สรวิชญ์ หรือต้น รุ่นพี่ชั้นปีที่สอง ในวัยยี่สิบปี เขาเรียนคณะเดียวกับรินรดา ตั้งแต่หญิงสาวเข้ามาเรียนในคณะ ความงามของเธอก็เป็นที่โจษจันในหมู่รุ่นพี่หนุ่ม ๆ แต่สรวิชญ์ กลับไม่ได้สนใจเธอแต่แรก เพราะในมหาวิทยาลัยผู้หญิงสวยมีมากมายกว่าผู้ชายรูปหล่ออย่างเขาที่มีดีกรีเป็นถึงเดือนมหาวิทยาลัย ไม่ว่าเขาจะต้องการสาวสวยคนไหน เพียงแค่เขาชายตามอง หรือแสดงออกว่าชอบนิดหน่อย พวกเธอก็แทบจะวิ่งเข้าหาโดยที่เขาไม่ต้องลงทุนจีบเลยด้วยซ้ำ
แต่ถ้าผู้หญิงคนไหนที่เล่นตัวขึ้นมาอีกหน่อย ถ้าเขาสนใจก็เพียงแค่คอยเอาอกเอาใจ พูดจาหวานหู หรือเปย์เงินให้เธอไม่กี่ครั้ง แค่นี้ก็ทำให้พวกสาว ๆ ยอมเป็นแฟนเขาแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขายอมหยุดกับพวกเธอได้เลยสักคน เพราะพอคบ ๆ กันไป พวกเธอแต่ละคนก็ชอบทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเสียจนน่ารำคาญ บางครั้งถึงขั้นตามหึงหวงตบตีกันจนเขาเบื่อหน่าย
ทว่ารินรดากลับต่างออกไป เท่าที่เขาสังเกตดู ไม่ว่าจะมีผู้ชายแสดงตัวเข้าไปจีบเธอมากสักเพียงใด แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะไม่สนใจใครเลยสักคน วัน ๆ เธอเอาแต่เรียนกับทำงาน จนใคร ๆ ก็พูดกันอย่างสนุกปากว่า รินรดาเป็นผู้หญิงเย่อหยิ่งจีบยาก ดีไม่ดีอาจจะตายด้านไปแล้วก็ได้
“พวกมึงคอยดูนะ กูนี่แหละจะเป็นคนจีบผู้หญิงเย่อหยิ่งแบบรินรดาให้ติดเอง ไม่เชื่อคอยดู”
สรวิชญ์ประกาศอย่างมั่นอกมั่นใจต่อหน้าเพื่อน ๆ ขณะที่เขาเริ่มกรึ่ม ๆ ได้ที่ แต่กลับโดนเอกวิทย์ปรามาส
“มึงแน่ใจเหรอวะไอ้ต้นว่าจะจีบน้องระรินติดน่ะ ขนาดกูยังจีบไม่ติดเลยนะ”
“ก็นั่นมันมึงไงไอ้เอก แต่มึงดูเบ้าหน้ากูสิครับ นี่ใคร สรวิชญ์เดือนมหาลัยเชียวนะเว้ย กูไม่เชื่อหรอกว่าน้องระรินจะไม่หลงความหล่อของกู ผู้หญิงก็เหมือนกันหมดแหละชอบผู้ชายหล่อ ๆ”
“ไอ้ต้น มึงก็อย่ามั่นอกมั่นใจให้มันมาก ผู้หญิงบางคนเขาอาจจะไม่ได้มองคนที่ความหล่ออย่างเดียวก็ได้ ไม่งั้นน้องระรินคงจะมีแฟนไปนานแล้ว มึงไม่สังเกตเหรอว่า คนที่เข้าไปจีบน้องเค้าแต่ละคน หน้าตาก็ดี ดูมีฐานะกันทั้งนั้นเลยนะเว้ย” เจตต์ท้วง ทำให้สรวิชญ์ไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก
“ไอ้เจตต์ หมายความว่ายังไงวะ”
“กูก็หมายความว่า บางทีน้องระรินอาจจะชอบผู้ชายนิสัยดี ซึ่งกูว่าผู้ชายเจ้าชู้ป้อผู้หญิงไปเรื่อยแบบมึงเนี่ย คงจีบน้องระรินเขาไม่ติดหรอก”
“พวกมึงก็คอยดูแล้วกัน กูไม่เชื่อหรอกว่ากูจะจีบไม่ติด”
“เออ พวกกูจะคอยดู ถ้ามึงจีบน้องระรินติดนะ พวกกูจะเลี้ยงมึง แต่ถ้ามึงจีบไม่ติด มึงต้องเป็นฝ่ายเลี้ยงพวกกู” เอกวิทย์ท้าทาย ทำให้สรวิชญ์รับคำท้าโดยไม่ลังเล
“ได้”
