดใจ ดีซะอีก จะได้นั่งสวยๆ ไม่ต้องคอยหงุดหงิดกับรถคันอื่นที่แซงไปปาดมาด้วย คิดได้อย่างนั้นก็รีบหยิบกระเป๋าสะพายและกล่องแซนว
"เป็นอะไรวะ""เปล่า"ผมนั่งมองความวุ่นวายตรงหน้าด้วยความรู้สึกหงุดหงิดโดยไม่มีสาเหตุ ถ้าเป็นงานเลี้ยงสายรหัสที่พวกผมจัดขึ้นรวมกันทั้งคณะเพื่อให้รุ่นพี่รุ่นน้องและเพื่อนๆ ได้พูดคุยทำความรู้จักกันมากขึ้น ผมก็คงนั่งดื่มเงียบๆ อยู่กับไอ้เลนส์ตามปกติ แต่ที่ทำให้ผมอยากกลับห้องตัวเองเต็มทน มองอะไรก็รู้สึกขวางหูขวางตาไปหมด ก็ตรงที่ยัยตัวป่วนนั่งยิ้มแป้นแล้นหัวเราะคิกคักกับทุกคนที่เข้ามาทักทายชนแก้วกับเธอไม่ขาด แน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นผู้ชายทั้งนั้น เห็นแล้วรำคาญลูกตา"จะกลับกี่โมง""กี่โมงก็ได้ โตแล้ว" ตาคู่คมของผมกวาดตามองคนลอยหน้าลอยตาพูดอย่างน่าหมันไส้ ก่อนจะไปหยุดมองอะไรอะไรที่มันล้นขึ้นมาจนน่าหยิก หลักฐานที่บอกให้รู้ว่าเธอไม่ใช่เด็กผู้หญิงตัวน้อยที่คอยวิ่งตามป่วนผมแล้ว เธอ...โตขึ้นแล้วจริงๆ"ฉันให้เวลาอีกสิบนาที""มีสิทธิ์อะไรมาสั่งไม่ทราบ""ฉันเป็นพี่รหัสเธอ""ก็แค่พี่รหัส"ปึก!ยัยตัวป่วนใช้ไหล่กระแทกตัวผมให้หลีกทางเธอ เพื่อจะเดินเข้าห้องน้ำด้วยท่าทางดื้อดึง เชิดหน้าอย่างอวดดี ทำผมแทบอยากจะตามเข้าไปจัดการจับฟาดให้หายซ่าสักที ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนสนิทของป๊าฝากให้ผมช่วยดูแลเธอ ผมคงไม่ต้องมาหาเ
"รูปเสือเหรอ? ยากชะมัด" ฉันนอนมองคำใบ้รูปเสือในมือ คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ตกว่าพี่รหัสของฉันเป็นใครกันแน่คงไม่ใช่ตานั่นหรอกใช่ไหม? "หรือจะใช่ เขาเกิดปีเสือนี่นา" คิดได้อย่างนั้นฉันก็พาตัวเองลุกจากที่นอนออกจากห้องนอนเดินตรงไป ห้องของใครบางคนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ใครบางคนที่เป็นคู่ปรับของฉันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ยังฝากฝังเขาให้ช่วยดูแลฉันที่เพิ่งย้ายออกมาอยู่คอนโดคนเดียว 'พี่ภัทร' ก๊อก ก๊อก ก๊อก"ไม่อยู่เหรอ" มือเล็กเคาะประตูอยู่นานหลายนาที แต่เคาะเท่าไหร่ก็ได้รับเป็นเพียงความเงียบงันกลับมาเท่านั้น ฉันจึงตัดสินใจหมุนตัวเตรียมกลับห้องตัวเอง ลองคิดคิดดูอีกที บางทีโลกอาจจะไม่ได้กลมจนทำให้เขามาเป็นพี่รหัสของฉันจริงๆ ก็ได้แกร๊ก! ในตอนที่ฉันกำลังจะเดินกลับไปห้องตัวเอง เสียงเปิดประตูจากด้านหลังก็ดังให้ได้ยิน เรียกความสนใจให้ฉันหันกลับไปมองอย่างมีความหวัง เป็นเขาที่ยืนผมชี้ฟูเปลือยอกทำหน้ายุ่งคิ้วขมวดอยู่ ทั้งตัวมีเพียงกางเกงกีฬาขาสั้นสีดำปกปิดบางอย่างเท่านั้น แต่เอ๊ะ! รอยสักตรงหน้าอกนั่น! "มีอะไร" "ไหมอยากรู้ว่าพี่ภัทรใช่พี่รหัสของไหมรึเปล่า" "แค่นี้?" "อืม สรุปใช่มั้ย" ปั้ง! ไ