ยิ่งจีบติดยาก ยิ่งท้าทาย ยิ่งกระตุ้นความอยากเอาชนะของสรวิชญ์มากขึ้นไปอีก เขาไม่สนหรอกว่าหญิงสาวจะเป็นคนอย่างไร แต่กิตติศัพท์ความงามและจีบยากของเธอ ผู้ชายแต่ละคนต่างรู้กันเป็นอย่างดี แล้วมีหรือที่คนอย่างสรวิชญ์จะพลาดที่จะลองเล่นเกมส์นี้ดูสักครั้ง
สรวิชญ์เริ่มดำเนินการตามแผน เขาเริ่มสืบหาข้อมูลของหญิงสาว จนได้รู้ว่ามีสถานที่ไม่กี่แห่งที่รินรดาชอบไปบ่อย ๆ ในทุกวัน นั่นก็คือ ห้องเรียน โรงอาหาร กับห้องสมุด โดยมีกนกอรเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่มักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเหมือนเงาตามตัว บางทีเขาอาจจะต้องเข้าทางเพื่อนสนิท หรืออาจจะต้องหัดทำตัวเป็นเด็กเรียนหัดเข้าห้องสมุดเสียบ้างเพื่อหาโอกาสให้หญิงสาวได้เห็นหน้าเขาบ่อยขึ้น
ชายหนุ่มได้แต่คิดว่า ความหล่อเหลาของเขาที่หญิงสาวทั้งมหาลัยต่างอยากเป็นแฟนจะทำให้สะดุดตารินรดา จนอยากเป็นแฟนกับเขาขึ้นมาบ้าง ทว่าดูเหมือนเขาจะคิดผิดถนัด เพราะกว่าสองสัปดาห์ที่เขาพยายามปรากฏตัวในสถานที่ต่าง ๆ ให้รินรดามีโอกาสได้เห็นหน้าเขาบ่อย ๆ แต่แทนที่เธอจะสนใจเขามากขึ้น กลับกลายเป็นว่าหญิงสาวเดินสวนผ่านเขาไปราวกับเขาเป็นเพียงอากาศที่ไร้ตัวตน
ทำให้สรวิชญ์รู้สึกเสียเซลฟ์และเสียหน้าอย่างแรง จากตอนแรกเขาเพียงแค่อยากจะเอาชนะคำท้าทายของเพื่อน แต่พอเขาได้สัมผัสถึงความยากของสาวเจ้า รวมถึงความเย่อหยิ่งและไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย ความอยากเอาชนะก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว
สรวิชญ์ได้แต่คิดว่า หากวันใดที่เขาได้เธอมาครอบครองจนเบื่อแล้ว เขาก็จะทิ้งเธอไปเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ
ผู้หญิงก็คือผู้หญิง จะใจแข็งหยิ่งเล่นตัวไปได้นานแค่ไหนกัน
“สั่นเหรอครับ พี่ไม่เห็นรู้สึกเลยแฮะ” “นี่ไงคะ มือพี่เจตต์สั่นจริง ๆ ด้วย”หญิงสาวจับมือเขาไว้พลางชูขึ้นทำให้อีกฝ่ายมองมือเจ้ากรรมที่ดันสั่นระริกด้วยความประหม่าใบหน้าแดงก่ำ “พี่ว่า พี่คงเขินน้องระรินมากกว่าน่ะครับ” “เขินระรินเนี่ยนะคะ” “น้องระรินแต่งตัวสวยแบบนี้ จะไม่ให้พี่ตื่นเต้นได้ยังไงกันครับ อีกอย่างน้องระรินรู้ตัวไหมครับ วันนี้พอน้องระรินยิ้มให้พี่ทีไร หัวใจของพี่ก็สั่นไหวเหมือนจะควบคุมไม่อยู่ทุกที” “พี่เจตต์...”ยังไม่ทันที่รินรดาจะทันได้พูดสิ่งใด ประตูลิฟต์ก็เปิดออก ก่อนจะมีป้ายบอกทางไปยังชั้นดาดฟ้าของโรงแรม ทันทีที่รินรดามองขึ้นไปด้านบน เธอเ