"โกรธพี่?" "อยากให้พรีมโกรธเรื่องอะไรดีคะ" สงสัยจะแอบทดไว้หลายเรื่อง"ไม่อยาก" "เปิดตัวทั้งที ที่ร้านส้มตำ" คนตัวเล็กตีหน้าเศร้าราวกับว่ากำลังน้อยใจนักหนาดูน่าเอ็นดูมาก"หึ" ฟอด"พี่ขอโทษครับ" "ไม่เป็นไรค่ะ ตอนงานวันเกิดพี่เลนส์ พรีมก็ไม่สบาย อดไปสนุกด้วยเลย" "พี่ขอแก้ตัว วันงานเลี้ยงบริษัทนะ" "ค่ะ"อย่างที่เธอบอก ตอนแรกผมตั้งใจพาเธอไปเปิดตัวกับกลุ่มเพื่อนๆ ที่สนิทในงานเลี้ยงวันเกิดของผมกับไอ้ฟิล์มที่จัดขึ้นที่บ้านใหญ่ แต่เธอป่วยด้วยพิษไข้หวัดใหญ่เสียก่อน วันนั้นพอเปิดของขวัญจากน้องโฟและเป่าเค้กเสร็จ ผมก็รีบขับรถกลับไปหาเธอทันที เพราะไม่อยากทิ้งเธอให้นอนป่วยอยู่คนเดียว "งั้นพรีมต้องลดความอ้วนแล้วค่ะ" "เดี๋ยวไม่สวย" "พอแล้ว แค่นี้ก็สวยไม่ไหวแล้ว" "สวยไม่ไหว แปลว่าสวยหรือไม่สวยกันแน่คะ""หึ สวยที่สุดครับ" สิ่งหนึ่งที่เธออาจจะไม่รู้ตัวก็คือ ตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับเธอ เธอก็เจื้อยแจ้วช่างซักช่างถามช่างสงสัยมากขึ้น ตอบถูกใจก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้โลกทั้งใบดูสดใสอย่างตอนนี้ แต่ถ้าเกิดผมตอบไม่ถูกใจแล้วละก็ ใบสวยๆ ก็จะง้ำงองอนกันให้เห็นอย่างปิด
@ห้องพักเบรคพนักงาน"แกว่าผู้ช่วยเลขาคิน มีซัมติงกับท่านประธานป่ะ" "หัวข้อแรงมากจ้า" "ไม่กลัวท่านประธานจะผ่านมาได้ยินเหรอ" "สรุปคือ?" "ร้อยเปอร์เซ็นต์" "ฉันเคยเห็นน้องเขาลงมาจากรถท่านประธาน" "ไม่ใช่แค่มาด้วยกันนะ กลับพร้อมกันด้วย" "เศร้าจัง แอบมองมาตั้งนาน""น่าจะอยู่หล่อแบบโสดๆ ให้พวกเรามองไปนานๆ""จริง" หากใครมาเห็นฉันยืนอยู่ตรงนี้ คงหาว่าฉันเสียมารยาทแอบฟังคนอื่นคุยกันแน่ แต่ฉันเพียงบังเอิญจะเดินมากดน้ำใส่แก้วเก็บความเย็นทั้งของฉันกับพี่เลนส์ตรงตู้กดน้ำที่อยู่ในห้องพักเบรคของพนักงานก็เท่านั้น ใครจะไปคิดว่าจะได้ยินชื่อตัวเองอยู่ในบทสนทนาของบรรดาสาวๆ พนักงานออฟฟิศที่พอจะคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่บ้างในระยะเวลาค่อนเดือนที่ฉันเข้ามาทำงานที่นี่ เพราะอย่างนี้ไงหล่ะ ฉันถึงอยากเก็บทุกอย่างเป็นความลับ ไม่อยากให้ใครคิดว่าฉันถือสิทธิพิเศษเหนือคนอื่นแต่ก็เอาเถอะ...อย่างน้อยฉันก็ได้รู้ว่าเขาฮอตมากขนาดไหน จะรู้ตัวบ้างไหมนะ ว่าตัวเองเป็นขวัญใจสาวๆ ทั้งบริษัท คิดคิดแล้วก็น่าหมันไส้อยู่เหมือนกันฉันยืนรอจนหัวข้อสนทนาเปลี่ยนเป็นเรื่องแฟชั่น ถึงทำทีเป็นไม่เคยได้ยินอะไรก่อนหน้าน






Komen