“แหม! พูดมาตั้งนาน หรือว่า...น้าอ้อยมีหนุ่มมาจีบเหรอคะ ถึงได้พูดเรื่องเนื้อคู่แบบนี้”รินรดาหัวเราะคิกคักชอบใจ ทำให้อีกฝ่ายบ่นอุบ “โอ๊ย! ทำมาเป็นพูด ชาตินี้น้าไม่เอาผัวเด็ดขาด แค่เห็นชีวิตของพี่ปราง และชีวิตของระริน น้าก็เข็ดขยาดแทนแล้ว กลัวตัวเองจะเลือกผัวผิดไปเจอผู้ชายเฮงซวยเข้าน่ะสิ แต่จะว่าไปเจตต์คงจะเป็นเนื้อคู่ของระรินล่ะมั้ง ดูสิ ขนาดแคล้วคลาดจากกันไปแล้ว ก็มีเหตุให้วนกลับมาอยู่บ้านติดกัน จนมาคบกันแบบนี้ และเขาก็บังเอิญเข้ามาช่วงที่ระรินเดือดร้อนทุกครั้งเลยสิ ถ้าแบบนี้ไม่ใช้เนื้อคู่ แล้วจะเรียกว่าอะไรล่ะ” “หวังว่าจะไม่ใช่คู่เวรคู่กรรมอีกนะคะ”“โอ๊ย อย่างเจตต์นี่ไม่ใช่คู่เวรคู่กรรมหรอก น่าจะเป็นคู่สร้างคู่สมหรือคู่แท้มากกว่าล่ะมั้ง”สองสาวพูดคุยหัวเราะกันสนุกนาน จนพรพรรณเหมือนนึกบางอย่างขึ้นมาได้ เธอจึงเอ่ยขึ้น“เออ...น้าลืมเล่าให้เราฟัง วันก่อนน้าได้รับข่าวพ่อของเราจากเพื่
หลังจากที่เดินทางมาถึงจังหวัดกระบี่ เจตต์ก็พาทุกคนไปเช็กอินที่โรงแรมซึ่งได้จองไว้ โดยเขาได้จองหนึ่งห้องเตียงคู่ พร้อมเตียงเสริมให้รินรดา พรพรรณและน้ำฟ้าพักอยู่ด้วยกัน ส่วนตัวเองพักอยู่อีกห้องข้าง ๆเขาพาทั้งสามคนไปทำบุญที่วัดในจังหวัดกระบี่ เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับสรวิชญ์ หลังจากทำบุญเรียบร้อยแล้ว น้ำฟ้าจับมือรินรดาสลับกับจับมือของเจตต์แล้วหัวเราะคิกคัก ก่อนที่เขาจะพาทุกคนขึ้นรถตู้และพาไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารริมชายหาดซึ่งเขาจองไว้ก่อนหน้าบรรยากาศบนโต๊ะอาหารอบอวลไปด้วยความสุขและความสนุกสนานครื้นเครง เสียงหยอกล้อหัวร่อต่อกระซิกท่ามกลางคนที่รักทำให้ความทุกข์ในใจของรินรดาค่อย ๆ จางหายไป ก่อนที่เจตต์จะพาทั้งสามคนไปเดินเล่นที่ชายหาดเจตต์วิ่งเล่นหยอกล้อกับน้ำฟ้า เด็กน้อยหัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจก่อนที่เจตต์จะให้หนูน้อยขึ้นขี่คอพาวิ่งไปตามชายหาด และจบลงที่พากันเล่นก่อปราสาททราย โดยมีรินรดากับพรพรรณนั่งเฝ้ามองดูคนทั้งสองด้วยความสุขและอิ่มเอมใจ“ระริน เจตต์เป็นคนดีมากเลยนะ เข้ากับยัยหนูของเราได้ดี ผู้ชายแบบนี้หายากนะที่จะยอมรับเร
ทางด้านรินรดา หลังจากสรวิชญ์จากไปแล้ว เจตต์ก็เก็บกวาดขยะที่เกลื่อนถนนไว้ในถังขยะตามเดิม พอหันมาเห็นรินรดากำลังยืนพิงรถของตัวเองเหนื่อยหอบ มือของเธอยังถือสายยางที่น้ำยังคงไหลรินไม่ขาดสาย เขาก็พอเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายได้ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวพลางเอื้อมมื้อไปจับสายยางก่อนจะไปปิดน้ำและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย“ระรินต้องรีบไปประชุมค่ะ”“น้องระรินจะไปประชุมในสภาพแบบนี้เหรอครับ”“คือ...”“เดี๋ยวพี่โทรบอกน้องอรให้นะครับ น้องอรน่าจะเข้าใจ พี่ว่าน้องระรินเข้าไปนั่งพักในบ้านก่อนดีกว่าครับ”เจตต์ใช้เวลาไม่นานโทรบอกกนกอร ก่อนจะพารินรดาเข้าไปนั่งพักในบ้านของเธอ“แล้วนี่น้าอ้อยไม่อยู่เหรอครับ”“เห็นเมื่อเช้าน้าอ้อยบอกว่าจะไปทำธุระที่ห้างน่ะค่ะ น้ำฟ้าก็ไปโรงเรียน โชคดีแล้วล่ะค่ะ จะได้ไม่ต้องมาเจอพี่ต้น ระรินอยากให้ลูกจำพ่อในแบบที่ดี ไม่ใช่แบบที่เราเห็นเมื่อกี้นี้เลยค่ะพี่เจตต์”“พี่เข้าใจครับ”เจตต์มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาลึกซึ้ง ภายนอกเธอดูเข้มแข็งเสมอ หากเขากลับรู้สึกว่า ภายในจิตใจกลับอ่อนแอจนเขาอย
“เงินแค่นี้ กูไม่พอใช้หรอก มึงได้เงินไปตั้งสิบล้าน มึงเอามาแบ่งกูเดี๋ยวนี้ กูจะเอาส่วนแบ่งจากเงินนั่น”“ไม่มี ถึงมีกูก็ไม่ให้”สรวิชญ์ถลาเข้ามากระชากกระเป๋าถือในมือของเธอ ขณะที่อีกฝ่ายพยายามยื้อยุดฉุดกระชากไม่ยอมแพ้ ก่อนที่กระเป๋าจะหลุดจากมือกระเด็นไปอีกทาง สรวิชญ์รีบพุ่งตัวไปยังกระเป๋าของรินรดา แต่ยังไม่ทันที่เขาจะถึง ร่างสูงของสรวิชญ์ก็ถูกถีบโดยแรงก่อนจะกระเด็นกลิ้งไปบนพื้นถนน และเจตต์ก็ก้มเก็บกระเป๋าส่งคืนให้กับรินรดา“น้องระรินเป็นยังไงบ้างครับ”เจตต์รีบเข้ามาโอบประคองร่างบางที่กำลังสั่นเทาด้วยความตกใจปนโกรธจัด“ระรินไม่เป็นไรค่ะพี่เจตต์ นั่นพี่ต้นค่ะ”เจตต์หันไปมองร่างสกปรกที่พยายามประคองตัวเองลุกขึ้นมายืนอย่างทุลักทุเล เขาเพ่งมองอย่างไม่เชื่อสายตาเพราะสรวิชญ์ในตอนนี้ไม่หลงเหลือภาพความหล่อสมัยเป็นเดือนมหาลัยเหมือนในอดีตเลยสักนิด“นี่มึงจริง ๆ เหรอวะไอ้ต้น”“เออ เป็นกูแล้วยังไง มึงคงจะนึกสมเพชกูมากสินะที่มาเจอกูในสภาพแบบนี้”“ตอนแรกกูรู้ข่าวมึงกูก็ยังนึกสงสาร แต่พอเห็นมึงมาทำแบบนี้กับน้องระริน กูบอกตรง ๆ กูสงสารมึงไม
เที่ยงวันหนึ่งขณะที่รินรดารีบกลับมาที่บ้านเพราะลืมเอกสารสำคัญสำหรับงานประชุมในช่วงบ่าย จังหวะที่ขับรถมาถึงบ้าน เธอก็พลันเห็นผู้ชายคนหนึ่งแต่งตัวมอซอกำลังเกาะรั้วบ้านของเธอมองลอดเข้าไปด้านในรินรดาเพ่งมองเขาด้วยความแปลกใจปนหวาดระแวง ก่อนจะลงรถไปถาม“คุณมาหาใครเหรอคะ” เสียงทักของเธอทำให้เขาชะงักหันมาพร้อมกับถลาเข้ามาใกล้ ทำให้หญิงสาวรีบถอยกรูดด้วยความตกใจ“ระริน นี่พี่เอง พี่ต้นไง ระรินจำพี่ไม่ได้เหรอ”ใบหน้ามอมแมม ผมเผ้ารกรุงรัง กลิ่นตัวโชยหึ่งเหมือนคนไม่ได้อาบน้ำมาหลายวัน ทำให้รินรดาต้องเขม่นมองด้วยความแปลกใจ“นี่พี่ต้นจริง ๆ เหรอคะ”“ใช่ นี่พี่เอง”เขาใช้มือปัดผมบังหน้าออกก่อนจะส่งยิ้มหวานให้ หากสำหรับรินรดา หญิงสาวใช้เวลาพักใหญ่จึงแน่ใจว่าคนตรงหน้าเป็นสรวิชญ์ รอยยิ้มของเขาในตอนนี้ดูแสยะยิ้มมากกว่าจะหวานพิมพ์ใจเหมือนเมื่อก่อน เธอรีบถอยห่างด้วยความตกใจเพราะไม่คิดฝันว่าจะเจอเขาอีกในสภาพเช่นนี้“พี่ต้น...มาทำไมคะ”“พี่มาขอโทษหนู ระริน...พี่คิดถึงหนูมาก พี่ผิดไปแล้วให้อภัยพี่เถอะนะ พี่ขอโทษจริง ๆ อีนังนั่นม